อ่านแล้วสะดุดเพราะคำผิดตรงไหนบอกด้วยนะครับจะตามแก้ให้ พอดีผมชอบแบบคีย์เสร็จแล้วลงเลยอ่ะ มันสดดี
~~เออกูผิด 2...ตอนที่ 26~~ (โม้ทั้งตอน 2)กลับมาต่อเรื่องหมอเอกกันต่อครับ...ก็อย่างที่บอกโม้ทั้งตอนครับ
“ ตกลงจะกินฟูจินะ ”
ผมไม่ตอบ...เพราะผมไม่สนใจอยู่แล้วว่าจะได้กินฟูจิจริงๆ หรือเปล่า
“ โอเค งั้นเดี๋ยวพี่มานะ ช่วงนี้ก็นอนเล่นไปก่อนแล้วกัน อ่ะนี่ ” ไอ้หมอเดินมาคว้ามือผมไปให้ถือรีโหมดทีวีไว้
“ ผมไม่ดู ”
“ ก็ตามใจ ”
แล้วไอ้หมอก็เดินจากไปครับ... ผมนอนอ่านหนังสือล่นไปเรื่อย จริงๆ ก็ไม่ได้หวังอะไรหรอกครับ ไม่หวังว่าจะได้กินฟูจิและก็ไม่หวังว่ามันจะกลับมาให้ผมได้เห็นหน้ามันอีกครั้ง แต่มันก็มาครับ...มันมาตามสัญญาพร้อมถุงขนมนมเนยและที่ขาดไม่ได้...อาหารจากร้านฟูจิ
“ หลับหรือยังครับ ”
“ หลับแล้ว ”
“ กวนก็เป็นนะเรา ทำไม...งอนพี่หรอ แค่พี่หายไปแปปเดียวเองแค่นี้ก็คิดถึงพี่แล้วเหรอ 555+ ”
“ ขอโทษ อย่ามาสำมะคัญตัวเองผิดแถวนี้ ไปไหนก็ไปชิ้วๆ ”
“ โหมีไล่ 555+ น่ารักอย่างนี้ให้ได้ตลอดที่เราคบกันนะ ”
“ เดี๋ยว อะไรนะหมอ ผมได้ยินไม่ชัด ” จริงๆ ชัดเต็มสองรูหูเลยล่ะครับ
“ พี่บอกว่าน่ารักให้ ”
“ พอแระ ไม่ต้องพูดจะอ้วก ”
“ เอ้า เอาแต่ใจ ”
“ นี่หมอถามจริงเถอะ บ้านช่องไม่มีให้กลับเหรอไง ”
“ มี แต่ไม่อยากกลับ ทำไมเบื่อเหรอ ”
“ มากกกกกก ”
“ เสียใจ พี่มันคนหน้าด้าน ไล่ไงก็ไม่กลับ 555+ ”
“ ระวังเถอะ ”
“ ระวังอะไร ”
“ เมียผมไง ดุกว่าที่หมอคิด ”
“ เอาน่าถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน ว่าแต่หิวยังมากินเลยนะเดี๋ยวพี่ใส่จานให้ ”
ผมนั่งดูไอ้หมอเดินไปลากโต๊ะอาหารมาแล้วจัดการแกะถุงนั้นถุงนี้ออกก่อนจะเลื่อนมาวางไว้ตรงหน้าผม อาหารญี่ปุ่นสีสันสวยงามน่ากินหลายอย่างมันช่างยั่วน้ำลายผมซะเหลือเกินครับ
“ เอ้า กินซิ เหรอว่าจะให้พี่ป้อน เอาไหม ”
“ ไม่ต้องเลย กินเองได้ ”
ไอ้หมอแกะตะเกียบไม้ออกมาส่งให้ผมก่อนจะเดินไปค้นหากรรไกรในกระเป๋าเอาออกมาตัดซองน้ำจิ้มใส่ถ้วยเล็กๆ มาวางตรงหน้าให้ผม
“ ขนาดคนรักเก่าพี่ยังไม่เคยทำอะไรให้ขนาดนี้เลยนะเนี้ย เรานี่โชคดีนะโจ๊กรู้ตัวไหม ”
“ ใช่ผมอาจจะโชคดี แต่หมอนะอาจจะโชคร้าย นี่หมอ ”
“ บอกให้เรียกพี่ไง ว้าดื้อจัง ”
“ ก็ไม่อยากเรียกมีไรปะ ”
“ ตามใจ ”
“ นี่หมอ ”
“ ครับ ^^ ”
“ ผมเป็นรุก ผมบอกไว้ก่อนเลยนะว่าอย่างผมเนี้ยไม่ยอมเป็นเมียใครง่ายๆ หรอกนะ ”
“ แฟนเก่าพี่ก็พูดอย่างนี้แหละ ^^ หึหึหึ ”
“ ................. ” จนต่อคำพูด
“ ช่างมันเถอะ ถึงโจ๊กจะเป็นรุกหรือรับหรืออะไรก็แล้วแต่ พี่ไม่เห็นว่ามันจะสำคัญของงี้มันอยู่ที่ความสนใจและความชอบมากกว่า พี่ชอบโจ๊กจะบอกไงดี คือมันชอบไปแล้วนะแล้วมันก็เปลี่ยนยากซะด้วยสิ ”
“ ชอบไปแล้ว ชอบคนไข้ตัวเอง ชอบคนที่มีพันธะแล้วเนี้ยนะ ”
“ ใช่ ”
“ หมอ นี่มันไม่ใช่กาตูนเล่มละบาทนะ แล้วก็ไม่ใช่ขายหัวเราะด้วย ถ้ามีใครซักคนรู้แล้วเอาเรื่องนี้ไปบอก ผอ. ผมว่าหมออยู่ยากแน่ๆ ”
“ ผมก็บอกแล้วไงว่าไม่สนใจ ใครอยากจะทำอะไรก็ทำ นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผมใครก็ไม่มีสิทธิ์มาว่าผมได้ ”
“ โอ๊ยย เบื่อที่จะอธิบาย หมอนี่อย่างไงนะ ”
“ ช่างเถอะ เอากินซะ บ่นมากๆ เดี๋ยวก็หิวตาลายตายซะก่อน หึหึหึ ”
“ ก็ตามใจแล้วอย่าหาว่าผมไม่เตือนล่ะ ”
“ ค๊าบบบบ อะอ้ามมมม ” ไอ้หมอคีบทาโกยากิมาจ่อที่ปากผม...
เช้าวันจะออกจากโรงพยาบาล ผมจำได้ว่าวันนั้นไอ้โมมาหาผมแต่เช้าพร้อมโจ๊กปลาชิ้นใหญ่ มันบอกว่าแม่มันตื่นมาต้มให้ผมตั้งแต่เช้ามืดก่อนจะให้เด็กที่บ้านหิ้วเอามาให้โม
“ นี่ โจ๊กปลาร้อนๆ บำรุงกำลัง แม่โมอุส่าห์ตื่นมาทำแต่เช้าเลยนะ เพราะฉะนั้นพี่ต้องกินให้หมดด้วย ”
“ อืม ”
“ ไหนดูซิ สีหน้าดีขึ้นแล้วนะ นี่แสดงว่าหายแล้วสิ ”
“ อืม ดีขึ้นมากแล้ว ”
“ ดีแล้วล่ะ กลับไปบ้านก็พักผ่อนอีกซักหน่อย โมไม่อยากเห็นพี่เป็นอะไรไปอีกนะ ”
“ ไม่ดีเหรอโมจะได้มีผัวใหม่ไง ”
“ ไอ้บ้า คิดงี้ได้ไง ”
“ แล้วนี่ไอ้บึกไปไหนอ่ะ ไม่มาด้วยกันเหรอ ”
“ เดี๋ยวคงตามมาทีหลังนะ เห็นว่าจะไปส่งงานที่บริษัทก่อน ”
“ เหรอ โทรไปบอกมันก็ได้นะว่าไม่ต้องมารับพี่หรอก พี่กลับพร้อมโมก็ได้ ”
“ อย่าเลยพี่ ให้พี่ปลาบึกมาเถอะ ”
“ มันยุ่งยากเปล่าๆ ”
“ มันเป็นเรื่องของจิตใจนะคนอย่างพี่ไม่เข้าใจหรอก ”
“ อะไร จิตใจอะไร ”
“ เฮ้อออ เอางี้ สมมุติพี่ปลาบึกเข้าโรงพยาบาลพี่จะมาเยี่ยมพี่ปลาบึกไหม ”
“ ก็ต้องมาดิ ”
“ โมก็อยู่พี่จะมาทำไม ”
“ ก็มาเยี่ยมไง คนเค้าเป็นห่วงไม่มาได้ไง ”
“ แล้วถ้าพี่ปลาบึกออกจากโรงพยาบาลพี่จะมารับกลับบ้านไหม ”
“ มาดิ ”
“ โมก็อยู่พี่จะมาทำไม ”
“ ................... ” เออวะ...มันไม่ใช่เรื่องไม่ไว้ใจว่าอีกคนจะทำแทนเราไม่ได้ แต่มันเป็นเรื่องของจิตใจของคนที่เป็นห่วงเราตั้งแต่ต้นจริงๆ ด้วยครับ
“ ทีนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าต้องทำอย่างไง งั้นเดี๋ยวโมจะไปเก็บของรอพี่ปลาบึกมารับ ส่วนพี่ก็รีบๆ กินข้าวต้มซะแล้วเดี๋ยวจะได้กินยาจะได้พักผ่อน ”
“ อืม ”
“ อืมกับใคร ” น่านๆ คิดว่าเราจะกลัวนะนั่น
“ ครับ เมียจ๋า ”
“ รีบๆ กิน แล้วอย่าทำหกล่ะ ”
“ ……………….. ”
เก้าโมงกว่าๆ มาแล้วครับ...ไอ้หมอ เดินหล่อมาแต่ไกลเลยตัวยังไม่ถึงแต่กลิ่นมาก่อนเลย (เวอร์ไปปะวะเรา555+ )
“ รอนานไหมครับ ”
ตายห่า ไอ้หมอมันคงไม่รู้ครับว่าไอ้โมมาถึงโรงพยาบาลแล้ว แถมที่สำคัญมันก็กำลังเก็บข้าวของในห้องน้ำอยู่ครับ งานเข้าแล้วไหมละมึงไอ้หมอ...
“ ว่าไงครับ ถามไม่ตอบ ”
“ เมียผมอยู่นะหมอ ” (กระซิบสุดชีวิต)
“ หืม อะไรครับ ”
ผมชี้ไม้ชี้มือบอกมันว่ามีคนอยู่ในห้องน้ำและที่สำคัญคนคนนั้นก็เป็นเมียผมเอง แถมมันดุซะด้วยสิ
“ อ้าววว คุณหมอนึกว่าใคร ได้ยินเสียงแวบๆ มานานยังครับ ” มันมาแล้วครับ
“ เออพึ่งมาครับ นี่เตรียมเก็บของแล้วเหรอครับ ” ไอ้หมอจ้องข้าวของในมือไอ้โม
“ อ๋อครับ เก็บเตรียมไว้เลยเดี๋ยวสายๆ ผมว่าจะลงไปเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่าย ”
“ ครับ เอ่อโมครับ ”
อ้าวเฮ้ยยยยย.....นี่มึงไม่รู้จักมักจี่ขนาดเรียกชื่อเล่นเมียกูตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะเนี้ย
“ ครับพี่เอก ” อ้าววววเฮ้ยยยยยยย เมื่อกี้ยังเรียกมันหมออยู่เลยนะทีงี้ไหงไปเรียกมันพี่เอกได้อ่ะ
“ ยังไม่ลืมสัญญาระหว่างเราใช่ไหมครับ ^^ ” มึงไปสัญญาอะไรกันตอนไหนนนนน
“ อ๋อครับ แหม๋ได้เลยครับ เอาเป็นว่าว่างเมื่อไหร่ก็เชิญที่บ้านพวกผมได้เลยนะครับ ^^ ” นี่มึงไม่คิดจะถามผัวมึงก่อนเหรอไอ้โม T-T
“ 555+ ดีจัง งั้นถ้าไม่เป็นการรบกวน พอดีวันนี้พี่ไม่มีเวรตรวจ งั้นพี่ไปวันนี้เลยไม่ทราบว่าน้องโมจะว่าอะไรไหมครับ ”
“ วันนี้เลยเหรอครับ ” ไอ้น้องโมหันมามองหน้าผม ผมส่ายหน้าบอกความในว่าอย่านะ
“ เอางั้นเลยเหรอครับ ”
“ ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะครับ เพราะพอดีพี่ว่างแค่วันนี้นะครับ นี่ก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าจะได้หยุดยาวทั้งวันเหมือนอย่างวันนี้อีก ” งั้นตกลงวันนี้มึงก็ไม่มีเวรตรวจใช่ไหมไอ้หมอ...แล้วมึงจะมาทำซากอะไรที่โรงพยาบาลแต่เช้ามิทราบ
“ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ คือว่า ”
“ เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่กลับไปนอนคลุกฝุ่นอยู่ที่หออย่างเหงาๆ คนเดียวก็ได้ครับ พี่ไม่อยากทำให้โมลำบากใจ ” คำพูดมึงตรงกันข้ามกับความหมายที่ต้องการมาก
แล้วมีหรือครับที่คนใจอ่อนอย่างไอ้โมจะปฎิเสธไอ้หมอเถื่อนลงได้ สุดท้ายไอ้โมก็ต้องโทรไปบอกไอ้ปลาบึกว่าไม่ต้องเอารถมารับแต่ให้นั่งแท็กซี่มาได้เลย เพราะวันนี้เรามีคุณหมอใจดีจะเป็นสารถีไปส่ง
“ ขอบคุณมากนะครับน้องโม ^^ ”
“ อ่ะครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ ดีกว่าจะกลับไปเหงาอยู่คนเดียวที่หอล่ะนะ 555+ ”
“ น้องโมใจดีจัง ของคุณมากๆ ครับ ^^ ”
“ ………………….. ” เชอะ คิดจะเข้าทางไอ้โมเหรอไอ้หมอ...
ไอ้บึกมารับผมออกจากโรงพยาบาลได้ตอนเกือบๆ จะบ่ายครับ พ่อกับแม่โมก็มารับแต่ดีที่พวกเค้าเอารถมาเองไม่งั้นคงได้ครื้นเครงกันกว่านี้
“ ซื้ออะไรไปทำกินกันดีพี่ปลาบึก ”
ไอ้โมที่นั่งหน้าคู่ไอ้หมอเถื่อนหันมาโหวดเสียงเรื่องอาหารเลี้ยงต้อนรับคุณหมอ ผมไม่รู้ว่ามันจะมาทำไม..แต่ตลอดทางก็ไม่สามารถจะคัดค้านอะไรใครได้เพราะแม้แต่ไอ้ปลาบึกก็ออกอาการเกรงใจไอ้หมอไปด้วยอีกคน
“ ถามคุณหมอดีกว่า คุณหมออยากกินอะไรครับ ” ทีกับผัวล่ะมึงกู เดี๋ยวกูตบปากแตกเลยไอ้เชี้ยบึก
“ อะไรก็ได้ครับ จริงๆ ผมทานได้หมดล่ะครับ ^^ ”
“ ไม่มีอาหารโปรดเลยเหรอครับ ”
“ โหโมถามอย่างนี้พี่ตอบยากนะเนี้ย จริงๆ จะบอกว่าไม่มีก็ไม่ได้หรอกครับ ”
“ งันพี่ชอบทานอะไรล่ะครับ พี่ปลาบึกนะทำกับข้าวเก่งอย่างนี้เลยนะ ” ไอ้โมชูนี้โป้งโชว์สองนิ้วยืนยันว่าอร่อยจริงๆ
“ คงแปลกๆ ซะหน่อยนะครับ เพราะอาหารโปรดพี่นะส่วนใหญ่เค้ากินกันไม่ตอนเช้าก็ตอนกลางคืน ”
“ อะไรอ่ะครับ ” ไอ้โมเอียงคอไปถามไอ้หมอ
“ พี่ชอบ ชอบ โจ๊กนะครับ ^^ ”
“ อะไรนะครับ ” ไอ้บึกยื่นหน้าไปถามเพื่อความแน่ใจ
“ คือพี่หมายถึง พี่ชอบทานโจ๊กนะครับ ทานได้ทุกประเภทเลยไม่ว่าจะเป็นโจ๊กหมู โจ๊กไก่ โจ๊กปลา แต่ที่ชอบที่สุดคนเป็นโจ๊กส่ายยยยไข่นะครับ ^^ ”
“ 5555+ คุณหมอนี่กินง่ายจังนะครับ ดีผมชอบเลี้ยงง่ายดี 555+ ”
ไอ้โมกับไอ้บึกนั่งหัวเราะไปกับมุกฝืดๆ ที่ไอ้หมอนำเสนอโดยหารู้ไม่ว่ามันแฝงไปด้วยความนัยอะไรบ้าง ผมจ้องมองไอ้หมอผ่านกระจกส่องหลัง สายตาที่ไอ้หมอส่งตอบกลับมาหรือเวลาที่มันแอบมองผมมาเป็นระยะๆ มันทำเอาขนหัวผมลุกทุกทีสิน่า
“ อะถึงแล้วลงมา ”
ไอ้บึกเดินไปขนกระเป๋าและสิ่งของท้ายรถไอ้หมอ ส่วนไอ้โมเองก็เดินไปเปิดบ้าน ผมนั่งจ้องมองไอ้หมอก่อนที่มันจะลงรถ
“ มองทำไม เดี๋ยวเค้าก็รู้หรอกว่าเรากิ๊กกัน ^^ ”
“ โฮ ” มึงกล้าพูดนะไอ้หมอ
ตอนท้ายหายอีกแว้วววววววววววววว