มาอัพค่ะ เป็นวันสุดท้าย ก่อนจะกลับบ้าน จากนั้นเมื่อกลับมาก็จะมาอัพต่อนะคะ ถ้าคอมซ่อมเสร็จไวก็คงได้อัพไวค่ะ ตอนที่แล้วคำผิดเยอะมาก กลัวว่าตอนนี้จะไม่ต่างกัน เพราะปวดหัวมากๆ ตรวจแบบผ่านๆค่ะ
ส่วนคู่ที่เหลือนั้น..คงต้องเปิดเรื่องใหม่ค่ะ เกรงว่าจะยาวไปถ้าลงในเรื่องนี้ เดี๋ยวยังไงจะแจ้งอีกทีนะคะ รอเรากลับมาก่อนนะ ขอบคุณที่ติดตาม ขอโทษที่ต้องหายไปนาน อย่าเพิ่งลืมกันนะคะ แล้วเจอกัน ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งค่ะ
# อย่าบอกใคร...ว่า...ฉันรักเธอ?#
ตอนที่ 54
คำสัญญา
เวลาล่วงเลยผ่านมาก็สองอาทิตย์แล้ว เอยก็ไปๆมาๆบ้านของตนเองบ้าง คอนโดบ้าง บ้านเศวตเจริญบ้าง สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป
ตั้งแต่วันนั้น เอยก็ไม่ได้เจอโกเมนอีกเลย แม้กระทั่งตอนที่ไปดูแบบสำเร็จที่ไทป์เอาให้ดู และกวินตกลงจะเอาแบบนี้ โกเมนก็ไม่ได้มาด้วย ไทป์บอกว่า ตั้งแต่วันนั้น โกเมนก็ยังไม่มากรุงเทพเลยจนถึงตอนนี้
วันนี้วันเสาร์ วันทำงานสุดท้ายในรอบสัปดาห์ก่อนที่จะได้หยุดวันพรุ่งนี้แล้ว และสำหรับวันพรุ่งนี้ เอยจะต้องไปลองชุดสูทที่จะสวมในงานแต่งงานที่จะจัดกันที่บ้านเศวตเจริญ ไปกับคุณวิดาและชมพู ตามที่กวินบอกเมื่อวานนี้
พูดถึงงานแต่งงานแล้วเอยรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยเหมือนกัน เพราะมันจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์หน้านี่เองแล้ว โดยที่คุณวิดาเป็นคนกำหนดงาน และเตรียมงานเองทั้งหมดด้วย เธอดูจะดีใจชนิดเอยเองยังคิดไม่ถึงเลยทีเดียว
วันนี้เอยมาทำงานโดยมาพร้อมกับกวิน เมื่อคืนเอยนอนที่บ้าน พอเช้ามากวินก็จะมารับไปทำงาน ไม่ยอมให้เอยนั่งรถเมล์ไปทำงานอย่างที่ผ่านๆมา สุดท้ายเอยจึงต้องนั่งรถมาทำงานกับกวิน มาถึงบริษัท เข้าไปยังแผนก เอยตกใจไม่น้อยที่เห็นพี่ขาวนั่งอยู่ ในเวลาที่เช้าขนาดนี้ วันนี้พี่ขาวมาก่อนเอยเสียได้
“พี่ขาว...มาไวจังครับ”
เอยถาม พาลให้นึกถึงวันนั้น วันที่พี่ขาวมาขอโทษตนเรื่องที่ทำไม่ดีลงไป ที่เอยนึกเช่นนั้นไม่ใช่เพราะยังเคืองในเรื่องของวันนั้นแต่อย่างใด แต่ที่นึกขึ้นมาเพราะรู้สึกว่าสีหน้าของพี่ขาวดูเหมือนแปลกๆ เหมือนกำลังรู้สึกไม่ดีเหมือนวันนั้น
“อ้าว...มาแล้วเหรอเอย” พี่ขาวพูด ก่อนจะปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้มขึ้น
“มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ?” เอยอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“ไม่นี่..พี่สบายดี” พี่ขาวบอก ก่อนจะยิ้มกว้างกว่าเดิม เอยรู้สึกว่ามันเป็นยิ้มที่ประดิษฐ์ขึ้นมาไม่เหมือนธรรมชาติเลยสักนิด
“พี่ขาว...ถ้าไม่สบายใจเรื่องอะไร...บอกผมได้นะ”
เอยบอก ตั้งแต่เริ่มคบกับกวิน เอยเริ่มจะเข้าใจสีหน้าต่างๆและเริ่มมองทุกสิ่งได้ชัดเจนมากขึ้น อาจจะเพราะกวินชอบทำหน้านิ่งๆ เอยจึงต้องอ่านแววตาและท่าทางแทน
“เฮ้อ....พูดยากจังเอย” พี่ขาวพูดเท่านั้น
“หนักใจเหรอครับ?” เอยถาม
“ไม่ขนาดนั้นหรอก...แต่พี่กำลังถามตัวเอง....คนเราจะมีความรู้สึกมากกว่าหนึ่งอย่างได้หรือไม่ ก็เท่านั้นเอง” พี่ขาวพูด
“รู้สึกได้สิครับ...ผมเอง..ยังเคยสับสนตั้งหลายอย่าง” เอยบอกก่อนจะยิ้มออกมา
“นั่นสินะ...” พี่ขาวหัวเราะเบาๆ แต่ในน้ำเสียงไม่ได้รู้สึกตลกขบขันเลย
“เอยเป็นไงบ้าง...ช่วงนี้พี่ไม่ได้คุยกับเอยเลย” พี่ขาวถาม หมู่นี้เอยเองก็รู้สึกได้ว่าหลังงานแต่งพี่แปง ตนเองและพี่ขาวไม่ค่อยได้คุยกันเสียเท่าไหร่
“เอ่อ..พี่ขาว อาทิตย์หน้าว่างไหมครับ?” เอยถาม
“ว่างอยู่แล้ว” พี่ขาวว่า
“ผมจะชวนพี่...ไปที่บ้านคุณกวินครับ” เอยบอก
“ไปบ้านท่านประธานเหรอ?” พี่ขาวถามอย่างสงสัย
“เอ่อ...คือ....ผมกับคุณกวิน...เราจะจัดงานแต่งที่นั่นครับ” เอยบอกเบาๆ ก่อนที่จะยื่นซองสีทองให้ เป็นการ์ดเชิญที่คุณวิดาสั่งทำ
“วันอาทิตย์นี้หรอ เร็วจัง” พี่ขาวว่าพลางรับการ์ดอันนั้น
“ครับ” เอยพยักหน้ารับ
“พี่ดีใจกับเอยจริงๆนะ” พี่ขาวพูด
“ต้องไปนะครับ” เอยบอก
“ไปแน่นอน ต้องไปสิ” พี่ขาวว่า
“ครับ” เอยยิ้มออกมา พี่ขาวเอื้อมมือมาจับมือเอยไว้ก่อนจะออกแรงบีบเบาๆ
“ยินดีด้วยนะเอย...ที่มีคนรักที่ดีแบบท่านประธาน” พี่ขาวพูด
“ขอบคุณครับ พี่ขาวก็ด้วย....ผมขอให้เจอคนที่ดีนะครับ” เอยยิ้มกว้างออกมาก่อนพูด
“พี่เหรอ...ไม่รู้จะได้เจอรึเปล่า” พี่ขาวพูดพลางหัวเราะ
“ได้เจอแน่ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น” เอยว่า
“นั่งพึมพำอะไรกันจ้ะทั้งสองคน” พี่แปงเข้ามาพอพลางถาม
“พี่แปงครับ นี่ครับ” เอยว่าก่อนจะล้วงการ์ดงานแต่งออกมาพี่แปง
“การ์ดอะไรเหรอ?” พี่แปงถาม พี่แปงยังไม่ทราบถึงเรื่องนี้ เอยว่าจะบอกหลายครั้งแล้ว แต่หาโอกาสไม่ได้เลย
“เปิดอ่านก็รู้เองน่า” พี่ขาวว่า พี่แปงจึงเปิดการ์ด
“เอย...เอยจะแต่งงานเหรอ?” พี่แปงถาม ก่อนจะร้องกรี๊ดออกมา
“คะ..ครับ” เอยพยักหน้า แอบตกใจกับเสียงกรี๊ดของพี่แปง
“แต่งงานจริงๆด้วย อาทิตย์นี้เอง ตายๆละ พี่จะเตรียมชุดทันไหมนี่..เอยทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี่ล่ะเอย” พี่แปงว่าก่อนจะค้อนเอยน้อยๆ ที่มาบอกเธอเอาป่านนี้แล้ว
“ผมว่าจะบอกหลายครั้งแล้วครับ แต่ไม่มีโอกาสจริงๆ” เอยบอก
“แล้วแกล่ะขาว อย่าบอกนะว่ารู้ก่อนแล้ว” พี่แปงหันมาถามพี่ขาวบ้าง
“รู้แล้ว” พี่ขาวบอกพลางยิ้ม
“แล้วทำไมแกไม่บอกฉัน หา!!” พี่แปงเอาการ์ดตีพี่ขาวไปทีสองที
“จะบอกได้ไง ต้องให้เจ้าของงานบอกสิวะ” พี่ขาวพูด
“ต้องไปให้ได้นะครับพี่แปง” เอยบอก
“ไปแน่นอนจ้า” พี่แปงว่า ก่อนที่จะเก็บการ์ดใส่กระเป๋า
“ไปหากาแฟดื่มกันเถอะ” พี่แปงหันมาชวน ทั้งเอยและพี่ขาวจึงลุกไปยังห้องกาแฟกัน...
...
..
.
เอยทำงานเรื่อยๆจนถึงเวลาเลิกงาน ก็ต้องขึ้นไปรอกวินที่ห้องทำงานของกวินเช่นเคย เอยขึ้นมาเห็นกวิน กำลังเก็บเอกสารพอดี
“มาแล้วเหรอ..ไปกันเถอะ” กวินว่า ก่อนที่จะจูงมือเอยที่เพิ่งจะเดินเข้ามา
“จะรีบไปไหนครับ?” เอยถามอย่างสงสัย
“ไปพัทยากัน” กวินบอก
“ปะ..ไปทำไมครับ?” เอยถามอีก
“ไปเที่ยวไง” กวินว่า ก่อนที่จะจูงมือเอยลงไปยังลานจอดรถ พาเอยขึ้นรถกลับไปยังคอนโดเพื่อเก็บเสื้อผ้า
แม้เอยจะยังงงๆแต่ก็เก็บเสื้อผ้าสองชุดใส่กระเป๋าสะพาย โดยการไปครั้งนี้กวินจะเป็นคนขับรถไปเอง กวินใช้รถที่คุณเกริกและคุณวิดาให้เป็นของขวัญพาไปยังพัทยา ซึ่งไม่บ่อยนักที่กวินจะใช้รถคันนี้
ขับไปเรื่อยๆพอรถก็ติดพอสมควร กว่าจะถึงที่นั่นก็ทุ่มกว่าๆแล้ว กวินพาเอยมายังโรงแรมหรูที่เข้ามาครั้งแรกเอยยังรู้สึกตกใจ
“ราคาเท่าไหร่ครับนี่?” เอยกระซิบถาม ตอนนี้เช็คอินเรียบร้อยแล้ว และพนักงานก็นำทางมาที่ห้อง
“ไม่เท่าไหร่หรอก” กวินว่า แต่เอยไม่ค่อยเชื่อคำว่าไม่ค่อยเท่าไหร่ของกวินเสียเท่าไหร่...มันคงจะแพงแน่ๆ
เมื่อเข้ามาถึงห้อง เอยแทบตาค้าง มันหรูหราเสียจนบรรยายไม่ออก ห้องนี้อยู่ชั้นสูงสุด ระเบียงกว้างขวาง มองเห็นวิวทะเลที่มืดมิดดูสวยงาม ขนาดกลางคืนเช่นนี้ยังสวยถึงขนาดนี้ กลางวันคงไม่ต้องพูดถึง ห้องกว้างขวาง เตียงใหญ่กว่าที่เคยเห็นตามโรงแรมทั่วไป สีขาวโทนครีมดูอบอุ่น...เอยจึงจำต้องถามราคากับกวินอีกรอบ
“บอกผมมาเถอะครับ...ห้องนี้หลักหมื่นใช่ไหม?” เอยถามอย่างกลัวๆกล้าๆ พลางมองหน้ากวินที่นั่งลงบนเตียง
“ก็..ประมาณนั้น” กวินตอบ
“ที่จริงไม่ต้องพักห้องแบบนี้ก็ได้นี่ครับ เปลืองเปล่าๆ” เอยว่า
“ก็ไม่ได้พักบ่อยๆ อีกอย่าง...” กวินพูดค้างไว้
“อีกอย่างอะไรครับ?” เอยถาม
“ค่อยว่ากัน” กวินพูดเท่านั้น ก่อนที่จะลุกขึ้น เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เอยจึงเปลี่ยนตามกวินเช่นกัน ถ้าจะให้เที่ยวทั้งชุดทำงานคงดูแปลกพิกล
“ไปหาอะไรกินกันเถอะ” กวินพูด ก่อนที่จะจูงมือเอยออกไปจากห้อง ตรงไปยังห้องอาหารของโรงแรมแห่งนี้ ห้องอาหารหรูหราเช่นเคย กวินเดินไปยังเคาน์เตอร์ ก่อนที่จะพูดไป
“กวิน เศวตเจริญ..ที่จองเอาไว้” กวินบอกเช่นนั้น
“สักครู่นะคะ” พนักงานยิ้มแย้มเป็นมิตร ก่อนที่จะก้มหน้าลงหาข้อมูลในคอมพิวเตอร์
“เชิญด้านนี้เลยค่ะ”
พนักงานคนนั้นพาเอยและกวินออกมายังระเบียงด้านนอก มีโต๊ะที่เห็นวิวแทบจะทั้งหมดของพัทยา บนโต๊ะมีป้ายเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่าจองแล้ว
“จองตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?” เอยถามก่อนที่จะนั่งลง
“ตั้งแต่เมื่อตอนบ่ายแล้ว” กวินว่า
“อย่างนั้นเหรอครับ”
“ใช่”
นั่งได้สักพัก อาหารก็เริ่มมาเสิร์ฟแล้ว หน้าตาน่าทานอีกทั้งดูหรูหรูหรา โชคยังดีที่โต๊ะที่กวินจองมีความเป็นส่วนตัว เอยเลยไม่ค่อยกังวลเรื่องมารยาท การใช้ส้อมใช้มีดเท่าไหร่นัก เพราะเอยไม่ค่อยสันทัดการทานอาหารแบบนนี้เท่าไหร่
กวินเริ่มลงมือทาน ทั้งสองทานอาหารไปอย่างช้าๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่แสนจะสบาย ลมพัดโกรกไม่แรงจนเกินไป แสงสียามค่ำคืนที่ส่องประกายเมื่อมองไปยังเบื้องล่าง นี่เป็นครั้งแรกที่เอยได้มานั่งทานอาหารแบบนี้
“ชอบไหม?” กวินถาม พลางเอาผ้าเช็ดปาก
“ก็...ชอบครับ แต่ผมไม่ชินเท่าไหร่” เอยบอกพลางยิ้ม
“ไว้ฉันจะมาพาเธอมาบ่อยๆ เธอจะได้ชิน” กวินบอก
“อย่าดีกว่าครับ..เปลือง” เอยพูด กวินได้แต่ยกยิ้มมุมปากในความประหยัดของเอย
“ทานต่อเถอะ” กวินว่า ทั้งสองจึงทานต่อจนกระทั่งไปถึงของหวาน
ตอนนี้เอยและกวินยังคงนั่งอยู่ที่เดิม แม้จะทานอาหารเสร็จแล้วก็ตาม เพราะบรรยากาศดีอีกทั้งยังคงอิ่มจนไม่อยากลุกเดินไปไหน ทั้งสองคนจึงเลือกที่จะนั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย ทั้งเรื่องงานหรือเรืออะไรก็แล้วแต่
“อยากไปเดินเล่นหน่อยไหม?” กวินถาม
“ก็ได้ครับ จะได้เดินย่อยด้วย” เอยว่า
กวินจึงเรียกเก็บเงิน รูดบัตรเครดิตเรียบร้อยก่อนที่ลุกแล้วออกจากโรงแรม และลงความเห็นว่าน่าจะไปเดินเล่นแถวทะเลดีกว่า เพียงแค่ข้ามถนนจากโรงแรมก็ถึงทะเลแล้ว กวินและเอยจึงเดินเล่นไปเรื่อยๆ มองบรรยากาศรอบๆ แสงไฟที่ระยิบระยับไปทั่ว มองภาพเหล่านั้น พลางสูดอากาศเข้าปอด โดยที่กวินนั้นจับมือของเอยไว้ตลอด แรกๆก็อายเหมือนกัน แต่พอถูกกุมมือเข้าไว้อย่างนั้น ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านมาทำให้เอยไม่อยากปล่อยมือนั้น ทั้งสองเดินกุมมือกันไปอย่างนั้นจนอากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ กวินจึงเห็นควรว่าถึงเวลาที่ต้องกลับห้องแล้ว
เมื่อมาถึงห้อง เอยก็ยังเลือกที่จะออกไปยังระเบียง เพราะบรรยากาศดีมากจริงๆ อีกทั้งเอยเพิ่งมาสังเกตเห็น...อ่างอาบน้ำแบบเอ้าท์ดอร์ อยู่ที่ระเบียงเสียด้วย เอยหันมองมันเล็กน้อย ก่อนที่จะเกาะราวระเบียงและมองไปยังข้างหน้า จู่ๆกวินเดินมากอดจากข้างหลัง อ้อมกอดที่เอยรู้สึกดีทุกครั้งเมื่อได้สัมผัส
“ชอบใช่ไหม?” กวินกระซิบถาม
“ก็ชอบครับ..แต่แพงไป” เอยว่า ก่อนที่จะมองไปยังข้างหน้า
“เอย...” กวินเรียกชื่อเอยขึ้นมาก่อนที่จะผละออกจากหลังของเอย จับไหล่เอยให้หันหน้ามาหาตน ก่อนที่กวินคุกเข่าข้างเดียวลงตรงหน้าเอย
“คุณกวิน..ทำอะไรครับ?” เอยถาม พยายามดึงให้กวินลุกขึ้น
“ฉันรู้ว่างานแต่งของเรากำลังจะมีขึ้นแล้ว...แต่ฉันยังไม่เคยขอเธออย่างเป็นเรื่องเป็นราวเลย” กวินพูด ก่อนที่จะล้วงกระเป๋ากางเกง พบกล่องแหวนสีเงินกำมะหยี่ กวินเปิดมันออกมาพบว่าเป็นแหวนแต่งงานที่สั่งทำไว้ ซึ่งเอยไม่รู้เลยกว่ากวินไปรับมันมาแล้ว
“แหวน....” เอยพูดขึ้นมาเบาๆ กวินยิ้มออกมา ก่อนจะพูด
“แต่งงานกับฉันนะ พีระนัม” กวินว่า ก่อนจะจ้องตาของเอย เอยตกตะลึงไม่น้อย ใจเต้นรัวจนต้องกุมมันไว้
“คุณกวิน...” เอยพึมพำเบาๆ สบตาของกวินที่จ้องมองขึ้นมา
“ฉันจะไม่บอกว่ารักเธอชั่วนิรันดร์ เพราะมันต้องมีวันที่ฉันต้องตาย แต่ฉันจะให้สัญญา ว่าจะรักเธอ จะดูแลเธอ ปกป้องเธอ และมีเธอคนเดียวเท่านั้นจนกว่าจะหมดลมหายใจ เรื่องนั้นฉันสัญญาได้” กวินบอก เอยรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมา ขอบตาร้อนผ่าวเพราะคำพูดนั้นของกวิน
“ผม..ผมเป็นคนธรรมดา ไม่มีเงินทองชื่อเสียงเหมือนคนอื่นเขา แต่ผม...ผมรักคุณกวิน...รักมากจริงๆครับ...ผมอยากอยู่กับคุณกวินตลอดไปครับ” เอยบอก
“ถ้าอย่างนั้น...แต่งงานกับฉันนะ” กวินพูด เอยรับแหวนนั้นก่อนที่จะโน้มตัวลงกอดรอบคอของกวินไว้ น้ำตาไหลออกมา
“แต่งครับ” เอยบอกสั้นๆ ก่อนที่จะกอดกวินให้แน่นขึ้นไปอีก จากนั้นก็ผละออกแล้วดึงให้กวินลุกขึ้น
“ฉันเฝ้ารอเธอมาตลอด เฝ้ารอจนถึงวันนี้ ขอบคุณจริงๆพีระนัม ขอบคุณ” กวินว่าก่อนที่จะจูบหน้าผากของเอยเบาๆ แล้วกอดเอยไว้อีกครั้ง
“ผมสิครับ..ต้องขอบคุณคุณกวิน..ขอบคุณที่รักผมขนาดนี้” เอยพูด
ทั้งสองยืนกอดกันอยู่อย่างนั้น ท่ามกลางสายลมยามค่ำคืนที่เป็นพยานให้ทั้งสอง เอยยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ซุกหน้าลงบนอกของกวิน ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ที่ทำให้ทั้งสองมาเจอกัน ขอบคุณเวลาที่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความรักที่ทั้งสองมีให้กันและกัน ขอบคุณดวงดาวที่พร่างพราวบนท้องฟ้า ถึงการเป็นพยานในความรักของทั้งสอง...
...
..
.
เอยลืมตาขึ้นมาช้าๆ ตอนนี้ไม่รู้กี่โมงแล้ว เสื้อผ้าก็ไม่ได้ใส่ ยังคงเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มคลุมกายไว้เท่านั้น เมื่อคืนหลังจากที่กวินขอแต่งงานแล้ว กวินก็ยังเป็นกวินที่เจ้าเล่ห์เหมือนเดิม แม้เพิ่งจะพูดประโยคขอแต่งงานสุดซึ้งไปไม่ทันเท่าไหร่ กวินก็เลือกที่จะอาบน้ำ...ตรงอ่างอาบน้ำตรงระเบียง
เอยอายแทบจะขาดใจ ที่ต้องมาอาบน้ำนอกห้องน้ำเช่นนี้ อีกทั้งยังโดยกวินทำเรื่องน่าอายแบบนั้นตรงระเบียงอีก ชนิดไม่ยอมหยุดจนลามมาถึงในห้อง ปลดปล่อยกี่ครั้งกี่หนจนนับไม่ได้เลยทีเดียว เอยนอนนิ่งๆอยู่เช่นนั้น เหลือบมองกวินที่ยังคงหลับอุตุ ใบหน้ายามหลับของกวินเป็นอะไรที่เอยชอบมอง เหมือนดูเด็กน้อยหลับอยู่ก็ไม่ผิด แต่หากพอตื่นขึ้นมานั้นช่างแตกต่างกันลิบลับ
เอยไล้นิ้วแตะคิ้วของกวินเบาๆ ก่อนที่จะเลื่อนมาแตะเปลือกตา จากนั้นแตะจมูกโด่งนั้น สุดท้ายก็จิ้มเบาๆที่ริมฝีปาก พลางหัวเราะเบาๆกับตนเอง
“แกล้งฉันเหรอ?” กวินถาม พลางลืมตาขึ้นมา ก่อนที่จะดึงเอยเข้ามากอดไว้ หอมแก้มซ้ายขวาอย่างหยอกล้อตั้งแต่เช้า
“คุณกวิน” เอยเรียกพลางหัวเราะ
“วันนี้ไปเที่ยวที่ไหนดี?” กวินถาม
“ไปไหนก็ได้ครับ” เอยบอก
“ถ้าอย่างนั้นก็ค่อยว่ากัน ว่าจะไปไหนดี” กวินพูด ก่อนที่จะกลับตาลง
“ไม่หิวเหรอครับ?” เอยถาม
“นิดหน่อย แต่ยังอยากนอนต่อ” กวินบอก
“ถ้าอย่างนั้นนอนต่ออีกสักนิดก็แล้วกันครับ” เอยตามใจกวินอย่างเคย ทั้งสองจึงนอนกันต่อ
ตื่นมาอีกทีก็สิบโมงกว่าแล้ว เอยจึงรีบลุกไปอาบน้ำ และแน่นอนว่ากวินก็เข้าไปอาบด้วย กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลานานกว่าปกติ
ทั้งสองไปหาร้านอาหารที่ทางพนักงานต้อนรับแนะนำ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในพัทยาอีกด้วย จากนั้นกวินจึงเช็คเอ้าท์คืนห้องแล้วตระเวนพาเอยไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆที่ได้รับการแนะนำมา
เที่ยวจนเหนื่อย จนตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว จึงเห็นสมควรว่าจะต้องกลับกรุงเทพกันได้แล้ว กวินขับรถเข้ากรุงเทพ และจุดมุ่งหมายคือบ้านเศวตเจริญ เพราะก่อนหน้านี้คุณวิดาโทรมาให้เข้าไปที่บ้าน
ถึงบ้านเศวตเจริญก็เกือบสองทุ่มแล้ว เพราะขากลับกวินขับแบบไม่เร่งรีบนัก เมื่อเข้าไปในบ้าน พบว่านั่งกันอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา มีคุณวิดานั่งดูอะไรสักอย่าง
“มาแล้วเหรอ..เป็นไง เที่ยวสนุกไหม?” คุณวิดาถาม
“สนุกครับ” เอยเป็นคนตอบ
“ผมว่าจะค้างคอนโด คุณวิดามีอะไรรึเปล่าครับ?” กวินถาม
“ก็จะถามเรื่องถ่ายรูป..สนใจจะถ่ายหน่อยไหม พรีเวดดิ้งน่ะ” คุณวิดาถามพลางยิ้ม ชมพูนั่งพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ส่วนคนอื่นๆเฉยๆ
“ถ่ายรูป...” กวินถามอย่างไม่เข้าใจนัก
“ใช่จ้ะ แบบนี้ไง” ชมพูว่า ก่อนที่จะยื่นมันให้กวินดู เป็นรูปของกฤศและชมพู ที่ถ่ายตามสถานที่ต่างๆ สวมชุดเจ้าสาวเจ้าบ่าวถ่ายตามทะเล ตามสวนดอกไม้ต้นไม้ต่างๆ
“เอย...จะถ่ายไหม?” กวินถาม
“มะ...ไม่ดีกว่าครับ” เอยบอก
“ทำไมล่ะเอย?” คุณวิดาถาม
“ผมว่าเปลืองเปล่าๆครับ..อีกอย่าง...ผมอายด้วย” เอยบอกตรงๆพลางก้มหน้า จะให้ถ่ายรูปตอนกอดกับกวิน หรือทำท่าจะจูบแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น ตนคงไม่กล้าพอ
“น่าอายตรงไหน ใครๆก็ถ่ายกัน นี่ถ้าสมัยแม่มีแบบนี้นะ แม่ก็ถ่าย” คุณวิดาว่า
“ผมแล้วแต่เอยครับ” กวินบอก
“ไม่ถ่ายดีกว่าครับ..ถ่ายในวันงานก็พอแล้ว” เอยบอก
“เสียดายจัง...สักรูปสองรูปก็ยังดีนะเอย” คุณวิดายังคงคะยั้นคะยอ จนเอยเริ่มวางตัวไม่ถูก
“ใช่ๆ จะได้เก็บไว้ดูไง” ชมพูเชียร์อีกคน
“บริษัทนี้ของเพื่อนพี่เอง ถ่ายก็สวย มืออาชีพ ราคาคุยกันได้” กฤศเป็นคนพูด
“เอ่อ...” เอยเริ่มไปไม่ถูก เมื่อโดนต้อนเรื่อยๆจากหลายๆคน
“นะเอย...” ชมพูว่า สายตาทั้งหมดจับจ้องมาที่เอย
“ก็..ก็ได้ครับ” ในที่สุดเอยก็ต้องถ่ายรูปนั่นจนได้
“ถ้าอย่างนั้นก็พรุ่งนี้เข้าไปที่บริษัทนี้ คุยเรื่องการถ่ายกันเลย” คุณวิดาว่า สุดท้ายแล้วเอยก็ขัดคุณวิดาไม่ได้ ขัดคนบ้านนี้ที่นิสัยเหมือนกันทั้งบ้านไม่ได้เลยจริงๆ...
+++++++++++++++++++++++++++++++