ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)  (อ่าน 1270291 ครั้ง)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
แซบจริงอะไรจริง ชอบๆ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เอ้าสิ!! นางก้อไปกันอีกแบบน้อ

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
บลูนี่ไม่คิดเลยว่าจะยอมซอลขนาดนี้ อิอิ

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
เค้ารอตอนต่อไป มาเร็วๆนะ :impress2:

ออฟไลน์ kimhamwong

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
สนุกมากกกกกกกก
ได้ทุกอารมณ์ แรก ๆ นี่หมั่นไส้พี่เมธกับยุมากเลย
ยึดยักกันอยู่นั่น แต่พอรักกันล่ะหวานเชียว
ชอบต่อมาคือพอร์ชรุจน์ ให้อารมณ์แบบเล่นเพื่อน ฮ่าาาา
เอาเป็นว่าชอบทุกคู่ค่ะ
คุณหนูชิดจันทร์ก็ปมเยอะจริง คนอะไรจะร้ายได้ขนาดนี้ มีจุดจบแบบสมเหตุผลดี

 ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
ชอบคู่2เจ้ นี่มาก น่าร้ากกกกก ทันกัน เข้าใจกันดี

ออฟไลน์ junjou

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
    • www.facebook.com
ทำไมฉันถึงเพิ่งมาเจอเรื่องเน้ ควรอ่านเรื่องนี้มานานนนนนนนนนนนนมากๆแล้ว
สนุกมากกกกกกกกกกก ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกก
ผิดที่เราเจอกันช้าไป TT_TT

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
ผมคือ...นางเอก
ซีนสุดท้าย
(ตอนอวสาน 30%)

แกมันเด็กเลี้ยงไม่เชื่อง!!
แกกล้าทำระยำแบบนั้นกับลูกฉันได้ยังไง!? ไอ้สารเลว!!
    หึ! ว่าแต่ผม ลูกลุงต่างหาก ที่ดอดมาคร่อมผมเอง
หุบปาก!  ไอ้เด็กเลว ลูกฉันไม่ใฝ่ต่ำ ทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนั้นหรอก!! ถ้าจะทำ ก็เพราะถูกแกล่อลวง!!
     เหอะ! รับความจริงที่ลูก 'แรด' ไม่ได้เหรอครับลุง...
ไอ้ยุ!!
     เปิดหูเปิดตาดูบ้างเหอะลุง ว่าลูกสาวลุงน่ะมันแรด ร่านอยากมีผัวจนตัวสั่น หาข้างนอกไม่ได้ เลยมาคว้าคนในอย่างผมไง...
     ผลั๊วะ!!!

     หมัดหลุนๆ กระแทกเข้าหน้า ครึ่งกรามครึ่งโหนกแก้มแบบไม่มียั้งแรง เด็กหนุ่มเซไปตามแรงปะทะ ตั้งหลักได้ก็ยืนตั้งตัวตรง สองหมัดกำแน่นแนบข้างลำตัว  เด็กหนุ่มตั้งใจว่าหมัดแรกเขาจะไม่สวน ถือว่ายังเห็นแก่หัวหงอก แต่หากมันยังไม่เจียมสังขารหมายจะซ้ำ เขาก็พร้อมจะวัด แลกหมัดกันให้รู้ดำรู้แดง บุญคุณข้าวแกงที่ให้ทานมา เขายกให้ได้แค่หมัดเดียว!!
     ผลั๊วะ!!
     หมัดสองซ้ำลงมาหมายจะเน้นย้ำที่เดิมให้ช้ำเพิ่ม นั่นคือจุดสิ้นสุดแห่งความอดทน เด็กหนุ่มวาดแขนขึ้นกันทันควัน ก่อนตั้งท่าสวนหมัดใส่ผู้มีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยง ที่เป็นดั่งหนามยอกอก ยอกใจกันมาตั้งแต่แรกพบหน้า
หยุดนะยุ!! ขอโทษลุงเทิดเขาเดี๋ยวนี้!!
เป็นมารดาที่เข้ามาห้ามได้ทันเวลา  ใบหน้าหล่อนโกรธเกรี้ยว  โมโหเด็กหนุ่มผู้เป็นบุตรเหลือเกิน ที่ทำตัว ‘เนรคุณ’ ผู้ให้ชีวิตใหม่แบบนี้
แม่บอกให้ขอโทษลุงเขาซะ!!
     ทำไมผมต้องขอโทษ ในสิ่งที่ผมไม่ผิด!
อย่าทำให้แม่ต้องลำบากใจนะยุ ถ้าลุงเขาว่าผิด ก็แค่ยอมรับผิด แล้วขอโทษ มันจะตายหรือไง! ขอโทษลุงเทิดเดี๋ยวนี้นะยุ!!
     แม่ไม่มีเหตุผล แม่เข้าข้างพวกมันมากกว่าผม!!
แค่เหตุผลที่ลุงเขาอุตส่าห์มีน้ำใจชุบเลี้ยงเรามา นั่นก็เกินพอแล้ว…!
     นั่นเพราะแม่ยอมตกเป็นเมียของมันต่างหาก!!
ตายุ!!!
     เพี๊ยะ!!
เลิกก้าวร้าวแม่ ก้าวร้าวลุงเทิดเสียที! แกจะต้องทำให้แม่เสียใจ หนักใจกับแกอีกสักกี่ครั้งกันถึงจะพอใจ ห๊ะ!? ทำตัวให้มันดีๆ เหมือนลูกคนอื่นบ้างไม่ได้หรือไง!!? หรือต้องให้แม่อกแตกตายก่อนห๊ะ สดายุ!!!???

ทีนี้เห็นฤทธิ์มันหรือยังล่ะ ว่าลูกเธอมันร้ายแค่ไหน สรินดา  ฉันขอยื่นคำขาดนะ ถ้ามันยังทำตัวเลวๆแบบนี้ ก็ให้มันออกไปอยู่ที่อื่น! ฉันไม่ต้องการให้ยายฟ้ากับยายฝน ต้องเสียคนเพราะมัน และไม่ต้องการให้ตายะ ต้องเห็นตัวอย่างเลวๆ!!

ขอโทษลุงเทิดซะยุ 
     ……แม่
ขอโทษ…เดี๋ยวนี้
     บอกผมมาตรงๆก็ได้นะ…ว่าการที่แม่มีผมเกิดเป็นลูก คือสิ่งที่แม่…

     เสียใจที่สุด….
*
*
*
เฮือก!!
     สดายุลืมตาโพลงในความมืด พร้อมหายใจหอบถี่ด้วยความตื่นตระหนก มือขาวสั่นพั่บยกขึ้นลูบใบหน้าที่ชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อทั้งๆที่ห้องเปิดแอร์เย็นฉ่ำ ‘ฝัน?’
     แปลกใจจริง ๆ ที่จู่ๆก็ฝันถึงเรื่องราวในอดีต ที่คิดว่าฝังกลบจนลึกสุดใจไปนานแล้ว เอาเข้าจริงแล้ว มันยังชัดเจนขนาดนี้เลยหรือนี่ ชัดเจน จนราวกับย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน ราวกับเขายังยืนอยู่ตรงนั้น...
     พอนึกขึ้นมาได้สักอย่าง ความทรงจำของเกี่ยวกับเรื่องราวหลังจากนั้นก็ผุดตามกันขึ้นมาราวกับตาน้ำ สดายุเม้มปากแน่น ไม่ได้อยากคิดถึงมันเลย แต่ไม่รู้ทำไม เขาถึงไม่สามารถหยุดยั้งภาพเหล่านั้นที่ฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัวได้
     ยิ่งห้าม ราวกับจะยิ่งแจ่มชัด...
     อดีต...ครั้งวันวาน
วันนั้น คือวันที่เกิดเหตุการณ์งามหน้าครั้งแรก สดายุวัย 18 ปี แสดงอาการก้าวร้าวใส่ผู้ที่เรียกว่า ‘พ่อเลี้ยง’ อย่างเต็มที่ ตามอารมณ์เลือดร้อนของวัยรุ่น ทะเลาะกันรุนแรง ถึงขนาดที่ว่าจะวางมวยกันให้รู้แล้วรู้รอด ทว่าท้ายที่สุด สดายุก็ต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ ยอมกล่าวคำขอโทษ ยอมถูกไล่ออกไปอยู่หอพักมหาวิทยาลัย เพียงเพราะ แม่ ของสดายุเข้าข้างฝ่ายนั้นมากกว่า
     แม่เข้าข้างครอบครัวใหม่ของแม่...มากกว่าเขาคนนี้ ที่เป็นของเหลือมากจากครอบครัวเก่าเน่าๆ
     เพราะน้อยใจแม่ เพราะเกลียดครอบครัวใหม่ของแม่ สดายุในวัย 18 ปี จึงทำทุกวิถีทางให้ครอบครัวนั้นเดือดร้อนที่สุด ละเมิดกฏ ผิดระเบียบ ผลการเรียนห่วย ติด มผ. มส. เกรดคาบเส้น จนถูกเรียกคุย เรื่องซิ่ว เกือบถูกพิจารณาให้โดนรีไทน์ เกเร มีเรื่องชกต่อย ไม่เว้นแต่ละวัน ที่ทำไปทั้งหมดนั้น ก็แค่อยากให้แม่หันมาสนใจ วุ่นวายอยู่แต่กับเรื่องของเขา เห็นลูกโง่เง่าคนนี้อยู่ในสายตาบ้าง
     รู้ว่าผิด ว่าชั่ว แต่ก็ไม่นึกกลัวที่จะทำ
     ทำอยู่แบบนั้น กระทั่งขึ้นชั้นปีสี่ ประจวบเหมาะพอดีกับที่ได้เจอกับเจ๊บลูม่า ที่เข้ามาแนะนำตัวว่าเป็นแมวมอง  ชวนเข้าวงการเป็นดารา นายแบบ แรกๆ สดายุไม่สนใจด้วยเห็นว่าไร้สาระ แต่พอมารู้ว่า เป็นอาชีพที่หาเงินได้เร็ว ยิ่งเก่ง ยิ่งดัง ยิ่งมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ตอนนั้นแหละถึงได้ตัดสินใจ ยอมเข้าวงการตามคำชวนของผู้จัดการดาราอย่างบลูม่า  ด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียว...ชิงแม่ของเขาคืน 
     ถ้ามีเงิน มีชื่อเสียง เขาก็จะสามารถดูแลแม่ได้ จะมีบ้านหลังโตๆ มีรถคันใหญ่ๆ มีคนรับใช้เอาไว้ดูแลให้แม่สุขสบาย จะได้ไม่ต้องพึ่งพาครอบครัวนั้นอีก สัญญาว่าถ้ามีเงินเลี้ยงแม่ได้ จะพาแม่ไปอยู่ด้วยกันสองคนตามประสาแม่ลูก จะเป็นเด็กดี ให้แม่ภูมิใจ...
     ฝัน...อย่างไรก็เป็นได้แค่ฝัน วาดวิมานกลางอากาศไว้สวยหรู สุดท้ายก็พังทลายไม่มีชิ้นดี เพราะแม่ ไม่ได้เลือกใครเพราะความสุขสบาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินเงินทอง ที่แม่เลือกเพราะแม่...รัก
และแม่...เลือกครอบครัวนั้น
     เลือกผู้ชายคนนั้น
     เลือกลูกๆของผู้ชายคนนั้น
     เลือกลูกชายที่เกิดกับผู้ชายคนนั้น
    ไม่ใช่ลูกคนนี้...
     เสียใจ น้อยใจ อาละวาด คอยระรานครอบครัวของแม่อย่างไม่ลดละ เพราะถูกขัดใจ เพราะไม่ได้อย่างที่หวัง ยิ่งโด่งดัง ก็ยิ่งฮึกเหิม
     ...สมแล้ว ที่สุดท้ายก็ถูกเมิน
     ทำตัวเองทั้งนั้น...กว่าจะมาคิดได้ เรื่องก็เลยเถิดไปไกล เพราะมัวแต่มุ่งเป้าแต่เรื่องแม่ มุ่งแต่จะยุแหย่ให้ครอบครัวนั้นแตกฉาน ไม่สนใจใคร ไม่แคร์ ไม่สนใจโลก สุดท้ายก็เลยถูกโลกเมิน ทั้งหมดล้วนเกิดจากตัวเองทั้งสิ้น
กว่าจะคิดได้ก็สาย กว่าจะคิดได้ ก็ถูกเฉดหัวออกจากวงการเรียบร้อย  ถึงจะเป็นด้วยเรื่องที่ตนไม่ได้สร้าง แต่ก็เพราะบุญเก่ามันไม่เหลือแล้ว แถมบารมีก็ไม่เคยสั่งสม เกเรเกตุงจนคนเอือม เลยไม่เหลือทางให้ดิ้นรน โดยใส่ร้ายป้ายโคลนยังไง ใครๆเขาก็เชื่อทั้งนั้น เพราะไม่ว่าเรื่องเลวร้ายอะไร ก็ดูจะมีมูลไปเสียหมด เหมาะสมกับสันดานของพระเอกกเฬวรากคนนี้แบบไม่ต้องตั้งข้อสงสัย
     เมื่อถูกตัดสินไปแบบนั้น ก็ขี้เกียจดิ้นรนแก้ตัวไม่เมื่อยปาก อยากว่าอะไรก็ว่าไป ถึงอย่างไรสดายุคนนี้มันก็ไม่มีดีอะไรอยู่แล้ว อะไรที่มันหวังไว้ ก็แทบไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

     นึกถึงตรงนี้สดายุก็ถอนหายใจยาวเหยียด ความทรงจำช่างตราตรึง คิดถึงความเหลวแหลกของตัวเองแล้ว ก็นึกขัน ทำลงไปได้ยังไงนะ เมื่อครั้งนั้น เพราะยังเด็กเหรอ ก็ตั้ง 22-23 เข้าไปแล้วนะ เฮ้อ...เขานี่มันช่างไร้หัวคิด ดีนะว่าพอมีเรื่องโดนใส่สีว่าทำสาวท้อง จนโดนออกจากวงการ ตอนนั้นเริ่มมีหัวคิดขึ้นมาบ้างแล้ว เริ่มรู้แล้วว่าตัวเองจะทำให้ครอบครัวเดือดร้อน เลยตัดขาดออกมา ไม่ติดต่อ ไม่ไปมาหาสู่ เพื่อที่สื่อจะได้ไม่มีข้อมูลไปขุดคุ้ย ว่าครอบครัวคนฉาวคือใคร
     นั่นคงเป็นสิ่งเดียว ที่พอทำให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ว่าอย่างน้อย ลูกเลวคนนี้ ก็ยังพอปกป้องครอบครัวของแม่เอาไว้ได้
คิดได้แล้ว ว่าแม่อยู่กับครอบครัวนั้น คงมีความสุข กว่าการที่ต้องมาอยู่กับลูกคนนี้เป็นไหนๆ...

     ตอนนี้ยัง...สบายกันดีไหมนะ

     “นอนไม่หลับเหรอยุ?”
       “…………….!!?”
      ระหว่างที่ยังนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องเก่า ๆ อยู่บนเตียง เสียงทุ้มละมุนก็ดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมฝ่ามืออุ่น ๆ ที่เอื้อมมาลูบหัวทุยเบา ๆ ปลุกสดายุให้ตื่นจากภวังค์วันวานของตนเสียที
     “เพิ่งจะตีสี่เองนะ ฝันร้ายเหรอ?”
     กฤตเมธถามย้ำ เมื่อเพ่งมองเห็นสีหน้าสลดน้อยๆของคนรักเข้า  ร่างใหญ่เคลื่อนเข้าหาก่อนโอบกอดคล้ายปลอบโยน
     “...ไม่เชิงฝันร้ายหรอก...แค่ฝันถึงเมื่อก่อนน่ะ…”
     สดายุตอบคำแต่โดยดี แต่เสียงแหบหวานอันเป็นเอกลักษณ์นั้น คล้ายจะฟังดูเครือพร่ากว่าปกติ แค่ได้ยินกฤตเมธก็รู้แล้ว ว่าคงไม่ใช่ฝันที่หวานนัก ยิ่งพอถามต่อจนได้รู้ว่าเป็นเรื่องของครอบครัวด้วยแล้ว กฤตเมธยิ่งรู้สึกได้ ว่าสดายุเหมือนแก้วบางๆ ที่กำลังร้าวระแหง หากเขาไม่รีบประคองรับไว้ ก็อาจแตกสลายไปได้ง่ายๆ
     แต่เพราะเป็นเรื่องครอบครัวนี่แหละ กฤตเมธถึงได้หนักใจนัก เป็นคนรักกันมาร่วมปีแล้ว เขาพยายามเรียนรู้นิสัยใจคอของสดายุ พยายามศึกษาทุกอย่างที่เกี่ยวกับคนที่เขารัก จนตอนนี้แทบจะพูดได้เต็มปาก ว่าเขารู้จักสดายุเกือบทุกซอกทุกมุม เว้นเพียงเรื่องเดียว คือ เรื่องของอดีต เรื่องครอบครัวที่แสนจะคลุมเครือ แม้ในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา สดายุจะเคยเปิดปากเล่านู่นเล่านี่ เกี่ยวกับเรื่องที่บ้านให้ฟังอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ได้ชัดเจนอะไร
     แม้ห่วงแสนห่วง แต่กฤตเมธก็เลือกที่จะไม่ซอกแซกถาม ด้วยเพราะรู้ดี ว่าเรื่องครอบครัวนี้เป็นเรื่องที่อ่อนไหว  เป็นเรื่องที่ทำให้สดายุต้องเจ็บปวดมาตลอด  หากเลี่ยงได้ กฤตเมธก็จะพยายามไม่ไปสะกิดใจคนรักในเรื่องนี้เป็นอันขาด และหมายมั่นตั้งใจว่า ตนนี่แหละจะเป็นครอบครัวใหม่ของของสดายุให้ได้
     กฤตเมธถอนหายใจบาง ก้มลงจูบขมับชื้นเหงื่อของสดายุแผ่วเบา แล้วกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น

     ...ไม่เป็นไรนะยุ อยู่กับพี่ พี่จะดูแลยุเอง

     ร้านแม่พิณน์ช่วงหัวค่ำ คนแน่นขนัด ด้วยชื่อเสียงโจษจันท์ว่ารสชาดเป็นเลิศ เลยหลังครัวที่กำลังวุ่นวาย มีห้องผู้จัดการร้านซุกซ่อนอยู่ที่ด้านในสุด ในนั้นมีเด็กฝึกงานกำลังง่วนอยู่กับการตรวจเอกสารการสั่งซื้อวัตถุดิบของวันนี้อยู่
     ตั้งแต่ประกาศแขวนชื่อออกจากวงการ หลังจากกลับจากการออกเที่ยวหนีสื่อ สดายุก็ถูกพาตัวมาเป็นเด็กฝึกงานหลังร้านแม่พิณน์ เพื่อเรียนรู้การการดูแลจัดการร้าน นอกเสียจากการเป็นเด็กฝึกงานหลังร้านอาหารแม่พิณน์แล้ว สดายุยังต้องเรียนรู้การทำร้านด้วยตัวของตัวเองด้วย โดยมีกฤตเมธเป็นผู้ช่วย คอยผลักดัน เพื่อให้ร้านกาแฟในฝันของสดายุ ได้เปิดให้บริการเร็วขึ้น
     ใช่แล้ว...สดายุอยากเปิดร้านกาแฟ เป็นความใฝ่ฝันวัยหนุ่ม ที่อยากลองทำให้เป็นจริงให้ได้สักครั้งในชีวิตที่เหลืออยู่ หลังเต็มที่กับวงการมายา ซึ่งความจริงย่อมไม่หอมหวานเหมือนความฝัน ที่แค่อยากทำก็โยนเงินโครมลงไปแล้วจะเนรมิตรอะไรก็ได้ ที่สำคัญสดายุรู้ดีว่าตัวเขาเองก็ไม่ได้มีเงินขนาดนั้น ค่าตัวที่ได้มารวม ๆ แล้วก็ได้แค่พออยู่พอกิน ริจะทำธุรกิจ มันยังไม่มากพอ โชคดีที่มีกฤตเมธคอยช่วย แต่ก็นั่นแหละ ผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการธุรกิจมาก่อนอย่างกฤตเมธ ย่อมไม่ปล่อยให้สดายุทำอะไรผลีผลาม จริงอยู่การทำธุรกิจมันต้องมีความเสี่ยง แต่กฤตเมธจะไม่ยอมให้สดายุต้องเสี่ยงโดยไม่รู้อะไรเลยเป็นอันขาด อย่างน้อยๆ ต้องสอนนกน้อยให้หัดบินอยู่ใต้ร่มไม้นี้จนคล่องเสียก่อน แล้วค่อยส่งออกไปเผชิญฟ้าใส ในโลกธุรกิจ แค่ดวงกับใจ มันไม่พอหรอก ความรู้กับประสบการณ์ก็สำคัญ  นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สดายุมานั่งง่วนอยู่กับกองเอกสารน่าปวดหัวอยู่ตรงนี้
     แต่เหตุผลหลักที่ทำให้ร้านกาแฟในฝันยังไม่สามารถเปิดตัวได้  มันน่าปวดหัวยิ่งไปกว่านั้นอีก

     “มาอีกแล้วล่ะค่ะ”  ขณะที่สดายุกำลังถูกกฤตเมธเคี่ยวกรำ ผู้จัดการสาวใหญ่ของร้าน ก็เดินเข้ามากระซิบแจ้งบางอย่างข้างหูเจ้านาย ที่เกี่ยวกับ ‘เรื่องเกี่ยวกับความไม่ปกติในช่วงนี้’  ได้ยินแบบนั้น กฤตเมธก็พรูลมหายใจ รู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ ขึ้นทันทีกับเหตุการณ์ไม่ปกติที่กำลังเกิดขึ้น
     ร่วมสามเดือนหลังจากประกาศตัวออกจากวงการ ชีวิตช่วงนี้ บอกตรง ๆ ว่าไม่ค่อยสงบสุขสักเท่าไหร่นัก เข้าใจว่าเรื่องระหว่างเขากับสดายุค่อนข้างเป็นกระแส และสดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่เขาทั้งคู่ เคยมีดีกรีเป็นถึงอดีตพระเอกดัง การที่จะให้เรื่องมันเงียบไปในเวลาอันรวดเร็วนั้น เป็นไปได้ยากเสียยิ่งกว่าการไล่จับเสือ
      ก็เข้าใจแหละว่าการที่จู่ ๆ ก็ประกาศตัวว่าเป็นเกย์ แล้วออกจากวงการ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างช็อค หลายกระแสตีรวน ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ขนาดประกาศออกไปแล้วว่าจะไม่รับงานอีก ก็ยังมีรายการบันเทิงหลายสำนัก ติดต่อเข้ามาเพื่อขอสัมภาษณ์ เพื่อล้วงลึกถึงเหตุผล ความจริง หรืออะไรก็ตาม แล้วแต่ที่รายการเหล่านั้นจะอ้าง ให้ได้ตัวของกฤตเมธและสดายุออกรายการของตัวเองให้ได้  แม้ทั้งคู่จะพยายามยืนการานปฏิเสธสารพัด ดูเหมือนแร้งข่าวเหล่านั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะล้มเลิกความตั้งใจ อ้างว่าทุกคนมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะได้รู้ความจริง มีสิทธิ์ที่จะสอบถาม โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของกฤตเมธ หรือสดายุเลยแม้แต่นิด

     ยิ่งไม่ยอม ก็ยิ่งมีแต่ข่าวสาดเสียเทเสีย แล้วก็ออกมาอ้างแบบเดิม ๆ ว่ามีสิทธิ์ที่จะกดดัน เพื่อให้ทั้งคู่ออกมารับผิดชอบการกระทำ

     เหตุการณ์ค่อนข้างหนัก แม้จะมีคนเข้าข้าง อย่างไรก็ต่อสู้กับสื่อไม่ไหว แม้ในช่วงที่กฤตเมธและสดายุหนีออกต่างประเทศไป ก็ใช่ว่าข่าวคราวจะเงียบตาม การใช้ชีวิตหลังจากนั้นของทั้งคู่จึงค่อนข้างลำบาก ถึงจะไม่ได้ขนาดต้องกระเสือกกระสน แต่แค่ออกไปใช้ชีวิตภายนอกยากเย็นขึ้น ถูกจับตา ถูกตามตื้อ ธุรกิจร้านกาแฟที่สดายุตั้งใจจะลงมือลงแรงทำในทันทีหลังจากกลับจากเที่ยว  ก็ต้องพับโครงการเก็บเป็นการชั่วคราว แล้วเอาตัวเข้าไปเป็นลูกจ้าง ช่วยงานในร้านของกฤตเมธแทน
เพราะเรื่องยังไม่ยอมซา ทุกความตั้งใจว่าจะทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็พลอยต้องถูกยับยั้งไปด้วย เป็นช่วงที่ค่อนข้างลำบาก ทั้งกฤตเมธและสดายุเองก็รู้ดีว่ามันหนักหนาที่จะต้องรับมือ แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะต้องผ่านมันไปให้ได้ ทั้งสองก็กัดฟันทน ต่างก็เป็นกำลังใจให้กันและกันเท่าที่จะสามารถทำได้ 
     กะอีแค่มีนักข่าวตามรังควานถึงบ้าน ถึงร้าน มันไม่ใช่เรื่องหนักหนานักหรอก กฤตเมธพอจะรับมือไหว เขาที่แก่กว่าทั้งอายุและประสบการณ์ สามารถหาวิธีตั้งรับเหล่านักข่าวหัวแร้งได้ไม่ยาก แต่กับสดายุที่ค่อนข้างอ่อนไหว กฤตเมธไม่ยอมให้ใครหน้าไหนได้เข้าใกล้ทั้งนั้น นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ช่วงนี้กฤตเมธค่อนข้างหัวเสีย ที่มีใครที่ไหนก็ไม่รู้ มาคอยดักเจอสดายุอยู่ได้ทุกเมื่อเชื่อวัน ทำทีว่ามาทานมื้อเย็น ถามหาแต่สดายุ ไม่ยอมบอกว่าตัวเองเป็นใคร บอกแค่ตัวเองไม่ใช่นักข่าว และต้องการคุยกับสดายุแค่นิดเดียวเท่านั้น
     หึ! มีพิรุธขนาดนั้น มีหรือกฤตเมธจะยอมให้เจอ!! กระทั่งเรื่องที่ชายคนนั้นมาดักรอ กฤตเมธยังไม่ยอมให้ถึงหูสดายุเลยด้วยซ้ำ
     “มีอะไรกันงั้นเหรอ พี่เมธ?” สดายุไถ่ถามขึ้นเมื่อเห็นว่ากฤตเมธออกอาการหงุดหงิดขึ้นทันทีที่ผู้จัดการร้านเดินมาแจ้งอะไรบางอย่าง “ข้างนอกมีปัญหาเหรอ?” 
     “ไม่มีอะไรหรอก ดึกแล้ว เรากลับกันเถอะ เดี๋ยวที่เหลือให้คุณกัลยาเขาดูแลให้” ดูจากหน้า ฟังจากเสียง กฤตเมธก็รู้แล้วว่าสดายุเริ่มสงสัยในพฤติกรรมปิดบังซ่อนเร้นของตน คนแก่กว่าจึงไม่เสี่ยงอยู่ยาวในจุดเกิดเหตุต่อ ตัดสินใจทิ้งงานลากคนรักกลับกันดื้อ ๆ
     แน่นอนว่าแบบนั้นยิ่งทำให้สดายุยิ่งสงสัยหนัก
     “นักข่าวอีกแล้วเหรอ?” เพราะท่าทีมีพิรุธของทั้งกฤตเมธ และผู้จัดการร้าน สดายุจึงตีความไปว่าอาจเป็นพวกนักข่าวที่ตามมาขอข่าวอีกแล้ว ทั้งที่เพิ่งจะซา เพิ่งจะรามือกันไปได้ไม่นาน
     “ก็นะ เพราะงั้นเราออกหลังร้านกันเลยก็แล้วกัน” กฤตเมธไม่ได้อยากโกหก แต่ก็ดีกว่าให้สดายุเกิดสงสัยแล้วออกไปเผชิญหน้ากับใครคนนั้นเอาเอง ไม่ใช่เพราะหวงห่วงจนเกินไปหรอก แต่เพื่อความปลอดภัย ก็อยากขอสืบเรื่องของชายที่มาดักรอทุกวันนี้ให้ได้ก่อน
     “โอเคครับ งั้นเดี๋ยวผมขอไปห้องน้ำแป๊บนะ” สดายุยินยอมแต่โดยดี ออกแนวชินแล้วกับการหลบนักข่าวหัวซุกหัวซุนแบบนี้
ฝ่ายกฤตเมธเองก็ค่อนข้างสบายใจ ที่สดายุว่าง่าย ยอมกลับแต่โดยดีไม่มีคำถามหรือข้อสงสัย ชายหนุ่มเก็บของรอคนรักที่ไปเข้าห้องน้ำอย่างใจเย็น  เพิ่งสามเดือนเอง หลังการแถลงข่าวใหญ่โต หลังเรื่องราววุ่นวายต่างๆถาโถม  รู้ดีว่ามันคงยากถ้าจะให้มันเข้ารูปเข้ารอยในเวลาอันสั้น เขาเข้าใจดี ว่าต้องทำใจ และเปิดใจให้กว้าง ยอมรับผลกระทบที่จะตามมาในสิ่งที่เขาเลือก จะลงจากหลังเสือ มันก็ต้องถูกเสือตะปบเอาบ้างเป็นธรรมดา
     กฤตเมธถอนหายใจ แค่ตัวเขาน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่การลากสดายุลงมาพร้อมกัน เพราะความเอาแต่ใจของเขาเองด้วยแล้วเนี่ย แน่นอนว่าเขาจะต้องปกป้องอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกับคนรักของเขาคนนี้ที่ช่างใจน้อยด้วยแล้ว กฤตเมธสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ปล่อยให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายสดายุของเขาเป็นอันขาด แม้ว่าเสือตัวที่พวกเขาลงจากหลังมาจะตัวใหญ่เพียงใด เขาก็จะปกป้องสดายุจากเสือตัวนั้นอย่างสุดชีวิต
     ต่อให้วันนี้จะเป็นเพียงแค่ฝัน แต่สักวันมันต้องดีขึ้น

     “เฮ้อ...” สดายุถอนหายใจยาว ระหว่างล้างมือ หลังทำธุระส่วนตัวเสร็จ นึกถึงเรื่องที่ตนกับกฤตเมธต้องหลบๆซ่อนๆ อยู่เพียงหลังร้านแล้วก็รู้สึกท้อแท้ไม่น้อย ต้องเป็นแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่กันนะ เมื่อไหร่โลกนั้นจะปล่อยให้เขาสองคนเป็นอิสระเสียที
     สดายุบ่นพร่ำกับตัวเองอยู่ในใจ เหม่อลอยล่องลอยอยู่แต่ในภวังค์ จนไม่รู้ตัวว่ามีใครอีกคน มายืนล้างมืออยู่ใกล้ๆ มารู้ตัวเอาอีกที ก็ตอนที่ชำเลืองไปเห็นในกระจกว่าตัวเองกำลังโดนจ้องมอง นั่นแหละสดายุถึงได้รู้สึกตัวว่าควรออกไปจากห้องน้ำเสียที เพราะจากที่ได้เห็น ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ใส่หมวก ใส่แว่น ไม่แน่ว่าอาจเป็นพวกสายข่าวสำนักไหนปลอมตัวมาก็เป็นได้
สดายุรีบผละไป ทว่าชายคนนั้นกลับกางกั้นไว้ ตรงหน้าประตู
     ...โดนเข้าแล้ว
     สดายุคิดแบบนั้น แต่ไม่ได้ผลีผลามทำอะไร จดจ้องมองคนตรงหน้าตาขวาง เอาสิ จะมาไม้ไหน คิดประมวลในหัว จากประสบการณ์ที่เคยได้เจอมา อาจมีกล้องซ่อน อาจโดนถ่ายรูป หรือจู่ๆก็โดนสัมภาษณ์แปลก ๆ แต่ที่แน่ๆ ไม่เคยเจอใครอุกอาจตามมาถึงห้องน้ำเสียที อันนี้ทำเอาหัวเสียหนักสุด
     “...พี่...เอ่อ...คุณสดายุ...” ฝ่ายนั้นเป็นผู้เริ่มบทสนทนาก่อน น้ำเสียงแหบพร่า ทั้งยังตะกุกตะกัก ผิดจากพวกเหยี่ยวข่าวต่างๆอย่างสิ้นเชิง ทำเอาสดายุขมวดคิ้ว เริ่มสับสนว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน
     “มีธุระอะไร?”  สดายุถามกลับ เสียงแหบเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ ตอนนี้ดุเหมือนจะกร้าวขึ้นเล็กน้อยด้วยแรงอารมณ์กรุ่นกริ้ว
นำเสียงแบบนั้น ทำชายอีกคนออกอาการเลิ่กลั่ก ร่างสูงใหญ่ลนลานอยู่ครู่ ก่อนจะรีบถอดหมวกกับแว่นตาออก เพื่อเผชิญหน้ากับสดายุตรงๆ
     ใบหน้าที่เห็นเป็นครั้งแรก ทำเอาสดายุยิ่งขมวดคิ้วงง เขามั่นใจว่าไม่เคยเจอผู้ชายคนนี้มาก่อน แต่ทำไมถึงช่างคุ้นตา? ผู้ชายตรงหน้า อายุน้อยกว่าแน่ๆ แม้จะเป็นคนสูงใหญ่ แต่ดูยังเยาว์ ดูไม่แก่โลก ดูยังไงก็ไม่ใช่นักข่าว แล้วเด็กคนนี้มีธุระอะไรกับเขากัน? แฟนคลับ?
     “ผมขอโทษ...คือที่จริง...เอ่อ ผมมารอเจอคุณหลายวันแล้ว  แต่ทางร้านไม่ยอมให้ผมพบคุณ เลยต้องมาดักรอแบบนี้...ไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณไม่พอใจ...” เด็กหนุ่มอธิบายยาว หน้าตาท่าทางดูประหม่าไปหมด พร้อมทิ้งคำถามสำคัญให้สดายุได้คิด  อีกรอบ “จำผม...ไม่ได้เลยเหรอ?”
     “...นายเป็นใคร?” ถามมาก็ถามกลับสดายุไม่คิดเล่นแง่กับใครนานๆ ใบหน้าที่ดุขึ้นไปอีกขั้น ทำเอาเด็กหนุ่มถึงกับเลิ่กลั่กหนัก
     ตาสบตา เมื่อเห็นว่าสดายุคาดคั้นมาไม่ลดละ เด็กหนุ่มก็สูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกขวัญ แล้วแนะนำตัวเองออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ผม...สุริยะไงครับ ยะ...น้องพี่ยุเอง...”



**************************************

เอาครึ่งแรกไปก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวอีกครึ่งตามมา อิอิ
(เดี๋ยวอีกกี่วันว๊า)
จะว่าครึ่งแรกก็ไม่เชิงอ่ะนะ เรียกว่า 30% แรกดีกว่า
เพราะที่เหลือนั้น ยาวมาก อันนี้เอามาชิมลาง
เรียกเรตติ้งกันลืมแค่นั้นเอง

...เฮ้อ...ตอนอวสานแล้วนะคะ
สดายุที่จะเอามาลงครั้งหน้า คือตอนอวสานจริงๆแล้วนะ ฮึ่กๆๆๆ
 :mew4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2016 13:57:28 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ baipai_bamboo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
น้องยะ มาทำไม อิแม่เป็นอะไรหรือเปล่า
ทำไมๆๆๆ โอ้ย อยากรู้............... :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ตอนจบมาแล้ว 30% ก็ฟิน อิอิ ปมเรื่องครอบครัวน้องยุจะได้เคลียร์ซักที น้องยุจะได้มีชีวิตใหม่ที่ดียิ่งกว่าเดิม

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
รู้สึกถึงปัญหา

แต่ก็ดีจะได้เคลียร์เรื่องบ้าน ให้มันจบ

ขนาดแม่กับพ่อเลี้ยงมาไม่กี่บรรทัดเรายังรำคาญอ่ะ

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เฮือกกกกก ก ก ก ก ก นางมาทำไม!?!?!

ออฟไลน์ Yundori

  • From where I stand...
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ตัวละครที่ไม่เคยเอ่ยถึงในเรื่องเลยโผล่มาแล้ว
แต่จุดประสงค์นี่สิ น่าสงสัย
จะมาดีมาร้ายต้องคอยดูกัน แต่เอ
แค่ตอนเดียวจะพอเหรอคะนักเขียน
เพิ่มสักตอนสองตอนไหม 5555555

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เย้ยยย น้องโผล่มาจากไหน ลุ้นๆ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
น้องชายตามหาพี่ยุทำไม

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 o22  น้องของยุ  ดาราประกอบค่าตัวแพงออกตอนจบตอนเดียว  :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ elieanna

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เอิ่ม น้องตามขนาดเน้ มีเรื่องอะไรหว่าา

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ง่าาาาาาา ทำให้อยาก(อ่าน) แล้วจากไปได้ไงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :dont2: :dont2: :dont2:

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
น้องต่างพ่อใช่มั้ย ตกลงครอบครัวใหม่แม่ดีป่าวเนี่ย  :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
มาทำไม?

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
ล่อลวงกัน

มาต่อไวๆนะขอรับ


ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เพิ่งโผล่มาตอนพี่กำลังจะมีสุขหรือคะ?  ตอนที่พี่มีทุกข์หายไปไหนกันล่ะคะ?

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
ใกล้อวสานแล้วววว มาต่อเร็วๆนะ

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
เอ๋ น้องคนนี้เป็นใครนะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ขอแค่อย่าหาเรื่องดราม่ามาให้พี่ยุก็พอออ :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด