
สวัสดีครับผม
ขอบคุณคนอ่านทุกท่าน ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์ครับ
2เดือนกว่าๆที่ผมเขียนเรื่อง จวนเจียนมาถึงตอนจบแล้วครับ
ชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไปยังไม่จบ
ผมจะก้าวย่างอย่างมั่นคง ไม่ประมาท
ทำวันนี้ให้ดีที่สุดครับผม

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพียงแค่ใจเรารักกัน
“เพียงอยู่ในวงแขนคุณ อบอุ่นในหัวใจ
เพียงได้เดินเคียงข้างคุณ ดั่งมีพรมละมุน
ทอดพาดวงใจ เราไปยังนภาฟ้าที่แสนไกล
ที่ไม่เคยมีใครก้าวลํ้าข้ามผ่านพ้นไป
เก็บดวงดาวที่ลอยเกลื่อนฟ้า
จับมาเรียงร้อยเป็นมาลัยคล้องใจ”
“เพียงแค่ใจเรารักกัน บดบังความสําคัญอื่นใด
เพียงแค่ใจเราสองใจ เข้าใจในรักจริง”
“และเรามีเพียง งานวิวาห์เดียวดายภายใต้แสงจันทร์
สุขสกาวดวงดาวแพรวพราวนับหมื่นร้อยพัน
ร่วมกันเป็นพยานแห่งรัก ที่ไม่มีพิธีใดจักสําคัญ (เหนือใจ)”
http://www.youtube.com/watch?v=wbcONAjmnHg (ว่าน ธนกฤต)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

“แต่งตัวแล้วลงไปคุยกันข้างล่าง”
แม่เฮียจ้องหน้าลูกชายเขม็ง
แต่ไม่ชำเลืองมองผมแม้แต่น้อย
แล้วแกก็เดินตัวตรง คอแข็งออกไปจากห้อง
“แกนะแก ชั้นเตือนแกแล้วนะไม่รู้จักระวัง”
เจ๊อ๋องชี้หน้าเฮียอย่างเคืองๆ
แล้วหันมาทางผม ท่าทางครุ่นคิด
มือข้างหนึ่งลูบคางตัวเองอย่างเผลอไผล
“อืม ขาวจริงๆนะเรา มิน่าไอ้หมอมันถึง.....”
เว้นไว้ดีแล้วครับ อย่า...อย่าพูดจนจบ
ผมไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดตรงไหนแล้ว
จะมุดกลับเข้าไปในผ้าห่มก็เกรงจะไม่งาม
(ใช่เวลาปล่อยมุขมั๊ยแก)
“เฮีย ทำยังไงดี แม่เฮียเอาผมตายแน่ๆเลย”
ผมปากคอสั่น มองหน้าเฮียขอความเห็น
“อย่าเพิ่งคิดไปไกล รอดูก่อนว่าแม่จะว่ายังไง
ไม่ต้องกลัวนะครับ เฮียอยู่ทั้งคน”
เฮียกอดผมแรงๆแล้วลุกเดินโทงๆ
ไปเก็บเสื้อผ้าของสองเราที่ตกอยู่เกลื่อนพื้น
แหมๆถ้าเป็นสถานการณ์ปกติไอ้หน่อยคงจะเลือดกำเดาพุ่งกระฉูด
แต่นาทีนี้ อารมณ์พิศวาสบาดจิต เหือดแห้ง หมดสิ้น
ผมกับเฮียแต่งตัวเรียบร้อย พร้อมจะรับโทษทัณฑ์
“ฟอด ไม่ต้องพูดอะไรนะครับ ตอบเท่าที่แม่ถาม
ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเฮีย”
เฮียหอมแก้มผมแล้วจูงมือให้เดินตามมา
ผมจับมือเฮียแน่น มือเย็นเฉียบกันทั้งคู่
เหลือบมองหน้าเฮีย แกดูกังวลอยู่ไม่น้อย
คิ้วสองข้างขมวด ถอนหายใจเบาๆอยู่ก็หลายครั้ง
ผมเองแทบทรุดลงกับพื้น แขนขาไร้เรี่ยวแรง
ผมทำเรื่องบัดสีในบ้านของแม่เฮีย
ที่เป็นทั้งนายจ้าง ทั้งผู้ให้กำเนิดคนที่ผมรัก
ถ้าเป็นชาย-หญิง ลักลอบได้เสียกันใต้จมูก ก็น่าชังมากพอแล้ว
นี่ยิ่งหนักเข้าไปอีก ชายกับชาย เพศเดียวกัน
ยากที่จะยอมรับได้แน่นอน
แล้วทางบ้านผมอีกหล่ะ ถ้าแม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น
ตัวผมเองยอมรับโทษในสิ่งที่ทำได้ครับ
แต่จิตใจ ความรู้สึกของแม่ผมหล่ะครับ
ยิ่งแม่เคยมีอาการซึมเศร้า
เรื่องนี้จะมีผลกับโรคของแม่หรือเปล่า
นี่เป็นความเห็นแก่ตัวของผมจริงๆ
คิดแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
กลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดรอด
“ไม่ร้องนะครับ เข้มแข็งเอาไว้ เราต้องผ่านไปได้ เฮียรับรอง”
เฮียหันกลับมาเช็ดน้ำตาให้ผม
“นั่งลงสิ จะยืนกันอีกนานมั๊ย”
แม่เฮียนั่งหน้านิ่งอยู่ที่โซฟาตัวยาว
ข้างๆเป็นเจ๊อ๋องที่ส่งสายตาให้รีบนั่ง
ผมกับเฮียแยกกันนั่งลงที่โซฟาตัวเดี่ยว
ที่วางขนาบสองข้างของโซฟาที่แม่เฮียนั่งอยู่
“แม่ครับ..เจ๊อ๋องครับ มี่ขอโทษ”
เฮียยกมือไหว้ ผมรีบยกตามแทบไม่ทัน
ไม่ต้งไม่เตี๊ยมกันเลยนะเฮีย
“แกนะแก จะให้ชั้นหัวใจวายตามเตี่ยแกไปเลยรึยังไงห๊ะ”
แม่เฮียชี้หน้าเฮีย แล้วน้ำตาแกก็ไหลออกมา
เจ๊อ๋องรีบคว้าทิชชูในกล่องที่อยู่แถวนั้นมาซับน้ำตาให้แม่
“ใจเย็นๆก่อนแม่ ฟังน้องมันก่อน”
เจ๊อ๋องกอดแม่เบาๆ แล้วโอบไว้หลวมๆ
“แม่ครับ มี่ขอโทษ”
เฮียโผเข้าไปนั่งอยู่แทบเท้าแม่ กอดขาแม่
แล้วซบหน้าลงเกลือกกลิ้งที่ตักอย่างสำนึกในความผิด
ถ้าคุณเป็นผมคุณจะทำอย่างไร
กด1. นั่งนิ่งๆเฉยๆ รอดูสถานการณ์
กด2. ถลาเข้าไปนั่งเคียงข้างเฮีย เป็นการแสดงตัวว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
กด3. ยืดอก ยกมือ ชิงสารภาพ รับผิดแต่เพียงผู้เดียว
กด4. ปฎิเสธว่า ผมไม่เกี่ยว เฮียแกทำของแกเอง
ละล้าละลังทำตัวไม่ถูก งกๆเงิ่นๆ(เหมือนหง่อมๆเลยอะ)
“นั่งอยู่ตรงนั้นแหละ”
แม่เฮียมองหน้าและพูดกับผมเป็นครั้งแรก
“ครับๆ”
นั่งตัวลีบ เก็บแขนเก็บขาให้ได้มากที่สุด
ก้มหน้าลงมองพื้น เอาไงดี
ปล่อยตามน้ำไปก่อนแล้วกัน
ไงๆเขาก็แม่ลูกกัน คงไม่ถึงแก่ชีวิต
“แม่อย่าดุน้องสิครับ น้องกลัวจะแย่แล้ว”
เฮียเงยหน้าจากตักแม่
มองหน้าแม่อย่างออดอ้อนขอความเห็นใจ
ลูกสาวกอดแม่ทั้งตัว ลูกชายอยู่แทบเท้ากอดขา
ภาพที่ออกมาน่าตื้นตันถ้าไม่.....
“กลับไปนั่งที่”
แม่เฮียเชิดหน้างอๆขึ้น ชี้ไปที่โซฟาตัวเดิมที่เฮียเคยนั่ง
ราวกับคุณครูฝ่ายปกครองที่เข้มงวด
เฮียลุกถอยกลับมานั่งที่
ส่งยิ้มแห้งๆมาให้ผม
โคตรอึดอัดเลยครับ
“แกผิดสัญญากับแม่”
“โธ่แม่ครับ หยวนๆน่า”
สัญญา สัญญาอะไรกัน ผมพลาดอะไรไปครับ
“ไม่รู้หล่ะ แม่ก็จะผิดสัญญาบ้าง”
แม่เฮียกอดอก มองหน้าเฮียแบบไม่พอใจ
“โห...ไม่เอาอะ มี่ไม่ยอม แม่อย่าผิดคำพูดสิ”
เฮียคร่ำครวญเหมือนเด็กน้อยที่ร่ำร้องเอาของเล่น
“แกทำตัวแกเอง ทุกอย่างเป็นอันยกเลิก”
แม่เฮียทำหน้าแบบ ช่วยไม่ได้
“ไป อ๋อง ไปนอนกัน แม่ง่วง”
อ้าวแม่เฮีย บทจะง่วงก็กะทันหัน
“อ้อ...เราก็คนนึง ไม่รักนวลสงวนตัว
ระวังเถอะถ้าที่บ้านเรารู้ ลูกชั้นจะหัวแตกเอา”
หันมาทิ้งทวนที่ผม
นั่งอึ้งกิมกี่ ตกตะลึง อยู่กับที่
รู้ตัวอีกที นั่งอยู่บนตักเฮีย แขนสองข้างของแกโอบอยู่ที่เอวผม
“มันอะไรกัน ผมงงไปหมดแล้ว”

“เอ้อ...ไปจู๋จี๋กันบนห้องดีกว่ามั๊ย เดี๋ยวพวกแกก็เจออีกหรอก”
กระโดดออกจากกันทันทีที่เจ๊อ๋องแกย้อนกลับมา
“เจ๊อ๋อง...ผมตกใจหมดเลย”
เฮียต่อว่าเจ๊แก หน้าเฮียแดงมาจนถึงคอ
“ชั้นจะมาบอกว่าพรุ่งนี้เจ๊ๆคงจะมาคุยเรื่องแกกับน้อง
เตรียมตัว เตรียมใจให้ดีหล่ะ อ้อ เราก็อย่าเพิ่งให้ที่บ้านรู้นะ
ให้ผู้ใหญ่ฝ่ายชายเขาตกลงกันก่อน”
หน้าม้านเลยผม
จะอายก็ไม่เชิง จะเขินก็ไม่ใช่
แต่ที่สำคัญ
พรุ่งนี้ ดีเดย์
กลับขึ้นมาบนห้อง
ปลอบขวัญกันจนเป็นที่พอใจแล้ว

เฮียก็ไขข้อข้องใจให้ผมฟัง
หลังจากผมรับปริญญา เฮียปรึกษาเจ๊อ๋องกับเจ๊วาเรื่องผม
ส่วนเจ๊อีกสองคน แกไม่ค่อยมีปากเสียงเท่าไหร่ครับ ว่าไงว่าตามกัน
ผลก็คือ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
ไม่มีแม่คนไหนที่จะไม่รักลูก ไม่เห็นแก่ความสุขของลูก
สามศรีพี่น้องก็แทคทีมกันเจรจาสารภาพบาปกับแม่
อ้าว...เพิ่งรู้ ผมเป็นตัวบาป..(แป๊ก)
เขียนให้ขำๆครับ
แต่จริงๆแล้ว เครียดกันมาก
อารมณ์ความรู้สึกเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ยิ่งเป็นเรื่องที่ผิดทำนองคลองธรรม
กว่าแม่เฮียจะทำใจได้ก็เป็นสัปดาห์
แกทั้งร้องห่มร้องไห้ บางครั้งก็เมิน ทำเย็นชา
เฮียเกาะติดแม่แกทุกฝีก้าว
จะนั่งจะยืนจะเดินจะนอน เฮียก็จะเข้าไปกอดไปหอม
กุมมือแม่อยู่ได้เป็นวันๆ
บทสนทนาบางช่วงบางตอนที่เฮียเล่าให้ฟังนะครับ
“แกไม่คิดถึงหน้าแม่หน้าเตี่ยแกบ้างรึไง คนเขาจะมองกันยังไง
ไหนจะญาติๆอีก แม่อาย แม่ทำใจไม่ได้”
“แม่ครับ ผมรักแม่ ผมรักเตี่ย ผมรักเจ๊ๆ แต่ผมเลิกกับน้องไม่ได้”
แล้วเฮียก็สารภาพกับแม่ทุกอย่างทุกเรื่องราว
“ผมไม่รู้ว่าผมรักน้องตั้งแต่เมื่อไหร่
เด็กผู้ชายตัวขาวๆเล็กๆ นั่งหงอยดูคนอื่นเขาเล่นกัน
ผมเห็นแล้วอยากเข้าไปกอดไปอุ้ม อยากเล่นด้วย อยากให้น้องยิ้ม
ตอนแรกผมคิดว่าคงเพราะผมอยากมีน้อง"
"ไม่ว่าอยู่ท่ามกลางคนมากมาย
สายตาของผมจะหยุดอยู่ที่น้องทั้งๆที่น้องไม่ได้หน้าตาดีกว่าใครๆ
ผมไปเรียนแลกเปลี่ยน ผมก็คิดถึงแต่น้อง"
"แต่พอเตี่ยเสีย ผมพยายามตัดใจจากน้อง
แม่เชื่อมั๊ยครับ ไม่มีวันไหนที่ผมไม่คิดถึงน้อง
ผมพยายามตัดใจ ตั้งใจเรียน เรียนหมอเพื่อแม่
ผมแอบหวังลึกๆว่าถ้าผมทำให้แม่ภูมิใจ
สักวันแม่คงเห็นใจผมบ้าง
เห็นใจในความรักความผูกพันที่ผมมีต่อน้อง"
"ไม่ใช่แค่วันสองวันนะครับ ที่ผมรอน้อง น้องก็รอผม
10ปีแล้วนะครับแม่ หากเป็นความหลงมันคงไม่ยาวนานถึงขนาดนี้"
"ถ้าแม่จะให้ผมเลิก ผมก็จะเลิกให้แม่ครับ
แต่ผมจะไม่หยุด ไม่หยุดความพยายาม ที่จะทำให้แม่เห็นในความรักของผม"
"หากผมกับน้องไม่มีวาสนาต่อกัน
ผมก็จะขอเป็นโสดไปจนวันตาย
ยังไงผมก็มีหลานให้แม่ไม่ได้ครับ"
"หลานจากเจ๊ๆก็เป็นหลานของแม่นะครับ
ครึ่งหนึ่งของเขาก็มีสายเลือดของพวกเรา"
"ผมรักแม่ เชื่อแม่ แล้วแต่แม่จะเมตตาผม”
ถึงตรงนี้ผมกอดคอเฮียแน่น
ผู้ชายคนนี้ดีที่สุด
หากแม้เราไม่ได้ลงเอยด้วยกัน
ผมก็พอใจแล้วครับกับความรักครั้งนี้

ทางออก ข้อตกลงที่ทำร่วมกันเป็นข้อๆ(เหมือนตอนที่เจ๊วาเพิ่งรู้เลยอะครับ)
1.ระหว่างที่แม่ยังอยู่ในระยะทำใจ ห้ามผมกับเฮียมีความสัมพันธ์ทางกายต่อกัน
คือห้ามฟิชเชอร์ริ่งกัน..อิอิ สำคัญมาก มาข้อแรกเลย
แต่ข้อแรกก็แหกกฎกันแล้วครับ
2.อย่าเพิ่งให้ที่บ้านผมรู้ เผื่อไม่เป็นอย่างที่คิด แม่รับไม่ได้ ผู้ใหญ่จะได้ไม่ทะเลาะกัน
3.แม่จะพิจารณาคุณสมบัติของผมเอง โดยไม่ต้องให้ผมรู้ตัว
เลยให้ผมมาทำงานที่ร้าน
แหมๆ แกเลยเห็นผมทุกสภาพเลยสิครับ
บางวันผมหล่อ บางวันผมน่ารัก บางวันผมก็โทรม บางวันผมหมดสภาพ
แล้วไหนจะอารมณ์หงุดหงิด วีน เหวี่ยง หน้าหงิกหน้างอ
บางทีก็ขี้เกียจ อู้งาน อ่านนิยาย ดูทีวี
โอ๊ย จะบ้าตาย ไม่ผ่านเกณฑ์ลูกสะใภ้แน่ๆครับ
อีกหลายๆข้อที่เหลือก็ประเด็นยิบย่อย คล้ายๆของเจ๊วา
ห้ามแต่งหญิง แต่งหน้า ฉีดโน่น เฉือนนั่น
โหๆ ผมไม่ใช่เกย์ออกสาวนะครับ
“เฮียอะ ทำไมไม่กระซิบบอกมั่งเลย”
“เป็นตัวเราดีแล้ว ไม่ต้องประดิษฐ์”
“แต่ถ้าผมรู้ก่อน จะได้ระวังบ้างไง”
“ไม่ดีหรอก เป็นธรรมชาติของเรานี่แหละ”
“แหงะ”
“รู้มั๊ยเฮียรักที่เราเป็นแบบนี้
ถ้าแม่จะรับเราได้ก็ต้องเป็นแบบนี้
ไม่งั้นจะมีปัญหาในวันข้างหน้า”
“เชื่อเฮียนะครับ แม่เฮียใจอ่อนลงเยอะแล้วครับ”
“แต่...พรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้ให้เป็นเรื่องของพรุ่งนี้ เราจะผ่านมันไปได้”
“ครับ ผมเชื่อเฮีย”
เฮ้อ...
ไม่อยากตื่นมาพบกับความจริง
วันชี้ขาดชะตา...ความรักของเรา
ว่าจะได้ไปต่อหรือจบลงแค่นี้
แต่ผมจะทำให้ดีที่สุด
ไฟท์ติ้ง สู้ๆ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนหน้า
ญาติมิตรล้วนๆ
เฮียจะพาผมฝ่าฟันอุปสรรคแบบไหน
กด 1. ผ่านฉลุย
กด 2. ผ่านแบบสาหัสสากรรจ์
กด 3. ไม่ผ่าน
พยายามจะจบเรื่องด้วยความประทับใจครับ
เรื่องราวดีๆ เป็นน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตครับผม
