อ๋อ น้องเขยนี่แฟนน้องสาวค่ะ ไม่ใช่แฟนน้องชาย ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้จินตนาการไปไกลเลย
เป็นแฟนน้องสาวอีกคนค่ะ เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เขาเป็นลูกของลุงเราค่ะ
ส่วนหนังสดที่ว่านี่คือ...หมายถึงน้องชายแฝดค่ะ พอดีทำงานอยู่ที่เดียวกัน ก็เลยมีเรื่องนั่งจิ้นให้พอชุ่มชื่นหัวใจ ฮ่าๆๆๆ
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องติดเรทอะไรนะคะ เพราะเรื่องของเรื่องเนี่ย น้องเราจะมีไม้เบื่อไม้เมาอยู่ที่ทำงาน ส่วนตำแหน่งเนี่ย เราคิดว่าถ้ามันไม่มีอะไรในกอไผ่(?) ป่านนี้คงตกงานตั้งนานแล้วค่ะ (เป็นจิ้นของเราเอง -*- ฮะๆๆ)
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้ามองในสายตาคนทั่วไปเนี่ย ที่ไม่ใช่เรา เราว่าป่านนี้น้องมันคงกระเด็นออกมาจากที่ทำงานไม่ก็โดนปรับให้ลดเงินเดือนฮวบฮาบชะตาชีวิตเหมือนหุ้นตกอะไรประมาณนี้น่ะค่ะ เราไม่ได้จะว่าน้องเราไม่มีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานนะคะ เขาถือเป็นบุคลากรคนหนึ่งที่ทำงานไม่ขาดตกบกพร่อง ความรับผิดชอบดีเยี่ยม(เริ่มอวยน้อง) แต่ติดอย่างเดียว ไม่ค่อยกินเส้นกับผู้บังคับบัญชาเท่าไหร่ ประชุมที่เวลาความเห็นตรงกันนี่ ก็ไม่ค่อยมีอะไร(แต่เป็นเปอร์เซนต์น้อยถึงน้อยที่สุด) ส่วนมากได้ฉะกันตั้งแต่ยังไม่เข้าห้อง บางทีน้องๆเข้ามาใหม่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ก็เป็นอันเหวอกันไปเป็นแถว แต่สำหรับเรา เราไม่ใช่คนจู้จี้นะ แต่บางทีมันอาจจะทำให้คนที่มาเข้างานใหม่ หรือใครก็ตามที่ไม่รู้อะไรมองเป็นภาพติดลบไป แต่ก็อย่างว่าแหละ เราว่าถึงจะรู้ก็คงเหวอเหมือนเดิมอยู่ดี ทะเลาะกันทีสะดุ้งทั้งโต๊ะ
เราเคยถามน้องเรานะ ว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ แถมเรื้อรังมาได้สองสามปีแล้ว -_- เขาก็บอกแค่ว่าสมัยเรียน เคยมีปัญหากันบ่อยๆ หลายๆเรื่อง (แต่เราไปแอบถามเพื่อนสนิทเขาดู เห็นว่าจีบผู้หญิงคนเดียวกัน) แต่ที่ซวยเช็ดสุดน้องมันบอกว่าไอ้นั่น(ดูมันใช้ศัพย์ -*-) เป็นพี่รหัสน้องเรา เพื่อนเขาเล่าว่าช่วงนั้นเนี่่ย ที่เห็นน้องหน้าบวม ปากเจ่อ(เพราะเจอหมัด) กลับบ้านบ่อยๆเนี่ย มันไม่ได้ไปลื่นล้มในห้องน้ำ ตกบันได้ หน้ากระแทกฝาผนัง อย่างที่น้องมันอ้าง แต่ก็เพราะมีเรื่องชกต่อยกันนี่แหละ ตอนที่ฟังเพื่อนน้องเล่าเราก็เฉยๆ เพราะตอนนั้นที่น้องเราพูดเนี่ย เราก็แค่พยักหน้าไปส่งๆแอ๊บโง่นิดๆ เพราะถ้าเขาจะพูดเราก็จะไม่รบเร้า ขี้เกียจเท้าความด้วย เพราะมีเรื่องกันทีเรา เราก็เห็นทุกที ก็เลยได้แต่ฟังน้องแฝดตัวเองแถสดไป จนมันหมดมุขนี่แหละ ค่อยจับเค้นรวดเดียว
เพราะช่วงนั้นมีเรื่องพวกนี้เราก็ถือเป็นปกติธรรมดา แล้วก็...เรากำลังขมักเขม้นอ่านมังงะกับโดจินชิอย่างขะมักเขม้นด้วย ช่วงวัยเรียนยังไม่จบนี้มันส์จริงๆค่ะ อ่านเสร็จก็มานั่งเมาท์กันกับเพื่่อน เหมือนคนบ้ากันไป (เพราะเพื่อนผู้ชายที่อยู่ห้องเดียวกันเคยยืนของเราไปอ่าน หยิบไปเปิดยังไม่ถึงห้าวิ โดนเฟี้ยงกลับมาโปะตรงกลางกบาล หน้าเสียไปเลยค่ะ แต่เราหันไปขำกับเพื่อนฮาท้องคัดท้องแข็ง เพราะแอบไปเมาท์กับเขาไว้ว่าเป็นการ์ตูนกำลังภายใน *ไร้เสื้อผ้า* ฮ่าๆๆๆ) ก็อำกันเอาฮาไป
แต่สาเหตุจริงๆที่เราคิดกับน้องเรา ตามประสาวายๆ ถ้าเอาความเป็นจริงเนี่ย เราว่าน้องเราไม่น่าอยู่รอดในที่ทำงานได้จนถึงทุกวันนี้หรอกค่ะ เพราะว่าพฤติกรรมกับความประพฤติต่อเจ้านายเนี่ย ติดลบขั้นรุนแรง คือนอกเหนือจากเรื่องนั้นเราก็ไม่รู้ว่าสองคนนี้มีอะไรกันอีกรึเปล่า? เพราะส่วนมากเราก็ยอมรับนะไอ้เรื่องลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ แล้วไอ้เรื่องที่ทำให้ไม่ลงรอยกันสักทีก็คงเป็นเรื่องศักดิ์ศรีที่ถือจนวางไม่ลง แล้วช่วงวัยรุ่น...เป็นฝาแฝดกันก็จริง มันก็จะมีช่วงห่างเหินกันบ้าง ไม่ได้อยู่ด้วยกันบ้าง ต่างคนต่างตามหาฝันของตัวเอง พอมาเจอกันอีกที...มันก็มีแค่ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน เราก็คิดเผื่อใจว่า บางทีความเป็นห่วงมากเกินไปอาจจะทำร้ายเขาก็ได้ ถ้าเขาพร้อม เขาก็คงเล่าให้ฟังเอง มันคงจะสบายใจกว่าในหลายๆเรื่อง เราเลยไม่เค้นเขามากเกี่ยวกับเรื่องตรงนั้น
ส่วนไอ้เรื่องจิ้นของเราเนี่ย (อาจจะบวกกับจินตนาการบรรเจิดของเราด้วยก็ไม่รู้นะ) บางเวลาถ้าเรามองพี่เขาที่มีเรื่องกับน้องเราดีๆเนี่ย บางเวลาที่เขาลืมตัวหรือคิดว่าตัวเองคุมมาดได้ดีแล้ว ตอนที่น้องเราแว๊ดๆเนี่ย บางทีเราก็เห้นเขาแอบยิ้มที่มุมปากมั่ง แล้วตาเขาจะไหวระริกเหมือนถูกใจอะไรสักอย่าง แต่สำหรับน้องเรา เขานิยามว่าอาการกวนตีน -_- แต่เราคิดว่ามันม่ายช่ายยย
คือเอาความจริงของคนทั้งโลกก็ได้ ถ้าคนมันไม่มีอะไรไว้ในใจป่านนี้น้องเราคงไม่ได้ปากดีใส่เขาหรอก อำนาจหน้าที่การงานน่าเกรงแล้ว ตอนที่เขาอยู่ข้างนอกเวลาเจอเขาช่วงปกติเรายังเกร็งเลย ดูดุมาก ถ้าไม่ติดว่าพี่เขาหล่อ
เราคงรีบเดินผ่านไปแบบไม่ให้มีตัวตน แต่ถึงจะหล่อมาก บางทีบางเวลาเราก็เกร็งมากอยู่ดี ยิ่งตอนโดนให้เรียกไปคุยเดี่ยวๆ เวลาเกิดปัญหาในที่ทำงาน แถบจะไม่ต้องแต่งเรื่องเข้าไปพูด เพราะพูดไปก็เหมือนฆ่าตัวตาย เจอสายตาคมๆดุๆ ก็ได้แต่ก้มมองปลายเท้าตัวเอง เก้าองเก้าอี้นี่แถบไม่ต้องเชิญนั่งค่ะ นั่งพับเพียบมันอยู่ตรงนั้นแหละ -_-
มันก็เลยเป็นสาเหตุให้เราคิด...(บวกจิ้น ที่มีความพยายามอย่างมาก) มันเห็นข้อแตกต่างที่ชัดเจนไงค่ะ แต่สำหรับคนอื่นๆ เขาไม่ได้อยากมาสนใจ (ยกเว้นพนักงานสาวๆ) เพราะเวลาพี่เขาดุเนี่ย บรรยากาศมันไม่ได้เหมือนพี่แหย่น้องเหมือนกับน้องเรา แต่มันอยู่ในสภาวะหายใจไม่ออกเลยล่ะค่ะ
เออ...พิมไปพิมพิมมาพิมเพลิน โห...ยาวมาก ฮ่าๆๆ
ดูเหมือนเป็นยายแก่ขี้บ่นไปเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ
เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ น้องชายเราอยู่ที่ต่างจังหวัดอยู่รอดปลอดภัยค่ะ ตีกันบ้างกับน้องชายพี่เขยแบบประปราย แต่มันก็ยังมีลมหายใจอยู่ค้า ก็ได้แต่ดูไปเรื่อยๆว่าเขาจะมีแฟนเมื่อไหร่ ฮ่า