องค์ชายอัปลักษณ์ 1-4 ขายแล้วจร้า!
ราคา 900 บาท (ไม่รวมส่ง) ::
สั่งซื้อ::
เล่มที่ 1คนเรานั้น ต่อให้เก่งกาจสักแค่ไหน ก็ยังต่อกรกับภัยธรรมชาติไม่ได้อยู่ดี ในระหว่างที่บิดาตัดสินใจไปเป็นโจรปล้นชิงทรัพย์สินของคนอื่น จางผิงยอมละทิ้งความฝันที่จะเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในแผ่นดิน เข้าวังไปเป็นขันทีเพื่อหาเงินให้ครอบครัว
เป็นองค์ชายแท้ๆ ทำไมถึงผอมจนหนังหุ้มกระดูกได้นะ?...นี่คือความประทับใจแรกที่จางผิงมีต่อหวางฝู่เจี๋ย
เขามององค์ชายที่ยอมคุกเข่าให้ขันทีกระจอกงอกง่อย อีกทั้งรอยแผลน้อยใหญ่ที่อยู่บนตัวฝ่ายนั้น แล้วให้โกรธจนตาแดงก่ำ
ก็แค่เกิดมาอัปลักษณ์ ดูประหลาดกว่าคนอื่นนิดเดียวเท่านั้นไม่ใช่หรือ?
คนอัปลักษณ์ไม่ใช่คนหรือไร?
หึ เขาตัดสินใจแล้ว เขาจะเลี้ยงดูหวงฝู่เจี๋ยในวังหลวงแห่งนี้ ให้เด็กน้อยเติบโตขึ้นมาเป็นยอดฝีมืออันดับสองในแผ่นดินให้จงได้!
สายตาที่คนคนนั้นมองเขาฉายแววตกตะลึง...ไม่ใช่หวาดกลัว เวทนา...ไม่ใช่รังเกียจ
ทีละเล็กทีละน้อย...ความเวทนาที่ว่าค่อยๆ กลายเป็นความรักและความเอ็นดูที่มีต่อเขา
เล่มที่ 2คลื่นใต้น้ำเริ่มก่อตัวขึ้นในวังหลวง
จางผิงยอมเสียสละตัวเองด้วยความใจเด็ด จนสร้างเกราะคุ้มกันให้หวงฝู่เจี๋ยสำเร็จ เขากลายเป็นข้ารับใช้คนโปรด เป็นคนสนิท...และทาสบนเตียงของหวงฝู่เจี๋ย
หนึ่งนายหนึ่งบ่าวล้วนมีฝีมือเป็นเลิศทั้งคู่ หากแต่จำต้องแสร้งทำเซ่อเซอะ ยอมให้คนอื่นกดขี่ วิธีระบายความกดดันของหวงฝู่เจี๋ยมีอยู่สองอย่าง คือฆ่าคนและหลับนอนกับเขา วิธีระบายความกดดันของจางผิงก็มีอยู่สองอย่าง คือฝึกยุทธ์และสืบความเป็นไปในวังหลวง
บางครั้งเวลามองเด็กหนุ่มผู้มีนิสัยบิดเบี้ยว จางผิงอยากบอกกับเจ้าตัวว่า...เป็นแค่องค์ชายที่มีชีวิตสุขสงบ มีฝีมือยุทธ์อันดับสองในใต้หล้าไม่ดีกว่าหรือ?
เขาเอง...ก็ไม่สนใจอีกแล้ว ว่าจะได้เป็นขุนนางที่มีอำนาจสูงสุดในแผ่นดินหรือไม่...
บนโลกนี้ คนที่เขาอยากครอบครองมากที่สุด และไม่อยากทำร้ายมากที่สุดมีเพียงคนเดียว
เพื่อคนคนนั้นแล้ว เขายอมทนทุกอย่าง แต่เมื่อใดที่โอกาสมาถึงมือ เขาก็ไม่อยากปล่อยไปเช่นกัน
เล่มที่ 3หวงฝู่เจี๋ยที่รักษาชายแดนจนได้รับฉายา ‘แม่ทัพปีศาจ’ เดินทางกลับเมืองหลวงเพื่อเข้ารับการแต่งตั้ง
สำหรับจางผิงแล้ว การกลับมาอยู่ในเมืองหลวงมีความหมายแค่สองอย่าง คือหนึ่ง เขาไม่มีหวังจะประลองกับยอดฝีมืออีกแล้ว และสอง ใช้ชีวิตสงบราบเรียบไปจนแก่ตายเท่านั้น
หากเป้าหมายของหวงฝู่เจี๋ยไม่ใช่การครองบัลลังก์ แล้วเขาไม่ได้อยู่ข้างกายฝ่ายนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าองค์ชายของเขาจะต้องกลายร่างเป็นปีศาจร้าย ซ้ำยังเป็นปีศาจที่วิปริตที่สุดด้วย
แบบนี้ก็เท่ากับว่าเขาสร้างคุณูปการต่อผู้คนทั่วแผ่นดินเหมือนกันสินะ
ถ้าไพร่ฟ้าประชาชนรู้ว่าสิ่งที่ช่วยพวกตนไว้คือร่างกายของขันทีคนหนึ่ง จะรู้สึกอย่างไรกันบ้างหนอ?
หากข้าอยู่ เจ้าก็ต้องอยู่ หากข้าตาย เจ้าจงหลับไปในโลงข้า
เล่มพิเศษแค่มีคนรักเป็นจักรพรรดิ ก็ทำให้เขากลายเป็นขันทีผู้มีอำนาจที่สุดในแผ่นดินอย่างนั้นหรือ?
จางกงกงผู้มีตำแหน่งเป็น ‘พ่อบ้านประจำตำหนัก’ เพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เอง ว่าเมื่อได้อำนาจที่สามารถเรียกลมเรียกฝนมาครอง ต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง
ตอนกลางวันเขาต้องยุ่งหัวหมุนอยู่กับงานราชกิจแทนเจ้าบ้าหวงฝู่เจี๋ย ตอนกลางคืนยังต้องคอย ‘รับใช้’ บนเตียงอีก!
วันๆ จักรพรรดิผู้มีนิสัยบิดเบี้ยวคนนั้นคงคิดแต่จะกดเขากระมัง...
แผ่นดินเป็นปึกแผ่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจางกงกงจะได้ใช้ชีวิตที่เหลือสบายๆ
แล้วความฝันที่อยากออกท่องยุทธภพล่ะ ความฝันที่อยากสร้างชื่อให้ตัวเองล่ะ!
“ถ้าเอาเวลาหมกมุ่นราคะไปฝึกกำลังภายใน เจ้าจะแพ้ข้าไหม?”
“นี่เจ้าหาว่าข้าป้อแป้หรือ?”
“ไม่ป้อแป้? ถ้าอย่างนั้นเจ้าเอาชนะข้าได้ไหมล่ะ?”
“ข้าจะใช้ความจริงพิสูจน์ให้เจ้าเห็นเอง”
“......”
...จักรพรรดิเป็นตำแหน่งต้องสาปหรือไรนะ?
ไม่อย่างนั้นทำไมจักรพรรดิทุกคนถึงได้งี่เง่ากันหมดแบบนี้!?