- GAYscale Magazine - กองบ(เ)ก(ย์)สุดป่วง! #แจ้งข่าววววว P.41 30/01/16
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - GAYscale Magazine - กองบ(เ)ก(ย์)สุดป่วง! #แจ้งข่าววววว P.41 30/01/16  (อ่าน 349504 ครั้ง)

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
ตอนพิเศษนี้เคยลงในเพจไว้นะคะ
ขอเอามาลงในนี้เก็บไว้ เผื่อเพื่อนๆ คนไหนยังไม่ได้อ่านจ้า

-------------------------------------------------------------


ชื่อตอนอยู่กลางเรื่อง
โปรดอ่านเรื่องก่อนอ่านชื่อ

 
"เฮ้ยพี่" เมตตาเอ่ยเรียกคนที่นั่งเล่นมือถืออยู่ข้างๆ พี่เป็ดเลิกคิ้วเป็นสัญญาณให้พูดต่อ แต่มือยังไม่ละจากหน้าจอสมาร์ทโฟนของตัวเอง "ทำไมพี่รู้เรื่อง 'อย่างว่า' เยอะจัง"
 
พี่เป็ดหันขวับมองรุ่นน้องที่เอ่ยถามคำถามสุดซีเคร็ตออกมาอย่างหน้าตาเฉย ก่อนจะรีบหันซ้ายหันขวามองคนรอบๆ พอแน่ใจว่าไม่มีใครได้ยินแน่ๆ แล้วจึงกลับมากระซิบเสียงเบากับเจ้าของคำถาม "เชี่ยเมต มึงมาถามอะไรตรงนี้"
 
"เอ้า ทำไมอ่ะ" อีกคนยังไม่รู้ร้อนรู้หนาว และไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเรื่องที่หยิบยกมาพูดมัน 'ไม่ธรรมดา' ตรงไหน
 
คนอายุมากกว่าถอนหายใจเฮือก ตกลงมึงไม่รู้จริงๆ ใช่มั้ยว่าทำไมเรื่อง 18+ ที่มึงเอามาถามราวกับขอสูตรทำข้าวผัดถึงไม่ควรเอามาคุยกันที่นี่ ...ณ ร้านกาแฟร้านดัง ที่คนพลุกพล่านยังกับตลาดสด ซึ่งโต๊ะที่นั่งอยู่ก็ขนาบซ้าย ขวา หน้า หลังไปด้วยสารพัดคนสัตว์สิ่งของ ที่แค่หายใจก็ได้ยินถึงกันแล้ว!
 
 
ต้องโทษสองหนุ่มที่ตอนนี้คงโบยบินฟินเวอร์อยู่กับของราคาพิเศษในห้าง และมีแววว่าจะอยู่ยาวให้สมกับชื่องานมิดไนท์เซลส์เลยทีเดียว แล้วยังไงล่ะ เป็นเวรเป็นกรรมของพี่เป็ดกับเมตตาอีกที่ต้องมานั่งรอ ดูดกาแฟราคาแพงกว่าข้าวเย็น และได้แต่มองหน้ากันไปมาเพราะหมดเรื่องจะคุยกันตั้งแต่สิบนาทีแรก
 
ครืดดดดด...
 
พี่เป็ดหันไปมองตามเสียง และพบว่าเมตตาลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ แล้ว เป็นอันว่าคำถามของมันเมื่อกี๊คงต้องได้รับคำตอบไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
 
“คืองี้...” พี่เป็ดเริ่มต้นเรื่องด้วยความดังเสียงระดับผีเสื้อกระพือปีก “คือมึงก็รู้ใช่ป่ะ ว่ากูไม่ได้มีจีเป็นแฟนคนแรก”
 
คนตั้งใจฟังพยักหน้าหงึกๆ พลางนึกถึงกิ๊กเก่าของพี่เป็ดที่เคยเกือบมีดราม่ากันช่วงหนึ่ง “จะบอกว่าพี่สะสมประสบการณ์มาเยอะใช่ป่ะ”
 
“ช่ายยยย” แม้ไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจ แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะทำหน้าโซพราวด์ แต่บอกเลยว่าแฟนทุกคนพี่เป็ดคบด้วยความรัก และเรื่องนั้นๆ ก็จัดให้ด้วยหัวใจล้วนๆ
 
“ไม่ๆ คือผมหมายถึงว่าทำไมพี่ถึงรู้ว่าแฟนต้องการอะไรยังไง แบบ...” เมตตาเริ่มกระซิบเสียงบ้าง “แบบทำตรงไหนแล้วดี อัลไลอย่างเงี้ยยย”
 
“แค่กๆๆ” คาราเมลแม็กคีอาโต้ทำเอาหลอดลมของพี่เป็ดเกือบมีปัญหา ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็ไม่เกี่ยวกับกาแฟเท่าไร แต่เป็นเพราะคำถามแทงใจจากอีกคนมากกว่า
 
“กูก็ไม่ได้รู้อะไรขนาดน้าน” เสียงสูงระดับโซปราโน่ทำให้เมตตาไม่เชื่อคำปฏิเสธนั้นเลยสักนิด พี่เป็ดแม่งมีสูตรเด็ดแล้วหวงน้องแน่ๆ
 
“หยั่มมาว่ะพี่ การให้ความรู้เป็นการทำบุญที่ดีที่สุด ไม่เคยได้ยินเหรอ” ตากล้องสุดเซอร์เริ่มตีรวน พลางจ้องหน้าของคนที่กุมความลับขั้นสุดยอดไว้ในมือ
 
พอเห็นว่าพี่เป็ดไม่ยอมปริปากเผยเคล็ดลับ เมตตาเลยต้องเริ่มปฏิบัติการร้อยเล่มเกวียนทันที “นะ...นะพี่เป็ด บอกกันหน่อยดิ๊ พี่อยากเห็นน้องล้มเหลวทางชีวิตคู่เหรอ คำบอกเล่าของพี่จะเป็นคัมภีร์ที่ชี้ทางสว่างให้กับผมเลยนะ พี่จะกลายเป็น...”
 
“เออๆๆ กูบอกแล้วๆๆ อยู่กับไอ้สิปป์มึงพูดมากขนาดนี้ป่ะเนี่ย” พี่เป็ดพูดตัดบทก่อนตัวเองจะกลายเป็นศาสดาด้านเซ็กส์ไปเสียก่อน
 
“อยู่กับไอ้สิปป์ไม่ต้องพูดอะไรหรอก”
 
“เพราะมองตาก็เข้าใจ?”
 
“เพราะให้มันพูดคนเดียวก็หมดวันแล้ว!!” เมตตาตอบพร้อมเสียงหัวเราะ ส่วนพี่เป็ดพึมพำว่าเดี๋ยวจะฟ้องเจ้าตัว ทำให้ครอบครัวมึงแตกแยกไปเลย
 
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องพี่ มาๆ เล่ามาเดี๋ยวนี้เลย”
 
“เอ้อ...” น้ำเสียงลำบากใจถูกเอ่ยมาเป็นคำแรก เมื่อหันมองคนที่ทำหน้าตั้งใจอย่างแน่วแน่แล้วพี่เป็ดก็รู้ตัวว่าคงถอยไม่ได้ “จริงๆ แล้ว แต่ก่อนพี่เป็น ...รับ”
 
.
.
 
 
ความรับของพี่เป็ด

 
เพราะแฟนคนแรกสมัยม.ปลายดันเป็นนักบาสตัวสูงยังกะเปรต พี่เป็ดที่สูงตามมาตรฐานชายไทยเลยได้แต่ก้มหน้ายอมรับสถานภาพ ที่เพียงแค่ตัดสินกันด้วยสายตาก็พ่ายแพ้อย่างหมดรูป อย่าได้หวังว่าจะไปพลิกอีกฝ่ายลงได้ในสนามรัก เพราะดูท่าว่ายกหินผายังจะง่ายกว่ายกมัน
 
แม้จะไม่ได้สาวแตกนิ้วกรีดกราย แต่ความขาวตี๋ตามแบบฉบับลูกผู้ดี บวกกับประวัติแฟนคนแรกก็ทำเอาคุณชายเป็ดได้รับมอบตำแหน่งฝ่ายรับโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งถ้าถามใจเจ้าของตำแหน่งแล้ว พี่เป็ดตอบได้เพียงสั้นๆ ว่า
 
“ไม่ได้อยากเป็นอย่างนั้น แต่เอ่อ...มันก็ฟินดี!”
 
ถ้าไม่นับเรื่องบนเตียง ซึ่งบางทีก็ระเบียง บางทีก็ห้องน้ำ (เดี๋ยวนะ...ไม่มีใครถามนะพี่) อะแฮ่ม... ถ้าไม่นับเรื่องนั้นแล้ว แฟนทุกคนก็ปฏิบัติกับพี่เป็ดอย่างเท่าเทียม ให้เกียรติกันในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ดูแลแบบคนเป็นแฟนควรทำให้กัน ไม่ถึงกับหอบถุงช็อปปิ้งมาถือไว้คนเดียว หรือต้องถอดเสื้อคลุมกันหนาวให้แบบพระเอกเกาหลี (เฮ้ย...ผมว่าผมเคยทำว่ะ) ส่วนหนึ่งอาจเพราะพี่เป็ดห่างไกลจากการเป็น ‘ร่างบาง’ ‘ตัวเล็ก’ หรือคำนามประเภทนั้นไปพอสมควร แต่เมื่อไรก็ตามที่กิจกรรมเข้าจังหวะมาถึง ก็ไม่มีทางเลยที่พี่เป็ดจะได้เป็นฝ่ายบุกเกม เรียกว่าเสียประตูและจุดโทษจนจบการแข่งขันนั่นแหละ
 
และหากบอกไปก็คงไม่เชื่อ ว่าเป็ดได้รับเกียรติดำรงตำแหน่งนั้นเกือบ 6 ปี! อย่า...ขอร้องว่าอย่าคำนวณจำนวนครั้ง เพราะอาจต้องใช้เครื่องคิดเลขทางวิศวกรรมเข้าช่วย! เอาเป็นว่าพี่เป็ดนั้น ‘รู้ซึ้ง’ และ ‘รู้ดี’ (รวมถึงรู้สึกดีด้วยใช่ป่ะ?) ถึงหัวจิตหัวใจของคนตำแหน่งนี้เลยทีเดียว
 
 
“เหยดดดดดดดดด” เมตตาได้แต่อุทานเสียงยาวกับประวัติรับ เอ๊ย ประวัติรักของพี่เป็ด “จริงดิ่พี่!! แล้วแบบ...มันเปลี่ยนกันได้ด้วยเหรอ ตำแหน่งแบบนี้”
 
“บางคนได้ บางคนก็ไม่ได้” ตอบแบบเท่ๆ แล้วก็หยิบกาแฟมาดูดอีกปื้ด “กูแลกเชอร์สั้นๆ ละกัน คือการเป็นเกย์เนี่ย นอกจากรุกกับรับแล้ว มันก็ยังมี...โบ๊ท”
 
“โบ๊ท?” เมตตาทวนคำ พลางนึกถึงเรือที่แล่นในทะเล ซึ่งที่เป็ดก็รู้ทันเลยเบรกความคิดนั้นอย่างรวดเร็ว
 
“โบ๊ท ที่แปลว่า ทั้งสอง น่ะโว้ย คือรุกก็ได้ รับก็ได้ มึงเข้าใจยัง”
 
“อ่าฮะ” เมตตาพยักหน้า “แสดงว่าพี่....”
 
ปรมาจารย์ยิ้มมุมปาก “ก็คงใช่มั้ง”
 
“แล้วงี้ขั้วมันจะสลับตอนไหน” ตากล้องยังคงสงสัยต่อ
 
“กูไม่ใช่ถ่านไฟฉายนะโว้ย ...ของแบบนี้มันแล้วแต่สถานการณ์ แล้วแต่คน บางทีถ้ามึงเจอคนที่มึงรักด้วยหัวใจ มันก็ไม่จำเป็นเลยว่ามึงจะตกอยู่ในภาวะไหน” พี่เป็ดอธิบายต่อ “ความรักไม่ได้ตัดสินว่าเราคือคนที่เข้มแข็ง หรือคนที่อ่อนแอ แต่มันทำให้เราอยากแบ่งปันความสุขให้กันและกันต่างหากว่ะ”
 
 
 
สิปป์กับน้องจีช็อปปิ้งเสร็จตอนเกือบๆ สี่ทุ่ม มาถึงทั้งสองคนก็เอาแต่บ่นว่าหิว จนสุดท้ายพี่เป็ดต้องพาทั้งหมดต้องไปหาก๋วยเตี๋ยวกินแถวๆ หน้าห้างฯ กว่าจะแยกย้ายกันก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน
 
รถเต่าคันเดิมเทียบจอดที่ร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอย สิปป์ที่นั่งหลับเป็นตุ๊กตาคอพับหน้ารถสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา และเห็นว่าเมตตาเดินเข้าไปในเซเว่น มือเรียวคว้าโทรศัพท์มาดู ก่อนจะเห็นว่าพี่เป็ดไลน์มาหาเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
 
‘คืนนี้ขอให้มีความสุขนะครัช’
 
‘พี่ได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้น้องไปแล้ว’
 
‘จัดเต็ม! ไม่เช้าไม่เลิก!’
 
ปิดท้ายด้วยสติกเกอร์หมีทำหน้ามีเลศนัย หากไม่ทันได้พิมพ์ตอบกลับไป เมตตาก็กลับมาที่รถเสียก่อน
 
“ตื่นแล้วเหรอ ช็อปซะหมดแรงเลยดิ่” ตากล้องเอ่ยทักก่อนหัวเราะเสียงเบา เมื่อเห็นหน้ายู่ๆ ของคนที่เพิ่งตื่น
 
“กูซื้อเสื้อมาฝากมึงด้วย นี่ไง...สวยป่ะ” สิปป์กางเสื้อยืดสีเทาออกโชว์ เมตตาเลยยิ้มกว้างก่อนจะรับไปแล้วสวมทับเสื้อที่ใส่อยู่ทันที
 
“เฮ้ย! ใครเค้าใส่เสื้อยืดสองตัววะ มึงบ้าป่ะเนี่ย”
 
“แฟนอุตส่าห์ซื้อให้ กูก็อยากจะรีบใส่เป็นธรรมดา” พูดจบก็ยื่นถุงเซเว่นให้อีกฝ่ายเป็นการตอบแทน สิปป์ศิลป์รับถุงนั้นมาก่อนจะทำตาโต
 
“เชี่ย มึงให้กูไมเนี่ย ...แต่ที่ห้องก็ยังไม่หมดนะ รีบซื้อจัง” ตุ๊กตาหน้ารถหมายถึงไอ้กล่องสี่เหลี่ยมที่จำได้ว่ายังเหลืออีกตั้งสองกล่องในห้อง
 
“คือ...” เมตตาอึกอัก ขณะบังคับรถให้เคลื่อนเข้าซอยไปช้าๆ “คือกูขอแบบเรียบแล้วกันนะ กูว่าถ้าขรุขระกูอาจจะรับไม่ไหว”
 
“...........” คราวนี้เป็นสิปป์ที่อีกอักบ้าง หลังพยายามทำความเข้าใจกับประโยคดังกล่าวอยู่สักพัก “มึงหมายความว่า.....”
 
“เออ! แฟนซื้อให้ก็เอาไปใส่ซะ ไม่ต้องถามมาก เข้าใจป๊ะ?” พอจอดรถเรียบร้อย เมตตาก็เดินลิ่วๆ เข้าไปในบ้านทันที โดยไม่รอดูคนที่มาด้วยหัวเราะปานจะขาดใจ
 
 
End…
 
 
 
 
*Deleted Scene*
 
เสียงไลน์จากมือถือของสิปป์ดังขึ้นตอนสิบโมงเช้า ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามาจากใคร
 
‘เป็นไงบ้างน้องรัก เมื่อคืนจัดไปกี่ดอก’
 
หน่วยติดตามผลเริ่มทำงาน จริงๆ ไม่ได้เตี๊ยมอะไรกับไอ้สิปป์มันหรอก แต่ครั้งหนึ่งมันเคยมาบ่นๆ กับน้องจีว่าอยากลิ้มรสการเป็นคนนำเกมบ้าง พอพี่เป็ดสบโอกาสเลยเสี้ยมเมตตาไปนิดหน่อย
 
นักเขียนที่ยังนอนกลิ้งอยู่บนเตียงตอบไปสั้นๆ เพราะยังตื่นไม่เต็มตา ‘3’
 
‘มึงจัดมัน 3?’ อีกฝ่ายถามต่อทันที
 
‘มันจัดผมเนี่ยแหละ 3!’ อูย... สรุปทั้งแบบเรียบ แบบขรุขระเนี่ย ไอ้เชี่ยเมตก็ได้ใช้อยู่คนเดียว
 
‘อะไรวะ กูอุตส่าห์แต่งเรื่องหลอกมัน มันไม่เชื่อเหรอ’ พี่เป็ดถามต่ออย่างไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้
 
ยังดีที่เมื่อคืนเมตตาเล่าเรื่องที่พี่เป็ดเคยเป็นรับให้ฟัง เลยพอเข้าใจได้ว่าทำไมมันถึงตัดสินใจถวายชีวิตให้แบบนั้น ‘เชื่อ แต่ผมสงสารมันอ่ะ ผมใจอ่อนเอง ฮือออออ’
 
‘สมน้ำหน้า! มึงหมดโอกาสแล้วล่ะไอ้สิปป์’
 
คนหมดโอกาสส่งสติกเกอร์หมีร้องไห้รัวๆ ก่อนจะถามพี่เป็ดในสิ่งที่สงสัย ‘ว่าแต่เรื่องแต่งจริงอ่อ?’
 
‘เรื่องแต่งจริงๆ โว้ยยยยย’ พี่เป็ดรีบตอบกลับอย่างไว และหวังว่าไอ้สิปป์จะไปกระจายข่าวให้ไอ้เมตด้วย
 
 
...กูโม้ขึ้นมาตรงที่บอกว่า 6 ปีอ่ะ จริงๆ แม่ง 7 ปี!
 
 
 
จบเหอะ!!
 
 
.
.
.

สวัสดีค่าาา
ใครยังไม่เคยอ่าน ลองอ่านกันระหว่างรอตอนพิเศษตอนใหม่เนอะ
เดี๋ยวจะรีบปั่นตอนพิเศษอื่นๆ มาลงให้อ่านกันค่ะ

ปล. ใครอยากพูดคุยกับสมาชิกเกย์สเกล หรือสอบถามอะไรจากคนแต่ง
เข้าไปถามในโปรแกรม ask.fm กันได้นะคะ ค้นหาชื่อ @lykar_fiction จ้า






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ยิ่งกว่าฟินอีก

ออฟไลน์ Jploiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-2
โถพี่เป็ด โถ 5555 นี่อึ้งมากเลยค่ะกับความลับว่าพี่เป็ดเคย 'รับ' เนี่ย :katai2-1:

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
ความรับที่พี่เป็ดซ่อนไว้... 5555555555555555555
โอ้ย นี่คือเคล็ดลับความสำเร็จใช่มั้ยพี่ 555555555555555

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
นี่มีเพื่อนเป็นเกย์ครบทั้งสามประเภท
เคยลองถามเพื่อนคนที่เคยรับแล้วเปลี่ยนมารุก เค้าไม่กลับไปรับอีกเลยนะ  :laugh:
คือ...ยังหวังจริงๆนะว่าจะได้อ่านสิปป์รุกเมตสำเร็จ
คือ...เมตยอมแล้วไง แต่สิปป์รุกไม่สำเร็จงี้ โห่ยยยยย

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โถวววววว่ พี่เป็ด !!!

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ
อ่านเมื่อไหร่ก็ยิ้มได้ทุกที
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
 จะขำหรือจะอะไรดี :m20:

ออฟไลน์ monday1995

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โถ่ พี่เป็ด.....ทำไมไม่รับให้น้องจีล่ะค่ะ!!

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ก็ว่าอยู่ ความรับของพี่เป็ด :m20:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
ดูจากที่เล่ามา พี่เป็ดสู้งานมากค่ะ   :laugh:

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4
หรือว่า... แท้จริงแล้ว บนเตียงกับน้องจี  :ling2:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ตัวเองเคยโดนมาแล้วอย่างให้เมตโดนมั่งละสิพี่เป็ดนิสัยม่ายยดิ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
โอ๊ย พี่เป็ดดดด 55555555

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เคยอ่านแล้ว แต่อ่านใหม่ก็ยังสนุกเหมือนเดิม
สิปป์มีโอกาสแต่ไม่คว้าไว้ งั้นก็ก้มหน้าเป็นรับต่อไป
ส่วนพี่ป็ดเคยเป็นรับถึงเจ็ดปี ......รับทานจุดกันไปเลย

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :hao4: พี่เป็ดอุส่าห์ช่วยแต่น้องใจไม่ถึงซะงั้น

ออฟไลน์ nekodollzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
แอร๊ยยยย ใจอ่อนแล้วก็หมดโอกาสแล้วนะสิปป์เอ๋ย ><

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
เดี๋ยวๆ ไม่ใช่6 แต่เป็น 7!!! :hao6:

ออฟไลน์ Chrysan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ไม่ทราบว่าแฟนเก่าที่ทำให้น้องจีโกรธคราวนั้น เอิ่ม ..... แล้วที่บอกว่ารู้สึกดีที่ได้คุย นี่ ....
อยากกลับไป รับ หรือเปล่าพี่??
 :hao3:

ออฟไลน์ away3g

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-1
 :hao7: :hao7: :mew1: :mew1:ชอบๆมาต่อไวไวนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
แหม.....แฟนอุตสาห์ซื้อให้ ทำไม่ไม่ใส่ล่ะสิบเอ๊ยยยยยย

ไม่เสีย(ดาย)ใจเหรอ   :hao3:

ออฟไลน์ ชอร์ปสติ๊ก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
พี่เป็ดเจ็ดปี  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
Sp.4 สิ่งที่เธอได้มองข้ามไป...?


“ไม่ลืมอะไรใช่มั้ย”

คำถามของคนที่ยืนรออยู่หน้าประตูทำให้สิปป์ศิลป์ต้องเดินกลับเข้ามาในห้องอีกรอบ ตากลมกวาดมองสำรวจทุกซอกทุกมุม ก่อนจะสรุปกับคนถามว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี

   เมตตาช่วยคนดูแลหอพักเข็นรถขนของล็อตสุดท้ายไปยังลิฟต์ ในขณะที่สิปป์ศิลป์ยืนหันรีหันขวางอยู่หน้าประตู เพราะลึกๆ ก็รู้สึกใจหายไม่น้อยที่ต้องย้ายจากห้องพักที่อยู่มานานกว่าสามปี สุดท้ายอดีตเจ้าของห้องก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนมือเรียวจะค่อยๆ ปิดประตูลง

   หลังเคลียร์เงินประกันกับหอพักเรียบร้อย รถเต่าสีเขียวมะกอกก็ขับนำรถกระบะที่บรรทุกของ มุ่งตรงไปยังบ้านของเมตตา ซึ่งตอนนี้กำลังจะกลายเป็นบ้านของสิปป์ศิลป์ด้วย เพราะนักเขียนลงทุนใช้เงินก้อนใหญ่ต่อเติมห้องออกมาอีกห้อง และตัดสินใจย้ายไปอยู่บ้านหลังนี้อย่างถาวร หลังจากต้องเช่าหอทิ้งไว้ แล้วไปๆ กลับๆ ระหว่างบ้านของเมตตากับหอพักอยู่เป็นปี

   “เศร้าป่ะเนี่ย” คนขับเอื้อมมือมาขยี้หัวคนข้างๆ เบาๆ คนถูกถามส่ายหน้า แต่ยังดูซึมไม่เปลี่ยน

   “ย้ายเถอะ เช่าไปก็เสียเงินไปฟรีๆ ตั้งสามสี่พัน” เมตตาบอกอีกคนเสียงอ่อนโยน

   “ก็จริง” สิปป์ถอนหายใจ “แต่มันก็โหวงๆ นิดนึงอะ อยู่มาตั้งนาน”

   “แอบซ่อนกิ๊กไว้หรือเปล่าจ๊ะอีหนู” ถามยียวนก่อนจะโดนอีกคนเบ้ปากใส่

   Rrrrrrrrrrrrrrrrr…

   เสียงพูดคุยในรถเงียบลงเมื่อโทรศัพท์ของสิปป์ศิลป์ดังขึ้น มือเรียวกดรับก่อนรายงานปลายสาย

   “ครับแม่ ขนของเรียบร้อยแล้วครับ นี่กำลังไปบ้านเมต”

   เจ้าของบ้านเหลือบมองแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ พลางขยับปากโดยไม่ออกเสียงว่า ...สวัสดีครับแม่ยาย...

   คนถูกล้อเลียนทำท่าจะเขกหัวตัวป่วน แต่ก็ถูกผู้เป็นแม่ดึงความสนใจกลับไปเสียก่อน “เฮ้ย!! ไม่ต้องหรอกแม่ ของนิดเดียวเอง”

   “อะไรๆ” เมตตารีบถามเมื่อได้ยินน้ำเสียงตกใจของคนคุยโทรศัพท์

   “แม่จะมาช่วยจัดของ” สิปป์หันไปตอบอย่างรวดเร็วแล้วกลับมาคุยกับแม่ต่อ “ก็มีแค่พวกหนังสือแหละแม่ แล้วก็ของใช้นิดหน่อย นี่ท้ายรถกระบะเหลือตั้งครึ่งนึง แม่ไม่ต้องมาช่วยก็ได้”

   เจ้าลูกชายยังเถียงกับแม่ต่ออีกพักใหญ่ จนสุดท้ายก็ได้ข้อสรุปที่ลงตัวทั้งสองฝ่าย “โอเคฮะ ถ้าจัดบ้านเสร็จแล้วสิปป์จะไปรับแม่มาเที่ยวนะ”


   แต่เดิมบ้านของเมตตาเป็นบ้านชั้นเดียว มีสองห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่ทำเป็นห้องนั่งเล่นและตั้งโต๊ะกินข้าว ด้านหลังกั้นเป็นครัวเล็กๆ พร้อมลานซักล้าง ข้าวของภายในบ้านแม้จะมีไม่มากนัก แต่ทุกอย่างก็ดูลงตัวเข้ามุมไม่เกะกะ การจะให้สิปป์ขนของมาอยู่แบบถาวรจึงค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งสองคนจึงคุยกันว่าน่าจะมีการต่อเติมเพิ่ม เอาไว้เป็นห้องสมุดเล็กๆ และแบ่งอีกครึ่งเป็นห้องทำงาน

   สิปป์กำลังจัดเรียงหนังสือเข้าชั้น ซึ่งเมตตายกตู้ไม้จากในห้องนอนมาวางต่อกันอีกหลัง พร้อมหนังสือส่วนตัวที่ขนมาให้อีกคนจัดรวมกัน เจ้าของบ้านหมาดๆ หยิบหนังสือในกองข้างกายมาดู ก่อนจะอมยิ้มเมื่อหนังสือเล่มเยินๆ ในมือมีสภาพการผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชน นี่คือหนังสือที่อาจารย์วรรณกรรมไทยบังคับให้อ่าน และเป็นงานที่ทำให้เขาสองคนได้จับคู่ทำงานกันเป็นครั้งแรก

   “เด็กกำพร้าแห่งสรวงสวรรค์?” คนที่กำลังเดินเข้ามาเอียงคออ่านชื่อบนหน้าปก ก่อนจะยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน

   “ซีบวกเลยวิชานี้” ตากล้องหัวเราะขำกับเกรดของตัวเอง นี่ถ้าไม่ได้ทำงานคู่กับไอ้สิปป์ สงสัยว่าคงจะได้ด็อกมาครอง

   “อ่อน!” นักเขียนคุยทับ “คนจริงเค้าต้องได้เอเว้ย”

   “เออ มึงเก่ง แหม่ๆๆ” เมตตาคว้าหนังสือเล่มบางมาไว้ในมือ ก่อนจะคลี่เปิดไปมา

   “เฮ้ย...อะไรอะ” สิปป์เอื้อมมือมาหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งที่คั่นอยู่ในเล่มออกมา เมื่อพลิกดูจึงรู้ว่าเป็นรูปของตัวเองที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเล่มนี้

   “ถ่ายตอนไหนวะ” นักเขียนเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ เพราะจำไม่ได้แม้แต่น้อยว่าตอนนั้นตัวเองถูกถ่ายภาพอาร์ตๆ แบบนี้ด้วย

   “กูก็ถ่ายไปเรื่อย แล้วบังเอิญติดมึงไง” อีกฝ่ายตอบเสียงราบเรียบจนสิปป์ต้องหรี่ตามองอย่างจับผิด

   “แล้วทำไมถึงล้างรูปกูรูปเดียว” พอโดนรุกต่อ เมตตาก็แสร้งหยิบหนังสือเล่มอื่นๆ มาวางบนชั้นแทน

   “อาราย ล้างมาตั้งหลายรูป ไปดูในอัลบั้มในห้องสิ”

   นักสืบหัวเราะหึหึขณะเปิดหนังสือเล่มที่มีประเด็นไปมา “แต่มึงเอารูปกูมาใส่ไว้ในหนังสือเล่มนี้แค่รูปเดียวเนี่ยนะ”

   “โอ๊ยยยย มึงจะสืบอะไรเนี่ย รูปนี่ก็รูปมึง ไม่ใช่สาวที่ไหนซักหน่อย หึงตัวเองหรือไง”

   “เปล๊า” นายแบบยักไหล่เหมือนจะบอกว่า ก็ไม่มีปัญหาอะไร “แค่นึกว่ามีใครบางคนแอบชอบกูตั้งแต่ตอนนั้นซะอีก”

   มือหนาคว้าตัวเจ้าหนูจำไมมากอด ก่อนจะฟัดแก้มขาวๆ ทั้งสองข้างจนคนถูกจู่โจมโวยลั่น “เจ็บๆๆ หนวดหรือหญ้าแพรกวะเนี่ย”

   “หึหึ อย่าสงสัยมากไอ้หนู ตอนนั้นจะรักหรือเปล่าไม่สำคัญ เพราะตอนนี้อะ” เสียงทุ้มหรี่ลงจนกลายเป็นกระซิบ “รักมาก”


   รูปต้องสงสัยถูกย้ายจากในซอกหนังสือไปแปะอยู่หัวเตียง พร้อมๆ กับคนในรูปที่มานอนกลิ้งเล่นอย่างสบายอารมณ์ ความเมื่อยขบจากการจัดของทำเอาสิปป์ศิลป์อยากนอนนิ่งๆ สักสองปี เพราะกว่าจะจัดหนังสือเสร็จก็ก้มๆ เงยๆ จนหลังแทบหัก

   “มึงงงง” เสียงเจ้าของบ้านตะโกนดังมาจากห้องที่ต่อเติมใหม่ “ให้วางโน้ตบุ๊กไว้ตรงไหน”

   “วางๆ ไปก่อนเหอะ” คนอยู่ในห้องนอนตะโกนตอบ

   เมตตาจัดการเอาของที่เหลือเรียงให้เข้าที่ เพราะตอนนี้ไอ้ตัวแสบหนีไปนอนผึ่งพุงสบายใจซะแล้ว พูดแล้วก็นึกถึงคำที่แม่ของสิปป์เคยบอกไว้ ‘เจ้าสิปป์มันเลี้ยงง่าย เหมือนเลี้ยงหมานั่นแหละ ให้มันกิน วิ่งเล่น แล้วก็นอนให้พอ แค่นี้มันก็มีความสุขแล้ว’    

   สองเดือนก่อนเขาสองคนตัดสินใจไปคุยกับพ่อแม่ของสิปป์ ไม่ใช่ว่ายกขันหมากไปขอหรืออะไร แค่ไปบอกเค้าว่าสิปป์ศิลป์จะย้ายมาอยู่กับเมตตาเหมือนเป็นรูมเมตกัน เพราะจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายหลายอย่าง ทั้งค่าที่พักและค่าเดินทาง โดยไม่มีใครพูดถึงความสัมพันธ์อะไรที่มากกว่าเพื่อน ซึ่งทางผู้ใหญ่ก็ไม่มีใครถาม แต่เขาคิดว่าพ่อกับแม่อาจรู้ เพียงแต่ไม่พูด และการไม่ห้ามก็ถือเป็นแนวโน้มที่น่ายินดี

   ‘อยู่ด้วยกันก็ต้องมีทะเลาะกันบ้าง ถ้ามีอะไรไม่พอใจก็ต้องเคลียร์กัน เข้าใจมั้ย จะเอะอะขนของหนีมันไม่ได้นะ’ แม่บอกกับลูกชายและเพื่อน ‘ตู้หลายใบ มันขนยาก’

   ส่วนคุณพ่อของสิปป์เป็นคนเงียบๆ ไม่ได้ช่างพูดเหมือนลูกชาย ภายใต้ใบหน้านิ่งๆ นั่นเมตตาก็เดาใจท่านไม่ออก ทว่าก่อนจะกลับมากรุงเทพฯ ท่านกลับเดินมาหา พร้อมยื่นเงินให้ไอ้สิปป์ ‘เห็นบอกว่าจะต่อเติมบ้าน พ่อช่วยสมทบทุนนะ’


   แม้จะคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้ เนื่องจากไปๆ มาๆ อยู่เป็นปี แค่ความรู้สึกของการได้เป็นเจ้าของนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง หลังจากแซะตัวเองให้ลุกจากเตียงได้ในเช้าอีกวัน สิปป์ก็มาเดินสำรวจห้องใหม่ที่เมตตาจัดไว้จนเสร็จ ชั้นวางหนังสือและตู้ไม้ตั้งตระหง่านอยู่มุมห้อง ถัดออกมาเป็นโต๊ะทำงานที่มีโน้ตบุ๊กและเครื่องเสียงเล็กๆ วางอยู่ เขาเพิ่งสังเกตว่าโต๊ะนี้วางอยู่ริมหน้าต่างพอดี ผ้าม่านที่แม่ของเมตตาส่งมาให้ แขวนพลิ้วล้อลมอยู่กับโมบายของชำร่วยงานแต่งเพื่อนในกลุ่ม เสียงกรุ๊งกริ๊งฟังดูผ่อนคลายจนอยากแช่ตัวอยู่นานๆ ว่าแล้วร่างโปร่งก็ทิ้งตัวลงนั่งกับเบาะนุ่มที่วางอยู่เคียงข้างกับโต๊ะญี่ปุ่นกลางห้อง พร้อมหยิบหนังสือเล่มหนึ่งที่ถูกวางทิ้งไว้มาเปิดอ่าน และไม่นานก็เริ่มเอนกายลงนอนอย่างเพลิดเพลิน

   “กินองุ่นมั้ย” เมตตาเดินเข้ามาในห้องใหม่พร้อมจานบรรจุผลไม้ พอคนที่นอนกลิ้งพยักหน้าก็จัดการส่งองุ่นเม็ดหนึ่งเข้าปากไอ้คนขี้เกียจ สิปป์เคี้ยวหนุบหนับแล้วก็อ้าปากเป็นลูกนกอีกครั้ง เมตตาเขกหัวไอ้ตัวแสบไปทีแต่ก็ยอมป้อนองุ่นให้มันเหมือนเดิม

   “ร้องเพลงให้ฟังหน่อยยย” หนอนหนังสือเอ่ยเสียงยานคางจนเมตตาหัวเราะขำ “นะ นะ นะ”

   ไม่ต้องรอให้สิปป์ศิลป์อ้อนเป็นครั้งที่สอง เมตตาก็ยอมคว้าเอากีตาร์โปร่งที่พิงอยู่กับผนังห้องมาตั้งสายแต่โดยดี

   เสียงเทียบสายดังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตามมาด้วยท่วงทำนองคุ้นเคย


   “ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ใหญ่...”


   เสียงนุ่มแม้จะไม่ทุ้มเท่าต้นฉบับ หากอบอุ่นอ่อนหวานไม่แพ้กันทำให้คนฟังแอบอมยิ้ม


   “แก้วน้ำ จานชาม บันได โคมไฟที่สวยงาม
   ขอบรั้วและริมทางเดิน ต้นหญ้าอยู่ในสนาม
   บ้านนี้จะมีความงามได้ถ้ามีเธอ”

   

   ร่างสูงนั่งพิงผนังห้องขณะเกากีตาร์พร้อมร้องคลอไปเบาๆ ขายาวเหยียดออกเป็นท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนตามแบบฉบับที่ชอบ รู้สึกถึงขาของอีกคนที่พาดทับแผ่วเบา ตาคมเหลือบมองคนที่นอนอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ แม้จะไม่เห็นหน้าของคนรัก แต่เมตตาก็รู้ว่าตอนนี้สิปป์ศิลป์คงอมยิ้มด้วยความสุขไม่ต่างกัน


   “เพราะเธอคือที่พักพิง คือทุกสิ่งที่มีความหมาย
   เมื่อเธออยู่เคียงชิดใกล้ เรื่องร้ายใดๆ ไม่เกรง
แม้ข้างนอกจะต้องเจอ กับเรื่องราวที่ใครข่มเหง
แต่ฉันเองไม่คิดกลัว...”



เสียงแผ่วหวานในเพลงแรกจบลงแล้ว แต่ดูเหมือนนักดนตรีจะยังเพลิดเพลินกับกิจกรรมนี้อยู่ เสียงทุ้มเริ่มขับร้องเพลงบทใหม่โดยคนฟังไม่ต้องร้องขอ ทว่าเพลงที่เลือกมากลับทำให้ความทรงจำเมื่อวันวานของสิปป์ลอยฟุ้ง จนอยากจะเอ่ยถามคนที่นั่งเล่นกีตาร์ว่าเหตุการณ์ในวันนั้นยังติดตรึงอยู่ในสักเสี้ยวของความทรงจำเหมือนกันหรือเปล่า


‘สอนกูเล่นมั่งดิ’ สิปป์ชี้นิ้วไปที่กีตาร์โปร่งที่วางสงบนิ่งอยู่ในซอกโต๊ะเขียนหนังสือ

เมตตาเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าเอาจริงเหรอ พอคนป่วยพยักหน้าหนักแน่น เจ้าของห้องเลยเดินไปหยิบกีตาร์ตัวเก่ามาปัดฝุ่น พลางกวักมือเรียกให้คนขาแพลงกระเถิบตัวเข้ามาใกล้

เพราะผลจากการกระโดดโลดเต้นในคอนเสิร์ตเมื่อวันก่อน สิปป์เลยต้องมานอนที่หอของเมตตา ซึ่งอยู่ใกล้มหา’ลัยมากกว่า และอย่างน้อยก็มีเจ้าของห้องคอยช่วยเหลือเวลาจะไปไหนมาไหน ดีกว่าต้องใช้ไม้พยุงเดินอยู่ในห้องตัวเองคนเดียว

‘เอามือนี้จับคอร์ด มือนี้ใช้ดีด แล้วก็จีบนิ้วแบบนี้...’ ครูจำเป็นทำท่าดีดให้นักเรียนดู พออีกคนทำตามได้ถูกต้องก็เริ่มบทเรียนต่อไป ‘เดี๋ยวสอนคอร์ดง่ายๆ ให้’

สิปป์ค่อยๆ วางนิ้วมือลงตามแบบในหนังสือเพลง ทว่าจับยังไงเสียงก็บอด จนเมตตาต้องคอยช่วยกดนิ้วเรียวให้แน่นขึ้น ‘กดลงไปให้แน่นๆ แรกๆ อาจจะเจ็บหน่อย แต่เดี๋ยวก็ชิน’

สิปป์ศิลป์ไม่รู้ว่าควรจะโฟกัสที่อะไร ระหว่างเสียงนุ่มที่คอยสอนอยู่ข้างหู มืออุ่นที่ทาบทับยามเปลี่ยนคอร์ด

หรือเสียงหัวใจตัวเองที่ดังระรัวจนน่ารำคาญ...

‘เก่งนี่หว่า เอาคอร์ดเทพๆ ไปเลยละกัน’ เมื่อเห็นว่านักเรียนของตัวเองเรียนรู้ได้เร็ว เมตตาจึงเพิ่มคอร์ดใหม่ๆ ให้ จริงๆ แล้วสิปป์เป็นคนหัวไวกับทุกอย่าง ทั้งเรื่องเรียน เรื่องดนตรี นี่หัดมาไม่ถึงครึ่งวันก็จับคอร์ดง่ายๆ ได้หมดแล้ว

‘อยากเล่นเป็นเพลงแล้วอะ’ สิปป์ศิลป์ผู้ร้อนวิชาจัดการพลิกหนังสือเพลงไปมา จะให้จับคอร์ดดีดวนไปวนมาก็รู้สึกว่าน่าเบื่อเกินไป

‘เพลงนี้ๆ’ เมตตาคว้าหนังสือเพลงมาเปิดเอง ก่อนจะหยุดลงที่เพลงหนึ่งกลางเล่ม ‘ฟังแล้วนึกถึงมึง’

สิปป์ไม่รู้ว่าการ ‘นึกถึง’ ในความหมายของเมตตาคืออะไร รู้แต่เพียงว่าความหวั่นไหวในวันนี้ คงเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่เขาจะ ‘นึกถึง’ ไปอีกนาน

 ‘อาจไม่ใช่...ดี ไมเนอร์ เซเว่น’ อาจารย์พิเศษร้องไปด้วย บอกคอร์ดนักเรียนไปด้วย ‘ไม่อาจ...เอฟ เมเจอร์ เซเว่น...ถ้าเธอ...อี ไมเนอร์ เซเว่น...ถ้าไม่ดู...อี เซเว่น’

‘เชี่ย! ยากไป๊’ เล่นไปได้ไม่กี่ท่อน สิปป์ก็เริ่มจะยอมแพ้

‘ก็หัดยากๆ ดิ เอาไว้โชว์สาว’

‘มึงเล่นให้ฟังหน่อย’ มือเรียวผลักกีตาร์ไปให้โปรเฟสชันนัลเล่น ส่วนตัวเองก็กระเถิบมานั่งจับหนังสือเพลงแทน

‘เพลงนี้เหรอ’ เมตตาเอ่ยถาม ก่อนจะหันไปสบกับดวงตากลมโตอย่างไม่ตั้งใจ แล้วเขาก็ได้สัมผัสชั่วขณะหนึ่งที่ใครต่อใครเคยพูดว่า...โลกหยุดหมุน


“ลองซิลองเข้ามา ลองค้นหาคำตอบ
สิ่งที่เธอได้มองข้ามไป ใช้ใจหาทางออก
ใจนะใจแค่ลองแลกกัน มันก็อาจเกิดความสัมพันธ์
ความรู้สึกที่มีให้กัน...อาจเป็นรัก...เข้าสักวัน”


เสียงคุ้นเคยดึงสิปป์ให้กลับมาจากความทรงจำให้อดีต ก่อนจะพบว่าเมตตากำลังจ้องมองตัวเองอยู่ และอาจจะมองมาสักพักแล้ว

“มองไรมึง” คนถูกจ้องลุกขึ้นนั่ง แสร้งบิดตัวไปมาเพื่อคลายความเมื่อย

“มองคนเหม่อ” เมตตาตอบยิ้มๆ ก่อนจะหันมาสนใจกับกีตาร์ในมือต่อ “คิดอะไรอยู่”

เสียงโน้ตดนตรีที่เมตตาดีดมามั่วๆ คล้ายจะเป็นท่อนอินโทรของเพลงอะไรสักเพลงที่สิปป์เคยฟังเมื่อนานมาแล้ว

“ว่าไง” ถามย้ำอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบจากคนข้างๆ

คนถูกถามซ้ำถอนหายใจ “เพลงนี้มึงสอนกูเป็นเพลงแรกเลย”

“อ๋อ” อดีตครูจำเป็นร้องขึ้นมา “จริงๆ ตอนนั้นน่ะ...”

สิปป์หลุบตามองมือคนพูดที่เกาสายกีตาร์เล่นไปมา “ตอนนั้นทำไมเหรอ”

“กูได้ยินเพลงนี้ทีไรก็นึกถึงมึงทุกที ตั้งแต่ก่อนจะสอนมึงแล้ว”

“ทำไมอะ”

เสียงกีตาร์หยุดลง “ไม่รู้ดิ”

สิปป์คว้ากีตาร์ที่วางนิ่งอยู่บนตักของเมตตามาเริ่มเล่นบ้าง คอร์ดในหัวเรียงตัวกันเข้ามาโดยไม่ต้องนึกนาน จากคอร์ดหนึ่งไปอีกคอร์ด เกิดเป็นท่วงทำนองที่ทำให้คนสอนยิ้มอย่างพอใจ สิปป์เป็นคนหนึ่งที่เรียกได้ว่ามีพรสวรรค์ในเกือบทุกเรื่อง และเมตตามั่นใจว่าหากมันได้จับกล้อง เขาอาจตกงานไปเลยก็ได้

“ที่มึงเคยถาม...” เสียงที่เงียบลงไปทำให้สิปป์ต้องมองหน้าคนพูดอย่างประหลาดใจ

เมตตารวบรวมคำพูด ก่อนจะเอ่ยต่อ “ที่เคยถามว่า ที่ผ่านมากูเคยคิดอะไรกับมึงมั้ย...”

นิ้วเรียวหยุดกึก สรรพเสียงทุกอย่างเงียบลงคล้ายรอคำพูดต่อไปจากเมตตา

“กูว่าบางทีกูก็คิดว่ะ”


สิ้นเสียงคำตอบนั้น เมตตาก็จดจำอะไรไม่ได้อีก เหมือนกับมีใครกดปุ่มฟอร์เวิร์ดด้วยสปีด x20 สิ่งที่รับรู้เพียงอย่างเดียวคือริมฝีปากนิ่มที่พรมจูบเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า กว่าจะตั้งสติได้ เสื้อยืดของเขากับไอ้ตัวแสบอยู่ก็ถูกถอดไปกองรวมกับกีตาร์ตัวเก่งเสียแล้ว...

ว่าแต่ปุ่มสโลว์อยู่ไหน ขอกดให้ซีนนี้ช้าลงสัก 20 เท่าได้มั้ยนะ?


The End



สวัสดีค่ะ : )
พาเมตกับสิปป์มาทักทาย หวังว่ายังมีคนคิดถึงกันอยู่นะคะ
ใครยังอ่านอยู่ มาแสดงตัวกันให้ชื่นใจหน่อยน๊าา
อย่าเพิ่งลืมกันนะคะ แล้วจะมีตอนพิเศษมาลงให้อ่านกันเรื่อยๆ ค่ะ

ปล. เรารันเลขตอนพิเศษใหม่ นับรวมกับที่เคยลงไปแล้ว ตอนพิเศษนี้เลยเป็นตอนที่ 4 นะคะ
หมายเหตุ

หนังสือ "เด็กกำพร้าแห่งสรวงสวรรค์"
ผู้เขียนคือ ภาณุ ตรัยเวช


**ภาพจาก www.naiin.com


เพลงที่เมตร้องเพลงแรก คือเพลง "HOME" ของ ธีร์ ไชยเดช
ฟังได้ที่นี่ค่ะ >> https://www.youtube.com/watch?v=YDvCGx3nYIo

เพลงที่สองคือเพลง "สัมพันธ์" ของ PAUSE
ฟังได้ที่นี่ค่ะ >>https://www.youtube.com/watch?v=PF_BFAOMNDA


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2015 16:51:54 โดย lykar »

ออฟไลน์ iamtoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เค้าาาา เค้ายังรออ่านอยู่นะะะะะะะ
ย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วด้วยยยย อิอิ :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
โอ๊ยย น่ารักกกกก

ขอบคุณคนเขียนที่มาต่อให้หายคิดถึงนะคะ

ออฟไลน์ CanonDNattari

  • ☆.•:*´เชื่อในสิ่งที่เห็นและต้องการให้เป็น ¨`*:•☆
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
อยากเป็นจิ้งจกเกาะฝาบ้าน หวานจริง ผู้ชายวรรณกรรม
มาอีกนะ มาอีกนะ

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
อร๊ายยยยยยยยยยยยย :hao7:
ขอปุ่ม repeat ด้วย จะกดให้ปุ่มพังเลย

นี่สิปป์รุกเมตใช่ม๊ายยยย  :impress2:
ยังยืนยันว่าอยากให้มีความเท่าเทียมกันระหว่างสองคนนี้  :laugh:
ตอนนี้เหมือนรวมคำตอบจาก ask.fm มาเลย  :man1:
ยังรออ่านจากเล่มอยู่นะคะ รอฟังข่าวดี  :katai2-1:

ออฟไลน์ suphasit

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อยากอ่านอีกเยอะเลยซีนหวานๆของเกย์สเกล

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
แต่งเข้าบ้านกันเต็มตัวแล้วใช่มั้ย T///////T
โอ้ยยย คำตอบเดียวเมตเจอสิปป์รุกเลย 5555555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด