"พี่ครับ...ผมขอ(เอา)พี่ได้ไหมครับ".......จบบริบูรณ์ แจ้งย้ายเลยครับผม...(^_^)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณอยากให้บัสลงเอยกับใคร?

พี่วิชตี๋หน้าหล่อ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดในตอนนี้
18 (4.7%)
น้องเฟิร์สสุดหื่น หล่อเข้ม นักกีฬาบาส ซึ่งเป็นที่หมายปองของทู๊กคน
348 (90.4%)
ใช้ชีวิตแบบโดดเดี่ยวต่อไปแบบว่าไม่อยากอกหักอีกแล้ว กลัวเหลือเกิน
19 (4.9%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 254

ผู้เขียน หัวข้อ: "พี่ครับ...ผมขอ(เอา)พี่ได้ไหมครับ".......จบบริบูรณ์ แจ้งย้ายเลยครับผม...(^_^)  (อ่าน 398827 ครั้ง)

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ไม่ว่ายังไงก็รอครับผม ^^

ที่วุ่นวายนี้ สงสัยไม่รู้จะอ่านนิยายในเล้าหรือจะอ่านนารุโตะดีใช่ไหมครับ  ฮ่าๆๆๆ

ผมแนะนำให้อ่านรีบอร์นแทนล่ะกันนะ



รอๆๆ ครับ รัก บัส เฟริส มากครับ  รักคนแต่งด้วยอีกคน

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4

rakna

  • บุคคลทั่วไป
เห็นชื่อเรื่องแล้วอยากอ่านมาก แต่มาเจอใบลาซะงั้น

ไม่เป็นไรนะคะน้องพี่จะอ่านตอนแรกๆรอไปเรื่อยๆ

หายเหนื่อยแล้วค่อยมาต่อนะ

ปล. เป็นกำลังใจให้นะจ้ะ สู้เว้ย

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ค่อยๆ คิดนะค่ะ ไม่ว่าปัญหาที่พบเจอจะยากแต่ไหน

ให้เวลากับตัวเอง แล้วค่อยๆ ไตร่ตรอง อย่าคิดมาก อย่าเครียด เด๋วมันจะทำให้แก่เร็ว (อันนี้เกี่ยวป่าวอ่ะ 555)

เอาเป็นว่า เราเป็นกำลังให้นะ ส้ๆ

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
แล้วปัญหามันก็จะผ่านไปนะคะ  :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ Calo love

  • "Look Frist At Me"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 836
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-5
    • "พี่ครับ...ผมขอ(เอา)พี่ได้ไหมครับ
แต่ออฟก็ยังไม่ได้ไปไหนหรอกครับ วนเวียนอยู่แถวนี้แหละครับ

ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ


ไม่อยากเขียนเพระากลัวมันดราม่า


แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะเพราะได้กำลังใจจากคนในเล้านี่แหละครับ

ขอบคุณทุกคนมากนะครับ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0

ผมส่ง ข้อความไปเห้นป่าว

ออฟไลน์ Calo love

  • "Look Frist At Me"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 836
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-5
    • "พี่ครับ...ผมขอ(เอา)พี่ได้ไหมครับ
ผมส่ง ข้อความไปเห้นป่าว

คราฟฟฟฟฟฟฟ

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3

rakna

  • บุคคลทั่วไป
พี่อ่านมาถึงตอนที่สี่แล้ว(คนอื่นเขารอตอนจบ)ขอบอกว่าสุดยอด

สมชื่อเรื่องเลย ตอนที่1ไอ้เฟิร์สมันก็ขอเลยแถมบัสยังให้อีก

และแล้วตอนที่2 มันก็เอาจริง และตอนที่3 เอาจริงกว่า

นี่ขนาดอ่านมาแค่4ตอนนะเนี่ย แล้วยังงี้กว่าจะอ่านจบ

ต้องสลบอัีกกี่รอบ พี่แก่แล้วหัวใจอ่อนแอค่ะน้อง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
ออฟครับ สู้ๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นสู้ๆนะครับ นิวขอเป็นอีกกำลังใจครับ  :L2:

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
เฟิร์สหื่นขนาดนี้มีลูกหัวปีท้ายปีแน่ๆ

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
สู้ๆ เป็นกำลัใจให้นะ o13 :กอด1:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
เฟิร์สหื่นขนาดนี้มีลูกหัวปีท้ายปีแน่ๆ
ว่างั้นเหมือนกันจ้า :impress3:

ออฟไลน์ Calo love

  • "Look Frist At Me"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 836
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-5
    • "พี่ครับ...ผมขอ(เอา)พี่ได้ไหมครับ
"พี่ครับ...ผมขอ(เอา)พี่ได้ไหมครับ"

ตอนพิเศษ พ่อปลื้มฯ  Part 2

(P.32) 100% ครับ



วันเวลาล่วงเลยมาจถึงวันที่ผมรอคอย วันศุกร์ที่ได้กลายเป็นวันสุขจริงๆ ของผมซักกะที โทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นในลิ้นชัก ทำให้ผมรู้สึกโล่งใจอย่างสุดจะเปรียบเปรย เสียงนี้ที่ผมรอฟังมันมาหลายวันแล้ว 7 วันเต็มๆๆๆ หายไปเที่ยวกันไม่คิดจะโทรกลับมาหาหรือถามไถ่ผมกับพี่เขาบ้างเลยทั้งสองคนเลยนะ ฮึ่ม!!!!!!

“สวัสดีครับท่าน ผอ. มีอะไรจะให้นายสหกรณ์รับใช้ครับ!?” ผมพูดกรอกเสียงไปตามสายแกมประชด

“สี่ทุ่มมารับด้วยที่สุวรรณภูมิ”

“ครับท่านเดี๋ยวกระผมจะส่งรถไปรับนะครับ มีอะไรที่ต้องการเพิ่มเติมไหมครับ?”

“อย่าสายนะ!”

“รับทราบขอรับ!!!!!!”

ผมล่ะโคตรโล่งใจเลยครับพอได้ยินคำว่า ให้มารับด้วยเนี่ย จะได้หลุดพ้นบ่วงกรรมนี้เสียที ไม่รอช้าเลยครับผมรีบโทรลงไปแจ้งยังแผนกยานยนต์ให้รีบจัดรถตู้ไปรอรับท่านบุพการีที่รักทั้งสองท่านอย่างมิรั้งรอ

พ่อกับแม่ผมทั้งสองท่านชอบเที่ยวมากเป็นชีวิตจิตใจถึงได้มาเปิดบริษัททัวร์นี่ไงครับ แต่กลับเป็นผมซะเองที่ต้องมานั่งทำงานแทน ไงได้ล่ะครับท่านทั้งสองทำงานมามากแล้วเพื่อผม ก็คงต้องถึงเวลาที่ผมซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวก็ต้องรับภาระหน้าที่ดูแลกิจการของครอบครัวและดูแลท่านทั้งสองต่อแล้วล่ะครับ

ผมเคยบอกว่าอยากมีน้องสักคน ท่านทั้งสองก็บอกว่ากว่าจะเลี้ยงผมให้โตได้ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว ไม่ไหวหรอก ทำเป็นบ่นผมว่าคนที่เลี้ยงผมน่ะเป็นนวลมากกว่าอีก เชอะ!!!!!!!ผมขอเถียงเลยแหละ

พอตอนนี้ผมกับพี่เขามาช่วยงานที่บริษัทจนเข้าขั้นที่สามารถดูแลงานแทนได้เกือบหมดแล้วก็กลายเป็นว่า ตัวเองสองคนก็ Freedom ปล่อยตัวเองลอยตัวซะงั้น(ไม่ใช่ค่าเงินบาทนะเนี่ย?) แอบหนีไปเที่ยวจนชินจนเคยตัว แล้วเวลาไปไหนนะก็จะฝากงานกับพี่เขาไว้ตลอด รายนั้นนะเหรอเขาฝากอะไรก็รับไว้หมดทำได้ไม่ได้รับมาก่อน รับมาหมด รับมามั่วๆ ผลสุดท้ายก็ผมนี่แหละที่ต้องตามมาจัดการ เหอๆ เฟิร์สขอเพลียอีกรอบนะครับ!!!!!!

“ที่รักครับวันนี้กลับบ้านใหญ่กันนะคัรบ พ่อกับแม่กลับมาแล้วครับ”

“ครับ....จะไปกี่โมง?”

“อีกสักพักครับ งานใกล้จะเสร็จยังครับ?”

“ขอเคลียร์บัญชีอีก 20 นาทีคงเรียร้อย หิวไหม?”

“ยังครับรอทานกับภรรยาสิครับ!”

“ทะลึ่ง!!!!!”

“อ้าวเรื่องจริงนี่ครับ”

“จริงก็ห้ามเรียก!!”

“คราฟฟฟฟฟฟเมียใครน้าดุจัง”

“บอกว่าไง!!!!!!!!!!ไม่คุยด้วยแล้วทำงานก่อน”

ไม่เบื่อเลยจริงๆ ครับ คุยกันไปมองหน้ากันไป ขนาดเจอเวลาที่พี่เขาบ่นผมผมยังชอบเลย นี่ผมจะรักจะหลงผู้ชายคนนี้อะไรกันนักกันหนาเนี่ยครับ???

ผมก็ขอเคลียร์งานสักพัก เอกสารทุกอย่าง งานประชุมทุกครั้งผมจะสรุปเอกสารการประชุมเองหมดเลย ผมจะบอกว่าที่ผมต้องทำเองเพราะผมไม่เลขานะครับ(คงรู้นะครับว่าเพราะอะไร เนื่องจากมีบัญชาจากเบื้องบนนั่นเอง อิอิ ไม่ใช่อะไรหรอกครับพี่เขาบอกว่ามันเปลืองโดยใช่เหตุทำเองได้ก็ทำไป ขี้งกก็ว่ามาเหอะเนอะ) ผมเลยงานเข้าอยู่คนเดียวเลย ไม่มีผู้ช่วย แต่ผมว่ามันก็ดีไปอีกแบบนะครับ งานถึงจะหนัก แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็ได้ผ่านหูผ่านตาตลอด อันไหนดี อันไหนควรแก้ไขก็จะได้เห็นกับตาตัวเอง รอให้ถึงวันที่ผมไม่ไหวจริงๆ ก่อนค่อยขอผู้ช่วยแต่ตอนนี้ผมขอใช้พลังงานหนุ่มก่อนแล้วกัน




.......................................................

“ไหนล่ะครับของฝากจากสิงคโปร์”

“อุ๊ย!!!!!ลืมค่ะ!!” ดูเสียงคุณนายท่านสิครับ พร้อมแอ็คติ้งที่เยี่ยมยอดผมว่าเอาออสการ์ไปเลยครับแม่ผม

“ฮ่าๆ !!!!!!!!” นี่ก็อีกคนหัวเราะข่มผมอีกแทนที่จะเข้าข้างลูกชายบ้างก็ไม่มี

“ไม่มีอีกตามเคย ทิ้งให้ลูกชายทำงานคนเดียวหัวเป็นเกลียวตัวเป็นน็อต หนีเที่ยวกันสองคนแถมไม่มีของฝากอีก!”

อันที่จริงผมไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องพวกนี้หรอกครับ เพียงแค่ท่านทั้งสองเดินทางกลับมาหาผมอย่างปลอดภัยก็ดีแล้วครับ เพราะของฝากอะไรนั้น ผมมีเยอะแล้วอยากได้อะไรผมก็ไปซื้อเอาเองถูกใจกว่าด้วย

“อ้าวคนเดียวที่ไหนพี่เขาก็อยู่ช่วยนิใช่ไหมตาหนุ่มลูก??” คุณนายท่านเรียกหาฝ่ายสนับสนุนแล้วครับ ที่รักของผมก็ยิ้มน้อยๆ ตอบก่อนจะหัวเราะเบาๆ ไปกับเขาด้วย

“ครับพ่อปลื้มของคุณแม่ออกจะเก่งครับไม่ต้องให้หนุ่มช่วยหรอกครับ”

อ่อ ผมลืมบอกไปนะครับว่าพ่อกับแม่จะชอบเรียกพี่เขาว่า “หนุ่ม” เหมือนที่คุณย่าเรียกนะครับบอกว่าเพราะดีชื่อบัสเรียกยาก แล้วสุดท้ายก็มาจบที่ผมด้วยอีกคนชื่อที่ตัวเองตั้งให้ตอนนี้ก็ไม่เรียกแล้วครับหันมาเรียก “พ่อปลื้ม” ตามคุณย่าท่านกันหมด ผมละงงกับสองสามีภรรยาคู่นี้จริงๆ พ่อกับแม่ใครว่ะ???

“อย่าว่าเลยตาหนุ่มแม่ว่าจะเก่งแต่เรื่องสร้างปัญหาล่ะสิ!!”

“โหยแม่ว่าผมงี้ได้ไงล่ะครับ?? พี่บัสก็เหมือนกันให้ผมทำงานคนเดียวขอเลขาสักคนก็ไม่ยอม”

“ได้ไงเรา!!!พ่อบอกกี่ครั้งแล้วว่างานเราเราต้องทำเอง ถ้าอยากได้เลขาเดี๋ยวพ่อจ้างให้เอาไหม?”

“เอาครับ”

“เดี๋ยวพรุ่งนี้เลื่อนตำแหน่งคุณสหกรณ์จากผู้จัดการใหญ่ไปรับตำแหน่งเลขาแทนแล้วกัน!!!”

“พ่อ!!!!!”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ!!!!!!” ดูสิครับทั้งสามคนรวมหัวกันแกล้งผมอีกแล้ว ที่รักผมก็เป็นไปกับเขาอีก แทนที่จะเข้าข้างสามีตัวเอง เห้อ!!!จะงอนดีไหมเนี่ย?

“งอนแล้วไปนอนดีกว่าไม่คุยด้วยแล้วมีแต่คนใจร้าย!!!!!!”

พูดจบผมลุกจากโซฟาเดินทำหน้าบูดๆ ออกมาเลยครับ แกล้งกันดีนักแกล้งกลับบ้างเลยแล้วกัน

“ตาหนุ่มตามไปสิลูกค่อยๆ ง้อกันนะพ่อขี้เกียจห้ามมวย”

“ครับพ่อ!!” ผมได้ยินดังนั้นจากที่เดินช้าๆ ก็เพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้นรีบเข้าห้องไปเลยลงกลอนด้วย  อยากแกล้งเขานักใช่ไหมงั้นคืนนี้ไม่ต้องมานอนกอดเขาเลย





ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!




“เฟิร์สเปิดประตูหน่อย!!” เคาะไปเถอะเคาะให้ตายเลย เชอะ!!

“เฟิร์สจ๋า!!!”

“ที่รักจ๋าเปิดประตูให้ที่รักหน่อยคราฟฟฟฟฟ” ดูสิครับฟังเอาเถอะไปหัดพูดแบบนี้มาจากไหนเนี่ย?

“สามีคราฟฟเปิดประตูให้เมียหน่อยเร็วๆๆ” ฮ่าๆๆ โดนใจอย่างแรงครับอันนี้เปิดให้เลยแบบด่วนจี๋เลย

“ไหนๆ ขอสามีหอมแก้มเมียที่รักหน่อยสิครับ”

ทันทีที่เปิดประตูได้ก็ตรงเข้าไปกอดแล้วลากคนสวยหน้าหวานเข้าห้องเลยครับ

“งั้นคืนนี้ขอสามีที่รักรักเมียอีกสักรอบได้ไหมครับหืมม์?”

เล่นเอาของขึ้นเลยครับนี่ขนาดจัดเต็มไปแล้วเมื่อคืนนะครับ

“ก็รักไปแล้วเมื่อคืนไงยังไม่พอเหรอครับ?”

“น่าๆๆ นะครับอยากรักเมียอีกแล้ว..ดูสิครับเฟิร์สน้อยอยากเข้าไปในตัวของเมียจ๋าแล้วง่าครับ”

ไม่พูดเปล่าครับผมจับมือเรียวๆ มาจับตรงเป้ากางเกงที่มันกำลังตุงๆ ดุนๆ ดันๆ อยากออกมาชมนกชมไม้แล้วล่ะสิครับ

“อืม...!!!!!!” แค่ครุ่นคิดครับเมื่อก่อนพอจับมาวางทีไรต้องรีบดึงกลับแต่เดี๋ยวนี้เหรอ ไม่เอาออกไม่พอแถมยังบีบคลึงเบาๆ ด้วยอีกต่างหาก

“ได้ไหมครับหืมม์”

“อ่าส์!!!!!!” แล้วพี่จะบีบมันเพื่อ?????

“นะครับอยากรักเมียง่าครับ”

“ไว้วันหลังแล้วกันนะครับเมื่อคืนก็รักไปเยอะแล้วนี่ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะครับ”

“แงๆๆ ไม่เอาง่าครับจะรักคืนนี้อีก!!”

“ไม่งอแงน้าคราฟฟเดี๋ยวไม่ให้กินหนมนะครับ” พี่เขายกมือขึ้นมาบีบจมูกผมเบาๆ ทำให้ผมกอดกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นอีก

“จะหนมของเมียง่าครับ”

“ต้องกินวันอื่นนะครับวันนี้กินไม่ได้” พูดจบคนน่ารักก็ยกมือขึ้นลูบหน้าผมเบาๆ ก่อนจะเขย่งเท้าตัวเองขึ้นแล้วจูบผมเบาๆ ตรงคาง

“ไม่ยอมง่าครับ มาทำให้อยากแล้วจากไปได้ไง?” ผมโยกตัวคนในอ้อมกอดไปมาอย่างรักใคร่

“ไม่ได้จากไปไหนนิครับ แต่เป็นวันอื่นนะครับ” พี่เขาลูบหน้าอกผมเบาๆ

“ง่า!!!!!”

“เดี๋ยวให้เบิ้ลเลยอ่ะ!!”

“อันนั้นมันแน่อยู่แล้วหรอกครับ”

“อ้าวเหรองั้นให้เบิ้ล เบิ้ล เบิ้ล 3 เบิ้ลเลยอ่ะ!”

“แน่นะครับห้ามคลานลงเตียงก่อนนะครับ”

“ครับผม!!” แล้วพี่เขาก็จูบเข้าที่ซอกคอผมเบาๆ ผมอยากจะบอกกับทุกคนจังว่าผมรักผู้ชายคนนี้จังเลย รักจนยากที่จะหาอะไรมาเปรียบปานได้เลย

“เอาไปแค่นี้ก่อนนะครับถือว่าเป็นมัดจำนะ เดี๋ยวไว้ไถ่คืนวันอื่นนะครับ”

“ครับผมรักพี่นะครับ”

“พี่ก็รักเฟิร์สนะครับนอนเถอะเดี๋ยวตื่นสายไม่ทันพระนะครับ”

“กอดก่อน!!” ทั้งที่เราก็กอดกันอยู่แล้วแต่ผมก็ยังอยากกอดอีก เอ๊ะยังไงกันนี่ผม????? สุดที่รักของผมก็เลยก้มหน้าซบกับอกของผมแล้วกระชับแรงทำให้อ้อมกอดนั้นแน่นขึ้นอีก อุ่นจังเลยครับ

“อ๊ะ!!!!!จะทำอะไรน่ะ???” เสียงประท้วงดังขึ้นทันทีที่เจ้าของเสียงลอยตัวอยู่กลางอากาศก่อนจะส่งมือเรียวมาคล้องคอผมไว้ ฮ่าๆ กลัวตกล่ะสิครับ ผมไม่ให้พี่ตกหรอกครับเดี๋ยวช้ำกันพอดี ผมอุ้มคนตัวเล็กเดินไปยังเตียงนอนทันที

“ก็ไปนอนไงครับพรุ่งนี้เราจะตื่นกันแต่เช้าผมบอกป้านวลให้เตรียมสำรับสำหรับใส่บาตรไว้แล้วครับ”

“ครับ!!” อ้าวยื่นหน้ามาแล้ว อิอิ รอช้าทำไมครับผมส่งปากเข้าไปก่อนได้เปรียบสิ ฮ่าๆ

“อือๆๆ!!!!!”

คนโดนเอาเปรียบครางประท้วงผมจึงหยุดภารกิจไว้ก่อน แล้ววางร่างบางน่าทะนุถนอมลงบนเตียงสีฟ้าน้ำทะเลที่เป็นสีโปรดของพี่เขาและเป็นสีนำโชคของผมด้วย อิอิ นำโชคเรื่องอะไรให้นึกย้อนกันไปนะครับ คิดแล้วพาให้คึกคักอีกแล้วครับ ฮ่าๆๆๆๆ

“นอนสิครับ!”

“อืม!” ครางรับเบาในลำคอก่อนจะดึงผมลงไปนอนด้วย

“กอดหน่อยสิ” มือเรียวน่าจูบยกขึ้นมาลูบแก้มผมเบาๆ ก่อนจะเอ่ยประโยคที่น่าฟังขึ้นมา

“จริงๆ ก็อยากให้รักนะครับแต่เดี๋ยวกลัวตื่นสาย...!!” พูดจบก็มุดหน้าเข้าหาผ้าห่มเลย ทำให้ผมต้องใช้แรงนิดหน่อยดึงผ้าห่มออกเพื่อจะมองหน้าคนพูดให้ชัดๆ ว่าคนน่ารักของผมจะทำหน้าแบบไหน?

“ครับ!งั้นก็นอนนะครับถ้ายังไม่นอน คราวนี้ผมจะรักจริงๆ แล้วนะครับ”

ผมพูดจบก็กอดกระชับคนข้างๆ อย่างรักใคร่ พี่เขาก็ซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดของผมเหมือนทุกครั้ง อุ่นดีนะครับลองหาใครสักคนมานอนกอดดูนะครับ

แสงแรกของเช้าวันใหม่เริ่มแล้ว พร้อมด้วยเสียงร้องเพลงของบรรดานักร้องเพลงขนสวยที่แอบอิงตามกิ่งก้านสาขาสุมพุมร่มไม้ในสวนหลังบ้านที่พากันประกวดประขันเสียงอันไพเราะขับกล่อมยามเช้าตรู่ ทำให้อรุณประไพของเช้าวันใหม่ไม่จืดชืด ละอองแดดอ่อนๆ ทาบทามทับลงกับพื้นดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหลาย ทำให้หลอดนีออนทั้งหลายได้หลับพักผ่อนกันบ้าง

“คุณหนูจะให้นวลยกสำรับออกไปเลยไหมค่ะ?” ป้านวลหญิงแก่ชราวัยที่ดูสดใสและอ่อนเยาว์กว่าวัยอันควรมากมายเอ่ยถามทันทีที่ผมเดินจูงมือเจ้าของงานวันเกิดเข้ามาในครัว


ป้านวลอยู่ที่นี่มาก่อนผมอีกนะครับ จนเรากลายเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว ป้านวลเป็นคนเลี้ยงผมมาตั้งเล็กเลยครับ แอบบอกว่าป้านวลแกยังโสดนะครับ ก็ได้ผมนี่แหละมาเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ผมมักจะเรียกป้านวลว่า “นวล” คำเดียวสั้นไม่มีสรรพนามนำหน้าอย่างใดเพราะผมคิดว่ามันดูใกล้ชิดกันมากกว่าครับเลยติดมาตั้งแต่เด็กๆ คนอื่นอาจจะมองว่าไม่สุภาพหรืออย่างไรไม่รู้แต่สำหรับผมนี่คือการเรียกขานที่ให้ความชิดใกล้กันและให้ความเคารพมากที่สุด ผมรักป้านวลเหมือนแม่อีกคนหนึ่งของผมเช่นกัน

ตอนแรกที่แกรู้ว่าผมที่แฟนแกดีใจมากบอกว่าจะได้อุ้มหลานสักที แล้วก็อยากเห็นหน้าว่าเป็นใครสวยขนาดไหนดีใจออกนอกหน้ามากมายครับจนผมทำตัวไม่ถูกเลยว่าถ้าป้านวลเห็นหน้าพี่แกเข้าจะเป็นยังไง? จนผมพาพี่เขามาแนะนำป้านวแกตาค้างไปเลยครับ อึ้งไปนานทีเดียวแต่ตอนนี้เหรอพากันหลงพี่เขากันจนหมดบ้านแล้วครับทำให้ผมกลายเป็นหมาหัวเน่าอยู่คนเดียวนี่แหละ

ออฟไลน์ Calo love

  • "Look Frist At Me"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 836
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-5
    • "พี่ครับ...ผมขอ(เอา)พี่ได้ไหมครับ
“ไม่ต้องหรอกครับนวลเดี๋ยวเฟิร์สทำเองครับ นวลไปรอข้างนอกนะครับเหนื่อยแย่เลยเดี๋ยวรอไปใส่บาตรด้วยกันนะครับ แล้วบอกนวลกี่ครั้งแล้วว่าห้ามเรียกว่าคุณหนู” ผมพูดพร้อมรอยยิ้มอันอบอุ่นให้กับหญิงชราเบื้องหน้าที่ยืนยิ้มตอบผมเช่นกัน

“มันติดนะคะ”

“ไม่เอานะครับ ไม่ชอบนะนวลจะเรียกชื่อเฉยๆ หรือจะเรียกตามพ่อกับแม่ก็ได้นะครับนะนวลนะ” ผมพูดขึ้นอีกหลังจากที่เดินไปจับมืออันเหี่ยวย่นไปตามกาลเวลาขึ้นมาลูบ

“ค่ะ!” ป้านวลยิ้มรับอีกเช่นเคย ผมจะบอกว่าอาหารฝีมือป้านวลอร่อยมากครับใครได้กินแล้วจะติดใจ ยิ่งขนมหวานนะครับขอบอกว่าอร่อยสุดๆ คนอะไรก็ไม่รู้หยิบอะไรลงหม้อลงจานก็อร่อยไปเสียหมดทุกอย่าง

“ป้านวลไปพักนะครับเดี๋ยวเราจะช่วยกันยกไปเองนะ แค่นี้ก็เหนื่อยแย่แล้วนะครับ” เจ้าของวันเกิดเดินมาจับมือหญิงชราตรงหน้าเช่นกันหลังจากที่ผมเดินมาดูข้าวของด้านหลัง

“เราจะได้ออกไปใส่บาตรพร้อมกันนะครับเกิดมาชาติหน้าเราจะได้มาเจอกันอีกนะครับ”

“ที่รักคราฟฟมาช่วยยกดอกไม้หน่อยสิครับ!!”

“ครับ!” คนน่ารักปล่อยมือจากแม่ครัวใหญ่ของบ้านแล้วเดินมาหาผม เราช่วยกันขนของไม่กี่รอบก็นำข้าวของทุกอย่างออกมาเรียงรายหน้าบ้านได้ครบพร้อมเพรียง โดยที่มีป้านวลยืนหัวแถวคอยตักข้าวถัดมาก็เป็นที่รักและก็ผมตามลำดับ

เราใส่บาตรต้อนรับเช้าวันใหม่และต้อรับวันเริ่มอายุใหม่ของคนน่ารักของผมด้วยความสดใสและปลาบปลื้ม พอใส่บาตรเสร็จพี่เขาก็เดินจับมือป้านวลเข้าบ้านก็เป็นหน้าที่ผมอีกตามเคยที่รับบทกรรมกรแบกหาม

....................................................

“ใส่บาตรกันเสร็จแล้วเหรอลูก?” คุณแม่เอ่ยทักเจ้าของวันเกิดด้วยรอยยิ้ม

“ครับเสร็จแล้วครับแล้วคุณพ่อล่ะครับ?”

“เดี๋ยวสักพักคงลงมาแหละเก็บของอยู่”

“เดี๋ยวบัสกับน้องจะมาหานะครับอย่าเพิ่งไปไหนกันนะครับ”

“จ้า!!!!”

“นวลเหนื่อยไหมต้องตื่นมาทำกับข้าวให้เด็กๆ ใส่บาตรกันตั้งแต่เช้าเลย” คุณแม่เอ่ยกับป้านวลที่นั่งลงข้างๆ

“ไม่หรอกคุณมีความสุขซะมากกว่า” หญิงชราเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“บ้านนี้หากไม่มีนวลคงยุ่งน่าดูเลย” คุณแม่ยังเอ่ยต่อพลางจับมือที่ผ่านโลกมาแล้วหลายร้อนหลายฝนกุมไว้

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกคุณ” เจ้าของมือยังคงตอบด้วยรอยยิ้มทำให้ดวงหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยนั้นดูเด็กลงไปมากโข

“นวล..ถ้าหากนวลเหนื่อยหรือไม่ไหวก็ไม่ต้องทำแล้วนะเดี๋ยวฉันจะหาคนใหม่มาทำแทน” เจ้าของบ้านยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใยรักใคร่

“ไม่หรอกค่ะคุณยังไหวนะ!”

“ได้ไงล่ะนวลทำอะไรหนักๆ เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไปใครจะรับผิดชอบ” เสียงเข้มๆ ของผู้มาใหม่ดังขึ้นแทรกกลางระหว่างทั้งสอง

“คุณผู้ชาย!”

“พักได้แล้วนะนวลเดี๋ยวเราจะหาคนมาช่วยไม่เบื่อเหรอทำมาตั้งแต่ลูกชายนวลยังเล็กๆ จนป่านนี้โตเป็นหนุ่มแล้วนะ” คุณพ่อเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“มีความสุขดีค่ะ!!” เจ้าของเสียงแหบแห้งยังเอ่ยต่อด้วยรอยยิ้มพลางมีน้ำตาคลอหน่วยน้อยๆ ที่ขอบตา

“นวลอย่ามาเล่นละครน้ำเน่าหลังข่าวนะไม่ชอบดู” คุณพ่อเอ่ยกระเซ้าป้านวลที่เริ่มมีน้ำตา

“คุณก็!!” คุณแม่ที่นั่งข้างๆ แทรกขัดทันที

“มันอดไม่ได้จริงๆ ค่ะคุณนวลเลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยไม่คิดว่าจะโตเป็นหนุ่มขนาดนี้แล้ว สูงใหญ่แถมรูปหล่ออีกต่างหาก” หญิงชราเอ่ยพลางยกมือที่ว่างจากการกอบกุมของหญิงวัยกลางคนที่นั่งข้างๆ ขึ้นมาปาดน้ำตา

“ก็นวลแหละเลี้ยงลูกชายนวลด้วยอะไรล่ะมันถึงได้สูงใหญ่แบบนี้?” หญิงวัยกลางคนเอยสำทับหญิงชราที่กำลังเช็ดน้ำตาพลาง


“นวลนี่บอกไม่เคยฟังเลยสักครั้ง!!” เสียงของชายวัยกลางคนที่นั่งข้างดังขึ้นก่อนจะหยิบทิชชู่ในกล่องบนโต๊ะส่งให้คนเจ้าน้ำตา

“คะแก่แล้วก็แบบนี้แหละห้ามตัวเองไม่ค่อยอยู่เลย”

“แก่ที่ไหนยังสาวอยู่เลยนะครับ” ผมเอ่ยขึ้นทันทีที่เข้ามาร่วมวงสนทนา

“บอกไม่เคยฟังเลยพ่อปลื้มดูแม่นวลของเราสิมาบอกว่ากงว่าแก่แม่เห็นมาตั้งแต่สาวแล้วนะอาการขี้แยเนี่ย?”

“ใครว่านวลแก่ครับไม่หรอกสวยขนาดนี้” ผมนั่งลงกับพื้นทันทีที่มาถึงตรงปลายเท้าของทั้งสามคนก่อนจะซบลงตรงตักอุ่นๆ ของหญิงสูงวัยที่ควรค่าแก่การนบนอม

“คุณหนู!!” หญิงชราเอ่ยขึ้นพร้อมลูบหัวผมเบาๆ

“บอกกี่ครั้งแล้วนวลว่าอย่าเรียกแบบนี้” ผมแหงนมองดวงหน้าที่เปื้อนน้ำตากำลังยิ้มทั้งน้ำตาให้เห็น

“คะ!!”

“ป้านวลร้องไห้ทำไมครับเฟิร์สทำอะไรเหรอครับ?” ที่รักของผมที่เดินถือพวงมาลัยดอกไม้สดเข้ามาร่วมวงตกใจกับสิ่งที่เห็นแล้วจึงทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ผม

“เปล่าหรอกคะคุณนวลขี้แยเองแหละ!!”

“ช่ายๆๆ ผมก็ว่าแบบนั้นแหละนวลน่ะขี้แยจะตายชอบร้องไห้ขี้มูกโปง” ผมเอ่ยขึ้นทำให้ในวงสนทนามีเสียงหัวเราะเบาๆ เกิดขึ้น

“โห!!!!!นี่แก่ขึ้นอีกปีแล้วสินะเรา ปีนี้ก็เหมือนเดิมสินะได้พวงมาลัยเช่นเคย ขอเปลี่ยนเป็นบรั่นดีแทนสักขวดได้ไหมตาหนุ่ม?”
คุณพ่อเอ่ยแซวคนที่เพิ่งมาถึง

“คงได้หรอกครับแค่คนข้างๆ เมามาทุกวันก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้วครับคุณพ่อ” พูดเสร็จหันมาทำตาเขียวใส่ผมอีก

“ผมไม่เกี่ยวนะ...นวลดูสิพากันแกล้งผมอีกแล้วนะ”

“คุณเขารักหรอกค่ะ!!”

“นวลง่ะ!!”

“วันนี้วันเกิดพี่เขาทำตัวน่ารักหน่อยนะพ่อปลื้ม”

“คราฟฟฟคุณหญิงแม่” พูดจบผมก็หันไปหยิบพวงมาลัยสีสวยพวงพอเหมาะมาพวงหนึ่ง

“พวงนี้สำหรับนวลนะครับ ขอบคุณนวลที่ดูแลเลี้ยงดูผมมาจนโตขนาดนี้ จนเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้มีการมีงานทำนะครับ รักนวลนะครับ”

“บัสก็เหมือนกันนะครับขอบคุณป้านวลที่ไม่เคยรังเกียจเดียดฉันบัสเลยแถมยังดูแลเอาใจใส่มาตลอดขอบคุณป้านวลนะครับที่เลี้ยงเฟิร์สมาจนโตให้มาเจอกับผม” เราสองคนพนมมือก้มลงกราบกับเท้าเปล่าที่ขาวซีด หากสังเกตแล้วจะพบว่าเท้าคู่นี้คงผ่านอะไรมากมาย ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแรมปี แค่นั้นแหละครับบ่อน้ำตาแตกเลย แต่น้ำตาที่ไหลหลั่งมากลับเป็นน้ำตาแห่งความยินดีปรีดาหาใช่เพราะเรื่องเศร้าอื่นใดเลย

“ขอบคุณนะคะที่ไม่เคยลืมคนแก่คนนี้เลยทั้งที่นวลก็แก่ลงทุกวันแล้วก็ไม่รู้จะอยู่ดูแลคุณและคุณหนูได้อีกนานแค่ไหนยังไงก็ฝากคุณช่วยดูแลคุณหนูให้นวลด้วยนะคะ มีอะไรก็ค่อยๆ คุยกันนะคะ หนักเอาเบาสู้ไหนๆ ก้ได้เป็นคู่ชีวิตกันแล้ว” หญิงชรารับพวงมาลัยไว้ในมือก่อนจะวางลงบนตักแล้วจับมือของเราทั้งมากุม พูดไปก็ร้องไห้ไป เห้อ!! นวลนี่นะ

“ครับ!!” เราสองคนรับคำพร้อมกันก่อนจะเขย่งตัวขึ้นเพื่อกอดคนแก่เจ้าน้ำตา

“ของพ่อกับแม่ไม่ต้องซึ้งนะตาหนุ่มมันเปลืองกระดาษทิชชู่!!”

“คุณพ่อก็!!”

“ครับ.....แต่ผมก็ต้องกราบขอโทษคุณพ่อกับคุณแม่นะครับที่ผมไม่สามารถมีทายาทตัวน้อยๆ ให้คุณพ่อกับคุณแม่ได้ ขอโทษที่ผมไม่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิง ขอโทษที่ไม่สามารถทำให้ครอบครัวของเราสมบูรณ์แบบได้เหมือนครอบครัวของคนอื่น ขอโทษนะครับ” เจ้าของวันเกิดเอ่ยขึ้นก่อนจะก้มลงกราบเท้าของคุณพ่อและคุณแม่ตามลำดับ

“ไหนคุณพ่อบอกแล้วไงว่าไม่ต้องซึ้งแล้วเราร้องไห้ทำไมตาหนุ่มหืมม์??”

“ขอโทษครับคุณแม่”

“อย่าโทษตัวเองแบบนี้สิค่ะคุณ” หญิงชราเอ่ยขึ้นพร้อมลูบหัวคนที่กำลังตาแดงๆ เพราะเพิ่งเช็ดหยาดน้ำตาออกไป

“ขอโทษนะครับป้านวลที่ผมไม่สามารถมีหลานน้อยๆ มาสร้างสีสันให้ป้านวลได้วิ่งไล่ตามนะครับ ขอโทษนะครับคุณแม่ คุณพ่อ” คนน่ารักของผมยังคงพร่ำบอกแต่คำขอโทษพร้อมน้ำตาที่ไหลมาเป็นทาง

“ไม่เอาๆ เลิกพูดได้แล้วคำนี้จะมาขอโทษอะไร แม่ไม่อยากฟังแล้ว” คุณแม่พูดจบก็ก้มลูบหัวคนที่บ่อน้ำตาแตกไปตามนวลอีกคน

“ผมก็อีกคนนะครับที่ต้องขอโทษทุกคนด้วยที่ไม่สามารถทำอะไรได้อย่างที่ทุกคนคาดหวังไว้แต่ผมก็จะทำหน้าที่ของผมทุกอย่างในวันนี้ให้เข้มแข็งและจะเป็นผู้นำครอบครัวของเราให้ดีที่สุดผมสัญญาครับ” ผมดึงมือพี่เขามากุมไว้หลังจากที่ก้มลงกราบเท้าบุพการีทั้งสองท่านเสร็จ

“แล้วเราคิดว่าพ่อกับแม่คาดหัวงอะไรในตัวเราล่ะพ่อปลื้ม? อย่ามาโทษตัวเองอีกคนนะ เราไม่สามารถเลือกที่จะเกิดได้หรอก หากเลือกได้เราก็คงเลือกที่จะเป็นคนที่มีความสมบูรณ์แบบกันไปหมดแล้ว ถ้างั้นในโลกนี้คงเป็นโลกแห่งความสมบูรณ์แบบไปแล้วล่ะ เราเลือกที่จะเป็นได้ เราเลือกที่จะเดินได้ เป็นอะไรก็ได้ขอแค่ให้เป็นคนดีของสังคมก็พอแล้ว” คุณแม่เอ่ยขึ้นพลางลูบหัวผมกับพี่เขาสลับกันไปมา

“งั้นเราไปทำกิฟท์กันไหมแล้วให้ตาหนุ่มอุ้มท้องเอาไหม?” คุณพ่อเอ่ยขึ้นขัดจังหวะอารมณ์ซึ้งของทุกคนทำให้นวลหัวเราะเบาๆ

“คุณก็เขากำลังอินในอารมณ์”

“เอาน่าอะไรมันจะเกิดก็ต้องปล่อยมันให้เป็นไปตามนั้นแหละเราจะไปกำหนดกฏเกณฑ์ให้มาผูกมัดตัวเราทำไม พ่อกับแม่น่ะไม่ห่วงหรอกเรื่องทายงทายาทอะไรนั้น สำหรับพ่อเองก็คงอยู่ไม่ถึงร้อยปีหรอก คงไม่ได้อยู่นานขนาดนั้น ถึงเวลานั้นมาไม่มีใครสืบทอดกิจการก็เอาไปบริจาคซะเป็นการทำบุญให้เราทุกคนก็แล้วกัน” คุณพ่อพูดจบก็ลูบหัวผมกับพี่เขาต่อจากคุณแม่ที่ดึงมือกลับไปแล้ว นั้นยิ่งส่งผลทำให้คนขี้แยของผมร้องไห้มาอีกรอบ

“อ้าวพ่อพูดอะไรผิดอีกละเนี่ยพ่อปลื้ม เอ้าๆๆๆ ปลอบกันเอาเองนะ!!”

“อย่าร้องเลยค่ะคุณเดี๋ยวก็ตาบวมหรอก” หญิงชราเอ่ยขึ้นทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ต่างจากกันเลยสักนิด

“ตาหนุ่มมาหาแม่นี่ลูก!!”คนถูกเรียกเขยิบเข้าหาเจ้าของเสียงก่อนจะถูกดึงขึ้นไปกอด

“แม่กับพ่อไม่ได้ห่วงอะไรหรอกนะลูก ใช้ชีวิตให้มีความสุขดีกว่านะลูก อย่าร้องไห้เลย อย่างที่พ่อพูดก็ถูกไม่มีใครดูแลกิจการหรือสืบทอดก็บริจาคทำบุญไปซะ แค่ตอนนี้ครอบครัวเรารักกันเข้าใจกันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอลูก แม่ขอแค่ตาหนุ่มจะรักและดูแลพ่อปลื้มของเราให้ดีก็พอแล้วนะลูก” คุณแม่เอ่ยพร้อมกอดปลอบประโลมคนยังคงร้องไห้อยู่

“ใช่ค่ะคุณแค่ครอบครัวเรารักกันเข้าใจกันก็พอแล้วนะค่ะ!!”

“ครับหนุ่มจะดูแลจะรักปลื้มให้ดีที่สุดจนกว่าวินาทีสุดท้ายของลมหายใจจะมาถึงนะครับ” คนสวยของผมพูดขึ้นทั้งน้ำตา อย่างหนักแน่น

“ผมก็เช่นกันนะครับจะรักและดูแลพี่และดูแลทุกคนในครอบครัวของเราให้ดีที่สุดครับ” ผมเขยิบเข้าหาขาของสองแม่ลูกที่ยังคงกอดกันอยู่ก่อนจะกอดขาของทั้งสองคนเข้าไว้ด้วยเช่นกัน

“เห้อ!!!อุตส่าห์บอกว่าไม่เอาซึ้งแล้วเชียวก็มาซะจนได้เอาเถอะๆ” เสียงเข้มๆ แต่ก็ฟังได้ว่าไม่ได้โกรธเคืองเลยเอ่ยท้วงขึ้น

“นวลว่าเราไปทานข้าวกันเถอะคะเดี๋ยวอาหารจะเย็นซะก่อนเดี๋ยวต้องไปบ้านโน้นอีกไม่ใช่เหรอค่ะแล้วจะต้องไปหาคณย่าท่านอีก”

“ใช่สิไหนจะต้องแวะไปหาคุณย่าอีกต้องไปบ้านสวนอีกนี่น่า” คุณแม่คลายอ้อมกอดหลังจากเอ่ยขึ้น

“ครับ!!งั้นเดี๋ยวผมขอพาคนขี้แยไปล้างหน้าก่อนนะครับดูสิตาบวมหมดเลย!!”

“ทานกันก่อนได้เลยนะครับไม่ต้องรอนะครับ” ผมเอ่ยขึ้นก่อนเดินจูงมือเจ้าของวันเกิดที่ตอนนี้หยุดร้องไห้แล้วครับเหลือแค่อาการตาแดงๆ

“ไหนให้ผมดูหน่อยสิครับ” ผมยกมือขึ้นลูบแก้มเนียนๆ พร้อมลูบเปลือกตาคนตรงหน้าเบาๆ ทำให้คนตรงหน้าหลับตาพริ้ม

“พี่ขอโทษนะเฟิร์ส พี่ขอโทษที่พี่ไม่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิงของเฟิร์ส” น้ำเสียงแบบนี้ผมว่ามีโฮแน่ครับ

“ผมว่าถ้าพี่เป็นผู้หญิงพี่ก็คงไม่ได้มายืนให้ผมกอดอยู่ตรงนี้หรอกครับ อาจจะเป็นผู้ชายคนอื่นไปแล้วล่ะครับ!!”

พูดจบผมก็ก้มลงจุมพิตหน้าผากมนเบาๆ แต่เนิ่นนาน เพื่อส่งผ่านความรักความห่วงใย ที่ผมมีให้คนคนนี้อย่างไม่ขาดสาย ผมจะให้ความรักความอบอุ่นกับเขาตลอดไปไม่ว่าจะนานเพียงใดก็ตาม ผมจะรักและจะดูแลเขาให้ดีที่สุดจนสุดกำลังใจกำลังกายของผม

“พี่รักเฟิร์สนะครับ”

“ผมก็รักพี่นะครับ พ่อปลื้มรักตาหนุ่มนะครับ”

“อืม!!”

“พ่อปลื้มคนนี้จะรักจะดูแลครอบครัวของเราให้ดีที่สุดเท่าที่ยังมีลมหายใจและจะรักตาหนุ่มคนนี้ทุกวินาทีของหัวใจครับ”

“อือ!!ฮึกๆๆ!!!!!!!” อ้าวร้องไห้อีกแล้วครับ ใครก็ได้ช่วยผมที วั้นนี้ทำไมคนสวยของผมขี้แยจังนะครับ แต่ผมก็ไม่เบื่อหรอกนะครับไม่ว่าจะเวลาไหน ไม่ว่าพี่เขาจะยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ โมโห บ่น หรืออะไรก็แล้วแต่ผมก็ยังรักและชอบทุกการกระทำของพี่เขานะครับ

นับจากนี้ไปไม่ว่าจะเวลายิ้มผมก็จะยิ้มไปกับเขา เวลาหัวเราะผมก็จะหัวเราะไปกับเขา เวลาที่เขาร้องไห้ผมก็พร้อมที่ปลอบประโลมและยืนเคียงข้างคอยเช็ดน้ำตาให้เสมอ และเป็นกำลังใจให้ทุกครั้งที่เขาอ่อนแอตลอดไป

“ผมรักพี่นะครับรักมาก!!!!!”

“ครับ!”

สิ้นเสียงรับคำพูดผมก็กอดคนขี้แยอย่างอ่อนโยนแต่อบอุ่น จนแนบชิด เรากอดกันอยู่นานโดยไม่มีสุรเสียงใดๆ เอื้อนเอ่ยออกมา



เพียงแต่




ให้หัวใจรักกันของเราได้พูดคุยกันก็เพียงพอแล้ว












ครั้งแรกที่เจอรู้สึกเหมือนเคยเห็นเธอมาก่อน
มีเหตุสังหรณ์ว่าเธอกับฉันเคยคบกันมา
ทั้งที่ความจริงแค่ไม่กี่ครั้งที่เราพบหน้า
รู้สึกว่าถูกชะตาเหมือนกับว่าใจเราคุ้นเคย
ยามเธอยิ้มมาอยากบอกเธอว่าโลกนี้น่าอยู่
ยามเราเคียงคู่คลำหัวใจดูก็อุ่นจังเลย
ชิ้นส่วนสุดท้ายของคำตอบใจคอยเธอเอื้อนเอ่ย
ระหว่างรอเธอเฉลยอยากบอกไว้เลยฉันรู้สึกดี
เพราะเชื่อว่าคือเธอคืออีกครึ่งฝันที่ฉันตามหา
เราอาจพลัดพรากกันมาจากชาติก่อนหน้าจนเจอชาตินี้
หากหัวใจเธอรู้สึกตรงกับฉันพอดี
ก็อยากให้สองเรานี้อย่าได้มีวันพรากจากกัน
เธอบอกให้คอยฉันก็จะคอยรักไม่เคยเปลี่ยน
คือวันหมุนเวียนยังเก็บครึ่งใจเอาไว้เติมฝัน
ขอให้เวลาช่วยบอกเธอฉันรักคงมั่น
หากเราเกิดมาเพื่อกันคงมีเธอฉันในวันลงเอย


เพลง อีกครึ่งของฝัน
โดย   ไม้เมือง


********************************************** :กอด1:****************************************


แวะมาบอกว่าตอนหน้าตอนสุดท้ายและท้ายสุดแล้วนะครับ ก็จะจบบริบูรณ์แล้วนะครับ.......ฝากติดตามกันอีกนิดเดียวนะครับ


ขอบคุณทุกคนนะครับ



ปล.เมื่อวานลงนิยายเเล้วไม่ได้แจ้งครับ..........รีบเกิน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-08-2012 08:33:56 โดย Calo love »

ออฟไลน์ mro

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ตอนนี้แต่งได้ดีมากคะ. ทำให้ซาบซึ้งกับความรักของคนทั้งคู่. และของครอบครัวด้วยจริงๆ

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
คร้า น่ารักได้อีก หวานจนมดกัดเต็มตัวเลย

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
รักด้วยความเข้าใจ
ใช่หาที่ร่างกายไม่ :L1:

ออฟไลน์ ลิงภูเขา

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






rakna

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้ซึ้งมากเลยค่ะ เป็นความรักที่ทุกคนมีให้กับคนที่ตัวเองรัก

เป็นความรักที่อบอุ่นมากจริงๆ

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
อยากมีคนมาอยู่ข้างๆแบบนี้บ้าง อิจฉาๆ :L3:

คู่นี้เค้าน่ารักกันตลอดเลยเนอะ :กอด1:

น่ารักมากครับ ขอบคุณคนเขียนมากๆครับ พี่ออฟ :pig4:

รอตอนต่อไปครับ :L2:

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ซึ้งครับ  เฟริสแม่งเท่ห์!!!!

คุณออฟมาต่ออีกนะครับผม //กอด

TeuyHom

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักกที่สุดเรยยยย อยากมีคนนอนกอดแบบนี้มั่งจัง

ออฟไลน์ jubujubu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 376
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3

ออฟไลน์ Calo love

  • "Look Frist At Me"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 836
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-5
    • "พี่ครับ...ผมขอ(เอา)พี่ได้ไหมครับ
“พี่ครับ.....ผมขอ(เอา)พี่ได้ไหมครับ”
ตอนพิเศษ แต่งงานกันนะครับ

เสียงถ่านไฟดังเปรี๊ยะๆ พร้อมด้วยกลิ่นอายของความร้อนจากถ่านที่กำลังติดไฟแดงฉานคละคลุ้งไปทั่วลานหลังบ้านเคล้ากับกลิ่นกะทิสดระคนปนกลิ่นน้ำตาลเคี่ยวลอยละล่องตามสายลมที่พัดโชย บรรยากาศเช้ามืดอย่างนี้แต่ละคนก็ต่างขะมักขะเม้นทำงานตามหน้าที่ของตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ ก็จะไม่ให้จดจ่อได้ไงละครับ คุณนายท่านปรุงจันทร์เล่นกุมบังเหียนคุมงานทุกอย่างด้วยตัวเอง เพียงเพราะเหตุผลที่ว่า “ทุกอย่างต้องออกมาดีที่สุด” 
ผมนะเหรอก็แนะนำให้คุณย่าท่านสั่งร้านทำแล้วเอามาส่งให้ก็ไม่ยอมถ่ายเดียว อยากจะทำเองแล้วดูตัวเองสิครับอายุอานามน้อยซะที่ไหน ที่น้อยน่ะคงเป็นสาวแล้วล่ะ “สาวเหลือน้อย!!”  ผมล่ะเป็นห่วงจริงๆ เลยครับ สุดท้ายก็ไม่มีใครที่จะสามารถค้านได้แม้กระทั่งพ่อปลื้มสุดรักสุดหวง ยังเงียบกริบไม่กล้าแม้จะออกความเห็นให้ได้ยินด้วยเกรงกลัวในแสนยานุภาพของท่านย่าปรุงจันทร์แห่งบ้านสวน สุดท้ายทุกคนก็ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ และต้องมาเป็นแรงงานต่างด้าวในเช้านี้อีกด้วย
ด้วยประการทั้งปวงล่ะฉะนี้จึงส่งผลให้ทุกคนต้องตื่นแต่เช้าตรู่ก่อนไก่โห่ มาเป็นลูกมือให้กับคุณย่า ที่ตอนนี้เดินเลาะไปมาจากตรงนู้นที ตรงนี้ที ผมล่ะหวาดกลัวว่าคุณย่าท่านจะสะดุดเท้าตัวเองล้มจังเลยครับ แค่นั้นไม่พอยังตินั่น ว่านี่ ด้วยแสงแหบๆ แห้งๆ ตามประสาชีวิตที่ผ่านโลกมาหลายนับฤดูนัก
ทุกคนในครอบครัวต่างช่วยกันด้วยรอยยิ้มถึงแม้จะถูกสั่งแกมบังคับและขู่เข็ญมาก็ตาม แต่ทุกคนรวมกระทั่งผมด้วยต่างเต็มใจที่จะมาช่วยกันในงานนี้เพราะว่า ขนมที่เรากำลังร่วมแรงร่วมใจกันนี้จะใช้เป็นของในงานมงคลสมรสของพี่รินในวันพรุ่งนี้
ซึ่งพวกผมทั้งครอบครัวน้องและครอบครัวผมเราเดินทางกันมาถึงบ้านสวนตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ มากันแบบแพ็คเก็ตยกชุดครบหมดยกเว้นป้านวลที่ชวนมายังไงก็ไม่มาเป็นห่วงบ้านเลยขอดูแลบ้านให้ ทั้งที่ตัวเองน่ะเก่งเรื่องเข้าครัวเสียกะไร อยากจะให้มาโชว์ฝีมือสักหน่อยก็ไม่ได้เลยครับ
พี่รินลูกสาวคนโตของป้าเรียมครับ สวยใช้ได้เลยนะ แถมดุอีกต่างหาก  ส่วนป้าเรียมเหรอครับ? จะให้ผมเรียกป้าเรียมว่าอะไรดีล่ะครับ? คนใช้ในบ้านคุณย่าก็ไม่ใช่? เพราะส่วนมากป้าเรียมจะเป็นเพื่อนกับคุณย่ามากกว่า แต่ยังไงซะยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาใครๆ ถามแกก็ยืนยันตัวเองว่าเป็น “คนใช้” ในบ้าน เอากับแกสิครับ แต่ผม คุณย่า คุณพ่อ คุณแม่ และครอบครัวของน้องทุกคนไม่เคยมองป้าเรียมในฐานะนั้นเลยสักครั้ง ป้าเรียมเป็นเสมือนคนในครอบครัวของเราครับ ถึงแม้เราจะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันก็ตาม
ป้าเรียมอยู่ที่นี่ตั้งแต่ยังสาวก่อนผมเกิดอีกนะครับ แถมมีลูกน้อยห้อยข้างมาด้วยหนึ่งคนและอยู่ในท้องกลมๆ อีกคนนึง สามีป้าเรียมเสียชีวิตในเหตุการณ์ไฟไหม้บ้าน ส่วนที่หอบมาได้ก็มีแค่ชีวิตตัวเองและลูกน้อย ที่เหลือไม่มีอะไรเลย คุณย่าท่านไปพบเข้าตอนเช้าหลังจากกลับจากวัด เพราะป้าแกไปขออาศัยอยู่วัดได้ระยะหนึ่ง คุณย่าจึงพากลับมาอยู่ที่บ้านด้วย
จนบัดนี้เวลาก็ล่วงเลยผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว จนพี่รินโตเป็นสาว และคนที่อยู่ในท้องป้าเรียมก็โตจนเป็นหนุ่มแล้ว
ป้าเรียมมีลูกสองคน คนโตก็คือว่าที่เจ้าสาวของเราในวันพรุ่งนี้ ก็คือรินระพี เอาสั้นๆ ก็พี่รินนะครับ ส่วนอีกคนเป็นผู้ชายครับหล่อเหมือนกันนะครับแต่แก่กว่าผม 2 ปี ก็คือพี่วี หรือพี่วีระพัฒน์ ทั้งสามคนแม่ลูกน่ารักมากโดยเฉพาะป้าเรียมที่ทำงานบ้าน ทำอาหาร ทำขนมเก่งทุกอย่างฝีมือไม่ต่างไปจากป้านวลเลยแม้แต่น้อย ส่วนพี่รินก็เชื้อไม่ทิ้งแถวเลยจริงๆ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเลย ทั้งพี่รินและพี่วีตอนนี้ต่างมีหน้าที่การงานทำกันหมดแล้ว พี่วีแกก็ทำงานที่นครปฐมนี่แหละครับเป็นบริษัทรถยุโรปยี่ห้องหนึ่ง(ขอแอบกระซิบไอ้ยี่ห้อรูปคล้ายๆ ดาวนะครับ พี่วีเป็นถึง ผอ.ด้วยนะครับอายุแค่นี้เอง)
ทั้งสองคนพี่น้องเคยที่จะขอย้ายออกจากบ้านคุณย่าเพื่อไปอยู่กันเองด้วยเหตุผลที่ว่าเกรงใจคุณย่า เลยโดนคุณนายปรุงจันทร์เฉ่งเข้าให้ เล่นงานป้าเรียมก่อนเลยจนไม่มีใครกล้าเอ่ยอีกในเรื่องนี้ ถึงป้าเรียมจะบอกว่าตอนนี้ลูกสาวลูกชายก็โตกันหมดแล้วรบกวนคุณย่ามามากแล้ว ไม่อยากรบกวนคุณย่าอีกกลัวคนจะครหาเอาได้ คุณย่าเลยซัดไปอีกดอกว่าอย่ามาคิดแทนท่าน ท่านเองยังไม่คิดอะไรเลยจะไปสนใจใครทำไมกับคำพูดคนอื่น ไม่เห็นจะมีอิทธิพลอะไรกับชีวิตเลยพูดได้ก็ให้พูดไปเหนื่อยมาวันไหนก็หยุดกันเอง อยู่บ้านด้วยกันหลายๆ คน คนเยอะๆ อบอุ่นดีออก แถมยังบอกด้วยว่าเดี๋ยวพอพี่รินแต่งงานไปมีลูกก็ให้มาอยู่ด้วยกันที่บ้านสวน ส่วนพี่วีท่านก็บอกว่าไว้เหมือนกันว่าหากแต่งงานเมื่อไหร่จะสร้างเรือนไทยต่อออกไปให้อีกหลังหนึ่งให้เป็นเรือนหอ ทำให้ทั้งสามแม่ลูกจนด้วยคำพูดทุกประการของคนแก่ขี้เหงาเอาแต่ใจ
บ้านสวนของคุณย่าร่มรื่นมากครับ ตัวบ้านเรือนไทยแบบภาคกลางเป็นเรือนหมู่ เพราะต่อจากส่วนตัวเรือนใหญ่ออกไปอีกเป็นเรือนย่อมกว่า เรียกว่า “หอกลาง” หลังนี้แหละที่คุณพ่อกับคุณแม่ใช้เป็นเรือนหอ นอกจากนั้นยังมีหอรี หอขวาง และหอนั่ง ส่วนหอนกนั้นตอนนี้ถูกรื้อออกไปแล้วตั้งแต่คุณปู่ท่านเสีย นกที่เลี้ยงไว้ก็ถูกนำไปปล่อยหมดแล้ว รอบๆ ตัวเรือนก็แวดล้อมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ที่ดูแล้วสดชื่นสบายตา ถึงจะไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่แต่แถวๆ บ้านสวนคุณย่าท่านก็มีทุ่งนานะครับ คนแถวนี้เขาก็ทำนากัน ต้นไม้น้อยใหญ่ที่โตตามอายุช่วยให้ร่มเงาได้ดีทีเดียว ขอบอกนะครับเพราะบ้านสวนแห่งนี้แหละผมจึงได้พ่อปลื้มมารักและครอบครองอย่างเต็มร้อย อิอิ แต่สภาพตอนที่เจอพ่อปลื้มหลังจากที่มาเผชิญชีวิตบ้านสวนนั้นผมไม่ขอบรรยายนะครับว่าเป็นอย่างไร?
พรุ่งนี้จะเป็นวันมงคลของพี่รินซึ่งคุณย่าท่านรับเป็นเถ้าแก่ให้ฝ่ายหญิง ผมแอบเห็นป้าเรียมพาพี่รินเข้าไปหาคุณย่าที่เรือนใหญ่ หายไปกันนานเลยครับ พอพากันออกมาก็เห็นตาแดงๆ กัน โดยเฉพาะคุณย่าที่ถึงจะแอบเอาแว่นกรอบทองมาบดบังก็เถอะ ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะใส่ ส่วนป้าเรียมกับพี่รินก็ยังคงกอดเกยกันด้วยรอยยิ้มที่ปนน้ำตา
พี่รินกับว่าที่เจ้าบ่าวก็คือพี่พงษ์หรือ ร.ต.อ.พงษ์พิสุทธิ์ นั่นเอง คบกันมานานมากตั้งแต่สมัยทั้งสองคนเรียนมอปลาย พี่พงษ์เคยให้พ่อแม่มาสู่ขอพี่รินหลายรอบแล้วครับ แต่ป้าเรียมก็บอกว่ารอให้เรียนจบมหาวิทยาลัยก่อน พอจบก็ขอให้ทำงานก่อน ไม่อยากให้ใครว่าเอาได้ว่าเกาะสามีกินขอกันอยู่ 3 รอบ จนรอบที่ 3 นี่แหละถึงได้แต่งกันสักที ฝ่ายเจ้าบ่าวก็ไม่เคยเกี่ยงงอนเลยแม้แต่น้อยกับการปฏิเสธไป 2 รอบ เพราะทั้งพ่อแม่พี่พงษ์ต่างรักและเอ็นดูพี่รินมาก จนถึงขั้นขู่พี่พงษ์บอกว่าหากไม่ได้ลูกสะใภ้ชื่อ รินระพี จะไม่มีงานแต่งเกิดขึ้นด้วยเชียวแหละครับ ทั้งสองฝ่ายต่างไปมาหาสู่กันตลอดระยะเวลาที่บ่าวสาวทั้งสองเริ่มคบหาดูใจกัน ทุกอย่างอยู่ในสายตาผู้ใหญ่มาตลอด
คุณย่าท่านจะสอนและบอกพี่รินเสมอว่าเราเป็นผู้หญิงจะเสียหายเอาได้ คุณย่าท่านจะยกเอาสุภาษิตสอนหญิงของท่านสุนทรภู่มาสอนเสมอๆ แต่คนฟังก็ไม่เคยเบื่ออะไรเลยเมื่อดูจากสีหน้าหากแต่จะเป็นสีหน้าแห่งความรักและเคารพทุกครั้งที่คุณย่าท่านเอ่ยบทกลอนมาให้ฟัง ทุกอย่างต้องทำให้มันถูกต้อง เข้าตามตรอกออกตามประตู ผมเลยแอบเอาบทกลอนมาฝากสักนิดนึงแล้วกันครับ
จงรักนวลสงวนนามห้ามใจไว้    อย่าหลงใหลจำคำที่ร่ำสอน
คิดถึงหน้าบิดาและมารดร          อย่ารีบร้อนเร็วนักมักไม่ดี
เมื่อสุกงอมหอมหวานจึงควรหล่น    อยู่กับต้นอย่าให้พรากไปจากที่
อย่าชิงสุกก่อนห่ามไม่งามดี          เมื่อบุญมีคงจะมาอย่างปรารมภ์
อย่าคิดเลยคู่เชยคงหาได้       อุตส่าห์ทำลำไพ่เก็บประสม
อย่าเกียจคร้านงานสตรีจงนิยม       จะอุดมสินทรัพย์ไม่อับจน
ถ้าแม้นทำสิ่งใดให้ตลอด       อย่าทิ้งทอดเที่ยวไปไม่ได้ผล
เขม้นขะมักรักงานการของตน       อย่าซุกซนคบเพื่อนไพล่เชือนแช
เมื่อเหนื่อยอ่อนนอนหลับอยู่กับบ้าน    อย่าเที่ยวพล่านพูดผลอประจ๋อประแจ๋
อะไรฉาวกราวเกรียวอย่าเหลียวแล       ฟังให้แน่เนื้อความค่อยถามกัน
ระวังดูเรือนเหย้าแลข้าวของ       จะบกพร่องอะไรที่ไหนนั่น
เห็นไม่มีแล้วอย่าอ้างว่าช่างมัน       จงผ่อนผันเก็บเล็มให้เต็มลง....ฯลฯ
                     
สุภาษิตสอนหญิง
โดย : ท่านสุนทรโวหาร(สุนทรภู่)

นี่เป็นแค่บางส่วนบางตอนที่คุณย่าท่านพร่ำบอกพร่ำสอนพี่รินมาตลอด คุณย่าท่านจำกลอนบทนี้จนขึ้นใจแล้วครับ เพราะฟังมาตั้งแต่รุ่นคุณทวด ที่คอยพร่ำสอนกันมาเป็นทอดๆ ตามวิถีแห่งสตรีไทยที่ควรรักษาความงามทุกระเบียบนิ้วให้เหมือนกับผ้าพับไว้ ถึงแม้ว่าทุกวันนี้โลกจะเปลี่ยนหมุนเวียนไปไกล ชายหญิงมีความเท่าเทียมกันในทุกๆ ด้าน และมีอิสระทางด้านความคิดกันไปไกลโข แต่คำสอนของบรรพบุรุษก็ยังคงมีคุณค่าแก่การร่ำเรียนเสมอมิขาดหายไปจากสังคมไทยของเราเลย
คุณย่าท่านก็ไม่ได้บังคับอะไรให้พี่รินทำตามที่สอน แต่เพียงบอกว่าฟังไว้แล้วให้ไปคิดว่ามันจริงอย่างที่ผู้ใหญท่านกล่าวไหม? คนเขาอาบน้ำร้อนมาก่อนเตือนไว้ สอนเอาก็ควรเชื่อ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ไม่ได้หนักหนาปานใด ก็คิดพิจารณาประกอบกับยุคสมัยไปด้วยว่าอะไรควรมิควร
คุณย่าท่านรักพี่รินมาก แต่ที่ผมเห็นๆ ท่านก็รักหมดทุกคนแหละทำปากดีปากดุไปเท่านั้นแหละไม่เคยมีใครกลัวหรอกมีแต่รักและเคารพมากกว่า
ส่วนว่าที่เจ้าบ่าวเหรอครับเป็นถึงผู้กองเชียวนะ รายนี่น่ะหล่ออยู่แล้วไม่ต้องคุยเรื่องรูปสมบัติเลย แต่ตำรวจประสาอะไรกลัวเมียมากๆ  แค่พี่รินกระพริบตาเท่านั้นแหละนิ่งเป็นหุ่นเลย ทุกคนในบ้านเคยเจอมาบ่อยๆ
ขนมไทยมงคลทั้งหลายอย่างที่พวกเราทุกคนต่างช่วยกันร่วมแรงร่วมใจบรรจงฝีมือทำกันตั้งแต่เช้ามืดก็เสร็จกันหมดแล้วครับ เวลาก็ล่วงเลยไปค่อนวันกันเลยทีเดียวนี่ขนาดร่วมแรงแข็งขันแล้วนะครับ ผมกับน้องและคนอื่นๆ ต่างช่วยกันทยอยลำเลียง ขนมหน้าตาน่าทานพร้อมชื่อมงคลทั้ง 9 อย่าง อันได้แก่  จ่ามงกุฎ  เสน่ห์จันทร์  ทองหยอด  ทองหยิบ  เม็ดขนุน ฝอยทอง ขนมชั้น  ทองเอก ขนมถ้วยฟู  ทั้งหมดนี่เป็นฝีมือจากน้ำพักน้ำแรงของทุกคนในครอบครัวครับ
ป้าเรียมแกบอกว่าทำไมถึงทำเยอะจัง ระวังมันจะเหลือเอาเลยโดนคุณย่าตอบกลับไปว่า “ทำไว้ทานเองใช่จะเอาไปไหว้เจ้าที่ไหน หากมันจะเหลือก็เอาแบ่งแจกจ่ายบ้านใกล้เรือนเคียงก็ได้” ไม่นานขนมทุกอย่างก็ถูกนำมาเก็บในที่ที่ควรเก็บอย่างเรียบร้อย
“ตาหนุ่มพาพ่อปลื้มมาช่วยย่ายกต้นไม้หน่อยสิลูก!” ผมเพิ่งได้นั่งเองนะครับเนี่ยคุณย่าปรุงจันทร์เรียกผมอีกแล้ว
“ครับ!!!!!!” ไม่ใช่เสียงผมหรอกครับ โน้นเสียงสุดที่รักของคุณย่าโน้น ยิ้มหรามาแต่ไกลเข้ากันดีจริงๆ คู่นี้
“อ้าว!!!!!!!ตาหนุ่มทำไมไม่มาช่วยพ่อปลื้มล่ะลูก???”
“ไม่เป็นไรครับคุณย่าผมช่วยเอง!!” เยี่ยมมากพี่วีมาช่วยผมได้ทันเวลาพอดี
“ให้พี่วีช่วยนะครับคุณย่าหนุ่มเหนื่อยจังขอนั่งพักสักแป๊ปนะครับ”
“ตลอดเลยแหละเราเนี่ย?”
“แฮ่ๆๆๆๆ!!!!”
ทั้งสามคนก็ช่วยกันยกโน้น จับนี่ จัดนู้น แต่จริงๆ ผมว่าคนที่ใช้กำลังงานก็จะมีแต่สองหนุ่มเท่านั้นแหละส่วนคนที่ออกคำสั่งนะเหรอ ชี้อย่างเดียวเลย ต้นไม้ไม่เยอะเท่าไหร่นะ แต่ก็ใช้เวลาพักใหญ่นะเล่นเอาเหงื่อโชกได้เหมือนกัน จัดเสร็จก็ทำให้ด้านหน้าของบันไดทางขึ้นที่แบ่งออกเป็นสองฝั่งดูเป็นระเบียบขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยครับ
“เดี๋ยวตาวีพ่อปลื้มย่าลืมไปเลยว่าสั่งดอกไม้มาด้วยเดี๋ยวไปเอามาจัดนะลูกอยู่หลังบ้านในเรือนเพาะชำ!” งานเข้าอีกรอบ
“ครับ!!!!!” โอ้โห้สองหนุ่มรับคำอย่างไม่เกี่ยงงอนสมแล้วที่คุณย่ารักส่วนผมหลานน้อยๆ ขอนั่งดูดีกว่า อิอิ
สองหนุ่มจัดดอกไม้ที่คุณย่าสั่งมาอย่างเรียบง่ายตามการสั่งงานของแม่ย่าปรุงจันทร์ ดอกไม้ส่วนมากจะเป็นดอกดาวเรืองกับบานไม่รู้โรยอันนี้เป็นความชอบส่วนตัว แต่ก็มีกุหลาบแซมมาบ้างเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศงานพรุ่งนี้ ถึงดอกไม้จะดูไม่ค่อยเข้ากัน แล้วใครจะกล้าขัดใจล่ะครับก็ตามนั้นอีก
การเตรียมงานของวันพรุ่งนี้โดยใช้เวลาวันนี้ทั้งวันทั้งการจัดแต่งสถานที่ ผ้าสวยสีสันต่างๆ ต่างถูกตกแต่งเป็นรูปช่อดอกไม้บ้าง พุ่มโบว์บ้าง ดูสวยงามโดดเด่นงดงาม เวลาก็ล่วงเลยมาจนเย็นย่ำตะวันลาลับขอบฟ้าทุกคนก็ต่างพากันพักผ่อนกายาที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน เพื่อเตรียมรับมือกับงานจริงในวันพรุ่งนี้ตั้งแต่เช้ามืดเช่นกัน ยิ่งพี่รินว่าที่เจ้าสาวของเราพรุ่งนี้ต้องพักผ่อนเยอะกว่าเพื่อน เพราะคุณย่าท่านบอกว่าเจ้าสาวต้องนอนแต่หัววันเลยหากนอนดึกเดี๋ยวตื่นมาตาโหลแต่งหน้าออกมาจะไม่สวย
ค่ำคืนนี้ผมไม่รู้ว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนผมไหมที่รู้สึกตื่นเต้นแทนพี่รินจังขนาดผมทั้งๆ ที่เหนื่อยมากันทั้งวันยังนอนไม่หลับเลย คงไม่ต้องพูดถึงว่าที่เจ้าสาวนะครับว่าจะเป็นอย่างไร แต่ด้วยความเหนื่อยก็ช่วยทำให้ดวงตาหลับลงได้อย่างง่ายแม้ว่าจะคิดพะวงก็ตามแต่
เสียงเอ๊ะอะโวยวายของเช้ามืดวันใหม่เริ่มขึ้น ก็ตามที่รู้กันว่าเสียงใครนะครับที่ไล่เคาะประตูห้องนอนของแต่ล่ะห้องอย่างทั่วถึงขอย้ำนะครับว่า “ทั่วถึง”
“เฟิร์สๆ ตื่นครับ!!” ผมเอ่ยเรียกคนที่นอนกอดผมอย่างไม่อยากจะคลายอ้อมกอด นี่เป็นครั้งแรกเลยนะครับที่มานอนบ้านสวนแล้วผมได้นอนกอดก่ายกันอย่างไม่มีใครมาขัดขวาง อิอิ อยากให้มีงานแต่งที่บ้านนนี่อีกหลายๆ งานจัง
“อือ!!!!”
“ตื่นนะครับเดี๋ยวโดนคุณย่าดุเอา”
“อีกนิดได้ไหมครับ?”
“นะครับตื่นก่อนต้องลงไปช่วยงานเขานะครับ”
“คราฟฟฟฟฟ”
เสร็จสรรพเราสองคนก็ลงมาสบทบกำลังกันกับคนอื่นๆ เช้ามืดของวันทุกคนต่างรู้หน้าที่ ส่วนเจ้าสาวก็กำลังแต่งหน้าทำสวยอยู่กับช่างที่นัดมา จนสายๆ นิดหน่อยทุกคนก็แยกย้ายไปแต่งตัวเตรียมเข้างานตามระเบียบ
คุณย่าวันนี้มาในชุดไทยผ้าไหมดีเยี่ยมสีชมพูอ่อน เป็นชุดที่พี่รินซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีกราย วันนี้ทุกคนมาในชุดไทยกันยกบ้านเลยครับดูแล้วก็เหมือนบ้านคุณหลวงคุณพระ ในอดีตกันเลยทีเดียว ราวกับว่ามีการแสดงสี่แผ่นดินเดอะมิวสิคเคิลกันงั้นแหละ คงพอจะนึกภาพออกกันนะครับ
ข้าวของทุกอย่างถูกจัดวางเข้าที่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นขนมมงคลทุกอย่าง ภัตตาหารสำหรับถวายเพลพระสงฆ์ท่าน และส่วนอื่นๆ อีกมากมาย ตอนนี้ทุกคนต่างออกมายืนรอกันที่หน้าบันไดบ้าน
ผมกับพี่วียืนถือยร้อยทองเส้นหนาของคุณย่าที่ถอดออกจากคอให้เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี่เอง บนเรือนก็เป็นคุณย่า ป้าเรียมและบรรดาคุณพ่อคุณแม่ของเราสองคน และเหล่าญาติผู้ใหญ่ที่นั่งคอยบนชานถัดจากอาสนะที่นั่งพระสงฆ์
คุณย่ากับป้าเรียมหันมองหน้ากันอย่างไม่ขาดสาย ผอมแอบเห็นป้าเรียมยิ้มไม่ยอมหุบเลย แต่ก็มีบ้างที่แอบยกมือที่ถือผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยขึ้นมาซับขอบตาบ่อยๆ เช่นกัน
น่าใจหายนะครับที่พี่รินจะออกเรือนไปแล้ว แต่คาดว่าคงไม่นานเท่าไหร่หรอกบ้านนี้คงจะกลับมาครึกครื้นกว่าเดิมแน่ เพราะคุณย่าบอกไว้แล้วว่าให้เวลา 3 เดือนคุณย่าต้องได้ข่าวดี คงน่าสนุกน่าดูนะครับหากมีหลานตัวน้อยๆ มาวิ่งเล่นซุกซนกันในบ้านใหไล่จับกัน
นางเอกของงานถูกเก็บตัวไว้ในห้องอย่างมิดชิดเพื่อรอเวลา แต่ถึงชิดและมิดแค่ไหนผมก็สามารถแอบไปดูมาแล้ว  พี่รินสวยมากครับ แต่งหน้าไม่จัดเลย ผมรวบได้ทรงแล้วยังใส่ชุดไทยกันอีกครับ ผมว่างานนี้คงเป็นคอนเซ็ปส์ชุดไทยแน่นอน เสื้อสีขาวลูกไม้ระบายตามลายและทรง เป็นระย้าขึ้นตรงคอร้นสูงตามลำคอระหงส์เข้ากับรูปร่างพี่รินมากแถมเข้ากับโจงกระเบนสีครีมและผ้าสไบพาดบ่า พร้อมสวมสร้อยมุกเส้นใหญ่ของคุณย่าทีมอบให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน พี่รินยิ้มแย้มดูมีความสุขเหลือเกิน
ใครๆ ก็บอกว่าช่วงวันเวลาที่มีความสุขมากที่สุดของผู้หญิงก็คือวันแต่งงาน ผมว่าก็จริงนะครับดูอย่างพี่รินสิครับ แต่ผมคิดว่านะครับการแต่งงานมันไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการมีชีวิตคู่ หากมันคือจุดเริ่มต้นของชีวิต เพราะเมื่อเรามีความรัก สิ่งที่ตามมาก็คือความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ รับผิดชอบในความรักซึ่งกันและกัน อีกทั้งภาระที่หนักอึ้งยังคงรออยู่ในหนทางข้างอีกมากมายที่รอให้คู่ผัวตัวเมียได้พบเจอและร่วมฝ่าฟันไปด้วยกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2014 11:33:30 โดย Calo love »

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
ไปหาป๊อปคอร์ น้ำอัดลม ขนมทุกชนิด มานั่งรอ เค้าจาแต่งกันแว๊ว  :z2:

จาจบแว๊ววว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด