[SF-TaoKacha] Cardiotoxin เมื่อความรักเป็นพิษต่อหัวใจ.. End! Special Part
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [SF-TaoKacha] Cardiotoxin เมื่อความรักเป็นพิษต่อหัวใจ.. End! Special Part  (อ่าน 85945 ครั้ง)

ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6

ออฟไลน์ art

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
นิยายเรื่องนี้ชอบมาก พึ่งรู้ว่าคุณ Kungwon แต่ง เป็นเรื่องที่ผมอ่านและติดตามมาก ๆ อ่ะ ตอนออกจากบ้านใหม่ ๆ
รู้สึกคนเขียนชอบเหมือนเราเลยนะ รักเต๋าคชา แต่แอบอยากให้นอกใจ เบา ๆ โอ๊ยยยย มันได้อารมณ์อีกแบบ(โรคจิต?)
เต๋าต้นเคยแอบเห็นโมเมนท์นิด ๆ แต่จินตนาการได้แบบสามโลก สไตล์การเขียนถือว่าโอเคมาก ๆ อ่านแล้วอารมณ์บรรเจิดดี ถ้าได้ประสบการณ์การอ่านอย่างโชกโชน? แล้วนำทริคต่าง ๆ มาใช้ด้วย จะทำให้งานเขียนมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นไปอีก สู้ ๆ นะ ปอลอ . แต่งเรื่องใหม่ให้อ่านหน่อยดิ เขาชอบพล็อตเรื่องของคนแต่งมาก ๆ อ่า >*<

K2ULIKE

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Dakzy

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
ว่าแล้วว่าต้นต้องมีอะไร แต่นึกว่าจะกับคชาซะอีก เห็นในบ้านคู่นี้ก็แอบซัมติงกันเล็กๆ แต่เราไม่จิ้น เอิ๊กๆ

จริงๆเราก็ว่าจบไม่ค่อยเคลียร์ แต่ก็พอจะเดาถึงความสัมพันธ์ในอนาคตของทั้งคู่ได้นะคะ เพราะมันค่อนข้างจะ"ชัดเจน"เลยทีเดียว

ไว้จะรออ่านสเปของเต๋าคชานะคะ ลุ้นคู่นี้มากมาย

ส่วนของคู่เต๋าต้น ขออนุญาตไม่อ่านนะคะ เราไม่สามารถจิ้นคู่นี้ได้ เหมือนนอกใจคชา ขอโทษด้วยค่า><

ออฟไลน์ mintmadee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกมากกกก แต่งต่อเร็วๆนะคะ ไรท์เตอร์สู้ๆ

Huasia

  • บุคคลทั่วไป
อ่านเจอในเด็กดีแล้วชอบมากค่ะ   อย่าลืมคู่เต๋าคชาน้าาาา

ออฟไลน์ tune

  • ⅓ of TUNEiND ...
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
มาตามอ่านจากคำเชียร์เพื่อนสาว 55

ขอแอบแปะเม้นไว้ก่อนนะคะ ช่วงนี้ใกล้สอบเหมือนกัน ,สอบเสร็จเคลียร์งานเรียบร้อยจะรีบมาอ่านมาเม้นโดยไวค่ะ

ออฟไลน์ KuNgWoN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Cardiotoxin

..ถ้าวิ่งตามคนข้างหน้าไม่ทันจนเหนื่อยแล้ว..
..ก็ช่วยชะลอให้คนข้างหลังตามทันหน่อยได้ไหม?..

.
.

เสียงเพลงแนวโซลที่ดังมาจากเครื่องเล่นชั้นดีราวจะขับกล่อมให้ผู้โดยสารเคลิบเคลิ้มไปกับท่วงทำนองเหล่านี้  หากแต่น่าประหลาดนักที่ฝ่ายเจ้าของรถซึ่งชื่นชอบแนวเพลงนี้นักหนาจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวนั้น  กลับแสดงสีหน้าที่เบื่อหน่ายโลกนี้เสียเหลือเกิน

เด็กหนุ่มที่นั่งมาเป็นเพื่อนหลังจากฝ่ายเจ้าของรถเพิ่งไปหาหมอมาเพียงแต่ปรายตามอง  เจมส์เห็นสีหน้าของอีกคนเป็นอย่างนั้นก็ได้แต่นิ่งเงียบ  รู้ดีว่าถ้าหากถามอะไรไม่ถูกใจออกไปคงได้โดนวีนกลับมาเป็นแน่  ก็เวลาที่พี่ต้นเหวี่ยงน่ะน่ากลัวอย่างกับอะไรดี..

อันที่จริงทั้งตัวรถคงจะได้มีแต่เสียงเพลงดังคลออย่างนั้นไปจนถึงจุดหมายเป็นแน่  ถ้าหากไม่ได้ปลายสายของใครบางคนที่มาเป็นเสียงสวรรค์ช่วยชีวิตไว้ล่ะก็.. บางทีเจมส์อาจต้องอึดอัดจนเฉาตายในตัวรถคนนี้ก็เป็นได้  ส่วนฝ่ายสารถีที่นั่งหน้ายู่มาตลอดทางนั้นก็เหมือนจะยิ่งขัดใจ  เรียวมือเอื้อมไปหรี่เสี่ยงจากเครื่องเล่น

“ มีอะไรว่ะแก? ”

“ .... ”

“ หืม? เต๋ามันไปหัวหินหรอ? ฉันไม่เห็นจะรู้เลย ”
ทันทีที่ได้ยินชื่อของเต๋า  ใบหน้าของคนอายุมากกว่าที่แสดงแต่ความไม่พอใจมาตลอดทางนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นคาดเดาอารมณ์ได้ยาก

“ งั้นหรอ?  นี่คชา.. ถ้าเจอเต๋าแล้วฝากดูแลมันด้วยล่ะกัน   ฉันเป็นห่วง.. ”

เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงเบาะข้างเพียงแต่รับฟังบทสนทนาเหล่านั้นอย่างนิ่งงัน  พลันนั้นเองที่ประโยคสุดท้ายของการติดต่อได้สร้างความรู้สึกหนึ่งให้เอ่อล้นขึ้นมาอย่างประหลาด   คำว่า ‘เป็นห่วง’ จากต้น.. จะมีสักครั้งไหมที่เจมส์จะได้รับมันบ้าง?  แล้วเมื่อไหร่ที่คนตรงหน้าจะเลิกมองว่าเขาเป็นเด็กน้อยที่เอาแต่ร้องหาความสนใจเสียที?..

“ เต๋ามันไปหัวหินไม่บอกใครเลยว่ะ!  ปกติมันต้องบอกพี่ทุกเรื่องนะเนี่ย ”

ธนษิตคงเห็นว่าบรรยากาศในตัวรถมันวังเวงเกินไป  จึงหยิบเอาประเด็นที่เพิ่งได้กล่าวกับปลายสายเมื่อครู่ขึ้นมาพูดคุย  โดยที่ไม่ได้จะสนใจเลยว่าเขาอยากจะฟังมันบ้างหรือเปล่า?  ทำไมทีกับเขาที่โทรบอกเรื่องราวทุกอย่างให้ต้นฟังเสมอกลับกลายเป็นรำคาญใจ?  ทีกับคนอื่นแค่ไม่รู้อะไรเล็กน้อยทำไมต้องเสียงเศร้าขนาดนั้น?

“ เพิ่งออกจากโรงพยาบาลแท้ๆ อยู่ๆก็ดอดไปอย่างนั้น  พี่ล่ะเป็นห่วงมัน.. ”
เอาอีกแล้ว.. คำว่าเป็นห่วงคำนั้น  มันวกกลับมาตอกย้ำความเจ็บปวดในห้วงใจของเด็กหนุ่มอีกแล้ว..  เจมส์เองก็ได้แต่ตั้งคำถามในใจ.. ถ้าหากวันหนึ่งเขาจะหายไปโดยไม่บอกไม่กล่าวกันบ้างล่ะ?  ต้นจะยังห่วงหาเขาอยู่หรือไม่?..  ยิ่งครุ่นคิด.. ก็ยิ่งมีแต่ความน้อยใจ..

_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _


“ อ่ะพี่  กินซะ.. รับรองติดใจ! ”

ปูเล่ผัดน้ำมันหอยที่เพิ่งพ้นจากกระทะไม่นานถูกเสิร์ฟมาวางไว้ตรงหน้าชายหนุ่มที่นั่งหน้านิ่งเหมือนคนเหม่อลอยมาตลอดทางจนน่าเป็นห่วง  เรียกว่าขับรถมาถึงที่นี่ได้ก็นับว่าบุญ..   นัยน์ตาคมโตคู่นั้นปรายมองกับข้าวจานร้อนก่อนจะยิ้มขอบคุณให้กับอีกคน  แต่ก็ยังไม่วายเอ่ยแซว

“ จะกินได้แน่หรอ? ”

น่าประหลาดนักที่เจมส์รู้สึกว่าดีใจที่ได้ยินคำแซวจากคนเป็นพี่  มันยังดีกว่าการนิ่งเงียบจนผิดวิสัยของเจ้าตัว   “ ไม่เชื่อใจผมหรอ? ”

“ ถ้ากินไปแล้วฉันจะตายป่ะ? ”  ว่าพลางก็ใช้ส้อมเขี่ยเจ้าผักสีเขียวในจานไปมา

“ ไอ่เจมส์รับรองเลยพี่! ฮ่าๆ ”

เด็กหนุ่มที่อาสาเป็นพ่อครัวประจำมื้อการันตีนักหนาก่อนที่เรียวมือจะเลื่อนจานข้าวสวยสองใบวางบนโต๊ะ  รับประทานเจ้าผัดปูเล่.. ต้นพืชที่มีลักษณะเป็นกลีบซ้อนๆกันเหมือนดอกช่อกุหลาบช่อโต  หากแต่รสชาติกลับคล้ายคลึงคะน้า  มันถูกปลูกไว้ที่ริมระเบียงห้องของต้นมาในระยะหนึ่งแล้ว  หากแต่เจ้าตัวก็กลับไม่รู้ว่ามันชื่อ ‘ปูเล่’ ด้วยซ้ำไป

อันที่จริงมื้อเย็นในวันนี้ควรจะดำเนินไปอย่างเป็นสุขด้วยซ้ำ  หากไม่ใช่เพราะอะไรบางอย่าง.. ธนษิตก้มมองเด็กหนุ่มที่ตักผักสีเขียวใส่ในจานของเขาให้  พลันนั้นเอง.. จิตใจที่เคยคิดว่าจะแข็งแกร่งได้ดังเดิมกลับอ่อนยวบดั่งขี้ผึ้งลนไฟเพราะใบหน้าและการกระทำของใครบางคนที่ซ้อนทับเข้ามา  ตะกอนแห่งอดีตซึ่งควรจะอยู่ในเบื้องลึกแห่งความทรงจำกลับลอยคลุ้งขึ้นมา


เคร้ง!

ช้อนส้อมสีเงินในมือร่วงลงกระทบจานกระเบื้องท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของคนอายุน้อยกว่า  ก่อนที่ร่างของธนษิตจะเดินห่างออกไปจากโต๊ะในห้องครัว  เจมส์นึกอยากจะทักท้วงเสียเหลือเกินว่าทำไมอีกคนถึงได้ผลีผลามเดินหนีไปอย่างนี้  แต่ก็เกิดอาการน้ำท่วมปากขึ้นมาเสียดื้อๆ


..เดินหนีกันอีกแล้ว..
..แล้วเมื่อไหร่คนที่เดินตามหลังอยู่อย่างเขาจะตามทันเสียที?..

.
.


รอยยิ้มและการกระทำของเจมส์เมื่อครู่มันเหมือนกับเต๋าไม่ผิดเพี้ยน..

ธนษิตไม่รู้ว่าตัวเองก้าวมาจากสถานที่ซึ่งทำให้ภาพอดีตลอยวนขึ้นมานั้นได้นานเท่าไหร่แล้ว  จะให้หลุดพ้นจากมันได้.. เห็นทีคงต้องกำจัดอาการคุ้มดีคุ้มร้ายในตัวเสียก่อน  ขณะที่ในใจก็นึกเป็นห่วงความรู้สึกของคนอายุน้อยกว่านั่น  ที่อยู่ๆเขาก็นึกจะลุกหนีกลางมื้ออาหารอย่างนี้   ป่านนี้คงนั่งน้อยใจอยู่เป็นแน่.. และอีกไม่นานก็คงจะมาโวยวายเอาแต่ใจอีกตามเคย

..บางทีต้นก็นึกรำคาญกับการเวิ่นเว้อที่เกือบจะเกินพอดีของเด็กหนุ่มเหมือนกัน..

พลันนั้นเองที่ความรู้สึกเหมือนมีสายตาอีกคู่จับจ้องอยู่ได้ปรากฏขึ้น  ต้นหันมองไปทางหลัง  เด็กหนุ่มที่เขากำลังนึกถึงเมื่อครู่ยืนอยู่ตรงนั้น  ไม่มีการโวยวาย.. ไม่มีแม้กระทั่งการเข้ามาง้อ..  มีเพียงความนิ่งเงียบอันน่าอึดอัดซึ่งผิดไปจากวิสัยเดิมของฝ่ายนั้นมาก  มันยิ่งก่อความรู้สึกผิดในใจของต้นขึ้นมามากมาย

“ เอ่อ.. พี่ขอโทษที่อยู่ก็เดินออกมา  ไม่ใช่ว่ากับข้าวที่แกทำไม่อร่อยนะเว้ย  แต่พี่.. กินไม่ลงจริงๆว่ะ ”

“ ผมไม่รู้หรอกว่าหมอเค้าบอกอะไรพี่มาบ้าง  แต่พี่ก็ควรจะกินมันให้หมดนะ ไม่ใช่ปล่อยให้มันรอเก้ออยู่อย่างนี้ ”

ต้นพยายามพับเก็บเรื่องราวอันขมขื่นลงในห้วงใจอย่างเงียบเชียบ  เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ.. ทำไมตนเองถึงได้เป็นตัวสร้างปัญหานักนะ?  แค่สร้างความวุ่นวายให้กับเต๋าคชายังไม่พอ.. นี่ยังจะก่อความหนักใจให้เด็กหนุ่มตรงหน้านี้ไปด้วย

“ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะพี่?  ยิ้มหน่อยดิพี่ ไม่มีใครตายซะหน่อย.. ”  ว่าพลางก็เลื่อนมือไปจับบนใบหน้าของคนเป็นพี่  นิ้วเรียวพยายามดันมุมปากให้ยกยิ้มขึ้นมา 

หากแต่แทนที่ธนษิตจะยิ้มออก  การกระทำของเจมส์มันเหมือนจะยิ่งตอกย้ำให้นึกถึงใครอีกคนมากเกินไป.. ต้นกำลังคิดถึงเต๋าอย่างห้ามไม่อยู่  เป็นอีกครั้งที่ความอ่อนแอถาโถมเข้ามาจนเขารับแทบไม่ไหว

“ หลีกทางไปซะ  พี่จะกลับไปทานข้าวต่อ ”

หาได้รู้ไม่ว่าหัวใจดวงน้อยของใครอีกคนที่แสนจะบางเบาแทบจะขาดเป็นแล่นริ้วเนื่องด้วยอาการบอกปัดและท่าทีที่เหมือนเขาเป็นเพียงฝุ่นละอองที่ไม่ควรจะเฉียดกรายเข้าใกล้..  แค่ความเฉยชาที่ถูกมอบให้ในวันวานเจมส์ยังพอทนได้  แต่สายตาที่บ่งบอกถึงความรำคาญอย่างนี้.. ฆ่าเขาให้ตายไปตรงนี้กันเลยดีกว่าไหม?

..เขาแค่อยากให้สายตาคู่นั้นมองเขาอย่างคนรักในสักวัน..
..แต่ก็รู้ว่าคงเป็นได้เพียงฝันก็เท่านั้น..


_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
 

หลังจากที่ผ่านพ้นมื้ออาหารที่เต็มไปด้วยคามเงียบเชียบ  กับข้าวซึ่งฝ่ายคนเป็นพี่จำต้องกล้ำกลืนมันอย่างยากลำบาก.. หาใช่เป็นเพราะรสชาติของมันแย่หรอกนะ  เรียกได้ว่าอร่อยด้วยซ้ำ.. หากแต่ก้อนสะอื้นที่ยังคั่งค้างในลำคออีกทั้งความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านทั้งอกอย่างนี้ไม่ว่าจะกินอะไรมันก็ขมเฝื่อน

มันไม่ได้แย่เพียงแค่ต้นจะทานอะไรไม่ลง..  มันแย่ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อต้นพบว่าอาการเดิมๆของตัวเองกำเริบมาอีกครั้ง..


..insomnia..

ต้นนึกถึงอาการที่นายแพทย์เพิ่งได้กล่าวกับเขามาในวันนี้   อาการนอนไม่หลับอันเนื่องจากความเครียดจนทำให้กระสับกระส่ายเกินไปของเขามันเป็นมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว  หากปล่อยให้มันเป็นไปโดยที่ไม่ยอมหาหนทางในการลิดรอนความเครียดเหล่านั้นออกไป  มันอาจจะจะยิ่งหนักหนาจนกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้..

นัยน์ตาคมโตที่ไม่สามารถข่มให้เจ้าของมันเข้าสู่ห้วงนิทราได้เลยในคืนนี้  แหงนขึ้นมองเพดานว่างเปล่าท่ามกลางความมืดสลัวอย่างเหม่อลอย  แผ่นดาวพลาสติกซึ่งมันเคยดารดาษในก่อนหน้านั้นถูกทิ้งลงถังขยะไปได้ในระยะหนึ่งแล้ว..  ต้นทำใจอยู่เป็นเวลานานว่าควรจะเอามันออกไปจากชีวิตดีหรือไม่?  แต่เมื่อเข้าใจได้ว่าตนเองควรจะตัดใจได้แล้ว.. จึงต้องจำยอม

มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย!  หลังจากวันนั้นที่ต้นได้บอกความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองให้เต๋าได้รับรู้แล้วนั้น..  ฝ่ายนั้นเอ่ยเพียงคำขอโทษมาแค่ครั้งเดียวก่อนจะแสดงท่าทีเป็นปกติราวกับไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้นมาก่อน  ..สมแล้วสินะที่เป็นเจ้าพ่อแอคติ้งแบบนั้น  ผิดกับตัวเขา.. นอกจากจะพยายามตัดใจไม่ได้แล้ว  ยังต้องมาเผชิญกับความเจ็บปวดไม่รู้จักจบสิ้นนี่อีก..
..ความรู้สึกของคนเราคงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากเกินไป..

ธนษิตพลิกร่างไปอีกทางอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเด็กหนุ่มอีกคนมากนัก  อันที่จริงการมานอนเป็นเพื่อนในคืนนี้ของเจมส์เพราะพรุ่งนี้เช้าต้องมีงานร่วมกันอาจทำให้เขายกเตียงให้ชั่วคราว  หากแต่ไม่รู้อะไรนักหนา.. ฝ่ายเด็กหนุ่มกลับยืนยันว่าจะนอนร่วมห้องซะให้ได้เพราะอาการของเขามันน่าเป็นห่วงเกินไป!   

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะต้นแสดงอาการเหล่านั้นมากเกินไปหรือเพราะอีกคนนั้นชอบมายุ่มย่ามกับตัวเขาเป็นประจำทุกเรื่องอยู่แล้ว..  หากแต่ใจของต้นกลับเอนเอียงไปทางสาเหตุแรกเสียมากกว่า  ก็ตัวเขาน่ะ.. ไม่มีเลยสักครั้งที่จะสามารถเก็บซ่อนความลับเอาไว้ได้เลย.. ทั้งสีหน้าและแววตา..

เสียงครืนครั่นของสายฝนจากภายนอกยังคงกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย  ยิ่งทำให้ทัศนียภาพขุ่นมัวลงยิ่งกว่าเดิมเมื่อทุกอย่างกลืนหายในม่านฝน  ต้นรู้สึกอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก  ทางข้างหน้าที่ปรากฏอยู่มันมืดมนเกินกว่าที่เขาจะกล้าก้าวออกไปเพียงลำพัง  เหตุใดพระพิรุณจึงทรงลงโทษเขาในช่วงเวลาที่จิตใจกำลังดำดิ่งสู่ด้านมืดที่ไม่อาจหลุดพ้นเช่นนี้?

..ต้นปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองยังไม่อาจละจากดวงดาวเหล่านั้นได้เสียที..

ชายหนุ่มผุดลุกจากที่นอนขึ้นมาในท่านั่ง  ยอมแพ้ให้กับอาการนอนไม่หลับของตัวเอง..  หยาดเหงื่อชุ่มแผ่นหลังทั้งที่เครื่องปรับอากาศยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างดีเยี่ยม  สุดท้ายแล้วไม่ว่าอย่างไรต้นก็ไม่อาจหลุดพ้นจากเขาวงกตแห่งความเจ็บปวดเสียที  ยิ่งดิ้นรนหาทางออกเท่าไหร่.. ก็ยิ่งจะหลงวนอยู่ในนั้น..

ต้นค่อยๆเดินออกจากห้องนอนอย่างเงียบเชียบ  หาทางไปสงบจิตใจอันว้าวุ่นของตัวเอง..


โดยที่หารู้ไม่ว่าใครอีกคนนึงก็ยังนอนไม่หลับเช่นกัน..

เด็กหนุ่มมองผ่านความมืดไปยังบานประตูที่เพิ่งปิดตัวลงไปไม่นานนัก  ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นบ้าง  อันที่จริงความง่วงงุนก็ร้องเรียกให้เจมส์เข้าสู่ห้วงนิทราไปตั้งหลายครั้งหลายครา  หากแต่จิตใจที่มันเป็นห่วงอีกคนนั้นกลับมีอิทธิพลมากกว่า  เขาไม่สามารถหลับลงในคืนนี้หากไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นมีอะไรไม่สบายใจกันแน่

ใครกันที่ทำให้คนเป็นพี่ของเขาต้องมาเป็นทุกข์ถึงขนาดนี้?..  แล้วคนที่เฝ้าแต่ห่วงหาอยู่ห่างๆอย่างเขาก็ได้แต่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนน่ารำคาญ!  ทั้งที่เจมส์ก็แค่เป็นห่วง.. เท่านั้นจริงๆ
.
.

เปลวเพลิงที่ถูกจุดจากไฟแช๊กทอประกายในความมืด  กลุ่มควันสีเทาจากปลายบุหรี่ที่เพิ่งถูกอัดเข้าปอดไปไม่นานปลดปล่อยออกมาพร้อมลมหายใจลอยล่องกระจัดกระจายไม่ต่างจากความคิดของเขาในตอนนี้เลย  กรุ่นกลิ่นของมันที่ใครหลายคนพยายามหลีกเลี่ยงนั้นกลับเป็นสิ่งที่ต้นหลงใหลยิ่งนัก..

ธนษิตรู้สึกเหมือนความคิดฟุ้งซ่านของตนเองเมื่อครู่นั้นค่อยๆเข้าที่เข้าทาง  มันกลับสงบลงได้มากโขหลังจากที่นำเอาควันบุหรี่เข้าหาร่างกาย.. ต้นรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องดีนักหรอกกับการทำแบบนี้  ยิ่งเขาเป็นนักร้องก็ยิ่งจะพาลให้เกิดผลเสียไปกันใหญ่  แต่มันคือเพื่อนคลายเครียดที่ดีที่สุดแล้ว..

“ นี่พี่เริ่มสูบมันตั้งแต่เมื่อไหร่? ”

ต้นสะดุ้งกับการปรากฏตัวไม่บอกไม่กล่าวของเด็กหนุ่มเล็กน้อย  แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากมายนัก  เขายังคงละเลียดกับกลุ่มควันสีเทาโดยไม่แยแสกับสายตาคาดโทษของอีกคนเลย   ร่างสูงถอนหายใจก่อนจะก้าวเข้าหาคนเป็นพี่  ทว่ากลับได้รับการต้อนรับด้วยกลุ่มควันพิษที่ทำให้เจมส์สำลักจนไอโขลก

“ แค่ก.. พี่ต้น! พ..พี่ทำบ้าอะไร?! ”

“ เรื่องของพี่.. แกอย่ามายุ่งเลยดีกว่า ”  ที่กล่าวไปอย่างนั้นไม่ได้เป็นการบอกปัดเพราะความรำคาญ  แต่ต้นไม่ต้องการให้ใครต้องมาวุ่นวายกับเรื่องไม่เป็นเรื่องของเขาอีกต่อไป.. ขอให้ความวุ่นวายทุกอย่างยุติลงที่เขาก็พอ..

หากแต่เหมือนเด็กหนุ่มจะตีความในประโยคนั้นผิดไป  คิดว่าตัวเองเป็นคนที่ใครก็ต่างไม่สนใจ.. ไม่มีใครต้องการ.. พลันนั้นเองที่ความน้อยใจก่อตัวในห้วงอารมณ์ขึ้นมาอย่างร้ายกาจ  ภูมิคุ้มกันความอดทนที่มีเพียงน้อยนิดถูกทำลายลงจนสิ้น  เจมส์ต้องการ!.. ต้องการให้อีกคนนี้ล่วงรู้เสียทีว่าส่วนลึกในใจของเขากำลังคิดอะไร

มวนบุหรี่ในมือถูกกระชากออกก่อนจะบี้มันกับพื้นให้ไฟดับอย่างไร้ไยดี  ต้นหันมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง  แต่ก่อนที่จะได้ทักท้วงอะไร  ร่างสูงใหญ่ก็กลับรวบร่างเขาไว้ก่อนจะเหวี่ยงลงบนโซฟาในตัวห้องรับแขกแห่งนี้

“ เจมส์! ทำอะไร?! ”  ทุกอย่างมันดูรวดเร็วเกินกว่าที่ต้นจะตั้งตัวได้ทัน  ไม่คิดว่าคนที่เขาเห็นเป็นน้องชายมาตลอดจะกล้าทำแบบนี้

“ เจมส์!  ปล่อย!! ”

เจมส์ได้ยินเสียงตะโกนร้องของต้นอยู่ตลอดเวลา  หากแต่ปีศาจตัณหาที่เข้าครอบงำอยู่นี้มีอิทธิพลต่อจิตใจมากกว่า  การขัดขืนอย่างเอาเป็นเอาตายของร่างข้างใต้นั้นเป็นเพียงพละกำลังอันน้อยนิดเมื่อเทียบกับเรี่ยวแรงของเด็กหนุ่ม..  มันเป็นแค่การกระทำที่ปลุกปั้นอารมณ์บางอย่างของเขาให้ลุกโชนขึ้น

“ ป..ปล่อย!  อื้อออ!! ”

ธนษิตอยากจะกรีดร้องให้สุดเสียง  หวังให้ใครสักคนมาช่วยในเวลานี้  แรงดิ้นขัดขืนก็ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์เพราะยิ่งจะมีแต่ทำให้เรี่ยวแรงลดน้อยลง   พลันนั้นเองที่เรียวปากหนานุ่มจากร่างข้างบนตรงเข้ามากอบโกยความหวานอย่างจาบจ้วง  สัมผัสโค้งหยุ่นนั่นทำให้ต้นนึกกลัวจนต้องกัดเรียวปากของอีกคนที่รุกล้ำเข้ามาเพื่อหาทางเอาตัวรอด

หากแต่ทุกอย่างมันก็ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น   เจมส์ยังคงไม่ลดละ..  กลับยิ่งกดจุมพิตลงมาอย่างหนักหน่วงและรุนแรงโดยไม่ได้สนใจถึงรอยฟันที่ถูกขบไปเมื่อครู่แม้แต่น้อย  ทั้งกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นบุหรี่ที่เด็กหนุ่มร่างสูงเกลียดนักหนาผสานปนเปอยู่ในโพรงปาก..


“ จ.. เจมส์.. ฮึก..ฮ..ฮือ.. ”

เสียงสะอื้นของคนเป็นพี่นั้นค่อยๆพาความคิดของร่างสูงที่อยู่ในภวังค์นั้นกลับเข้าสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง  ทุกอย่างอยู่ในสภาวะปกติ  มวนบุหรี่ยังคงอยู่ในมือของต้น.. และฝ่ายนั้นก็ไม่ได้นอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ใต้ร่างของเขาด้วย.. เจมส์นึกอยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆที่บังอาจให้เรื่องเลวร้ายเข้ามาอยู่ในห้วงคำนึงได้..

..หากแต่เสียงสะอื้นที่ได้ยินนั้นคือเรื่องจริง..


“ พี่ต้น.. พี่เป็นอะไร? ”

“ แกรู้ใช่มั๊ย?.. ว..ว่าพี่กลัว..ความมืด.. ”  มวนบุหรี่ในเรียวมือค่อยๆสั่นระริก  สุดท้ายแล้วแม้แต่เพื่อนคลายเครียดอย่างเจ้าสารนิโคตินนี่ก็ไม่สามารถลดความขมเฝื่อนในห้วงอารมณ์ไปได้เสียที

“ พี่เกลียดกลางคืน! พี่กลัวความมืด! พี่มันคนใกล้บ้าเพราะอาการนอนไม่หลับ! พี่เกลียดตัวเอง! เกลียดทุกอย่าง!! ”  ราวกับความอัดอั้นในใจที่เคยมีทั้งหมดถูกพรั่งพรูออกมาพร้อมกันกับหยาดน้ำตา

“ พี่ต้น.. ” ความรู้สึกบางอย่างมันหนักหน่วงในห้วงใจเหลือเกิน  ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าหาก่อนจะดึงบุหรี่ในมือของอีกคนนึงออกมา    “ อย่าสูบมันอีกเลยนะ มันช่วยอะไรพี่ไม่ได้หรอก ” 


ครืด..

ทันใดนั้นเองเสียงสั่นของอุปกรณ์สื่อสารที่กระทบกับพื้นโต๊ะก็เบนความสนใจของคนทั้งคู่ให้หันไปมอง  ต้นคว้าเอาสมาร์ทโฟนคู่ใจของตนขึ้นมา  ข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอทำเอาตัวเขาสั่นสะท้านไปทั้งใจ.. เพราะเจ้าของเบอร์ที่ส่งมันมา.. คือคนที่ทำให้ต้นต้องทรมานกับความรักเจียนตาย..  เต๋านั่นเอง

..ขอโทษนะที่ไปหัวหินไม่ได้บอก..

และแน่นอนว่าภายในตัวห้องที่มีเพียงแสงสลัวจากเสาไฟนีออนภายนอก  ข้อความบนหน้าจอย่อมปรากฏให้อีกคนได้เห็นมันด้วยอย่างชัดเจนเช่นกัน  เจมส์เงยมองใบหน้าของคนตรงหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสน.. คราวนี้เขาจึงเข้าใจแล้วทุกอย่างว่าใครกันที่ทำให้ต้นต้องเป็นแบบนี้

“ นี่พี่ต้น.. ชอบพี่เต๋าหรอ? ”  ยิ่งเห็นประกายหวั่นไหวที่สะท้อนจากแสงของหน้าจอมือถือก็ยิ่งทำให้เจมส์มั่นใจ..

“ เจมส์.. พ..พี่ไม่รู้ว่าพี่จะทำยังไงดี?.. ”  เสียงสะอื้นอันน่าเวทนาดังระงมในตัวห้องราวกับจะค่อยๆกรีดลึกลงในห้วงใจของคนอายุน้อยกว่า  เพราะยิ่งฝ่ายนั้นเจ็บปวดกับความรักมากเท่าไหร่.. เจมส์ก็เจ็บยิ่งกว่าเป็นเท่าตัว

บุหรี่ที่ถูกดึงมาจากเรียวมือของอีกฝ่ายไหวระริก  เด็กหนุ่มร่างสูงเลื่อนประตูกระจกริมระเบียงออกก่อนจะโยนมันทิ้งให้กลืนหายไปกับม่านฝนยามรัตติกาล  ขณะนั้นเองที่สายฟ้าฟาดลงมายังพื้นดิน  แสงสว่างวาบที่ปรากฏขึ้นแค่เพียงชั่วครู่ก็ทำให้ต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่านัยน์ตาของทั้งคู่ก็ต่างเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำ

“ พี่ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นหรอก.. ”  ร่างสูงใหญ่เข้าตระกองคนเป็นพี่ไว้ในอ้อมแขนอย่างแผ่วเบา  อยากดูแล.. อยากทะนุถนอมคนๆนี้ไว้ให้ดีที่สุด..    “ รู้มั๊ยว่าผมอิจฉาพี่เต๋าแค่ไหน? ”

“ ถ้าในความคิดของพี่มันจะมีแต่พี่เต๋าอย่างนี้.. ผมก็รู้แล้วว่าผมไม่มีสิทธิ์.. ”

“ จ..เจมส์.. ”  ต้นเอ่ยออกมาอย่างเชื่องช้าด้วยความตกตะลึง  นัยน์ตาคมโตจับจ้องบนใบหน้าหล่อจัด  ไม่คาดคิดว่าความรู้สึกของอีกคนมันจะเกินเลยกว่าคำว่าพี่น้องกัน    “ นี่แก.. ”

ต้นรู้ว่านั่นคือความรู้สึกดีๆที่อีกคนอยากจะมอบให้  แต่เขาไม่ได้ต้องการมันเลยสักนิด!  ราวกับกำแพงแห่งความไว้วางใจที่เคยมีให้อีกคนมาโดยตลอดกลับถูกทำลายจนพังครืนลงมาด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ  จากที่เคยซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเด็กหนุ่มแต่โดยดีก็กลับขืนออกมา

“ ออกไปนะ.. ”

“ พี่.. ”  ทั้งที่ในใจของเจมส์เคยเตรียมตัวรับไว้แล้วว่าถ้าหากบอกมันออกไปบางทีอาจต้องเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้.. หากแต่เมื่อได้เผชิญกับมันซึ่งๆหน้าแล้ว  ก็ได้รู้ว่ามันทำใจยากกว่าที่คิด..

“ ผมแค่รักพี่.. ”

“ แต่พี่ไม่ได้รักแก! พี่รักเต๋าได้ยินมั๊ย?!! ”

แม้จะไร้การกระทำ.. แต่เด็กหนุ่มกลับรู้สึกว่ามันเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าการถูกตบหน้ากันเสียอีก!  เปลี่ยนไปแล้ว.. มันเปลี่ยนไปหมดทุกอย่าง  ทั้งสีหน้า.. แววตาที่มองเขามาราวกับเป็นคนแปลกหน้าคนนึง.. มันเหมือนจะยิ่งกรีดลึกลงในหัวใจอันร้าวราน..  ได้โปรด.. อย่าทำแบบนี้เลย..


“ พี่ขอโทษนะ.. แต่แกก็รู้ว่าความรักไม่มีใครแทนใครได้หรอก ”

ประโยคนั้นทำให้ความคิดเด็กหนุ่มร่างสูงหวนคืนสู่ปัจจุบันอีกครั้ง  ไร้ซึ่งการผลักไสจากคนตรงหน้า.. ฝ่ายนั้นกลับกอดตอบพร้อมกับกระชับไว้แนบแน่นกว่าเดิมด้วยซ้ำ  หากแต่เจมส์ก็รู้สึกได้ว่าความเจ็บปวดยังคงคั่งค้างอยู่ในห้วงใจ..  เขาเองก็ไม่อยากให้อีกคนมารักเขาเพียงเพื่อให้เป็นตัวแทนของใครเช่นกัน

“ ครับพี่.. ผมรู้ดีอยู่แล้ว  คนแอบรักก็ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าการได้รักนี่ครับ  พี่เองก็คงจะเข้าใจใช่มั๊ย? ”

ไม่รู้ทำไม.. น้ำตากลับไม่ได้พรั่งพรูออกมามากมายอย่างที่คิด  หรือบางทีห้วงใจอันร้าวรานของคนทั้งคู่อาจจะชาชินกับรสชาติขมเฝื่อนในรักไปเสียแล้วก็เป็นได้   คนนึงก็เป็นเพียงคนหลงทางที่จำยอมละจากแสงดาวแล้วทิ้งตัวเองไว้ในความมืดมน.. อีกคนนึงก็เป็นเพียงเปลวเทียนไหววูบที่ไม่อาจทดแทนแสงดาวเหล่านั้นได้..

..เพียงแค่สายลมบางเบาแผ่วพริ้วมา.. เปลวเทียนอ่อนแรงก็ดับวูบ..

เขาพอใจที่จะให้มันเป็นไปอย่างนี้..  ดีกว่าการบอกรักไปแล้วถูกตอบแทนด้วยการรังเกียจกัน  แม้จะไม่ได้สมหวังในความรัก.. แม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยไม่รู้จบกับมันมากแค่ไหน..  แต่แค่เพียงให้คนหลงทางคนนึงได้พบกับแสงสว่างนิดนึงบ้าง..  แม้จะเป็นได้แค่นี้ก็พอใจแล้ว..

..รักที่ได้รับการครอบครองอาจมั่นคง..
..แต่รักที่เป็นอิสระน่ะ.. อาจมีค่ายิ่งกว่านั้น..



THE END
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _


ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด