ตอนที่ 8ราดหน้ามื้อบ่ายส่งกลิ่นหอม ควันฉุย ต้อนเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดคอกลมสีขาว แต่กางเกงนักเรียนตัวเดิม ประคองถ้วยราดหน้าเดินมาที่โต๊ะกินข้าว
ใช้ส้อมจิ้มผัก จิ้มหมูใส่ปาก ไม่เติมอะไรสักอย่าง จนคนทำสงสัย
“ไม่เติมหรือต้อน”
“ไม่อ่ะ ตอนทำพี่ก็ชิมแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ก็เออชิมแล้ว แต่แปลกใจที่ไม่เห็นเติมอะไรสักอย่าง” พี่บอกแล้ววางถ้วยราดหน้าของตัวเองที่ฝั่งตรงข้าม
ต้อนกลืนอาหารในปาก “ผมเคยอ่านการ์ตูนนะ เขาบอกว่า การเติมเครื่องปรุงในอาหารเป็นการดูถูกคนทำ”
“เหรอ” คนถามกลับสงสัย “มันต้องละเอียดอ่อนกันขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เหรอ” ต้อนถามกลับอีกหน “ก็บอกแล้วว่าอ่านการ์ตูนมา”
“วันนี้กลับเร็ว”
“อื่อฮึ ชมรมผมงดน่ะ เลยกลับบ้านก่อน คนอื่น...ยังเรียนอยู่”
...คนอื่น...
ราดหน้าในจานมันขมๆแปลกๆ สงสัยจะเป็นที่คะน้า
“แล้วพี่ล่ะ ทำไมกลับมาเร็ว”
“เรียนบ่ายเสร็จก็กลับมาทำความสะอาดบ้านสิ เก็บผ้าซัก”
“ยังทำไม่เสร็จใช่ปะ”
“อือ มีเพื่อนบ้านเรียกมาทำราดหน้า”
ต้อนหัวเราะร่วน “งั้นเดี๋ยวกินเสร็จ ผมกวาดบ้านผมก่อนแล้วไปช่วยพี่ทำงาน”
“ขอบคุณคร๊าบบบบบ แต่เพื่อนบ้านมีการบ้านไม่ใช่หรือไง”
“เออใช่ มีการบ้าน แล้วบ้านตัวเองก็ยังไม่ได้กวาด”
“งั้นทำบ้านตัวเองให้เสร็จก่อนเถอะ แล้วค่อยไป”
ต้อนพยักหน้าหงึกหงัก ก้มหน้าก้มตากินเสร็จก็เก็บถ้วยของพี่ไปล้าง
“เดี๋ยวผมตามไปฮะ”
ตอนที่เดินมาบ้านข้างๆ ผ้าหมาดขึ้นราวแล้ว เจ้าของบ้านกำลังล้างห้องน้ำอยู่
“ขออนุญาตบุกรุกนะฮะ”
“เชิญบุกรุกตามสบายครับ”
เสียงตอบมาจากในบ้าน ที่โต๊ะกินข้าวตัวเล็กยังมีของวางอยู่
“ของบนโต๊ะนี่เตรียมไปแจกที่ไหนหรือเปล่า”
“เปล่าๆ ต้อนเรียงใส่ตู้ได้เลย”
เรียงของใส่ตู้เย็น ตู้เก็บของแห้งไปเรื่อย ก็มาหยุดที่ซองเจลลี่
“ว๊าวววว มีเจลลี่ด้วย”
คนที่เพิ่งล้างห้องน้ำเสร็จเดินออกมามอง
“ชอบเหรอ กินสิ”
“พี่จะเอาไปฝากสาวที่ไหนหรือเปล่า”
“เปล่า กะเอาไว้กินเวลาอ่านหนังสือน่ะ มันเปรี้ยวดี”
“เหรอ” ต้อนแกะห่อ หยิบเจลลี่มาฉีกซองเล็กแล้วทำหน้าตาบิดเบี้ยว “อื๋ออออออ อย่างกะซุปเปอร์เลมอน”
ขนาดบอกว่าเปรี้ยวต้อนก็ยังไม่ยอมคายออก กลืนน้ำลายที่พุ่งปรี๊ดเต็มกระพุ้งแก้ม
หน้าตาพิกลจนพี่ขำ
“ขำไร กินด้วยกันมา”
ต้อนหยิบซองเล็กมาอีกซอง ทำท่าจะแกะ แต่พี่คว้าคาง ดันขึ้นมารับริมฝีปาก
ริมฝีปากสัมผัส ลิ้นที่สอดเข้าหา ยังคงทำให้หัวใจเต้นแรง ไม่ต่างจากเมื่อเช้า
ต้อนคว้าข้อมือพี่ไว้แน่น พี่ถึงได้รู้ตัวผละริมฝีปากออก
หนุ่มน้อยรีบหันไปคายเจลลี่ลงถังขยะ
“ต้อน”
“ผม จะ กลับบ้าน”
“ต้อน คบกับ เกมหรือ” เสียงตัวเองแท้ๆ แต่เหมือนมันดังแว่วๆมาจากที่ห่างไกล
“ผมไม่รู้” ต้อนบอกทั้งที่ก้มหน้า “มันแปลกๆ”
เหมือนเสียงจากที่ห่างไกลดังขึ้นอีก “ปิดเทอม พี่จะไปค่ายอาสาแถวอีสาน กลับบ้านแล้วกลับมารับปริญญาเลย””
“ฮะ”
“ต้อนสอบช่วงนั้นพอดีใช่มั้ย”
“ฮะ”
ต้อนตอบทั้งที่ยังก้มหน้า เดินสวนออกมา แต่พี่เหนี่ยวเอวไว้ดึงเข้ามาหา
“ต้อน”
“พี่อยากให้ผมตอบพี่ว่าอะไร”
แทนที่จะตอบคำถามน้อง พี่กลับโอบกอดไว้แน่น ซุกหน้าแนบข้างหู
....ทั้งที่กอดไว้อย่างนี้
ทั้งที่บอกตัวเองตลอดเวลา ว่าเขามีคนของเขาแล้ว
แต่ก็ไม่อยากตัดใจ ไม่อยากยอมรับ
ว่าคน ๆนี้ไม่ใช่ของเรา
ต้อนยกมือขึ้นช้าๆ กอดตอบพี่อย่างลังเล รู้ว่าเรายังไม่พร้อม รู้ว่าคนๆนี้มีสารพัดข้อเสีย
แต่ว่าอ้อมกอดนี้มัน......อุ่น......
“ผมคิดว่าผมรู้ แต่มันก็มักจะมีคำถามเข้ามากวนวุ่นวาย”
“ไม่เป็นไร ปล่อยให้มันเป็นไป แต่สัญญากับพี่ไว้อย่าง”
“ฮะ....”
“อย่าฝืนตัวเอง อะไรที่แน่ใจว่าไม่ใช่ ต้องเดินออกมา”
....บอกน้อง ไม่ได้บอกตัวเอง
เพราะรู้แล้วตัวเองทำไม่ได้ แต่น้องต้องทำได้
น้องต้องทำได้ นี่คือคำขอของคนที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นมือที่ 3
ต้อนเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาสีอ่อนสบตาพี่ มีคำตอบที่พี่อยากรู้
พี่ก้มลงหา อีกเพียงนิดเดียวริมฝีปากก็จะสัมผัสอีกครั้ง แต่เสียงกริ่งที่บ้านต้อนดังขึ้น ต้อนหันไปมอง
“ผมว่าเสียงกริ่งบ้านผมนะ”
พี่คลายแขนออก เดินตามต้อนมาที่หน้าบ้าน
“ใครมา”
ต้อนเดินออกมาดู แล้วบอกพี่เสียงแผ่วเบา “เกมมาฮะ”
นักเรียนมัธยมคนที่ยืนอยู่หน้าบ้าน หันมามองทางนี้ แล้วเดินมาหา พอดีกับที่ต้อนเปิดประตูก้าวออกไปจากบ้าน
“ต้อน ทำไมไปอยู่บ้านพี่อ๋อมล่ะ”
“กูมาช่วยพี่เขาเก็บบ้าน แลกกับที่พี่ทำราดหน้าให้กินน่ะ”
อ๋อมยืนมองต้อนกับเกมเดินเข้าบ้านหลังถัดไป
มองหนุ่มตัวเล็กส่งยิ้มให้กับคนที่เพิ่งมาถึงแล้วเดินเข้าบ้านตัวเอง
มือที่ 3 โคตรปวดใจ
กะว่าเดี๋ยวจะขึ้นไปถูห้องข้างบนแต่ตอนนี้กลับหมดแรง ทิ้งตัวลงนอนที่โซฟา ก็มีเสียงรถมาจอดและตามมาด้วยเสียงออดเรียก
“อ๋อม” คนที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูเรียกตั้งแต่อ๋อมเปิดประตูออกไปมอง
“แหม่ม มีอะไร”
“แหม่มต่างหากที่ต้องถามอ๋อมว่า มีอะไร ทำไมอยู่ดีๆก็ไปใต้ไม่บอกกันสักคำ โทรหาก็ไม่รับสาย” แหม่มใส่เป็นชุดขณะที่ก้าวเข้ามาในบ้าน
“ก็อีกนิดเดียวผมก็จะจบแล้ว พอดีชมรมค่ายอาสาเขาคนไม่พอ ไอ้โอมันก็ไปตลอด ก็เออ ไปทำอะไรที่มันเป็นประโยชน์ซะบ้าง”
“แล้วทำไมไม่บอกว่าจะไป”
น้ำเสียงเข้มงวด ท่าทีกอดอกมองของแหม่ม ทำให้อ๋อมอึดอัดเกิดอาการไม่อยากคุย ที่เห็นเกมมาหาต้อนหลังเลิกเรียนก็ไม่มีเรี่ยวแรงอยู่แล้ว แล้วมาเจอแหม่มอีก
มันหมดอารมณ์อย่างสิ้นเชิง
พอมีรถมาจอดต่อท้ายรถแหม่มอีกคัน อ๋อมก็ถึงกับถอนหายใจแรง
แหม่มตวัดตากราดมองตั้งแต่รถคันนั้นมาจนถึงอ๋อม
“เรื่องแม่คนนี้อีก มันยังไงเนี่ยอ๋อม”
เสียงของแหม่มไม่เบาเลยสักนิด คนที่ลงจากรถเดินเข้ามาในบ้านยืนข้างอ๋อมกอดอกกราดตามองเท้าจรดหัว
“อีนี่ เดี๋ยวแม่ตบคว่ำ” แหม่มเงื้อมือเข้าหา แต่คนที่มาถึงก็ง้างมือรอ
“มาสิ คิดว่าตบเป็นคนเดียวหรือไง”
อ๋อมไม่ได้สนใจคนที่กำลังตั้งท่าจะตบกัน แต่หันไปมองบ้านข้างๆ
หนุ่มนักเรียน 2 คนเดินออกมาดู
อ๋อมถึงได้หันกลับมาที่หญิงสาว 2 คน
“ตกลงมาทำไมกันเนี่ย”
“อ๋อม” ทีอย่างนี้ละสามัคคีถามพร้อมกัน
“ก็อ๋อมหนีแหม่ม” แหม่มเข้ามากอดแขนอ๋อมไว้
แต่หญิงสาวอีกคนกอดอกมอง “ก็เขาไม่เอาหล่อนแล้วไง”
“หมายความว่าไง อ๋อมบอกแม่คนนี้หรือไง”
“ไม่จำเป็นต้องบอก ริสาเป็นเมียที่ดีไม่ต้องตามเช็คทุกฝีก้าวอย่างหล่อนหรอก”
“แหม่ม ริสา” อ๋อมบอกขณะที่แกะมือของแหม่มออก แต่แหม่มยิ่งยื้อไว้
ริสายิ้มเยาะใส่หน้าแหม่ม “เธอมันก็แค่แก้ขัดชั่วคราวเท่านั้นแหละ”
“อ๋อม”
“แหม่มกลับไปก่อนเถอะ”
ริสายิ่งยิ้มเยาะ ขณะที่แหม่มหน้าชา
“อ๋อม หมายความว่าไง อ๋อมเลือกแม่คนนั้นหรือไง”
“ไม่ใช่หรอก”
“อ๋อม” เรียกพร้อมกันอีกครั้ง อ๋อมได้แต่ส่ายหน้า
“ขอโทษนะ ผมไม่เลือกทั้งคู่น่ะแหละ”
...เออ เลวซะให้พอ...
“อ๋อม ริสาบอกอ๋อมแล้วนะ ว่าอ๋อมจะไปมีใครที่ไหน ริสาไม่เคยยุ่งตราบใดที่เรายังคบกัน แต่พูดแบบนี้กับริสาต่อหน้านังคนนี้มันเกินไป”
“ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ ผมไม่เลือกทั้งคู่น่ะแหละ”
ฝ่ามือฟาดเพี๊ยะลงที่ใบหน้าหล่อ จนชาไปทั้งซีก
“คนเลว เห็นแก่ตัว”
อ๋อมก้มหน้า ไม่ใช่รู้สึกผิดต่อผู้หญิง 2 คนข้างหน้า แต่เพราะไม่กล้าสบตาหนุ่มนักเรียนบ้านข้างๆ ที่เดินออกมาดู
“อ๋อม มีคนใหม่ใช่มั้ย”
“ริสา”
“ริสาบอกแล้วไง จะมีใครยังไงก็ตามใจ แค่ของชั่วคราว”
“ไม่ใช่”
“แล้วยังไง”
อ๋อมเงยหน้าขึ้นมองริสา
“ริสาอยากให้ผมตอบว่ายังไง”
“ริสาตามใจอ๋อมทุกอย่างนะ ทั้งที่ริสาเสียใจเวลาที่อ๋อมจะไปเมา หรือจะพาใครขึ้นห้อง แต่อ๋อมก็ยังเป็นของริสา”
“ที่เขาทำอย่างนั้น เพราะเขาไม่ได้รักแกไง” แหม่มหันไปจิกตาใส่ริสา ทั้งที่ตัวเองก็เสียใจไม่แพ้กัน แล้วหันไปตะคอกใส่หน้าอ๋อม “ส่วนแกน่ะคนเลว ฟันไม่เลือก มั่ว”
ริสากำมือ จ้องหน้าอ๋อมนิ่งๆ “อ๋อม ตอบมาว่าจะให้ริสาทำยังไง”
อ๋อมส่ายหน้า
“อ๋อม มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆ อ๋อมถึงเป็นอย่างนี้ ไปค่ายแล้วเจอใครหรืออะไรหรือไง”
“มันก็ส่วนหนึ่ง อย่าเดาเลย ผมยังไม่รู้ตัวเองเลยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง”
ริสาคลายมือ “งั้นก็โอเค อ๋อมคงมีเรื่องไม่สบายใจ แต่ถ้าต้องการคนคุยด้วย ก็บอกริสาแล้วกัน”
“ไม่ใช่อย่างนั้นริสา ผม...”
“อะไร”
“เราเลิกกันเถอะ”
อีก 1 ฉาดฟาดเข้าที่ซีกหน้าอีกด้าน
“ไอ้ผู้ชายเฮงซวยเห็นแก่ตัว”
แหม่มที่ยังไม่ก้าวไปไหน เอากระเป๋าใบที่ถืออยู่ฟาดที่แขน “คนเลว ผู้ชายเลวๆ”
“ขอให้แกโดนคนทิ้ง พบเจอแต่คนหลอกลวง” ริสาด่าแล้วตบหน้าอ๋อมอีกที
“ไปริสา เสียเวลากับไอ้บ้านี่มามากพอแล้ว คนแบบนี้ไม่มีค่าให้เสียดายหรอก”
แหม่มหันไปหาริสา เดินออกไปจากบ้าน
อ๋อมหันไปมองบ้านข้างๆ นักเรียน 2 คนกลับเข้าไปข้างในแล้ว ส่วนคนๆนี้ เดินกลับเข้ามาในบ้านทิ้งตัวลงนอนที่โซฟา
คำสาบของแม่มดร้ายมีผลตั้งก่อนที่จะโดนสาบเสียอีก
สมน้ำหน้าคนเลว
========จบตอนที่ 8======
วันนี้ ป๋ายังคงมีภารกิจเพื่อชาติ แต่คาดว่าวันอาทิตย์น่าจะเสร็จเรื่องแล้วเขาจะมาลงเอง
นินทาป๋าเรื่องอะไรดีหนอ??
เรื่องริสากับแหม่มละกัน มันเกิดจากการที่เขามักจะบ่นเวลาที่เห็นข่าวหรือได้ยินเรื่องผู้หญิงตบกันว่า ทำไมผู้หญิงต้องตบกันเพื่อผู้ชาย เรื่องนี้มันต้องเชือดคนกลางต่างหาก เพราะสุดท้ายท้ายที่สุดผู้ชายมันก็ไม่เลือกทั้งคู่น่ะแหละ
เหอเหอเหอ...
แต่พอเขียนโยนมาให้ผมเขียน ก็ริสากับแหม่มเป็นผู้หญิงนี่เนอะ เขียนทีแรกไม่ใช่แบบนี้หรอก มันโดดจากเรื่องโดยสิ้นเชิง ป๋ากลับไปแก้ริสากับแหม่มก็แมนโคตร
ก็แก้ไขกลับไปกลับมาจนออกมาอย่างนี้
ก็อย่างที่ป๋าบอกเสมอน่ะ เรายังไม่เก่ง 
อย่าทำให้ป๋าได้ใจด้วยการบอกว่ากลัวมาม่า 
กระซิบสปอยล์ แบบไม่กลัวคนอ่านหนีเลยว่า"อ๋อมคู่กับต้อน" และ "เฟี๊ยตคู่กับทู" 
5555555
tea ครับ
และ
ปิดท้ายแบบป๋า
ขอบคุณทุกคำแนะนำ ความเห็น ทุกคะแนนบวกและเป็ดทุกตัวครับ
ไจฟ์กับที
V
V
V
ใช่มั้ยล่ะ ผมว่าแล้วว่าต้องไม่มีใครรู้ อย่าบอกใครนะว่าเราีรู้แล้ว กร๊ากกกก