- 2 - “หึหึ..นึกว่าใคร หลานชายนี่ตลกจริง ชั่วโมงนี้ใครจะรอให้ตำรวจมาลากคอ เสียงปืนดังขนาดนี้
ขืนอยู่คงได้เข้าซังเตกันเป็นพรวน รู้รักษาตัวรอดดีที่สุด ไม่ตายคงได้เอาคืนทีหลังบัญชีที่พวกมันหักหลังครั้งนี้ไม่จบแน่”
พ่อเลี้ยงพูดจบ จอมแสบสวนกลับทันที
“คุณอาจะไปไหนไม่ได้ จะทิ้งให้ผมรับหน้ากับเหตุการณ์คนเดียวหรือไง เรื่องนี้เริ่มต้นจากคุณอา
เพราะงั้นคุณอาต้องอยู่” จอมพูดในขณะสายตาจ้องสบพ่อเลี้ยงบรรจงแน่วแน่ พ่อเลี้ยงแสยะยิ้มมุมปาก ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“หึหึ..ไอ้หนูมีปัญญารั้งกูไว้ ก็ลองดู” สรรพนามแทนตัวเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้สมุนซ้ายขวา ซึ่งรอคำสั่งอยู่แล้ว
พากันเดินเข้าหาจอมแสบ และการตะลุมบอนก็เริ่มขึ้น ไม่มีใครคิดใช่ปืนในการลงมือเพื่อจัดการอีกฝ่าย
เพราะนั่นคือการดึงความสนใจของพวกมันพุ่งเป้าตามมาอีกเป็นพรวนแน่
“พลั๊ก!..ผลั๊วๆๆๆ...ปึ๊ก!” ทั้งหมัดทั้งเข่า ที่ทั้งสองฝ่ายต่างประเคนเข้าใส่กัน แม้จอมจะมีทักษะการต่อสู้ไม่ใช่ชั่ว แต่เจอรุมสองหนึ่ง
หนำซ้ำฝีมือดีอีกต่างหาก ผ่านไปเพียงไม่ถึงสามนาที จอมก็หืดขึ้นคอแล้ว แถมร่างกายยังโดนเข้าไปตุ๊บสองตุ๊บ
ขืนยืดเยื้อต่อไปจอมเองนั่นแหละจะสลบคาตีนพวกมันเสียก่อน ในขณะที่กำลังหาหนทางให้หลุดจากสภาวะเป็นรองอยู่นั้น
จู่ๆ ก็มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเทพบุตรใจนักเลงไว้ได้ทันท่วงที
“พวกมึงหยุด! เสือกรุมตีนแฟนกู ลูกปืนเก็บเสียงเจาะกะโหลกเจ้านายมึงแน่ อยากเป็นผีตายโหง
ตอนนี้มึงลองต่อยอีกดิ..ไอ้สัด!” เสียงที่แสนคุ้นเคย ทำเอาสมุนพ่อเลี้ยงที่กำลังรุมสกรัมจอมใจนักเลงต่างหยุดชะงัก
ในขณะที่อีกฝ่ายได้แต่ตั้งรับมือเป็นประวิง เพราะเสียงตวาดแสดงถึงอารมณ์เอาจริงตามที่พูดภาพปืนสีดำมะเมือมสวมท่อ
เก็บเสียงยังกะพญามัจจุราชจ่อท้ายทอยพ่อเลี้ยงบรรจง ทำเอาไม่มีใครกล้าขยับ ร่างสูงใหญ่บึกบึน ใบหน้าหล่อเหลา
ที่จ้องมองสายตาวาววับอย่างกับจะย่อยพวกมันเป็นผุยผงให้ตกตายไปต่อหน้า จอมใจนักเลงตาวาวรื้นน้ำตาขึ้นมาทันที
ก่อนจะกระพริบไล่ไม่ให้ออกอาการอ่อนแอให้เสียหน้า นี่สินะเวลาที่รอคอย สุดท้ายก็มาช่วยแล้วสินะ...
ไอ้ลุงตัวแสบ??????????????
มาต่อให้แล้วนะคะ ไว้พบกันตอนหน้า
Luk.