มาต่อแล้ว ใครอ่านก็อย่าเพิ่งต่อว่าใจร้ายนะ เรามันชอบให้นายเอกทรมานนานๆหน่อย ฮิฮิฮิ
ตอนที่ 7 ปีศาจแห่งทะเลทราย
แปะ! แปะ! “เฮ้....ตื่นได้แล้ว”
มือสากกระด้างแข็งตบเบาๆที่หน้าปลุกรติกรให้ลืมตาขึ้นมา เขาสะดุ้งเฮือกทันทีที่เห็นหน้าดุดันอยู่ห่างไปแค่คืบเดียว ดวงตาสีดำเย็นชาเหมือนราตรีที่มืดยิ่งกว่ามืด ไร้อารมณ์ ความรู้สึกใดๆ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเม้มเหมือนคนอารมณ์บูดตลอดเวลา แค่มองก็ทำให้คนถูกมองรู้สึกอึดอัดได้แล้ว ร่างเล็กเขยิบหนีแต่ติดหมอนจำนวนมากที่รายล้อม เขาเหลียวมองไปรอบๆพบว่าตัวเองนอนบนฟูกนุ่มภายใต้กระโจมสีขาวสกปรก
“คุณเป็นใคร?”
“ฉันต่างหากที่ควรเป็นคนถาม” พูดจบอุ้งมืออันใหญ่โตคว้าปลายคางเขาไว้แน่นลากให้คลานเข้ามาใกล้ๆ จนได้กลิ่นบุหรี่เย็นๆจากลมหายใจ “พูดมา”
“ผม....” จะให้เริ่มตรงไหนล่ะ รติกรไม่รู้ว่าจะพูดยังไงให้ตัวเองปลอดภัยดี
“ชื่อ??”
“เนย...”
“มาจากไหน”
“วอชิงตัน ดีซี”
“แล้วไปทำอะไรในวังสุลต่านคาเมน” ใบหน้าอ่อนวัยตกใจไม่น้อย รู้ได้ยังไงว่าเขามาจากที่นั้น อีกฝ่ายถึงหยิบเสื้อคลุมที่สวมมาให้ดู มีตราที่ปักเป็นรูปเหยี่ยวสีทองเหนืออักษรย่อ KM คงเป็นตราของพระราชวัง
“ผม...ผม.....ถูกจ้างไปทำงานก่อสร้างที่นั้น ผมหนีมา” มือที่บีบปลายคางเขาแน่นปล่อยทันที รติกรใจชื้นขึ้นหน่อย เขารีบเขยิบออกห่างไปสุดปลายของฟูก ใกล้ๆนั้นมีโต๊ะเตี้ยให้นั่งทำงานได้ สังเกตได้จากมีหนังสือ ปากกาและตะเกียงน้ำมัน เลยไปอีกหน่อยถึงออกไปข้างนอกได้ เขาเห็นเงาคนเหมือนกำลังทำงานบ้านอยู่ข้างหลัง
“ถอดสิ”
“อะไรนะ??” เด็กหนุ่มหันมามองหน้า
“ฉันไม่เชื่อที่พูดหรอกนะ ตัวเล็ก ผิวขาวอย่างนี้น่ะหรือเป็นคนงานก่อสร้าง ถอดเสื้อออกมาให้ดูหน่อยสิ” ทำงั้นได้ไงล่ะ ร่างเล็กนั่งตัวแข็งสีหน้าปฏิเสธโจ่งแจ้ง คนคอยจึงลุกขึ้นมาหา
“อย่า....” เขาถอยหนี พยายามปัดมือที่คว้าคอเสื้อเอาไว้ออกไป แต่ก็ถูกจับกดลงกับพื้น มือเขาปัดโต๊ะเตี้ยๆนั้นล้มไปด้วย ร่างสูงใหญ่คล่อมเหนือร่างเขา พยายามถอดเสื้อที่สวมอยู่ออกให้ได้ “อย่า....ปล่อยผม”
“อิซัส ทำอะไรอยู่” ใครคนหนึ่งเข้ามาถาม น้ำเสียงราบเรียบไม่ได้ตกใจในสิ่งที่ได้เห็นแม้แต่น้อย
“สอบปากคำมันอยู่ จาร์ฟา ออกไปก่อน....” อิซัสสะดุ้งน้อยๆ เขาหันกลับมาพบว่ามีบางอย่างแทงเข้าที่สีข้างเขา ใต้ร่างเขาตะเกียกตะกายหนีออกไปจนได้
“หยุดนะ”
ริตกรไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เขาวิ่งออกจากกระโจมมาวิ่งลงเนินทรายไปหาโอเอซีสเบื้องหน้า มีสาวๆที่กำลังทำอาหารและฝูงอูฐผูกไว้ใกล้ๆนั้น เขาต้องไปให้ถึงพวกมัน แต่เพียงวิ่งไปใกล้เท่านั้นก็มีเสียงตะโกนโวกเวกขึ้นมา
“ช่วยด้วย!!!.... ช่วยด้วย” หญิงชาวอาหรับคนหนึ่งสวมชุดคลุมปกปิดใบหน้ามิดชิดเห็นลูกตาตะโกนขึ้น เธอเห็นเขาวิ่งเข้ามาก็รีบโผเข้าหา ชี้นิ้วบอกเขา “ลูกฉันจมน้ำ ช่วยด้วย เร็วเข้า!!!”
เธอคงนึกว่าเขาจะมาช่วย รติกรเห็นโอเอซีสนี้มีจุดที่ลึกอยู่ มีเด็กตะกุยตะกายน้ำกระจาย พอได้ยินคำว่า ‘เร็วเข้า’ความคิดก็เหมือนถูกสลับสวิทกระทันหัน เขากระโจนลงน้ำ ตูมมมม...วินาทีต่อมาถึงรู้ว่าตัดสินใจผิดไปแล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากว่ายไปให้ถึงเด็กเร็วที่สุด เขาคว้าตัวเด็กไว้ได้
“อ๊า!!! อ๊า...”
“ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไร” วงแขนโอบรอบคอเด็กพาว่ายไปถึงฝั่ง
“ได้แล้ว....ได้แล้วๆๆๆๆ” สาวๆร้องเสียงดีใจสุดขีดช่วยกันลากเด็กขึ้นมาก่อน แต่ก็มีมือแข็งแรงคว้าตัวเขาขึ้นมาเช่นกัน แม่ของเด็กเข้ามาลูบหลังเขาแล้วกล่าวสั้นๆ “ขอบคุณ”
ขอบคุณอะไร?? เขาแค่ตัดสินใจผิดพลาดเท่านั้น รติกรอยากจะบอก หากมือแข็งๆนั้นลากเขากลับไปที่กระโจมอย่างไม่ปราณีปราศรัยเลย มาถึงก็พลั่กเขาล้มลงบนพรม ต่อหน้าผู้ชายอีกคนที่ถอดเสื้อลงมากองที่เอวกำลังทำแผลอยู่
“เป็นไรหรือเปล่า” คนโยนเขาถามคนนั่งทำแผล
“นิดเดียวเอง” เขาแปะสก๊อกเทปเสร็จถึงหันมาชี้นิ้วใส่ “แก....แทงฉันด้วยปากกา”
“ฮะฮะ....” จาร์ฟาหัวเราะ
“มันแทงฉันด้วยปากกา...ของฉันเอง” อิซัสหัวเราะเขาลุกขึ้นอวดเรือนร่างที่แข็งแกร่ง กระชากแขนเล็กลากกลับมาที่ฟูกนอน “แกต้องชดใช้”
“อย่า...อย่า ผมไม่ได้ตั้งใจ” เขาถูกเหวี่ยงล้มลง เสื้อที่สวมอยู่ถูกกระชากขาด แคว่ก!! “อย่า....ปล่อยนะ”
ผิวขาวโพลนตัดกับแสงทึมๆภายในกระโจมปรากฏต่อสายตาทั้งคู่ อิซัสกระชากเสื้อตัวบนออกไปจนหมด เขาตรึงสองมือไว้เหนือศีรษะมองผิวเนื้อเปียกๆอย่างพอใจ รติกรน้ำตาร่วงลงหางตา กลัวเหลือเกิน เขาไม่น่าหนีมาเลย ไม่น่าเลย....
“นี่เหรอ เด็กคนงานก่อสร้าง ผิวมันคนล่ะอย่างเลย” จาร์ฟาเข้ามานั่งชมใกล้ๆด้วย เขาไล้นิ้วไปมาบนพวงแก้มนุ่ม
“ฉันว่าเป็นคู่นอนให้พวกนั้นเสียมากกว่า....ใช่ไหม...เนย” อิซัสกระซิบถาม
“ฮึ่ก..” ร่างเล็กกลั้นสะอื้นไม่อยู่ คล้ายคำตอบกลายๆ ชายหนุ่มมียิ้มเหี้ยมบนใบหน้าทันที เขาช้อนใบหน้าให้หันมาสบตา มีความหมายที่ซ่อนความอยู่และรติกรเห็นแววเย้ยหยัน สะใจ แกมชิงชัง...ที่ไม่ได้ชิงชังเขา แต่ชิงชังคนที่เขาหนีมาต่างหาก ผู้ชายคนนี้เกลียดราชวงศ์
ริมฝีปากอุ่นแนบลงมาในลักษณะรุนแรง ป่าเถื่อน จงใจให้เขาเจ็บจนต้องเผยอปากเพื่อให้ความเจ็บปวดบรรเทาลง หากกลับเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายสอดลิ้นเข้าไปทำให้เขาปั่นป่วนยิ่งขึ้น
“อือ!!” เด็กหนุ่มได้แต่ท้วงอย่างเดือดดาล แต่ครู่เดียวอารมณ์โกรธก็ต้องหยุดลง เมื่อจูบนั้นนุ่นนวลขึ้น มือที่จับตรึงมือเขานั้นคลายออกเพื่อโอบกอดเขาทั้งตัว ริมฝีปากบดเคล้านุ่มนวลทำให้จูบซาบซ่านหวานในแบบที่ไม่เคยประสบมาก่อน รติกรเลื่อนมือลงยันไหล่กว้างด้วยกำลังที่เหลืออยู่น้อยนิด ขณะที่ท่อนแขนแกร่งรั้งเอวบางขึ้นแนบชิดจนรู้สึกได้ถึงความแข็งขืนตรงกลาง กลิ่นของความกระหายโชยมาแตะจมูก ไม่....แบบนี้ ไม่เอา!
“อะ..” อิซัสผงะเล็กน้อย เขายันตัวขึ้นมา นิ้วแตะแผลถูกกัดที่มุมปาก
“เป็นไร” จาร์ฟาถาม
“เห้อะ.....ยังไม่มีใครได้แตะต้องเขาเลย”
“รู้ได้ไง”
ชายหนุ่มไม่ตอบเขาแค่ผายมือให้ดูเอาเอง ร่างเล็กตัวสั่นน้อยๆ ตาแข็งกร้าวทั้งที่น้ำตาไหลไม่หยุด ริมฝีปากขบเม้มกลั้นอารมณ์ตัวเองไม่ให้หลุดลอดออกมา อากับกิริยาต่อต้าน ไม่ได้โอนอ่อนเอาใจเพื่อชีวิตของตัวเองเลย คาริบ อาฮาบี อิซัส เลียริมฝีปากตัวเอง ลิ้มรสเลือดอย่างถูกใจ เขาเร่ร่อนไปทั่วผืนทะเลทราย คอยปล้นสินค้าของมีค่าทุกอย่างของราชวงศ์ที่น่ารังเกียจ ไม่คิดว่าจะได้เจอของดีๆอย่างนี้เข้า
อยากได้ นี่เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้รู้สึกมานาน หลังจากเสียผู้หญิงคนแรกในชีวิตไปแล้ว ชาวต่างชาติคนแรกที่ปากหวานและกล้าแทงเขา กัดเขา ทำให้รู้สึกกลับไปเป็นหนุ่มที่รักสนุกอย่างแต่ก่อน
“สมบัติที่ยังไม่ได้ถูกแตะต้องของอัลมาอิดะฮ์ มันจะรู้สึกอย่างไงนะถ้ารู้ว่าเป็นของฉันแล้ว.....จาร์ฟา ไปเอาตราเหล็กเผาไฟให้หน่อย”
“เอางั้นเลยเหรอ” เขาถามแต่ก็ยอมลุกไปโดยดี
“คุณจะทำอะไร??” รติกรรู้สึกกลัวขึ้นมา เขาพยายามพลั่กไสร่างที่ทาบทับตัวออกไป อิซัสยึดสองมือไว้เขามองไปทั่งร่างแล้วจับพลิกคว่ำหน้าลง มือข้างหนึ่งไล้ไปทั่วแผ่นหลัง “ปล่อยผมนะ ปล่อย!!!”
“จะประทับตรงไหน” จาร์ฟากลับพร้อมของบางอย่างที่ได้กลิ่นไอร้อนโชยมา
อิซัลไล้ปลายนิ้วจากแผ่นหลังลงมาถึงเนินสะโพกลงไปถึงน่องและข้อเท้า “ตรงนี้”
“ไม่นะ...อย่า! อย่า ปล่อยผม เลแวนซ์ อ๊า!!!!!!!!!!!”
ฉ่า... เสียงเนื้อไหม้ดังก้องในหู รติกรเจ็บปวดที่สุดในชีวิต เหล็กร้อนๆเผาฝ่าเท้ามันทรมานจนหมดแรงจะรับรู้ได้อีก เขาเป็นลมไปจนได้แต่ก่อนที่สติจะหลุดลอยก็ยังรู้สึกถึงรอยประทับนุ่มนวลที่ขมับเบาๆพร้อมเสียงกระซิบว่า
“จำไว้....เธอเป็นสมบัติของ คาริบ อาฮาบี อิซัลแล้ว”
‘ไม่....เลแวนซ์ คุณอยู่ไหน?’รติกรนึกก่อนความมืดจะครอบงำเขา
***********
(ติดตามตอนต่อไปจ้า)