(ต่อครับ)
ตอนที่ 17วินวินจ้องมองเงาตัวเองในกระจก ในสภาพที่เหมือนกำลังตาค้างเมื่อมองเห็นไหล่และคอที่เต็มไปด้วยรอยจูบ แก้มยังมีรอยแดงเป็นปื้น ริมฝีปากก็ยังมีรอยช้ำ
“กูหนอกู”
วินวินพึมพำแล้วหันไปเช็ดตัวที่ยังเปียกชื้นหลังการอาบน้ำ
ตอนที่อยู่ในอ้อมแขนของรุ่นพี่ ก็จมอยู่กับทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ทำให้ คำพูด สัมผัส รอยจูบ แต่พอมาถึงตอนนี้ กลับนึกถึงอีกคน
คนแสนดีที่คอยเอาใจไม่ห่าง แต่พอทำมือไวกลับโดนทุบโดนเตะ
...คงต้องเสียใจมาก..
“ไอ้เลววินวิน มึงจะหลายใจเกินไปแล้ว!” วินวินหันมาชี้หน้าด่าตัวเองในกระจก
“วินวินครับ เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงเคาะประตูห้องน้ำเรียกคนที่กำลังด่าตัวเอง
“เปล่าฮะ กำลังแต่งตัวอยู่” มือขาวๆ รีบแต่งตัวด้วยความเร็วสูงสุดทันที
“อ้อ..อาหารมาแล้วนะครับ”
“ฮะ เสร็จแล้วฮะ”
ทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำออกมา คนที่นั่งรออยู่ที่หน้าโทรทัศน์ก็ลุกขึ้นมาหา วินวินก้มหน้าทั้งยังทำเหมือนเดินอ้อมไปที่โต๊ะกินข้าว
“รุ่นพี่ไปอาบน้ำสิฮะ เมื่อกี้ผมทำเลอะเทอะ”
พี่ยิ้มๆ แล้วจะเดินผ่านไป แต่กลับหันมาคว้ากอด จมูก ริมฝีปากกดแน่นอยู่ที่แก้มใส
“พี่!” วินวินร้อง แต่พอรู้ตัวอีกที หลังก็สัมผัสกับโซฟายาว
ดวงตากลมกะพริบมองหน้าพี่ แล้วหันซ้ายหันขวาด้วยความงง
“อะไรกัน”
“หอมจัง” มือพี่เลื่อนขึ้นมาคร่อมตัวไว้
“หอมอะไร ก็สบู่พี่น่ะแหละ” วินวินตอบอ้อมแอ้ม มือขาวๆ ดันเอวดันไหล่พี่ให้ออกห่าง แต่กลับกลายเป็นจมูกคมที่ซุกไซ้ลงมาหาอีกครั้ง
“แต่หอมจริงๆนะ”
“แต่ผมหิวแล้ว” วินวินโอดครวญ
“หอมก่อน”
“ผมหิวจริงๆ นะ ขอกินข้าวก่อนไม่ได้เหรอ”
พี่ชะงักค้าง แต่จมูกยังติดอยู่ข้างแก้ม
“กินก่อนเหรอ”
“อื้ม...กินก่อน” วินวินรับปากไปมั่วๆ แต่ทำให้พี่ขยับลุกขึ้นยืน
“งั้นวินวินกินก่อนได้เลย”
เด็กหนุ่มมองตามคนตัวโตที่รีบวิ่งหายไปในห้องนอน แล้วเดินไปที่โต๊ะกินข้าว สักพักก็เหมือนได้ยินเสียงร้องเพลงดังมาจากในห้องน้ำ
วินวินหัวเราะลั่น คนในห้องน้ำก็ยิ่งร้องดังกว่าเดิม
ไม่ถึง 5 นาทีพี่ลีโอก็กลับออกมาในเสื้อยืดสีขาวตัวใหม่ กับกางเกงสีครีมขาสั้นแค่เข่า
ทำให้คนที่ยืนดื่มน้ำหวานอยู่หันมามอง
“นั่นเรียกว่าอาบน้ำหรือฮะ” วินวินถามขณะที่วางแก้วน้ำหวานลงบนโต๊ะ
“ก็ไม่อยากให้น้องรอนาน”
หมดคำสุดท้ายพี่ก็มาถึงตัวรวบเอวบางไว้หลวมๆ กดจมูกหอมแก้มเต็มปอด
“หอม หอม หอม”
“รุ่นพี่อ่ะ กินข้าวกันเถอะ”
“วินวินนั่งตักพี่มั้ย”
“พี่อ่ะ ไปนั่งตรงโน้นเลย!” วินวินผลักพี่ไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“ทำไมล่ะ ก่อนนี้ยังนั่งตักได้เลย”
วินวินแก้มแดงปลั่งเมื่อนั่งลง “พี่อ่ะ พูดย้อนไปทำไมให้ผมรู้สึกตัวว่า พี่น่ะมือไวขนาดไหน”
“ไม่ได้มือไว จมูกก็ไว แล้ว....”
“พอแล้ว!” วินวินร้องใช้ซ่อมชี้ไปที่จานข้าวข้างหน้าพี่ “กินๆๆๆๆ”
“Sir Yes Sir!” พี่ลีโอนั่งตัวตรงจับช้อนส้อม
คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเลยต้องเอียงคอมองล้อเลียน “มันต้องดีใจขนาดนั้นเลยหรือฮะรุ่นพี่”
“ดีใจสิ ได้แต่มองมาเป็นปีๆ จนมาถึงวันนี้ ดีใจจนอยากวิ่งออกไปบอกทุกคนในโรงแรมแล้ว”
วินวินมองพี่งงๆ ที่พี่บอกว่าเคยเห็นตอนแข่งไฮสคูลน่ะจำได้ แต่พี่มองน้องด้วยสายตาแบบนี้มาตลอดงั้นหรือ
“ผมน่าจะรู้ตัวตั้งแต่ตอนที่พี่จับผมนั่งตักในห้องซ้อมเปียโนแล้วนะเนี่ย”
พี่ลีโอหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “หนึ่งเข้าใจพี่ผิดบ่อยๆ สองรู้ตัวช้าๆ น่ะดีแล้ว พี่ชอบ”
ลีโอเอง ก็รู้สึกถึงหัวใจตัวเองที่กำลังพองฟูอยู่เหมือนกัน การไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ กลายเป็นเรื่องยาก ยิ่งคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าตอนนี้เขินอาย เดี๋ยวก็ทำแก้มป่อง เดี๋ยวก็ทำตาพอง แล้วก็มองค้อน พี่ก็ยิ่งอารมณ์ดี
ที่เขาว่าโลกสดใสกลายเป็นสีชมพูคงเป็นอย่างนี้
วินวินไม่ใช่รักแรก
แล้วความสัมพันธ์ระหว่างกันในตอนนี้ก็ยังอยู่ที่การสัมผัสภายนอก
เพียงแต่ท่าทีของน้องที่เปิดใจมากขึ้น การยอมรับพี่มากขึ้นด้วยการแสดงออก ต่อให้ดูน่าเวียนหัวไปสักนิด แต่บทลงท้ายที่อ่อนหวาน
ทุกสิ่งทุกอย่าง...ทำให้รู้สึกว่าสีชมพูก็ไม่ได้ดูเลี่ยนเกินไปซะทีเดียว
ลีโอยอมรับกับตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข
.....เพียงแค่น้องนั่งอยู่เฉยๆ ข้างหน้านี้ พี่ก็ยอมยกให้หมดทั้งตัวและหัวใจ...
.....รัก....
.....จนสามารถมองข้ามความผูกพันของน้องกับใครอีกคนไปอย่างง่ายดาย...
*-*-*จบตอนที่ 17-*-*-

แน่นๆ แล้วกระซิบบอก "ขอบคุณครับ"