พี่คริทเค้าเคะมานานแล้วเดียร์ หมอหนิงฟันเธอว์!!!
พี่มาร์ค น้องเดียร์ ปวดฟัน หายไวๆนะครับ
พี่แอร์ผมไม่ลืมแน่นอนครับ เจอกันทุกวันที่ออฟฟิศ
พี่ริว
พี่เรย์ วันนี้คุณหื่นแล้วหรือยัง?
...........................................................
ที่หายไปคือไปศรีราชามาครับ
ไปอย่างห้าวๆด้วย
เพราะขับรถไปเอง ฮ่าๆ ใบขับขี่เรอะ
เชอะอย่าได้แคร์
ตำรวจเรอะ
เชอะ อย่าได้กลัว
รถขับไวเรอะ
เชอะอย่าไปสน
ขับให้ไวกว่าแล้วปาดหน้ามานนนนนน แว๊นนนนนน
.
.
.
หลังจากที่นั่งคิดนอนคิด เอาส้มจีนก่ายหน้าผากอยู่หลายคืน
ว่าเราควรจะไปทริปนี้ดีมั้ย
เพราะปลายทางที่จะไป
คือที่ ที่ครั้งหนึ่ง เคยมีความสุข ความทุกข์
ร้องไห้ หัวเราะ และ....
รักแรกของผมอยู่ที่นั่น
.
.
.
ผมปรึกษาหลายคนนะครับ ว่าผมควรไปทริปนี้มั้ย
โดยโจทย์ของผมคือ
"เราควรแลกมั้ย กับความรู้สึกดีๆเพียงชั่วคราว
ที่พอมันพ้นไป
เราอาจต้องกลับมาพร้อมกับความรู้สึกแย่ๆ อีกหลายวัน"
พี่คนหนึ่ง ที่ชื่อล๊อกอินเป็นสัตว์เลี้ยง แนะนำผมว่า...
"ไปเหอะน้อง อย่างน้อยถ้าเรามีความสุข
ถึงมันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ
ถึงกลับมาอาจจะทุกข์ใจ
แต่เราก็มีความสุขไม่ใช่หรอ"
น้องคนหนึ่งบอกผมว่า
"ไปเหอะพี่ เชื่อเหอะ มนุษย์เราอะชอบความเจ็บ
ไปเจ็บซะให้ชิน สะใจดี
" ไอ้ซาดิสต์!!!
แต่ใจผมก็ยังลังเลอยู่ดี
จนคืนก่อนไป ผมบังเอิญไปเปิดเจอ ถึงข้อความที่เค้าโพสไว้ ว่าความรักของเค้า กับคนๆนั้น
มันมีความสุขขนาดไหน
ความรู้สึกเก่าๆ มันกลับมาอีกครั้ง
ความลังเลมันกลับมาอีกครั้ง
จนมันเอ็มมาถาม ว่าจะมามั้ย???
ผมบอกความรู้สึกทุกอย่างไป
มันตอบกลับมาว่า...
"ถ้ามึงยังไม่สบายใจ ก็อย่าเพิ่งมาเจอกันดีกว่า"
ผมยังคงลังเลเหมือนเดิม
แล้วอยู่ดีๆ เพื่อนคนหนึ่ง ที่สนิทกับทั้งมันและผมมากๆ ออนเอ็มขึ้นมา
ราวกับว่า เพื่อเป็นกรรมการห้ามมวย
"ไอ้...(สมมติว่าชื่อ เม่นละกัน) จะไปด้วย"
มึงหาเรื่องได้ดีมาก
"ไปๆๆ กูว่าไปเหอะ"ไอ้เม่นบอก
บวกลบคูณหารแล้ว ทริปนี้ดูท่าจะขัดไม่ได้ -*-
แถมยังต้องขับรถไปเองอีก
เออดี ยุนัก มาท้ากูห้าว
กูก็จะห้าวโชว์ ห้าวเป้งด้วย หึหึ
.
.
.
พอตกลงได้ ผมก็แอบเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า แล้วเอากระเป๋าไปยัดไว้ท้ายรถ (เพราะแม่ผมจะขยับรถตอนเช้า ถ้าเห็นกระเป๋าในรถจะสงสัยว่าไปไหน)
วันรุ่งขึ้น ผมก็ขอแม่เอารถออกไปทำงาน (ปกติผมจะขับไปมั่ง นั่งรถเมล์มั่งครับ ขี้เกียจ)
แล้วพอเลิกงาน ไอ้เม่นก็มารอหน้าบริษัท แล้วเราก็ออกเดินทางกันอย่างเสียวสันหลังวาบๆ 555+
เพราะกลัวทั้งตำรวจและกลัวเกิดอุบัติเหตุ แต่ความห้าว มันไม่ปราณีใคร
ผมถามทางมาแค่ว่า มอเตอร์เวย์ไปยังไงแค่นั้น ทางออกยังไม่รู้เลย ว่าจะไปศรีราชาเนี่ย ไปยังไง
.
.
.
ผมบอกแม่ไปว่า ไปติดต่อลูกค้าที่ชลบุรี แล้วจอดรถไว้ออฟฟิศ กลับพรุ่งนี้เย็น ฮ่าๆๆๆ
.
.
.
การเดินทาง ตจว ครั้งแรกของผมก็สนุกดีครับ เชื่อแล้วว่าทำไมคนกทม.ถึงชอบขับรถเร็วเวลาไป ตจว
เพราะพอออกจาก กทม แล้วได้เหยียบคันเร่ง
ผมที่ไม่เคยเหยียบเกินร้อยนี่ 120 แบบไม่รู้ตัวเลย
//กลัวอะ เหยียบเกินร้อยแล้วกลัวชนชาวบ้านเค้า เค้าเพิ่งขับเป็นน้า
.
.
.
ขับไปถึงศรีราชาอย่างงงๆ จำทางไปหอมันได้ด้วยแหละ อิอิ ถึงจะไม่ได้ไปร่วมปีแล้วก็เหอะ
แต่เกือบจูบต้นมะขามไปทีนึง ถนนแคบเหลือเกิน
.
.
.
เค้าดูเปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากที่ไม่เจอกันร่วมปี
ไม่รู้มันนอนเยอะหรือเปล่า ผมมันดูลีบๆ
และคาแรคเตอร์ค่อนไปทางเคะมากขึ้น ฮ่าๆๆๆ
ผมกับมันทักทายกันง่ายๆ แล้วมันก็หันไปคุยกับเพื่อนอีกคนมากกว่า
.
.
.
ผมหลบมุมไปสูบบุหรี่เงียบๆคนเดียวสักพัก
ลองจับความรู้สึกของตัวเอง
ว่ารู้สึกยังไง เศร้ามั้ย เสียใจมั้ย ดีใจมั้ย ที่ได้เจอมัน???
ผมไม่รู้
แต่.... มีสองสิ่งที่เหมือนเดิม
คือรัก....และเหงา
ความรู้สึกดีๆต่อคนๆนี้ยังไม่เปลี่ยนไป เพียงแต่มันอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจ ไม่ใช่แย่งชิง
เหงา.... ที่พอย้อนมามองตัวเอง แล้วมองออกไปข้างหน้า
กูจะเจอคนแบบมึงอีกมั้ย ในชีวิตกู
ความคิดของผมหยุดลงแค่นั้น ก่อนเราจะเดินทางไปเติมแอลกอฮอล์ในเส้นเลือด
.
.
.
เราสามคนพูดคุยกันสัพเพเหระไปเรื่อย
มันคุยถึงแฟนของมัน ที่คบกันมา5ปี อยู่ตลอด มันอาจจะไม่คิดอะไร หรืออาจจะสื่ออะไรกับผม
แต่มันก็เป็นเรื่องที่ฟังแล้วออกแนวหดหู่ใจน่าดู
แต่ก็ยังยิ้มได้???
เพราะผม(ต้อง)เข้าใจ
.
.
.
ก่อนจะมา ผมได้รับฟอร์เวิร์ดเมลมาว่า จะเกิดปรากฎกาณ์พระจันทร์สองดวงในวันนั้น ผมจึงชวนพวกแม่งดู
แต่จนตี1 แม่งก็ไม่มีพระจันทร์ห่าเหวอะไรอย่างที่แม่งบอกเลย
ผมโดนพวกแม่งแซวกันใหญ่ว่า โง่ชิบ ที่เชื่อเมลนั้น
สั้นๆถึงผู้ส่งต่อคนแรกเลยนะครับ
"เสลดเป็ด!!!!"
.
.
.
หลังจากเมากันได้ที่ (เพื่ออีกคนนี่ไม่ได้ที่ แต่เลยป้ายไปแล้ว ตอนแรกจะกินเหล้าปั่น ชิวๆ แหววๆ ไอ้นี่ห้าวบอก เบียร์สักแทปดีกว่า แม่งไปตั้งแต่ครึ่งแทปเลย เสลดเป็ดเอ๊ยย) เราก็ไปเกะกันต่อ
ตอนแรกก็ซึ้งๆกันดี แต่ไอ้เพื่อนอีกคน (ที่เมาๆ) แม่งจัดเพลง "คนมีตัง" มา แล้วบอกว่า
"ใครเพลงช้า แก้ผ้าเว้ย"
ต่อจากเพลงนั้นเลยแหกปากกันสะบัดเลย ฮ่าๆๆๆ
แล้วแม่งก็หมดแรง น๊อคไป
ผมกับ...คนนั้น ก็เหนื่อยพอกัน
"เหลือห้านาทีว่ะ เพลงสุดท้ายพอดี"
นึกไม่ออกแฮะ จะร้องอะไร
ด้วยตอนแรกอยากจะร้องเพลงๆนึงของออฟ แต่ไม่มี เลยค้นหาเพลงของ อ๊อฟ ปองศักดิ์
และผมก็เลือกเพลงนี้
http://www.youtube.com/v/FOkzp1O38A4?fs=1&hl=en_US"อย่าใกล้กันเลย"
.
.
.
ไอ้คนนั้น มันเดินกลับมาจากไปเข้าห้องน้ำ
บ่นใส่ผมทีนึงว่า
"ห่า ไอ้นี่ เพลงอิอ๊อฟอีกละ ชอบจังนะมึง"
แล้วมันก็หยิบไมค์มาร้องด้วย
...... "อย่าปล่อยเอาไว้ ให้มันลุกลาม".......
แล้วเราก็กลับกัน
เพื่อนอีกคนนอนไปแล้ว เหลือผมกับมัน
"เบียร์เหลืออยู่สองขวด กินกันมั้ย" มันถามผม
"อืมม เอาดิ"
.
.
.
ผมกับกินกันด้วยความเงียบ
อยากกอดมันอีกครั้งจัง
กอดให้หายคิดถึง
กอดให้สมกับที่ไม่ได้เจอกัน
แค่ไม่กี่วันเท่านั้น
ก่อนที่เราจะต้องจากกันอีก
.
.
.
"ไปสะพานดาวกันมั้ย มึงบอกอยากไปนี่"มันบอก
"ห้าวก็ป๊ายยยย"ผมบอก
ผมนั่งซ้อนท้ายมันไปยัง สถานที่แห่งหนึ่ง ในประเทศไทยนี่ล่ะ 555+
.
.
.
นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้ซ้อนท้ายมันแบบนี้
และมันยังขับห้าวๆเหมือนเดิม
จนเผลอกอดเอวมันไป1ที
เพียงเบาๆ....
เท่านั้น
เรามาถึงจุดหมายที่ว่า สถานที่ดังกล่าว เป็นที่ๆจะเห็นปล่องไฟมากมายครับ ในตอนกลางคืน มันจะส่องแสงระยิบระยับ
จนเค้าเรียกกันว่า สะพานดาว
ผมกับมันนั่งลง แล้วมันก็เปิดเพลงคลอ ซึ่งเพลงนั้นที่มันเปิดคือ
http://www.youtube.com/v/kFieoeqDH0A?fs=1&hl=en_US"Wo Bu Fei" (ฉันไม่คู่ควร)
.
.
.
เราถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันว่าระหว่างที่ผ่านมา
โดยไม่ได้คุยถึง เรื่องราวเก่าๆ เมื่อครั้งที่เราเลือกเดินทางผิดกัน....
ผมเอื้อมมีอไปแตะมือมันเบาๆ โดยที่มันไม่ได้ขัดขืนอะไร
.
.
.
กูขอโทษ ที่จริงกูไม่ควรทำแบบนี้
.
.
.
เมื่อกลับมา ผมเลือกที่จะนอนเลย
บางทีการนอน อาจช่วยผมได้
แต่...ไอ้เม่น ดันตัวร้อน สัสๆ เลยต้องปลุกมากินยา แล้วดูอาการกันอยู่พัก
ถึงได้นอนกัน
ผมเอื้อมมือไปจับมือมันอีกครั้ง
มันบีบมือผมแรงๆหนึ่งที แล้วปล่อยมือออกช้าๆ
เหลือทิ้งไว้แต่หัวใจผมที่ว่างเปล่า
และใจของอีกคนหนึ่งที่ยากจะเดา
.
.
.
วันรุ่งขึ้น อาการของไอ้เม่นยังไม่ดีขึ้น เลยต้องพากันไปหาหมอ ซึ่งทริปทะเลทั้งหมดเลยต้องพับเก็บไป
พาไอ้เม่นกลับมานอน
"ทำไรกันดีวะ"มันถามผม
"ไม่รู้วะ"
เรานั่งเล่นเน็ตอะไรไปเรื่อยเปื่อย
.
.
.
อีกไม่นานเราต้องกลับแล้ว
สิ่งที่อยากทำ ก็ทำซะเถอะ
"เห้ยมึง กูขอโทษแล้วทำ มึงห้ามโกรธกูนะ"ผมบอกมัน
"มึงจะทำอะไร"
"กูขอโทษ" ผมพูดจบ แล้วกอดมัน
มันทำสีหน้าเฉยๆ ก่อนจะปล่อยให้ผมทำตามใจ
"กูขอโทษอีกทีนะ"
ผมหลบมุมมาข้างนอก ปล่อยใจล่องลอยไปกับสายลมที่กำลังจะหอบฝนมา
.
.
.
"เห้ย หนิง แฟนกูจะมาว่ะ"มันบอกผม
"อืมม ก็ดี อาการไอ้เม่นก็ไม่ดี กลับเลยดีกว่า"ผมบอก
ผมพาไอ้เม่นกลับ กทม ด้วยความรู้สึกอึมครึม แต่ไม่ถึงกับเศร้า
หรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน...
ขอเฉลยเพลงของอ๊อฟ เพลงแรกที่ผมตั้งใจจะร้อง แต่ไม่มีให้ร้องในร้านเกะ ตอนนั้น คือเพลงนี้ครับ
v
v
v
http://www.youtube.com/v/ZYBUWTQAmjE?fs=1&hl=en_USขากลับห้าวเช่นเคย ผมอาสาไปส่งมันที่หอ ซึ่งไม่เคยไปเลย 555+
ซึ่ง โน่นนน อะ อยู่แถวราม รถติดขี้แตก ถนนก็แคบ ทางก็ไม่รู้ ขากลับ หลงไปทีนึง แต่ก็ขับถึงบ้านโดยยานพาหนะ???
(กูไม่ได้ขับ "สวัสดิภาพ" กลับนี่หว่า ทำไมต้องกลับโดยสวัสดิภาพ จริงมะ
)
.
.
.
"เป็นไงบ้าง ทำงานมาเหนื่อยมั้ยลูก " แม่ผมถาม
"เหนื่อยโคตรๆอะแม่ เหนียวตัวด้วย ดูดิ ใส่เสื้อซ้ำกันตั้งสองวัน
.
.
.
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1.อย่าโกหกผู้ปกครอง (ถ้าไม่จำเป็น)
2.คนส่วนใหญ่มักทุกข์เพราะความไม่เข้าใจ แต่สำหรับบางคน ความเข้าใจก็ทรมาณใจไม่แพ้กัน
หมายเหตุ คิดอยู่นาน ว่าจะเขียนดีมั้ย เพราะถ้าเขียน แน่ใจว่า คนที่เราเอ่ยถึงต้องมาอ่านแน่ๆ
เค้าอาจจะถอยห่างไปอีก....
หรืออย่างไรไม่รู้
สิ่งหนึ่งที่อยากให้คนๆนั้นเข้าใจคือ ความรู้สึกต่างๆของคนที่อยู่ตรงนี้มันยังเหมือนเดิม
แต่ว่า....
วันนี้ กูเข้าใจ ถึงสิ่งที่ต้องเป็น
บางครั้ง เหตุผลมากมาย ก็พ่ายต่อเหตุผลข้อเดียว คือ "รัก"
เหมือนที่มึงเลือกคนๆนั้น เพราะมึง "รักมากกว่า"
วันนี้ กูเข้มแข็งพอ ที่จะไม่ฟูมฟาย รอคอย และปิดหัวใจ
เมื่อไม่นานมานี้ กูไปดูหมอมา เพราะความจิตตกของกู
เค้าบอกว่า มึงกะกูจะเลิกคบเลิกติดต่อกันอย่างจริงจังในปีหน้า
มันคงไม่จริงมั้ง ถึงเราไปกันไม่ได้
ถึงกูอาจเป็นเพื่อนได้ไม่สนิทใจในตอนนี้
แต่สิ่งหนึ่งที่กูมั่นใจคือกูเป็นห่วงมึง
ที่วันนี้กูไม่มีใคร ไม่ใช่เพราะกูปิดใจนะ
เพียงแต่มันยังไม่มีใครหลงผิดมาเท่านั้นเอง 555+
คำนิยามความรักของผมวันนี้
"ความรักของผมคือการเดินทางไปข้างหน้า โดยที่ผมยังแอบมองย้อนกลับไปยังปลายทางที่จากมาเสมอ
ด้วยความห่วงใย....เท่านั้น"
ทุกคนที่เข้ามารับฟังผมระบายครับ