เสื้อกาวน์เก่าๆ.......กับเราสองคน
ตอนที่ 144
คำสอนของพ่อหลังจากจัดการเรื่องงานและตกลงกับเจ้าตัวเล็กจนหมดห่วงแล้ว
ผมตัดสินใจกลับมาที่บ้านเพื่อเตรียมเอกสาร
เตรียมความพร้อมและอยู่กับครอบครัวบ้างในช่วงเวลาที่เหลือก่อนการเดินทางที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
'' เก็บของมาหมดทุกอย่างแล้วเหรอลูก ทำไมมันมีแค่นี้ '' พ่อผมเอ่ยถามขึ้นเมื่อผมเปิดประตูท้ายขนกระเป๋าเพียงใบเดียวที่ติกายผมไปในวันที่พ่อและแม่ไปส่งผมที่พิษณุโลก และมีกล่องเอกสารและเครื่องมืออีกไม่กี่ชิ้น
'' ก็เอากลับมาแค่เสื้อผ้ากับเอกสารของผมอ่ะครับพ่อ ส่วนอะไรที่เหลือก็ทิ้งไว้ที่โน่นก่อนเผื่อน้องเขายังจำเป็นต้องใช้เพราะว่ายังไม่ได้ย้ายออกน้องเขายังต้องอยู่ที่นั่นจนถึงสิ้นเดือนนี้หรือเดือนหน้าอะคับ ''
'' ไม่เป็นไรหรอกก็ให้น้องเขาเอาไว้ใช้เถอะ เอากลับมาบ้านเราก็ใช่ว่าจะมีที่เก็บข้าวของเครื่องใช้บ้านเราก็มีเยอะแยะ '' แม่ผมออกโรงสนับสนุนการกระทำของผมในครั้งนี้
'' ไม่เอาอะไรมาอะไม่เป็นไร แล้วลืมหัวใจไว้ที่โน่นด้วยหรือเปล่า ''
พ่อผมถามให้ผมได้อึ้งและนิ่งคิดกับสิ่งที่พ่อถาม ก่อนพ่อจะถือกล่องเครื่องมือที่มีน้ำหนักไม่มากเดินดุ่มๆเข้าบ้านไป
เนื่องจากผมกลับมาถึงบ้านเอาในตอนเย็นๆ เราสามคนพ่อแม่ลูกจึงได้มีอกาสนั่งทานอาหารกันและพูดคุยเรื่องราวต่างๆมากมาย ทั้งในอดีตที่ผ่านมาประสบการณ์ที่ผมได้รับ และในอนาคตกับสิ่งที่ผมต้องเผชิญ พ่อและแม่ยังคงเป็นพ่อแม่คนเดิมที่ยังห่วงใยผมเสมอไม่ว่าผมจะโตแค่ไหน ก็ยังเป็นลูกชายตัวเล็กๆในสายตาของพ่อและแม่เหมือนเดิม
'' ไม้ พ่อขอถามอะไรจริงจังซักอย่างได้มั้ยลูก '' พ่อผมเอ่ยถามขึ้นมาหลังจากจิบชาสมุนไพรลดระดับน้ำตาลหลังอาหารที่เจ้าตัวเล็กเคยแนะนำพ่อเมื่อคราวก่อน นั่งคงเป็นการยอมรับเจ้าตัวเล็กอีกรูปแบบนึงของพ่อซิน่ะ ผมแอบคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปหรือเปล่าเนี่ย
'' ตอนนี้ไม้ยังยืนยันหนักแน่นเหมือนเดิม ว่ารู้สึกเหมือนเดิมกับเด็กคนนั้นได้อยู่มั้ยลูก ''
'' พ่อครับ พ่ออาจจะคิดว่าเป็นอารมณ์เผลอใจ หลงใหลแค่ชั่ววูบเท่านั้นที่ผมบ้าไปรักคนที่เป็นผู้ชายเหมือนกันกับผม ผมขอโทษที่ทำให้พ่อแม่เสียใจในจุดนี้ แต่ผมยังยืนยันกับพ่อเหมือนเดิม และมันหนักแน่นกว่าเดิมมากมายนักครับพ่อ
ติ๊บเป็นเด็กดี น่าสงสาร และน่ารัก ตั้งแต่ที่ผมรู้จักเขาเหมือนชีวิตของผมถูกเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป ''
'' อะไรทำให้ลูกมั่นใจเด็กคนนั้นได้ขนาดนี้เหรอลูก '' แม่ผมเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง
'' ผมเชื่อว่าพ่อกับแม่มีความสุขที่จะได้ดูแลกันและกันไปตลอดชีวิต
มีความสุขที่จะฝ่าฟันปัญหาต่างๆไปด้วยกัน ขอแค่มีคนที่เรารักกุมมืออยู่ไม่ห่างต่อให้ปัญหาต่างๆเข้ามามากมายและปัญหานั้นจะใหญ่แค่ไหน พ่อกับแม่ก็พร้อมจะยอมรับมัน
วันนี้ลูกของพ่อมีความสุขแบบนั้นแล้วครับ เพราะเด็กหนึ่งคนที่พ่อแม่ก็คงรับรู้และสัมผัสได้ไม่ต่างจากผมว่าเขาคือคนที่พร้อมจะก้าวไปเคียงข้างและดูแลผมได้ตลอดเวลา ''
'' หนึ่งคนที่ทำให้ผมยิ้มได้ตลอดเวลาเมื่อคิดถึง
หนึ่งคนที่คอยให้กำลังใจผมในวันที่ผมเหน็ดเหนื่อย
หนึ่งคนที่โอบกอดและปลอบโยนเมื่อผมท้อแท้
หนึ่งคนที่ดูแลผมทั้งเรื่องการกิน การอยู่ หรือแม้แต่วันที่ผมไม่สบายเขาก็ทำหน้าที่นั้นได้ดีไม่แพ้ไมแพ้แม่เลยแม้แต่น้อย
หนึ่งคนที่ทำให้ผมมีความสุข จาการเป็นผู้ให้และมีความสุขเมื่อเห็นเขามีความสุข
และเพียงแค่หนึ่งคนที่ผมรัก และรักผม ไปจนช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตก็คือคนนี้ที่ผมมั่นใจ ''
'' พ่อกับแม่จะยังยอมรับในตัวผมได้อยู่มั้ยครับ ถ้าผมจะบอกว่าผมรักติ๊บและคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่นได้อีก ''
ผมเรียบเรียงคำพูดที่สละสลวยที่สุดเล่าให้พ่อกับแม่ฟัง พร้อมกับน้ำตาลูกชายของพ่อกับแม่ที่มันเอ่อท้นออกมาด้วยความสุข ด้วยความยินดีที่ได้เปิดใจคุยกับพ่อแม่แบบไม่มีอะไรปิดบังหรือต้องกังวล
'' พ่อก็ยังยืนยันคำเดิมลูก ไม่ว่าจะเป็นยังไงไม้ก็ยังเป็นลูกที่ดีของพ่อกับแม่เสมอและไม้ก็ไม่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ เพราะฉะนั้นอะไรที่ทำลงไปแล้วทำให้ลูกมีความสุขพ่อกับแม่ก็มีความสุขด้วย แต่ไม้ต้องเผื่อใจไว้บ้างนะลูก เวลาอาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างในโลกนี้ แม้กระทั่ง ใจของคนเรา '' พ่อผมตอบก่อนเดินมาลูบหัวผมเบาๆก่อนเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำอาบท่าในตอนเย็น ทิ้งให้ผมกับแม่ได้อยู่กันสองคนแต่ไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากแม่เลย นาน นิ่ง จนผมรู้สึกอึดอัด
'' แม่ครับ ''
ผมเรียกแม่และแสดงท่าทีเตรียมจะพูดกับแม่เพื่อขับไล่ความเงียบนั้นไป แม่โกรธผมรึเปล่านะ
'' ไม่ต้องพูดอะไรหรอกไม้ แม่เลี้ยงลูกมากับมาแม่รู้ว่าลูกของแม่เป็นยังไง แม่เชื่อมั่นและเคารพในการตัดสินใจของไม้เหมือนที่พ่อบอก เพราะฉะนั้นอะไรที่เป็นความสุขของลูกทำไปเถอะลูก อีกไม่นานพ่อแม่ก็ต้องจากเราไปตามวิถีมนุษย์ แต่สิ่งเดียวที่แม่อยากเห็นคือแม่อยากเห็นลูกของแม่มีความสุขและอยู่บนโลกใบนี้ในวันที่พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว อย่างมีความสุขต่อไป
และตอนนี้ไม้ก็ทำให้แม่เห็นแล้วว่าไม้มีความสุขและเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข
แม่เข้าใจลูกไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ''
ผมโผกอดเข้ากับเอวแม่ก่อนปล่อยน้ำตาลูกผู้ชายตัวโตๆที่ตอนนี้ราวกับเด็กอนุบาลร้องไห้ฟูมฟายกับแม่
'' ขอบคุณคับแม่ ขอบคุณจริงๆ ''
ผมบอกแม่ก่อนแม่จะลูบหัวปลอบประโลมผมจนสงบนิ่งจึงเดินตามพ่อขึ้นห้องไปในเวลาไม่ห่างกัน
ขอโทษแฟนคลับที่มาอัพซะดึกพอดีพอคนไข้ที่อาการไอหนักมาก ไปฉีดยามาคร้าบบบบ
มาอัพให้ตามที่สัญญาแล้วนะ แต่คืนนี้คงอยู่ตอบรีพลายแฟนคลับไม่ได้ขอตัวดูแลคุณหมอซักคืนนะคับ
ไว้จะมาแจ้งอาการให้ทราบต่อไป
