[13]
“สอบอยู่หน้าเดียวหรือไง” ผมมองไอ้เตี้ยที่นั่งอ่านหนังสือมาตั้งแต่เช้า ก็เห็นมันเปิดอยู่ที่หน้านั้นหน้าเดียว ก้มอ่านบ้าง เงยหน้าเหม่อลอยบ้าง แล้วอย่างนี้มันจะได้เรื่องอะไรหละ
“ผมอ่านย้อนกลับมาแล้วต่างหาก พี่เคอย่ามามั่ว” คำพูดที่มันเถียงออกมามันน่าหมั่นไส้จริงๆ
“ก็เห็นอยู่ว่าเปิดอยู่หน้าเดีย แล้วยังจะมาเถียงอีก” ผมทำท่าจะเดินเข้าไปตบกบาลมัน แต่ก็ไม่ได้ทำจริงๆ
“ก็มันงงนี่นา ไม่ได้เรียนบริหารแบบพี่นี่ อ่านไปก็งงๆ” พอผมมองดูหนังสือที่มันอ่าน มันเป็นหนังสือวิชาบริหารเบื้องต้น จริงสิไอ้เตี้ยมันเรียนที่ตึกคณะผมด้วยนี่นา ที่มันทำสมุดตกใส่หน้าผมนั่นเอง
“ไม่เข้าใจทำไมไม่บอก เอามานี่เดี๋ยวอธิบายให้ฟัง” ผมเรียกให้ไอ้เตี้ยส่งหนังสือมาให้ เพื่อจะดูหัวข้อ จะได้อธิบายได้ถูก แต่ไอ้เตี้ยก็ไม่ยอมยื่นมาอยู่ดี
“ทำไมไม่เอามา” ผมเริ่มดุอีกรอบ
“ผมอ่านเองก็ได้ครับ ไม่อยากรบกวนพี่เค” ไอ้เตี้ยทำหน้าระแวง ก่อนจะบอกปัด
“รบกวนเหี้ยไรหละ......” ผมตะคอกมัน แต่ก่อนที่ผมจะได้ว่าอะไรต่อ มือถือผมก้ดังขึ้น
“ไอ้เคมึงอยู่ไหน” เสียงบีถามมาตามสาย
“อยู่แถวบ้าน มีไรวะ” ผมตอบกลับไปแต่สายตาก็ยังมองไอ้เตี้ยเหมือนเดิม โดยที่ไม่ได้คิด.....ก็ผมอยู่ที่หอไอ้เตี้ยนี่นา ตอบไปได้ยังไงวะว่าอยู่แถวบ้าน
“มึงรีบกลับบ้านเลย วันนี้มีเจ้ามือเลี้ยงเหล้า จัดที่ไว้ด้วย” น้ำเสียงบ่งบอกได้ว่าคนพูดกำลังมีความสุข
“เออ แบบเดิมป่าววะ” ผมถามกลับไป เพราะจะได้เตรียมของให้ถูก
“จัดไป.....เยอะๆ กุอยากหนักๆ”
“โอเช” ผมรีบวางสายทันที เพราะตอนนี้คนที่ผมต้องจัดการคือไอ้เตี้ยหน้ามึนนี่ต่างหาก
“ทำไมต้องมีปัญหา” ผมเริ่มเปิดประเด็นก่อน
“เปล่าครับ ผมเกรงใจ”
“กูจะติวให้ มีปัญหาอีกไหม”
“ติวก็ติวครับ” ไอ้เตี้ยทำท่าเหมือนแบกโลกไว้ทั้งโลก มีปัญหาได้ตลอดสิไอ้เด็กคนนี้
“ไปอาบน้ำไป....เดี๋ยวจะไปกินข้าวที่บ้าน” ผมหละหน่ายกับท่าบื้อๆของมันจริงๆ ก่อนจะไล่มันไปอาบน้ำ ไอ้เด็กซกม๊กน้ำท่าไม่ยอมอาบตั้งแต่เช้า
“ที่บ้านใครครับ” มันยังมีหน้ามาถามอีก
“บ้านกูนะสิ จะไปได้หรือยัง ให้เร็วเลยนะมึง” พอผมพูดไอ้เตี้ยก็แทบสะดุ้งลุกออกจากที่นั่งทันที เฮ้อ.....จะมึนอะไรได้ขนาดนี้วะเนี่ยไอ้เตี้ย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อะไรวะไอ้แย้พี่เค จะดุอะไรนักหนาวะเนี่ย จะรู้ตัวหรือเปล่าว่าไอ้ที่ผมต้องนั่งเหม่ออ่านหนังสือได้หน้าเดียวเนี่ยมันเพราะใคร ก็ผมมัวแต่คิดมากเรื่องไอ้แย้พี่เคนี่หละ สรุปแล้วพี่เคชอบผมจริงหรือเปล่านะ ยิ่งเป็นคนเจ้าอารมณ์อยู่ แบบนี้ผมจะเอาชีวิตรอดไหมเนี่ย แล้วอะไรให้ผมมาอาบน้ำ จะไปกินข้าวที่บ้านงั้นหรอ บ้านใครนะผมรู้แต่ตอนนั้นสมองมันเบลอเว้ย เลยถามอะไรแปลกๆออกไป เรื่องแค่นี้ทำไมต้องดุด้วยวะ อย่าเผลอหลับนะ ไอ้นินจาจะเอาปากกาวาดหน้าให้เละเลย หึ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมมาถึงบ้านพี่เคช่วยเย็นๆ บ้านที่ครั้งนึงผมเคยมากับพี่เค แต่ไม่ได้เข้ามาภายใน ได้แต่นั่งรอในรถเท่านั้น บรรยากาศในบ้านดูสงบเงียบและร่มรื่นมาก ทำไมไม่ทำให้ไอ้แย้นี่ใจเย็นได้เลยนะ
“มองอะไร มีปัญหาอะไรอีก” ผมต้องสะดุ้ง สงสัยเผลอมองหน้าไอ้พี่เคตอนที่คิดถึงว่าบรรยากาศร่มรื่น ไม่ได้เข้าไปอยู่ในจิตใจร้อนๆของไอ้พี่เคได้เลย เฮ้อ
“ทำไมต้องเตรียมอะไรเยอะแยะหละพี่เค” ผมสงสัย เพราะตั้งแต่มา พี่เคก็วุ่นเตรียมเตาถ่าน หาถ่าน จัดโต๊ะเก้าอี้ โดยที่ให้ผมนั่งรออย่างเดียว จริงๆผมก้อยากช่วยนะ แต่พี่เคบอกถ้าผมช่วยก็พอดีได้กินดึกๆ...เฮ้อ ทำร้ายจิตใจกันเห็นๆ T_T
พอสักพักใหญ่ๆก็มีสมาชิกมาเพิ่ม มากันหลายคนแต่คนที่ทำให้ผมต้องทิ้งสติทุกอย่างไว้กับที่ก็คือคนนั้น “พี่บี” คนที่ซัดกับพวกที่มาหาเรื่องสองคนหมอบราบคาบ หน้าใสๆตัวบางๆ ทำไมโหดได้ขนาดนั้นนะ หรือว่าไอ้แย้พี่เคมันจะให้พี่บีมาจัดการผม ผมทำอะไรผิดหละ เฮ้ยไม่จริงหรอก พี่เค้าจะมาทำร้ายผมทำไม...อืมๆๆๆ
“ช่วงนี้ไอ้บีมันเครียดๆ อย่าไปกวนมันหละ เดี๋ยวได้โดนยำเละแน่” พี่เคพูดยิ้มๆ ก่อนจะรับของจากพี่บีเข้าไปในครัว.......อันนี้พูดจริงหรือขู่ผมหละเนี่ย ไอ้บ้า ทำให้คิดมากทำไมเนี่ย เฮ้อ.......
“ใครวะไอ้เค” ผมเดินเข้ามานั่งดูพี่เคเตรียมของเพราะไม่รู้จักกับพี่ๆข้างนอกสักคน และก็เป็นเหมือนเดิมคือ พี่เคไม่ให้ผมช่วยเช่นเดิม
“อ๋อ...กูลืม ไอ้นี่มันชื่อจา เก็บได้แถวนี้หละ” พี่เคเงยหน้าจากของมามองพี่บีนิดหน่อย ก่อนจะตอบโดยไม่ได้สนใจหันมามองผมเลย
“คนนะมึงไอ้เค.......แฟนใหม่มึงหรอ” คำถามของพี่บี ทำเอาผมตกใจ นี่พี่คิดว่าผมเป็นแฟนกับพี่เคนี่จริงๆหรอเนี่ย
“มึงอย่าบ้าวะ หน้าแบบนี้เนี่ยนะกูจะเอา” น้ำเสียงของพี่เคดูจริงจังในการพูดมาก แต่ทำไมผมถึงรู้สึกเจ็บหละ ทั้งที่เมื่อกี้ยังตกใจที่พี่บีคิดแบบนั้น แต่ทำไมพอพี่เคพูดแบบนั้น ผมกลับเจ็บ....เจ็บที่ใจ
“ว่าแต่มึงเถอะ จะหวานกันไปถึงไหนวะ กูอิจฉานะเว้ย” เสียงของพี่เคยังดังเข้ามาเป็นระยะ แต่ทำไมผมไม่ได้รับรู้อะไรเลย
“มึงก็หาสักคนสิ อย่างน้องจานี่ก็น่ารักนะเว้ย”
“หน้าจืดแบบนี้ กูจะเอาไปทำไมวะ แค่คิดก็สยองละ” เพราะผมหน้าจืดอย่างงั้นหรอ พี่ถึงพูดแบบไม่รักษาน้ำใจผมเลย ผมได้แต่ก้มหน้า ไม่รู้จะทำอะไรได้ดีไปกว่านี้
“กินด้วยไหม” พี่บียื่นแก้วเหล้ามาให้ผม ผมกำลังเอื้อมมือไปหยิบตามมารยาทที่ไม่อยากปฏิเสธ
“อย่าทำให้เด็กมันเสียวะ เอานี่ไป” พี่เคหยิบแก้วเหล้าในมือพี่บีไป แล้วเปลี่ยนเป็นน้ำอัดลมมาให้ผมแทน
“ไม่ใช่แฟนทำไมต้องห่วงวะ” พี่บีถามแบบยิ้มๆ
“ไม่ได้ห่วง แต่กูเสียดายเหล้า กินน้ำอัดลมไปนั่นหละดีแล้ว” พี่เคตอบกลับมา แต่ก็ไม่ได้มองหน้าผมเช่นเดิม
“ไอ้บีมึงทำไรนะ” พี่เคทำเสียงดังขึ้นมาเล็กน้อย
“ก็คีบเนื้อให้น้องจาไง มีปัญหาหรอวะ” พี่บีทำหน้าหงุดหงิดใส่
“มึงเอามานี่ ไอ้นี่มันไม่กินเนื้อ” ผมจะดีใจดีไหมนะที่พี่เคจำได้ว่าผมไม่ทานเนื้อ มันรู้สึกดีที่มีคนคอยเป็นห่วง แต่เพราะไอ้คำว่า - - หน้าแบบนี้เนี่ยนะกูจะเอา - - มันยังดังอยู่ในหัวผมเช่นเดิม มันทำให้ผมไม่ได้ดีใจกับการที่พี่เคใส่ใจผมเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตลอดทางกลับหอพี่เคไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย และผมก้ไม่คิดที่จะถามอะไรด้วย เพราะผมไม่กล้าที่จะก้าวก่ายในเรื่องของพี่เค แต่พอจะถึง พี่เคกลับจอดที่มาร์ท แล้วซื้อเบียร์มาหลายกระป๋อง....เมื่อกี้ก็กินเหล้า ยังจะกินเบียร์ต่ออีกหรือเนี่ย
พี่เคไม่ได้ชวนผมไปนั่งกินด้วย แต่ผมก้เลือกที่จะหยิบเบียร์ในตู้เย็นแล้วตามไปนั่งด้วยที่ระเบียง พี่เคหันมายิ้มให้ผมน้อยๆ ก่อนจะหันไปสนใจกับความว่างเปล่าบนฟ้าเช่นเดิม
“รู้ไหม....เค้าคือคนที่กูรัก...คนแรกที่กูรัก” หลังจากนั่งกินไปได้สักพักใหญ่ๆ พี่เคก็เอ่ยปากพูดออกมา
“แต่ตอนนี้ กูไม่มีสิทธิ์ที่จะรักเค้าอีกต่อไปแล้ว” หลังจากพูดประโยคนี้จบ เบียร์ในมือของพี่เคก็ถูกพี่เคยกดื่มจนหมด มันเหมือนพี่เคอัดอั้นในใจ และอยากที่จะระบาย แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าสิ่งที่เกิดกับผมมาตลอดมันคืออะไร ผมไม่มีความสุขที่ต้องหลบหน้าพี่เค รู้สึกน้อยใจที่พี่เคดุว่าผม และยิ่งรู้สึกเสียใจ ที่พี่เคมองไม่เห็นผมอยู่ในสายตา ยิ่งวันนี้มันทำให้ผมรู้ว่า ใจของพี่เคอยู่ที่ใคร มันยิ่งทำให้ผมเจ็บมากกว่าเดิม
“เป็นผมได้ไหมครับ” ผมเอ่ยออกมาเบาๆ ทำให้พี่เคหันมามอง
“เป็นผมได้ไหมที่จะมาแทนพี่บีในใจพี่” ผมหันไปมองหน้าพี่เค และส่งยิ้มจางๆให้ สีหน้าของพี่เคมีอาการงุนงงอยู่เล็กน้อย ก่อนที่ความเงียบจะดึงเราทั้งสองคนจมหายไป
“พี่ขอโทษนะที่พี่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น แต่พี่ไม่ได้รู้สึกกับเราแบบนั้น ขอโทษนะ” พี่เคพูดทิ้งไว้แค่นั้น ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งผมไว้ที่ระเบียงคนเดียว และไม่ใช่ว่าพี่เคจะเดินหนีหายจากระเบียง แต่ตอนนี้พี่เคเดินหนีหายออกจากห้องไปแล้ว
เจ็บนะความรู้สึกแบบนี้ เจ็บลึกลงไปที่ใจ ทำไมผมต้องเผลอใจให้กับพี่ด้วย ทั้งๆที่ก็รู้ว่าคนแบบพี่ คงไม่มาสนใจคนจืดๆแบบผม............น้ำตา เบียร์ และแสงจันทร์ คงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในตอนนี้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อย่าทำร้ายคนแต่งนะ

บวก 1 ให้ตอน 12 ครับ