ฮึบๆๆมาแล้วค่ะ
ร้อนๆจากเตาเลยทีเดียว
มาอ่านกันต่อนะคะ ^o^
...............
เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก
: ของพี่คนเดียว (ครึ่งหลัง)
.
.
“ตัวป่วน แน่ใจนะว่าไม่มีอะไรอยากบอกพี่?”
และพี่อากาศก็อดใจไว้ไม่ไหว ถามออกไปเป็นรอบที่สามขณะคีบกุ้งที่เพิ่งลวกจากหม้อสุกี้ให้เด็กน้อยเจริญอาหารที่นั่งอยู่ตรงข้าม ไอ้หนูป่วนเริ่มเอะใจกับคำถามปลายเปิดคำถามนี้ของคุณแฟนตัวโตแล้ว มันเงยหน้าจากหม้อสุกี้ขึ้นมองตาคุณแฟนตัวโตทั้งๆที่ตะเกียบในมือยังคีบเห็ดเข็มทองคาหม้ออยู่เลย
“พี่ฟ้า.....มีอะไรรึเปล่า? สงสัยอะไรเหรอ? ถ้าเป็นเรื่องพี่เพชรอ้ะ ไม่มีอะไรจริงๆนะ หรือพี่ฟ้าไม่เชื่อใจป่วน?”
ท้ายประโยคกลายเป็นสุ้มเสียงคาดคั้น แถมด้วยอาการวางตะเกียบลงแช่มันไว้ในหม้อนั่นแหละ ส่วนตัวคนพูดมันก็เริ่มเม้มปากจนแทบจะกลายเป็นเส้นตรงเสียแล้ว
“ไม่ใช่นะครับ คือ....พี่แค่สงสัย ว่าแหวนหายอีกแล้วรึเปล่า แล้วตัวป่วนไม่กล้าบอกพี่เพราะกลัวพี่จะโกรธ.....คือ”
เห็นอาการคุณแฟนแบบนั้นพี่อากาศเลยร้อนรนเสียเอง แก้ตัวพัลวันจนลิ้นแทบจะพันกันเชียว
“โห่ว นึกว่าเรื่องอะไร”
ไอ้หนูป่วนมันยิ้มออก แล้วก็เลยล้วงมือเข้าไปในคอเสื้อดึงเอาสร้อยเงินเส้นยาวออกมานอกเสื้อฟอร์มฝึกงาน
ยังไม่พอ...มันยังเอาจี้วงกลมหน้าตาคุ้นๆวางบนมือแล้วยื่นไปตรงหน้าคุณแฟนช่างสังเกตแต่ไม่ยอมถามตรงๆเสียด้วย
“อ้อ.....ไม่ได้ทำหายเนอะ ก็แล้วทำไมไม่ใส่เหมือนเดิมล่ะครับ ทำไมต้องเอาไปห้อยคอด้วย”
เอ้า...ถึงกับหน้าแดงเลยวุ้ยพี่อากาศ เขินล่ะสิที่คิดอะไรไปไกลลิบลิ่ว เฮ้อ.....ถามแต่แรกก็หมดเรื่อง
“ก็วันๆจับคนไข้ตั้งเยอะ ล้างมือวันละไม่รู้กี่หน....”
“พี่เห็นฝึกงานตัวแรกตัวป่วนก็ใส่แหวนได้นี่”
“ง่า.....ป่วนมีเรื่องสารภาพ....คือ ป่วนเกือบทำแหวนหายแน่ะ เพราะตอนนั้นใช้วิธีถอดใส่กระเป๋าเสื้อเอา ทีนี้พอนึกขึ้นได้เลยไปเอาสร้อยมาร้อยแหวนใส่ไว้แทนดีกว่า ก็....ของสำคัญ ป่วนไม่อยากทำหายอีกนี่ คราวก่อนยังเสียดายอยู่เลย....”
“......................”
“พี่ฟ้าอ้ะ......อย่ามายิ้มแบบนั้นนะ”
“อ้าว พี่ยิ้มก็ไม่ได้ด้วยเหรอ แฟนใครว้า...โหดจริงๆ”คำอธิบายจากคุณแฟนที่แสนน่ารักทำเอาพี่อากาศตัดสินใจว่าเรื่องไอ้หมอเพชรนั่นช่างมันไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้ขอใช้เวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆตัวป่วนให้คุ้มก่อน
“ก็มันเขินนี่ หยุดยิ้มเลยนะ......”
แล้วก็อีหรอบเดิม แก้เขินด้วยการกิน ไอ้หนูป่วนเอ๊ย......
พี่อากาศก็ช่างรู้ใจ คีบโน่นคีบนี่ใส่ถ้วยให้ไม่ได้ขาด ไหนตกลงกันว่าวันนี้ไอ้ตัวเล็กของพี่จะเป็นฝ่ายเอาใจไง
“อิ่มยัง?”
“อือฮึ”
“งั้นไปกันเถอะ”
ว่าแล้วพี่อากาศก็ลุกขึ้นคว้าข้อมือคุณแฟนพร้อมข้าวของมาถือไว้เอง แล้วลากให้เดินตามไปขึ้นรถลิ่วๆ
“จ่ายเงินแล้วเหรอ?”
“เรียบร้อยตั้งนานแล้ว เดินเร็วเข้าเร้ว”
“โห....พี่ฟ้าจะรีบไรนักหนาเนี่ย เดี๋ยวจุก”
“จะรีบพาคุณแฟนไปกอด อยากกอดจะแย่ นี่ถ้าอุ้มได้อุ้มวิ่งไปแล้วรู้เปล่า”
“บ้า....พี่ฟ้าบ้าที่สุด”
....................................
....................................
พี่อากาศที่นอนแผ่อยู่บนเตียงทำตัวเป็นฟูกให้คุณแฟนตัวเล็กนอนทับอยู่ทั้งตัวเหลือบตาดูนาฬิกาปลุกที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเล็กข้างเตียง พอเห็นว่ายังมีเวลาก็เริ่มไล้มือที่วางแหมะอยู่บนเอวของไอ้ตัวเล็กมันต่ำลงเรื่อยๆอีกแล้ว
“อืม....พี่ฟ้า ยังไม่พออีกเหรอ”
“ก็ไหนว่าจะตามใจพี่ไงครับ นี่พี่ฟ้าเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงนะ ขออีกนิดไม่ได้เหรอ?”
“ป่วนเหนื่อยแล้วนี่....พี่ฟ้าคนดี๊คนดี อุ้มน้องไปอาบน้ำแล้วเรามานอนกอดกันเถอะนะ”
เจอลูกอ้อนไอ้ตัวเล็กเข้าไป พี่อากาศก็ได้แต่ยอมตามใจเท่านั้นเอง ค่อยๆพยุงทั้งตัวเองทั้งไอ้ตัวนิ่มๆที่ทับอยู่ขึ้นมานั่ง แล้วทำท่าจะอุ้มมันเดินไปห้องน้ำก็ปรากฏว่าไอ้หนูป่วนมันส่งเสียงห้ามไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวๆๆๆ”
ไอ้หนูป่วนมันยึดผ้าปูที่นอนไว้แน่น จนพี่อากาศแกต้องยอมคลายอ้อมแขนออก พอส่งสายตางงๆพร้อมเลิกคิ้วถาม
คุณแฟนตัวเล็กของแกก็ทำหน้าแดงแล้วก้มหน้าหลบ ออกแรงดึงๆเอาผ้าปูที่นอนนั่นแหละมาห่อตัวเองเอาไว้จนแน่น
“หึๆๆ ยังจะอายอะไรพี่อีก.....”
พี่อากาศล้อไอ้ตัวที่พอถูกอุ้มขึ้นมาก็ซุกหน้าเข้ากับอกไปก็อดใจไม่ไหว ก้มลงจุ๊บลงไปตรงใบหูแดงๆที่โผล่ออกมายั่วอยู่ตรงหน้าไป พอเปิดประตูห้องน้ำได้ก็วางดักแด้สีฟ้าอ่อนลง ก่อนจะจับลอกคราบแล้วดันให้ก้าวเข้าไปในส่วนอาบน้ำใต้ฝักบัว
จับเด็กขี้อ้อนอาบน้ำเรียบร้อยแล้วส่งออกไปนอกห้องน้ำก่อน พี่อากาศก็ต้องมาจัดการกับตัวเองอีกรอบ เห็นท่ายืนหลับของคุณแฟนตัวเล็กแล้วสงสาร แถมยังเริ่มจะขัดใจโรงพยาบาลของไอ้หมอเพชรนั่นแล้ว ว่าจะใช้งานอะไรเด็กฝึกงานหนักนักหนา
ลืมคิดไปว่าการชวนออกกำลังกายก่อนนอนของตัวเองต่างหาก ที่ทำให้ไอ้หนูป่วนที่ต้องตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าต่อรถสองต่อไปโรงพยาบาลให้ทันก่อนแปดโมง ทั้งๆที่ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมาใช้เวลาเดินทางแค่สิบนาทีจากบ้านตัวเอง และสิบห้านาทีสำหรับวันที่มาค้างที่คอนโด เพราะฉะนั้นไอ้คนไม่เคยต้องตื่นแต่เช้าแล้วนั่งรถไกลๆฝ่าการจราจรและมลพิษของกรุงเทพฯ มันก็ต้องอ่อนเพลียเป็นธรรมดา
ย่องขึ้นเตียงซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มได้ ไอ้ตัวที่คิดว่าคงหลับสนิทไปแล้วมันก็เขยิบตัวมาจนเอาหัวฟูๆมาหนุนอยู่บนอกตามเคย
“พรุ่งนี้พี่ฟ้าไปไหน?”
“ไปส่งตัวป่วนแล้วเลยไปรายงานความคืบหน้าที่สำนักงานใหญ่ครับ”
พี่อากาศตอบไอ้ตัวส่งเสียงถามหงุงหงิง งัวเงียจนเกือบหลับนั่นไปมือก็ลูบหลังกล่อมเด็กให้หลับสบายไปด้วย
“ก็บอกว่าไม่ต้องไปส่งงายยยยยยยย”
“อยากไปนี่นา นานๆทีจะได้โอกาสบริการคุณแฟน....พี่ไม่เหนื่อยหรอกนะ ส่งตัวป่วนแล้วขึ้นทางด่วนแป๊บเดียวก็ถึงสำนักงานใหญ่แล้ว”
“งั้นก๊อตามใจ.....”
“พี่คงเสร็จงานประมาณสิบโมงครึ่ง....แล้วกลางวันพี่ฟ้าไปกินข้าวด้วยนะ”
“ดีสิ เอ....แต่พรุ่งนี้นัดกับพี่เพชรแล้ว พี่เพชรจะเลี้ยง ถ้าพี่ฟ้าไปด้วยจะแย่มั้ย......แต่ป่วนก็อยากกินข้าวกลางวันกับพี่ฟ้านี่.....ง่า......ไม่น่ารับนัดพี่เพชรเลยอ่า.....อือ.....”
พี่อากาศลองเอานิ้วเขี่ยๆแก้มพองๆของไอ้ตัวเล็กดูก็ปรากฏว่ามันหลับไปแล้ว
แกเลยคิดตอบมันในใจว่า.....ไม่เป็นไรหรอกตัวป่วน ไอ้หมอเพชรมันรวยจะตาย ให้มันเลี้ยงน้องเขยเพื่อนอีกสักคนจะเป็นไรไป ยังไงก็ไม่สะเทือนขนหน้าแข้งแน่ๆ
อีกอย่าง ที่แสดงความเป็นเจ้าของไปเมื่อเย็นไอ้หมอนั่นมันคงยังไม่ยอมถอดใจง่ายๆ
เพราะงั้นพรุ่งนี้ต้องไปตอกย้ำให้อะไรๆมันชัดเจนอีกสักหน่อย
............................
............................
“ไอ้ป่วน พี่ฟ้ากลับมาแล้วเหรอ?”
เออ แปลกนะ เมื่อเช้าพี่อากาศขับรถมาหย่อนคุณแฟนลงหน้าโรงพยาบาล แล้วก็ขับรถไปสำนักงานใหญ่แถวราชดำเนินต่อเลย
แล้วตัวป่วนมันก็ยังไม่ได้เล่าให้ไอ้เพื่อนอ่อนฟังสักนิด ทำไมมันรู้ได้หว่าว่าพี่อากาศกลับมาแล้ว
“อือ.......แกรู้ได้ไงอะ?”
“รอยไง โห.....รุนแรงนะเนี่ย หึๆๆๆ”
“เฮ้ย!! จริงอ้ะ ตรงไหน?”
“เออ ด้านหลังคอแกอ้ะ ตั้งหลายรอย โห......คิดถึงกันมากเนอะ ฮะๆๆๆๆ”
“ไอ้อ่อน แกเงียบปากเลย ถึงโรงอาหารแล้ว”
ไอ้หนูป่วนปิดปากช่างแซวของเพื่อนไม่ได้ ตอบโต้ก็ไม่ได้ด้วยเพราะหลักฐานมันฟ้องอยู่ทนโท่ เลยเร่งเดินจนมาถึงโรงอาหารของพนักงานโรงพยาบาลเสียขาแทบขวิด
พอมาถึงกวาดตามองก็เจอร่างสูงในเสื้อกาวน์สั้น ผมตัดสั้นแนบศีรษะของนายแพทย์วัชระโบกมือเรียกอยู่ในส่วนห้องปรับอากาศ ที่ถูกกันไว้สำหรับแพทย์และพวกหัวหน้างานโดยเฉพาะ มันกับไอ้เพื่อนอ่อนที่ติดมาด้วยก็เดินตัวลีบเข้าไปหา พอมองไปบนโต๊ะตัวป่วนมันถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก ส่วนไอ้เพื่อนอ่อนมองหน้าเพื่อนตัวป่วนของมันสลับกับคุณหมอพี่เพชรไปมาจนตาแทบกลับ
“พี่เพชร เลี้ยงกี่คนอะ นี่ไม่ใช่ให้ป่วนกับไอ้อ่อนมานั่งกับหมอเยอะแยะนะ”
“ฮะๆๆๆๆๆๆ พี่ก็เลี้ยงเราสองคนแหละ ทำไม ถ้ามีหมอเยอะๆแล้วยังไง?”
“เดี๋ยวต้องนั่งกินเรียบร้อยๆ ไม่ไหวน้า.....ยิ่งปีกไก่น้ำแดงแบบนั้นอ้ะ ถ้าต้องใช้ช้อนกับส้อมค่อยๆแงะเอา เสียอารมณ์ในการกินแย่ ฮ่าๆๆๆๆ”
ว่าแล้วไอ้ตัวกินเก่งไม่สมตัวก็ดึงเก้าอี้ให้เพื่อน ก่อนตัวเองจะนั่งลงตรงข้ามกับพี่หมอเพชร หยิบช้อนส้อมกำลังจะลงมือกินอยู่แล้วเชียว เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
###อย่ากลัวว่าวันเวลาจะทำให้เธอต้องเสียใจ......หรือความห่างไกลจะทำให้ใจ....###
“พี่ฟ้า?”//พี่กำลังเดินไปโรงอาหาร ตัวป่วนกินที่โรงอาหารเดียวกับที่ขายญาติคนไข้รึเปล่าครับ?//
“เดินมาทางนั้นแหละถูกแล้ว แล้วพี่ฟ้าเดินตรงเข้ามาเรื่อยๆนะครับ จะเห็นประตูซี่ๆสีเขียวๆ ก็เดินตรงเข้ามาเรื่อยๆจนมาถึงส่วนที่เป็นห้องแอร์เลย”
//เข้าไปได้แน่นะ ไม่มีตรวจบัตรพนักงานนะ?//
“ฮะๆๆ พี่ฟ้าก็เดินแบบเร็วๆไม่สนใจใครเลยสิ แบบว่าผมรีบเดี๋ยวมีเคสด่วนอะไรอย่างนั้นอ้ะ รับรองไม่มีใครทันมาจับตรวจแน่ๆ.......อ๊ะ!! อ้าว”
กำลังบอกทางทางโทรศัพท์อยู่ดีๆก็มีมือยักษ์มาขยี้หัวซะอย่างนั้น แล้วพอไอ้หนูป่วนมันเงยหน้าขึ้นมอง ก็เจอเข้ากับคุณแฟนตัวโตในเชิ้ตแขนยาวสีแดงเข้มจนเกือบดำชายเสื้อสอดเข้าในกางเกงเรียบร้อย แต่กระดุมสองเม็ดบนถูกแกะออก กับแว่นตากรอบพลาสติคสีน้ำเงินเข้มอันเดิมส่งยิ้มจนลักยิ้มแก้มบุ๋มมาให้
“สวัสดีครับคุณหมอเพชร ผมฟ้าครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ขอมาฝากท้องด้วยสักมื้อจะได้มั้ยครับ?”
“เอ่อ....ตามสบายครับ”
ได้รับคำอนุญาตปุ๊บพี่อากาศแกก็ไม่รอช้า นั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวที่เหลือว่างอยู่ทันที
“พี่เพชร เลี้ยงพี่ฟ้าอีกคนนึงแล้วกันนะ ป่วนอยากกินข้าวกับพี่ฟ้า แต่ก็ไม่อยากผิดนัดกับพี่เพชรด้วย แต่ของกินเต็มโต๊ะแบบนี้ สี่คนค่อยมีหวังจะกินหมดหน่อยเนอะ”
ว่าแล้วไอ้หนูป่วนก็เจริญอาหารไป ไม่ได้สนใจสายตาฟาดฟันระหว่างหมอกับคุณแฟนของมันตามเคย มีแต่ไอ้เพื่อนอ่อนนี่แหละที่เริ่มสงสารพี่เพชรที่อุตส่าห์เป็นเจ้ามือขึ้นมาตงิดๆ ได้แต่คิดว่าถ้ามันรู้ล่วงหน้าว่าพี่หมอคนนี้คิดอะไรกับไอ้เพื่อนตัวป่วนเกินกว่าน้องชายเพื่อนจะได้เตือนให้รู้แต่เนิ่นๆว่าพี่หมอมาช้าเกินไปเสียแล้ว
แล้วดูนะ แทนที่ไอ้คนรับเลี้ยงอย่างไอ้ป่วนมันจะตักกับข้าวบริการเจ้ามือ มันกับคุณแฟนตัวโตดันแผ่รังสีสีชมพูจนเรืองรอง เดี๋ยวคนโน้นตักเนื้อปูผัดผงกะหรี่ใส่จานคนนี้ เดี๋ยวคนนี้ช่วยแกะก้างปลาออกแล้วส่งไปใส่จานคนโน้น
ไอ้เพื่อนอ่อนนั่งกินไปพิจารณาสีหน้าพี่หมอเพชรที่ค่อยซีดลงๆแล้วก็ได้แต่ส่งสายตาแสดงความเห็นใจไปให้
โถ......พี่เพชร จะทำอะไรปรึกษาเพื่อนบ้างเหอะพี่ นี่ถ้าถามพี่ปุ่นของไอ้ป่วนมันก่อนพี่คงไม่ต้องมาเจอภาพบาดตาบาดใจแบบนี้......
สนหนูมั้ยพี่ ถึงหนูไม่ใช่ผู้ชายแต่หนูก็ใจแมนนะพี่นะ
“หมอเพชรครับ ปุ่นกับหมอเนสฝากความคิดถึงมาให้ ฝากบอกว่าอยู่ระนองสงบดี ไว้ว่างเมื่อไหร่ให้ลงไปเที่ยวบ้าง พอดีสนิทกับเจ้าของรีสอร์ทด้วย ยังไงอย่าลืมโทรหาปุ่นบ้างนะครับ”
นี่ก็แรง ฝ่ายนั้นเขาเริ่มหน้าซีดแล้วแท้ๆยังจะตัดทางทำมาหากินเขาด้วยการแสดงความสนิทสนมกับพี่ปุ่นของไอ้ป่วนเข้าไปอีก กะไม่ให้พี่หมอเพชรแกมีช่องทะลุทะลวงเลยว่างั้น
“อ่อ.....ครับ นี่รู้จักกับหมอปุ่นหมอเนสด้วย”
“ใช่ครับ ผมไปค้างบ้านพ่อกับแม่ที่ลำพูนมาตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เท่ากับที่ตัวป่วนไปค้างบ้านพ่อจ๋าแม่จ๋าของผมที่สุพรรณหรอก รายนี้ไปมาไม่ต่ำกว่าสิบครั้งแล้วมั้ง แถมบางทีงอนผมยังโทรไปฟ้องแม่จ๋าอีกนะครับ หึๆๆ เชื่อเขาเลย”โอย......พี่อากาศ พอเฮอะ พี่หมอเพชรแกน็อคเอาท์ไปแล้วมั้งนั่น
“จิ๊.....พี่ฟ้า”
ไอ้นี่ที่จิ๊จ๊ะก็ไม่ใช่อะไรหรอก คนมันอาย ไม่ได้ไม่พอใจอะไรทั้งนั้นแหละ แล้วไอ้หนูป่วนนะมันอายบนโต๊ะอาหารทีไร อาหารบนโต๊ะเป็นเกลี้ยงเกลาได้ทุกที
พอของคาวหมด คุณแม่บ้านที่เดินไปๆมาๆอยู่แถวนั้นก็ยกเอาจานเปลบรรจุผลไม้ที่จัดมาพร้อมให้จิ้มใส่ปากมาวาง พี่อากาศก็ไม่ปล่อยโอกาสหรอก ทั้งๆที่พี่หมอเพชรแกนั่งเหี่ยวติดพนักเก้าอี้ไปแล้วด้วยซ้ำแกก็ยังไม่ยอมหยุด
“แตงโมเนอะ พี่รู้ว่าตัวป่วนไม่ชอบสับปะรด”
นั่นไง.....ว่าอย่างนั้นแล้วก็จัดการเอาไอ้ส้อมเล็กๆที่มาพร้อมจานผลไม้นั่นจิ้มมาวางให้คุณแฟนของแกเรียบร้อย
“แต่สับปะรดที่พี่สั่งมานี่หวานนะน้องป่วน ไม่เปรี้ยวเลยพี่รับรองได้”
โอ้........ลูกฮึดเฮือกสุดท้ายของพี่หมอเพชร เป็นลูกฮึดสับปะรดหวาน โถ.............
“ป่วนไม่ได้ไม่ชอบเพราะมันเปรี้ยว.....”
“ตัวป่วนไม่ชอบเพราะเคยกินตอนเด็กๆแล้วมันกัดปาก เนอะ....”
น่านนนนนนนน...เอาเข้าไป ตัวป่วนมันพูดกับพี่หมอเพชรแกอยู่ดีๆ ก็มีเสียงคนเตรียมตัวมาแสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่แทรกมานิ่มๆซะงั้น
“อ้อ.......ครับ”
“เฮ้อออออออออออออออ......”ฮ่าๆๆๆๆๆ เสียงถอนหายใจยาวเหยียดนี่น่ะ ของไอ้เพื่อนอ่อนมัน สงสัยมันจะโล่งใจที่จะได้หลุดพ้นไปจากมื้อกลางวันที่น่าจดจำมื้อนี้เสียที
แต่เดี๋ยวก่อน......เพราะโปรโมชั่นแสดงความเป็นเจ้าของของพี่อากาศตัวโตไม่ได้หมดแค่ท่าทางและคำพูด พอทุกคนวางช้อนแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่มปุ๊บ พี่อากาศก็หันไปส่งยิ้มให้ไอ้อ่อนเป็นเชิงขอโทษเสียหนึ่งยิ้มเล็กๆ แล้วก็ล้วงลงไปในกระเป่าเสื้อตัวเอง หยิบถุงกำมะหยี่สีน้ำเงินใบเล็กๆออกมา
“ตัวป่วนถอดสร้อยออกมาให้พี่หน่อย”
“หืม? พี่ฟ้าจะเอาไปทำไม?”
“ก็นี่ไง พี่เห็นว่าสร้อยเงินนั่นมันไม่เข้ากับแหวนของเรา ออกจากสำนักงานพี่ฟ้าเลยแวะไปซื้อนี่มาให้”
ว่าอย่างนั้น แล้วพี่แกก็เปิดปากถุงเทสร้อยคอทองคำขาวเส้นไม่บางนักออกมาไว้ในมือ ส่วนมืออีกข้างก็ยื่นแบไปตรงหน้าคุณแฟนตัวเล็ก ไอ้หนูป่วนมันจะทำไงได้ นอกจากปลดสร้อยออกจากคอตัวเองมาให้โดยดี
พี่อากาศจัดการเปลี่ยนแหวนวงเล็กที่อยู่ในสร้อยเงินมาร้อยเข้ากับสร้อยทองคำขาวในมือ ตั้งใจจะให้เห็นกันชัดๆว่าแหวนจากไอ้ตัวเล็กของแกน่ะ แบบเดียวกันกับแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของแกเป๊ะเลย เอาสร้อยเงินเส้นเก่าใส่ถุงเรียบร้อยแล้วพี่แกถึงใส่สร้อยให้คุณแฟนเองกับมือ ตอนใส่ไปก็พูดพอให้ได้ยินกันทั้งโต๊ะอีกนะ
“แหวนวงนี้ยังอยู่กับตัวป่วน แปลว่าตัวป่วนเป็นของพี่คนเดียว เหมือนกับแหวนที่มือพี่ ที่แสดงว่าพี่ฟ้าก็เป็นของตัวป่วนคนเดียวนะครับ”พูดเสร็จพี่อากาศก็หยิบของในกระเป๋าเสื้อกาวน์ด้านซ้ายของไอ้หนูป่วน สมุดโน้ตเล่มเล็กๆที่เห็นมันพกอยู่ที่เดิมเป็นประจำขึ้นมา แล้วส่งไปให้ไอ้เพื่อนอ่อนที่กำลังตาค้างมองกิริยาอาการของสองคน ที่ยิ่งอยู่นานมันยิ่งเห็นรังสีสีชมพูเป็นสีจัดขึ้นทุกทีแผ่วิ้งๆ
“น้องอ่อนช่วยใส่ปกสมุดโน้ตให้ตัวป่วนทีนะครับ เมื่อวานพี่เห็นปกเริ่มเปื่อยๆแล้ว ตัวป่วนก็ติดจะใช้แต่เล่มนี้ไม่ยอมเปลี่ยนสักที พี่เลยแวะทำปกพลาสติคมาให้ด้วย เพราะเจ้านี่แหละ เลยเกือบมากินข้าวกลางวันด้วยไม่ทันแน่ะ”
ไอ้เพื่อนอ่อนรับปกพลาสติคที่ตอนแรกก็นึกว่าเป็นปกใสธรรมดาไปลงมือห่อสมุดโน้ตเน่าๆประจำตัวของไอ้หนูป่วน พอใส่เสร็จนั่นแหละถึงได้สังเกตว่าตรงกลางหน้าปกมีตัวอักษรเล่นหางเป็นโคลงอยู่หนึ่งบท
ไม่ทันได้คิดอะไรไอ้เพื่อนอ่อนก็อ่านออกเสียงมาเบาๆ......เบาพอที่จะทำให้พี่หมอเพชรยอมแพ้โดยดุษณี......
จำจรจำจากเจ้า จอมใจ พี่เอย
แสนห่วงแสนอาลัย ยอดชู้
ถึงตัวห่างแสนไกล ดวงจิต ผูกกัน
สองมั่นในรักรู้ ต่างพร้องคนึงหา ไอ้หนูป่วนได้แต่ก้มหน้างุดๆพร้อมทั้งยื่นมือที่อยู่ใต้ผ้าคลุมโต๊ะไปหยิกเข้าที่หน้าขาของคุณแฟนแสนเจ้าเล่ห์ที่มันเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าจุดประสงค์ของการอ้อนขอมากินมื้อกลางวันด้วยคืออะไร
จะห้ามปากไอ้เพื่อนอ่อนก็ไม่ทันเสียแล้ว.......เลยได้แต่เงยหน้าขึ้นส่งยิ้มแหยๆให้พี่หมอเพชรแกเท่านั้นเอง
........................................

.........จบตอนพิเศษค่ะ.......
ปล.พี่อากาศแกหึงแล้วนะคะตามออเดอร์คนอ่านเลย แต่.....คนนี้แกหึงทั้งที แกหึงแบบมีศิลปะค่ะ กร้ากกกกกกกกส์
ปล.อีก แอบมาเพิ่มรูป พี่อากาศเวอร์ไม่มีแว่น แต่ชอบรูปน้เพราะดูแสดงความเป็นเจ้าของมากกกกก โฮะๆๆๆๆๆๆ (ขอบคุณพี่มาร์คขานะคะ)