We belong together 32
...คืนนั้นพี่ยอดอ้อนผมให้นอนร่วมเตียงอีกตามเคย...ผมพยายามจะหาเรื่องปฏิเสธเพราะกลัวใจตัวเอง แต่ก็ต้องตามใจเค้าจนได้...จริงอยู่...ตอนที่นอนหลับภายใต้อ้อมกอดของพี่ยอดน่ะ มันมีความสุขมาก...แต่ตอนก่อนจะหลับเนี่ย...ผมเกร็งแล้วเกร็งอีก...ไม่กล้ากระดิกตัว...คิดในใจว่า ถ้าเค้ารุกล้ำมากขึ้น ผมถามตัวเองว่าจะห้ามใจได้หรือไม่...แต่ที่แน่ ๆ คือเต็มใจจะสูญเสีย...ซิง...
*
*
...เช้าวันอังคาร...ผมตื่นก่อนพี่ยอด แอบย่องออกมาอาบน้ำแต่งตัว...จากนั้นไม่นาน ผมก็ได้ยินเสียงพี่ยอดออกมาเข้าห้องน้ำบ้าง...เป็นเรื่องปกติที่ผมจะใช้เวลาแต่งตัวนาน เมื่อพร้อมแล้ว ผมจึงออกมาจากห้องตัวเองในชุดสูท น้ำหอมกลิ่นโปรดทำให้ผมสดชื่นขึ้นมาก...
“...พี่ยอด...ทำไมไม่รีบแต่งตัว...” ผมถามเมื่อเห็นพี่ยอดในชุดผ้าขนหนูพันเอวเหมือนทุกวัน
“...พี่แต่งตัวแป๊บเดียว...ไม่เหมือนทีมหรอก...หมุนอยู่นั่นแหละ...กว่าจะเสร็จ...”
“...งั้นทีมไปกินข้าวก่อนนะ...” ผมพูดเสียงเรียบ แล้วทำท่าจะไปใส่รองเท้าหน้าประตู
“...พี่ล้อเล่น อย่างอนนะ...พี่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเมื่อกี้ ตัวยังไม่แห้ง...ก็เลยมานั่งดูข่าวไปด้วย เช็ดตัวไปด้วย...รอพี่แป๊บนึงนะครับ...” พี่ยอดอ้อนแล้ววิ่งเข้าห้อง ผมมองอย่างตะลึง พี่ยอดวิ่งได้แล้ว ทำไงดี ถ้าเค้าขอในสิ่งที่ผมให้ไม่ได้ ซวยแน่ ๆ ผมยิ่งเป็นคนไม่ชอบผิดคำพูดอยู่ด้วย...
*
*
...ผมเดินเข้าแคนทีนพร้อมพี่ยอดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม...เสียงพนักงานแซวพี่ยอดที่หมู่นี้ไม่หน้าบึ้งเลย...พี่ยอดได้แต่ยิ้มแหย ๆ ส่วนผมก็หน้าร้อนวูบ ๆ...ท่าทางที่เราเดินมาด้วยกัน ใคร ๆ เห็นก็คงคิดไปถึงไหนต่อไหน...ผมกินไปได้ซักสองคำ...มิ้นท์ แก้ว และไผ่ก็ตามมา...พวกเรานั่งกินกันท่ามกลางสายตาที่มองมาอย่างไม่เป็นมิตรของอีผีอ้วนผอมคู่นั้น...
“...มิ้นท์...ญาติมึงมองอยู่อ่ะ...ถ้ามันมีปัญหาอะไร...บอกให้มันมาคุยกับกูได้ทุกเวลาเลยนะ...” ผมกระซิบบอกอีมิ้นท์
“...มันไม่กล้าหรอก...เมื่อวันก่อนก็โดนกูไปหลายดอก...มันบอกว่ามันหมั่นไส้มึง...ชอบทำตัวเด่น...กูก็เลยด่ามันซะลั่นครัว...มันจะเข้ามาตบกู...แต่กูถืออีโต้อยู่...มันก็เลยถอย...” อีมิ้นท์พูดขำ ๆ
“...ทำไมไม่ต่างคนต่างอยู่วะ...” ผมพูดเซ็ง ๆ
“...มันเล็งพี่ยอดอยู่ตั้งนาน มึงมาแค่ไม่กี่วันก็คาบพี่ยอดไปซะแล้ว...”
“...อีเวร...กูไม่ใช่หมานะ...” ผมค้อน อีมิ้นท์หัวเราะคิก ๆ ก่อนจะลุกพากันเดินไปเก็บถาดอาหาร
“...พี่ยอดหายแล้วเหรอครับ...” ไผ่ถามเมื่อเห็นพี่ยอดเดินเป็นปกติ
“...หายแล้ว...วันนี้เตรียมตัวไว้เลย...พี่จะพาไปทำงานใหญ่...”
“...โห...ใช้แรงงานเด็กเหรอ...” ผมกัด
“...ขู่ไปงั้นแหละ...งานใหญ่แต่ไม่หนักหรอก...”
“...หนัก ๆ ผมก็ทำได้พี่...” ไผ่บอก
“...ดีมาก...พี่ต้องเก็บแรงไว้สำหรับคืนนี้...” พี่ยอดพูดกับไผ่ แต่ประโยคหลังเค้ากระซิบข้างหูผม
“...ทะลึ่ง...” ผมเผลอตีมือพี่ยอดเบา ๆ
“...ป้า...วันนี้ฝีมือตกนะ...เนี่ยหนูกินไม่ค่อยลงเลย...” อีอ้วนส่งเสียงตามมาด้านหลัง
“...อืม มันเลี่ยน ๆ ยังไงไม่รู้...คลื่นไส้...อยากจะอ้วก...” อีผอมพูดพลางทำท่าขย้อนมาทางผม
“...นี่ขนาดกินไม่ลง ยังยัดเข้าไปซะหมดเลยนะ...ยอด...หนูทีม...วันนี้กับข้าวป้าไม่อร่อยเหรอ...” ป้ากัดอีสองตัวนั่น ก่อนจะหันมาถามผมสีหน้ากังวล
“...อร่อยเหมือนทุกวันนี่ครับ...ผมกินหมดเลย...” พี่ยอดตอบยิ้ม ๆ แล้วยกจานให้ดู
“...เอ๊ะ...หรือว่าเราผะอืดผะอมอย่างอื่นวะ...เห็นหน้าแล้วกินอะไรไม่ลง...” อีอ้วนมองหน้าผม
“...สงสัยจะชอบนั่งยอง ๆ กินข้าวในกระทงอยู่ตามทางสามแพร่งมั้ง...” ผมพูดลอย ๆ
“...อะไรเหรอทีม...” แก้วไม่เข้าใจที่ผมพูด
“...ก็สัมภเวสีไงแก้ว...เรียกร้องความสนใจ หวังว่าจะได้รับส่วนบุญมั้ง...” มิ้นท์ตอบแทนแล้วหัวเราะ ป้าในแคนทีนก็หัวเราะตาม
“...ถ้ากับข้าวป้าไม่อร่อย...อยากกินอะไรก็บอกนะ...วันไหนตื่นเช้าจะใส่บาตรไปให้...” ผมกัดซ้ำอีกดอก
“...อย่ามีเรื่องกันเลย...ไปทำงานเหอะ...” ไผ่ดึงแก้วกับมิ้นท์ออกมา เมื่อเห็นอีสองตัวนั่นมองอย่างเคียดแค้น
“...น้อง ๆ เค้าล้อเล่นกันน่ะครับ...กับข้าวฝีมือป้าอร่อยที่สุดเลยนะ...” พี่ยอดยิ้มหวานให้ป้าแม่ครัว
*
*
...ช่วงเช้าผมต้องกัดกับอีสองตัวนั่น ทำให้ฤกษ์เสียไปทั้งวันแน่ ๆ เลย...เพราะวันนี้เจอแต่แขกกวนประสาท...แต่ที่หนักที่สุดก็เกย์ผัวเมียคู่หนึ่งจากประเทศในเอเชีย ที่สมัยนั้นยังไม่เป็นที่นิยมเหมือนทุกวันนี้...
“...เราขอห้องเตียงคู่...” อีคนเมียจิกหางตามองขณะพูด
“...ต้องขอโทษด้วย...ห้องเตียงคู่ยังไม่พร้อมตอนนี้นะครับ...” ผมตอบหลังจากที่ดูห้องว่างในคอมฯ
“...ทำไมไม่พร้อม...เราต้องการห้องเดี๋ยวนี้...”
“...ใช่...เราเดินทางมาเหนื่อยนะ...บริการแย่ที่สุด...” แขกรุมผม แต่พี่ ๆ ก็ยังยืนมอง เพราะอยากรู้ว่าผมจะแก้ปัญหายังไง
“...ขอโทษครับ...” ผมกำลังจะอธิบาย แต่ก็โดนแทรก
“...ขอโทษ...ยูพูดเป็นแต่ขอโทษเหรอ...”
“...ตามที่ในใบจองระบุไว้...เวลาเช็คอินคือบ่ายสองโมงเป็นต้นไป...ขณะนี้เพิ่งจะสิบโมงเช้า...และตอนนี้เรามีแต่ห้องเตียงแยกอยู่...ถ้ายูต้องการห้องเตียงคู่...ยูต้องรอห้องที่กำลังเช็คเอ้าท์ และที่ไอทำได้ก็คือ ไอจะเร่งแม่บ้านให้ทำความสะอาดโดยเร็วที่สุด...”
“...แล้วไง...จะให้ไอนั่งรออยู่ที่พื้นอย่างนี้เหรอ...”
“...ไออยากอาบน้ำ...เมืองไทยร้อนมาก...เหมือนอยู่ในนรก...” อีคนเมียโวยวาย ผมทำหน้าสงสัย
“...ไอไม่รู้ว่านรกร้อนแค่ไหนหรอกนะ...แต่ไอคิดว่า พวกยูน่าจะใจเย็น ๆ ถ้าอยากอาบน้ำ เชิญไปที่ห้องยิม...ที่นั่นเรามีสระว่ายน้ำ คุณไปใช้บริการก่อนได้ โดยฝากกระเป๋าไว้กับพนักงานขนกระเป๋า เค้าจะดูแลให้เป็นอย่างดี...เมื่อห้องเรียบร้อย...ไอจะให้คนไปตาม...หรือถ้ายูหิว...ห้องอาหารของเราทางด้านโน้นก็พร้อมให้บริการสำหรับมื้อเที่ยง...” ผมอธิบายยาวเหยียดพร้อมยิ้มให้
“...ดีมาก...” คนผัวเริ่มพูดดี แล้วยิ้มตอบ
“...ไอจะอาบน้ำ แล้วออกไปข้างนอก...มีสถานที่ไหนแนะนำบ้าง...” อีคนเมียถามห้วน ๆ
“...ไอคิดว่าเค้าเตอร์ทัวร์ทางด้านโน้นจะตอบได้ดีกว่านะครับ...เดี๋ยวไอจะพาไป...” ผมเดินออกจากเค้าท์เตอร์เพื่อพาไปหาอีเจ๊เอ๋ ปัดแขกวีน ๆ อย่างนี้ไปให้ซะ...ยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว
*
*
...กลางวันพี่ยอดมัวแต่ยุ่งกับงานที่ค้างคาหลังจากที่หยุดงานไปหลายวัน...ผมก็เลยนัดกินข้าวกับเพื่อนสาวเช่นเดิม...แต่วันนี้สองคนนั้นมีข่าวร้ายมาบอกผม...เดือนหน้าพวกเราต้องแยกย้ายกันทำงานคนละกะ...แก้วต้องเข้างานกะเช้าเหมือนแม่บ้านคนอื่น ตั้งแต่หกโมงครึ่ง...ส่วนมิ้นท์ต้องทำงานรอบบ่าย เพื่อเตรียมอาหารค่ำในห้องอาหาร เพราะช่วงหน้าหนาวอย่างนี้ แขกมาดินเนอร์เยอะกว่าปกติ และอาจจะมีเบียร์การ์เด้นท์ในช่วง Christmas...
*
*
“...นี่...เธอแกล้งชั้นใช่มั้ย...” อีเจ๊เอ๋ปรี่เข้ามาทันทีที่เห็นผมออนฟลอร์ในตอนบ่าย
“...อะไร...”
“...ก็อีแขกเวรสองคนนั่นไง...เอามาให้ชั้นทำไม...”
“...อ้าว...ก็เค้าจะไปเที่ยว...ก็ต้องส่งไปเค้าเตอร์ทัวร์ให้คุณดูแลสิ...”
“...แล้วทำไมไม่ส่งแขกดี ๆ มาบ้างล่ะ...”
“...เลือกได้ด้วยเหรอ...” ผมถามกวน ๆ
“...เลือกได้สิ...ฟร้อนท์ก็เอาแต่แขกดี ๆ ไปหมด...พากันไปเที่ยวอ่ะ...อย่าคิดว่าไม่รู้นะ...คอยดูเถอะ...ถ้าเจ้านายชั้นถามว่าทำไมรายได้ตก ชั้นจะฟ้องให้หมดเลย...”
“...ถ้ากล้าก็ฟ้องสิ...แต่คิดว่าคุณไม่กล้าหรอก...”
“...ทำไมชั้นจะไม่กล้า...”
“...เคยได้ยินคำว่า วัวสันหลังหวะ หรือเปล่า...” ผมตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะเดินไปรับแขกเที่เข้ามาช็คอิน
*
*
...อีเจ๊เอ๋มันไม่กล้าพูดอะไรมากหรอก...วีรกรรมมันเยอะ...หลักฐานที่เป็นเอกสารก็มี...มันรู้ว่าฟร้อนท์ไม่ได้อ่อนและยอมมัน ถ้างัดกันแล้ว มันเสียเปรียบอย่างแน่นอน...
*
*
...เลิกงาน...ผมกับเพื่อนสาวก็นัดกินข้าวโดยออกไปกินกันที่ตลาด...ไม่มีไผ่ ไม่มีพี่ยอดเพราะทั้งคู่ยังทำงานไม่เสร็จ...เราออกไปเริงระรื่นกันอย่างมีความสุข...แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า คืนนี้พี่ยอดจะขออะไร...ถึงจะมีข้อแม้ว่าห้ามลามกก็เหอะ...แต่พี่ยอดก็ชอบทำให้ผมรู้สึกใจหวิว ๆ อยู่เรื่อย...ถ้าเค้าขอเรื่องอย่างว่าจริง ๆ จะทำยังไง...เกิดมาไม่เคยทำอะไรอย่างนั้นด้วย...
“...นี่ ๆ ๆ พวกแกเคยมีเซ็กส์ปะ...” ผมถามขึ้นมาระหว่างที่เรากำลังกินข้าว แก้วถึงกับสำลัก
“...อารมณ์ไหนเนี่ย...อีทีม...” มิ้นท์ถามเสียงสูง
“...ก็อยากรู้...”
“...ทีมไม่เคยมีอะไรกับใครเหรอ...”
“...อืม...” ผมพยักหน้าตอบอาย ๆ
“...กูไม่อยากจะเชื่อ...ถ้ากูหนังหน้าอย่างมึงนะอีทีม...กูจะจับผู้ชายกินวันละคนเลย...”
“...ไม่น่าเชื่อ...ทีมดูเจนโลกจะตาย...” แก้วถามยิ้ม ๆ
“...จริง...ที่ผ่านมาก็แค่เกือบ ๆ แต่ยังไม่เคยมีอะไรกันเป็นเรื่องเป็นราว...”
“...แล้วนึกยังไงมาถามวันนี้ล่ะ...หรือว่า...”
“...ไม่มีอะไร...ถามไว้เผื่อโดนฉุดอ่ะ...จะได้ทำตัวถูก...” ผมทำเป็นเรื่องตลก
“...ทำให้ถูกใจคนฉุดเหรอ...” แก้วถามขำ ๆ
“...บ้าเหรอ...ถามจริง...เวลามีอะไรกันเค้าต้องทำยังไงอ่ะ...” ผมถามเสียงเครียด
*
*
...เพื่อนสาวช่วยกันอธิบายเป็นฉาก ๆ บนโต๊ะอาหาร กลางตลาดแบบไม่อาย...ตั้งแต่การเตรียมตัว ไปจนถึงหลังเสร็จกิจ...ถึงผมจะอ่านหนังสือ หรือดูหนังโป๊ผ่านตามาบ้าง แต่ก็ไม่เคยทำอะไรจริง ๆ จัง ๆ ซักที เพราะชีวิตประจำวันตอนอยู่กรุงเทพฯ มันมีเรื่องอื่นให้ต้องทำเยอะแยะ จนไม่ได้คิดเรื่องอย่างว่า...แม้ว่าผมจะเป็นคนที่โดนแทะโลมมากที่สุดในกลุ่มเวลาไปเที่ยวกลางคืน แต่ก็ภูมิใจที่รักษาซิงมาได้ยาวนานกว่าเพื่อนสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน...เรียกได้ว่า เป็นแกะดำที่ เวอร์จิ้น อยู่คนเดียวในกลุ่มเลยดีกว่า...
****************************************************************************
...ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณทุกคำติชม จริง ๆ จะมาต่อตั้งแต่เมื่อวาน แต่อินเตอร์เนตมีปัญหา พอพิมพ์เสร็จแล้วเข้าเนตไม่ได้...วันนี้เลยแบกโน้ตบุ้คมาทำงานด้วย แอบมาลงตอนจะกลับบ้าน นายเผลอพอดี...ขอต่อให้สั้น ๆ แบบไม่ได้แกล้งคนอ่านจริง ๆ นะ 555++
...ตอนหน้ารู้แน่นอนว่าพี่ยอดจะขออะไร...ไม่นานเกินรอครับ...
...เป้...