เงียบเหงากันนานเลยทีเดียว กระทู้ผม งิงิ ก่อนอื่นก็ต้องรีบโพสตอนใหม่โดยด่วน (จะได้ค้าง ๆ อิ อิ ) แล้วเดี๋ยวมาคุยกันต่อครับ
ตอน 11
พอออกจากโรงอาหารผมกับเซียงก็ไปนั่งเล่นที่หอสมุดต่อครับ เพราะไม่มีเรียนด้วยกันทั้งคู่
เราก็แลกเบอร์ไว้คุยกัน
“ ข้าวปุ้น เซียงต้องไปแล้วอะ ... แล้วก็ เรื่องแฟนน่ะ อย่าคิดมากนะ เลิกได้ก็มีใหม่ได้ ”
“ เซียงจะคบกับเราแทนไหมล่ะ ” แล้วผมก็ยักคิ้วให้ข้างนึง อิอิ เซียงก็ทำท่าเซ็งเลยทีเดียว ก่อนจะเดินออกไป เหลือเราคนเดียวแล้วสิ
สรุปแล้วผมกับต้นสนนี่มันอะไรกัน ผมเริ่มสับสนไปหมด มันจะเล่นอะไรกับผมกันแน่ ทำกับผมแบบนี้ได้ยังไง ... แอร์ก็เย็นจัง นอนเลยดีกว่า ... สะดุ้งอีกทีก็ตอนโทรศัพท์เข้าครับ
“ ครับ ... ”
“ อยู่ไหน ”
“ มีอะไร ” ไอต้นสนโทรมาครับ ทำเสียงขุ่นๆอีกต่างหาก
“ ถามว่าอยู่ไหน ”
“ ก็แล้วมีอะไร ”
“ อยู่กับผู้หญิงหรือไง ถึงพูดแบบนี้น่ะ ” อ้าว พาลนี่หว่า
“ อะไรของมึง ห๊ะ กูอยู่คนเดียว ”
“ ขึ้นมึงขึ้นกูเลยนะ ใช่สิ ” แล้วก็มีเสียงปรามๆมันไว้ครับ แต่ผมไม่รู้ว่าใคร
“ ใช่สิอะไร ทีมึงยังเดินอี๋อ๋อกับผู้หญิงได้เลย ใช่สิ ” ไม่ยอมครับ เอาคืน
“ ชีวิตนี้จะไม่ให้มีเพื่อนผู้หญิงเลยเหรอ ”
“ กูก็เหมือนกันแหละ ชีวิตนี้จะให้มีเพื่อนผู้หญิงบ้างไม่ได้หรือไง ”
“ ไม่เอาน่าข้าวปุ้น เค้ารู้นะว่า ข้าวปุ้นไม่คบแค่คิดจะเป็นเพื่อน ”
“ ตัวมึงเองยังไม่รู้ใจตัวเองเลยว่าชอบแบบไหน ยังจะมารู้ใจกูได้ไง แค่นี้นะ ” แล้วก็ปิดมือถือซะ ค่อยสบายใจหน่อย ผมลุกเดินไปที่หน้าคณะของเซียงครับ กะจะชวนไปกินข้าวแล้วค่อยแยกกัน ผมก็รอ
“ ยังคิดมากอยู่ไหมเนี่ย ” ตอนนี้ผมกับเซียงก็เริ่มจะสนิทกันละครับ
“ ไม่แล้ว ๆ ”
“ เป็นไงข้าวปุ้น ทำไมมาอยู่นี่ล่ะ ” เอ๋อแดรกเลยผม ไอต้นสนครับ กำแล้วไง มันเลือกเดินมานั่งฝั่งผม บรรยากาศอึมครึมมากมาย แล้วผมเพิ่งบอกเซียงว่ามันแย่งแฟนผู้หญิงผมไป
ตอนนี้เซียงนั่งตัวลีบเล็กหนักเลยครับ
“ แล้วนี่ใครอะ แฟนใหม่เหรอ ” อุ้ยยยย ดูมันถามสิครับ
“ ไม่ใช่ๆ เพื่อนกัน ๆ ” เซียงรีบตอบเลยครับ
“ ฮะ ๆ ข้าวปุ้น พี่แชมป์ให้มารับกลับ แล้วแฟนแกกลับไงอะ ” มันกวนผมตลอดเลยครับ
“ เดี๋ยวกลับเองก็ได้ แค่นี้เอง ”
“ ให้ผู้หญิงกลับคนเดียวได้ไง ปะเดี๋ยวเราไปส่ง ” แล้วมันก็ลากเซียงออกไปก่อน ปล่อยให้ผมเดินตาม สองคนเดินเร็วมากครับ ผมตามไม่ทันเลย แล้วก็คุยกันงุ้งงิ้งๆ ๆ ๆ มีบางจังหวะที่เซียงหันมามองผม แล้วก็หันกลับไป คุยอะไรกันนักหนาวะ
“ อ่อ หลับฝันดี แล้วเจอกันนะ ” มันบอกลาแทนผมเรียบร้อย เซียงก็ยิ้มๆ แล้วก็หัวเราะผม ผมงี้งงเลยทีเดียว จากนั้นเราก็เดินกลับ
ตอนที่เดินกลับก็ต่างคนต่างเงียบ ไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไร
“ ทำแบบนี้แล้ว มีความสุขไหม ” มันถามผมครับ
“ ก็มีความสุขกว่าที่เป็นอยู่ ”
“ สงสัยไม่ได้เอากันนานไป คืนนี้เอากันไหมล่ะ ” ฉึก -*-
“ สัดนี่ ”
“ อารมณ์ดีขึ้นหรือยัง ” ดู ดู๊ ดู ดู มัน ...
“ ไปพูดอะไรกับเซียง เขาถึงมองเราแบบนั้น ”
“ นึกอยากจีบผู้หญิงขึ้นมาอีกแล้วหรือไง ” มันพูดเชิงหยอกๆกับผมมากกว่าครับ
“ ไม่ใช่ๆ ก็เห็นน่ารักดี อยากคบไว้ ”
“ ชาตินี้คงเป็นได้แค่เพื่อนกันแล้วแหละ เพราะเราบอกไปแล้วว่านายเป็นเมียเรา ได้เสียกันแล้ว ” โอ้ยยยย ไอบ้า ทำไมมึงทำร้ายกูแบบนี้ สาวคณะเขาน่ารักๆอีกตั้งเยอะ มึงมาทำแบบนี้ได้ไง
“ นิ่งเลยเหรอ น่านะ แค่คนนี้คนเดียว เรารู้ว่านายชอบผู้หญิงแบบไหน แล้วก็รู้ด้วยว่าคิดจะทำอะไร ขอร้องล่ะ คบกับเราแล้วอย่าเอาใครมาแทนเราได้ไหม ” ทำเอาผมได้คิดเลยเหมือนกันนะเนี่ย ... แล้วมันล่ะ
“ แล้วทีแกล่ะ แกยังไปคบคนนู้นคนนี้ได้เลย ”
“ มันไม่เหมือนกัน เรารู้ดีว่าเราทำอะไร แล้วที่สำคัญ เรามีนายแล้ว ตอนนี้เรามีความสุข เราชอบที่จะเป็นแบบนี้ เราไม่คิดจะไปเอาใครมาแทนที่นายหรอก ” ซึ้งเลยซึ้ง
“ งั้นผู้หญิงที่แกกอดคอ จับไม้จับมือกันน่ะ ใครล่ะ ”
“ สรุปแล้วระแวงว่างั้นเถอะ … หรือว่าหึง ”
“ หน้าตาแบบนี้หึงไปทำไม ใครโง่อยากได้ก็เอาไปสิ ”
“ หวาย โง่ ว่าตัวเองทำไมเนี่ย ” ทันควันเลย มันสวนกลับผมครับ
“ ไม่ล้อละๆ ผู้หญิงคณะเราน่ะ เรียกว่าผู้หญิงไม่ได้หรอก ถึงจะสวยแต่ถึกเกินคาด ที่จับมือกันก็แค่เล่นๆประสาเพื่อนกัน ไม่มีอะไรหรอก ” โล่งอก ... แล้วผมทำไมผมต้องโล่งอกด้วย ผมไม่ได้เป็นอะไรกับมันนี่
“ สบายใจแล้วใช่ไหม ปะ สบายใจแล้วก็ไปดูหนังกัน ”
“ บ้าเหรอ ไหนพี่แชมป์เรียกกลับแล้วไง ”
“ เราหลอกเล่นเฉยๆ ทีแนกมันฉุนๆ เห็นเมียตัวเองอยากมีเมีย เหอะๆ โอ้ย ” ผมไล่เตะไล่ขวิดมันตลอดทางออกจากซอย
สรุปแล้ว ที่ผมรู้สึกมันคืออะไร ถึงผมจะชอบมองผู้หญิง แต่ไม่รู้ทำไมมันไม่เหมือนเดิม เวลาจะทำอะไรมันเหมือนมีอะไรขัดผมอยู่ตลอดเวลาว่าผมไม่ควรจะทำ หรือเวลาสิ่งที่มันขัดผมคือ
ใจของผมเองกันแน่
“ จะสอบแล้วนะมึง ยังมานั่งเล่นเกมส์อยู่อีก ไปลุก อ่านหนังสือ ” ตอนนี้เปิดเรียนมาได้เกือบสองเดือน ก็ใกล้สอบกลางภาคแล้วครับ พี่แชมป์ก็พยายามกวดขันผม แต่ดูเหมือนจะไม่ดีขึ้น
“ ไอต้นสน เวลาเอากัน มึงไม่แบ่งเชื้อขยันมาให้มันบ้างเหรอ ”
“ ก็ให้หมดทุกทีแหละครับ แต่ตัวข้าวปุ้นมีเชื้อขี้เกียจมากไป สงสัยต้องฉีดใส่บ่อยๆ ” ดูพวกเด็กเถื่อนเขาคุยกัน ไร้มารยาท
“ ข้าวปุ้น ไอ ..... เนี่ย เวลาจัดระบบใหม่ ทำไมมันต้อง ....2ครั้งล่ะ ” ในห้องไม่ได้มีแค่ผมสามคนหรอกครับ มีเพื่อนใหม่ของผมคนนึง มันชื่อมาร์ค
“ ไหน ๆ ดูซิ อ่อ ๆ มันเป็นเชิง ...... ” แล้วผมก็อธิบายให้มันฟัง มาร์คก็พอจะเข้าใจ แล้วมันก็อ่านต่อ
“ เก่งเหมือนกันนี่ นึกว่าดีแต่ปาก ” โหยยย นี่ถ้าไม่ถือว่าเป็นพี่ใส่เข่าไปแล้วนะเนี่ย (ที่จริงตัวใหญ่กว่า เหอะๆ)
“ เออ พี่ ไอวิชา .... เขาให้ขาดกี่ครั้ง ” พอดีมาเรียนปีเดียวกันพอดีครับ
“ 6 ครั้ง ”
“ กำ จริงอะพี่ ผมขาดบานเลยอะ ”
“ เฮ้ย เขาบอกอยู่นะว่าขาดเกินไม่ให้สอบ ซวยแล้วมึง พรุ่งนี้รีบไปคณะ .... ไปคุยกับอาจารย์ซะ ไม่งั้นไม่ได้สอบแน่ ” แล้วนี่คือจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในชีวิตครั้งใหม่ของผม ...
-----------------------------------------------
อ่านๆไปเหมือนเรื่องใกล้จบเลยเนอะ อุอุ