เพราะชีวิตมันเซฟไม่ได้ (เรื่องสั้นมาม่าใส่ไข่) (rewrite นิดหน่อย) [ตอนจบ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพราะชีวิตมันเซฟไม่ได้ (เรื่องสั้นมาม่าใส่ไข่) (rewrite นิดหน่อย) [ตอนจบ]  (อ่าน 5466 ครั้ง)

ออฟไลน์ MonkeYMauS

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
Ep1

เคยมีความรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ต้องแพ้ตลอดไหมครับ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องครอบครัว รวมถึงเรื่องความรัก ผมว่าถ้าชีวิตเหมือนเกมที่สามารถกดปุ่มรีเซ็ตชีวิตตัวเองได้ ไม่ชอบก็ไม่ต้องเซฟเกม แต่ชีวิตมันไม่ง่ายแบบนั้น

เหตุการณ์ช่วงนี้เกิดขึ้นทุกปีตั้งแต่เค้าเข้าสู่วัยมัธยมจนเหมือนพิธีกรรมอะไรซักอย่างที่เด็กหนุ่มวัยมัธยมปลายคนนึงต้องทำทุกปี วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดอายุ 18 ปีของเขา ทุกๆวันหลังกลับจากโรงเรียน เด็กหนุ่มจะต้องเดินผ่านอ่างเก็บน้ำแถวบ้านเสมอ แต่วันนี้เป็นวันพิเศษ คัพเค้กชิ้นน้อยได้ถูกเทียนปักไว้อย่างตั้งใจอยู่บนกระเป๋านักเรียนซึ่งตั้งอยู่บนแผงกั้นปูนริมอ่างเก็บน้ำ เขาเอาไม้ขีดไฟที่อยู่ข้างๆค่อยจุดมันอย่างดี และเช่นเคยเนิ่นนานกว่าครึ่งชม. สายตาเขามองเหม่อไปยังอ่างเก็บน้ำข้างหน้า เนิ่นนานแล้วที่เค้าทำแบบนี้ทุกวัน และเป็นทุกปีที่เค้าจะซื้อคัพเค้กน้อยด้วยเงินที่เก็บหอมรอมริบมา เพื่อที่จะ

"แฮปปี่เบิร์ดเดย์ทูมี แฮปปี่เบิร์ดเดย์ทู้มี แฮปปี่เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูมี"

 เจ้าของรอยยิ้มน้อยๆเปื้อนคราบน้ำตาหยิบเค้กมาอธิษฐานแล้วเป่าเทียนให้กับตัวเอง เด็กหนุ่มมองดูคัพเค้กที่เต็มไปด้วยน้ำตาเทียนสักพักหนึ่งจากนั้น จึงขว้างมันลงถึงขยะใกล้ๆ  อาจจะเป็นเพราะโชคช่วย หรือความชำนาญที่เขาเล่นบาส คัพเค้กตกลงสู่ถังขยะพอดี ความหวังเริ่มเปล่งประกายในตาของเขา รอยยิ้มเริ่มฉีกกว้าง ใบหน้านั้นดูเปลี่ยนแปลงจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ราว กับมันไม่ได้เกิดขึ้น
 
"บางทีพรุ่งนี้อาจมีเรื่องดีๆเกินขึ้นก็ได้"

เขาพูดกับตัวเองเบาๆ จากนั้นเด็กหนุ่มเช็ดคราบน้ำตากับแขนเสื้อ แล้วถลาวิ่งไปยังหนทางกลับบ้าน ด้วยสีหน้าแห่งความหวัง หารู้ไม่ว่าหนทางข้างหน้าไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบอย่างที่เขาคิด

.............................................     

เสียงโทรศัพท์มือถือคอยปลุกเขาให้ลุกขึ้นจากที่นอน

“ฮัลโหล “
เสียงเด็กหนุ่มคนเดิมในวัย 23 ตอบรับโทรศัพท์ ด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เพราะยังไม่ตื่น

“ตัวเล็ก ตื่นได้แล้ว ตัวเล็กต้องไปทำโปรเจคต่อไม่ใช่หรอ พุทรานัดเอาไว้เมื่อวานนี่ เค้าได้ยินนะ”
เจ้าของหัวใจเด็กหนุ่มคนนั้น กำชับเขาด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น

“เป็นพ่อเค้าหรอไง ตัวเองเนี่ยะ”
เจ้าตัวโต้ตอบกลับไปด้วยประโยคสนทนาที่ชวนหาเรื่องทะเลาะอย่างคุ้นเคย

“พ่อไม่พ่อ ก็ได้กันแล้วล่ะ”
คนที่ได้ยินถึงกับลุกผงะ ตื่นขึ้นจากเตียง เขาเริ่มรู้สึกร้อนๆที่ใบหน้า หารู้ไม่ว่าอาการนั้นเรียกว่าเขินอาย

“ไอเชี่ย” เด็กหนุ่มโต้กลับด้วยคำหยาบ
“พูดคำหยาบ เด๋วโดนเอาให้ร้องไม่ออกเลย เค้าทำงานอยู่นะตัวเอง ตั้งใจทำงานนะ อย่างดื้อนะ เดี๋ยวเย็นนี้เค้าไปรับกินข้าว หึหึ เตรียมตัวด้วยนะครับ เรื่องคืนนี้ รักนะครับจุ๊บๆ”
ชายหนุ่มพูดอย่างรวดเร็วไม่ทันให้เด็กหนุ่มตั้งตัว แล้วจึงตัดสายไป เด็กหนุ่มที่เขินอายจากคำพูดก่อนหน้านี้ได้ แล้วยินแล้วถึงกับอึ้ง

ไอคนนี้น่ะหรอ เจ้าของหัวใจเขา 

ก่อนหน้านี้ออกจะดูเงียบๆนิ่งๆขรึมๆ  ตอนนี้ทะลึ่งตึงตัง เป็นอีกคนที่คนอื่นรอบข้างเขาไม่รู้จัก เขินไปอายไปแต่เด็กหนุ่มก็ยิ้ม

คนนี้สินะ ที่ทำให้ชีวิตเขามีความหมาย

แม้จะเพิ่มคบกันได้ไม่ถึงปี แต่สองคนก็ตัวติดกันแทบจะตลอด บรรดาเพื่อนๆ ของเขาทั้งสอง แทบจะนิยามได้เลยว่า “รักกันปานจะแหกตูดดม”

“รักเหมือนกันนะครับ จุ๊บๆ”
เด็กหนุ่มบอกกับคนรักเขาแม้ว่าเค้าจะวางสายไปแล้วก็ตามที สีหน้าของเค้ายังคงเคลิบเคลิ้มกับคำพูด เรื่องราว ของคนที่เค้ารักจนลืมไปว่า เค้าต้องทำอะไรต่อไป
 
ห้องของเขาเป็นห้องที่ถูกแบ่งจากตัวห้องนั่งเล่น ห้องซึ่งมีทีวีและม่านขนาดใหญ่สีชมพูอ่อนลายดอกไม้เป็นตัวกั้นห้อง มีทางเข้าที่กั้นด้วยม่านมีชมพูลายดอกไม้อีกผืนหนึ่งขนาดเท่าประตูอีกอีกผืนหนึ่ง เป็นเสมือนประตูห้อง ในห้องเต็มไปด้วยหนังสือเท็กซ์ภาษาอังกฤษเล่มหนาๆ  ที่ได้ฟรีๆจากสมุดที่ซึ่งเป็นหนึ่งสือที่เค้าต้องการจะโละทิ้ง แต่เจ้าตัวยังเห็นว่ายังพอใช้อ่านได้ซึ่งประหยัดเงินในการซื้อหนังสือได้มากโขทีเดียว ข้างๆ หนังสือเหล่านั้น มีเอกสารประกอบการเรียน ซึ่งนอกจากตั้งข้างๆหนังสือแล้ว รอบห้องยังคงวางกองอีกเต็ม เป็นห้องที่รกไม่น้อย แต่สำหรับเขาในแฟลตเล็กๆได้ห้องส่วนตัวแค่นี้ก็ถือว่าดีแล้ว

เด็กหนุ่มนั่งเคลิ้มบนเตียงได้สักพักจนกระทั่ง หันไปเจอนาฬิกาข้างเตียงในห้องเล็กๆของเขา   

“ตายห่าล่ะ” เด็กหนุ่มอุทานด้วยคำหยาบคายอีกแล้ว พร้อมกับวิ่งไปจัดการธุระส่วนตัวเพื่อเตรียมตัวไปทำโปรเจคจบอย่างที่เจ้าของหัวใจได้เตือนเขา

ชุดนักศึกษาแขนสั้น ที่รีดแล้วได้ถูกสวมลงบนตัวเด็กหนุ่มอย่างรีบร้อน รูปร่างเด็กหนุ่มไม่จัดว่าผอม แต่ไม่ถึงขั้นล่ำ เพราะเขาออกกำลังกายด้วยตัวคนเดียวตลอด เล่นบาส คนเดียว ไปว่ายน้ำคนเดียว วิ่งคนเดียว เลยทำให้มีรูปร่างสมส่วนแบบนี้กล้ามอกเล็กๆ ท้องเป็นลอนคลื่นหน่อยๆ นี่สำหรับเด็กเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดแล้ว จัดว่าดึงดูดใจเพศตรงข้ามอยู่ไม่น้อย แต่เขาสนซะที่ไหน ในเมี่อเขารู้ตัวเองว่าชอบผู้ชายตั้งแต่ เข้ามัธยมปลายแล้ว
เด็กกระดุมถูกติดอย่างรีบร้อน ส่องกระจกเช็คหน้าตา ว่าโอเคแล้วรึยัง ด้วยบุคคลิกภายนอกแล้วอาจมองว่าเด็กหนุ่มอาจเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง ความจริงแล้วหาใช่ไม่ ทุกครั้งที่เขาส่องกระจก เขารู้ตัวเสมอว่า เค้าช่างเป็นคนที่ไม่มั่นใจเอาเสียเลย หลายต่อหลายครั้งที่เค้าต้องวิ่งไปวิ่งมาจัดทรงผมใหม่ เพื่อให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น หน้าตาเด็กหนุ่มไม่จัดว่าหล่อ เขารู้ตัวดี เทียบกับเด็กในกรุงเทพแล้ว หน้าตาแบบนี้ถือว่าห่างไกล มีหลายต่อหลายครั้งที่คนที่เขารู้จัก บอกว่าหน้าตาละม้ายคล้ายคนโน้นบ้างคนนี้บ้าง นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาดูจะไม่มั่นใจซึ่ง ตรงข้ามกับบุคคลิกที่เขาแสดงออกซะเหลือเกิน 

หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กหนุ่มเหลียวมองดูบ้านที่ไม่ค่อยเป็นระเบียบซักเท่าไหร่ของเขา บ้านที่ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นบ้าน เป็นที่เขามานอนพักและฟังคำบ่นก่นด่า แม้ว่าจะเพียรทำความดีแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นการที่เขาจะเล่าเรื่องส่วนตัวให้พ่อแม่ฟังดูจะเป็นเรื่องที่ลืมไปได้เลย หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเลวร้าย สำหรับเขาการที่มองบ้านตัวเองเป็นแบบนี้เพราะเขาไม่ได้มีความสุขในการอยู่บ้านเอาซะเลย มีหลายต่อหลายครั้งที่เด็กหนุ่มหนีออกจากบ้าน ไปนั่งเล่นโน๊ตบุ๊คของตัวเขาเอง ข้ามวันข้ามคืนแล้วกลับบ้าน เหมือนไม่ได้ทะเลาะกัน
ตอนนี้สีหน้าเขาดูเศร้าลง หลังจากนึกขึ้นได้ว่าต้องรีบไปทำโปรเจคต่อ เขาวิ่งกลับเข้าไปในห้อง เก็บเอกสารที่จำเป็นอีกครั้ง แล้วขับมอเตอร์ไซค์คันโปรด บึ่งไปที่คณะที่เค้าไม่คิดว่าจะเรียน

..................................................

    “ไอเลิฟ กูอยู่ตรงนี้ “ พุทราเด็กสาว มาดห้าว หน้าตาสะสวย ดูเผินๆ แล้วเหมือนกระเทยแปลงเพศ เพราะเจ้าตัวเองก็เป็นนักกีฬาว่ายน้ำเก่าเช่นเดียวกัน ช่วงไหล่เลยดูกว้างนิดหน่อยไม่สมกับเป็นผู้หญิงซักเท่าไหร่ แต่อกเป็นอก เอวเป็นเอว ก็เอาเถอะ จัดว่าสวยละกัน ถึงจะดูห้าวๆแบบนี้ เจ้าพุทราเนี่ยะ เธอก็มีมุมที่เป็นผู้หญิงอยู่เยอะแยะ จัดว่าเข้าคู่กับเด็กหนุ่มอย่างเหมาะเจาะเพราะนิสัยแทบจะเหมือนกันราวกับคลอดตามกันมาก็ไม่ปาน ช่วงเข้ามหาวิทยาลัยครั้งแรกๆ มีหลายต่อหลายครั้งผู้คนมักเข้าใจผิดว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน เนื่องจากตัวติดกันตลอด

“เป็นแฟนกันได้ไง ฟ้าผ่าตายพอดี” พุทรา มักจะตอบแบบนี้เสมอ หลังจากที่มีคนถาม
“พูดยังกะกูอยากได้มึงแฟนงั้นแหละ”
นายเลิฟ เด็กหนุ่มโต้ด้วยสีหน้าไม่แยแส แล้วทั้งสองก็หัวเราะแล้วเดินจากคนที่ถามมาปล่อยให้คนที่ถามดูงงตามกันไป

จนกระทั่ง เด็กหนุ่มเปลี่ยนหน้าตาหนุ่มที่มานั่งกินข้าวด้วยบ่อย ซึ่งประจวบเหมาะกับเป็นช่วงที่เจ้าพุทรา เพื่อนสาวคนสนิทเขาตัวติดกับแฟนที่คบกับแฟนสมัยมัธยม เรื่องราวที่เขาและพุทราคบกันเป็นแฟนที่ปล่อยให้บ่างช่างนินทามานาน ดูจะคลี่คลายลง แทนที่เรื่องราวกลับดีขึ้น สุดท้าย เรื่องของเขาก็เป็นเรื่องพูดคุยนินทาระดับมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะกระเทยเจ้าแม่ประจำคณะเด่นๆดังๆ

หลังจากที่เขาทำงานเสร็จ เด็กหนุ่มก็เดินไปรอชายหนุ่มเจ้าของหัวใจที่ทำงานซึ่งอยู่ห่างกันไม่กี่ช่วงตึก  เส้นทางเดินที่ดูเหมือนกับจะไกลพอสมควรจากการเดิน ผ่านตึกต่างๆในมหาวิทยาลัยที่คนคนพลุกพล่าน กลับดูมีความหมาย เด็กหนุ่มยิ้มสีหน้ามีความสุข วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของเขา และเป็นปีแรกที่พรที่เขาขอเป็นจริงๆ ซึ่งแตกต่างจากคนที่ผ่านมาที่เขาเคยคบ

“รอนานมั้ยตัวเล็ก”
ชายหนุ่มสูงโปรงเจ้าของหัวใจเด็กหนุ่ม เอ่ยทักเด็กหนุ่มที่นั่งคอย ขณะนึกถึงชายหนุ่มจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

“บอกแล้วไง ให้เค้าไปรับ ตัวเองไม่ต้องเดินมา เหนื่อยเปล่าๆ”
ชายหนุ่มต่อว่าเหมือนทุกครั้ง

“มีมือ มีเท้า ไม่ได้เป็นง่อย เดินเองได้”
เด็กหนุ่มพูดดูเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ทำเอาชายหนุ่มหน้าเสียไปนิดนึง ก่อนที่จะสังเกตุเห็นว่า เด็กหนุ่ม
แก้เก้อจากการนั่งเหม่อจึงได้พูดไปแบบนั้น

“เค้ามีความสุขที่ได้เดินมา เรื่องแค่นี้สบายมากๆ” 
เด็กหนุ่มยิ้มตาหยี เป็นอีกครั้งที่หัวใจชายหนุ่มแทบจะหยุดเต้น

ครั้งแรกที่เค้าได้เจอเด็กหนุ่ม เป็นตอนที่หลังจากเปลี่ยนเสื้อเสร็จในสระว่ายน้ำประจำมหาวิทยาลัย เด็กหนุ่มใส่กางเกงว่ายน้ำแบบบรีฟ ทำให้เห็นช่วงขาขาว อย่างชัดเจน ชายหนุ่มกลืนน้ำลาย เด็กหนุ่มดูไม่สนใจชายหนุ่มหรือใครในสระว่ายน้ำเลยแม้แต่น้อย ท่าทีเด็กหนุ่มเหมือนคนหยิ่ง ความมั่นใจสูง หน้าตาเรียบๆว่ายจ้ำอ้าวเอาลูกเดียว หลังจากว่ายน้ำเสร็จ ชายหนุ่มจึงวิ่งเข้าไปขอเบอร์ตรงๆ เด็กหนุ่มตกใจเล็กน้อย แต่ก็ให้มา พร้อมกับรอยยิ้มตาหยีละลายใจที่เค้าไม่เห็นเด็กหนุ่มยิ้มให้ใครที่สระว่ายน้ำแห่งนั้นเลย อาจจะเป็นเวลาไม่นานที่เขาได้พบกับเด็กหนุ่มแต่เด็กหนุ่ม ก็ทำเขาหลงเป็นอย่างมาก หลายอย่างที่ไม่คิดว่าเด็กหนุ่ม จะมีมุมแบบนี้ มีครั้งหนึ่ง ที่เขาโทรไป เด็กหนุ่มสูดน้ำมูกเหมือนร้องไห้ ใจเขาเหมือนตกลงไปกับพื้น ทำไมกัน ใครทำอะไร ชายหนุ่มสงสัย จึงได้เอ่ยถาม เด็กหนุ่มเล่าเรื่องราวครอบครัวของเขา เดิมทีเขารู้ว่าเด็กหนุ่มมีครอบครัวที่ไม่อบอุ่นแต่ไม่นึกว่าจะเป็นถึงขนาดนี้ พ่อก็ยังคงเป็นพ่อ แม่ก็ยังคงเป็นแม่ ต่อให้ไม่ดีต่อกันแค่ไหน ก็ควรจะรักกัน แม้ว่าครอบครัวของตัวชายหนุ่มเองจะไม่มีอบอุ่นเช่นเดียวกัน ต่อให้ชายหนุ่มพร่ำบอกแค่ไหน แต่เด็กหนุ่มดูจะไม่เข้าใจ และทุกครั้งจะจบที่คำพูดที่ว่า

“พี่ไม่เป็นผมพี่ไม่เข้าใจหรอก การที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ จะฟาดลูกด้วยเตารีดร้อนๆน่ะเป็นไง”

ชายหนุ่มได้แต่เป็นกำลังใจ คอยโทรถามในช่วงที่โทรคุยกันแรกๆ  แม้เขาจะไม่เข้าใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ตามที
นานนับวันที่ความรักเริ่มก่อตัว ทั้งสองคนกินข้าวด้วยกันครั้งแรก จากนั้นก็มักจะใช้พื้นที่ในมหาวิทยาลัย นั่งเล่นเกมด้วยกัน อ่านหนังสือ ช่วยทำงานกัน แม้จะเรียนมาต่างกันก็ตามที

ชายหนุ่มรักเด็กหนุ่มคนนี้อย่างหมดหัวใจ เด็กหนุ่มก็เช่นกัน แต่มันจะได้นานแค่ไหน ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้
รอยยิ้มนั้นมีเรื่องราวต่างๆมากมาย เค้านึกถึงเรื่องราวเหล่านั้นเสมอ ทุกครั้งที่เด็กหนุ่มยิ้ม เขาไม่ชอบที่จะเห็นเจ้าตัวเล็กของเขาร้องไห้ ที่รักของเขาดูน่าสงสารมาก มีครั้งหนึ่งทะเลาะกันเจ้าตัวดีเดินจากไป เขาถึงกับทำอะไรไม่ถูกจึงต้องตามง้อ แต่ง้อได้แค่ชม.เดียวเด็กหนุ่มก็หายโกรธ เด็กหนุ่มดูเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว และแปรปรวนไม่น้อย นิยายเศร้าเล่มหนึ่งก็ทำเขาร้องได้ แม้หลังจากร้องไห้ตาเขาจะดูสวยน่าทะนุกถนอมแค่ไหนก็ตาม แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมีอารมณ์หื่นกับเจ้าของตาคู่นั้น  ทุกครั้งที่หื่นใส่ก็จะโดนหมัดเข่าศอกกลับมา
นี่ถ้าไม่ใช่คนที่ออกกำลังกาย และไม่ใช่เค้า ใครเค้าจะมาทนอยู่กันได้ล่ะเนี่ยะ

“หิวแล้ว”
ตัวเล็กซึ่งไม่ตัวไม่เล็กของชายหนุ่ม เอ่ยปากบอก หลังจากเห็นที่ชายหนุ่มดูนิ่งๆอึ้งๆหลังจากเขายิ้มให้

“คิดทะลึ่งอะไรอยู่ เค้ารู้นะ”
เด็กหนุ่มเซ้าซี้ถาม นี่หน้าตาเขาบอกขนาดนั้นเชียวหรอ

“555”
ชายหนุ่มหัวเราะกลบเกลื่อน

“ทานข้าวกันครับตัวเล็ก” 
แล้วชายหนุ่มก็โอบเอวตัวเล็กของของเขาไปยังลานจอดรถ

……………………………………………………………………………………………………………..

แม้เป็นมื้อทานข้าวมื้อเรียบๆ ในร้านอาหารที่คนไม่พลุกพล่าน แต่หัวใจทั้งสองดูจะพองโตด้วยความสุขล้น

“ตัวเองรักเค้ามั้ย” เด็กหนุ่มถาม

“ถามทำไมล่ะ” ชายหนุ่มตอบกลับไป

“ตอบมาเถอะหน่า ไอบ๊อง” เด็กหนุ่มค้อนใส่

“รักสิ ขนาดนี้แล้วทำไมจะไม่รักล่ะ “

"ถ้าเค้าขาขาด แขนขาด นิ้วด้วน ยังจะรักเค้ามั้ย"

"ก็รักสิ" ถามอะไรแปลกๆเนี่ยะเด็กน้อย

"แล้วถ้า..."เด็กหนุ่มพูดไม่ทันขาดคำ

"ก็ยังรักครับ"ชายหนุ่มยกมือประทับริมฝีปากดวงใจของเขา แล้วตอบทันทีโดยไม่ฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้น

"แน่ใจนะ" เด็กหนุ่มยิ้มกวน

"แน่สิ แบบนี้ใครจะเอาทำเมียได้ล่ะ" ชายหนุ่มพูดติดตลก

.........................................................................................

"แน่ใจนะไอชล เด็กนี่ข่าวคาวเยอะจะตาย" สนิทเพื่อนหนุ่มคนสนิทนายชลเอ่ยถาม
ชายชล คือชายสูงโปร่งเจ้าของหัวใจตัวเล็ก เขาเป็นคนที่เป็นที่ยิ้มง่ายอัธยาศัยดี ใจเย็น แม้จะไม่ได้หน้าตาดีมาก แต่จัดว่ามีเสน่ห์ทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงข้ามพอสมควร เขาเป็นคนที่มักจะคิดอะไรในใจ แต่สีหน้าท่าทางก็พอจะเห็นได้บ้าง   

"เมิงก็เห็นแล้วนี่ น้องเค้าไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะหน่อย"

"เคยถามเรื่องแฟนเก่าเค้าบ้างมั้ย"

"ก็เคยถามนะ แรกๆก็ไม่ค่อยตอบอะไรเลย หลังๆคุยจ้อทีเดียว เค้ามีแฟนเก่าคนเดียว เลิกกันไม่ดีเท่าไหร่ แต่เค้าฝังใจมาก จำได้ทุกอย่าง บอกให้กูฟังทุกอย่าง ได้ยินก็เฮิร์ทนะเว้ย"

"ได้กันท่าไหนก็บอกหรอวะ แหม ของมันดีจริงๆ"

"ถ้าเค้าไม่อายซะก่อนนะ กูว่าเค้าบอกหมดว่ะ"

"อ่าว ที่แล้วกูได้ยินมาคือไรวะ กิ๊กหรอ"

"คนที่มาจีบน่ะ เค้าก็เล่าให้กูฟังหมดแหละ ส่วนใหญ่แค่กินข้าวกันก็จบแล้ว"

"แม่ง เล่นกับใครไม่เล่น ไปเล่นกับเดือนคณะ"

"ช่วยไม่ได้นี่หว่า ก็คนมันชอบ"

..............................................................

"ไอบ้า"
ไม่ทันขาดคำ หมัดเจ้าหนูผู้เป็นเจ้าของหัวใจเขาโดนแขนเต็มๆ ปลุกเขาให้พ้นจากอาการเหม่อลอย
งานนี้เขียวช้ำแหงเลย รักใครดันไม่รัก ดันไปรักคนนี้ ของขวัญปีนี้น่าฟัดซะจริงๆเลย ผมยอมแล้วค๊าบบบ
"...." ชายหนุ่มเงียบ

"โกรธเค้าหรอตัวเอง โทดที มือมันไปน่ะ ไม่ทัน" เด็กหนุ่มยิ้มแหยๆ

"นี่เค้าทาให้" เด็กหนุ่มหยิบยาหม่องขวดสีเหลืองอัมพันที่พกไว้ในกระเป๋ามาทาให้
เตรียมกันไว้ขนาดนี้เลยรึ 555 เด็กน้อยจริงๆเล้ย ให้ตาย แต่ก็เอาเถอะ รักไปแล้วนี่ทำไงได้
แต่....นั่น......ให้ตายสิ........นั่นเรียกว่าทาเรอะ


"โอ๊ย เจ็บ"ชายหนุ่มร้อง

"ใครใช้ให้ทำหน้าแบบนั้นล่ะ คิดทะลึ่งอีกล่ะสิ"

"555" ชายหนุ่มหัวเราะ เพราะอยากตัดบทก่อนที่ตนจะเจ็บไปมากกว่านี้

“แล้วทำไมถึงรักเค้า ทำไมไม่เป็นคนอื่น” เจอคำถามนี้ชายหนุ่มถึงกับอึ้งกิมกี่

มีอะไรๆ ให้เค้าต้องตกใจอยู่เรื่อยๆสิหน่า ถ้าเค้าหัวใจวายซักวันจะเป็นยังไงกันนะ
คำถามแบบนี้ทำเอาชายหนุ่มอ้ำอึ้ง ไปไม่เป็น เค้าก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง เพราะลีลาบนเตียง เพราะตารั้นๆคู่นั้น เพราะอะไรกัน เขาไม่เคยคิดตอบคำถามพวกนี้เลย ระหว่างคิดหาคำตอบ เด็กหนุ่มก็งอนตุ๊บป่องไปแล้ว

“งอนหรอ” ชายหนุ่มถาม

“ป่าว” เด็กหนุ่มตอบตรงกันข้ามกับสีหน้าท่าทางที่เขาทำ
ชายหนุ่มยกนิ้วก้อยขึ้นมา

“ดีกันนะ ที่รักของผม”

“ครับ” แม้ท่าทางยังคงบึ้งตึงอยู่แต่เด็กหนุ่ม ก็ยินยอมดีด้วยแต่โดยดีเพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศ

....................................

"น้องคิดว่าเลิฟคิดยังไงกับพี่" ชายหนุ่มเอ่ยถามหลังจากที่เจ้าตัวเล็กพาแฟนมาเข้าเฝ้าเพื่อนตัวดี แต่เจ้าตัวกลับหายแว๊ปซะอย่างนั้น

“เอ่อ คำถามนี้น้องต้องถามพี่มากกว่า พี่คิดไงกับเพื่อนน้อง"

สายตาจ้องประสาน รอแพ้เอ่ยปากออกมาก่อน ทั้งสองคนตาประสานกัน มองกันอย่างไม่ลดละ

"ข่าวเพื่อนน้องเยอะ"

"ข่าวไม่ดีล่ะสิ ถ้ารักกันก็ต้องเชื่อใจกันสิ" ต่างกันคนจ้องทำลายกันอย่างไม่ลดละ

"ยอมแล้ว" ชายหนุ่มสีหน้าผ่อนคลายลง สายหัวไปมา

"พี่กลัวโดนเค้าทิ้งเหมือนคนพวกนั้น" ชายหนุ่มตอบไปอย่างยอมจำนน

"ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ ถ้าเพื่อนหนูไม่แน่ใจจริงๆ ไม่พามาให้หนูเชยชมหรอกค่ะ หึหึ" และแล้วทั้งคู่ก็ดีกันได้

เดิมที่ชายหนุ่มคิดว่าเด็กหนุ่ม คนนี้จะเป็นฝ่ายทิ่ทิ้งเขา เหมือนกับคนอื่นที่ที่เด็กหนุ่มทิ้งมา ได้แต่เก็บฟอร์มและ สืบข่าวจากเพื่อนหูไวปากไว จนได้เรื่องราวข่าวลือมากมาย แม้ชายหนุ่มจะหวั่นใจ  แต่ท่าทางของเด็กหนุ่มที่ดูจริงจัง และจริงใจมากทำเอาชายหนุ่ม แทบไม่เชื่อเรื่องที่ได้ยินมา หลายครั้งที่ชายหนุ่มสงสัยก็ได้เจ้า พุทราเพื่อนสนิทของเด็กหนุ่มคอยเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง แม้เรื่องส่วนตัวความรักเด็กหนุ่มจะไม่ได้เล่าพุทราอะไรมากมาย แต่ตัวเธอเองก็พอจะรู้ว่าเด็กหนุ่มตามหาอะไร ถ้าไม่ใช่ เค้าก็จะบอกเธอว่าเลิกคบแล้วอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่เด็กสาวจะไม่ถามคำถามใดๆ ตัวเธอเองรับรู้ว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ได้แต่บอกไปว่าเพื่อนเธอคนนี้ถ้าคิดจริงจังกับใครแล้ว ก็เต็มร้อย เหมือนที่จริงใจกับตัวเธอ เธอมักจะให้คำตอบที่แบบนี้ทุกครั้งซึ่งไม่ช่วยให้เค้าดีขึ้นเลย คนกระทั่ง ทั้งสองคนตัวติดกันทุกเย็น จนเห็นตัวตนจริงๆ

เด็กหนุ่มโกหกใครไม่เก่ง โกหกทุกครั้งก็โดนจับได้ทุกครั้งไป แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร มีอยู่ครั้งหนึ่งทั้งๆที่เด็กหนุ่มไม่ชอบกันข้าวเหนียว เพราะกินแล้วปวดท้อง ก็ยอมกินด้วยกัน ซ่อนสีหน้าไว้ไม่มิด ทำเอาเขาเป็นห่วงมาก   
เด็กหนุ่มปากมักจะ ปากแข็ง ปากดี ปากเสีย ปากไม่ตรงกับใจ ทำเขาอึ้งบ่อยๆ โชคดีที่เขาเป็นคนใจเย็นพอที่จะรอให้เด็กหนุ่มหายโกรธ แล้วขอโทษด้วยสีหน้าหมาหงอย 

มันน่าโดนซักทีสองทีนะ หึหึ....

และหลายครั้งที่เด็กหนุ่มทะลึ่งตึงตัง จับเป้าเขา ต่อหน้าสาธารณะชน แถมยังลอยหน้าลอยตา

ยั่วกันชัดๆ จะยั่วกันไปถึงไหน คนนะไม่ใช่อิฐไม่ใช่ปูน  ถ้ามันขึ้นแล้วจะลงได้ยังไงละเนี่ยะ รับผิดชอบด้วยนะที่รัก

และไม่กี่ครั้งที่เด็กหนุ่มไม่สบาย จะกลายเป็นคนขี้อ้อน แมวเชื่องๆ ในอ้อมกอดเขา คนๆเดียวกัน แต่มีหลายๆอย่างที่ทำให้เค้าประหลาดใจ แบบนี้ล่ะมั้งที่เค้าเรียกว่ารัก แต่เค้าก็ไม่เคยบอกเด็กหนุ่มไปซักที

หลังจากรับประทานอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว ชายหนุ่มก็หัวใจของเขาเข้าเรือนหอที่อพาร์ทเม้นของตัวเขาเอง บทรักที่เด็กหนุ่มมอบให้ถูกใจชายหนุ่มมากๆ ไม่น่าเชื่อหน้าตาดื้อรั้น นั้นพยายามทำทุกอย่างให้ตัวเขาเองมีความสุข แทบไม่อยากเชื่อว่าบนเตียงจะเปลี่ยนเป็นอีกคน

“ตัวเองใส่ถุงยางก่อนนะ”เด็กหนุ่มเอ่ยบอกเชิงขอร้อง

“ ทำไมล่ะ เค้าไม่กลัว”

“แต่เค้ากลัว ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง ถ้าพลาดขึ้นมา เกิดถ้าเค้าเป็น แต่ตัวเองไม่เป็น”

“พอแล้วๆ เรื่องนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้น เค้ายอมแล้ว ป่วยการที่จะคิดนะตัวเอง เรามาเมคเลิฟ กันต่อนะครับ ที่เลิฟของผม”
บทรักที่เริ่มขึ้นอย่างอ่อนหวานเริ่มทวีความเร่าร้อนมากขึ้น

“แรงอีกครับ”

“แบบนี้ใช่มั้ยคับ ตัวเล็ก”

“แรงอีก เค้าชอบ แรงๆ ไปเลย ตัวเอง เสียวคับ เค้าจะไม่ไหวแล้ว” เตียงจังหวะสั้นเร่งจังหวะรักเร้าให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ

“ครับ พร้อมกันนะ” ชายหนุ่มพูดจบ บทรักถืออันเป็นเสร็จสมบูรณ์
อาหารมื้อเย็นที่ดูเรียบง่าย บทสนทนาถึงเรื่องราวที่ทั้งสองคนเจอมาในแต่ละวัน บทรักที่เร้าร้อน ถ้าเป็นแบบนี้ตลอดไปคงจะมีความสุขไม่น้อย ถ้าเป็นเกม ตอนนี้แหละ ต้องกดเซฟเอาไว้ อย่างที่เคยบอกไปชีวิตมันไม่ง่ายขนาดนั้น

ปอหล๋อ.แก้ไขเพิ่มเติมกฎของเล่าเรียบร้อยแล้วครับ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2016 21:34:25 โดย MonkeYMauS »

ออฟไลน์ MonkeYMauS

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
Ep2
ชีวิตทั้งสองผ่านไปด้วยดี มีทะเลาะบ้าง ตามประสาคู่รัก ว่ากันว่าช่วงเวลาความสุขอยู่ได้ไม่นาน ฉันใดก็ฉันนั้น พายุลูกใหญ่ที่เด็กหนุ่มหวาดกลัวก็มาถึง

จดหมายใบหนึ่งยื่นถึงมือเด็กหนุ่ม สีหน้าเด็กหนุ่มหวาดวิตกจนเมื่อแกะซอง มือเขาสั่นเทาเขาคิดไว้แล้วว่าซักวันจะต้องเจอเรื่องแบบนี้ แม้เรียนมา แม้ป้องกันอย่างดีแล้ว แล้วก็เป็นอย่างที่เขาคิด ปรากฎว่าเป็นผลเลือดครั้งล่าสุด ที่ผ่านมาเด็กหนุ่มก็ป้องกันมาอย่างดีตลอด ตรวจเลือดทุกๆสามเดือน ถ้าเค้าเป็นตอนนี้แสดงว่าคนที่เค้าคบก่อนหน้านี้ไม่จริงใจกับเค้าเหมือนล้มทั้งยืนเค้าค่อยๆ ประคองตัวเองไปนั่งเก้าอี้ใกล้ตัวที่สุด 

“ต้องทำยังไงต่อดี ต้องทำยังไงต่อดี” เขาถามย้ำตัวเอง อยู่คนเดียว 

...

ผู้คนพลุกพล่านมากมาย แต่ในใจเด็กหนุ่มกับเงียบงัน กว่าผลจะออกก็อีกนาน เด็กหนุ่มตัดสินใจทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวเหมือนที่ตัวเองทำ โชคยังดีที่ยังมีสิทธิการรักษาฟรีขั้นพื้นฐาน ไม่งั้นก็ไม่รู้จะหาเงินจากไหน เขานึกขอบคุณความโดดที่คอยสอนเค้าให้เผชิญกับเรื่องราวราวต่างๆ

ถ้าไม่มีเด็กขี้แยวันนั้น วันนี้เราเองก็คงจะรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้

ที่เป็นห่วงที่สุดคือ คนที่เค้ารัก เด็กหนุ่มจึงได้โทรไปหาชายหนุ่ม

“ตัวเอง”เด็กหนุ่มเอ่ยทัก

“ครับ ตัวเองเป็นอะไร”ขายหนุ่มตอบ เขารับรู้ถึงความไม่สบายใจในตัวเล็กของเขา เป็นอะไรไป งอนเขาอีกแล้วหรอ เขาทำอะไรลงไปเนี่ยะ

“เรื่องที่เค้ากลัวมันเกิดขึ้นแล้ว”

“เรื่องอะไรหรอ คิดมากไปรึป่าวครับ”

“ถ้าเค้าบอกไปแล้ว จะไม่คบต่อก็ไม่เป็นไรนะ”

“อะไรทำให้คิดว่าเค้าเลิกกับตัวเองล่ะ”

“เพราะเค้าไม่สบาย”

“ตัวเองเป็นอะไร“ ชายหนุ่มวิตก

“ตัวเองคิดว่าจะมีซักกี่เรื่อง ที่เค้ากลัวล่ะ ...................... เค้าติดโรคจากแฟนเก่าเค้ามาคับ ตัวเองไปตรวจดูนะ”

“…” ชายหนุ่มไม่ตอบใดๆ เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่ตัวเล็กของเขาทำตัวเขาเองพูดไม่ออก

“เค้าเข้าใจนะ ตัวเองไม่ต้องบอกอะไรเค้าหรอก” น้ำตาเด็กหนุ่มคลอเบ้า

“คิดมากแล้ว เค้าจะยืนอยู่ข้างๆตรงนี้ๆ ไม่เป็นไร” ความรู้สึกในใจชายหนุ่มเปลี่ยนไป เขาดูว้าวุ่นและวิตก
เด็กหนุ่มตัดสายไป

............................................................

"เอานี่ เค้าให้"เด็กหนุ่มพูดห้วนพร้อมยืนแหวนไม้ให้

"อะไรหรอ" ชายหนุ่มแกล้งถาม

"ยังมาถามอีก จะเอาไปทิ้งก็เชิญ"เด็กหนุ่มเดินหนี
แหวนไม้ที่เด็กหนุ่มยื่นให้เขาทำมันกับมือ  เหมือนเถาะวัลย์ขนาดเล็กร้อยกันเป็นแหวนเรียบๆหนึ่งวง ในเส้นคล้ายเถาวัลย์เหล่านั้นมีข้อความซ่อนอยู่ เลิฟรักพี่ชล

ไม่ได้การล่ะ เขาต้องตามง้อซะ
เร็วเท่าความคิดเขาก็วิ่งออกไปด้วยความดีใจ หลุดมาดหนุ่มขรึมเข้มที่มีมา

....................................................................

เนิ่นนานสามสัปดาห์แล้ว หลังจากที่ทั้งคู่รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น อะไรๆดูเหมือนจะดีขึ้น แม้ว่า ผลเลือดที่ออกมาจะเป็นตรงกันข้ามก็ตาม แต่เส้นกั้นบางๆ เริ่มที่จะหนาตัวขึ้นตามกาลเวลาที่พอกพูนขึ้น
เด็กหนุ่มแม้ร้อยยิ้มเปื้อนหน้า แต่เมื่อสัมผัสมือชายหนุ่มที่เขารักเหมือนเก่า ทำไมถึงไม่รู้สึกเหมือนเดิม

คำว่ารักกัน เด๋วนี้ไม่เคยได้ยินจากปาก มือที่เคยสัมผัสดูเย็นชาลงทุกที คนนี้หรอที่เค้าทุ่มเททุกอย่างให้ ทำไมหมดใจกันง่ายได้ คนดีของผม หมดรักผมแล้วใช่ไหม หรือ ไม่เคยรักผมเลย

ชายหนุ่มแม้ยิ้มให้ตัวเล็กคนที่เขารัก แต่ในใจว้าวุ่น กลัวไปหมด กลัวจะติด กลัวทุกอย่าง เขาแกะมือเด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยเหงื่อออก

ขอโทษนะคนดี ผมรักคุณ แต่เราคงไม่เหมือนเดิม ผมกลัว ผมยังมีคนที่อยู่ข้างหลังผมอีกมากมาย ผมรักคุณได้แค่นี้จริงๆ

ทั้งสองซ่อนความคิดในใจเอาไว้ รอวันประทุ  เนิ่นนานแล้วที่ บทเพลงรักที่ทั้งคู่คอยบรรเลงให้กันและกัน หายไป นับวันเวลายิ่งทำร้ายกัน ไม่มีแม้การจับมือ ไม่มีแม้แววตาอันทนุถนอม คนรักข้างๆกันเดินคู่กัน  คอยเล่าเรื่องราว คอยแก้ปัญหาด้วยกันมากินข้าวกันเคียงข้างกัน ได้ตายลงไปอย่างช้าๆ รอยยิ้มทั้งคู่ห่างหายไป
จนวันหนึ่ง หลังจากที่ชายหนุ่มส่งเด็กหนุ่มกลับบ้าน

“ตัวเอง เราเลิกกันนะ”

“ทำไมตัวเองพูดแบบนี้อีกแล้ว เค้ารักตัวเองนะ”

“อย่าโกหกกันอีกเลย”

“แน่ใจนะ” ชายหนุ่มถามย้ำอีกครั้ง
เด็กหนุ่มกอดชายหนุ่มที่เขารักครั้งสุดท้าย กระซิบข้างหูเขา

“รักกัน สุดท้ายก็ลมปาก ต่อให้ไม่พูด ผมก็รู้สึกไม่ได้อีกแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรที่ผมจะรั้งคุณไว้ ผมจะจดจำเรื่องราวของเราเอาไว้ ลาก่อน”

ไม่มีน้ำตาจากชายหนุ่ม สายตาเขาดูเลื่อนลอยเย็นชา ขณะที่เด็กหนุ่มซ่อนรอยน้ำตาเอาไว้ เดินหันหลังกลับไป ใจเด็กหนุ่มเปราะบางแทบจะแตก เขาไม่เหลือใครที่เขาคอยเล่าเรื่องราว ไม่เหลือใครที่คอยกอดเค้ายามที่เขาต้องการไม่มีปาฎิหาริย์ ไม่มีรักแท้ ไม่มีรักตลอดไป มีแค่เราเคยรักกัน ภาพต่างๆย้อนคืนมา แม้คบกันได้ไม่นาน ทั้งสองเผชิญเหตุการณ์ต่างๆกันมามากมาย พิสูจน์ความรักที่เขาสองคนมีให้กัน ภาพรอยยิ้มของชายหนุ่มคนรักที่แอบมองทุกการกระทำของตัวเล็กของเขา ภาพน้ำตาในตาของเด็กหนุ่มที่มีชายหนุ่มเป็นคนปลอบใจ ภาพที่ทั้งสองคนต่างคนต่างแอบมองอีกฝ่ายนอนหลับในอ้อมกอดเขารัก
ทั้งสองคนรู้ดี ทุกอย่างจบแล้ว เกมโอเวอร์ เกมนี้มันเซฟไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่เกม ที่ทั้งสองเคยเล่นด้วยกันมา

...

ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว จากเหตุการณ์วันนั้น
เด็กหนุ่มนอนฝันร้ายอยู่ในหอพักในเมืองกรุงตัวคนเดียวเขาใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวหลังจากนั้นเป็นต้นมา เพราะฤทธิ์ยาทำให้เด็กหนุ่มฝันร้าย ซ้ำความเจ็บปวดจากความรักครั้งนั้นทำให้เด็กหนุ่มไม่กล้าเริ่มต้นกับใครใหม่ เด็กหนุ่มรู้ดี หากแม้มีใครผ่านเข้ามารู้ความจริงข้อนี้แล้ว ก็ผ่านไปอย่างไม่สนใจไยดี ไม่ว่าในฐานะอะไร
เด็กหนุ่มตื่นจากฝันร้าย ร้องไห้ทั้งๆ ไม่มีน้ำตา เค้ายอมรับ เค้าทำตัวของเค้าเอง โชคยังดีที่ยังมีพี่ดีๆคอยเป็นห่วงเป็นใย ช่วยเขาให้อยู่ในเมืองกรุงได้บ้าง โลกนี้ไม่มีอะไรยุติธรรม นี่คงเป็นกรรมของตัวเขาเอง
นี่ก็เป็นอีกวันครบรอบวันเกิดที่แสนเศร้าวันหนึ่ง เด็กหนุ่มยกคัพเค้ก ที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาเทียน ที่ไหลออกมาแทนน้ำตาเขา
 

"แฮปปี่เบิร์ดเดย์ทูมี แฮปปี่เบิร์ดเดย์ทู้มี แฮปปี่เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูมี"

รอยยิ้มเปื้อนหน้าแม้ในตาเศร้าหมอง เขาอธิษฐานแล้วเป่าเทียนบนคัพเค้กเปื้อนเทียนเหมือนก่อน โลกนี้ดูจะอยู่ยากขึ้นทุกวันสำหรับเขา  รอยยิ้มจางๆปรากฎบนใบหน้าเด็กหนุ่มแม้ว่าหน้าตาเขาดูเหนื่อยจากการนอนที่ไม่ไ้ด้แสดงว่าเป็นการพักผ่อนเลยแม้แต่น้อย เขายังคงหวังไว้ลึกๆว่า 

บางทีพรุ่งนี้อาจมีเรื่องดีๆเกินขึ้นก็ได้
 
ฉันรู้ดี ว่าไม่เคยเป็นที่ต้องการของใคร ไม่มีใครรัก ไม่มีใครสนใจ โชคชะตา ทำไมโหดร้ายอย่างนั้น"
ตลอดชีวิต มีไหมซักคน ที่เพียบพร้อมเป็นเหมือนเจ้าชายในฝัน ที่จะเฝ้ารัก จะเฝ้าดูแลกันและกัน แต่ว่าฝันไม่เคยเป็นจริงซักที
ผิดด้วยหรือที่ฉันจะฝัน ฉันก็มีหัวใจ ผิดใช่ไหม ที่ฉันเป็นคนแบบนี้
ผิดด้วยหรือที่ฉันจะฝัน ฝันถึงคืนวัน ที่แสนดี ที่จะมีซักคนที่รักจริง


จบบริบูรณ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2016 21:40:06 โดย MonkeYMauS »

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อ่านไว้เป็นอุทาหรณ์ เวลารักกันก็เชื่อใจกัน ไม่ป้องกันโรคภัย
เวลาเจ็บป่วยมาก็ตัวใครตัวมัน

อย่าลืมแปะกฎเล้าด้วยนะจ๊ะ

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
เขียนได้ดีมากคะ เป็นการเตือนด้วย  :3123:ส่วนตัวเล็กเป็นคนดีมากถึงจะกลัวแต่ก็ไม่ปิดบัง เป็นฝ่ายจาก ชายหนุ่มถึงรักแต่ก็ลังเล กลัว ไม่มั่นคง ตอนสุดท้ายเล่นเอาน้ำตาซึมเลย กับความโดดเดี่ยวของตัวเล็ก

ออฟไลน์ KuMaY

  • คนไม่สำคัญ ทำไรก็ผิด
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26

minimonmon

  • บุคคลทั่วไป
ขอแค่ใครสักคนเป็นกำลังใจ

ออฟไลน์ kamikame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เศร้ามากกกก แต่ก็เตือนสติได้ดีทีเดียวเลย
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสอนใจดี ๆ นะฮ๊าฟฟฟฟ

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
สุดท้ายก็ไม่เหลือใครนอกจากตัวเอง หันกลับมารักตัวเองก็นสักนิดก็พอ

เรื่องนี้ดีมาก เป็นอุทาหรณ์เตือนใจใครหลายๆคนได้เลยทีเดียว :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ skynotebook

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
เศร้าอะ สงสารน้องเลิฟ ทำไมพี่ชลทำกับน้องแบบนี้

ออฟไลน์ maykiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โครตเศร้าอะพี่น้อง สงสารนายเอกอ่า ฮือๆๆ T^T

name

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร

อยากจะเค้าไปกอดเลิฟจัง :กอด1:

เราว่านะถ้ากลับกัน

ถ้านายชลเป็นโรคแทน

เลิฟคงไม่ทิ้งชลหรอก

แต่ก็นะ...เราก็แค่สันนิฐาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2012 21:28:40 โดย bulldog17 »

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
กลับมาอ่านอีกครั้ง
ป้องกันไว้ดีกว่าแก้สินะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ BlueWizard

  • Friendly & optimistic
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ได้ข้อคิดดีนะครับ เศร้าเลย

ขอบคุณนะครับ  :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด