BBChin JungBB : ตอนต่อๆไปจะมีเฉลยนะ ว่าพราวคือใคร
---------------------------------------------------------------------
ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยที่มาลงให้ช้า มัวแต่ไปอ่านนิยายเรื่องอื่นอยู่
หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้เจอทีอีกเลย ผมยอมให้ความลับที่ผมมีหายไปกับทีเลยก็ว่าได้ ความลับที่ว่าผมชอบทีแต่ที
ดันไปหลงรักยักษ์ ผมไม่เคยบอกทีว่าผมชอบทีเพราะทีดันมาปรึกษากับผมเสียก่อนว่าทีนั้นหลงรักยักษ์เข้าให้แล้ว แต่จนถึงวัน
ลาจากทีก็ไม่เคยเอ่ยความรู้สึกใดใดให้กับยักษ์ได้รู้เลย
สิ่งที่ผมทำคือหายไปจากวงโคจรเพื่อนมหาลัยเลยก็ว่าได้ ผมอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ ผมไม่อยากให้อดีตมาทำร้ายผม
อีกผมเหนื่อยกับการแอบรัก ผมเลือกที่จะทำงานกับบริษัทที่พ่อมีหุ้นส่วนอยู่พ่อผมตำแหน่งหุ้นส่วนของประธานบริษัท แต่ด้วย
ความที่ว่าผมไม่ชอบให้ใครมาว่าผมเป็นเด็กเส้น ผมเลยเข้าทำงานกับตำแหน่งนักบัญชีธรรมดาด้วยวุฒิปริญญาตรี ส่วนพี่เลข
แกไปเรียนต่อโทอีกปีเดียวเห็นพ่อจะดึงตัวให้มาทำงานด้วย
ผมใช้เวลาปรับตัวกับสิ่งใหม่ๆสังคมทำงานใหม่ๆจนผมเริ่มชินไปกับสังคมของมนุษย์เงินเดือน แต่ที่นี่ดีหน่อยที่ว่าทุก
คนรักกันฉันพี่น้องมีอะไรแบ่งปันกัน ไม่มีใครเอาเรื่องของคนอื่นมานินทาลับหลังมีอะไรเราจะเครียกันตรงๆ
จนวันนึงท่านผอ.สาขานี้จับได้ว่าหัวหน้าแผนกบัญชีที่พวกผมเคารพนับถือนั้นได้ทำการทุจริตปลอมแปลงเอกสารเลย
ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนตำแหน่งหัวหน้าแผนกนั้นตามความเข้าใจของผมผมคิดว่าคงให้รองขึ้นแทนแล้วหาคนขึ้นมา
เป็นรองแทน แต่เปล่าเลย ตำแหน่งหัวหน้าแผนกถูกล็อคเอาไว้เหมือนกับว่าจะมีคนเข้ามารับตำแหน่ง เมื่อเป็นเช่นนี้คนที่ไม่
พอใจเอามากๆก็คงไม่พ้นรองหัวหน้าแผนก แล้วคุณรู้ไหมครับว่าใครมาเป็นหัวหน้าแผนกพี่ชายของผมเองครับ พี่เลขที่กลับมา
หลังเรียนจบด้วยวุฒิปริญญาโทสองใบซ้อน แน่นอนว่าเมื่อพี่เลขมาเป็นหัวหน้าผมเขาก็ต้องทำหน้าที่หัวหน้าเวลาดุแกจะดุ
เหมือนพี่ชายสอนน้อง แรกๆทุกคนก็ไม่ค่อยชอบแกสักเท่าไหร่กันผมก็ไม่รู้ว่าทำไม เพราะงานที่แกสั่งให้ทำมันต้องออกมาดีต้อง
ตรวจทานให้ดีก่อน พี่เลขใช้เวลาเกือบสามเดือนกว่าที่คนทั้งแผนกจะยอมรับในตัวแก วันแรกที่พี่เลขแนะนำตัวทุกคนทำหน้างง
มากว่าผมกับพี่เลขนามสกุลเดียวกันแถมก่อนที่พี่เลขจะเข้ารับตำแหน่ง มีคนปล่อยข่าวว่าตำแหน่งนี้ถูกล็อคไว้ด้วยหุ้นส่วนของ
ท่านประธานก็คือพ่อของผม แถมอีกสองเดือนหลังยังมีเป้เข้ามาทำงานที่นี่ด้วย ทำให้ความรู้สึกของผมไม่เหงาเลยคนนึงก็พี่
คนนึงก็น้อง
ใครจะรู้ว่าวันนึงโชคชะตาจะเหวี่ยงคนที่เราชอบกลับมาอีกครั้ง ตอนแรกผมก็ไม่อยากจะเชื่อเลยแต่วันนั้นเลิกงานผม
ไม่รู้จะไปไหนเลยเลือกที่จะไปเดินเล่นที่ห้างคนเดียวยังไม่อยากจะกลับบ้านเลยกลับไปพ่อก็ไม่อยู่เพราะพ่อต้องลงไปประจำ
บริษัทที่กรุงเทพทำให้นานๆพ่อจะขึ้นมาทีนึง
“เฮ้ยนัท ดีใจที่ได้เจอนะ เราถามเพื่อนที่มหาลัยหลายๆคนก็บอกว่าไม่มีใครติดต่อแกได้เลยเป็นไงบ้างสบายดีไหม”
คนที่ผมพยายามตัดใจแต่พอมาเจอหน้ากันวันนี้ความรู้สึกที่ปิดกั้นเอาไว้กลับถูกเปิดออกมาอีกครั้ง
“ใจเย็นมึง กูไม่หนีมึงไปไหนแล้ว”
“มึงน่ะจริงๆเลย กูน่ะคิดถึงมึงจะตายรู้บ้างไหมเนี่ย เดี๊ยวตอนนี้มึงว่างไหมไปกินข้าวกับกูไหม”
ใจนึงก็ไม่อยากจะให้ความรู้สึกเก่าๆกลับมาเลย แต่ไหนๆโชคชะตาก็เล่นตลกแล้วก็ขอเสี่ยงสักหน่อยแล้วกัน
“ว่างสิ ว่าแต่มึอยากกินอะไรกูมีเรื่องอยากคุยกับมึงเต็มไปหมดเลย”
“งั้นเดี๊ยวไปกินร้านนี้แล้วกัน”
ผมกับทีเลือกที่จะมากินข้าวในร้านอาหารแห่งนึงเราเลือกมุมที่สงบ เพราะเราคิดว่าเราคงคุยกันอีกนาน
“ตอนนี้มึงทำอะไรอยู่ว่ะนัท เปลี่ยนเบอร์ทำไมไม่ยอมบอกพวกกูว่ะ”
“พอดีโทรศัพท์เครื่องเก่ามันพังน่ะ เลยเปลี่ยนเบอร์ใหม่ไป”ผมเลือกที่จะโกหแทนใครเล่าจะกล้าพูดว่าที่หายไปเพราะ
มึงไงทีที่ทำให้กูต้องหายไปตั้งหลัก
“มึงนี่นะจริงๆเลย ทำกูเป็นห่วงแทบแย่ นี่พวกกูคิดอยู่ว่าถ้าปีหน้ายังไม่มีใครเจอมึงจะลงขันกันประกาศตามหน้าที่
หน้าหนึ่งแล้วนะเว้ย” ไอ้นี่ก็เวอร์ตลอด
“กูสบายดี ขอโทษด้วยแล้วกันที่หายไป แล้วมึงกับไอ้ยักษ์เป็นไงบ้าง”นี่หล่ะครับคือเหตุผลหลักที่ผมเลือกจะหายไป
เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะยักษ์เลือกที่จะไปสมัครงานบริษัทของทีทำให้สองคนสนิทกัน จนทีบอกผมว่ามันสารภาพรักกับไอ้
ยักษ์ไปแล้วมันสองคนคบกันแล้วตั้งแต่วันนั้นผมค่อยๆหายแล้วปลีกตัวออกมาจากชีวิตของมันเลย
“ก็เรื่อยๆนะมึงทะเลาะกันบ้าง ดีกันบ้างว่าแต่มึงเถอะมีแฟนหรือยัง”
“............................................”ผมแทบไม่ได้ฟัเลยว่าทีมันพูดอะไรของมัน
“นี่มึงร้องไห้ทำไมนัท มึงเป้นอะไร ใครทำอะไรมึงมึงบอกกูมาสิ”
“อ่อเปล่าๆกูไม่ได้เป็นอะไรพอดีช่วงนี้กูเครียดๆน่ะ ไม่มีใครทำอะไรกูได้มึงก็รู้”ใครจะกล้าพูดว่ากูร้องไห้เพราะอิจฉาไอ้
ยักษ์มันไงที่ได้รักมึงที่ได้อยู่ใกล้ชิด ถ้ากูมีความกล้ามากกว่านี้วันนี้กูคงมีความสุขบ้างสินะ
“มึงนี่น่านัทมีอะไรไม่สบายใจบอกให้กูฟังบ้างก็ได้กูเป็นเพื่อนมึงนะนัท อย่าเก็บมันไว้คนเดียวสิ”
“มึงเคยแอบชอบใครสักคนแล้วไม่ได้บอกเค้าเปล่าว่ะว่าชอบเขา”
“เคยสิมึงก็ไอ้ยักษ์ไง”
“มึงฟังกูให้จบก่อนสิ กูหมายถึงว่าชอบเขาแต่ไม่กล้าที่จะบอกเขาเพราะว่าเขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
“นี่มึงแอบรักใคร มึงบอกกูมาซะดีๆ ตั้งแต่เลิกกับพราวกูไม่เห็นมึงจะคบใครหรือไปแอบชอบใครเลย”
“กูก็พูดไปแบบนั้นเองหล่ะ เพ้อเจ้อเนอะกูน่ะ”
บนโต๊ะตอนนั้น ทำให้ผมย้อนไปถึงสมัยที่เราคบกันแค่สองคนจนรวมเป็นกลุ่มใหญ่แต่ยังมีเราแค่สองคนที่เวลาไปไหน
เราจะลากกันไปสองคน เรื่องเก่าๆ วีรกรรมเก่าๆก็ถูกขุดมาคุยกัน ทำให้ผมรู้สึกว่ามีคนมาเติมเต็มความรู้สึกที่มันเคยหายไปแล้ว
ก็ตามถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นคนรักกันก็ตาม
“ฮัลโหลครับ อ่อพี่เต้เดินเข้ามาเลยทีอยู่กับเพื่อนสองคน ใช่ครับ เพิ่งเริ่มทานครับ”
“มีใครมาเพิ่มหรือมึง”
“อ่อพี่ชายกูเอง มันจะพาแฟนมาทานข้าวด้วยน่ะ ว่าแต่มึงสะดวกใจเปล่า”
“ไม่เป็นไรมึง กูไม่มีปัญหาอะไร”
ผมนั่งกันไม่นานพี่มันที่ชื่อเต้ก็เดินเข้ามา พร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมจำเธอได้ขึ้นใจ เธอชื่อแพรครับเป็นลูกสาวของ
คุณลุงกิตติศักดิ์ แถมผู้หญิงคนนี้หล่ะครับที่มีศักดิ์เป็นน้องสาวของพราวเพราะมีแม่คนเดียวกัน แต่เหมือนพราวเลือกที่จะอยู่กับ
พ่อ แม่ของพราวเลยแต่งงานใหม่กับคุณลุงเลยมีแพรออกมา
“นี่เพื่อนผมครับ ชื่อนัท นี่พี่เต้ส่วนอีกคนใครครับพี่เต้”
“อีกคนก็คุรแพรไงมึง เป็นลูกสาวของท่านประธานที่กูทำงานอยู่น่ะ”
“แหมพี่นัทก็แนะนำตัวซะห่างเหินกันเชียวคนกันเองแท้ๆ พอดีพ่อของพี่นัทเป็นหุ้นส่วนของบริษัทที่พ่อแพรเป็น
เจ้าของน่ะค่ะ” ผมล่ะนับถือผู้หญิงคนนี้จริง ผมไม่ค่อยชอบเธอตั้งแต่เด็กๆแล้วหล่ะครับ ผู้หญิงอะไรตามตูดผู้ชายต้อยๆเพราะ
เธอนี่หล่ะชอบตามพี่เลข จนำให้พี่เลขนรำคาญแล้ววีนออกไป ทำให้เราไม่ค่อยได้เจอกันอีกน่ะครับ
“อ่อนี่คงเป็นลุกชายของคุณ ณัฐกานต์ใช่ไหมครับ ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมชื่อดนัยครับ ส่วนนี่แพรแฟนผม
ครับ”ผมไม่มีท่าทีแปลกใจเลยสักนิด แต่คนที่มีปัญหาคงเป็นไอ้ทีคนเดียวหล่ะที่ทำหน้างงปนสงสัยจะมันทนไม่ไหวเอ่ยปากถาม
ออกไป
“พี่บอกว่าคุณแพรเป็นแฟนพี่ แล้วพี่น็อตเขาไปอยู่ไหนกัน พี่น็อตที่พี่รักนักรักหนาน่ะเขาหายไปไหนแล้ว”อยู่ๆไอ้ทีก็
ระเบิดอารมณ์ออกมา
“น็อตน่ะหรอ ก็ยังอยู่ในที่ของเขานั้นหล่ะ อีกไม่นานพี่ก็คงเลิกกับเขาแล้วหล่ะ”
“พี่พูดได้ยังไงว่าพี่จะเลิกกับเขา พี่ไม่ได้คิดบ้างหรอว่าแปดปีที่ผ่านมามันนานแค่ไหน คงเป็นเพราะผู้หญิงหน้าด้านคน
นี้สินะพี่ถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้น่ะ”
“นี่มันจะมากไปแล้วนะไอ้ที กูเป็นพี่มึงนะ จะพูดอะไรให้เกียรติ์กูด้วย”
“เหอะมึอยากทำอะไรก็ทำไปนะ กูจะไม่ยุ่งกับมึงอีกต่อไปแล้ว ไปนัทกลับกูกินไม่ลงแล้ว รู้สึกขยะแขยง”ผมไม่รู้ว่าสิ่ง
ที่ไอ้ทีระเบิดออกมาคืออะไรผมเป็นเพื่อนมันผมไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้มาก่อน
วันนั้นผมกลับมันก็แยกหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่นาน แต่เราไม่ลืมที่จะแลกเบอร์และไลน์เลย ใจจริงอยากแลก
แค่เบอร์แต่ก็เพราะเป็นไอ้ทีมันหาสนใจไม่ พอไม่ให้มันหยิบไปจัดการเองทุกอย่างด้วย รวมถึงเฟสบุ๊คด้วยผมหล่ะปวดหัวกับมัน
จริงๆเลยและก็เป็นไปตามคาดครับไม่นานมันเล่นประกาศว่ามันเจอตัวผมแล้วแถมลงรุปผมคู่กับมันที่ให้พนักงานถ่ายให้ใน
ร้านอาหารแถมมีการแท็กมาหาผมด้วย พอผมเปิดเข้าไปว่าจะเม้นต่อจากเพื่อนหน่อย ผมเจอไอ้ยักษ์มาเม้นว่า “ที่แท้หนีผัวไป
อยู่กับชู้นี่เอง” ด้วยความอยากกวนตีนคน ผมเลยพิมพ์ตอบกลับไปว่า กูน่ะผัวหลวงส่วนมึงไอ้ยักษ์เป็นผัวน้อย กลับเรียกเสียง
หัวเราะจากบรรดาเพื่อนในกลุ่มได้ดีทีเดียว มันทำให้ผมคิดได้ว่าความสุขที่ผมเรียกมันความทุกข์วันนี้มันกลายเป็นความสุข
จริงๆเสียที
................................................TCB