ตอนที่1
“อื้อ”
ทั้งที่หลับอยู่บนเตียงแต่กลับไม่สบายตัวเอาเสียเลย แอลรู้สึกว่ามีมือของใครบางคนลูบคลำตามร่างกายของเขาอย่างหยาบโลน นอกจากนั้นไอ้กลิ่นกายหอมๆที่ฟุ้งไปทั่วนี่มันอะไรกันนะเป็นกลิ่นที่คุ้นเคยมากทีเดียว
“งืม....ที่รัก...จ๋า....”
เสียงพึมพำข้างหูช่างฟังดูเร่าร้อน มือหยาบลูบคลำและบีบคลึงแผ่นอกของเขาอย่างเอาแต่ใจ แอลลืมตาโพลงเพราะเริ่มจะรู้แล้วว่าใครกันที่จู่โจมตนเองแต่เช้า
“แมท”
มองค้อนใส่แมทที่ยังคงนอนละเมอลวนลามไม่เลิก อย่างนี้ประจำทุกเช้าเลย เจ้าเพื่อนสนิทสมัยเด็กตัวดีคนนี้มักจะเข้ามาปลุกแต่เช้า เผลอหลับและนอนฝันถึงผู้หญิงจนมือไม้อยู่ไม่สุขทุกครั้งไป
“ตื่นๆตื่นเดี๋ยวนี้”
ถึงแม้จะพยายามสลัดให้หลุดแต่มือปลาหมึกยังพัวพันไม่เลิก แถมยังลามปามเอาขามากระหวัดรัด ชักโกรธแล้วนะ ให้ตายสิทำไมต้องละเมอคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงอยู่เรื่อย
“แมทททททททท” แอลตะโกนข้างหูคนที่เอาแต่กอดรัดฟัดเหวี่ยงตัวเขา ในที่สุดแมทก็มีสติและใช้ดวงตาแป๋วๆมองสบมา
“อรุณสวัสดิ์นะแอล” แมทยิ้มหวาน แอลได้แต่ถอนหายใจแล้วบอกให้เพื่อนสนิทเลิกกอดรัดเขาเสียที
“เลิกคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงซักทีสิ” บ่นอุบหลังจากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
“ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นผู้หญิงเสียหน่อยนี่”
“อะไรนะ”
“เปล่า....ไม่มีอะไร”
แมทปฏิเสธ แอลเห็นอีกฝ่ายเกาหัวแกรกๆดูเหมือนมีเรื่องในใจอยากจะกล่าว แต่มีเวลาฟังเสียที่ไหน พอดูนาฬิกาดิจิตอลในมือถือก็พบว่านี่ใกล้เวลาเข้าเรียนช่วงเช้ามากแล้ว เด็กหนุ่มแทบจะร้องกรี๊ด
“บ้าที่สุดเลย แมทนายมาหาฉันตั้งแต่กี่โมง”
แมทยักไหล่แล้วส่งยิ้มเจื่อนๆมาให้ แอลเดาว่าอีกฝ่ายต้องแอบเข้ามาในห้องเขาแต่เช้าแล้วแน่นอน
“แมท ไอ้บ้า ทำไมมาแต่เช้าแล้วไม่ปลุกนะ”
ถึงจะโอดครวญก็ช่วยอะไรไม่ได้ แอลรีบตรงไปยังห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะกลับเข้ามาเปลี่ยนเสื้อในห้อง เด็กหนุ่มไม่ทันได้สังเกตซักนิดว่าแมทมองมาด้วยสายตาเร่าร้อน
“แอลนี่ผิวขาวจังเลยน้า ขาวผ่องไปทั้งตัวเลย”
“คร๊าบๆ พ่อคนช่างสังเกต ชมก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ” หลังจากแต่งตัวเสร็จแอลกับแมทก็พากันลงไปยังชั้นล่าง ที่นั่นพ่อกับแม่ของเขานั่งรออยู่ในห้องรับแขก
“แอลไม่ทานข้าวก่อนหรือจ๊ะ”
“ไม่กินครับ ผมสายแล้ว” แอลบอกปัดแม่ของเขาแล้วเดินนำแมทออกไปยังหน้าบ้าน ที่นั่นอากิระเพื่อนสนิทสมัยเด็กอีกคนยืนคอยอยู่
“ช้านะแอล”
เอ่ยตำหนิก่อนจะเดินเข้ามาจัดการกับปกเสื้อนักศึกษาที่ยับยู่ยี่ของแอล เด็กหนุ่มอายเพื่อนคนนี้เหลือเกินเพราะบ่อยครั้งที่เขาต้องคอยให้อากิระมาดูแล
อากิระคนนี้เองก็เป็นเพื่อนสมัยเด็กถึงแม้จะตัวโตสูงใหญ่กว่าผู้หญิงทั่วไปและจัดว่าเป็นสาวหล่อ แต่สวยยังไงก็คือสวยอยู่วันยังค่ำ
“เห.....ทำให้ฉันบ้างเซ่อากิระ” แมทโถมเข้ากอดอากิระจากด้านหลัง อากิระมีสีหน้าเย็นชาไม่ยินดียินร้ายในขณะที่แมทดูร่าเริงผิดปกติ
“โตโตกันแล้วทำเองสิ”
อากิระสลัดแมทออก แต่แมทยังโยเยไม่เลิกสุดท้ายอากิระก็ต้องเขาไปจัดการกับเสื้อผ้าของแมทพอเป็นพิธี
ยังไงดีนะ สำหรับแอลแล้วการที่สองคนนี้จะสนิทกันก็ไม่แปลก ก็สองคนนี้กับตัวเขาเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยอนุบาล แต่ทำไมน้าหมู่นี้พิลึกชอบกล ทุกครั้งที่อากิระเข้ามาสนิทสนมกับเขาแมทจะต้องเรียกร้องความสนใจอากิระแบบแปลกๆ เรื่องนี้ติดอยู่ในใจของแอลอย่างไม่อาจสลัดออกไปได้
“อยากจะรู้อะไรกันแน่ล่ะ”
บัวชมพูเพื่อนร่วมคณะที่สนิทกับเขาที่สุดถามหลังจากเขาเอาเรื่องของแมทกับอากิระไปปรึกษา หญิงสาวยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัยสุดๆ
“เอ่อ ก็แค่คิดว่าหมู่นี้สองคนสนิทกันแปลกๆ จนบ้างครั้งฉันเหมือนเป็นส่วนเกินไปเลย”
“แน่ล่ะ....” บัวชมพูหัวเราะคิกๆ แอลสงสัยหนักกว่าเดิมว่าทำไมถึงต้องหัวเราะ
“พวกสาวๆในมหาลัยลือกันไปทั่วว่าแมทกับอากิระน่ะคบกันอยู่”
“เห”
แอลตกใจอย่างมากเขาอุทานออกมาเสียงดัง จริงอยู่ว่าสองคนนี้สนิทกันมากแต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นอย่างว่ากัน
“ไม่รู้หรอกว่าจริงหรือเปล่า แต่คนในมหาลัยลือกันให้แซด ก็พวกเขามักจะอยู่ด้วยกันบ่อยๆนี่นา นายลองสังเกตดูสิแอล”
แอลมีสายตาเลือนลอย นึกไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น สองคนนั้นคบกันจริงๆนะหรือ ทำไมถึงต้องปิดเป็นความลับกับเขาด้วย ไม่ยุติธรรมเลย เขาเองก็เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งน่าจะมีสิทธิที่จะได้รู้สิ
“แอล” สะดุ้งเบาๆเมื่อมีมือสัมผัสลงบนไหล่ เขาจำเสียงได้ พอหันไปก็พบแมทกับอากิระยืนอยู่ที่ด้านหลัง
“กลับบ้านกันเถอะ” แมทยิ้มกว้างแต่สายตาล่อกแล่กเป็นพิเศษ แมทเอาแต่ชำเลืองมองดูบัวชมพูด้วยสายตาระแวดระวัง
“วันนี้ก็กลับด้วยกันหรือสามคนนี้” บัวชมพูถาม
“อื้อ ขอบคุณที่ดูแลแอลแทนพวกเราเสมอนะ”
อากิระส่งยิ้มให้บัวชมพู เป็นรอยยิ้มที่เห็นได้ยากจากคนซึ่งแทบจะไม่ยิ้มอย่างอากิระ ตอนนี้ชักจะเริ่มเข้าใจอะไรได้บางอย่างหรือว่าแมทจะหึงบัวชมพูกันนะ ไม่แปลกหรอกเพราะอากิระมักมีผู้หญิงด้วยกันมาสารภาพรักอยู่บ่อยๆ
“ไปกันได้แล้วน่าอากิระ เนอะแอล”
ต้นประโยควางท่าข่มขู่แต่พอท้ายประโยคที่พูดกับเขากลับใช้เสียงหวานๆ หึง แมทหึงอากิระอยู่แน่ๆเลย ไม่รู้ทำไมเด็กหนุ่มเจ็บปวดในอก เป็นความรู้สึกประหลาดที่เขาไม่เคยมีมาก่อน
หลังจากกล่าวลาบัวชมพู แมทก็พาเขามายังรถยนต์ส่วนตัว อากิระขยับเข้าไปนั่งที่เบาะด้านหลังแอลตามเข้าไปนั่งด้วย
“เฮ้ย ทำไมสองคนนี้ต้องนั่งเบาะหลังด้วยกันเล่า”
แอลสะดุ้งเบาๆเพราะแมทตะโกนเสียงดัง หรือว่าไม่พอใจที่เขานั่งกับอากิระสองคนกันนะ
“แอลครับ มานั่งข้างหน้ากับแมทนะ”
แอลมองสลับไปมาระหว่างแมทกับอากิระ แมทฉีกยิ้มสดใสในขณะที่อากิระยังตีหน้านิ่งเป็นรูปสลักเหมือนทุกที
“เข้าใจแล้ว” แอลลุกไปนั่งเบาะหน้ากับแมท
“พวกไม่รู้จักโต”
คาดไม่ถึงว่าคนปากหนักอย่างอากิระจะพูดเหน็บแนมแมทอย่างนี้ หรือว่ากำลังตำหนิที่แมทหึงตัวเองไม่เข้าเรื่องกันนะ หดหู่เหลือเกิน บ้าเอ๊ยทำไมจิตใจเขามันไม่สงบเลย
ระหว่างทางกลับบ้านอากิระชวนให้เขากับแมทไปเที่ยวที่บ้าน เด็กหนุ่มเห็นว่าก็ดีเหมือนกันดังนั้นจึงตอบตกลงไป ใช้เวลานั่งอยู่บนรถที่แมทขับไม่นานนักในที่สุดก็มาถึงบ้านของอากิระ
อากิระเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของมหาเศรษฐีเจ้าของธนาคารมีชื่อ แม่ของอากิระเป็นคนญี่ปุ่นที่แต่งงานและมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้กว่ายี่สิบปีแล้ว
อากิระเป็นสาวลูกครึ่งญี่ปุ่นที่หน้าตาออกไปทางคมคาย ด้วยผิวที่ขาวและรูปร่างสูงเพรียวทำให้บุคลิกที่ดูเย็นชาโดดเด่น อากิระถูกขนานนามว่าเจ้าหญิงน้ำแข็งแห่งคณะนิติศาตร์และมีตำแหน่งเป็นดาวคณะที่ฮอตในหมู่สาวๆอย่างลับๆ
ในขณะที่แมทนั้นนอกจากเป็นเดือนคณะแพทย์แล้วเขายังเป็นเดือนมหาลัยอีกด้วย แมทเป็นลูกครึ่งไทยเยอรมัน ด้วยความที่เป็นลูกครึ่งยุโรบจึงมีรูปหน้าที่งดงามโดดเด่น รูปร่างเองก็จัดว่าสุดยอดเพราะเล่นกีฬาจนร่างกายกำยำและสูงใหญ่ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ไม่แปลกใจที่สาวๆมักจะหลงใหลเพื่อนคนนี้จากการได้พบเพียงแวบแรก
คบกันอยู่จริงๆหรือนี่ ทำไมนะพอคิดว่าสองคนนี้เขาแอบคบกันลับหลัง แอลกลับรู้สึกไม่สบายใจทั้งยังเหงาเหลือเกิน หากว่าทั้งสองเริ่มคบกันอย่างเปิดเผย เขาจะถูกทิ้งไว้เพียงลำพังไหมนะ
ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลย รู้ตัวว่าความคิดของตัวเองช่างเห็นแก่ตัว แต่เขาไม่อยากถูกทิ้งไว้เพียงลำพังจริงๆ เกลียดตัวเองอยู่ไม่น้อยแทนที่จะยินดีต่อความรักของเพื่อนทั้งสองกลับมีความคิดอยากให้เรื่องซึ่งได้ยินมาไม่ใช่ความจริงตัวเองเป็นคนร้ายกาจและเห็นแก่ตัวแค่ไหน วันนี้ก็เพิ่งประจักษ์ในข้อนั้น
เพราะมัวแต่ครุ่นคิดถึงความสัมพันธ์ของแมทและอากิระจนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว รู้สึกตัวอีกทีพวกเขาก็มานั่งดูทีวีในห้องส่วนตัวของอากิระเสียแล้ว นอกจากนั้นเพราะเหม่อลอยอย่างหนักไอติมแท่งที่อากิระเอามาให้ทานละลายจนเปรอะเปื้อนมือไปหมด
“แอลนี่ต้องให้คอยดูแลอยู่เรื่อยนะ”
อากิระหัวเราะเบาๆก่อนจะเข้ามาจัดการดูแลแอลเหมือนทุกที เพื่อนสาวสมัยเด็กยึดเอาไอติมที่เขาเคยกินไปคาบไว้ในปากก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาบรรจงเช็ดมือให้เขา เด็กหนุ่มหน้าแดงก่ำด้วยเพราะไม่คิดว่าเพื่อนคนนี้จะคาบของที่เขาเคยกินเอาไว้ในปากโดยไม่รังเกียจ
“ทนไม่ไหวแล้วนะโว้ยยยยยยย”
แอลสะดุ้งเพราะจู่ๆแมทก็ตะโกนโวยวาย แมทเอานิ้วชี้หน้าอากิระมือไม้สั่น อ๊ะ นี่หรือว่าจะหึงเขากับอากิระ แอลตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจและกังวล
“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำอะไรล้ำหน้า ก็รู้อยู่ว่าฉันคิดยังไง”
“ก็รู้แล้วไง แต่ฉันไม่เห็นว่ามันจะล้ำหน้าอะไรตรงไหน”
อากิระยักไหล่ ใบหน้าสวยยังคงไม่รู้ร้อนรู้หนาว แอลอึดอัดใจเหลือเกินที่ต้องอยู่ตรงกลางระหว่างการทะเลาะเบาะแว้งของคู่รัก ดวงตากลมโตมองสลับแอลกับอากิระไปมา ทั้งสองคนคบหากันจริงๆด้วย ไม่รู้ทำไมแอลอยากจะร้องไห้ พอคิดว่าแมทจะคบกับอากิระเขาก็รู้สึกเจ็บ
ชอบ นี่เขาชอบแมทหรอกหรือนี่
“ขะ...ขอโทษนะ ฉันขอตัวกลับก่อน”
โผกลับบ้านอย่างกะทันหัน โดยไม่รอให้เพื่อนทั้งสองตามหลังมาเขารีบจับรถแท็กซี่มุ่งหน้าตรงกลับบ้านทันใด
แอลร้องไห้น้ำตาใสใสไหลอาบไปทั่วแก้ม น่าเศร้านักที่ดันมารู้ตัวเสียแล้ว ทว่ามันออกจะสายเกินไปหน่อย แอลกับแมทคบกันอยู่ เขาควรจะยินดีกับความรักของเพื่อนทั้งสอง
เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า