ชายไม่จริงVSหญิงแท้กับการแข่งขันที่มีหัวใจของหนุ่มน้อยหน้ามนเป็นเดิมพัน
[/b][/i]
1
ถูกตาต้องใจ
ณ ห้องประชุมเล็กของบริษัทแห่งหนึ่ง วันนี้มีการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ที่เพิ่งมาทำงานเป็นวันแรก ทุกคนดูกระตือรือร้นและตั้งใจฟังคำแนะนำต่าง ๆ เป็นพิเศษ แต่ละคนหน้าใสและดูอ่อนเยาว์ สมกับที่เพิ่งจบจากรั้วมหาวิทยาลัย
“น่ารักเป็นบ้าเลย เห็นเขาบอกว่าน้องคนนั้นเคยเป็นดาวมหา’ลัยด้วย ชื่อน้องดาว น่ารักชะมัดเลย” พนักงานคนหนึ่งเอ่ยกับเพื่อน ๆ
“งั้น ๆ แหละ ตอนฉันเรียน ฉันก็เป็นดาวเด่นของคณะเหมือนกัน” คนพูดเป็นสาววัยเกือบสามสิบนามว่ากวาง ผู้เป็นเหมือนเจ้ใหญ่ เธอพูดพลางมองเด็กใหม่คนนั้นด้วยแววตาเหนือว่านิด ๆ
“ตอนนั้นผ่านมากี่สิบปีแล้วเจ้” รุ่นน้องหนุ่มใจสาวหุ่นล่ำเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้
“ไม่ถึงสิบย่ะยายอ๋อง แค่เจ็ดแปดปีเอง” เธอตอบแล้วค้อนตาคว่ำ จริง ๆ ใบหน้าของเธอก็อ่อนเยาว์พอจะวัดกับเด็กใหม่ได้อยู่ เพราะประโคมครีมบำรุงผิวเป็นประจำตั้งแต่อายุเข้าย่างเลขสอง
“เดี๋ยว ๆ เจ้ ผมว่าถึงนะ เจ้เข้ามหา’ลัยตอนสิบแปด ตอนนี้ก็สามสิบแล้วนี่” อีกคนทำเป็นนับนิ้วก่อนตาโต “โอ้โห สิบกว่าปีแล้วเจ้ ไม่น่าเชื่อเลย ถ้านับเป็นสายรหัส เจ้คงเป็นคุณทวดของคุณทวดของคุณทวดแน่เลย”
“ไอ้หนุ่ม เดี๋ยวเถอะ พูดอะไรหยาบคายแบบนั้น ระวังฉันจะไม่เบิกสำรองจ่ายให้นาย” กวางชี้นิ้วคาดโทษ ทำเอารุ่นน้องหน้าจ๋อย
“โอ๋ ๆๆๆ เจ้อย่างอนสิ ผมกำลังจะบอกว่าเจ้เป็นทวดของทวดที่หน้าเด็กที่สุด และรุ่นน้องต้องอิจฉากันแน่ ๆ ถ้ารู้ว่าเจ้อายุเท่าไหร่ นี่ถ้าเทียบกันแล้ว หน้าเจ้อ่อนว่าน้อง ๆ พวกนั้นอีกนะครับ”
“แน่นอนอยู่แล้ว” กวางยอมรับหน้าชื่น
“รู้ว่าคนเขาพูดโกหกก็ยังจะเชื่ออีกนะคนเรา สมแล้วที่โดนหลอกแล้วหลอกอีก” อ๋องพูดพลางส่ายหน้ ถึงเขาจะอายุน้อยกว่ากวาง แต่ด้วยความสนิททำให้หยอกล้อกันแรง ๆ ได้
“นังอ๋อง ระวังจะกลายเป็นว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองนะยะ แล้วอย่ามาร้องห่มร้องไห้ระบายกับฉันอีกล่ะ ฉันไม่รับฟัง ไม่ไปฉะให้แล้วนะ”
“แหม เจ้ก็...” อ๋องพูดไม่ออกเมื่อโดนสวน เขาทำเป็นค้อนแล้วเมินไปทางอื่น ก่อนสายตาจะปะทะกับเด็กหนุ่มหน้าใสในชุดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนสะอาดตา ทำเอาอ๋องชะงัก เด็กคนนั้นยิ้มให้เขาผ่านกระจกใสก่อนหันไปสนใจวิทยากรหน้ากระดาน
“ต๊ายเจ้! เจ้ดูเด็กคนนั้นสิ น่ารักเป็นบ้าเลย น่ารักน่าเอาที่สุด สเปกอ๋องเลย” อ๋องพูดแบบไม่เก็บอาการ ทำให้กวางรีบยื่นหน้าไปมอง
“ไหน ๆ คนไหน ขอฉันดูหน่อย” กวางรีบถาม เพราะสเปกของรุ่นน้องเป็นสเปกเดียวกับเธอ ถ้าเข้าตาอ๋อง แสดงว่าเข้าตาเธอด้วย ทั้งสองจึงเป็นเหมือนคู่หู เวลาไปเที่ยวประจำปีจึงมักจับคู่กันส่องหาแต่ผู้ชายหล่อ
“เด็กใหม่ในห้องอบรมน่ะเจ้ หน้าใสมาก ผิวขาวสะอาด ร่างสูงโปร่ง สเปกเลยเจ้” อ๋องบรรยาย กวางเพ่งมองและไม่ต้องถามซ้ำว่าคนไหน เธอก็รู้ทันที เพราะมีอยู่คนเดียวที่หล่อสะดุดตา
“ฉันจอง ใครห้ามยุ่งเด็ดขาด โดยเฉพาะแก นังอ๋อง นั่นเด็กของฉัน” กวางประกาศแล้วมองเพื่อนรุ่นน้องตาขวาง แสดงอาการหวงเต็มที่
“เจ้...” อ๋องลากเสียงแล้วหัวเราะ “ยังไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันเลย จะมาจงมาจองอะไร คนนี้อ๋องเห็นก่อน ต้องเป็นของอ๋องสิเจ้”
“ไม่ได้ เขาไม่สนใจแกหรอก หล่อ ๆ แบบนี้ ต้องคู่กับคนสวย ๆ อย่างฉัน”
“เจ้ไม่รู้เหรอว่าผีย่อมเห็นผี เขาไม่สนใจเจ้หรอก เชื่อดิ”
“ไม่ เขาไม่เป็นแบบนั้นหรอก” กวางบอก ขณะที่อ๋องกลอกตา
“หน้าตาดีจริง ๆ ด้วย เขาจะอยู่แผนกไหนนะ ท่าทางเรียบร้อยแบบนี้ อยากให้มาทำแผนกบัญชีจัง หน้าตาแบบนี้ต้องทำงานเรียบร้อยแน่ ๆ” พนักงานฝ่ายบัญชีตั้งความหวัง
“หน้าตาแบบนี้ต้องอยู่แผนกประชาสัมพันธ์สิ รับรองว่าลูกค้ามาติดต่อไม่ขาดแน่ ๆ” อีกคนออกความเห็น แต่ละคนไม่ยอมไปทำงานของตน เอาแต่มานั่งลุ้นเด็กใหม่ที่อยู่ในห้องประชุม
“ผิดหมด เด็กคนนั้นต้องอยู่แผนกการตลาด เพราะเขาคือเนื้อคู่ของฉัน” กวางทำเสียงมั่นใจ หลายคนกลอกตาแต่ไม่มีใครกล้าขัดเพราะเธออาวุโสที่สุดในกลุ่ม บางคนกล้าหน่อยก็ทำเป็นถอนหายใจให้เธอได้ยิน
“พนันกันมั้ยล่ะ ถ้าเด็กคนนั้นอยู่การตลาดจริง ๆ เอามาให้ฉันคนละพันเลย”
“ไม่!” หลายเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพรียง
“ถ้าเด็กคนนั้นอยู่แผนกเดียวกับเจ้จริง หนูขอให้เขาได้แฟนเป็นคนในแผนกนั้นแล้วกันนะเจ้” รุ่นน้องที่ทำงานในแผนกประชาสัมพันธ์บอก
“ดี ๆ ถ้าอยู่การตลาดจริง แสดงว่าเขาต้องเป็นเนื้อคู่ของฉันแน่ ๆ”
“เขาเป็นเนื้อคู่ของอ๋องต่างหาก”
“ไม่มีทาง เมื่ออาทิตย์ก่อนฉันเพิ่งไปดูดวงมา เขาบอกว่าฉันจะมีความรักกับคนที่อายุน้อยกว่า และเขาคนนั้นจะเป็นคู่แท้ของฉันด้วย ฉันว่าต้องเป็นเด็กคนนี้แน่”
“เมื่อเดือนก่อนเจ้บอกว่าเนื้อคู่เป็นคนสูงอายุมีฐานะไม่ใช่เหรอ” คนหนึ่งทัก ทำเอากวางตาขวางเมื่อโดนขัด
“ทำไมยะ ไม่เชื่อฉันหรือไง” เธอทำเสียงสูงข่ม
“เปล่าจ้า ยังไงหนูขอแสดงความยินดีกับเจ้ล่วงหน้าเลยนะ” รุ่นน้องบอกก่อนเดินเลี่ยงไปทำงานเพราะอู้มานานแล้ว ขณะที่คนอื่น ๆ ก็เริ่มสลายตัวเช่นกัน
......................................................
ก่อนเที่ยงเล็กน้อย เด็กใหม่จำนวนห้าคนก็ถูกส่งเข้าแผนกที่ตนจะต้องทำงาน หนุ่มน้อยหน้าใสที่หลายคนหมายปองได้อยู่แผนกการตลาดสมใจเจ้กวางและอ๋องที่ลุ้นกันตัวโก่งจนแทบไม่ทำงานทำการ
“ผมราเชนทร์ครับหรือจะเรียกว่าเชนก็ได้ เพิ่งจบปริญญาตรีมาครับ ทำงานที่นี่เป็นที่แรก ยังไงฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” เด็กหนุ่มหน้าอ่อนผู้มีรอยยิ้มสดใสแนะนำตัวแล้วค้อมศีรษะให้กับรุ่นพี่
“พี่ยินดีรับทั้งตัวและหัวใจของเชนจ้ะ พี่ชื่อกวางนะจ๊ะ เป็นหัวหน้าทีมในส่วนส่งเสริมการตลาดจ้ะ มีอะไรถามพี่ได้หมดเลยนะ พี่บอกเชนได้หมดทุกเรื่อง” กวางแนะนำตัว
“พี่ชื่ออ๋อง เป็นผู้ช่วยเจ้กวาง เชนจะถามจากพี่ก็ได้ พี่คุยรู้เรื่องมากกว่าเจ้กวาง” อ๋องสกัดรุ่นพี่เต็มที่
“พี่ชื่อหนุ่มมีอะไรก็ถามจากพี่ได้”
“พี่ชื่อแพตค่ะ เพิ่งเข้ามาทำงานเมื่อปีที่แล้ว เราน่าจะรุ่น ๆ เดียวกัน” อีกคนแนะนำบ้าง เชนยิ้มให้ทุกคน
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“เราเพิ่งจะเจอกันครั้งแรก ยังไม่ต้องทำงานก่อนก็ได้นะ เพราะนี่ก็จะเที่ยงแล้ว เชนแนะนำตัวให้พวกพี่ ๆ รู้จักหน่อยสิจ๊ะ เช่นว่า ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มีไลฟ์สไตล์แบบไหน พี่จะได้รู้ว่าเราจะเข้ากันได้หรือเปล่า”
“เจ้...” อ๋องลากเสียงยาว
“พี่หมายถึงว่าพวกเราต้องทำงานด้วยกัน การรู้ว่าอีกคนชอบหรือไม่ชอบอะไรก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอ และอ๋อง อย่าเรียกพี่ว่าเจ้ได้ไหม มันฟังดูสูงวัยยังไงไม่รู้ เรียกพี่ดีกว่านะ” กวางบอกเสียงหวานอ่อนโยนฟังดูเป็นมิตร แต่แอบถลึงตาใส่รุ่นน้องที่บังอาจเรียกเธอซะแก่แบบนั้น
“ได้ครับพี่กวาง” อ๋องยอมอย่างว่าง่าย เพราะเมื่อใดที่เจ้พูดเพราะแสดงว่าเจ้กำลังอารมณ์ไม่ดี
“ดีมากจ้ะ เอาละ เชนแนะนำตัวได้เลยจ้ะ ชอบกินอะไร ชอบสีอะไร ไม่ชอบอะไร ชอบคนแบบไหน ผู้หญิงในสเปกเป็นยังไง ต้องผมประบ่าหรือเปล่า หรือว่าต้องทำผมสีน้ำตาลประกายทองไหม แล้วชอบผู้หญิงใส่เครื่องประดับหรือเปล่า อย่างพวกแหวนหรือกำไลอะไรพวกนั้นน่ะ” กวางพูดพลางกวัดแกว่งแขนไปมาเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นแหวนและกำไลข้อมือวงใหญ่หลายวงเกือบเต็มแขนของตัวเอง ขณะที่เพื่อนร่วมแผนกต่างพากันกลอกตา ส่วนเด็กหนุ่มน้องใหม่เอาแต่ยิ้ม
“ผมชอบหมดครับ ขอให้ดูดีก็พอ แต่ผมไม่ชอบคนเยอะครับ ผมว่ามันดูวุ่นวาย”
“แล้วนิสัยล่ะ เชนชอบคนนิสัยยังไง” กวางถามแล้วค่อย ๆ ปลดกำไลข้อมือออกจากแขนให้เหลือแค่หนึ่งวง อ๋องแอบหัวเราะ ทำให้รุ่นพี่ต้องแอบถลึงตาใส่
“ผมชอบคนง่าย ๆ อยู่ใกล้แล้วสบายใจครับ เรื่องหน้าตาผมเฉย ๆ”
“แหม ดีจัง พี่ก็เป็นคนง่าย ๆ ไม่ถือตัว สบาย ๆ จ้ะ”
“นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว เราไปกินข้าวดีกว่าเนอะ เดี๋ยวให้พี่กวางเลี้ยงรับน้อง แล้วช่วงบ่าย เชนค่อยมาเรียนรู้งานนะ” อ๋องเสนอ เพื่อนอีกสองคนเฮแล้วรีบออกไปรอนอกห้อง เชนยิ้มแล้วเดินตามแพตกับหนุ่มออกไป กวางรีบเข้ามาประชิดอ๋อง
“ตีเนียนเลยนะหล่อน ขอบอกไว้ก่อนว่าฉันเลี้ยงน้องเชนคนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว”
“แหมเจ้ คิดจะทุ่มแล้วก็ต้องให้สุด ๆ ไปเลยสิ แบบนี้มันไม่ใจเลยนะรู้ป่ะ ระวังน้องเขาจะหาว่าเจ้ใจป๊อดนะ”
“งั้นเหรอ” กวางเริ่มคล้อยตาม
“คิดจะเอาใจเด็กมันต้องทุ่มทุนนะเจ้ หรือคิดอีกที เจ้ไม่ต้องทุ่มทุนก็ได้นะ เพราะถึงยังไง เจ้ก็ต้องกินแห้วอยู่แล้วล่ะ” อ๋องพูดยิ้ม ๆ
“แต่ดวงฉันจะได้กินเด็กนะแก” กวางบอก
“อ๋องบอกเจ้แล้วไงว่าผีย่อมเห็นผี น้องเขาไม่ชอบผู้หญิงหรอก” อ๋องกระซิบ
“บ้า แกอย่ามารู้ดีหน่อยเลย คนก่อนก็มั่นใจว่าเห็นผีแน่นอน แล้วเป็นไงล่ะ เขาแทบจะยกพวกมารุมจนเกือบได้ไปเห็นผีในยมโลกแล้ว” กวางย้อนควาหลัง
“อย่าไปพูดถึงเรื่องเก่าสิเจ้ บางทีเรด้ามันก็มีผิดพลาดกันบ้าง ขนาดผลจากดาวเทียมยังเชื่อถือไม่ค่อยได้เลย แต่คราวนี้อ๋องมั่นใจนะ อ๋องอ่านสายตาของเขาออก เมื่อกี้เจ้เห็นป่าว เขาหันมายิ้มให้อ๋องด้วย”
“มั่วนิ่ม เขาก็ยิ้มให้ทุกคนนั่นแหละ เด็กใหม่นิสัยดีก็งี้ ยิ้มแย้มเป็นมิตรกับทุกคน แกอย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย”
“เจ้ก็หลงตัวเองไม่แพ้คนอื่นหรอก”
“นี่...มื้อนี้อยากจ่ายเองใช่ไหม”
“โอเค ๆ ยกนี้เจ้ชนะ” อ๋องยอมแล้วรีบเดินออกจากห้องทำงาน
.............................................................
ร้านสุกี้ในคอมมูนิตี้มอลล์หรือที่เรียกในภาษาชาวบ้านว่าห้างขนาดเล็กแถวที่ทำงานคือร้านที่กวางเลือกสำหรับมื้อเที่ยงในวันนี้ รุ่นน้องของเธอแต่ละคนสั่งกันแบบจัดเต็มเพราะนาน ๆ กวางจะเป็นคนออกปากเลี้ยงสักที หญิงสาวค้อนอ๋องตาคว่ำ เหตุเพราะเป็นตัวตั้งตัวตี แต่เมื่อเทียบกับการได้นั่งใกล้ ๆ เด็กใหม่ เธอก็ถือว่าคุ้มค่า แถมเชนยังตักนู่นตักนี่ให้เธอกินแบบไม่ขาดอีกด้วย
“แหม น่ารักจังเลย ขอบใจเชนมากเลยนะ”
“ไม่เป็นไรครับ จะกินอะไรอีกไหมครับ เดี๋ยวผมตักให้”
“พี่กวางเขาชอบกินตับจ้ะ โดยเฉพาะตับอ่อน ๆ เขาชอบกินมาก” อ๋องบอกแล้วหัวเราะคิกคัก ขณะที่กวางยิ้มเอียงอาย
“ใช่ พี่ชอบกินตับอ่อน เชนลวกให้พี่หน่อยสิ”
เด็กหนุ่มทำตามอย่างว่าง่าย ปากก็ถามคนอื่นไปด้วย “พี่หนุ่มกับพี่แพตล่ะครับ ชอบกินอะไร”
“พี่ชอบกินผักบุ้งค่ะ” แพตตอบ
“พี่ชอบลูกชิ้นกับเกี๊ยวปลา”
เชนจัดแจงใส่ทั้งสองรายการลงไป กวางยิ้มแล้วมองอ๋องแบบชนะนิด ๆ ก่อนหุบยิ้มเมื่อเชนเอ่ยว่า “ส่วนพี่อ๋องชอบหมูสไลด์ใช่ไหมครับ เมื่อกี้ผมเห็นพี่กินคนเดียวสองถาดเลย”
“อุ๊ย เห็นด้วยเหรอ นั่งมองพี่อยู่ใช่ไหมเนี่ย” อ๋องถามเขิน ๆ ...บ้าจัง นั่งมองก็ไม่บอก เขากินไปตั้งเยอะ ไม่รู้เชนจะคิดว่าเขาตะกละหรือเปล่า
“เชนเขานั่งตรงข้ามเธอ ก็ต้องเห็นอยู่แล้ว ใช่ไหมจ้ะเชน” กวางถามเสียงอ่อนเสียหวาน เชนยิ้มแล้วคีบหมูสไลด์ลวกในหม้อ เมื่อหมูเปลี่ยนเป็นสีซีด เขาก็วางใส่จานให้อ๋อง
“ขอบใจนะ น่ารักช่างเอาใจจริง ๆ เด็กคนนี้” อ๋องชม ทำเอาเชนยิ้มกว้าง ดวงตาของเขาเป็นประกายจนหนุ่มและแพตสังเกตเห็น สองหนุ่มสาวหลบมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม ขณะที่กวางก็เห็นแววตาของเชนที่มองอ๋อง และเห็นรุ่นน้องหนุ่มใจสาวส่งยิ้มมาให้แบบเหนือกว่านิด ๆ
“เชนเอาแต่ลวกให้คนอื่น พี่ไม่เห็นเชนตักให้ตัวเองบ้างเลย เชนชอบกินอะไร เดี๋ยวพี่ลวกให้”
“ผมชอบบัวลอยน้ำขิงครับ ส่วนอย่างอื่น ผมกินได้หมด ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ”
“งั้นเรารีบอิ่มกันดีกว่าไหม เชนจะได้สั่งบัวลอยมากิน เอ้า ๆ สั่งกันแค่นี้พอแล้วนะ รีบ ๆ เข้าจะได้สั่งขนมหวานแล้ว” กวางหันไปเร่งเพื่อน
“ไม่เป็นไรครับ พี่ ๆ กินกันได้ตามสบายเลย จริง ๆ ผมก็ยังไม่อิ่มเท่าไหร่เลย หมูสไลด์ของพี่อ๋องก็ยังไม่หมด”
“อิ่มหรือยังจ๊ะอ๋อง” กวางถามเสียงหวาน
“เริ่ม ๆ จะอิ่มแล้วครับ แพต หนุ่ม ช่วยหน่อยสิ” อ๋องหันไปขอร้องเพื่อน ก่อนเทหมูสไลด์รวดเดียวใส่หม้อ
“เดี๋ยวผมช่วยกินนะครับ” เชนอาสาอีกแรง
“พี่ตักให้เชนเองจ้ะ” ว่าแล้วกวางก็กุลีกุจีตักหมูใส่จานให้เชนพร้อมทั้งตักผักตักลูกชิ้นให้เขาด้วย
มื้อนี้จบลงด้วยความอิ่มแปล้ เชนยิ้มกว้างจนตาเป็นสระอิให้รุ่นพี่ใจดี ทำเอากวางถึงกับตัวลอยด้วยความเคลิบเคลิ้มกับรอยยิ้มแสนน่ารักของเด็กใหม่
เธอหลงเสน่ห์เด็กคนนี้เข้าเต็มเป้าแล้ว
และนอกจากกวาง อ๋องก็เป็นอีกคนที่โดนรอยยิ้มนั้นสะกดให้ยืนนิ่ง เขารักรอยยิ้มสดใสนั้นเหลือเกิน และอยากเป็นคนเดียวที่ได้รอยยิ้มแบบนั้นของเชน เห็นที่งานนี้ต้องแข่งกับอิเจ้หน่อยแล้ว
จากที่คิดว่าจะปล่อยให้กวางได้สมหวังในความรักบ้าง เพราะเจ้าหล่อนก็อายุพอสมควรแล้ว แถมยังออกหน้าออกตาว่าชอบเด็กคนนี้หนักหนา ทำให้เขาไม่อยากขัดคอ แต่ตอนนี้ อ๋องตั้งปณิธานแล้ว เขาขอลงแข่งในสนามรักแห่งนี้ เพื่อแย่งชิงหัวใจของหนุ่มน้อยหน้ามนมาครอง และเขา...ต้องเป็นผู้ชนะ
...
เพิ่งลงที่นี่ครั้งแรก ฝากติดตามด้วยนะคะ