ในชีวิตนี้คุณคิดว่าคุณจะเจอเรื่องไม่คาดฝันกี่ครั้ง?
และแต่ละครั้งคุณพร้อมจะเผชิญหน้ากับมันไหม ?
และคุณจะยอมรับมันได้หรือไม่?
ถ้าเปิดประตูเข้าไปและพบว่าแฟนที่คุณรักมากกำลังนอกใจ
จะทำเช่นไร ? เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณ...
ในห้องที่สงัดเงียบผมเปิดประตูเข้ามาแล้วพบกับชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งผมรู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีกำลังนอนหลับพริ้มกอดกันกลมเกรียวสภาพเปลือยเปล่าด้วยท่าทางมีความสุข
ภาพที่เห็นทำให้ผมยืนอึ้ง
ร่างกายและหัวใจอ่อนแรง
พาลทำให้ของฝากในมือดิ่งลงสู่พื้นและมันก็ดังพอที่จะทำให้ร่างของบุคคลหนึ่งรู้สึกตัวตื่น ผมสังเกตไปรอบห้อง สภาพเตียงยุ่งเหยิงราวกับผ่านค่ำคืนอันแสนเร่าร้อนมาหมาด ๆ สงสัยจะยังไม่ถึงสองชั่วโมงเสียด้วยซ้ำ ซองถุงยางหลายซองเกลื่อนกลาดบริเวณพื้น กายซึ่งดันลุกนั่งบนเตียงอย่างเชื่องช้าของชายที่ผมเรียกว่า ‘สามี’ ขยี้ตาก่อนจะเงยขึ้นมองผมอย่างงัวเงีย
ดูเหมือนเขาจะตกใจเมื่อเห็นผมยืนอยู่ ก่อนจะแสดงสีหน้าคล้ายกับว่าจะไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นจึงขยี้ตาทั้งสองอีกครั้ง
และนิ่งจ้องอยู่สักพัก ลดระดับสายตาลงก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกตรงบริเวณหน้าแขนอีกข้างของตัวเอง
“จะ..เจ็บ!”
เขาเอ่ยอย่างติดขัดพลางขยิบตาไปข้าง บริเวณที่หยิกเกิดเป็นรอยแดง คงจะลงแรงไปเยอะพอสมควร ใบหน้าซึ่งเงยขึ้นมองอีกรอบพร้อมเบิกตากว้าง
“ไม่ได้ฝันไปสินะ”
ถ้อยคำซึ่งเอ่ยมาเผยรอยยิ้มอย่างดีใจ ในระหว่างจับผ้าห่มที่คลุมอวัยวะตรงส่วนล่างของตนออก กายขยับมายังขอบเตียง เท้าแตะลงพื้น ก่อนจะกระเสือกกระสนวิ่งมาหาผมทุลักทุเล ขาไขว้โซเซจนแทบจะล้มเสียให้ได้ คราบสีขาวขุ่นซึ่งยังคงติดอยู่ตรงบริเวณนั้น รอยจ้ำสีแดงฉานเป็นสิบจุดตามร่างกาย
สิ่งที่เห็นทำให้ผมเกือบจะสกัดกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่รักและเชื่อใจจะมาทรยศกัน
ความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามา แม้ผมจะเคยทำใจกับเรื่องนี้ไว้หลายครั้ง สักวันจะต้องเกิดขึ้น เตรียมตัวต้อนรับความระทมและคิดว่าตัวเองจะรับไหว แต่พอเอาเข้าจริงมันแทบจะทำไม่ได้ สาหัสกว่าที่ผมจินตนาการไว้มาก เสือยังไงก็คือเสือคงไม่มีทางทิ้งลายตัวเอง ผมรู้เรื่องนั้นดี แต่พอนานวัน นานปี การกระทำที่แสดงเหมือนความรักผมเพียงคนเดียว ทำให้ผมไว้ใจเขาไปจนหมดสิ้น สุดท้ายก็ลงเอยแบบนี้ แต่คงจะโทษใครไม่ได้
อาจเพราะผมเชื่อใจเขามาก..
มาก..
มากจนเกินไป
มากจนมันย้อนกลับมาทำร้าย
ตัวผมเอง
เร่งทำงานหนักที่ต่างจังหวัดแบบหามรุ่งหามค่ำแทบจะไม่ได้หลับได้นอน เพื่อเขา เพื่อจะได้กลับมาหาเขาอย่างเร็วไว เพื่อคนที่โทรมาคร่ำครวญว่าเหงาสุดหัวใจอยู่ทุกเวลาเช้าบ่ายสายเย็น อยากจะเซอร์ไพรส์จึงไม่ได้บอกล่วงหน้า
แต่พอกลับมาถึงห้องกับเจอเรื่องที่เซอร์ไพรส์ยิ่งกว่า
กายของเขาที่ยิ่งเข้าใกล้มากขึ้น
ยิ่งได้กลิ่นเหล้าฉุนกึกโชยมา
ไหนว่าเลิกแล้ว ไหนว่าสัญญาแล้ว ถึงจะเสียใจ
แต่ความจริงไอ้เรื่องผิดสัญญาก็ไม่ได้สลักสำคัญเท่าไหร่
เพราะผมยังสามารถให้อภัยได้
เมื่อเทียบกับไอ้เรื่องนอกใจ
ที่ผมไม่มีทางให้อภัยแน่นอน!!!!!!
ฝีเท้าซึ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้า แขนแกร่งรวบร่างผมไปซุกไว้ในอ้อมอก กระชับแน่นสัมผัสถึงความรู้สึกอันโหยหา
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ จะกลับมาก็น่าจะบอกผมก่อน ผมจะได้จัดงานฉลอง ทำกับข้าวที่คุณชอบเตรียมไว้ให้”
เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงระรื่นราวกับคนไม่รู้สึกตัว ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ตนทำลงไป และพื้นเพนิสัยผม ต่อให้อารมณ์โกรธจะมีมากสักเท่าไหร่ ผมก็จะสะกดไว้ไม่ให้ปะทุ
“กลับมาเซอร์ไพรส์คุณไง ”
ผมตอบพลางแสร้งยิ้ม แม้ในใจอยากจะหลั่งน้ำตายังไง เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาผมจะพยายามบังคับร่างกายสุดกำลังเพื่อไม่ให้มันไหลออกมา
“ตกใจไหม”
ผมถามอย่างไม่รอให้เขากล่าวตอบกลับอะไร
“ตกใจสิ ตกใจมากดีใจจนแทบร้องไห้อยู่แล้วเนี่ย ความจริงกว่าคุณจะกลับก็ตั้งเดือนหน้า แต่ผ่านไปอาทิตย์เดียวก็ได้กอดแล้วแบบนี้ ไม่เคยคาดฝันเอาไว้เลย เชื่อไหมหากนานกว่านี้ผมคงจะเหงาตายเพราะขาดคุณแน่”
โกหกคำโต ทั้งที่หลักฐานคาตาทนโท่ ใครมันจะไปเชื่อ มีผู้หญิงนอนคาเตียง ‘ของเรา’ แบบนั้นยังจะเหงาได้อีกเหรอ
“บ้า ไปอาบน้ำได้แล้ว ตัวคุณมัน ‘สกปรก’ มากรู้ตัวไหม”
ผมเอ่ยอย่างเรียบ เน้นคำว่าสกปรกนิดหน่อย จะพูดคุยอย่างปกติเพื่อให้เขาตายใจ
“งั้นเหรอ”
แกล้งว่าเป็นพ่อพระอย่างให้อภัย
“ใช่น่ะสิ เหม็นกลิ่นเหล้าหึ่งเลย”
เพื่อเขาจะได้ไม่รู้ตัวว่าในความรู้สึกที่แท้จริง
“ข ขอโทษที่ผิดสัญญา”
ถ้อยคำจากน้ำเสียงรู้สึกผิด ต่อให้เขาเป็นตายร้ายดีเช่นไร ผมก็ยังต้องการจะทิ้งเขาอย่างไม่ลังเล!
“ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ ไปอาบน้ำได้แล้ว”
เหตุผลก็ไม่ต่างอะไรกับคำแก้ตัว
“จริงนะ”
ยิ่งฟังไป ก็ยิ่งทำให้ผมใจอ่อน เพราะรู้ว่าเป็นเช่นผมจึงเลือกจะไม่ฟัง
“จริง..ผมไม่โกรธหรอก”
จะพูดให้ถูกคือผมไม่โกรธเรื่องนี้ แต่ไปโกรธเรื่องนอกใจมากกว่า
“ปลุกผู้หญิงบนเตียงไปอาบน้ำแล้วพาเธอไปส่งบ้านด้วย...”
ผมยังคงเอ่ยเสียงเรียบ เหมือนไม่รู้สึกรู้สา ทั้งที่ในใจมีแต่ความบอบช้ำ กายแกร่งสะดุ้งเฮือก
“ด เดี๋ยวคุณพูดเรื่องอะไร”
ผมลอบถอนหายใจ
“ก็พูดในสิ่งที่ผมเห็น”
พลางตอบอย่างเหนื่อยหน่าย ต่อให้ทำเป็นไม่รู้เรื่องก็ใช่ว่าจะทำให้ความผิดลดลง เขาผละร่างผมออกจากอ้อมแขนพร้อมหันหลังกลับไปมองยังเตียงโดยพลัน พบทรวดทรงอันเซ็กซี่ของนางแบบชื่อดังที่เขาร่วมงานเมื่อไม่นานมานี้นอนตะแคงพริ้มหลับโดยมีผ้าห่มปิดไว้เพียงช่วงขาด้วยใบหน้าล้าอย่างเปรมสุข เมื่อเห็นสิ่งตรงหน้า เป็นดั่งที่ผมพูดเขาก้มมองสำรวจร่างกายตัวเอง ก่อนจะวกกลับมามองผมอีกครั้ง
ผมหวังว่าตัวผมจะยังคงรักษาความนิ่งได้อยู่
“เอ่อ....”
นัยน์ตาที่ก่อนหน้าแสดงออกอย่างดีใจ หมองลงอย่างเห็นเด่นชัด สัญชาตญาณร้องเรียก ว่าอย่าเปิดโอกาสให้เขาพูดอะไรไปมากกว่านี้
“ไปอาบน้ำสิ” ผมจึงเอ่ยไล่
“แต่ฟังผมก่อนได้ไหม เมื่อคืน คือผม คือผม...”
ไม่อยากจะฟังอะไรทั้งนั้น คุณจะปฏิเสธหลักฐานที่เป็นคราบอสุจิบนกายของคุณใช่ไหม คุณจะปฏิเสธหรือยังไงว่าไอ้ซองถุงยางที่ฉีกแล้ว คุณไม่ได้ใช้มัน คุณจะปฏิเสธเหรอว่าไอ้รอยแดงบนตัว ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ทำ อย่ามาพูดในขำไปหน่อยเลย เพราะในเมื่อความจริงมันก็เผยให้เห็นจนมัดตัวแน่นขนาดนี้ แก้ตัวไปก็ไม่มีประโยชน์ แถมมันจะทำให้ทุกสิ่งยิ่งเลวร้ายลงกว่าเดิม
“ไปอาบน้ำ”
ผมเอ่ยสั่งเสียงแข็ง เมื่อเขายังนิ่งอยู่นาน โดยไม่พูดต่อหรือขยับกายไปไหนสักที
“ต แต่...”
จะอะไรอีก คุณกำลังจะทำให้สิ่งที่ผมพยายามยับยั้งไว้ระเบิดออกรู้ตัวไหม
“ไม่มีตงมีแต่อะไรทั้งนั้น บอกให้ไปอาบน้ำก็คืออาบน้ำ ไม่เข้าใจภาษาคนหรือไง แต่โทษทีบังเอิญว่าผมพูดภาษา ‘สัตว์’ ส่ำส่อนไม่เป็น”
ให้ตายสิดันหลุดปากเสียได้ ทั้งที่พยายามยับยั้งแล้วสงสัยจะยังไม่พอ เขาตะลึงในสิ่งที่ผมเพิ่งเอ่ยออกไปแววตาสื่อถึงความเสียใจอย่างลึกซึ้ง มือสั่นระริกเอื้อมมาจับต้นแขนทั้งสองของผม ก่อนศีรษะที่โน้มลงมาตรงบ่า
“อึก..”
เสียงสูดน้ำมูกอันแผ่วเบาที่ผมได้ยิน และความรู้สึกเปียกแฉะ ก่อนแขนแกร่งจะรวบร่างผมไปกอดไว้อีกรอบ แน่นจนอึดอัดราวกับจะเป็นครั้งสุดท้าย ความอบอุ่นของอุณหภูมิร่างกายคนตรงหน้า เคยนะ เคยทำให้ผมรู้สึกร้อนจนเหมือนโดนไฟลวกไปทั่วร่าง แต่วันนี้กลับเย็นชืดไม่ต่างอะไรกับถูกกอดจากน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือ
“อึก ให้... ฮือ ให้อภัยผมได้ไหม”
ถ้อยคำซึ่งเอ่ยปนสะอื้น เป็นคำถามที่โคตรโง่ โง่บรม จนหาคำบรรยายอื่นมาไม่ได้
ข้อตกลงก่อนเราจะคบกันคืออะไร หากทำผิด คุณคิดว่าผมควรจะให้อภัยคุณไหม ถามจริงคุณคิดว่าผมจะให้อภัยคุณเหรอ ไม่ใช่ว่าผมไม่รักคุณ กลับกันเพราะผมรักคุณมาก มากเสียจนตัวเองยังตกใจ เพราะไม่เคยคิดว่าจะรักใครได้ขนาดนี้ แต่คุณกับมอบความรู้สึกอันเจ็บปวดยากที่จะลืมมาให้
ก็เพราะว่าผมรักคุณมาก มากจนกลัวจึงไม่กล้าเสี่ยงกับอนาคตข้างหน้า หากให้อภัยไปแล้ว ไม่มีอะไรเป็นสิ่งยืนยันได้เลยว่าคุณจะไม่นอกใจผมอีก
สัญญาเสียดิบดี คุณยังทำลายมันได้
นับภาษาอะไรกับอย่างอื่นล่ะ คุณคิดว่าผมควรจะเชื่ออะไรในตัวคุณอีกไหม ?
“ไปอาบน้ำ” ผมย้ำคำเดิม
“ก่อนที่ผมจะโกรธไปมากกว่านี้” กล่าวอย่างเด็ดขาด
“ปลุกหล่อนไปด้วย ผมอยากอยู่คนเดียว” ด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ไร้สิ้นเยื่อใย เขาคงจะรู้ตัวว่าผมพูดถึงขนาดนี้แล้ว จุดหมายปลายทางความสัมพันธ์ระหว่างเราจะเป็นยังไง จะลงเอยแบบไหน ต่อให้จากกันไป ผมไม่รู้เลยว่าจะสามารถได้คนอื่นได้อีกหรือเปล่า เพราะผมให้ไปหมดแล้ว ผมมอบให้เขาไปหมดแล้ว ทุกอย่างที่เป็นครั้งแรกของผม เดทแรก แฟนคนแรก กอดแรก จูบแรก ความสัมพันธ์แรก
ทั้งชีวิต ทั้งหัวใจ ทั้งลมหายใจ เส้นผมจรดปลายเล็บเท้าไม่มีอะไรเป็นของตัวผมเองสักอย่าง ผมเป็นของเขาทั้งหมด...
จะขอคืนตอนนี้ก็ไม่ทัน
สิบปีที่คบกันมา จะขอคืนตอนนี้ก็คงจะ..
สายเกินไป..
เขายังคงนิ่ง กอดอยู่อย่างนั้น ไม่รู้จะนิ่งหาพระแสงอะไร ไม่รู้หรือยังไงว่าตัวตนของเขาในตอนนี้ ไม่ต่างอะไรกับสิ่งน่าสะอิดสะเอียน ร่างกายที่เพิ่งจะไปมีความเพศสัมพันธ์กับคนอื่นที่ไม่ใช่ผม
ทั้งที่เขาเป็นของผม
เราเป็นของกันและกัน
ทั้งที่ตัวเองมีเจ้าของ ก็ยังจะทำแบบนั้น กายอันโสโครกสัมผัสถูกผิวหนังนิดหน่อยก็คลื่นไส้ แต่นี่เล่นกอดอยู่ตั้งนานสองนาน แทบจะอาเจียน
รู้สึกขยะแขยงเต็มทน
“ปล่อย” ผมเอ่ยพลางใช้มือทั้งสองดันตัวเขาให้ออกห่าง
“....” ไร้เสียงตอบรับ แถมดื้อด้าน ยิ่งดันออก ยิ่งกระชับแน่น
“ปล่อยสิ” ผมก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน พยายามดันกายออกอีกครั้ง
“ไม่.. ผมไม่ปล่อย อึก ถ ถ้าปล่อยคุณไปในตอนนี้ คุณต้องทิ้งผมแน่”
รู้ตัวก็ดี คุณคิดว่าผมเก็บไอ้ตัวโสโครกที่ไม่ซื่อสัตย์ไว้ข้างกายอีกอย่างนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก แม้แต่หน้าเขาในเวลานี้ ผมยังไม่อยากจะมอง
“ข ขอร้อง ผมขอร้อง อย่าทิ้งผมไปเลยนะ”
กล่าวพลางกระชับแน่น แน่นจนผมอึดอัด หายใจไม่ออก ผมเลือกที่จะเงียบโดยไม่ตอบอะไร
“จะให้ผมทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ฮือ.. จะก้มกราบ หรืออะไรก็ได้ ผมยอม ยอมทุกอย่าง”
ไม่จำเป็น ต่อให้ทำอะไรความรู้สึกที่มีของผมไม่มีทางที่จะกลับมาเหมือนเดิม ผมไม่ตอบ ผมไม่อยากจะเสวนาอะไรกับเขา
“ขอร้อง ได้โปรด ได้โปรด อึก ได้โปรด ผมรัก...รักคุณเพียงคนเดียว คุณคือชีวิตของผม คุณคือโลกของผม ไม่มีคุณผมจะอยู่ยังไง”
รักผม... แต่นอกใจผม
ผมคือชีวิต...แต่คุณกำลังทำร้ายชีวิตของตัวเอง
ผมคือโลก.. แต่ดันไม่ซื่อสัตย์กับโลกที่คุณใช้พักพิง
ผมควรจะสงสารคุณไหม รักผมเพียงคนเดียว
แล้วทำไม ? คุณ! ถึง! เอา! ผู้! หญิง! คน! นั้น! เข้า! มา! แทรก! กลาง!!!!!
คำว่ารักของคุณมันเบาเสียยิ่งกว่าปุยนุ่น!! จะให้ผมเชื่อได้ยังไง!!!
ไม่มีผม คุณก็ย้อนกลับไปใช้ชีวิตเสเพล ส่ำสอนเมื่อตอนอายุสิบแปดที่คุณเคยเป็นมาไง ไม่เห็นจะยาก ผมก็จะกลับไปใช้ชีวิตของผม..
ชีวิตอันแสนจืดชืดเมื่อไม่มีคุณ
แค่นั้น..
“ร ริน... ผมขอร้อง..”
อย่ามาเรียกชื่อผม มันเป็นเสนียด
“ขอร้อง ช่วยพูดกับผมหน่อย”
อยากจะให้ผมพูดอะไร หวังว่าผมจะพูดให้อภัยอย่างนั้นเหรอ ฮึ คุณฝันอยู่หรือไง คุณจะเป็นจะตายผมก็ไม่พูดเด็ดขาด แต่อยากให้พูดนักใช่ไหม เดี๋ยวผมจัดให้
“ปล่อย ผมรังเกียจ คุณมันสกปรก ขยะแขยง”
ผมเอ่ยคำเป็นชุด เป็นประโยคที่ไม่ประติดประต่อด้วยน้ำเสียงเฉยชามาจากความรู้สักอันแท้จริง พริบตาเดียว วงแขนเริ่มคลายออกอย่างช้าเนิบ หากจะยอมง่ายดายแบบนี้ ผมน่าจะพูดมันไปตั้งแต่ทีแรก ผมเหล่ตามองไปยังผู้หญิงคนนั้นก่อนจะวกกลับมาที่เดิม ผมว่าเราก็ค่อนข้างคุณกันเสียงดังพอควร แต่เธอก็ยังไม่รู้สึกตัวตื่น ผมชักเริ่มสงสัยแล้วสิว่าหล่อนหลับหรือแกล้งซ้อมตายกันแน่
อีผนังห้อง ใช้ปูนซีเมนโบกหน้าแทนเครื่องสำอางเหรอ มันถึงได้หนาขนาดนี้
เราเป็นคู่รักซึ่งแต่งงานกันและเป็นที่รู้จัก ไม่มีทางที่หล่อนจะไม่รู้ คนในวงการแบบหล่อน เป็นไปไม่ได้ หากคิดในแง่ดี สมมุติว่าหล่อนไม่รู้จริง ๆ แต่แหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายก็ชัดแจ้ง เห็นก็น่าจะทราบนะครับว่ามี ‘เจ้าของ’ เคยแหกตาดูบ้างไหม ?
คันนักใช้คารามายยัดทาแก้คันไปสิ คงจะขาดแคลนผู้ชายมากถึงต้องมาแย่งสามีคนอื่น งั้นก็ไปเป็นโสเภณีซะ จะได้ไม่ขาดไม่แคลน อีดอกหน้าวัว พี่เคยสอนไว้ว่าอย่าด่าใคร หรือหากด่าก็อย่าใช้คำหยาบคาย นี่ผมไม่ได้ด่านะฮะพี่ ผมชมว่าเขาเป็นอีดอกหน้าวัวเท่านั้น
“ถ ถ้าผมอาบน้ำ ผมจะไม่...ส สกปรก ใช่ไหมครับ”
ในที่สุดอ้อมแขนที่เคยโอบรัดตัวผมได้ถอนออกอย่างหมดสิ้น เขาเลื่อนใช้มือทั้งสองของตนกุมมือผมไว้อย่างหลวม ๆ ถามออกมาแบบนี้สมองที่เคยได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เสื่อมสภาพไปแล้วหรือครับที่รัก ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงจุดนั้น ความสกปรกของคุณที่ผมพูดถึงไม่ใช่ร่างกาย
ฮึ..แต่ถ้ามันจะทำออกห่างจากตัวผมในเวลานี้ได้ เออ ออ สักหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไร
“ใช่”
ได้ยินเช่นนั้นเขากระตุกยิ้มฝืน
“ผมจะไป อึก.. ผมจะไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้”
ครับ....เชิญตามสบาย
“อืม ไปสิ อย่างลืมเอาผู้หญิงไปด้วย”
ตอนนี้ความอดทนก็แทบจะถึงขีดสุดเหมือนกัน หลายสิ่งอย่างอดกลั้นแทบไม่ไหว ช่วยไปให้เร็ว ๆ ทีเถอะ
“ได้ครับ อะไรที่รินต้องการ ไม่ว่าสิ่งใดผมก็จะทำให้”
สิ้นคำ เขาทรุดร่างลงยืนเข่า ก่อนจะโน้มศีรษะของตนเชื่องช้า แก้มซึ่งแนบถูไถบนหลังมือของผม หยดน้ำตาซึ่งล่วงหล่นกระทบผิวหนัง มันอุ่นจนเกือบจะทลายความโกรธของผมไปได้ เป็นครั้งที่สองที่ผมเห็นเขาหลั่งน้ำตาแบบนี้ และครั้งแรกที่เห็นก็เป็นวันที่เขาขอผมเป็นแฟน
เป็นวันที่เขาสัญญาว่าจะเลิกสิ่งมึนเมาทั้งหมด
เป็นวันที่ให้คำสัตย์ว่าจะเลิกเจ้าชู้
เป็นวันที่เขาให้ข้อตกลงกับผมไว้
เขาก็รักษาคำพูดตัวเองมาอย่างโดยตลอดในระยะสิบปีที่ผ่านมา แต่คงเป็นเพราะเราอยู่ด้วยกันแทบจะทุกเวลาเขาจึงไม่นอกลู่ นอกทาง แต่พอเราห่างกันแค่อาทิตย์เดียว สันดานเก่าดันออก ทั้งที่รู้ว่านอกใจผมจะเป็นยังไง
ทั้งที่รู้ แต่ก็ยังทำ
นี่คุณ...ไม่เสียดายเวลาที่คบกันสิบปีเลยใช่ไหม
ถึงทำลายมันลงด้วยความไม่รู้จักพอของตัวเอง
ริมฝีปากชื้นซึ่งแนบลงบนหลังมืออย่างอ่อนละมุน ดึงสติผมกลับมา
ปากที่จูบใครมานักต่อนัก ปากที่จูบผู้หญิงคนนั้น พอนึกถึงมันยิ่งทำให้ผมอยากจะ ‘อ้วก’
“ไปอาบน้ำได้แล้ว”
ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงซึ่งเหมือนจะหายโกรธ เพื่อให้เขาไม่เอะใจ ในสิ่งที่ผมคิดจะทำหลังจากที่เขาจะเข้าไปยังห้องพร้อมผู้หญิงคนนั้น
“ครับ.. ช่วยรอจนกว่าผมจะออกมาได้ไหม ผมมีเรื่องจะอธิบายให้คุณฟัง”
เขาเอ่ยในระหว่างผละริมฝีปากออกพลางเงยหน้าขึ้นมามองผม ฮึ! จะสรรหาคำโกหกมาเป่าหูผมล่ะสิ
“ไม่ไปไหนหรอกน่า นายเป็นเอกของผม...เข้าไปอาบน้ำได้แล้วนะ”
ผมใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่ มาจับมือเข้าไว้เช่นเดียวกัน แววตาสื่อถึงความจริงใจ เขาเผยยิ้ม ก่อนจะทรงตัวยืน
พลางโน้มตัวเข้าหาผมอีกครั้ง ชั่วพริบตา ริมฝีปากคนตรงหน้าเข้ามาแนบอย่างบางเบาบนริมฝีปากของผม ก่อนจะถอนออกในทันใด
ผมแสร้งยิ้มอีกครั้ง
“ไปได้แล้ว มัวแต่ทำอยู่แบบนี้ ก็ไม่ได้ไปอาบสักที” พร้อมเอ่ยไล่ด้วยน้ำเสียงหยอกเล้า
“ริน ผมรักคุณแค่คนเดียวจริง ๆ นะ” ผมยังคงแสร้งยิ้มอยู่
“รู้แล้วน่า”
รู้แล้วว่า ไอ้คำว่ารักของคุณในเวลานี้ ต่อให้พูดอีกกี่ครั้ง ก็เชื่อไม่ได้ คำน้ำเน่าจากตัวคนที่เน่าเหม็น รีบ ๆ ไป ก่อนที่ผมจะอาเจียนออกมาต่อหน้าคุณ!
“ผมจะรีบอาบ อย่าเพิ่งทิ้งผมไปไหนนะ”
ฮึ..
“แน่นอน ผมจะไม่ทิ้งคุณ”
แค่ในตอนนี้ล่ะน่ะ เขายิ้มอย่างโล่งใจ ก่อนจะปล่อยมือผม ด้วยสีหน้าที่กำลังบ่งบอกว่าไม่อยากจะปล่อยแม้นสักนิด ก่อนจะหันตัวกลับ ย่างเท้าไปยังเตียงด้วยท่าทางรีบเร่ง ก่อนจะฉุดกระชากแขนนางแบบสาวให้ลุกออกจากเตียง
จากแรงกระชากด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างที่หล่อนไม่ทันได้ตั้งตัว จึงผลัดตกลงไปยังพื้นดัง ปึก! น่าจะเจ็บพอควร สิ่งที่เห็นทำให้ผมแอบสะใจเล็ก ๆ แต่ก็ขยาดในการกระทำของเขาที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษเหมือนกัน ไม่พอแค่นั้น เขาไม่เปิดโอกาสให้หล่อนได้ทรงตัวยืน ออกแรงลากไปยังห้องน้ำโดยที่กายท่อนล่างถูไถไปกับพื้นกระเบื้อง
เธอร้องเรียกให้เขาหยุด แต่เป็นเขาตวัดสายตามองอย่างดุดันโกรธแค้นทำให้หล่อนเงียบไปในทันควัน
น่าสมเพช
น่าสมเพชทั้งคู่
เมื่อร่างทั้งสองเข้าไปในห้องน้ำ ผมก้มหยิบของฝากบนพื้น ก่อนจะไปจัดแจงเก็บเอกสารสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทะเบียนบ้านเอย เอกสารในการทำธุรกิจเอย ไม่เยอะเท่าไหร่ หอบไปรอบเดียวก็หมด เก็บเอาไปแค่นี้ก็พอ
ของทุกอย่างในบ้านซึ่งมีความทรงจำร่วมกับเขาทั้งนั้น หากเอาไปมันจะยิ่งตอกย้ำ ทิ้งไว้นี่แหละดีแล้ว ไปเริ่มชีวิตใหม่ ไม่ควรเอาสิ่งเก่าเข้ามากวนใจ
ผมเดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งซึ่งไม่ห่างจากห้องน้ำเท่าไหร่ จึงได้ยินเสียงฝักบัวไปพร้อมกับเสียงถกเถียงทั้งคู่ดังลอด จับใจความไม่ได้ เพราะผมไม่ค่อยได้สนใจฟัง มือที่ดึงเปิดลิ้นชักพลางหยิบเศษกระดาษแผ่นเล็กออกมาเขียน ถ้อยคำบางอย่างลงไป และวางไว้คู่กับของฝากที่ผมตั้งใจจะเอามาให้เขา แววตาเหม่อมองไปยังประตูห้องน้ำ
ขอบคุณทุกอย่างที่ผ่านมา
ผมมีความสุขมาก
สุดท้าย..
ลาก่อน...นะ...เป็นเอก
และแล้วหยดน้ำที่ผมกลั้นไว้ได้ออกมาอย่างช้าช้า ด้วยใบหน้านิ่ง ไร้สิ้นเสียงสะอื้น ก่อนที่เท้าจะย่ำก้าวอย่างหมดเรี่ยวแรงและออกจากห้องไปอย่างเงียบเฉียบ โดยที่บุคคลทั้งสองจะไม่รู้สึกตัว
ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังโลงจอดรถ ซึ่งมีรถคันหรูของผมจอดอยู่ หยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทอย่างเร่งรีบ เพราะตอนนี้จิตใจมันบอบช้ำจนผมจะทนไม่ไหว กดปลดล๊อค ไขเปิดประตูโยนเอกสารทั้งหมดเข้าไปในรถ จนทุกอย่างกระจัดกระจาย ก่อนที่จะยัดตัวเองเข้าไปนั่ง ไขกุญแจสตาร์ทรถ ปิดประตู
มือไม้ที่กำลังสั่นไหวจนน่ากลัวกดเปิดเพลงจังหวะสนุกพร้อมเร่งให้ดังจนแทบจะสุดเสียงลำโพง
อึก..... ฮือออออออออออออออออออออออออ
ฮืออออออออออออออออออออออออออ
ฮือออออออออออออออออออออออออ
แบบที่ต่อให้ผมระเบิดร้องไห้ พร้อมน้ำตาที่พรั่งพรูไหล ก็จะไม่ได้ยินเสียงอันน่าสมเพชของตัวเอง ใครหลายคนในบริษัทบอกว่าผมเป็นพวกที่เด็ดขาด แต่ผมคิดว่า ตัวผมไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยสักนิด หากเด็ดขาดจริงผมคง...
ทำไมถึงเป็นอย่างนี้
ทำไมถึงลงเอยแบบนี้
ทำไมถึงนอกใจผม
คำนั้นที่ผมเคยพูดไว้ และคุณก็ตบปากรับคำ
คุณลืมไปหรือยังไง
ไอ้ข้อตกลงที่บอกว่าวันไหนที่คุณนอกใจ ... วันนั้นผมจะถือว่า..
คุณไม่ได้รักผมแล้ว!!!!!!
และมันก็จะเป็นวันที่ความสัมพันธ์ของเรา..จบลง
-TBC-