ตอนที่ 24_มรสุม (3)
ผม ธีร์ ไอ้กิ๋วและเดี่ยว...กลับมาทีซ้อมเพื่อที่จะคุยกันว่าจะแก้ปัญหากับเรื่องที่เกิดขึ้นยังไงเพราะระยะเวลาที่เหลือก็ไล่บี้ตามหลังเรามาลดลงไปเรื่อยๆ ผมตัดสินใจว่าจะไม่บอกเรื่องของวุ้นให้น้องที่เหลือรู้จะรู้กันแค่พวกผมเท่านั้น
“คงต้องปรับใหม่หมดเลยว่ะ...ไม่อย่างนั้นทุกอย่างพังหมด..” ผมบอก
“แต่ถ้าเราปรับใหม่หมดก็เสี่ยงเหมือนกันนะพี่นุ..นี่เวลาก็เหลือไม่มากแล้ว..” เดี่ยวพูด
“จะให้ทุกอย่างเหมือนเดิมแล้วเว้นตำแหน่งไอ้วุ้นไว้...ก็ไม่ได้อีกอ่ะเนอะ..” ไอ้กิ๋วคิ้วขมวด
“ยังไงเราก็ต้องเสี่ยงอ่ะ...ก็ยังดีกว่าที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย...อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด..” ผมบอก
“ผมว่าถ้าตั้งใจกันจริงๆ...ทุกอย่างต้องผ่านไปด้วยดีนะครับ...” ธีร์พูด พอทุกคนกลับมาครบเราก็เริ่มซ้อมต่อทันที...เราต้องปรับโซนตำแหน่งที่ใช้เต้นใหม่...ปรับการเล่นเวฟใหม่และที่สำคัญปรับการต่อตัวใหม่...เราใช้เวลาในการปรับตำแหน่งต่อตัวใหม่อยู่หลายชั่วโมงซึ่งทุกคนก็ตั้งใจกันเป็นอย่างดีไม่มีใครอิดออดกันซักคำ...จากรอบแรกที่เราใช้ท่า ต่อตัวที่มันยากและซับซ้อน...แต่คราวนี้เราเปลี่ยนมาเป็นแบบง่ายๆเล่นไม่ยาก..แน่นอนซึ่งต้องมีผลกับคะแนนแน่ๆ ถ้าคณะอื่นเค้าเล่นท่ายากกว่า...
“โอ๊ะๆ..โอ้ยยย..ว้ายยยย...” เสียงปอยกรีดร้องแล้วเสียหลักตกลงมาที่พื้นในการซ้อมรอบสุดท้ายแต่โชคดีที่ช่วยกัน รับไว้ได้ทันแต่ก็ทำให้ขาของปอยบาดเจ็บได้อยู่เพอสมควร
“ท่าทางข้อเท้าจะพลิกนะพี่ปอย...” หนึ่งพูดแล้วนวดข้อเท้าปอยเบาๆ ทุกคนที่ยืนล้อมกันอยู่สีหน้าไม่ค่อยดีนัก
“ซ้อมมาตั้งนานไม่ตกนะมึงอีปอย...จะแข่งพรุ่งนี้อยู่แล้ว...” ถึงปากจะบ่นเพื่อนแต่อิ่มก็บีบมือปอยไว้ตลอดเวลา
“ไหว...กูไหวน่า...พรุ่งนี้ก็หาย...ถึงไม่หายกูก็จะแข่ง...” ปอยบอก ผมทนยืนอยู่ตรงนั้นไม่ไหวจนต้องแยกตัวออกมายืนห่างๆเพราะเริ่มรู้สึกว่าทำไมปัญหามันเข้ามาหาผมพร้อมๆกันมากขนาดนี้วะ...ผมยืนสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆเพื่อควบคุมสติอารมณ์
“กูว่าน้องมันล้ากันแย่แล้วว่ะไอ้นุ...ปล่อยมันกลับบ้านเลยเหอะ..ซ้อมต่อเดี๋ยวจะมีคนพลาดเจ็บตัวมากกว่านี้...นี่ก็จะตีหนึ่งแล้วให้มันพักกันเหอะ...พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที ” ไอ้กิ๋วเดินมาตบไหล่ผมเบาๆแล้วเดินกลับไปปล่อยน้องๆกลับบ้าน
“เดี๋ยวหนูจะย้อนไปเฝ้าอีวุ้นซะหน่อย...แบงค์โทรมาบอกเมื่อสี่ทุ่มว่าจะกลับไม่มีใครอยู่กะมัน..หนูเลยจะไปเอง” เดี่ยวเดินมาบอกไอ้กิ๋ว...ไอ้กิ๋วพยักหน้างึกงัก
“เฝ้ามันแล้วมึงก้อย่าลืมนอนด้วยละ...เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรงแข่ง...”
ตีสี่กว่าๆวุ้นลืมตาตื่นขึ้นมานั้นเห็นเดี่ยวฟุบหลับอยู่ข้างๆเตียงโดยนั่งซบศีรษะอยู่บนแขนของตนเอง วุ้นขยับตัวลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบากด้วยจุกเสียดแถวบริเวณหน้าท้องและปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด วุ้นรู้สึกเจ็บบริเวณใบหน้าเมื่อลองเอามือคลำดูรู้สึกว่ามันบวมผิดปกติ แถมซ้ำยังมีความรู้สึกว่าตัวเองปากเจ่ออีกด้วย เดี่ยวสะดุ้งตื่นเงยหน้าขึ้นมอง
“เป็นไงบ้างอีผี...กูนึกว่าจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราซะแล้วมึง...แล้วนี่มึงเป็นไงบ้างเนี่ย...”
“ค่อยยังชั่วขึ้นมากแล้วล่ะ ปวดท้องหน่อยๆ แต่คงไม่เป็นอะไรมากแล้ว”
“นี่หล่อน...ชั้นหลับไปนานเท่าไหร่แล้ว”
“เกือบ 2 วันสิอีดอก...”
“จริงหรือยะ...นานขนาดนั้นเลยเหรออีควาย... ชั้นนึกว่าแค่คืนเดียวเสียอีก”
“เข็ดมั้ยละมึง...ต่อไปมึงก็ระวังตัวหน่อยละกันก่อนจะถ่างขาให้ใครน่ะ...ดีนะชั้นไม่โดนลากไปอีกคน...” เดี่ยวพูดแล้วเอามือทาบหน้าอก
“ถ้าหล่อนไปกะชั้นนะ...ชั้นก็คงไม่มีสภาพอย่างนี้หรอก...ใครจะไปรู้ว่าพวกมันจะแตะมือแท็กทีมกันอย่างนี้โดนเข้าไปดุ้นแรกก็ยังซาบซ่านอยู่หรอกแต่สักพักโผล่มาจากไหนอีกไม่รู้สี่ห้าดุ้น...เฮ้อออ...เสียดาย”
“แหม!อีห่านี่...ถ้าชั้นเป็นพี่คนนั้นนะชั้นไม่เข้าไปขัดจังหวะให้เสียเวลาหรอก...”
“ชั้น.......ขอบใจหล่อนนะยะเดี่ยวที่เป็นห่วงชั้น...”
“ใคร๊..ใครห่วงหล่อน..ที่ชั้นมาเฝ้าเนี่ยเพื่อมาดูว่าหล่อนน่ะจะตายรึเปล่าเพราะถ้าไม่รอดชั้นจะได้หุบแบงค์มาเป็นของตัวเอง...เหอๆ...กูจะได้จัดชุดใหญ่ให้แบงค์ซะดอกนึง..”
“กล้ามากนะ..อีดอกกกกก....” วุ้นพูดแล้วทั้งคู่ก็หัวเราะพร้อมกัน
“หลับได้แล้วอีชิสุห์เดี๋ยวพรุ่งนี้ชั้นต้องไปแข่งหลีดอีก...” เดี่ยวพยุงวุ้นนอนลงที่เดิม
“ชั้นเป็นอย่างนี้แล้วพวกหล่อนทำยังไงกันได้อ่ะ...พี่นุโกรธชั้นมั้ยหล่อนนนน...”
“ไม่มีใครเค้าโกรธหล่อนหรอก...นอนเหอะไม่ต้องกังวล..ไปที่ชอบๆได้เลย...” เดี่ยวพูดแล้วขำ
“อินี่....กูยังไม่ตายอีบ้า....”
ผมตื่นประมาณเก้าโมงเช้าแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวแต่ยังไม่ทันจะได้อาบน้ำ ผมก็รู้สึกปั่นป่วนในท้อง จุกเสียดแน่นไปหมดเหมือนอาหารมันจะขย้อนออกจากปาก ผมรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำและอาเจียนออกมากองโต ปวดท้องจิ๊ดๆ ผมอยู่ในห้องน้ำประมาณครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้อาเจียนจนหมดแรง เสียงผิวปากดังมาให้ได้ยิน จากนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดออกแต่พอธีร์เห็นผมยังอยู่ในชุดเดิม แถมซ้ำนอนตัวงอก่องอขิง เอามือกุมท้องอยู่บนที่นอนก็ร้องอุทานอย่างตกใจ เดินพรวดเดียวถึงเตียง และทรุดนั่งลงข้างๆผม โน้มตัวเข้ามาใกล้
“พี่นุเป็นอะไรหรือครับ ไม่สบายหรือเปล่า ท่าทางไม่ดีเลย”
“พี่ปวดท้อง....แล้วก็อ้วกด้วยไม่รู้เป็นอะไร...”
“ไปหาหมอก่อนดีไหมครับ อย่าปล่อยไว้เลย เดี๋ยวจะแย่กว่านี้” น้ำเสียงที่ธีร์ถามเจือด้วยความห่วงใยธีร์ประคองผมให้ลุกขึ้นนั่ง ผมพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็ทรุดฮวบ เอามือกุมท้อง เจ็บปวดแทบขาดใจ เหมือนไส้ถูกบิดอย่างแรง
“ลุกไปโรงพยาบาลไหวไหมพี่นุ...ทนนิดนึงนะครับ” ผมพยักหน้า พอมาถึงโรงพยาบาล หมอตรวจอาการเสร็จก็บอกว่าที่ผมปวดท้องและอาเจียนมากมาย เพราะว่าเครียดลงกระเพาะ...พอหมอไปแล้ว ธีร์ก็ดุผมทันที
“พี่นุอย่าคิดมากซิครับ...พี่นุห่วงแต่งานไม่ห่วงตัวเองเลย...” ผมได้แต่นอนฟังตาปริบๆ ถึงตัวเองกำลังโดนคนที่อายุน้อยกว่าต่อว่าแต่ก็โกรธไม่ลง
“ตอนนี้เป็นไงบ้างครับ หายปวดท้องหรือยัง ยังอยากจะอ้วกอีกไหม จะเข้าห้องน้ำหรือเปล่า เดี๋ยวผมพาไป”
ธีร์ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนชะโงกเข้ามาใกล้ แล้วเอามือลูบไล้แผ่วเบาไปตามใบหน้าของผม ท่าทางเป็นห่วงเป็นใย ผมส่ายหน้า
“ยังปวดท้องอยู่บ้าง แต่ก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นแล้ว เพราะหมอให้กินยาแก้อาเจียนแล้ว...”
“นี่ยังโชคดีนะครับที่ไม่เป็นอะไรมาก แค่นอนพักให้น้ำเกลือขวดเดียว เดี๋ยวก็กลับได้แล้ว...”
“แล้วพวกนั้น...” ผมกำลังจะอ้าปากพูดต่อ ธีร์เอานิ้วมาแตะที่ริมฝีปาก
“เลิกห่วงคนอื่นได้แล้วครับพี่นุ...ยังไงทางโน้นก็มีพี่กิ๋วดูแลอยู่ถ้ามีอะไรเค้าคงโทรมาหาเราเอง...กว่าจะแข่งก็ตั้งหกโมงเย็น...น้ำเกลือก็คงหมดพอดีแล้วเราค่อยไปกันก็ได้นะครับ..หรือพี่นุกลัวหายไม่ทันผมจะได้ฉีดยาให้...” ไม่พูดเปล่า มือไวซุกซนของธีร์ก็วางแหมะลงตรงก้นของผมพอดี ผมซัดพลั๊วะเข้าที่มือของธีร์ พอเห็นธีร์สะบัดมือด้วยความเจ็บผมก็หัวเราะ
“สมน้ำหน้า ไอ้เด็กลามก”
“ไม่รู้อ่ะ...คนที่จะฉีดยาพี่นุได้มีผมคนเดียว....” ธีร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ ผมเลยเขกหัวไปทีหนึ่งค่อนข้างดังและชักผ้าห่มขึ้นมาคลุมบอกว่าจะนอนแล้ว ธีร์ทำปากยื่นใส่ผม เอามือคลำหัวป้อยๆ
“รังแกผมอีกแล้ว...ใจร้าย...”
“ก็อยากบ้ากามไม่รู้กาละเทศะทำไม โดนแค่นั้นยังน้อยไปด้วยซ้ำ” ผมว่า ธีร์ก็เลยหัวเราะชอบใจ
“ผมก็หื่นแต่กับพี่นุคนเดียวเท่านั้นแหละครับ...อยู่ใกล้พี่นุแล้วมีความสุขจะตาย...นอนหลับนะครับถึงเวลาแล้วเดี๋ยวผมปลุกเอง....ปลุกมาฉีดยา...อิอิอิ..” ผมขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกะธีร์เลยหลับตานอนเงียบๆ มีเสียงหัวเราะเบาๆจากคนข้างๆจากนั้น จมูกและริมฝีปากของธีร์ก็สัมผัสเข้าที่แก้มของผม ผมพลิกตัวตะแคงข้างแล้วอมยิ้มอย่างมีความสุข ธีร์เดินออกมานอกห้องแล้วกดโทรศัพท์ไปหาไอ้กิ๋ว
“ยังไงฝากพี่กิ๋วดูแลทางโน้นด้วยนะครับ...ตอนนี้ผมกับพี่นุอยู่ที่โรงพยาบาล...ครับ...ไม่เป็นอะไรแล้ว...หมอบอกว่าพี่นุเครียดลงกระเพาะอ่ะครับ..หมอเลยให้นอนให้น้ำเกลือขวดนึง...เย็นๆก็น่าจะออกไปทัน...”
“บอกไอ้นุมันละกันว่าไม่ต้องเป็นห่วง...ถ้าไม่มีอะไรหนักหนาสาหัสเดี๋ยวพี่จัดการเองถ้ารับมือไม่ไหวยังไงจะส่งข่าว”
“ครับๆ..พี่กิ๋วไม่ต้องเป็นห่วงผมจะดูแลพี่นุอย่างดีเลย...”
“เออ...แค่ดูแลอย่างเดียวนะเว้ย...อย่าเผลอปล้ำไอ้นุมันเข้าล่ะ...โรงพยาบาลนะเว้ยไม่ใช่โรงแรม..เออๆแค่นี้แหละ..” ไอ้กิ๋วพูดแล้ววางสาย...
“ว่าไงพี่กิ๋ว...พี่นุจะมาได้ป่าว...” อิ่มสะกิดไหล่ไอ้กิ๋ว...
“ยังนอนให้น้ำเกลืออยู่...เย็นๆมันน่าจะมาทัน...”
“พี่นุเป็นอะไรมากมั้ยพี่กิ๋ว...” เจมส์เดินเข้ามาถาม
“ไม่เป็นไรมากหรอก...ไม่เป็นไรน่า...พี่คนเดียวก็พอ..ไปพวกแกไปแต่งตัวกันได้แล้ว...ไปๆ..” ไอ้กิ๋วไล่ให้แต่ละคนไปแต่งหน้าทำผมแต่งตัวกัน...
“พี่กิ๋วเนี่ยนะ..จะดูพวกหนูแทน...โอ้!มายก๊อดดด” เดี่ยวทำท่าเอามือกุมขมับแล้วเดินไป
“พี่นุไม่อยู่...เกิดพวกเราพลาดจะทำไงวะ...” เอกบ่นกับหนึ่งตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องน้ำ
“พวกเราก็ทำตามที่ซ้อมมาเมื่อวานสิวะ...ก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด....” หนึ่งพูดแล้วถอดเสื้อแล้วเอามือวักน้ำล้างหน้า
“เฮ้ย...แม่งลืมเอาเสื้อหลีดมาว่ะ..เดี๋ยวกูกลับไปเอาก่อนเดี๋ยวพี่กิ๋วด่า..” เอกพูดแล้วเดินออกไปเจมส์เดินสวนเข้ามาพอเห็นหนึ่งอยู่ในห้องน้ำ เจมส์ก็ผงะไปนิดนึงก่อนที่จะเดินเข้ามา...หนึ่งเงยหน้ามองเจมส์ในกระจกนิดนึงแล้วล้างหน้าต่อ
“เฮ้ย...หนึ่ง...กูมีเรื่องจะถามมึงว่ะ...” เจมส์ถาม หนึ่งเงยหน้ามอง
“มึงมีอะไรเหรอ...ถามมาดิ..ถ้ากูตอบได้กูจะตอบ...” หนึ่งตอบแล้วเอาน้ำเสยผม
“คืนนั้นที่เมา...มึงกับกู...นอนอยู่ด้วยกัน....สองคนใช่มะ...”
“อืมม...ใช่ดิ...ทำไมเหรอ...” หนึ่งพูดแล้วเอาผ้าเช็ดหน้า
“แล้วมึงจำอะไรได้บ้างมั้ยวะ...”
“กูก็...จำได้ลางๆว่ะ...คล้ายๆกูฝันว่ากูกำลังมีอะไรกับแฟนกูว่ะ...แต่กูเห็นหน้าแฟนกูไม่ชัดเลยไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า...เฮ้ย..คุยไรกันวะเนี่ย...”
“กูก็รู้สึกคล้ายๆมึงว่ะ...คล้ายๆว่ากูเองก็จะฝันเหมือนมึง...แต่คนในนั้น...ที่กูมีอะไรด้วยมันกลายเป็นมึงว่ะ...”
“เฮ้ย...นี่ถึงขนาดมึงเอาหน้ากูไปฝันเลยเหรอวะ...อย่างนี้กูก็ถูกมึงเปิดซิงแล้วอ่ะดิ...555..” หนึ่งบอก
“ใครบอกว่ามึงถูกกูเปิดซิงอย่างเดียว...มึงก็เปิดซิงกูเหมือนกันนะเว้ย...”
“อ่ะ..งั้นก็เจ๊ากันไปเว้ย...เฮ้ย...บ้าไปแล้วเมิงไอ้เจมส์..กูไม่ได้ชอบผู้ชายนะเมิง...กูแค่ได้กับมึงในฝันแค่นั้นแหละ...อย่ามาคิดอะไรกับกูนะเว้ยยย...” หนึ่งทำท่าผงะหนีแล้วเดินเข้ามาตบไหล่เจมส์เบาๆใส่เสื้อแล้วเดินออกไป...
“นี่มึงไม่รู้จริงๆ.....หรือแกล้งไม่รู้วะไอ้หนึ่ง...” เจมส์พูดกับตัวเองเปลี่ยนเสื้อแล้วเดินตามออกไป.....
ผมตื่นขึ้นมาอีกทีในตอนประมาณสี่โมงเย็นเพราะพยาบาลมาเรียกเพื่อจะถอดสายน้ำเกลือออก...ผมมองไปข้างเตียง ก็เห็นธีร์นั่งกอดอกหลับคอพับคออ่อนอยู่ที่โซฟา พอพยาบาลจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ขอตัวออกไป...ผมขยับตัวลงจากเตียง แต่ธีร์รู้สึกตัวเสียก่อน ธีร์เงยหน้าขึ้นมองผม และยิ้มให้จนตาหยี กุลีกุจอลุกขึ้นช่วยพยุงผม
“ถอดสายน้ำเกลือแล้ว...เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยนะครับ...” ธีร์บอกจากนั้นก็เดินมาแก้ปมที่ผูกเสื้อของผมออกจากกันจากนั้นก็มาถึงกางเกงที่ผมใส่อยู่ ธีร์กระตุกเชือกรัดเอวออก จากนั้นก็รูดกางเกงผมลง ธีร์หัวเราะหึหึ เมื่อผมเอาสองมือมากุมน้องชายปกปิดไว้จากสายตา
“อายทำไมกันน้า .. า ...า.....า ผมเห็นออกบ่อยๆ” ธีร์พูดแล้วเอามือลูบไล้อย่างทะนุถนอม ผมเบี่ยงตัวหนี และทำเสียงเข้มใส่ธีร์
“นี่มันโรงพยาบาลนะ รุ่มร่ามจริงเชียว เดี๋ยวใครมาเห็นกันพอดี” ผมดุ...ธีร์ส่งเสื้อผ้าให้ผมใส่
“ตัวนิดเดียวไม่น่าซ่อนรูปนะเนี่ยพี่นุ...” ธีร์ทำแววตาขี้เล่นจนผมต้องเขกหัวไปทีหนึ่ง...
“เดินไปที่ฝ่ายการเงินก่อนเลยไป..เดี๋ยวตามลงไป...” ผมสั่ง...ธีร์ยิ้มๆแล้วก็เดินไปจ่ายเงินที่ฝ่ายการเงิน ผมชะงักเพียงอึดใจเมื่อมาหน้าห้องฝ่ายการเงินเห็นธีร์กำลังนั่งคุยกับชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งที่แต่งตัวเนี๊ยบเหมือนกับกระโดดออกมาจากนิตยสารแฟชั่น ถัดไปอีกนิดก็มีอีกคนหนึ่งมองธีร์ตาเยิ้มอยู่ ธีร์หันขวับมาทางผมและรีบตัดบทสนทนาลุกขึ้นเดินลิ่วตรงมาผมทันที...อย่าบอกนะว่านี่คือคนที่สามและสี่ของธีร์ที่ผมต้องรับมือด้วย...แค่นวินกับเป้สองคนผมก็จะแย่อยู่แล้วนะเนี่ย....ขนาดโรงพยาบาลยังมีอีกเหรอวะเนี่ย...
“คุยกะเพื่อนอยู่เหรอ???...” ผมถามเสียงนิ่งดูเหมือนธีร์จะสะดุ้งนิดๆ
“เพื่อนสิครับ....เพื่อนจริงๆ...” ธีร์ตอบเสียงค่อยๆ
“แล้วทำไมตอบเสียงค่อย...ธีร์...อยากกลับด้วยกันมั้ยเนี่ย...”
“อยากสิครับ...”
“งั้นบอกมาหน่อยสิว่าใคร...”
“เอ่อ...พี่นุครับ...อย่าคิดมากน่าผมมีพี่นุคนเดียว พี่นุก็รู้...แต่เวลามีคนมามองผมมันช่วยไม่ได้นะครับ...มีแฟนหล่อก็ต้องทำใจ...แต่คนเมื่อกี้เพื่อนกันธรรมดาครับ...เพื่อนเก่า...”
“นึกว่าคนเก่าๆ...ก็ให้มันเป็นแค่เพื่อนเก่าจริงก็แล้วกัน...ไปกันหรือยัง เดี๋ยวก็ไม่ทันพอดีหรืออยากจะนั่งอยู่ที่นี่นานๆ”
“จะได้หว่านเสน่ห์ต่อ พี่นุจะพูดแบบนี้ต่อใช่ไหมละ” ธีร์หัวเราะชอบใจ ผมไม่ตอบ หยิบเป้สะพายที่วางอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ ลุกขึ้นแล้วเดินนำหน้าตรงไปทางออก ธีร์เดินตามยังหัวเราะเบาๆไปตลอดทางคงรู้สึกสนุกละมั้งที่ได้ยั่วผมเนี่ย
แล้วเราสองคนก็ขับรถออกจากโรงพยาบาลตรงไปยังสนามกีฬา...