Rule of Survival
สังคมลามไข่...ใครก็ได้ฆ่ากูที!!!
กฎข้อที่ 2 : อย่าเลือกกิน!!"..ผมไม่กิน!"
เด็กชายตัวน้อยร้องเมื่อเห็นลูกแมวย่างวางตรงหน้า..
"ไม่งั้นก็ตายห่าไปซะ"
ร่างบางพึมพำเบาๆและผมส่ายหน้า
"เอาน่า..ไอ้หนู ..มันเป็นโปรตีนไม่กี่อย่างที่เรายังหาได้.. ถ้าเอ็งไม่กินเอ็งจะอดตายเอานา"
ผมพยายามเกลี้ยกล่อมเด็กน้อย..ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าตัดสินใจถูกหรือไม่ที่เก็บเขาเอาไว้
จินมองผมกับแดเนียลน้อยที่กำลังดื้อดึงก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขาเดินมาหยิบถาดที่มีลูกแมวย่าง..สีกำลังเกรียมๆน่าอร่อยออกไป..
"เดี๋ยวมา"
ร่างบางพูดก่อนจะใช้ยางมัดผมรวบเส้นผมสีอ่อนที่ปรกต้นคอขึ้น ก่อนจะหยิบมีดขนาดเล็กสีเงินเล่มหนึ่งออกไปด้วย..
..................................
จินกลับมาอีกครั้งพร้อมกับ ..เนื้อแมว.. ที่หั่นเป็นชิ้นอย่างสวยงาม..
สีของมันน่าทานเหมือนกับไก่ย่างในภัตตาคารอย่างไรอย่างนั้น..
"นี่..ไอ้หนู ข้าทำขนาดนี้แล้ว..ขืนเอ็งยังเรื่องมาก เอ็งจะได้กลายเป็นโปรตีนหลักมื้อต่อไป!"
จินพูดก่อนจะเก็บมีดวางบนชั้น..
หนูน้อยเเดเนียลพยักหน้าแสดงความเข้าใจอย่างสุดซึ้ง
ก่อนจะค่อยๆหยิบเนื้อลูกแมวเข้าปาก..
"ก็แค่นั้น"
ร่างบางพูดก่อนจะมองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง
"กูแค่ไม่อยากใช้ความรุนแรงกับเด็ก"
ผมพูด
"ใจดีจนปล่อยให้มันตายน่ะสิ"
ผมไม่ต่อล้อต่อเถียงกับคนตรงหน้า..ไอ้ที่พูดมากๆไม่ใช่นิสัยผมอย่างหนึ่ง
อีกอย่างคือผมรู้จักเขาดีเกินกว่าจะเสียเวลาต่อล้อต่อเถียง..
"ธนาคารร็อทไชด์..ตู้นิรภัยหมายเลข 127.."
ผมพูดก่อนจะก้มลงมองกุญแจสีเงินในมือ..
ผมต้องการบางสิ่งบางอย่างในตู้นิรภัยนั่น..
บางสิ่งที่สำคัญ
บางสิ่งที่อาจเปลี่ยนแปลงโลกบัดซบใบนี้ได้..
"อือ.. จริงๆมันต้องสแกนรูม่านตา.. แต่วิธีการดั้งเดิมใช้ได้เสมอในกรณีนี้"
จินพูดก่อนจะเขย่งตัวเอาเลื่อยโลหะ..สว่าน..ไขควง และลูกกระสุนให้ผม
"เท่าที่กูไปสำรวจทางเข้าคร่าวๆเมื่อวาน..แถวนั้นเป็นเขตสีส้มเลยล่ะ"
เขตสีส้ม..ในความหมายของจิน คือเขตที่มีซอมบี้อยู่ค่อนข้างแออัด ..ทางหนีทีไล่น้อย ... อัตราการสะท้อนเสียงมาก
..และอันตราย
ผมรับของจากจิน กระชับย่ามเข้ากับตัว
"แล้วจะรีบกลับมา"
ผมบอก ..แต่คนตรงหน้าขมวดคิ้ว
"หมายความว่าไง..?"
"ต้องมีใครสักคนดูแลเเดเนียล"
"..Fu**.. เด็กเวร.. งั้นเอาของมา!
จินพูดก่อนจะกระชากย่ามไปจากผม แต่ผมไม่ยอม
"กูไปเอง มึงอยู่นี้แหละ"
เมื่อคนตรงหน้ากำลังทำท่าจะเถียง ผมก็มองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง..
"งานนี้เหมาะกับกูมากกว่า"
"แล้วหน้าตากูเหมาะกับเป็นพี่เลี้ยงเด็กรึไง"
ผมมองจิน.. ร่างเพรียวบางระหงส์ ใบหน้าคมคายดูไม่สบอารมณ์
ผมสีทองอ่อนยาวประบ่าที่ถูกมัดไว้อย่างลวกๆดูชื้นนิดๆ..
"ก็เหมาะนะ"
..................................
ผมกระชับปืนกับท่อนเเขนแกรงแน่น..
ผมเป็นพวกไม่ถนัดต่อการเคลื่อนไหวแบบเงียบเชียบเท่าจินก็จริง..
แต่ขนาดร่างกายและพละกำลังโดยรวมของผม เหมาะแก่การต่อสู้ประเภท 'ถูกรุม' มากกว่า..
แต่ถ้าเลือกได้ผมก็ไม่อยากถูกโอบล้อมด้วย'ความรัก'อย่างเหลือล้น
แบบตอนนี้หรอกนะ..
ศพเดินได้ที่ดวงตาไร้เเววยื่นเเขนมาทางผม ผมล็อกแขนมันไว้..ก่อนจะบิดไป 180 องศา..
'เผละ..'
ใครบอกว่าซอมบี้ฆ่ายากกัน..มันก็แค่มนุษย์ตัวเปื่อยร่างเหลวเท่านั้นเอง!!
ผมจ่อกระบอกปืนไปที่กระโหลกศรีษะมันก่อนจะเหนี่ยวไกอย่างรวดเร็ว
'ป๊อก!..'
เสียงเหมือนเวลาเปิดจุกก๊อกไวน์..
..น่าอภิรมย์จริง..
จินเลือกปืนที่เสียงเบาที่สุดมาให้ผม..
แต่ต่อให้เสียงจะเบาอย่างไร การจ่อปลายกระบอกปืนให้แนบสนิทกับกระโหลกก็ยังคงเป็นวิธีเก็บเสียงที่ดีที่สุดอยู่ดี..
งานจัดการซอมบี้สำหรับผมไม่ใช่เรื่องยาก
เราแค่ต้องคอยระวังอย่าให้มันกัดเราได้ก่อนเท่านั้น..
แต่เอาเข้าจริง..การติดเชื้อนี้ไม่ได้เกิดจากการกัด
มันแค่เป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้เชื้อผ่านเข้ากระเเสเลือดได้ง่ายที่สุด..
ดังนั้น .. การมีบาดแผลแล้วสัมผัสกับเลือด,การใช้เข็มฉีดยา หรือมีเซ็กส์กับซอมบี้(โดยที่ซอมบี้เป็นฝ่ายรุก)
ย่อมมีความเสี่ยงมากพอๆกัน..
แต่ถ้าซอมบี้เป็นฝ่ายรับก็มีความปลอดภัยมากโขอยู่..
..แล้วนี่กูจะมานั่งคิดเรื่องมีเซ็กส์กับซอมบี้ไปทำไมกันวะ..?!
ผมหยิบเก้าอี้รับเเขกของธนาคารมาฟาดหัวพวกซอมบี้ไป 3-4 ตัว..
ผมชอบวิธีนี้นะ..พอเหงื่อออกแล้วหัวผมจะโล่งขึ้นมาหน่อย..
ความลำบากของแผนการนี้คือ ขณะที่ผมเจาะห้องนิรภัยเฮงซวย
ผมจำเป็นต้องใช้มืออีกข้างล็อกเป้ายิงไปด้วย..
..ทำไมไม่มีสว่านเก็บเสียงบ้างนะ..
หลังจากที่ต้องยิงซอมบี้ซึ่งทยอยเดินเข้ามาตามเสียงสว่านแบบไม่ได้หยุดมาร่วม 10 นาที..
ผมก็คิดว่าผมอาจจะต้องตายอยู่ที่นี้แน่..
ผมจึงหยุดการใช้สว่าน และลากศพซอมบี้ตัวหนึ่งมา..
คุณเคยเห็นการเจาะสว่านแบบไร้เสียงไหมครับ?
มันก็เหมือนเวลาคุณจะยิงปืนแบบเก็บเสียงแต่ไม่มีปลายกระบอกเก็บเสียงนั่นแหละ
ที่คุณต้องทำก็แค่หาอะไรนุ่มๆ เช่น หมอน / ผ้านวม มากั้นระหว่างกระบอกปืนกับกระโหลกคนที่คุณอยากฆ่า..
สำหรับผม ในกรณีนี้.
สมองซอมบี้ที่เริ่มเน่า รวมถึงน้ำหนองของมัน.. ผมว่าน่าจะใช้เก็บเสียงได้ดีทีเดียวผมเจาะสว่านผ่านกะโหลกศพซอมบี้
มันใช้ได้ผลดี.. ไม่มีซอมบี้มากวนใจผมอีก
...................................
หลังจากเข้ามาในห้องนิรภัย ผมก็เห็น ศพเเห้งเหี่ยวของพนักงานธนาคาร..
หล่อนคงจะขังตัวเองไว้ในนี้..
ยอมอดอาหารตายดีกว่าออกไปให้พวกซอมบี้กินสินะ..
ผมนิ่งไว้อาลัยให้หล่อน 3 วินาที
แบบที่เพื่อนมนุษย์ควรมีต่อกัน
หลังจากนั้นจึงออกเดินหาตู้นิรภัยหมายเลข 127..
เมื่อหาพบ..ผมก็ค้นพบว่า มันจำเป็นต้องกรอกรหัส สแกนรูม่านตาไม่ต่างกัน..
ให้ตายสิ..จินว่ายังไงนะ..แบบดั้งเดิมใช้ได้เสมอ..
ผมมองสว่านในย่ามสะพาย
ศพซอมบี้ที่ใช้เก็บเสียงสว่านก็ดันเอาวางทิ้งไว้ข้างนอกประตูนั้น..
ผมหันไปมองศพเหี่ยวแห้งของพนักงานธนาคารสาว..
"เพื่อนมนุษย์ต้องช่วยเหลือกันใช่ไหมครับ"ผมพูดก่อนจะเดินตรงไปยังร่างของเธอ..
...................................
จนพระอาทิตย์ใกล้ตกดินนู้นเเหละผมถึงได้กลับที่พัก
คราบเลือดเกรอะกรัง สภาพค่อนข้างอิดโรย ..ไม่สู้ดีนัก..
จินเดินมารับของจากผมก่อนจะไล่ให้ผมไปอาบน้ำ..
หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็เดินเข้ามาในบังกะโลที่พัก
เห็นแดเนียลกำลังนั่งวาดรูปเล่นอยู่ ..โดยมีจินนั่งดูแผนที่อยู่ใกล้ๆ..
ภาพที่เห็นทำให้ผมเผลอยิ้มออกมา..
พวกเขาเหมือนครอบครัวเดียวกันเลยแฮะ..
จินหันขวับเมื่อรู้สึกได้ว่าผมมองอยู่
..ปฏิกิริยาเขาเร็วจนน่ากลัว..
"แดน..ไปเอาอาหารมาสิเจ้าหนู"
"..ฮะ"
ผมมองไอ้หนูแดเนียลจอมเถียงที่มีท่าทีเชื่อฟังขึ้นอย่างประหลาดใจ..
"ดูแลเเดเนียลได้ดีนี่.."
ผมพูดก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ร่างบาง..แต่เขาใช้มือกั้นหน้าของเราไว้
"จูบใช้แค่ตอนจะมีเซ็กส์"
ร่างบางพูดก่อนจะหันไปทางอื่น ..ผมเม้มปาก
"อ่า..แล้วของที่ได้มาเป็นไงบ้าง"
ผมถามเพราะเห็นเขาเช็คสภาพของได้ระยะหนึ่งแล้ว..
สิ่งที่ผมนำออกมาจากตู้นิรภัยหมายเลข 127 คือแบบแปลนซับซ้อนของห้องเเลป ATAG ..ห้องแลปมรณะที่ได้ชื่อว่าเป็นแห่งแรกที่ทำเชื้อไวรัสมรณะนี้แพร่ระบาดออกมา..จนทำให้โลกตกอยู่ในสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน..
"..งานหนักเลยล่ะ..มันไม่ได้เขียนชัดเจนว่าห้องไหนใช้ทำอะไร..มีทั้งแผนผังใต้ดินและทางออกสู่ทะเล..
แต่ยังดีที่แบบแปลนอธิบายทางเข้า-ออก ไว้อย่างละเอียด"
ดูท่าว่างานถัดไปของผมกับจินจะไม่ง่ายเสียแล้ว..
แต่ทุกงานที่ผ่านมาก็ไม่เคยง่าย เพราะฉะนั้นสำหรับเราเเล้วจึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจนัก..
"เราอาจใช้เวลาเป็นปี หรือนานกว่านั้น.."
"เรามีเวลาเท่าไหร่"
ผมถามจิน
"จนกว่าเราจะตาย"เขาตอบ
และเจ้าหนูแดเนียลยกถ้วยมันฝรั่งต้มเข้ามา..
รสชาติของมันฝรั่งต้มมันแย่เหมือนทุกครั้ง
แต่รสชาติของการมีชีวิตนั้นเยี่ยมยอด..
"วันนี้คุณไปไหนมาเหรอฮะ"
"ไปธนาคารน่ะ..เอ็งอยู่กับจินสนุกดีไหมล่ะ"
จินเลิกคิ้วมองเเดเนียล เด็กน้อยรีบพยักหน้า.. ผมหลุดขำพรืด
"จินบอกว่าถ้าวอดก้าไม่กลับมาก่อนพระอาทิตย์ตก เขาจะทิ้งผมแล้วไปตามหาคุณ"
ผมมองจินที่ตอนนี้ทำท่าเหมือนอยากจะกินไอ้เด็กตรงหน้า..
"ก็เอ็งนะเป็นภาระ!..แล้วนี่ยังจะฟ้องเรื่องข้าอีก.. ไม่จับโยนเป็นอาหารซอมบี้ก็บุญแล้ว"
"อ้อ..แล้วก็ไม่ใช่ว่ากูเป็นห่วงอะไรมึงด้วย .. ภารกิจน่ะสำคัญกว่า เข้าใจใช่ไหม"
จินหันมามองผมก่อนจะทำหน้าเคร่งเครียด ผมเผลอยิ้มอย่างผ่อนคลาย
"กูเข้าใจน่า"
"ก็แค่นั้น"
..................................
หลังจากแดเนียลหลับสนิท ผมก็รวบตัวจินมาไว้ในอ้อมแขน..
เขาไม่ขัดขืนแต่อย่างใด..
ถ้าว่ากันตามขนาดตัวเเล้ว..มันคงเป็นเรื่องยากที่จะขัดขืนอยู่เหมือนกัน
ผมกดจมูกซุกไซ้ไปตามซอกคอ..ผ่านเรือนผมสีทองอ่อนนุ่ม
"ข้างนอกไหม..เดี๋ยวไอ้เด็กบ้านั่นตื่น"
เสียงต่ำๆที่เกือบเป็นเสียงกระซิบแต่พร่าไปด้วยอารมณ์ของร่างบาง ปลุกสัญชาตญาณดิบเถื่อนในตัวผมขึ้นมา..
ผมล็อกตัวเขาไว้แน่น..
ก่อนจะใช้มือหนาลากผ่านร่องด้านหลังร่างบาง
"..วอดก้า..?"
"ตรงนี้แหละ..อย่าเสียงดัง"
ผมพูดเบาๆ ก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปช่องทางด้านใน..
"มึงรู้ใช่ไหมว่าเจลหล่อลื่นแม่งหายากพอๆกับถุงยางน่ะ.."
"งั้นกูไม่ใช้ถุง.."
"พูดเหมือนปกติมึงใช้.."
ผมขยับนิ้วเร้าอารมณ์คนในอ้อมแขน ..
เนื่องด้วยประสบการณ์.. ความคุ้นเคย.. และสัญชาตญาณส่วนตัว..
ผมรู้ว่าจุดที่จะทำให้เขาเงียบเสียงนั้นเป็นที่ไหน..
เงียบเสียงพูดปกติ..และครางได้แต่ชื่อของผม..
"อ๊ะ!..วอดก้า..ตรงนั้น.."
ผมขยับนิ้วเข้าออกแรงและเร็วขึ้นเรื่อยๆ ร่างบางขยับสะโพกไหวตามจังหวะที่ผมมอบให้..
เสียงครางชื่อผมทั้งสุขสมปนทรมานดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง..
"ชู่ว.."
ผมกระซิบ
"..แดเนียลนอนอยู่.."
"อือ..อะ..วอดก้า..ไม่เอา..ไม่เอานิ้ว.."
ร่างบางพยายามลดเสียงลงก่อนจะขอร้องบางสิ่งที่จะเติมเต็มความต้องการของเขาได้มากกว่า..
ผมดึงนิ้วออกพรวดเดียวก่อนจะใส่ส่วนใหญ่ร้อนเข้าไปจนสุด..
"อ๊ะ!!..อ๊า.."
ร่างบางเชิดหน้าขึ้นก่อนจะครางเสียงหวาน ช่องทางของเขาบีบรัดผมจนแน่นไปหมด..
"..จิน..ผ่อนคลาย.."
ผมพูดเบาๆก่อนจะสูดปาก แล้วกระทุ้งตัวเขาหนักๆสองสามครั้ง
"..อ..ไอ้เวร"
ร่างบางกระซิบด่าผมเสียงหวาน ตัวสั่นระริก..
ผมค่อยๆขยับตัว..ตอนแรกก็เป็นไปอย่างช้าๆ.. สักพักจังหวะกระเเทกจึงรุนเเรงขึ้น..
เสียงเนื้อกระทบกันสลับกับเสียงครางของร่างในอ้อมแขนดังขึ้นเป็นระยะๆ
แต่จินเลือกที่จะกัดแขนผมแทน..เพื่อไม่ให้เสียงที่ปล่อยออกมาดังเกินไป..
ก็ยังดีกว่าซอมบี้กัดละวะ.."อื้อ..วอดก้า..เร็ว..เร็วกว่านี้อีก.."
ร่างบางครางด้วยความขัดใจก่อนจะขยับสะโพกนำจังหวะผมไป..
ผมเลื่อนข้อมือแกร่งมาจับสะโพกเขาไว้แน่น..
"อย่าดิ้น"
ผมบอก ก่อนจะจับสะโพกร่างบางขยับเข้าออกจากตัวด้วยความเร็วและเเรงจนร่างบางสั่นตัวโยนครางไม่ได้ศัพท์..
เมื่อช่วงอารมณ์รุนแรงผ่านไป..เราสองคนก็หอบ..เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อและกลิ่นอายร้อน..
ผมยังคงค้างส่วนล่างไว้ในตัวของเขา..
จินเลียเลือดออกจากแขนของผม..
"กัดยังกะซอมบี้..ซาดิสม์หรือไง..หือม์"
ผมพูดก่อนจะใช้มืออีกข้างที่ว่าง รวบเส้นผมของเขาไปพาดบ่าระหงส์ และจูบซอกคอร่างบางเบาๆ
"อย่าเรื่องมาก..มีอะไรให้กินก็กินไปเหอะ"
ร่างบางพูดเสียงพร่า..
"อย่าเลือกกิน"
ผมพูดและนึกถึงสิ่งที่บอกเจ้าหนูแดเนียลไปเมื่อเช้า..
"ขอกินอีกได้ปะวะ"
ผมพูดเบาๆ อารมณ์เริ่มคุกรุ่นอีกครั้ง..
อยู่ๆร่างบางก็กัดเเขนผมเข้ามาเต็มเขี้ยว!!
"ประหยัดหน่อยดิวะ ไอ้ห่า"