.:: ตอนที่ 2 ::.
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
มีเจ้าชายผู้หนึ่งได้ถูกแม่มดใจร้ายร่ายคำสาป ว่าเมื่อเจ้าชายอายุครบสิบเจ็ดปีบริบูรณ์เมื่อไหร่ เจ้าชายจะต้องถูกเข็มพันเล่ม… เอ้ย เข็มเครื่องปั่นด้าย ทิ่มที่นิ้วนิ้วชี้และจะกลายเป็นจะเทย… เอ้ย ไม่ใช่ๆ และต้องหลับไหลไปตลอดกาล!! โดยไม่มีอะไรสามารถลบล้างคำสาปนี้ได้ เว้นแต่ จุมพิตจากรักแท้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ฮ่าฮ่าฮ่า
“เร็วเข้าเจ้าชายภาคภูมิ รีบไปหาเจ้าชายดินสอก่อนที่มันจะสายเกินไป!” นางฟ้านทีพูดขึ้น แต่แล้วก็คิดเสียงๆหนึ่งเังแทรกขึ้นมา
“คิดว่าข้าจะยอมให้ทำอย่างงั้นหรอ!! ก๊าซซซซ” เสียงของแม่มดแบล็คดรีมดังขึ้น พร้อมกับร่างมังกรอวบอั๋นมีน้ำมีนวลเสียเหลือเกิน “แล้วทำไมกูต้องเป็นมังกรอ้วนด้วยเนี่ย!”
“เออนะ ก็นี่มันเป็นฝันของอีเจ้าชายดินสอนิ ก็เล่นๆตามบทไปเถอะ”
“เออก็ได้!! งั้นพวกมึงก็ตายห่าตรงนี้กันให้หมดเลยละกัน!!!” มังกรแบล็คดรีมตะโกนออกมาเสียงดัง ก่อนที่จะพ่นเปลวไฟสีชมพูร้อนแรงออกมา เจ้าชายรีบยกโล่ขึ้นมาบังไฟเอาไว้ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเจ้าชายคงเสร็จมังกรตัวนี้แน่ๆ
“แย่แล้วขืนเป็นแบบนี้ เจ้าชายต้องแพ้แน่ๆ เร็วเข้านางฟ้า พวกเราต้องรีบช่วยเจ้าชาย หยิบคทาขึ้นทาแล้วเริ่มร่ายคาถา!!”
“โอมมะลึกกึ้ยกึ๋ย ด้วยความเรียบง่าย” นางฟ้านทีเริ่มร่ายคาถาคนแรก
“โอมมะลุกกุ๊กกู๋ก ด้วยความอ่อนโยน” นางฟ้าบิวร่ายคาถาตาม
“โอนมะลิกกิ๊กกี๋ ด้วยเสียงอันดัง… เฮ้ย! เดี๋ยวดินี่มันใช่คาถาของยัยนางฟ้ามนุษย์ป้าสามสีแน่หรอ นี่มันเหมือนคาถาของของแม่มดน้อยโด-มีมากกว่าละม้าง!”
“เมจิคัล เสต็จ(นที)/เมติคัล เสต็จ(บิว)/เฮ้ย! เดี๋ยวดิไม่รอให้ฉันพูดพร้อมกันหรอห๊ะ!(น้ำขิง)”
“ขอให้พวกเราช่วยจัดการกับมังกรแบล็คดรีมด้วยเถิด(นที-บิว)/ก็บอกให้รอกันก่อนไงย๊ะ!!(น้ำขิง)”
แสงจากคทาของนางฟ้าทั้งสามเปล่งประกายแสง และรวมกันเป็นจุดเดียว แสงสว่างมันเจิ่ดจ้าซะจนมังกรแบบ็คดรีมยังต้องใช้มือป้องตาเอาไว้ นางฟ้าน้ำขิงและเจ้าชายภาคภูมิมองดูก้อนแสงนนั้นว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วนางฟ้านที กับนางฟ้าบิวก็…
“สตาร์ไลท์ เบรคเกอร์!!!!(นที)/บอลเกงกิ!!!!(บิว)/อ้าวเฮ้ย! แล้วทำไมมันถึงกลายเป็นท่าไม้ตายของยัยสาวน้อยเวทมนต์กันดั้ม กับการ์ตูนที่เซ็นเซอร์หัวนมผู้ชายด้วยละ! อย่างน้อยๆก็ให้ทำเป็นท่าเดียวกับหน่อยสิเฮ้ย!!!!(น้ำขิง)”
นางฟ้านทีและบิวใช้คทาฟาดลงไปที่ก้อนแสงเมื่อกี้ ก่อให้เกิดลำแสงขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่มังกรแบล็คดรีม จนร่างของมันสลายไปจนไม่เหลือแม้แต่ฝุ่นธุลี
“เหอะ อ่อนชะมัด(นที-บิว)”
“นี่พวกหล่อนเป็นตัวอะไรกันแน่เนี่ย นี่มีฉันคนเดียวที่เป็นนางฟ้าจริงๆสินะ เ้ห้อ เอาเหอะ… เจ้าชายภาคภูมิรีบไปช่วยเจ้าชายดินสอเถอะ” เจ้าชายพยักหน้ารับ ก่อนที่ทุกคนจะรีบเดินทางมาจนถึงห้องที่เจ้าชายดินสอหลับไหลอยู่
“เชิญพะยะค่ะเจ้าชาย” นางฟ้านทีพูดพร้อมกับผายมือไปทางร่างของเจ้าชายดินสอ เจ้าชายภาคภูมิเดินเข้าไปใกล้ร่างของเจ้าชายดินสอ จากนั้นก็ลูบไปที่หัวของเจ้าชายดินสอ
“หืม นี่นางฟ้าน้ำขิง นางฟ้านที เมื่อกี้ตอนที่เจ้าชายภาคภูมิลูบหัว เหมือนรู้สึกว่าเจ้าชายดินสอจะยิ้มเลยนะ ได้ไงอ่ะ โดนคำสาปอยู่ไม่ใช่หรอ”
“ไหนๆ อ่อออออออ กูว่าละ อีร่างอวตารนี่ทำตัวให้สมชายาออโรร่านจริงๆนะ ตลบแตลง ตอหลบ ตอแหล ชั่วจริงๆเลย ดัดจริต ตอแหล นี่หอคอยนะไม่ใช่ซ่อง หล่อนมันหน้าซื่อใจร่าน สันดานร่าน หล่อนน่ะมันเป็นโรคโลกีจับใจ ออกไปจากปราสาทกูเดี๋ยวนี้นะ อีช็อคการี!!”
“ขอบคุณนะคะ ที่ด่าฉันว่า…ช็อกการี” เจ้าชายดินสอพูดออกมาทั้งที่ยังหลับตาอยู่
“มึงโดนคำสาปอยู่อีเจ้าชายยยยยยยยยย!!! เจ้าชายภาคภูมิรีบจูบอีเจ้าชายนี่สักทีเถอะ อีฝันปัญญาอ่อนนี่จะได้จบซะที”
เจ้าชายภาคภูมิพยักหน้ารับ ก่อนที่จะค่อยๆโน้มหน้าลงไปหาเจ้าชายดินสอ ในส่วนของเข้าชายดินสอตอนนี้ก็คือรูจมูกบานหายใจแรงด้วยความตื่นเต้น แล้วก็แอบปรืตาเพื่อให้มองเห็นฉากจูบที่ตัวเองใฝ่ฝัน
แผล็บๆ
หืม?
แล้วทำไมเจ้าชายภาคภูมิถึงเลียหน้ากันละ…
….
แผล็บๆ
“หืมมมม…. กูว่าแล้ววววว ปุกิ!!!” ผมตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ เพราะความเปียกชื้นบนใบหน้า ซึ่งมันจากการเลียใบหน้าแบบเอาเป็นเอาตายของเจ้าปุกิ แมวสามสีที่ผมเลี้ยงเอาไว้ เห้อ ฝันที่แสนหอมหวานของผม ล่มไม่เป็นท่าอีกแล้ว
ติ้ง!!(ไลน์เด้ง)
หืม ผมพลิกตัวไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ข้างเตียงขึ้นมา มันเป็นไลน์จากพี่ชายผมเอง ‘สีไม้’ ข้อความกล่าวว่า
‘เป็นไงตื่นรึยัง’
‘ตื่นแล้ว’
‘มีอะไร’
‘มีอะไร’
‘โอโห้’
‘นี่มึงพิมพ์ตอบพี่ชายแบบนี้หรอ’
‘มีอะไรจ๊ะ พี่ชายสุดหล่อเท่’
‘ขนลุกว่ะ’
‘มีอะไร’
‘เออๆ’
‘มึงเจอรึยัง’
‘เจออะไร??’
‘ผี??’
‘ไม่ใช่โว้ย’
‘คนที่ย้ายเข้าไปอยู่ใหม่ข้างห้องมึงอ่ะ’
‘ที่กูบอกเป็นเพื่อนกูอ่ะ’
‘ไม่รู้สิ’
‘เมื่อวานเหนื่อยก็เลยไม่ได้ไปดู’
'อ้าวหรอ'
'เห็นมันบอกเดี๋ยวจะไปทักทายซะหน่อย'
'ผมรู้จักหรอ?'
'รู้จักสิ'
'งั้นเดี๋ยวก็ได้เจอกันแหละ'
'งั้นผมไปอาบน้ำก่อนะ'
'เครๆ'
หลังจากที่จบบทสนทนากับพี่สีไม้ ผมก็ลุกขึ้นจากเตียงเตรียมพร้อมไปอาบน้ำชำระร่างกาย ผมเอามือไปขยี้หัวของเจ้าปุกิ แล้วพูดขึ้นเล่นๆว่าไปอาบน้ำกันไหม แน่นอนว่าพอแมวได้ยินคำว่าอาบน้ำ มันก็ขู่ฟอๆแล้วโดดหนีไปซะไกลเลย ฮ่าฮ่า พอแกล้งเจ้าปุกิเสร็จผมหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็ออกมาแต่งตัว วันนี้ผมเรียนบ่ายโมงตรง ซึ่งตอนนี้เป็นเวลา... เที่ยงยี่สิบละ โอ้ย ชิวๆ แปปเดียวก็ถึงแล้วละ ฮ่าฮ่าฮ่า
"พ่อไปเรียนก่อนนะ เฝ้าห้องดีๆนะปุกิ จุ๊บๆ"
หลังจากบอกลาเจ้าปุกิแล้วผมก็เดินอกอมาจากห้องและล็อคกุญแจเรียบร้อย แต่ผมก็ไปสะดุดตากับประตูห้องข้างที่เปิดไว้ไม่ได้ปิด และเสียงดังที่แสดงว่าคนในห้องกำลังจักแต่งภายในห้องอยู่ เพื่อนของพี่ไม้ที่ผมรู้จักอย่างงั้นหรอ... ใครหว่า ด้วยความสงสัยผมค่อยเดินเข้าไปใกล้ที่ห้องนั้น เพื่อที่จะสนองความอยากรู้นี้...
Rrrrrrrr
ซึ่งมันถูกขัดจังหวะไว้ด้วยสายจากน้ำขิง
"มีอารายมึงงงงงงง"
'อาจารย์นิคมบอกว่าคาบนี้ใครสายเกินห้านาทีจะล็อคห้อง แล้วเช็คขาด มึงต้องมาเดี๋ยวนี้... เดี๋ยวนี้!!!!'
"เชี้ยยยยยย อาจารย์ยิ่งๆหนั่มไส้กุ ชิบหายแล้ว ชิบหายแล้ว!!"
สุดท้ายแล้วเรื่องหน้าตื่นเต้นที่น้ำขิงโทรมาแจ้ง มนก็ทำให้ความอยากรู้อยากเห็นของผมกระโจนหายไปจากสมองจนหมด แล้วรีบวิ่งไปที่ลิฟท์ด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยที่ผมไม่ทันรู้ตัวเลยว่า คนที่อยู่ในห้องเมื่อกี้นี้แอบมองผมจนหายไปจากสายตา...
...
"อ๊าาาาาาา วันนี้ก็เซฟ"
"เกือบเอ้าท์แล้วไหมละมึง" น้ำขิงพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย วันนี้ผมได้สร้างสถิติใหม่ พุ่งทะลุประตูเข้าไปก่อนที่อาจารย์จะล็อคประตูในอีกสองวินาที เอาน่าทันก็คืือทันนั้นแหละเนอะ ฮ่าฮ่า ผมหัวเราะแห้งในใจ แล้วใช้ปากดูดชานมไข่มุกในมืออย่างแรง
"จ๊วบบบบบบ แค่กๆๆๆๆ" ดูดแรงไปไข่มุกติดคอ!! แค่กๆๆๆ
"ดูดแรงแบบนี้ไม่ได้นะดินสอ จ๊วบบบบบบ" ไม่อยากโดนแกว่าหรอกนะดรีม
"เอาน่าน้ำขิง ดินสอมาทันก็ดีแล้วนะ เนอะ"
"ช่ายยยยยยยยยย จ๊วบบบบบบบบ"
"ฉันละเชื่อพวกแกเลยจริง หืม... นั้นมันพวกพี่ภาคนี่นา" ผมหันขวับเมื่อได้ยินที่น้ำขิงพูด เฮ้ย พี่ภาคจริงๆด้วย แล้วมาทำอะไรที่ตึกนิเทศนี่ว่ะเนี่ย ตายละๆ เอาไงดีว่ะ ต้องรีบไปหลบ...
หมับ!!
ผมที่กำลังจะแว้บตัวเองหายไปจากตรงนี้ แต่ก็โดนยัยน้ำขิงล็อคแขนเอาไว้ซะก่อน ไม่ใช่แค่ผมแต่นทีเองก็โดนล็อคไว้เช่นกัน
"ไม่ต้องไปไหนกันทั้งนั้น จุดหทายกูอยุ่แค่ตรงหน้า และกูจะไม่ยอมเดินอ้อมอีกแล้วแน่นอน"
"น้ำขิงแล้วทำล็อคผมไว้ด้วยละ..." นทีกล่าว
"ไป! เดินกันไปซึ่งๆหน้าเนี่ยแหละ ไปด้วยกันทุกคนเลย" น้ำขิงประกาศเกล้า และลากทั้งผมและนทีเดินไปข้างหน้า โอ้ยตายแล้ว นี่ผมจะต้องเข้าไปใกล้พี่เขาในระยะร้อยเมตรเหรอเนี่ย ตื่นเต้นว่ะ หัวใจเต้นตึกตักเลยเนี่ย พี่เขาจะเห็นผมรึป่าวนะ หรืออาจจะจำผมได้ เขาอาจจะทักผม หรือจับมือผมไว้รึป่าวนะ อ้ากกกกกกกกกกก ตอนนี้พวกเราค่อยๆเดินเข้าไปใกล้กลุ่มของพี่ภาคเรื่อยๆ เข้าใกล้เรื่อยๆ ใกล้จนตอนนี้ได้แต่เม้มปาก ก้มหน้า หลับตาปี๋
หมับ!!
และแขนของผมมันก็ถูกจับเอาไว้ด้วยมือของใครบ้างคน ผมลืมตาขึ้นแล้วก็เงยหน้าขึ้นแล้วพบกับพี่ภาคที่จ้องมาทางผม พี่ภาคใช้แรงกระชากผมเข้าไปที่วงแขนของพี่ เขา
"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะดินสอ"
"พี่ภัคจำผมมได้ด้วยหรอครับ"
"ใครจะจำน้องคนสำคัญไม่ได้ละ"
"แงงงงง พี่ภัคครับบบบบบ"
ผมร้งไห้ออกมาด้วยความดีใจ ก่อนที่จะสวมกอดพี่ภาคไปอย่างเต็มรัก และพี่ภาคเองก็กอดตอบผมเช่นกัน โดยมีเพื่อนของผมและพี่เขายืมดูเป็นพยานนนนนนนนนนนนน
...
"อ๊าาาาาาาาาาา"
"กูไม่รู้หรอกนะว่ากำลังมโนเรื่องอะไรอยู่ แต่มันไม่มีทางแกขึ้นแน่นอนกูเอาหัวเป็นประกัน"
น้ำขิงพูดตัดบทมโนในหัวของผม ตอนนี้กลุ่มของพวกผมและพี่ภาคเดินเข้ามาใกล้กันอย่างผมมโนไว้เมื่อกี้ ถึงจะรู้อยู่แล้วว่ามันคงไม่เกิดขึ้นก็เถอะ แต่ยังไงมันก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่ดีนั้นแหละ โอ้ย ตื่นเต้นนนนนนนนนนนน
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
...
หมับ!!
เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยย มันเกิดขึ้นจริงๆว่ะ เรื่องที่ผมมโนในหัวเมื่อกี้แม่งเกิดขึ้นจริงว่ะ!!!! แม่งมีคนจับจริงๆว่ะ เพียงแต่... คนที่จับกันมันไม่ใช่ผมกับพี่ภาค แต่เป็น....
"นที..."
"พี่แทน..."
เป็นพี่แทนคุณที่เอื้อมมือมาจับแขนนทีเอาไว้ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ทำให้ทั้งพวกผมและพวกพี่ภาคยืนอึ้งก้าวขาไม่ออก นี่มันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกันแน่นะเนี่ย...
"พี่แทนปล่อยผมนะ!"
"พี่ไม่ปล่อย! พี่เจอตัวทีแล้ว พี่ไม่ยอมปล่อยทีให้ไหมไหนอีกแล้ว!"
"ทีบอกให้ปล่อยไง!!!!"
"โอ้ย!!"
พี่แทนคุณร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อนทีกัดไปที่มือพี่เขาเต็มแรง พอได้จังหวะที่พี่แทนคุณปล่อยมือจากตัวเอง นทีก็รีบวิ่งหนีไปอีกทางอย่างรวดเร็ว พี่แทนคุณที่เห็นนทีวิ่งหนี ก็พุ่งออกมาจากกลุ่มแล้ววิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความกระทันหันของอะไรหลายๆอย่าง ตอนที่พี่แทนคุณพุ่งตัวออกไปนั้น ก็ดันไปกระแทนกับพี่สายฟ้าจนพี่เขาเซ แล้วข้ามาใกล้จนแตะโดนตัวของบิว... ชิบหายละ
"กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ผู้ชายยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!"
"อั้ก!!"
หมัดสลาตันของบิวพุ่งตรงเข้าที่เบ้าหน้าของพี่สายฟ้าอย่างแรง จนพี่เขากระเด็นถอยหลังไปชนพี่ภาคกับพี่กวินล้มคว่ำไปตามๆกัน ด้วยความเป็นคนดีผมก็เอื้อมมือไปจับแขนบิวเอาไว้ แต่ก็ลืมนึกไปว่าเพื่อนก็ไม่เว้นนี่หว่า...
"กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดด"
"อั่ก!"
หมัดของบิวตรงเข้าที่ท้องของผมอย่างเต็มแรง เล่นเอาผมจุกจนก้าวถอยไปด้านหลัง แล้วด้วยความไม่ระวังก็เลยไปสะดุดขาใครสักคนเข้า จนตอนนี้ผมกำลังจะล้มหงายหลัง แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าอาจจะล้มไปทับพี่ภาคเอาก็ได้ เอาไงดีว่ะ ไม่อยากทำให้พี่เขาเจ็บเลยอ่ะ งั้นก็ต้องลองเสี่ยงดู... ไม่รู้จะได้ผลไหมแต่ว่า...!!!!
"ฮึ้บบบบบ!!! ย้ากกกกกกกกก!!!"
"เหี้ยยยยยยยยย ท่าอุบาทว์มาก!! แต่มึงต้องอดทนไว้นะไอ้ดิน เพราะถ้ามึงผ่อนลมออกตอนนี้ หน้าหล่อๆของพี่ภาคภูมิได้จูบกับร่องก้นของมึงแน่ๆ!!"
ผมไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่น้ำขิงพูดซักเท่าไหร่ เพราะแค่พยายามเกร็งให้ตัวเองอยู่ในท่าสะพานโค้งแบบก็เหนื่อยจะตายแล้ว ร่องก้น? หน้าหล่อ? คืออะไรว่ะไม่เข้าใจโว้ย แต่เมื่อกี้โดนชกที่ท้องมา แม่งเลยรู้สึกเหมือนกำลังที่มวลพลังงานบางอย่างกำลังจะทำงานว่ะ...
ชิบหายละ
ปู๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!
"เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!"
พอได้ผายลมออกมาแล้วมันก็เหมือนทำให้ผมหมดแรงไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถคงอยู่ในท่าสะพานโค้งได้อีก แล้วปล่อยตัวเองได้ร่วงลงสู่พื้น แต่นอกจากจะไม่เจ็บแล้ว ผมกลับรู้สึกเหมือนมีอะไรแหลมๆมันจิ้มเข้ามาในร่องก้นด้วน มันคันๆจั๊กกะจี้ จนทำให้รู้สึก...
ปู๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!
"เหี้ยยยยยยยยยยยย!! ครั้งเดียวไม่พอมึงตดให้หน้าพี่เขาสองรอบแล้ววววววว!!"
ผมไม่เห็นเหตุการณ์อะไรทั้งนั้น ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิิ้น โอ้ พระผู้เป็นเจ้าครับ ช่วยทำให้ผมหายไปจากตรงนี้เดี๋ยวนี้เลยได้ไหมครับ ฮืออออออออออออ
...
สรุปแล้ววันนี้หลังจากทำเรื่องงามหน้าแล้ว พวกผมก็รีบขอโทษขอโพยแล้ววื่งหนีออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ไม่รู้ว่าพี่เขาจะรับคำขอโทษของพวกผมรึป่าว เพราะเหมือนจะอยู่ในอาการช็อคที่โดนตกใส่หน้าระยะปะชิดไปถึงสองรอบ
"กูอยากจะบ้าตาย"
ผมพูดออกมาในขณะที่กำลังจิบเบียร์ที่ระเบียง เพื่อให้ลืมเรื่องเครียดๆในวันนี้ นี่มันเวรกรรมอะไรของผมเนี่ย การพบกันในรอบสิบกว่าปี แทนที่จะได้ทักทายกันแบบซึ้ว แต่ดันไปตดใส่หน้าพี่เขาเนี่ย กูไม่มีความกล้าไปสู้หน้าพี่เขาอีกแล้ว หรือไม่พี่เขาก็คงเกียดผมไปแล้วแน่ๆ ฮืออออออ จากนั้นผมก็เหลือบปเห็นไฟที่ห้องข้างสว่างขึ้น สงสัยเพื่อนของพี่ไม้คงกลับมาแล้วมั้ง วันนี้ก็มีเรื่อววุ่นวายจนไม่ได้ไปทักทายอีกแล้วสิ เอาไว้วันอื่นละกันเนอะ... วันที่สภาพจิตใจผมดีขึ้นกว่านี้อ่ะนะ
"เห้อ... ถ้าเกิิดพี่ภัคได้มาอยู่ข้างๆห้องเราก็คงดีสิ"
"ถ้าเกิดมาอยู่แล้วจะทำไมเหรอ"
"อย่างแรกก็จะได้ขอโทษที่ไปตดอัดหน้าพี่เขาน่ะสิ..."
ผมพูดพร้อมกับหันไปที่ต้นเสียงข้างระเบียง และแล้วผมก็พบกับชายหมุนในฝันกำลังยืนจ้องมาที่ผม อ๊าาาาา สุดยอดไปเลยนะมโนภาพแบบนี้ก้ไม่แย่เท่าไหร่นะ จิบเบียร์ไป ที่พี่ภาคยืนอยู่ข้างแบบนี้ก็สุดยอดไปเลยนร้า ผมคิพร้อมกับหันมาจิบเบียร์ต่อ แล้วก็หันกลับไปมองอีกครั้ง... อีกครั้ง... อีกครั้ง... มโนภาพไม่ยอมหายไปสักทีแหะ...
"ตดเหม็นชิบหายเลยนะ... ดินสอ"
"เห๊ะ..."
ในขณะที่ผมกำลังคิดว่าทำไมภาพมโนถึงดูเหมือนจริงขนาดนี้จังว่ะ ภาพมโนพี่ภาคก็โยนก้อนกระดาษมาใส่หัวผม ผมมองมันก้อนที่จะหยิบขึ้นมาคลี่ออก ซึ่งในนั้นมันมีข้อความเขียนอยู่...
'เดี๋ยวไปหา เปิดห้องด้วย'
ผมอ่านข้อความในกระดาษแล้วก้เริ่มคิดว่า...
"พี่ภัค... ตัวจริงหรอ"
"คนที่โดนมึงตดอัดหน้า แบบเต็มๆสองรอบนั้นแหละ"
...
โอ้วหมายก๊อดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!