(เรื่องสั้นตอนเดียวจบ) ♥ ● เท่า นี้ ที่ รัก ● ♥
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้นตอนเดียวจบ) ♥ ● เท่า นี้ ที่ รัก ● ♥  (อ่าน 6973 ครั้ง)

ออฟไลน์ Toffeenut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม





#เท่านี้ที่รัก











เ รื่ อ ง สั้ น

♥ Describe me in one word
♥ Describe me in one word (ตอนพิเศษ)
Kiss me under the Mistletoe •.★✿


เ รื่ อ ง ย า ว (ยังไม่จบ)

▲▲ As an escort #เพื่อนนอน
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ Toffeenut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
#เท่านี้ที่รัก









ต่อให้ต้องพยายามอีกกี่ครั้งเพื่อให้เชื่อว่ารัก
ถ้าคนๆ นั้นเป็นคุณ ผมก็ยินดีที่จะทำ










ดอกกุหลาบที่ปะปนกันหลากหลายสีกำใหญ่ๆ ถูกวางลงทับกระเป๋าเป้ที่วางอยู่บนโต๊ะยาวในโรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัย เจ้าของกระเป๋าที่นั่งทำงานอยู่ก่อนเงยหน้าขึ้นมองตามมือที่วางกองกุหลาบก่อนจะย่นคิ้วเข้าหากันพร้อมกับตั้งคำถาม


“ของใคร?”


“ของเรา” เจ้าของดอกกุหลาบตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรกับทั้งคำพูดและดอกกุหลาบนั้น “ใกล้วาเลนไทน์แล้วก็มีแต่คนเอาดอกกุหลาบมาให้...  น่าเบื่อ” คำว่าน่าเบื่อถูกย้ำพร้อมสีหน้าที่แสดงให้เห็นว่าเบื่อจริงๆ และนั่นก็ทำเอาคนที่นั่งรออยู่ก่อนหัวเราะออกมา


“มีคนรักก็ดีกว่ามีคนเกลียดไม่ใช่รึไง”


“ถ้าจะเยอะแล้วลำบากเราขนาดนี้ จะเกลียดบ้างก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ”


“ไม่ค่อยเป็นคนหลงตัวเองเท่าไหร่เลยเนอะ” คนที่นั่งฟังคำพูดพวกนี้มาหลายวันหยิบดอกกุหลาบขึ้นตีคนตรงข้ามหนึ่งทีแรงๆ ก่อนจะวางลงแล้วพูดต่อ “ถ้ามีคนรู้ว่าคนดังของมหาลัยทำหน้าแบบนี้ลับหลังล่ะก็ คงมีคนเกลียดตุลย์สมใจจริงๆ นั่นแหละ น่าหมั่นไส้ชะมัด”


“ช่างสิ” คนหลงตัวเองที่รู้ดียิ่งกว่ารู้ว่าตัวเองมีดีให้หลงยักไหล่ “เราไม่ได้สนคนพวกนั้นสักหน่อย”


“แล้วสนใคร?”


“อยากรู้จริงๆ?” ย้อนถามเสียงสูงพร้อมแววตาที่มองมาตรงๆ ทำให้คนตั้งคำถามก่อนถึงกับต้องยกมือขึ้นดันแว่นกรอบดำอันใหญ่ที่ตัวเองสวมอยู่ แล้วก้มหน้าทำงานต่อราวกับไม่รับรู้อะไร


“งี้แหละน้า คนที่อยากให้สนก็ดันไม่สน เรานี่น่าสงสารจริงๆ เลย” ตุลย์บ่นเบาๆ แต่ก็ตั้งใจให้อีกคนที่นั่งตรงข้ามกันได้ยิน สังเกตจากใบหน้าเนียนที่พยายามก้มมองหนังสือบนโต๊ะมากขึ้น แล้วยังมือที่ยกขึ้นขยับแว่นไปมาอีกด้วย


เจ้าของดอกกุหลาบกองโตสุ่มหยิบกุหลาบที่ได้รับมาจากใครสักคนขึ้นดูหนึ่งดอก ก่อนจะยื่นดอกกุหลาบไปตีหน้าผากของคนที่ทำเป็นตั้งใจอ่านหนังสือเบาๆ


“นี่รัน”


“อือ” แม้จะยังก้มหน้าเหมือนเดิม แต่เจ้าของชื่อก็พึมพำตอบรับ


“วาเลนไทน์ปีนี้ซื้อกุหลาบให้เราดอกหนึ่งสิ”


“ไม่เอาหรอก ตุลย์ได้เยอะแล้วนี่”


“แต่เราอยากได้จากรันนี่นา”


“..........”


“นะๆ ซื้อให้หน่อยสิ ดอกเดียวเล็กๆ ก็ได้”


“อืม”


“อืมนี่คือ?”


“จะซื้อให้” แม้คำตอบนั้นจะเบาและน้ำเสียงเรียบสนิท แต่คนที่ลงทุนขอดอกไม้ก่อนก็ยิ้มแก้มแทบปริ


“สัญญาแล้วอย่าลืมนะ”


“เราไม่ได้สัญญาสักหน่อย”


“นั่นแหละ รันรับปากแล้ว ห้ามลืมนะ”


“พูดมากจะอดนะ”


“ไม่หรอก เรารู้ว่ารันใจดี” คำพูดนั้นมาพร้อมกับดอกกุหลาบในมือที่เคาะลงบนหน้าผากมนอีกครั้ง ก่อนคนตัวสูงกว่าจะเปลี่ยนเรื่องคุยอีก “นี่ วันนี้วันที่สิบสามแล้วนะ”


“อืม วันนี้เรามีสอบย่อยด้วยตอนสิบโมง”


“โธ่...” ดอกกุหลาบในมือเพิ่มแรงเคาะอีกครั้ง “เราไม่ได้หมายถึงเรื่องที่รันมีสอบสักหน่อย”


“..........”


“เราจำได้นะ ว่าวันนี้เมื่อสี่ปีที่แล้วเราบอกรักรันครั้งแรกน่ะ”


“เหรอ?” คราวนี้รันเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะยิ้มเรียบๆ แล้วพูดต่อราวกับไม่ได้รู้สึกอะไร “แต่เราจำได้ว่า วันนี้เมื่อปีที่แล้วตุลย์บอกเลิกเรานะ”


“รัน”


“ตุลย์” คนตัวเล็กกว่าพูดชื่อเลียนแบบ


“ตอนนั้นเราทะเลาะกันนี่นา แล้วเราก็พลั้งปากไปงั้นเอง ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นจริงๆ สักหน่อย”


“แต่เราคิดนี่” แหงล่ะ เพราะถ้ารันไม่คิดอะไร ตอนนี้ทั้งคู่คงไม่ได้อยู่ในสถานะที่เรียกว่า “แฟนเก่า” กันแบบนี้หรอก“ตุลย์ เราจริงจังกับคำพูดเรามากนะ คำพูดตุลย์ด้วย สำหรับเรา รักก็คือรัก เลิกก็คือเลิก ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาเราก็บอกตุลย์มาตลอดนี่ว่าระหว่างเรายังไงมันก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้น่ะ”


“เราก็ไม่ได้อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมสักหน่อย” เสียงทุ้มเอ่ยเถียง


“..........”


“เราอยากเริ่มต้นใหม่ต่างหาก”


“แต่การเริ่มต้นใหม่กับคนเดิม เราไม่เรียกมันว่าการเริ่มต้นนะ”


“..........”


“มันคือการกลับไปที่เดิมซ้ำๆ ไม่ใช่เหรอ”


“แต่การที่เราเป็นแบบนี้ มันก็คือการย่ำอยู่กับที่ซ้ำๆ เหมือนกันนี่ เราสองคนไม่ได้ก้าวออกจากความรู้สึกวันนั้นสักหน่อย”


“..........”


“เมื่อไหร่ล่ะรัน ที่รันจะยอมยกโทษให้เรา แล้วเราก็กลับมาคบกันเหมือนเดิมน่ะ”


“ไม่รู้สิ”


“..........”


“อาจจะเป็นวันที่เรารู้สึกได้เต็มหัวใจว่าตุลย์รักเรา เหมือนวันแรกที่ตุลย์เคยบอกรักล่ะมั้ง”


“รัน...”


“อีกครึ่งชั่วโมงเรามีสอบแล้ว ขอตัวก่อนนะ” พูดจบมือเรียวก็รวบหนังสือและกระเป๋าเป้แล้วเดินจากไปทันที ทิ้งไว้เพียงดอกกุหลาบที่เจ้าของไม่ได้อยากได้กับเสียงลมหายใจที่ทอดยาวคล้ายคนหมดแรงเท่านั้น


แล้วเขาต้องทำยังไงล่ะ? ให้อีกคนรู้สึกว่าตอนนี้เขาก็รักมาก ..และมันก็มากกว่าวันแรกที่บอกรักด้วยซ้ำไป





หน้าห้องเรียนตอนพักเที่ยงวุ่นวายเหมือนทุกๆ วัน ยิ่งเป็นวันที่ใกล้วันสำคัญขนาดนี้ ไม่แปลกที่จะเห็นคู่รักหลายๆ คู่มารับกันถึงหน้าห้องเรียน และถึงแม้ว่าวันนี้จะยังไม่ใช่วาเลนไทน์ หากแต่สัญลักษณ์ของวันแห่งความรักกลับมีให้เห็นเต็มไปหมดจนคนที่ยืนอยู่คนเดียวเริ่มรู้สึกเบื่อ ..ไม่ก็อิจฉา


“รัน!” เจ้าของร่างสูงโปร่งที่เป็นเป้าสายตาของใครหลายๆ คนตะโกนเรียกชื่อคนที่เขาตั้งใจมารอเสียงดังลั่นอย่างไม่สนใจว่าจะทำให้ใครหันมามองบ้าง ตุลย์เปิดรอยยิ้มเต็มที่เมื่อคนที่เขาเรียกหันมาหา ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปใกล้แล้วตั้งคำถามเหมือนเมื่อเช้าไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น


“ทำข้อสอบได้หรือเปล่า?”


มีเพียงการพยักหน้าตอบจากคนตัวเล็กที่สวมแว่นสายตาอันใหญ่ปิดบังใบหน้าไปกว่าครึ่งเท่านั้น


“หิวไหม? หาอะไรกินกันนะ?” เช่นเดิมที่คำถามนั้นได้รับการตอบรับเป็นการพยักหน้า จะว่าไป นี่ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่คนอื่นๆ จะได้เห็นตุลย์กับรันไปไหนมาไหนด้วยกันแบบนี้


เพื่อนสนิท.. นี่เป็นคำนิยามที่คนที่รู้จักทั้งคู่ในระดับหนึ่งว่าเอาไว้

แฟนเก่า.. นี่ก็อีกคำนิยามสำหรับคนที่รู้จักทั้งคู่ดีขึ้นมาอีกนิด


รันอาจจะไม่ได้รู้สึกอะไรหรืออาจจะรู้สึกแต่ไม่ได้แสดงออกว่าเจ้าตัวสนใจคำนิยามเหล่านั้น หากแต่ไม่ใช่กับตุลย์ ชายหนุ่มเปิดเผยเสมอว่าไม่พอใจในสองนิยามนั้นมากๆ ถ้าประกาศได้เขาคงประกาศออกไปแล้วว่า รันคือคนที่เขารัก ไม่ว่าจะสี่ปีก่อน ปีที่แล้ว ปีนี้...หรือจะปีต่อๆ ไปในอนาคต


ว่ากันว่าการเอาชนะใจคนคนหนึ่งว่ายากแล้ว การจะเอาชนะใจคนคนนั้นให้ได้เป็นครั้งที่สองยากกว่าหลายเท่า


รันคงกลัว ตุลย์คิดแบบนั้นและเข้าใจแบบนั้นมาตลอด ก็ใครบ้างจะไม่กลัว หากเราต้องกลับไปเริ่มต้นเดินในเส้นทางหนึ่งที่เคยเดินและค้นพบมาแล้วว่าเป็นทางตัน กี่คนกันที่จะเดินย้อนกลับไปเส้นทางสายนั้นอีกครั้ง เพื่อจะค้นหาว่ามันอาจจะมีทางแยกอีกทางที่เคยมองข้าม


ถ้าพบแล้วทางแยกนั้นทำให้ไปสู่จุดหมายที่รอก็ดีไป


แต่ถ้าตรงกันข้ามล่ะ? ถ้าหากไม่พบทางแยก หรือพบทางแยกแต่ทางแยกนั้นก็พาไปสู่ทางตันอีกทางหนึ่งอยู่ดี ใครจะกล้ารับประกันว่านั่นจะไม่ทำให้ผิดหวังอีกมากกว่าเดิม


ใครจะกล้าเอาชีวิต เอาหัวใจตัวเองไปเสี่ยง


เพราะตุลย์คิดแบบนี้ เขาถึงได้เข้าใจว่าที่เราเป็นแบบนี้ในทุกวันนี้เพราะอะไร แล้วจะว่าไปมันก็ความผิดเขาเองทั้งนั้น ถ้าวันนั้นไม่บอกเลิก ไม่เอาอารมณ์ตัวเองเป็นใหญ่ วันนี้ก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก


“วันนี้กินอะไรดี?” คนตัวสูงถามพลางโยนกุญแจรถในมือขึ้นลง


“แล้วแต่ตุลย์สิ” รันเป็นคนใจดีนะ หลายๆ คนอาจจะตอบคำถามด้วยคำตอบแบบนี้เพราะไม่อยากคิดว่าจะต้องกินอะไร แต่ถ้ารันตอบ นั่นหมายถึงว่าคนที่มากเรื่องเรื่องของกินมากที่สุดยอมตามใจให้เขาเป็นคนเลือก และมันก็น้อยครั้งมากๆ ที่รันจะตอบแบบนี้ เพราะฉะนั้นการถามกลับของตุลย์จึงมั่นใจได้เลยว่าอีกคนอนุญาตแน่นอน


“งั้นกินอะไรก็ได้ แต่ซื้อไปกินที่ห้องรันได้หรือเปล่า?”


“..........”  ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นเหมือนทุกครั้งที่ไม่อยากตอบรับด้วยคำพูด แต่ก็ไม่ได้จะปฏิเสธ และไม่นานก็เอ่ยสิ่งที่เรียบเรียงในหัวออกมา “ถ้าอย่างนั้นทำกินเองดีกว่า ตุลย์ยังทำกับข้าวเป็นอยู่ใช่ไหม?”


ตุลย์เกือบจะดึงคนถามมากอดด้วยความหมั่นเขี้ยวแล้วกับคำถามนี้ น้อยคนมากๆ ที่จะรู้ว่าภายใต้ท่าทางเจ้าชู้ เพลย์บอย ลอยไปลอยมาเหมือนลูกคนรวยที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ตุลย์มีดีอย่างหนึ่ง (อาจจะหลายอย่าง) ที่สามารถอวดใครต่อใครได้ก็คือการทำอาหาร


แถมขนมหวานด้วยก็ยังได้...


“เป็นสิ เดี๋ยวจะแถมขนมหวานตบท้ายให้ด้วย” ลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงแรมที่มีภัตตาคารเป็นของตัวเองอวดรอยยิ้ม “รันว่างตลอดบ่ายใช่ไหม?” ถามแบบนั้นทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่แล้ว


“อื้อ...”





“เดี๋ยวเราล้างจานเอง ตอนตุลย์ทำ ตุลย์ยังไม่ให้เราช่วยเลยนี่” เจ้าของห้องเถียงพลางเดินหลบคนที่จะมาแย่งจานชามกองโตหลังจากอิ่มกันเรียบร้อยแล้ว


“ตามใจ” แม้จะพูดแบบนั้นแต่ตุลย์ก็เดินตามไปที่อ่างล้างจานในครัวเล็กๆ อยู่ดี


“นี่ วันนี้อร่อยหรือเปล่า ฝีมือยังดีอยู่ใช่ไหม?”


“อือ...”


“อยากกินอีกป่ะ?”


“ใจดีขนาดนั้นเลยเหรอ?”


“ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แค่จะบอกว่าอยากกินอีกบ่อยๆ ก็ขอเราเป็นแฟนสิ จะมาทำให้กินที่ห้องทุกวัน ทุกมื้อเลยก็ยังได้”


“ไม่เอาหรอก ซื้อกินเองก็ไม่ได้ลำบากอะไร”


“ไม่ต้องตอบเร็วขนาดนั้นก็ได้ คิดหน่อยดิ”


“แต่ถ้าอยากให้เราขอเป็นแฟนก็ทำอาหารมาส่งให้ที่ห้องทุกวันทุกมื้อเลยสิ”


“หืม?” คนได้ฟังทำตาโต “เมื่อกี้รันพูดว่าอะไรนะ?”


“รอบเดียว...”


“มันเบาเว้ย...”


“..........”


“ไม่ได้ยินอ่ะๆ อีกรอบสิ”


“ไม่...หูไม่ดีเอง ช่วยไม่ได้”


“รันอ่ะ...”


“ตุลย์อ่ะ...” คนที่กำลังอารมณ์ดีเลียนเสียงล้อ และนั่นก็ทำให้อีกคนอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นแล้วขยี้ผมแรงๆ อย่างที่ชอบทำ


“เอาเถอะ เราเข้าใจอย่างที่เราได้ยินแว่วๆ ก็ได้”


“..........”


“อย่าลืมล่ะ ถ้าเราทำมาทุกมื้อแล้วต้องมาขอเราเป็นแฟนนะ”


“..........” แม้จะไม่มีคำตอบรับใดๆ แต่อาการก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มนั่นก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว


“รัน...”


“หืม”


“คืนนี้เรานอนที่นี่ได้ป่ะ?”


“ว่าไงนะ?”


“เรารู้ว่ารันได้ยิน นะ ให้เรานอนที่นี่นะ”


“ถ้าเราไม่อนุญาตล่ะ”


“ก็กลับห้องเราไง เราเป็นคนพูดง่ายอยู่แล้ว”


“อือ”


“อือนี่อืออะไร? ให้นอน หรือให้กลับห้อง”


“แล้วแต่...”


“ใจดีเหมือนที่เราคิดไว้เลย” คนได้อย่างที่ขอหัวเราะเบาๆ “แบบนี้ขอนอนบนเตียงด้วยก็ได้สิ”


“กลับห้องไปเลยถ้างั้น” ฟองน้ำยาล้างจานสีขาวถูกดีดใส่คนได้คืบจะเอาศอกเบาๆ ก่อนคนแกล้งจะหัวเราะออกมาบ้างเมื่ออีกคนโวยวาย “สมน้ำหน้า”


“โห เราตาบอดขึ้นมาจะหาว่าไม่เตือน”


“..........”


“อยากมีแฟนตาบอดหรือไง”


“หาใหม่สิ เรื่องอะไร”


“ใครจะยอม เรื่องอะไร” ตุลย์พูดเลียนแบบบ้าง “นี่ รัน...”


“เรียกบ่อยจังวันนี้”


“อยากถามอ่ะ”


“ถามว่า...”


“ใจอ่อนให้เราบ้างหรือยัง”


“ไม่รู้สิ...”


“ใจแข็งว่ะ...”


“เปล่าใจแข็งสักหน่อย” ดวงตากลมของคนไม่ได้ใจแข็งเลยหันมามองสบ “ไม่รู้เหรอ ว่าเราเป็นพวกเจ็บแล้วจำน่ะ จำแล้วไม่ลืมง่ายๆ ด้วย”


“รู้สิ...” ตุลย์ทอดเสียงอ่อน มือหนึ่งยกขึ้นเกลี่ยปลายผมบนหน้าผากมนให้อย่างอ่อนโยน “ถึงได้พยายามอยู่นี่ไง”
รันยืนนิ่งๆ เงยหน้ามองคนตัวสูงกว่าตรงหน้า แล้วบอกจริงจัง เหมือนที่บอกมาตลอด “ถ้าพยายามแล้วเหนื่อยก็บอกเรานะ”


“ไม่หรอก เรามีความสุขที่ได้ทำ มากกว่านี้เราก็ไม่เหนื่อย”


“มีความสุขจริงๆ เหรอตุลย์?”


“มีสิ อาจจะไม่เต็มร้อย แต่การได้เห็นรันยังอยู่ตรงนี้ก็เป็นความสุขของเราแล้วล่ะ เรารู้ว่าเราทำไม่ดีเอาไว้เยอะ แต่เราก็ไม่อยากบังคับรันไง คนทำผิดก็ต้องไถ่โทษสิเนอะ”


“สักวันนะตุลย์...” รันก้มหน้าหลบตา “ถ้าเราลืมได้ว่าวันที่ตุลย์หันหลังให้มันเจ็บยังไง เราอาจจะกลับมาคบกันอีกครั้งได้อีกก็ได้”
ประโยคตรงๆ ที่ไม่เคยถูกเอ่ยถึงเลยตลอดปีที่ผ่านมาทำให้มือที่ยังคงเกลี่ยปอยผมอีกฝ่ายเล่นชะงัก สุดท้าย ตุลย์ก็ดึงคนตัวเล็กกว่ามากอดจนได้


“ขอโทษนะ...”


“..........”


“ถ้าวันไหนที่เรามั่นใจว่าคำบอกรักของเราจะดังมากกว่าคำขอโทษ เราสัญญาว่าเราจะบอกรัน ให้รันมั่นใจ”


“อือ”


ก็ถ้าวันไหนที่เราได้ยินคำบอกรักของตุลย์ดังมากกว่าคำขอโทษ วันนั้นเราก็จะบอกตุลย์ให้ตุลย์มั่นใจเหมือนกัน





ผ้าปูที่นอนผืนหนาถูกปูลงบนระเบียงกว้างหลังห้อง หมอนสองใบวางเกยกันอยู่บนนั้น ในขณะที่ทั้งเจ้าของห้องและคนขอมานอนด้วยนั่งกอดเข่าพิงระเบียงมองดาวด้วยกันที่ปลายผ้าอีกฟาก


“ไม่โรแมนติกเลยอ่ะ ไม่เห็นมีดาวสักดวง แถมฟ้ายังปิดอีก” คนตั้งใจอยากโรแมนติกด้วยการหอบผ้า หอบหมอนมาปูเพื่อดูดาวบ่นออกมาหลังจากมานั่งกันจริงๆ แล้วเห็นว่าบนฟ้าวันนี้ไม่มีดาวแม้สักดวง


“มองฟ้าเฉยๆ ก็ได้นี่นา ลมเย็นดีออก” คนเสนอทางเลือกให้หัวเราะเมื่อเห็นท่าทางราวกับคนถูกขัดใจนั้น ก่อนจะเอื้อมมือหยิบ
หมอนแล้วทิ้งตัวลงนอน “หลับตรงนี้ก็ได้เนอะ แต่ฝนจะตกรึเปล่าก็ไม่รู้”


“จะนอนหลับตรงนี้จริงๆ อ่ะ” ตุลย์ถามพร้อมกับล้มตัวลงนอนใกล้ๆ หนุนแขนตัวเองต่างหมอนใบโต


“ยังไม่เลิกนิสัยนอนหนุนแขนตัวเองอีกเหรอ ระวังเถอะ สักวันตื่นมาจะแขนชาแล้วทำอะไรไม่ได้”


“ว่าจะเลิกอยู่ แต่รอคนมานอนหนุนแขนก่อนถึงจะเลิกได้”


“..........”


“สนใจไหม?”


“ไม่เอาหรอก เราไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ใครพิการ”


เสียงทุ้มหัวเราะหึๆ กับการปฏิเสธนั้น สักพักตุลย์ก็เงียบ แล้วก็ฮัมเพลงออกมาเบาๆ แทน


รันหลับตาลง ฟังเสียงเพลงคลอเสียงลมเบาๆ ที่พัดผ่านระเบียงห้องบนชั้นเกือบสูงสุดของคอนโด อดไม่ได้ที่จะยิ้มจางๆ ให้คนแอบมองยิ้มตามได้กว้างกว่า


ตอนที่เรายังคบกัน ระเบียงตรงนี้จะมีเก้าอี้ยาวสีขาวตั้งอยู่ด้วย หลายๆ คืนที่ทั้งคู่จะออกมานั่งพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยแล้วหลับไปด้วยกันบนเก้าอี้ไม้นั้น พอบ่อยๆ เข้าเก้าอี้ยาวที่นั่งด้วยกันไม่สะดวกนักจึงถูกเปลี่ยนเป็นเก้าอี้กลมตัวใหญ่ที่สามารถนอนเบียดกันสองคนได้ไม่อึดอัดแทน แต่ตอนนี้ที่นี่เหลือเพียงระเบียงโล่งๆ ตุลย์ก็ไม่อยากถามว่าเก้าอี้นอนกลมๆ นั่นหายไปไหน บางอย่างเขาก็เดาคำตอบได้โดยที่รันไม่ต้องบอก


เสียงฮัมเพลงหยุดลงแล้วเปลี่ยนเป็นเสียงร้องเพลงเบาๆ แทน จากหนึ่งเพลง...สองเพลง...สามเพลง จนคนร้องหยุดร้องแล้วหันมาอีกทีก็พบว่าคนที่นอนข้างๆ หลับสนิทไปแล้ว


ตุลย์ลุกขึ้นเดินกลับเข้าไปในห้องนอนใหญ่ ทีแรกตั้งใจแค่จะไปหยิบผ้าห่มออกมาให้ แต่สายตากลับสะดุดเข้ากับกล่องดนตรีเล็กๆ สีขาวบนโต๊ะข้างหัวเตียงเสียงก่อน คนเดินเข้ามาแอบเสียมารยาทด้วยการไปหยิบมันขึ้นมาดูใกล้ๆ แล้วเปิดฝากล่องดนตรีออก เสียงเพลงที่จำได้ดีว่าเป็นเพลงที่ตัวเองชอบดังออกมาพร้อมๆ กับที่ตุ๊กตาปั้นรูปคนกำลังร้องเพลงหมุนไปมาช้าๆ ฟังจนจนเพลงตุลย์จึงวางกล่องดนตรีลงที่เดิม ตอนนี้เองที่สังเกตเห็นดอกกุหลาบสีขาวดอกเล็กที่ปั้นจากดินวางอยู่คู่กันข้างๆ


เพียงเท่านี้ รอยยิ้มจากคนแอบมองก็เปิดกว้าง


ร่างสูงเดินกลับออกไปที่ระเบียงอีกครั้ง คลี่ผ้าห่มคลุมร่างคนที่นอนหลับสนิท  ก่อนจะก้มลงแล้วจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนแผ่วเบา


“ฝันดีนะ” น้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนถ่ายทอดสู่ห้วงนิทราคนนอนหลับให้ริมฝีปากอิ่มแย้มรอยยิ้มน้อยๆ จนคนมองอดไม่ได้ที่จะกดจูบลงไปบนริมฝีปากนั้นอีกครั้ง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนเคียงข้าง


...นี่แหละความสุขของเขา


อย่างที่บอกว่ามันอาจจะไม่เต็มร้อย แต่เท่านี้ก็สุขจนเกือบเต็มหัวใจแล้ว







(มีต่อนะคะ)

ออฟไลน์ Toffeenut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0





ร่างบางที่นอนข้างๆ พลิกตัวเข้าหาพร้อมกับดึงผ้าห่มให้คลุมตัวยิ่งขึ้น สายลมเย็นๆ กลางดึกคงทำให้หนาวกว่าตอนหัวค่ำ ลังเลเพียงนิดตุลย์ก็รั้งร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด สอดแขนให้อีกคนนอนหนุนต่างหมอนแล้วแขนอีกข้างก็กอดเอวบางไว้ ก่อนจะหลับตายังไม่ลืมที่จะจูบเบาๆ ลงบนกลุ่มผมนุ่ม


เท่านี้ ความสุขไม่เต็มร้อยของเขาก็แผ่ซ่านเข้าจนเต็มหัวใจ





“อรุณสวัสดิ์” เสียงกระซิบบอกแผ่วเบาเหนือหน้าผากที่ผมยุ่งๆ ตกลงมาปรก พร้อมริมฝีปากได้รูปที่กดจูบลงมาด้วยรอยยิ้ม “ขอให้เจ้าของความรักของเรามีความสุขนะ...” ตุลย์เอ่ยอวยพรก่อนจะลุกขึ้นนั่ง บิดเนื้อบิดตัวสองสามครั้งแล้วมองออกไปบนฟ้าที่ยังไม่สว่างดีด้วยซ้ำ ก่อนจะตัดสินใจอุ้มคนที่ยังคงนอนหลับสนิทไว้แล้วพาเดินเข้าไปนอนต่อในห้องแทน


คนถูกรบกวนสะดุ้งน้อยๆ เมื่อถูกอุ้มขึ้นจากพื้น แต่เสียงจุ๊ปากเบาๆ ก็ทำให้คนขี้เซาพลิกตัวหาอ้อมอกกว้างแล้วนอนหลับต่อ ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดูแม้แต่นิดว่าตอนนี้ตัวเองกำลังถูกรบกวนอย่างไร


ร่างสูงสาวเท้าเข้าไปภายในห้องนอนที่เมื่อคืนเข้ามาแล้วหนึ่งครั้ง วางร่างบางของคนที่เขารักมาตลอดลงบนเตียงแล้วเดินกลับออกไปหอบผ้าห่มมาห่มให้ รู้ดีว่าคนชอบตื่นสายคงไม่ตื่นมาในเวลานี้แน่ๆ พอคิดได้แบบนั้นรอยยิ้มมุมปากก็ถูกจุดขึ้น คนที่กำลังวางแผนต้อนรับเช้าของวันแห่งความรักจึงเดินเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จแล้วก็คว้ากุญแจรถ กุญแจห้อง กระเป๋าสตางค์ก่อนจะเดินออกจากห้องพร้อมเสียงผิวปากเบาๆ อย่างคนอารมณ์ดี





เสียงที่ดังมาจากครัวเล็กๆ ที่นานๆ เจ้าของอย่างรันจะใช้สักครั้ง ทำให้คนที่เพิ่งตื่นเดินหน้ายุ่งๆ เข้าไป ริมฝีปากอิ่มเม้มนิดหนึ่งคล้ายกับกำลังนึกว่าต้นเหตุของเสียงนั้นน่าจะเป็นอะไร แล้วคำตอบก็มาทันทีที่โผล่หน้าเข้าไปเห็นโต๊ะกินข้าวในนั้น


อาหารเช้าสองสามอย่างถูกจัดวางกลางโต๊ะ แม้จะเป็นเมนูง่ายๆ แต่ท่าทางพ่อครัวที่ฮัมเพลงไปด้วย จัดอาหารใส่จานไปด้วยทำให้คนมองถึงกับหัวเราะออกมา


“อารมณ์ดีจังนะ”


“ก็วันพิเศษนี่นา แต่จริงๆ เราก็อารมณ์ดีทุกวันนะ”


“อืม...” ทำเสียงตอบรับแค่นั้นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ อีกคนเลยถามคำถามที่ฟังคล้ายคำถามทั่วไป หากแต่กลับอยากรู้คำตอบแบบจริงจัง


“เมื่อคืนนอนหลับสบายดีรึเปล่า”


“..........” รันชะงักเพียงนิด แต่ก็ตอบออกมาโดยไม่มองหน้าสบตาคนที่ต้องรู้แน่ๆ ถ้าเขาโกหก “ก็สบายดีนี่”


“จริง? เมื่อคืนเราเห็นรันละเมอ” คำบอกนั้นทำให้คนโกหกจริงๆ สะดุ้ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาแผ่วเบาเพราะรู้ดีว่าปิดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร


“ไม่บ่อยหรอก”


“รันรู้ตัวเหรอ”


“ไม่เรียกว่ารู้ตัวหรอก แต่เราจะจำความรู้สึกตอนตื่นนอนได้...”


“ความรู้สึกตอนตื่น? รู้สึกยังไงอ่ะ?”


“..........” เงียบไปเพราะไม่รู้ว่าควรจะตอบดีหรือเปล่า หากแต่ไม่นาน รันก็บอกออกมาด้วยน้ำเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน

“ใจหาย...”


คำตอบสั้นๆ ทำให้คนรอฟังถอนหายใจยาวออกมาแทน ตุลย์เดินอ้อมโต๊ะเข้ามาใกล้ แล้วรวบเอาคนตัวเล็กไปกอดเอาไว้ แม้จะไม่มีคำพูดใดๆ แต่ท่าทางก็แสดงออกชัดเจนว่าต้องการขอโทษ...ขอโทษที่ทำร้ายกันจนไม่น่าให้อภัย


เพราะเมื่อคืน จู่ๆ คนที่นอนข้างกันก็สะดุ้ง แล้วก็ละเมอเรียกชื่อเขาพร้อมกับดึงเสื้อเอาไว้ ประโยคสั้นๆ ที่หลุดออกมาจากริมฝีปากอิ่มคือ อย่าไป แค่นั้น หัวใจคนได้ฟังก็สะท้อนความรู้สึกลึกๆ ของอีกคนได้จนหมด


เขารู้แล้ว...ทำไมรันถึงยังไม่ยอมกลับไปคบกัน


ความรู้สึกที่ยังจำได้ไม่ลืม และตามมาหลอกหลอนกระทั่งในฝันคงทำร้ายหัวใจดวงหนึ่งให้หวาดกลัวไม่ใช่น้อย
เนิ่นนานที่รันยอมให้ตุลย์กอดเอาไว้แบบนั้น แต่พอนึกถึงฝันเมื่อคืนอีกครั้ง ก็อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นแล้วกำชายเสื้อคนที่กอดตัวเองอยู่ไว้จนแน่น.. เป็นแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่ที่คำว่ารักจะดังมากเกินกว่าคำว่าขอโทษเสียที


“นี่ตุลย์ ถ้าสมมุตินะ สมมุติว่าไม่ว่ายังไงเราก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ ถ้าสิ่งที่ตุลย์ทำตอนนี้มันสูญเปล่า...”


“อย่าพูดแบบนั้นสิ...” คำถามที่กำลังจะเอ่ยถามถูกหยุดด้วยริมฝีปากที่ก้มลงมาจูบเร็วๆ “ไม่ว่าวันข้างหน้าระหว่างเราจะเป็นยังไง เราก็จะไม่คิดว่าที่ทำตอนนี้มันสูญเปล่า”


“..........”


“เราบอกรันแล้วใช่ไหมว่าที่ทำอยู่ตอนนี้เราเต็มใจและเราก็มีความสุขกับสิ่งที่เราทำ เราอาจจะหวังว่าสักวันเราอาจจะกลับมาคบกันได้อีกครั้ง แต่รันรู้อะไรไหม มีสิ่งหนึ่งที่เราหวังไว้มากกว่านั้น มากกว่าการคบกันของเรา”


“..........”


“เราหวังว่าเราจะเห็นรันมีความสุข มีรอยยิ้ม...มันคงจะดีถ้าเราเป็นคนสร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขให้รัน คงดีมากๆ ถ้าเจ้าของรอยยิ้มและความสุขของรันคือเรา แต่ถ้ามันจะไม่เป็นแบบนั้น แล้วรันยังคงมีความสุขอยู่ แค่นั้น...เราก็พอใจแล้ว”


“..........”


“คำตอบฟังดูเป็นพระเอกดีใช่ป่ะ แต่เราก็คิดงี้จริงๆ แหละ” คำตบท้ายปนเสียงหัวเราะนั้นทำให้คนที่โดนกอดหัวเราะตามได้ ใบหน้าที่หม่นลงเมื่อสักครู่เลยกล้าพอจะเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงกว่าแล้วบอก


แม้จะเบา...แต่ก็ชัดเจน


“เอาเป็นว่าไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้ เราก็มีความสุขดีนะ มันอาจจะไม่เต็มร้อยเหมือนอย่างที่ตุลย์เคยบอก แต่มันก็เรียกว่าความสุข”


“..........”


“และมันก็เกิดขึ้น เพราะตุลย์นั่นแหละ”


ใบหน้าเนียนที่แดงเรื่อตอนพูดประโยคยาวๆ นั้นทำให้อีกคนแทบอดใจไม่ได้ที่จะก้มลงไปหอมสักฟอด หากแต่คนพูดก็ราวกับจะรู้ดีถึงได้รีบเดินหนีเข้าห้องนอนไปซะก่อน ทิ้งไว้เพียงเสียงหัวเราะไล่หลังให้รู้ว่าเจ้าของเสียงหัวเราะกำลังมีความสุขมากแค่ไหนก็เท่านั้น


ไม่เต็มร้อย แต่ก็เรียกว่าความสุขได้เต็มหัวใจ


แค่นี้ สำหรับตอนนี้ ก็ดีมากแล้วจริงๆ





ช่อกุหลาบสีขาวสลับแดงช่อใหญ่ถูกยื่นมาให้ทันทีที่ขึ้นรถ ตุลย์บอกว่าจะไปส่งไปเรียน เพราะรันมีเรียนสามชั่วโมงตอนเช้า ส่วนตุลย์ก็มีเรียนสามชั่วโมงเหมือนกันแต่เป็นตอนบ่าย


“หืม?”


“วาเลนไทน์ไง ก็ต้องให้ดอกไม้สิ”


“ให้เราเหรอ”


“ก็ยื่นให้รัน คงแค่ฝากถือมั้ง” คำพูดกวนๆ นั้นทำให้ช่อดอกไม้ช่อใหญ่ถูกวางคืนเบาะหลังรถทันที


“เฮ้ย...” หันกลับมาโวยวาย มองดอกไม้สลับกับคนทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ตาขุ่น


“ก็ตุลย์พูดเองว่าฝากถือ เราก็เลยเอาไปวางเบาะหลังรถให้ไง มันว่างอยู่ แถมไม่ต้องกลัวช้ำด้วย”


“รันนน...” เจ้าของดอกไม้ลากเสียงชื่ออีกคนยาวเหยียดพร้อมทำตาละห้อยเมื่อโดนย้อน เอื้อมมือไปคว้าช่อดอกไม้ที่ตั้งใจทำเซอร์ไพรส์กลับมาอีกครั้ง “ให้รันนั่นแหละ สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะ”


คราวนี้คนได้ดอกไม้เลยยิ้ม “ขอบคุณนะ”


“แล้วของเราล่ะ”


“อะไรของตุลย์”


“ที่ขอไปเมื่อวาน”


“ลืมอ่ะ...” พูดด้วยน้ำเสียงเรียบสนิทไม่ทุกข์ร้อน ก่อนจะเอ่ยต่อง่ายๆ “เดี๋ยวไปซื้อให้แถวมหาลัยก็ได้เนอะ”


“ไม่ต้องก็ได้แบบนั้น...” ฟังดูเฉยๆ ก็รู้ว่ากำลังงอน ยิ่งพอเหลือบไปเห็นสีหน้าที่หุบยิ้มลงทันทีนั่นก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะแกล้งต่อ


“ก็เมื่อวานก็อยู่กับตุลย์ตลอดนี่นา เลยลืมไปเลย จริงๆ ก็ไม่มีเวลาออกไปซื้อด้วย”


“เรายังมีเวลาเลย”


“ก็ตุลย์ตื่นก่อนเรานี่” เถียงไปอีก แล้วก็ต้องกลั้นหัวเราะเมื่อคนที่กำลังขับรถหน้าบูดสนิทยิ่งขึ้น “โอ๋ๆ เดี๋ยวไปซื้อให้จริงๆ”


“ไม่เอาแล้ว” ปลายเสียงที่สะบัดนั้นทำให้คนกลั้นหัวเราะหัวเราะออกมาทันที


“ไม่ได้น่ารักเลยนะนั่นน่ะ”


“..........”


“ตุลย์”


“..........”


“ตุลย์...” เรียกพร้อมกับสะกิดปลายแขนเสื้อ หากแต่คนที่ทำเมินก็ยังไม่ยอมหันมามอง คนเรียกเลยเลิกสะกิดแล้วหันออกนอกหน้าต่างรถบ้าง


ไม่นานรถก็มาจอดนิ่งสนิทอยู่หน้าตึกเรียนรวม คนมีเรียนหันมามองคนมาส่งอีกครั้งแล้วเอ่ยถาม “จะมารับหรือเปล่า?”


อาการพยักหน้าเฉยๆ โดยไม่พูดอะไรทำให้อีกคนอดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้ “นี่ งอนเราจริงอ่ะ”


“..........”


“ยังไม่แก่สักหน่อย ใจน้อยมากๆ เดี๋ยวหัวล้านนะ” พูดแล้วก็หัวเราะคิกคนเดียวเมื่ออีกคนยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร สุดท้ายคนอยากแกล้งก็เลิกแกล้งเมื่อเห็นว่าอีกสิบนาทีตนก็ต้องเข้าเรียนแล้ว


มือบางล้วงหยิบบางอย่างจากกระเป๋าใบใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ วางมันลงตรงคอนโซลรถ พอเห็นของที่ตัวเองตั้งใจให้ อยู่เข้าที่เข้าทางแล้วก็ก้มลงพูดกับมันว่า “ย้ายที่อยู่ให้แล้วนะ อยู่ที่ใหม่ก็ทำตัวดีๆ ให้เจ้าของเค้ารักล่ะ” พอพูดจบก็เปิดประตูลงจากรถขึ้นตึกเรียนทันที ไม่อยู่รอแม้แต่ว่าคนได้รับของขวัญจะหันมามองอย่างอึ้งๆ และดีใจมากแค่ไหน


กุหลาบต้นเล็กๆ ในกระถางแม้จะเป็นงานปั้นเลียนแบบไม่ใช่ของจริง แต่กลีบดอกเล็กๆ ที่บานอวดสายตานั่นก็สวยไม่แพ้กุหลาบที่เห็นทั่วไปวันนี้ แถมที่ทำให้ดีใจมากขึ้นไปอีกคือ มันไม่ใช่แค่กุหลาบปั้นธรรมดา แต่เป็นกล่องดนตรีอันเล็กๆ ที่ดูก็รู้ว่าต้องสั่งทำเป็นพิเศษแน่ๆ ก็เพลงที่ดังขึ้นตอนเขากดปุ่มเพื่อเปิดมันเป็นเพลงที่เขาชอบ...เพลงเดียวกับกล่องดนตรีในห้องรันอันนั้นด้วย


เสียงเพลงบรรเลงที่ดังคลอขณะขับรถทำให้คนที่ชอบเพลงนี้อยู่แล้วอดไม่ได้ที่จะร้องตามไปด้วย รอยยิ้มระบายเต็มใบหน้าคมที่เมื่อครู่ยังบูดบึ้ง มีความสุขมากๆ ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์แล้วส่งข้อความหาเจ้าของของขวัญแสนน่ารักนี้


...“น่ารักเหมือนรันเลย...ขอบคุณมากๆ นะ” ...





ข้อความที่ถูกส่งมาตอนสิบเอ็ดโมงกว่าๆ ว่า “ไปรับไม่ได้นะ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล รถชนนิดหน่อย” ทำให้คนที่กำลังนั่งเรียนไม่สามารถทนนั่งต่อได้อีก รันลุกขึ้น ขออนุญาตอาจารย์ประจำคลาสแล้วออกนอกห้องพร้อมกับมือที่คอยกดโทรศัพท์หาคนส่งข้อความนั่นมาทันที ซึ่งต้องโทรเกือบสี่ครั้งเจ้าของข้อความถึงยอมรับโทรศัพท์ เสียงดังที่แทรกเข้ามาทำให้คนที่เป็นห่วงอยู่แล้วยิ่งกังวลหนักขึ้นไปอีก


“ตุลย์อยู่โรงบาลไหนน่ะ เป็นอะไรมากรึเปล่า”


“ไม่มากๆ รันเรียนเลิกแล้วเหรอ”


“เปล่า ออกมาก่อนน่ะ ใครจะเรียนต่อได้ลง นี่ตกลงตุลย์อยู่ที่ไหน”


“..........” เสียงที่ตอบชื่อโรงพยาบาลมาทำให้คนที่กำลังเดินแกมวิ่งเรียกแท็กซี่ที่ผ่านมาพอดีก่อนจะรีบกดวาง “เดี๋ยวเราไปหานะ อีกแป๊ปเดียว”


...ไม่ได้รอฟังเลยว่าคนปลายสายกำลังจะบอกอะไร





ท่าเดินกะเผลกๆ ที่เห็นได้จากระยะไกลนั้น แม้จะไม่ชัดนักหากแต่ก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร


“ตุลย์...” คนตัวเล็กที่เพิ่งลงจากรถวิ่งมาใกล้ ดวงตากลมโตกวาดตาสำรวจร่างสูงขึ้นๆ ลงๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ตกใจหมด นึกว่าเป็นอะไรมากเสียอีก”


“ก็ส่งข้อความบอกแล้วไงว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ตอนแรกคิดว่าจะไปรับรันไม่ทันน่ะ แต่นี่ก็เรียบร้อยแล้ว”


“ส่งข้อความมาแบบนั้นเป็นใครก็ต้องตกใจสิ แล้วตุลย์แค่เท้าแพลงเหรอ?” ถามแล้วก็สอดมือประคองเอวร่างสูงเอาไว้ “เกิดอะไรขึ้นอ่ะ”


“เด็กปีหนึ่งปั่นจักรยานมาชน”


“ห๊ะ!!”


“เสียงดังทำไมเล่า...” คนเจ็บหันมาหัวเราะ “เรากำลังจะเดินไปเปิดประตูรถน่ะ แต่คนนั้นก็ปั่นจักรยานมาเร็วๆ ไม่ได้มองทางด้วย หันมาอีกทีก็ชนเราเต็มๆ แล้วที่เท้าแพลงนี่ก็เพราะรถล้มทับ” 


พอฟังเรื่องราวจนจบรันก็ปล่อยมือที่จับเอวอีกคนเอาไว้ หยุดเดินแล้วถอนหายใจอีกครั้ง “แค่นี้...”


“อือ ก็แค่นี้”


“คราวหน้าคราวหลังก็บอกชัดๆ ในข้อความสิ ไม่ก็โทรมา บอกสั้นๆ แบบนั้นเราก็นึกว่ารถชนร้ายแรงซะอีก รู้อย่างนี้ไม่โดดเรียนมาซะก็ดี”


“ก็มันรีบนี่นา...” แก้ตัวเสียงอ่อยแล้วก็นึกขึ้นได้ “เป็นห่วงเราล่ะสิ”


“ก็ต้องเป็นห่วงสิ”


“ขอบคุณนะ”


“..........”


“..........”


“นี่ตุลย์...” เงียบไปสักพักรันก็เรียก มือหนึ่งรั้งเอาไว้ไม่ให้อีกคนขึ้นรถ “เรา...” หากแต่พอจะเริ่มประโยคก็เงียบไปอีก


“..........”


“ตอนที่เห็นข้อความของตุลย์น่ะ เราใจหายมากๆ เลยนะ”


“..........”


“เรา...กลัว” คำสุดท้ายเบาจนเกือบไม่ได้ยิน หากแต่กลับดังก้องซ้ำๆ ในหัวใจคนฟัง


ตุลย์ค่อยๆ ปลดมือที่จับแขนเขาไว้ออก ระวังไม่ให้อีกคนรู้สึกว่าเขาปฏิเสธสัมผัสนั้นทั้งที่โหยหามันมากกว่าสิ่งใด มือสองข้างยกขึ้นประคองสองแก้มเนียนเอาไว้ ถ่ายทอดทุกความรู้สึกผ่านสายตาที่บังคับให้มองสบกัน แม้ไม่มีคำพูดใด และแม้คำว่าขอโทษจะยังชัดเจนอยู่ในดวงตาคู่นั้น หากแต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากทุกครั้งคือความมั่นคง


ถ้าหากรันจะเคยมองข้าม เคยพยายามมองผ่านเพื่อจะไม่รับรู้ หากแต่ตอนนี้ สิ่งที่อีกคนตั้งใจจะบอก และบอกมาตลอดคือในทุกๆ ครั้งที่เอ่ยปากขอโทษนั่นคือบอกว่า...รัก


รัก...คำที่ไม่เคยรู้เลยว่าแม้จะเบากว่าคำขอโทษ หากแต่กลับลึกซึ้งและประทับลงกลางใจได้ชัดเจนกว่าคำพูดไหนๆ
รัก...ที่ชัดเจนมาเนิ่นนานแล้ว และวันนี้ก็มั่นใจได้ว่าจะชัดเจนแบบนี้ไปตลอด


วินาทีที่เห็นข้อความสั้นๆ นั้น รันก็รู้เลยว่าทำไมตัวเองถึงกลัว แล้วก็รู้ว่าทำไมที่ผ่านมาถึงพยายามรักษาระยะห่างระหว่างกันเอาไว้


เพราะเขาไม่ได้กลัวการคบกันอีกครั้งแต่กลัวการต้องสูญเสียอีกครั้งต่างหาก
จึงพยายามเหนี่ยวสายใยเหล่านั้นไว้ เชื่อว่าถ้าไม่เข้าใกล้ ก็จะไม่มีการแยกห่าง คิดเอาเองว่าถ้าเป็นเพื่อนกันต่อไป ก็จะเป็นเพื่อนกันได้เรื่อยๆ


ไม่คบ ก็ไม่มีวันเลิก


แต่ไม่เคยมองความรู้สึกที่ชัดเจนกว่าการกระทำเลยสักครั้ง ไม่เคยหวนกลับไปคิดถึงคำว่ารักที่มันแสดงออกมาผ่านทุกการกระทำอย่างชัดเจนกว่าความรู้สึกไหนๆ


แม้จะเคยคิดว่าถ้าไม่รัก...ก็คงไม่กลัว แต่วันนี้ สิ่งที่อีกคนพยายามจะบอกมาตลอดก็เพิ่งจะเข้าใจ


ถ้าจะรัก...ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว



“เราไม่เป็นไรแล้ว” น้ำเสียงทุ้มนั้นปลอบประโลม มือที่เกลี่ยแก้มเนียนเช็คหยดน้ำตาที่ไหลลงมาเงียบออกให้เบาๆ “ไม่ต้องกลัวนะ เราอยู่ตรงนี้กับรันไง”


“..........”


อ้อมกอดที่โอบกอดเอาไว้ เสียงหัวใจที่ยังคงเต้นสะท้อนอยู่ข้างหูทำให้มือบางที่ยังคงสั่นกำเข้าหากันทีละน้อย ก่อนจะค่อยๆ ยกขึ้นและกอดอีกคนกลับไป


“กอดแน่นๆ สิ รันจะได้รู้สึกว่าเราอยู่ตรงนี้กับรันเสมอ” คนตัวโตกว่าโยกตัวเองเบาๆ ราวจะปลอบโยนเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง


“รันรู้ไหม รันเป็นแบบนี้เรายิ่งรู้สึกรักรันมากขึ้นไปอีก รักจนไม่รู้ว่ารักมากกว่านี้เป็นยังไงแล้ว”


“..........”


“แต่ไม่ต้องรู้ก็ได้ว่าเรารักรันมากเท่าไหร่ รู้แค่ว่าเรารักรันก็พอเนอะ”


“ไม่พอ” คนที่เงียบมานานเถียงเสียงอู้อี้


“..........”


“เพราะถ้าเราไม่รู้ว่าตุลย์รักเรามากเท่าไหร่ เราจะรู้ได้ยังไงว่าเรารักตุลย์มากกว่าหรือเปล่า...”


“รัน”


“บอกเราได้ไหม”


“งั้นตอนนี้รู้หรือเปล่าว่าเรารักรันเท่าไหร่”


“เราไม่รู้”


“เท่านี้...” ตุลย์ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องมาทำอะไรแบบนี้เลยสักนิด แต่ในวินาทีที่จับมือบางขึ้นมาแล้ววางกำปั้นตัวเองลงไปบนมือนั้น เขาก็ลืมความอายทุกอย่างไปจนหมด “มีคนบอกว่าหัวใจเราก็เท่ากับหนึ่งกำมือ...และตอนนี้มันก็มีเท่าที่อยู่ในมือรันนี่แหละ”


“..........”


“มากพอกับรันไหม” เสียงทุ้มทอดอ่อนขณะเอ่ยถาม แต่อีกคนกลับส่ายหน้า


“มันมากไป...” คำตอบนั้นเกือบทำให้คนบอกรักก่อนหมดแรง หากแต่รอยยิ้มที่ตามมาก็ทำให้ตุลย์ยอมยืนฟังนิ่งๆ “เห็นหรือเปล่า ถ้าตุลย์ให้เราเท่านี้ เราคงดูแลมันไม่ไหวหรอก” มือเล็กๆ ที่พยายามกำรอบมือใหญ่ประกอบคำพูดนั้นเรียกสายตาเอ็นดูได้เป็นอย่างดี “แต่ถ้าตุลย์ปล่อยมันบ้าง ไม่จำเป็นต้องรักเราทั้งหมดที่ตุลย์มี แค่รักเราเท่าความรักของเราที่สามารถดูแลรักของตุลย์ได้” มือเล็กๆ แกะมือที่กำอยู่ออกแล้วประสานมือของตนเองเข้าไป มือสองข้างจึงสอดประสานกันไว้หลวมๆ “เราไม่ได้ต้องการความรักทั้งหมดของตุลย์ ที่เราต้องการคือความรักของตุลย์เท่าที่จะสามารถดูแลความรักของเรา และให้เราได้ดูแลความรักของตุลย์ได้ด้วย”


“..........”


“เราต้องการเท่านี้แหละ”


คำพูด การกระทำ รวมถึงสองมือที่ยังคงเกาะกุมกันไว้ทำให้คนรับฟังค่อยๆ คิดตามและยิ้มตามได้กว้างขึ้น...และมันก็มากขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย


“แต่เราต้องการมันตลอดไปนะ ตุลย์ให้เราได้ไหม”


“แน่นอนว่าต้องได้อยู่แล้ว”


“อย่าปล่อยความรักของเราทิ้งไว้อีกนะตุลย์”


แรงบีบกระชับที่มากยิ่งขึ้นแทนคำสัญญาจากคนที่ดึงคนตัวเล็กกว่าไปกอดเอาไว้อีกครั้ง...


“ไม่มีวันอีกแล้วล่ะ...”


“.....”


“กลับมาเป็นแฟนเราอีกครั้งนะรัน”










- END -















ไม่เกี่ยวกะเทศกาลใดๆ ทั้งนั้น ถถถถ
ใครเล่นทวิตเตอร์ ฝาก #เท่านี้ที่รัก ด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ ><

ออฟไลน์ wichiwiwie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
งื้อออ น่ารักมากมากกกก ><
ชอบมากเลยอะ

แบบเข้าใจรันนะว่าทำไม เข้าใจตุลย์ด้วยยย
จะมีตอนพิเศษมั้ยคะะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ MacaroonCookie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ชอบบบ ตามเรื่องสั้นมาทุกเรื่องเลย เขียนดี น่ารักมากค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ pamhicc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รักษาโอกาสครั้งนี้ให้ดีๆนะตุลย์
 :pig4:

ออฟไลน์ patompong888

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
คิดว่าจะดราม่าเสียแล้ ชอบปนวแฟนเก่ามากเลยค่ะ หาอ่านยาก เรื่องนี้แอบละมุนๆดีชอบค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ Natti

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่ารัก บรรยากาศอุ่นๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ korner

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตอนแรกที่เห็นว่าเปิดเรื่องมาด้วยคำว่า แฟนเก่า ใจหายเลยคิดว่าไม่แฮปปี้แล้ว แต่นี้คือละมุนเว่อร์  ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ

ออฟไลน์ joborcusier

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ yunjae123

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
นี่แอบลุ้นไปกับตุลย์ด้วยนะว่ารันจะใจอ่อนเมื่อไร 555+
แต่ก็เข้าใจรันเหมือนกันว่าทำไมยังไม่อยากกลับมาคบกัน
ดีใจมากๆๆๆ ที่ตุลย์รันจะกลับมาคบกัน
แล้วคือละมุน ฟินมากกกกก ><

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
อบอุ่นมาก  :mew1:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 574
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
เป็นคู่ที่น่ารักจังเลย ค่อยๆประคับแระคองดูแลความรักกันไป
อยากอ่านตอนพิเศษจังเลยค่ะ :mew2:

ออฟไลน์ mamamamuay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮืออ ดีมากเลยค่ะ
สงสารรันเลยที่ยังคงละเมอถึงเรื่องนั้น

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ตุลย์สัญญาแล้วนะ ห้ามปล่อยมือรันอีก

ออฟไลน์ BeauBeeiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
อบอวลไปด้วยความรักสุดๆไปเลย

รับรู้ได้เลยว่ารักกันมากกก อ่ะ

ขอบคุณค่าาา

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ คุณบี๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ดี ดีมากเลยค่ะ อุ่นๆนุ่มๆ ฮือ  :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
นึกว่าจะดราม่าแบบหนักหน่วง แต่มาเป็นดราม่ากินใจซะงั้น น่ารักจังเลย  :กอด1: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด