คนของหัวใจ up!!! ตอนที่13 30/07/2560
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คนของหัวใจ up!!! ตอนที่13 30/07/2560  (อ่าน 3186 ครั้ง)

ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2017 20:06:49 โดย Pleanplang »

ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ
«ตอบ #1 เมื่อ22-05-2017 17:28:54 »

บทนำ


                            พี่รักเรามากนะ  อย่าทิ้งพี่ไปไหนนะครับ
                           ผมก็รักพี่มากเหมือนกัน เราจะมีกันและกันตลอดไป

 

                .....................................................................................

                       กลับมาได้ไหม กลับมาหากัน กลับมารักกันอีกครั้งได้ไหมคนดี

                   .......... (เดินหนี พร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา)

             ...............................................................................................

 

 ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ

 


ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ
«ตอบ #2 เมื่อ22-05-2017 17:31:53 »

คนของหัวใจ
ตอนที่ 1


เสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม แสงสีที่ดูน่าปวดหัว ผู้คนที่เบียดเสียดที่น่าปวดหัวในสถานที่แห่งนี้ ไม่ได้ส่งผลอะไรเลยชายหนุ่มที่นั่งดื่มอยู่คนเดียวในขณะนี้ได้เลย “เอ็ม” ผู้ชายที่สูง 184 คนนี้กำลังเศร้าจากการที่คนรักของเขาทิ้งเขาไป

“ขอโทษนะคะ มาคนเดียวเหรอคะ? พลอยนะคะ” เอ็มหันไปมองคนที่เข้ามาทักเขา ผู้หญิงในชุดแด

ที่สวยและเซ็กซี่เดินเข้ามาเบียดพร้อมกับเอาหน้าอกมาเบียดที่ต้นแขนของเขา เขากระตุกยิ้มนิดนึงแล้วเอามือโอบผู้หญิงคนนั้น

“เอ็มครับ  แล้วคุณเห็นใครนั่งกับผมเหรอคน คนสวย”  เอ็มพูดตอบกลับไป เขาเห็นว่าเธอหน้าแดงก่อนที่เธอจะเก็บอาการได้ทัน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ดื่มกันไปสักพัก จนหญิงสาวเอ่ยชวนเอ็มไปต่อที่อื่นด้วยกัน

Tru…Tru…Tru…

เสียงโทรศัพท์ที่กำลังแผดเสียงดังอยู่บนโต๊ะข้างตัวเตียงนั้น  ทำให้สองร่างที่เปลือยเปล่าขยับตัวเล็กน้อย

เอ็มพลิกตัวหนีเสียงที่รบกวนเขาอยู่ในตอนนี้จนหญิงสาวที่นอนอยู่ข้าง ๆ ต้องสกิดเอ็มเพื่อให้เอ็มรับสาย

“เอ็มคะ  โทรศัพท์คุณดังอ่ะค่ะ”  หญิงสาวเขย่าแขนคนที่กอดเธออยู่เล็กน้อย  ทำให้คนที่ถูกเรียกต้องฝืนลืมตาขึ้นมาเพื่อรับโทรศัพท์ก่อนที่มันจะสร้างความรำคาญแก่เขาไปมากกว่า

“ใครวะ คนจะนอน โทรมาทำแต่เช้าวะ ที่บ้านไม่มีนาฬิกาหรือไงวะ ห๊ะ!”  เอ็มตะคอกใส่โทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิด โดยที่ไม่ได้ดูเบอร์ที่โทรเข้ามา

“ไอ้เอ็ม!!!!!!มึงอยู่ไหนเนี่ย ไอ้ห่าเมื่อไหร่มึงจะมา น้องมึงจะงับหัวอยู่แล้วเนี่ย มึงสัญญาไรกับน้องมึงไว้”  เสียงตะโกนจากอีกฝั่งดังขึ้น ส่งผลให้เอ็มหายง่วงทันที

“มึงจะเสียงดังทำไมวะเต๋า น้องกูมันทำไม มันเป็นอะไรวะแล้วกูสัญญาอะไร”  เอ็มถามอีกฝั่งทันทีเพราะจำเสียงอีกฝ่ายได้ว่าเป็นใคร เต๋า หรือเพื่อนสนิทของเขาเอง มันก็ตัวพอๆกับเขานี่แหละ เผลอๆอาจจะสูงกว่าเขานิดนึงอีกด้วย

“มึงไปกกเด็กอยู่ที่ไหนวะ น้องมึงมันจะร้องไห้แล้วเนี่ย มันบอกว่ามึงลืมมันลืมสัญญาที่ให้มันไว้เนี่ย อ่ะ มึงคุยกับมันเองแล้วกัน”  เสียง กุก กัก จากอีกฝั่งดังขึ้นไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงน้องชายสุดที่รักของตัวเองดังขึ้น

“พี่เอ็มฮะ พี่เอ็มลืมโอมแล้วใช่มั้ย ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับโอมแล้วใช่มั้ยฮะ ฮึก” เสียงของโอมเครือมาตามสายทำให้เอ็มคิดได้ว่าตนเองสัญญาอะไรกับน้องชายเอาไว้

“โอม พี่ขอโทษนะครับ พี่ไม่ได้ลืมนะครับเดี๋ยวพี่จะรีบไปเลยนะ”   เอ็มระล่ำระลักบอกน้องชายของตนไปเมื่อเขาจำสัญญาที่ให้ไว้แก่น้องชายของตนเองได้ เขาสัญญากับน้องชายว่าจะพาน้องชายไปรายงานตัวที่มหาลัยซึ่งวันนี้ก็เป็นวันรายงานตัวแล้วด้วยและที่สำคัญก็ใกล้จะถึงเวลาที่กำหนดไว้แล้วด้วย

“พี่เอ็มรีบๆมานะครับ ถ้ามาไม่ทันโอมจะฟ้องแม่จริงๆด้วย”  หลังจากที่น้องชายพูดจบเอ็มก็ตัดสายไปทันที

“พลอย คุณจะกลับยัง ถ้ายังผมฝากคุณเช็คเอ้าท์ด้วยนะ  ผมต้องรีบไปแล้ว”  เอ็มหันไปบอกกับหญิงสาวที่ยังคงนอนเปลือยอยู่ข้างๆเขา

“คุณจะรีบไปไหนคะ เดี๋ยวฉันแต่งตัวออกไปพร้อมคุณเลยก็ได้”  หญิงสาวพูดพร้อมกับลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำทั้งที่เปลือยต่อหน้าเอ็ม  โดยที่ไม่มีความเคอะเขินเลยสักนิด

“โอม!!! แฮ่ก แฮ่ก รอนานไหมครับ พี่รีบมาเลยนะครับ เป็นไงบ้างรายงานตัวเป็นไงบ้างครับ” เอ็มวิ่งเข้ามาถามด้วยท่าทีที่เหนื่อยๆ

“โอมไปรายงานแล้วล่ะครับ พี่เต๋าไม่ได้เป็นคนพาโอมไปหรอกเพราะตอนที่โอมวางสายจากพี่มันก็ถึงเวลาที่โอมต้องไปรายงานตัวแล้วล่ะครับ”  โอมน้องชายของเขาพูดไปด้วยมองค้อนทั้งเขาและเต๋ษเพื่อนสนิทของเขาไปด้วย

“ไอ้เต๋า ทำไมมึงไม่พาน้องกูไปรายงานตัววะ”  เอ็มหันไปถามเต๋าทันทีที่ได้ยินน้องชายตนเองพูด

“ตอนแรกกูก็ว่าจะพาไปอะแหละ ทีนี้แม่งอาจารย์เสือกเรียกกูไปพบก่อนอะดิวะ แล้วมึงอะทำไมมาเอาป่านนี้  อ๋อ กูเข้าใจๆ”  เต๋าถามเขาก่อนที่จะพยักหน้าและตบไหล่เขาด้วยท่าทีที่น่าโดนตีนมาก

“โอมหิวมั้ยครับ เดี๋ยวพี่ไถ่โทษด้วยการพาไปกินของอร่อยๆ เอามั้ยครับ”  เอ็มไม่ตอบเต๋า  แต่หันไปถามน้องชายของตนเองแทน

“โอมพาเพื่อนไปด้วยได้มั้ยครับพี่เอ็ม ราถ้าโอมไม่ได้เพื่อนคนนี้นะ โอมหาห้องที่จะไปรายงานตัวไม่เจอหรอกนะครับ  บอกไว้ก่อน”  โอมพูดบอกพร้อมทั้งขอพี่ชายตนเองให้ตัวเองพาเพื่อใหม่ไปด้วย

Tru…Tru…Tru…..

เสียงโทรศัพท์ของเต๋าดังขึ้น

“ว่าไงคะที่รัก  ได้ค่ะ เดี๋ยวเต๋าไปหานะคะ ค่ะ ไม่นานค่ะ ที่รักรอเต๋าตรงนั้นก่อนนะคะ ค่ะ บายค่ะ”  เต๋ากดวางโทรศัพท์ก่อนจะหันมาหาเพื่อนสนิทตัวเอง

“ไอ้เอ็ม  น้องโอมครับ พี่ต้องไปก่อนแล้วนะครับ ไว้เจอกันใหม่นะครับ  ไอ้เอ็มกูไปก่อนนะ กูต้องไปหาแฟนว่ะ รถเขาเสียอะ”  เต๋าพูดบอกกับเอ็มและโอม

“เออ รีบไปเถอะมึง ก่อนจะโดนงอน” “ครับ”  ทั้งเอ็มและโอมตอบรับ

“แล้วนี่ไหนเพื่อนเราล่ะหืม”  เอ็มถามพร้อมทั้งเอามือไปขยี้ผมเอ็มด้วยความหมั่นเขี้ยว

“พีช เอ่อ เพื่อนโอมน่ะครับเขาชื่อ พีช เขาไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวก็มาแล้วครับ อ๊ะ นั่นไง พีชมาแล้ว” เอ็มพูดบอกพร้อมทั้งโบอกมือให้ผู้ที่มาใหม่ทันที

“พีช นี่พี่เอ็มพี่ชายเรา คนที่เราบอกว่าลืมสัญญาของเราอะ คนนี้แหละ” โอมแนะนำเพื่อนตนเองกับพี่ชาย

“สวัสดีครับ ผมพีชนะครับ”  พีชสวัสดีเอ็มแล้วก็เงียบไป

“พี่เอ็มคือพีชเขาไม่ค่อยพูดน่ะครับ” เอ็มพยักหน้ากับคำบอกเล่าของน้องชายตนเอง

“ป่ะ ไปกันได้ยัง พี่เริ่มหิวละเนี่ย” เอ็มพูดพร้อมทั้งเริ่มออกเดินไปยังรถของตัวเองทันที

ณ ห้างสรรพสินค้า ร้านชาบู ทั้งสามคนเข้าไปนั่งในร้านและกำลังนั่งรออาหาร  ระหว่างนั้งโอมก็ขอไปเข้าห้องน้ำ ที่โต๊ะจึงเหลือเพียงแค่ เอ็มกับพีชเท่านั้น

“ไงรา ทำไมเงียบจังเลย เขินพี่เหรอ”  เอ็มถามออกไปเพราะเขารู้สึกไม่ชอบบรรยากาศที่เงียบแบบนี้ เขาจึงหาเรื่องคุยเพื่อไม่ให้มันเงียบมากนัก

“เปล่าเขินครับ แค่ไม่รู้จะพูดอะไรเท่านั้นเลยเงียบอะครับ” พีชพูดออกมาพร้อมทั้งบอกเหตุผลที่ตนเองเงียบไปด้วยเลย

“ปกติเราเป็นคนเงียบๆ แบบนี้อยู่แล้วป่ะหรือว่าจะเป็นเฉพาะกับคนที่ไม่สนิทกัน” เอ็มถามออกไปอีก

“ปกติก็พูดมากแหละครับ แต่ผมจะพูดดับคนที่สนิทเท่านั้นแหละครับ อีกอย่างเราสองคนก็ไม่ได้สนิทกันถึงขนาดที่ผมจะพูดกับพี่ได้อย่างกันเองนะครับ”  ด้วยความที่พีชไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่สนิทมากนักเขาจึงรีบพูดตัดบทเพื่อไม่ให้เอ็มถามเขาต่ออีกได้

“พี่ว่าพี่เริ่มอยากรู้จักเราให้มากขึ้นแล้วแหละ พี่อยากจะรู้ว่าเราจะพูดมากแค่ไหนกัน”  พีชชักสีหน้าทันทีที่ได้ยินเอ็มพูดแบบนั้นเอ็มเมื่อเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกดีที่ได้เห็นอารมณ์อีกอารมณ์หนึ่งได้เห็นสีหน้าอีกสีหน้าหนึ่งของพีชในตอนนี้

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ฝากนิยายด้วยนะคะ เจอกันใหม่วันศุกร์ค่ะ

ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ up! 26052560
«ตอบ #3 เมื่อ26-05-2017 17:12:00 »

คนของหัวใจ

ตอนที่ 2

 วันเปิดเทอม ณ มหาวิทยาลัย NS คณะมนุษย์ฯ ผมพีชครับเด็กปีหนึ่งใสๆ
หลังจากที่พี่เอ็มพี่ของไอ้คุณโอมเพื่อนใหม่ของผมพาไปเลี้ยงข้าวนั้น ที่จริงต้องบอกว่าเขาเลี้ยงข้าวน้องของเขาแต่ผมไอ้พีชยอดชายนายสุดหล่อคนนี้ดั๊นได้จับผลัดจับผลูไปกับเขา
และตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ พี่มันก็ตามติดผมจนยอดชายนายพีชคนนี้ก็คิดนะว่าคุณมึงจะตามติดกระผมไปไหนวะครับ รำคาญนะครับไม่ใช่ไร
ว่าแต่ผมยังไม่แนะนำตัวเลยนี่นา สวัสดีครับ ผมนายพชรพล  ตระกูลเจริญไพศาล ชื่อเล่นก็พีช สูง 178 หน้าตาก็จืดๆ ตี๋ๆ ไม่รู้อะครับผมไม่ได้หน้าตาดีนะ แต่ทำไมไอ้พี่เอ็มมันมาตามผมอยู่ได้

“น้องพีชครับ วันนี้ไปกินข้าวกับพี่นะครับ” นั่นไงครับพูดไม่ทันขาดคำ พี่มันก็มาอีกแล้วครับ จะอะไรกันนักกันหนาก็ไม่รู้ ที่จริงผมไม่ใช่คนเงียบๆนะครับ ผมแค่ขี้เกียจพูดมากกว่า ผมมันประเภทคิดเองคนเดียวในใจ จะเรียกอีกอย่างว่า เก่งแค่ปากกับเก่งแค่พูดในใจก็ได้ครับ ผมไม่ถือ

“พี่เอ็มครับ พี่เป็นไรกับผมมากไหมเนี่ย” ผมถามออกไปด้วยความสุดจะทนแล้วครับ มาชวนอะไรผมนักหนาทำไมไม่ไปชวนไอ้คุณโอมน้องเขาละครับ

“พี่บอกแล้วไงครับว่าพี่อยากรู้จักเราให้มากกว่านี้น่ะ” นี่พี่มันเอาจริงเหรอวะครับ เวรกรรมอะไรของผมวะเนี่ย ผมยังอยากมีเมียเป็นผู้หญิงนะครับไม่ใช่คนที่ตัวสูงกว่าแถมตัวหนาเป็นหมีขนาดนี้มาเป็นเมียนะเว้ยเฮ้ย ไอ้พี่เอ็มมึงนี่มันทำให้ความมั่นใจของผมลดถอยลงไปมากเลย อยู่ๆผมก็มีพี่ชายเพื่อนมาตามจีบแบบนี้ ย้ำนะครับพี่ชายเพื่อน!!!
“พี่เอ็มครับ แต่ผมเป็นผู้ชายไงครับ ผู้ชายที่มีไอ้นั่นเหมือนพี่อะ แถมผมไม่เล็กด้วยนะ” อ้าวไอ้พีชไปบอกเขาทำไมว่ามึงไม่เล็ก ดูช่างแอร์ในตำนานเยอะไปเปล่าวะ
“ไอ้พีชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชช”  ผมหันไปตามเสียงเรียก เอ่อ เอาเป็นว่าเสียงตะโกนของคุณโอมน้องชายพี่เอ็มที่กำลังวิ่งกระหืดกระหอบมาทางนี้

“มีอะไรครับคุณโอม แล้ววิ่งมาจากไหนครับเนี่ย ดูสิเหมือนหมาหอบแดดเลยครับ” ผมมองคุณโอมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วส่ายหน้าแบบว่ารับไม่ได้ ก็ดูสิหน้าตาก็ดี ตัวเล็กๆน่ารักเหมือนหมากระเป๋าที่พกพาสะดวกขนาดนี้แต่พอมีเหงื่อก็ดูน่าทุเรศดีนะครับว่าไหม

“อ้าวมึง ปากเสียละไอ้พีช” ว่าจบคุณโอมก็เข้ามากระชากหัวผม คุณเขามีความพยายามมากครับเตี้ยกว่าผมเกือบ 10 เซนได้ยังกระชากหัวผมถึงอีก ยอมใจจริงๆ

“โอ้ยยยยย หัวผม จะดึงให้หลุดจากคอรึไงวะครับ” คุณโอมเขาผลักหัวผมอีกทีก่อนจะใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากผมแรงๆ หนึ่งที ก่อนจะพูดบอกธุระของตัวเองออกมา

“กูจะชวนมึงไปกินข้าวว่ะพีช ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ กูไม่อยากไปกับไอ้บ้านั่นอะ” คุณโอมขอร้องผม ไม่สิ พูดแบบนี้เรียกว่าบังคับเถอะครับ บ้าอำนาจทั้งพี่ทั้งน้อง

“ไม่ได้ครับน้องโอม พี่จองตัวเพื่อนน้องโอมแล้ว เราอะมาช้าไป ไปครับน้องพีชเราไปกันเถอะ” พี่เอ็มหันไปพูดกับน้องตัวเองก่อนจะหันมามัดมือชกผมด้วยการลากผมออกมาขึ้นรถของตัวเอง โดยที่เขาไม่สนใจน้องตัวเองที่ยืนอ้าปากค้างมองผมโดนตัวเองลากอยู่เลย

“ปล่อยผมสิครับพี่เอ็ม แม่งเนียนเลยนะ”

“ช่วยไม่ได้ เราอยากปฎิเสธพี่ไม่ทันเองทำไมละ” เมื่อได้ยินที่เขาตอบผมเช่นนั้น ผมก็อยากจะกระโดดเตะสักทีให้หายแค้นจริงๆ

“ช่างเถอะครับ รีบไปกินกันเถอะ ผมมีเรียนต่อบ่ายสองนะ” ผมถอนหายใจดังเฮ้อ ก่อนจะพูดบอกเขาออกมา เมื่อเขาได้ยินดังนั้นแทนที่จะสำนึกบ้างอะไรบ้าง ไม่มีเถอะครับกับคนแบบนี้ ยกยิ้มเฉยเลยแถมยกมือมาขยี้ผมผมอีก

เกินไปแล้วครับพี่มันเกินไปแล้ว รู้ครับว่าหล่อ อบอุ่นประดุจดวงอาทิตย์ดวงที่สองของโลกใบนี้ แต่มึงครับอย่าขยี้ผมกูให้มากครับ มันเสียทรงเมื่อกี้น้องมึงก็โยกหัวกูไปทีนึงแล้วไง ให้เกียรติการตืนมาเซทผมของผมตั้งแต่เช้าด้วยครับ

“อะไรเล่า อย่าขยี้หัวพีชสิ จะไปก็ไป รีบๆออกรถเลย” ผมพูดบอกพร้อมทั้งหันหน้าไปอีกทางหนึ่ง ไม่หันไปมองหรอก หมั่นไส้แม่ง หางตาแอบชำเลืองเห็นนะเว้ย เห็นนะว่าไอ้เหี้ยพี่เอ็มมันยิ้มอะ ยิ้มไรวะเดี๋ยวเจอกัน

หลังจากกินข้าวเสร็จพี่มันก็มาส่งผมที่คณะแหละครับก่อนที่ผมจะลงพี่มันก็เอื้อมมือมาคว้าแขนผมไว้

“น้องพีช ขอเบอร์หน่อยดิ ที่จริงถ้าพี่จะเอาเบอร์เราพี่ก็หาได้นะแต่พี่อยากขอจากเราเองมากกว่า พี่อยากแสดงความจริงใจของพี่ให้เราเห็นอ่ะครับ” อ้าว เอาแล้วไงครับ ผมจ้องหน้าพี่เอ็มนานพอสมควรอะครับ จ้องหาอะไรสักอย่าง จนพี่เขากระตุกแขนผมเหมือนกับเร่งให้ผมตัดสินใจเร็วๆ
“เฮ้อ ก็ได้ครับ เอามือถือพี่มาสิ” แล้วพี่เขาก็ส่งมือถือของเขามาให้พร้อมกับรอยยิ้มกว้างๆ ของพี่เขานั่นเอง อ้าวเฮ้ย ใจสั่นเลยอะ แม่งไอ้ใจไม่รักดีแค่เขายิ้มก็ใจสั่น สั่นทำไมอะ งง
ฝ่าแดดร้อนฆ่าพ่อมาถึงคณะได้ ผมก็เดินตรงเข้ามาที่ห้องเรียนครับ เหลืออีก 15 นาทีกว่าจะถึงเวลาเรียน ผมเลยโทรไปหาคุณโอมให้ซื้อลูกอมมาให้ด้วย เมื่อกี้ผมลืมซื้อมาด้วยเนื่องจากแดดที่ร้อนมากนั่นเอง คุณโอมก็บ่นไปตามประสาเขานั่นแหละครับ จนผมต้องรีบชิ่งวางสายไปเสียก่อนไม่งั้นยาวแน่ๆ

Tru…Tru…Tru

เบอร์ใครวะ เบอร์แปลกโทรมาไม่ค่อยอยากรับเลย กลัวว่าจะเป็นพวก ยินดีด้วยค่ะคุณได้รับ บลา บลา

“สวัสดีครับ พีชพูดครับ” ผมตัดสินใจรับครับ เพราะอะไรก็ไม่รู้ ปกติก็ไม่ค่อยรับเบอร์แปลกอยู่แล้ว และนิสัยข้อนี้ก็ทำให้ผมโดนพ่อแม่ และเพื่อนๆ ว่าประจำเลยครับ

“ครับที่รักครับ พี่รู้แล้วว่าเรา เราลืมกระเป๋าตังไว้ที่รถพี่อะ” เมื่อได้ยินที่พี่เอ็มพูดบอกผมก็รีบตีๆตามตัวเพื่อหากระเป๋าตัวเอง แน่นอนครับไม่เจอหรอก _*_ ก็พี่มันบอกว่ากระเป๋าตังผม ผมลืมไว้ที่รถมันนิ

“มาที่รงที่รักอะไรครับคุณ บ้าบอเดี๋ยวเลิกเรียนผมไปเอากับพี่ที่คณะก็ได้ครับ” ผมพูดบอกพร้อมทั้งนัดแนะเวลาสถานที่ที่จะไปเอากระเป๋าตังคืน

“หื้ม จะมา “เอา” กับพี่ที่คณะเลยเหรอครับ ไม่ดีมั้ง พี่ว่าเราไป “เอา” ที่อื่นดีไหมครับ” ไอ้เหี้ยพี่เอ็มมึงนี่มันทะลึ่งจริงๆเลยโว้ย เน้นคำว่าเอาเสียจนผมร้อนหน้าหมดแล้วเนี่ย ที่ร้อนๆที่หน้านี่คือโกรธนะครับไม่ได้เขินแต่อย่างใด โปรดอย่าเข้าใจผิดไป

“ผมหมายถึงไปเอากระเป๋าตังครับ ได้โปรดอย่าเพ้อคิดไปเป็นอย่างอื่นสิครับคุณ แค่นี้นะจารย์จะเข้าแล้ว” ผมพูดบอกพร้อมทั้งตัดสายไป

บรรยากาศในห้องเรียนไม่น่าพิสมัยมากนักนะ มันน่าเบื่อมากครับสังคม แบบอยากอัดเสียงจารย์แล้วเอาไว้ฟังเวลาที่นอนไม่หลับจริงๆมันน่าจะช่วยได้นะผมว่าผมฝืนตัวเองไม่ไหวแล้วครับเปลือกตาพร้อมที่จะหล่นลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก ผมจะไม่นอน
ผมจะไม่นอน....
         ผมจะไม่.....
              ผมจะ...
                   ผม..
ผมรู้สึกตัวอีกทีก็คุณโอมปลุกผมท้ายคาบอะครับ หลังจากที่ปลุกผมแล้วคุณโอมก็โดนเพื่อนในห้องลากไปไหนก็ไม่รู้ คุณโอมก็โวยวายไปตลอดทางแหละครับ ผมอยากรู้เรื่องของคุณโอมกับเพื่อนคนนั้นจังเลย เรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำแน่ๆ หมอพีชฟันเฟิร์ม สะบัดหนังสือในมือไปมา พรึบพรับ อุวะฮ่าๆ

Tru…Tru…Tru

พี่เอ็มโทรมาตามแล้วละครับ จะรีบอะไรนักหนาวะกำลังจะไปนี่ไง

“ครับพี่เอ็ม พีชกำลังไปครับ ครับ สวัสดีครับ” รีบไปดีกว่าว่ะ เดี๋ยวพี่แกรอนานแล้วจะพาลมาโมโหเราอีก เป็นไงครับคล้องจองไหม







++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่ะ ชื่อเพลงนะคะ เพิ่งลงนิยายที่นี่เป็นครั้งแรกยังงงๆอยู่เลย
ยังไงก็ฝากติดตาม #คนของหัวใจ ด้วยนะคะ
เจอกันใหม่วันจันทร์ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2017 17:19:10 โดย Pleanplang »

ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ up! ตอนที่ 3 29/05/2560
«ตอบ #4 เมื่อ29-05-2017 21:18:51 »

คนของหัวใจ

ตอนที่3
คุณเคยเจอสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หรือหันไปทางซ้ายแล้วเจอหมาดัก พอหันไปทางขวาก็เจอตัวเหี้ยมั้ย นั่นแหละครับสถานการณ์ที่ผมกำลังเผชิญอยู่ ณ ตอนนี้
ผมมองดอกไม้ที่คนตรงหน้ายื่นมาให้ด้วยความรู้สึกที่อยากกระโดดถีบยอดหน้าแม่งให้หงายหลังแล้วเดินหนีไปให้สุดขอบฟ้าให้พ้นจากสถานการณ์แย่ๆ ที่ผมกำลังเจออยู่ตอนนี้

“ว่าไงครับน้องพีช รับดอกไม้จากพี่ไปสักทีสิครับ พี่เมื่อยแล้วน๊า” เมื่อยพ่อง น๊าพ่อง แล้วทำไมชีวิตคนหล่ออย่างไอ้พีชคนนี้ถึงมีแต่ตัวผู้เข้ามาจ้องเข้ามาอยากจะจับจองเป็นเจ้าของกูจังวะ
อ่า ทุกคนยังไม่รู้จักไอ้คนที่ยื่นดอกไม้ให้ผมใช่ไหมครับ คนที่หน้าตาพอดูได้แต่ริอาจจะเป็นกะเทยควายถึกที่ยื่นดอกไม้อยู่ตรงหน้าผมนี้ มันชื่อ เท็มครับ ถามว่ารู้ได้ไง ผมเพิ่งได้ยินเพื่อนๆมันเรียกเมื่อกี้เลยครับ สังคม

“ว่าไงน้องพีช พี่ชอบเราจริงๆนะ ในชีวิตนี้เกิดมาไม่เคยชอบใครมากมายเท่าที่พี่ชอบเราเลยนะครับ”

“เอ่อ.....” ผมหันไปมองข้างๆ เพื่อหาตัวช่วย แต่ว่าไอ้คุณโอมเพื่อนสุดที่วรั๊กส์แมร่งก็หายหัวไปไหนก็ไม่รู้ มองไปข้างๆ อีกครั้งก็เจอแต่พวกไทยมุง ฮือ สังคมครับช่วยผมช่วย ผมกลัววววววว

“เอ่อ ผะ ผม กะ กู เอ่อ คือ แบบว่า แบบ” โถ่วววไอ้พีชคนแมนพูดดีๆสิวะ มึงเป็นโรคเหรอติดอ่างตอนนี้อะ พูดออกไปเลยว่ามึงไม่ชอบผู้ชาย พูดออกป๊ายยยยยยยยยยยย กูบอกให้พรูด!!!

“น้องพีชครับ คือว่าอะไรครับ อ่อ น้องพีชจะบอกว่า น้องพีชก็ชอบพี่เหมือนกันใช่มั๊ยครับ แหมเขิงจังเลยครับ”  ไอ้เท็มนี่มึง มโนหนักมากไอ้ควาย แล้วดูมัน มาขงมาเขิง เขิงเหี้ยไร เขินก็เขินสิครับ เหยดแม่ (เขิงคือขั้นกว่าของคำว่าเขิน)
“เปล่าครับ ผมมีแฟนแล้วครับ” พูดออกไปแล้ว แล้วไหนแฟนมึงอะพีชหน๊ายย

“ใครอะ พี่รู้จักไหมครับ” ไม่ มึงไม่รู้จักหรอกไอ้พี่เท็ม เพราะกูไม่มีแฟนไงเล่า

“คงไม่อะครับ เพราะ เพราะเขาไม่ได้เรียนคณะนี้อะครับ” แถไปอีกพีช แถไปอีกเยอะๆ

“บอกชื่อมาเถอะครับ เผื่อพี่รู้จัก” ตื้อจริงเว้ย ใจผมแวบคิดถึงไอ้พี่เอ็ม อ้างไปก่อนได้ป่ะวะ มันคงไม่รู้หรอก

“ชะ ชะ ชื่อพี่เอ็มครับ” บอกไปแล้ว ฮือ ชีวิตไอ้พีชคนหล่อทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยครับ สังคม

“เอ็ม ปีสาม วิทย์กีฬาอะเหรอ”

“ครับ”

“แล้วก็ไม่บอกพี่ตั้งแต่แรกละ พี่เป็นเพื่อนกับมัน ยังไงพี่ก็ขอโทษด้วยนะครับ พี่ไปแล้วนะ” รู้จักไม่พอกระแดะเป็นเพื่อนกันไปอีก หวังว่าชีวิตผมคงไม่วุ่นวายไปมากกว่านี้นะครับ สังคม

“เฮ้ย ไอ้พีช เป็นไงมั่งวะ ฉากสารภาพรักบันลือโลก แต่ต้องช็อคโลกมากกว่าเพราะดั๊นไปบอกว่าเป็นแฟนพีชายกู” มันมาแล้วครับไอ้เหี้ยโอม ไอ้เพื่อนเหี้ย ณ ตอนนี้ไม่เรียกมันว่าคุณแล้ว ไม่พูดสุภาพด้วยแม่งแล้ว ฮือ เลวมากทิ้งผมไปให้ผมมาแก้ปัญหาบ้าบอนี้เอง แล้วก็โผล่หัวมาทำไมตอนนี้ ทำอะไรไม่ได้มองค้อนดีกว่า หึ สะบัดหน้าหนีด้วย ไม่มีใครเข้าใจผมหรอก สังคม
Tru….tru…tru

พี่เอ็มโทรมาเหมือนมีญาณหยั่งรู้เลยครับสังคม

“สวัสดีครับพี่เอ็ม มะ มีอะไรหรือเปล่าครับ” รับสายมันด้วยใจเต้นตุบๆต่อมๆ

“อ้าวทำไมแฟนทักพี่แบบนี้ละครับไม่น่ารักเลย หุหุฮ่าๆ” ดูแม่งไอ้ควายหัวเราะอยู่นั่นแหละแล้วข่าวเร็วเหลือเกินนะมึง ไอ้เท็มหน้าปลวกคาบไปบอกน่ะสิ ควาย

“แฟน เฟง อะไรกันละพี่ ผมยืมชื่อพี่มากันหมาเฉยๆว่ะ กันหมาอะกันหมาเข้าใจป่ะ”  ไม่ได้เรื่องนี้ผมต้องแก้ความเข้าใจผิดก่อน ไม่งั้นไอ้พี่เอ็มมันไม่ปล่อยผมไว้แน่ สังคม

“กันหมาอะไรกัน เดี๋ยวเราก็ได้เป็นแฟนกันแล้วนี่นา เนอะ วันนี้ไปดูหนังกันไหมครับ หืม” อีกละชวนกูไปอีกครั้ง ถามว่าปฎิเสธไหมบอกเลยว่าไม่ ปฏิเสธทำไมครับสังคม ของฟรีก็ไปเถอะ ประหยัดเงินได้ด้วยนะงานนี้

“ไปครับไป แล้วใครจะเป็นแฟนพี่ไม่ทราบ มั่วว่ะ”

“ก็เราไง โอเคนะรออยู่ตรงที่เดิมละกัน เดี๋ยวพี่ไปรับเราเอง บายครับ”

“ครับ บายครับ” กดตัดสายพร้อมทั้งเดินไปรอพี่มันอยู่ที่เดิมดีกว่า ไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆ กลัวสายตาของคนรอบข้าง ว่าแล้วก็รีบเดินไปดีกว่าไม่อยากคุยกับคุณโอมเหมือนกันครับ งอนแรงมากบอกเลย
ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นดูหนัง

“จะดูเรื่องอะไรครับคุณแฟน” โว้ยนี่ก็ล้อไม่เลิก จากที่ไม่เขินก็เริ่มเขินแล้วครับสังคม

“ก็พี่เป็นคนชวนผมมาไม่ใช่เหรอ พี่จะดูเรื่องไรก็ดูสิครับ”

“หืม ไม่ได้ พี่พาเรามาพี่ก็ต้องตามใจเราสิครับเด็กดี เลือกเราเราอยากดูเรื่องไรครับ” เอาเลยครับพี่ เอาเลยหยอดผมอีก หยอดให้ผมตัวระเบิด แก้มระเบิดไปเลย แงงงไม่ไหวแล้วครับ หน้าเน่อ ร้อนไปหมดแล้ว สังคมช่วยผมด้วย

“ดูเรื่องนี้แล้วกันครับ เหมือนจะสนุก งั้นผมไปซื้อป็อปคอร์นนะครับ” ผมชี้ไปที่หนังเรื่องหนึ่งที่ผมอยากดูพอดี ก่อนจะขอออกมาซื้อป็อปคอร์นเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า แบบนี้ไม่ไหวครับอันตรายกับหัวใจผมมากเกินไปแล้ว

สิบนาทีต่อมา........
ผมกับพี่เอ็มเข้ามาในโรงหนังแล้วครับตอนนี้ก็เข้ามานั่งที่นั่งใครที่นั่งมันแล้วละครับ ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี หนังเริ่มฉายโฆษณาที่นานมาก นานจนแบบถ้าหลับไปตื่นมาหนังก็ยังไม่ฉายอะครับ แต่ผมชอบนะครับชอบดูโฆษณาหนังดูว่าโปรแกรมหน้าจะมีเรื่องอะไรเข้าโรงบ้าง แล้วเรื่องอะไรที่น่าสนใจบ้าง
หมับ! ผมหันไปมองคนที่เนียนจับมือผม ผมจะดึงมือออกก็ดึงไม่ได้ แม่งแรงควายฉิบหาย

“พีช อยู่นิ่งๆ พี่อยู่หนังไม่รู้เรื่องครับ” มึงก็ปล่อยมือกูสักทีสิแม่ง
“พี่ก็ปล่อยมือผมสิ ผมกินป็อปคอร์นไม่ได้ ผมหิว”

“แล้วก็ไม่บอก อะ พี่ป้อน มองไรครับ พี่ป้อนแล้วเนี่ย”
ฮึ่ย มันสะบัดกลับมามองจอหนังที่อยู่ข้างหน้า ก่อนจะลุกขึ้นทำทำความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ระหว่างนั้นผมก็สะบัดมือหลุดแล้วครับ ฮู้ว คิดว่าจะสะบัดไม่ออกละครับ





แปะ ผมสะดุ้งแล้วรีบหันไปมองคนข้างๆ สิ่งที่ผมได้เห็นนั้นคือ ภาพที่พี่เอ็มมันหลับแล้วแล้วเอนหัวมาพิงกับไหล่ผมครับทุกคน พี่มันแกล้งผมปะวะ

“พี่เอ็มครับ พี่เอ็ม” ผมก้มลงไปมองใบหน้าที่หลับตาพริ้ม เขาทั้งเขย่ามือทั้งเรียกพี่แกด้วยเสียงอันเบาราวกับกระซิบให้พี่มันตื่น แต่พี่มันก็ไม่ตื่น งั้นก็ปล่อยมันเถอะครับผมไม่ซีเรียสเรื่องแค่นี้เอง

“เฮ้อ ปล่อยให้นอนก็ได้ว่ะ” เพราะความเกรงใจคนในโรงหนังเขาจึงเลิกปลุกแล้วทั้งหันไปสนใจหน้าข้างหน้าแทนโดยที่พีชไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่นอนพิงไหล่ของตนนั้นกำลังแอบยิ้มอยู่
 
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันนี้เพลงมาลงซะดึกเลย ช่วงนี้เพลงติดเกมหนักมากค่ะ แฮะๆ และอีกอย่างวันนี้เพื่อนเพลงปล่อยเพลงใหม่ด้วยเลยรอฟัง
ยังไงก้ฝาก #คนของหัวใจ ด้วยนะคะ

ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ up! ตอนที่ 4 03/06/2560
«ตอบ #5 เมื่อ03-06-2017 10:08:04 »

คนของหัวใจ

ตอนที่ 4


หลังจากเดินออกจากโรงหนังกันแล้ว ผมกำลังจะคิดหาวิธีชิ่งหนีพี่เอ็มอยู่นั้นเอง พี่เอ็มมันก็ดับความฝันผมด้วยการชวนผมมากินข้าวมื้อดึก
“พีชไปกินข้าวด้วยกันหน่อย”
“ใครเขาจะอยากไปด้วย ไม่ไปครับผมเมื่อยตัว ผมเพลีย ผมอยากอาบน้ำ” วินาทีนี้คิดอะไรออกก็พูดๆออกไปครับ พูดออกไปเผื่อพี่มันเห็นใจแล้วปล่อยผมกลับบ้านสักที
“กินข้าวกับพี่ก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่หอนะ” ก็ได้ ก็ได้ ผมพยักหน้าให้พี่เอ็ม หลังจากนั้นพี่มันก็ลากผมไปขึ้นรถทันที
“เราจะไปกินข้าวกันที่ไหนครับ” ผมหันไปถามคนขับรถซึ่งก็คือพี่เอ็มนี่แหละครับ ตอนแรกผมคิดว่ากินในห้างเสียอีก ไม่ใช่ผมติดหรูนะแต่ผมคิดว่าพี่มันน่าจะขี้เกียจขับรถ
“เดี๋ยวเราก็รู้เองแหละ” เมื่อได้ยินแบบนั้นผมเลยถอนหายใจแล้วหันหน้าไปทางหน้าต่างมองดูวิวข้างทางจะดีกว่าอีกครับ ทั้งๆที่วิวข้างทางก็มีแต่รถเนี่ย
พี่เอ็มขับรถได้ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ ร้านที่พี่มันแวะพาผมมากินข้าว ร้านชายสี่บะหมี่เกี๊ยวข้างทางธรรมดาๆนี่แหละครับ อะไรวะไหนบอกว่าพาไปกินข้าวไง ก๋วยเตี๋ยวมันใช่ข้าวที่ไหนเล่า
“พี่เอ็มไหนข้าวครับ นี่มันก๋วยเตี๋ยวชัดๆ”
“ฮ่ะ ฮ่ะ เรานี่น๊า” ผมอะไร ผมทำไม แล้วเอามือมาขยี้หัวผมอีกแล้ว เป็นอะไรกับผมของผมมากไหมเนี่ย แต่ดีที่ตอนนี้มันดึกแล้วไงผมมันจะเสียทรงก็ช่างมันเถอะครับ
“ก็นี่ไง พี่สั่งเกาเหลามากินกับข้าวไงครับ เห็นไหมว่ามันมีข้าว เราต่างหากล่ะที่กินเส้นคนเดียว ว๊าย กิ้ว กิ้ว” กิ้วพ่อง ว๊ายพ่อง ไอ้พี่เอ็มไอ้สันขวานสนุกมากไหมละสังคม ผมทำหน้าระอาพร้อมทั้งถอนหายใจใส่ไปหนึ่งทียาวๆ
“รีบกินกันเถอะพี่ ผมง่วงแล้ว” ผมตัดบทพร้อมทั้งบอกให้พี่มันรีบกินเดี๋ยวพี่มันพูดอะไรออกมาอีกจะทำให้ผมพาลกินข้าวไม่ลง เบื่อหน้ามันเต็มทีละ
นั่น ยังอีก ยัง ยังแอบยิ้มอีก แม่งอารมณ์เสียแล้วนะ ฮึ่ย!! และก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรออกไป พนักงานก็เอาก๋วยเตี๋ยวของผมกับเกาเหลาของพี่มันมาเสิร์ฟ รอดตัวไป อะไรนะครับ อ๋อที่บอกว่ารอดตัวไปนั้นเหรอ ผมไง ผมเองที่รอดตัวจากการที่จะโดนพี่มันล้ออีกไง ว่าแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินราวกับว่าวันนี้ทั้งวันผมยังไม่ได้กินอะไรมาเลย ฮ้า อิ่มจังตังอยู่ไม่ครบ เพราะผมซื้อป็อปคอร์นกินตอนดูหนังไปแล้ว
มหาวิทยาลัย NS
“บอกมาเลยนะ เมื่อวานมึงไปกินข้าวดูหนังกับพี่ชายกูใช่ไหม บอกมาเลย” เสียงคุณโอมถามผม ทำเป็นเข้มเค้นเสียงให้ดูน่ากลัวๆ บอกเลยว่าความรู้สึกของผมในตอนนี้นั้นห่างไกลจากคำว่ากลัวมากครับ ทุกคนคิดดูนะคนตัวเล็กๆ ตาโตๆ สูงเท่าหมากระเป๋าทำเสียงเป็นหมาเห่าบ็อก บ็อก ใครจะไปกลัวลงวะ สังคม
“ใช่ครับ ผมไปดูหนังกับพี่ชายคุณโอมมาครับ ไม่ทราบว่าคุณโอมจะอยากรู้ไปทำไมครับ” ผมตอบออกไปพร้อมทั้งถามคุณโอมกลับอีกด้วย ร้อยวันพันปีไม่เคยจะอยากรู้อะไรเลยและนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อยที่ผมไปกินข้าวกับพี่ชายเขาน่ะ
“อ้าว มึงตอบกูง่ายๆ แบบนี้กูจะไปยังไงต่อดี อะไรว๊าเล่นตัวหน่อยสิ แบบ คุณโอมรู้ได้ยังไงครับ หรือไม่ก็ เปล่าครับผมไม่ได้ไปครับ อะไรแบบเนี่ย” อ้าวคุณโอมมึงปัญญาอ่อนป่ะเนี่ย ก็กูไปจริงๆ จะให้กูปฏิเสธทำไมครับ ผมล่ะไม่เข้าใจคุณโอมจริงๆ เหอะ
-*-
“อะไร มึง ทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไง”
“เปล่าครับ อ๊ะ คุณโอมครับ โทรศัพท์คุณโอมเข้าหรือเปล่าครับ ผมได้ยินเสียงละ” ผมพูดบอกคุณโอมพร้อมทั้งเหลือบมองชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอนั้นด้วยละครับ “กวนตีน” นี่คือชื่อที่คุณโอมเซฟไว้ละครับ แต่ผมรู้นะว่าใครคือเจ้าของชื่อ กวนตีน นั้น เพราะหน้าจอมันโชว์รูปไงครับ
“จิ๊ มึงนี่ ช่างแม่งกูไม่รับหรอก พีชไปกันเถอะได้เวลาเรียนละ” คุณโอมครับผมอยากรู้เรื่องของคุณโอมกับพื่อนคนนั้นอะครับจะว่าผมเสือกก็ได้นะ ผมยอมรับครับสังคมก็ผมกำลังอยากเสือกอยู่จริงๆนี่ครับสังคม
“ทำไมคุณโอมไม่รับละครับ แล้วคุณโอมกับเขาเป็นอะไรกันครับ บอกผมมาเลยนะครับเดี๋ยวนี้เลย” คดีพลิกว่ะครับสังคม ตอนนี้ผมกลายเป็นคนเค้นคุณโอมแทนแล้วครับ ผมนี่นอกจากจะหล่อแล้วยังเก่งอีก เฮ้อ ลำบากใจจังครับ
“ไม่มีอะไรเว้ย กูบอกว่ามันถึงเวลาเรียนแล้ว และเราต้องไปเรียนกันเดี๋ยวนี้เลย แต่ถ้ามึงยังชักช้ากูจะให้พี่ชายกูมาช่วยมึงชัก”
ผมอ้าปากพะงาบ พะงาบ ไอ้คุณโอมมึงนี่ทะลึ่งจริงเลยมันคนละชักแล้วไหมละ แพ้ ยกนี้ผมแพ้
“อะไรกันคุณโอมนี่ลามกไม่สมกับหน้าตาเลยนะครับ ไปเรียนดีกว่าเดี๋ยวผมจะให้เพื่อนคนนั้นมาช่วยคุณโอมชักละกัน” ผมว่าก่อนจะออกเดินนำคุณโอมไปเข้าเรียน หึ
“ไอ้พีชรอด้วยสิวะ” คุณโอมวิ่งดุ๊กดิ๊กแหกปากตะโกนพร้อมทั้งพยายามที่จะวิ่งมากอดคอและเตะผมไปพร้อมๆ กัน ขาสั้นแล้วไม่เจียม เฮ้อ
วันเสาร์สวรรค์ของผมมาถึงแล้ว อะไรจะดีไปกว่าวันหยุดเสาร์อาทิตย์แล้วไม่มีการบ้านหรือว่าการอ่านหนังสือรออยู่ครับสังคม สบายๆไม่เบื่อไม่เหงาเตียงนอนของเรา WIFIของเรา ฮูลาฮูล่า ฮูลาฮูล่า นอนกลิ้งไปมา
Tru…Tru..Tru
ผมหันไปมองเสียงโทรศัพท์มารความสุขในวันหยุดผม ใครวะใครกันที่โทรมาตอนนี้ ไม่น่ารักเลย ว่าแต่โทรศัพท์ผมวางอยู่ไหนกันนะ เมื่อคืนจำได้ว่าโยนทิ้งแถวๆตะกร้าเสื้อผ้า เอ๊ะ หรือว่าอยู่ในตู้เสื้อผ้ากันแน่นะ ช่างมันเถอะหาไม่เจอก็ไม่รับละกันง่ายดี ขี้เกียจลุกด้วย ก่อนที่เสียงโทรศัพท์จะเงียบไปในที่สุด ผมเคลิ้มหลับไปอีกรอบก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงเคาะประตูที่ดังราวกับคนเคาะแม่งกำลังรัวกลองอยู่นั่นแหละ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก....
ก๊อก ก๊อก ก๊อก....
ก๊อก ก๊อก ก๊อก....
ก๊อก ก๊อก ก๊อก....
ตอนแรกผมก็จะปล่อยใหมันเงียบไปเองแหละครับแต่ว่านี่มันถี่เกินไปแล้ว ผมสะลึมสะลือเดินไปเปิดประตูพร้อมกับดึงหน้าให้ตึงราวกับไปร้อยไหมมาพันเส้น ฉีดโบท็อกซ์มาสามรอบ พร้อมทั้งเตรียมมองจิกมองให้คนถูกมองตัวทะลุราวกับชาติที่แล้วผมเคยเกิดเป็นไก่ยังไงยังงั้น
ผ่าง !!!
“มาแล้วครับ ใจเย็นๆครับ เคาะครั้งเดียวก็พอแล้ว ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมเดินไปเปิดประตูพร้อมทั้งทำตัวอย่างที่ผมว่ามาข้างต้น เหรอครับ เหรอ
“อ้าวพี่เอ็ม มาทำไรครับ”
“พี่เอ็มครับ พี่เอ็ม” เอ่อ ไอ้พี่เอ็มมันมองอะไรของมันวะตาค้างเชียว ก่อนจะสะดุ้งเพราะผมเอามือไปแตะมือพี่เขา
“เอ่อ คะ คือว่า พี่จะชวนเราไปเที่ยวทะเลกันน่ะ”
“ทะเล ที่ไหนอะครับ แล้วผมไม่ไปครับ ผมง่วงผมจะนอน” บอกไม่อย่างไม่ต้องคิดครับ ณ วินาทีนี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่าการนอนอีกแล้ว
“ไม่ได้ครับ เราต้องไป พีชไปอาบน้ำแล้วเก็บเสื้อผ้าซะ อืม พี่ว่าไม่ต้องเก็บแล้วเสื้อผ้า เราแค่ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ก็พอ” อะไรของพี่มันวะก็บอกแล้วไงว่าไม่ไป ไม่ไปไงฟังภาษาไทยไม่ออกเหรอ
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ไปครับ ให้ตายก็ไม่ไป พี่กลับไปได้แล้วครับ” ผมบอกก่อนจะดันประตูปิด แต่พี่มันก็เอามือมาดันไว้
“จะไปเที่ยวทะเลกับพี่หรือว่าจะอยู่ห้องให้พี่ปล้ำดีครับ หืม ดูสิแต่งตัวแบบนี้มาเปิดประตูให้พี่ พี่จะถือว่าเรายั่วพี่นะครับ” ผมก้มลงมองชุดตัวเองทันที กางเกงบ็อกเซอร์ขอบยางยืดย้วยจนต้องมัดด้วยยางกับเสื้อเข้าค่ายตัวใหญ่ที่ผมขโมยของสโมฯมาหนึ่งตัวเลือกเอาที่ไซต์ใหญ่ๆหน่อยครับเพราะกะเอาไว้ว่าจะเอามาทำเป็นชุดนอน นี่มันน่าปล้ำมันทำให้พี่มันมีอารมณ์ตรงไหนเหรอครับสังคม ผมไม่เห็นเข้าใจเลย
“ว่าไงครับ ไปอาบน้ำครับถ้าพีชยังไม่ไปอาบน้ำพี่จะถือว่าเราอยากให้พี่ปล้ำแล้วนะครับ” ไม่พูดเปล่าไอ้เหี้ยพี่เอ็มแม่งเดินเข้ามาในห้องผมเฉยเลย ใครอนุญาตมันวะ สันดานเสียจริงๆ
“ก็ได้ครับ ผมไปอาบน้ำก็ได้ครับ บอกไว้ก่อนนะครับผมไม่ได้กลัวอะไรทั้งนั้น ผมแค่นึกได้ว่าผมอยากไปเที่ยวทะเลพอดีเลย พี่รออยู่ตรงนี้แหละ” ผมว่าก่อนจะเดินไปอาบน้ำทันที
เอ็มมองตามคนที่เข้าไปอาบน้ำด้วยรอยยิ้มที่เอ็มเองก็ไม่รู้ตัวว่าเขากำลังยิ้มออกมาด้วยซ้ำ  ในระหว่างที่รอพีชอาบน้ำอยู่นั้น เอ็มก็ได้กวาดสายตาสำรวจห้องของพีชไปด้วย
ห้องของพีชเป็นห้องที่เหมือนกับห้องพักนักศึกษาทั่วไป คือ เป็นห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่และก็ไม่เล็กเกินไปมากนัก จะบอกว่าเป็นห้องที่มีขนาดพอดีสำหรับคนที่อยู่คนเดียวก็ได้ ในห้องมีห้องนอนแฃะห้องน้ำที่น่าจะอยู่ในห้องนอนเพราะพีชบอกเขาว่าจะไปอาบน้ำแล้วก็เดินเข้าห้องนอนไป มีทีวีอยู่ภายในห้องอเนกประสงค์คือเป็นทั้งห้องนั่งเล่น นอนเล่น ดูทีวีและห้องครัวไปในตัว ถัดไปคือประตูระเบียงเอาไว้ตากผ้าและปลูกต้นไม้เล็กๆน้อยๆเท่านั้น ยังไม่ทันที่เขาจะได้เดินสำรวจพีชก็เดินออกมาพร้อมกระเป๋าที่เก็บเสื้อผ้าเรียบร้อย และชายหนุ่มหน้าหวานนิสัยแมวก็แต่งตัวเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
“พี่เอ็มครับ เราจะไปทะเลกันแล้วทะเลที่ว่านั่นคือที่ไหนครับ คือแบบว่า ผมตัดสินใจจะไปทะเลกับพี่แต่ผมยังไม่รู้อะไรเลยว่าเราจะไปทะเลที่ไหนและก็มีใครไปบ้าง” พีชถามออกไปด้วยความอยากรู้ และเมื่อเอ็มได้ยินพีชพูดถามเช่นนั้นเขาก็หลุดยิ้มออกมา
“พี่คิดว่าพีชจะไม่ถามแล้วเสียอีก” ยังไม่พี่เอ็มมันไม่ตอบแถมยังตอบคำถามผมด้วยการถามย้อนกลับด้วย แล้วคำถามผมเมื่อกี้มันชวนยิ้มตรงไหนวะสังคม
“ว่าไงครับพี่เอ็ม บอกผมมาเร็วๆเลยนะที่ผมถามพี่ไปเมื่อกี้น่ะ”
“อืม....เราไปทะเลที่ชะอำครับ แล้วเราก็ไปกัน 2 คน ครับ”
“แล้วโอมไม่ไปด้วยกันเหรอครับ แล้วทำไมพี่ไม่ชวนคนอื่นไปด้วยกันอะ” ผมถามออกไปด้วยความตกใจเมื่อรู้ว่าการไปทะเลครั้งนี้ทำไมเราไปกันแค่ 2 คนด้วย
“โอมเหรอพี่ไม่ได้ชวนครับ และคนอื่นพี่ก็ไม่ได้ชวน ส่วนที่ว่าทำไมเพราะพี่อยากเที่ยวกับเราสองคนนี่นา” พี่เอ็มพูดบอกผมพร้อมทั้งทำหน้าอ้อนทำตาอ้อนใส่ ฮือ ก็ได้ครับ ผมยอมแพ้ ผมแพ้ลูกอ้อนพี่เขา
“ไม่ต้องห่วงนะ พี่ไม่ปล้ำเราหรอกนอกจากว่าเราจะยินยอมให้พี่ปล้ำเราน่ะ” ไม่พูดเปล่าครับพี่เอ็มมันขยิบตาให้ผมด้วย ผมเลยแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นสายตาที่พี่เอ็มมันมองมา
“พี่สัญญาแล้วนะ งั้นก็ออกไปกันเถอะครับผมจะล็อคห้อง” พูดเสร็จผมก็รีบไล่พี่มันออกมาก่อนจะล็อคห้องแล้วเดินนำพี่มันลงไปที่รถ ที่รีบเดินนำมาก่อนนี่ไม่มีอะไรครับ ผมร้อนหน้ามันเลยร้อนๆตามยังไงไม่รู้
ตอนนี้เรามาถึงชะอำกันแล้วครับพี่เอ็มขับรถเร็วมากถึงมากที่สุดรถเมล์อัศวินราตรีในแฮร์รี่ พอตเตอร์ก็สู้ไม่ได้ความเร็วที่เร็วและอันตรายเบอร์นี้ และตอนนี้พี่เอ็มก็ไปติดต่อบ้านพักที่ได้จองไว้แต่แรกเมื่อทำเรื่องเช็คอินเสร็จเรียบร้อยผมและพี่เอ็มก็เอากระเป๋ามาเก็บไว้ที่บ้านพักกันครับ
บ้านพักที่พี่เอ็มติดต่อไว้นั้นจะค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง เงียบสงบมากเลยละครับ บ้านหลังนี้จะห่างจากบ้านหลังอื่นๆพอสมควรแหละครับ ผมว่านะถ้าพี่มันอยากอยู่เงียบๆ ทำไมไม่ไปอยู่ป่าช้าเลยนะ แฮร่ ผมล้อเล่นครับ
“พีช เดี๋ยวเราพักห้องนี้นะ ส่วนพี่จะพักห้องนี้ที่อยู่ตรงข้ามกับห้องของเรา” เมื่อผมได้ยินพี่เอ็มพูดบอก ผมก็แอบยิ้มทันทีครับที่พี่มันบอกว่าจะไม่ทำอะไรผมก็คือไม่ทำจริงๆด้วย ตอนแรกผมแอบคิดว่าพี่มันจะเช่าบ้านที่มีแค่ห้องนอนเพียงห้องเดียวเสียอีก
“ได้ครับ งั้นเดี๋ยวพีชเอาของไปเก็บไว้ก่อนนะครับ ส่วนพี่ก็เอาของไปเก็บและก็พักผ่อนซะนะขับมาไกลคงเหนื่อยน่าดูเลย” ผมพูดบอกพี่เอ็ม พี่เอ็มพยักหน้าเป็นอันรับรู้เราทั้งสองคนต่างก็แยกย้ายเข้าห้องใครห้องมันเพื่อเก็บของและพักผ่อนเตรียมตัวที่จะเล่นน้ำทะเลเย็นนี้

“พีช!!!! ไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้เลยนะ”
“อะไรของพี่ นี่มันก็ชุดเล่นน้ำทะเลก็ถูกแล้วนี่จะให้ไปเปลี่ยนเป็นแบบไหน บ้าบอ” พี่เอ็มมันเป็นบ้าอะไรของมันอีกเนี่ยสังคม อยู่ๆจะให้ผมไปเปลี่ยนชุดอะไรอีก มันมาอีกแล้วครับ ความบ้าบอ ความปัญญาอ่อนของพี่เอ็มมันเริ่มกำเริบอีกแล้วครับ
“มันไม่ดีครับเด็กดื้อ ชุดแบบนี้มันไม่ป้องกันแดดครับถ้าดื้อใส่เล่นน้ำผมดื้อต้องเสียแน่ๆและพี่ไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นแน่นอนครับ และที่สำคัญนะครับเสื้อกล้ามเนี่ยไว้ใส่ให้พี่ดูคนเดียวก็พอแล้ว เข้าใจไหมครับ”
-////- หน้าผมเมื่อได้ยินพี่เอ็มเรียกผมว่าดื้อ มาเรียกดงเรียกดื้อ งื้อ เขิงแล้วนะ ภาษาวิบัติมาแล้วครับ
“งั้น พะ พีชไปเปลี่ยนก็ได้ครับ” ผมพูดบอกก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนชุดทันที
รอบนี้ผมใส่เสื้อแขนยาวสีดำและกางเกงสามส่วนออกมาเลยครับ ผมอยากเล่นน้ำแล้ว
“ชุดนี้ผ่านยังคร๊าบบบบบบบบพี่เอ็มครับพอใจแล้วใช่ไหมครับ งั้นกระผมยอดชายนายพีชขอตัวไปเล่นน้ำก่อนนะครับผ้ม” ผมถ่มพี่เอ็มด้วยน้ำเสียงกวนๆ ก่อนจะจบลงด้วยการตะเบ๊ะท่าแบบทหาร
“อืม ให้ผ่านดีไหมน๊า” อืมพ่อง น๊าพ่อง ถ้ารอบนี้พี่มันยังไม่พอใจในชุดของผม ผมก็จะช่างแม่งแล้วเรื่องของมึงจะผ่านไม่ผ่านก็ช่างมันกูจะเล่นน้ำกูร้อนกูอยากลงน้ำ!!!!
-_- สีหน้าผมเมื่อพี่เอ็มยังยียวนไม่ยอมตอบสักที จนผมหมดความอดทนจะเดินออกไปเล่นน้ำพี่มันจึงคว้าแขนผมไว้
หมับ!
“โอ๋เอ๋ ผ่านแล้วครับเด็กดื้อ แต่พี่อยากให้เราใส่กางเกงขายาวมากกว่าสามส่วนนะ” พี่เอ็มพูดพร้อมทั้งยกมือข้างที่ไม่ได้จับแขนผมไว้มาขยี้ผมของผมเล่นอีกแล้ว พี่มันเป็นอะรากับผมของผมมากไหมครับสังคม ขอถามคำถามนี้ในใจอีกรอบ
“พี่จะบ้าป่ะเนี่ย เห็นผมทำตามนิดทำตามหน่อยไม่ได้เลยนะ เอาใหญ่เลยนะ เชิญพี่ประสาทกินไปคนเดียวเถอะ บ้าบอ และก็ช่วยปล่อยแขนผมด้วยครับ ผมจะไปเล่นน้ำ” พอผมพูดเสร็จผมก็ไม่รอพี่มันตอบอะไรกลับมาผมรีบวิ่งลงไปเล่นทะเลที่ส่งเสียงคลื่นมาเชิญชวนผมไปเล่นน้ำตั้งแต่มาถึง ทะเลจ๋าพี่มาแล้วจ๊ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อัพแล้วค่ะเมื่อวานลืมไปเลย แฮะๆ ขอโทษค่ะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: คนของหัวใจ up! ตอนที่ 4 03/06/2560
«ตอบ #6 เมื่อ03-06-2017 15:37:13 »

ใสๆๆๆน่ารักดี 2 คู่แน่ๆๆ

ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ up! ตอนที่ 5 05/06/2560
«ตอบ #7 เมื่อ05-06-2017 17:06:37 »

คนของหัวใจ

ตอนที่5



“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ไม่ไหวแล้วอ่าพี่เอ็ม ไม่เล่นแล้วเหนื่อย” เสียงลมหายใจที่หอบอย่างกับหมาหอบแดดนี้จะเป็นของใครไปไม่ได้ แน่นอนครับนอกจากของผมเอง คือแบบนี้ครับ หลังจากที่พี่มันปล่อยให้ผมมาเล่นน้ำตามที่ใจอยากแล้วนั้น ผมก็ลงเล่นน้ำคนเดียวเปล่าเปลี่ยวเอวาอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายเป็นเวลานานหลายชั่วโมง พี่เอ็มที่นอน (ตาก) อาบแดดอยู่ คงจะนึกขึ้นได้ว่าแดดตอนนี้ในเวลานี้มันแรงเกินกว่าจะนอนอาบได้และผิวของพี่มันก็เริ่มไหม้เกินความจำเป็นแล้วครับ พี่เอ็มมันถึงได้ลงมาเล่นน้ำกับผม แต่ระดับไอ้พี่เอ็มมันคงเล่นแบบธรรมดาไม่ได้มั้งครับ ถึงได้ท้าผมแข่งว่ายน้ำ แข่งกันอยู่หลายรอบผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะอยู่หลายครั้ง ถึงพี่เอ็มมันจะชนะมากกว่าก็เถอะครับ -_- แข่งกันอยู่สักพักผมก็พูดประโยคเมื่อกี้ออกไปอะแหละครับ ก็คนมันเหนื่อยแล้วครับทำไงได้ ที่สำคัญหิวแล้วด้วย

“ทำไมเหนื่อยง่ายจังเลยครับพีช นี่แค่พี่ท้าเราแข่งว่ายน้ำไม่กี่รอบเองนะ แล้วถ้าพี่ชวนเราทำอย่างอื่น เราจะเหนื่อยง่ายแบบนี้ไหมน๊า” ไม่พูดทำธรรมดาครับต้องทำหน้ากรุ้มกริ่มเวลาพูดด้วยนะครับ หล่อมากมายเลยละ เหอะ

“อย่ามาทะลึ่งครับพี่ ผมขอร้อง อ๊ะ อย่าเข้ามานะ เอ๊ะ อย่าเข้ามาไงครับ ย๊า บอกว่าอย่าเข้ามาไง!!”  ผมว่าพี่มันก่อนจะต้องร้องเสียงหลง เมื่อพี่มันทำท่าจะว่ายน้ำเข้ามาหาผม ว่ายเข้ามาดีๆ ใครจะไปว่าละครับ แต่พี่มันไม่ครับ พี่มันดันทำหน้าทำตาแบบพวกโรคจิตเป็นใคร ใครก็กลัวจริงไหมครับสังคม

“หึ หึ” หัวเราะเสียง หึ แบบคนโรคจิตใส่ผมอีก ยิ่งหัวเราะแบบนี้ยิ่งน่ากลัวขึ้นเยอะเลย

“โอเค โอเค พี่ไม่แกล้งแล้วครับ ไม่ต้องถอยทำท่าจะว่ายหนีพี่แล้วครับ” กึก สะดุดเลยครับ เมื่อได้ยินที่พี่มันพูดเท่านั้นแหละ ผมก็ยอมหยุดขาหยุดแขนที่กำลังถอยหลังและหยุดท่าทีความเตรียมพร้อมที่จะว่ายน้ำหนีพี่มันตลอดเวลา

“จริงนะ” ถามอีกครั้งครับเพื่อความแน่ใจ

“จริงครับ แต่ถ้าเรายังคงทำท่าทางแบบนี้และยังถามพี่อยู่อีกแล้วละก็ คราวนี้แหละพี่จะว่ายเข้าไปหาเราจริงๆ แล้วถ้าพี่จับตัวเราได้เมื่อไหร่นะ พี่จะจับเรามากอดๆ จูบๆ ให้พี่หายหมั่นเขี้ยวและเราหายกลัวพี่ไปเลยโอเคไหมครับ” โว๊ย พะ พี่มันจะรู้ไหมเนี่ย ยิ่งมันพูดแบบนี้ผมยิ่งกลัวมันอะ T^T

“แบบนี้ยิ่งกว่าโรคจิตแล้วครับพี่ครับ ละแล้วใครจะยอมให้พี่มาจับกอดๆจูบๆวะ ผะ ผมว่าผมขึ้นฝั่งดีกว่าว่ะ ส่วนพี่จะเล่นต่อหรือจะทำอะไรก็ตามใจพี่นะ ผมไปละ” ผมพูดก่อนจะเดินขึ้นฝั่งทันที ไม่ไหวครับไม่ไหว คนบ้าอะไรพูดเรื่องแบบนี้ได้หน้าตาเฉย

“ฮ่า ฮ่า อ้าวแล้วนั่นเราหน้าแดงทำไมครับดื้อ กิ๊ว กิ๊ว อยากยิ้มก้ยิ้มสิครับใครเขาจะว่าเราหืม” ไอ้เหี้ยพี่เอ็มแม่ง!!!!

แล้วที่แก้มผมมันแดงนี่เพราะอากาศมันร้อนหรอกครับ ทุกคนอย่าลืมสิครับว่าผมนายพีชคนนี้เล่นน้ำนานแล้วนะครับมันก็ต้องหน้าแดงเป็นธรรมดา เพราะสาเหตุนี้แหละครับหน้าผมมันเลยแดง แต่อากาศร้อนแล้วทำไมแก้มผมมันถึงปวดๆแบบนี้วะครับสังคม แบบมันจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม ฮือ ปวดแก้มแล้วครับสังคม ผมไม่ตอบมันหรอกครับ ตอบพี่มันไปเดี๋ยวพี่มันก็ย้อนมาให้เข้าตัวผมอีก รีบเดินดีกว่าจะได้ขึ้นฝั่งเร็วๆ

“รอพี่ด้วยสิครับ พีชครับรอพี่ด้วย”

เรื่องอะไรจะรอ ตอนนี้ผมเดินมาถึงชายฝั่งแล้วครับ  ตอนแรกที่ผมคิดไว้คือ พอขึ้นจากน้ำผมก็จะไปอาบน้ำแล้วก็หาไรกิน แต่ว่าตอนนี้ผมกำลังนั่งก่อทรายกับน้อง “อาร์ท” ละครับ งงกันละสิว่าน้องอาร์ทอะไรนี่มาได้ยังไง

ย้อนกลับไป 10 นาที ที่แล้ว

หมับ! กึก ! ผมตัวแข็งทื่อ อยู่ๆพี่เอ็มมันก็วิ่งมากอดผมจากด้านหลัง ด้วยความตกใจผมจึงยืนนิ่งแบบคนทำอะไรไม่ถูก

“พี่เอ็ม ทะ ทำอะไร” ทำไมเสียงผมมันเบาขนาดนี้ละครับยังไม่ทันที่พี่เอ็มจะได้ตอบผม ผมและพี่เอ็มก็ได้ยินเสียงนี้ลอยมาตามสายลมเสียก่อน

“แง แง แง๊ ฮือ ฮึก แงงงงงงงงงงง” เราทั้งคู่สะดุ้งไม่สิต้องบอกว่าผมคนเดียวครับที่สะดุ้งแรงมากและเพราะพี่เอ็มมันกอดผมอยู่มันเลยต้องสะดุ้งตามผมไปด้วย

“พะ พี่เอ็ม ปล่อยผมก่อนครับ สะ เสียงเด็กร้องไห้ เด็กที่ไหนมาร้องแถวนี้กันนะ”

“ไม่ปล่อยครับ” ยัง ยังคงตีหน้ามึนสม่ำเสมอไม่มีการปล่อยตัวผมใดๆทั้งสิ้น

“พี่เอ็ม!!!จะปล่อยไม่ปล่อยครับ” ผมทำเสียงเข้มเพื่อหวังว่าไอ้เหี้ยพี่เอ็มมันจะปล่อยตัวผมสักทีก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะ หึหึ จากพี่มันดังข้างๆหูผม

“โอ้ย!!! ดื้อพี่เจ็บนะ” ก็หยิกให้เจ็บไงครับไม่ทำให้เจ็บแล้วจะทำทำไม บ้าบอ และแทนที่พี่มันจะปล่อยเพราะความเจ็บแขนนะครับ มันกลับรัดตัวผมแน่นขึ้นไปอีก โอ้ยหายใจไม่ออกแล้วครับสังคม

“แล้วเราจะตกใจทำไมครับ หืม เดี๋ยวพ่อแม่เด็กเขาก็ปลอบกันเองแหละน่า” เมื่อได้ยินพี่เอ็มพูดเช่นนั้น ผมก็ออกอาการฮึดฮัดทำหน้างอ จนพี่มันยอมปล่อย รู้งี้ผมทำแบบนี้ตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง แต่ พอพี่เขาเลิกกอดผมแล้วพี่เขากลับจูงมือผมเดินไปตามแนวความยาวของชายหาดเรื่อยๆแทน

“พี่เอ็มครับ ผมไม่เดินเล่นแล้วนะครับ ผมจะกลับไปบ้านพักแล้ว ผมอยากอาบน้ำ” ผมว่าก่อนจะพยายามกระชากแขนผมออกจากอุ้งมือหมี แต่ก็อย่างว่าละครับพี่มันจะสะทกสะท้านอะไรกลับกระชัดมือของเราทั้งสองคนให้แน่นขึ้นไปอีก

ผมที่เริ่มจะเจ็บก็เลยยอมปล่อยให้พี่มันจับมือและเดินตามพี่มันไปเรื่อยๆ พอพี่เอ็มว่าผมยอมแพ้แล้วก็เลยยอมผ่อนแรงเปลี่ยนมาจับมือผมแบบสบายๆมากกว่า เราเดินไปเรื่อยๆโดยที่ไมได้พูดอะไรกันออกมาแต่เราก็รู้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวเพราะมีมือที่คอยจับกระชับไว้ตลอดเวลา

“อ๊ะ พี่เอ็มครับ นั่นเด็กนี่ครับ” ผมกระตุกมือพี่เอ็มพร้อมทั้งหันซ้ายหันขวามองหาพ่อแม่ของเด็กแต่ทว่าก็ไม่มีใคร

“พี่เอ็มปล่อยมือก่อนครับ เร็วๆครับผมจะไปดูน้อง ทำไมน้องมาอยู่ตรงนี้คนเดียวนะ พ่อแม่หายไปไหนหมดก็ไม่รู้” ผมบ่นไปเรื่อยแหละครับ พี่เอ็มเองเมื่อได้ยินผมบอกให้เขาปล่อยมือที่จับมือผมอยู่นั้น เขาก็ยอมปล่อยตามคำขอผมครับและก็เดินตามผมมาแบบเงียบๆ

ผมเดินเข้าไปหาน้องพร้อมทั้งคุกเขาลงต่อหน้าน้อง

“น้องครับ เป็นอะไรเอ่ยแล้วพ่อแม่หนูไปไหนครับ”

“ฮะ ฮึก อะ อาร์ทหกล้มฮับ แย้วพ่อกับแม่ก็ไปไหนไม่ยู้ ฮือออพี่ฮับพ่อแม่อาร์ทอยู่ไหน แงงงงงง” อ้าว เวรกรรมของไอ้พีชแล้วครับสังคม พ่อแม่หนูไปไหนพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ T^T

“พี่เอ็ม เราจะทำไงกันดีครับ เราจะหาพ่อแม่น้องอาร์ทเจอได้จากไหนอะ” ผมหันไปถามคนตัวสูงที่ยืนอยู่

“เอางี้ดีกว่าพีช น้องอาร์ทครับ น้องอาร์ทลุกไหมไหมเอ่ย แล้วตัวเล็กจำได้ไหมครับว่าเราพักอยู่แถวไหน” พี่เอ็มตอบผมก่อนจะหันไปถามน้องอาร์ทที่ตอนนี้หายสะอื้นบ้างแล้ว จะว่าไปพี่เอ็มก็ดูดีนะเนี่ยเวลาอยู่กับเด็กดูดีมีความอ่อนโยน

“ฮาร์ทจำไม่ได้ฮับพี่หมี แต่อาร์ทเดินมาจากทางนั้นฮับ แย้วพ่อกับแม่บอกว่าให้อาร์ทรอแต่ว่าอาร์ทรอนานมากๆอะฮับอาร์ทเยยเดินตามหา แต่ก็ ก็ ฮึก แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง” เอาอีกแล้วครับน้องอาร์ทร้องไห้อีกแล้ว ทุกคนครับน้องอาร์ทเรียกพี่เอ็มว่าพี่หมีด้วยละครับ เหมาะสมกับตัวพี่เขามากเลยทีเดียว คริ่คริ่

“โอ๋โอ๋ ไม่ร้องนะฮับน้องอาร์ทงั้นเดี่ยวพี่พีชกับพี่หมีนั่งเล่นกับเรารอพ่อแม่ก่อนแล้วกันนพฮับ ดีไหมเอ่ย นะครับพี่เอ็มเรานั่งเล่นกับน้องรอพ่อแม่น้องกันก่อนก็ได้เนอะ ^_______^” ผมหันไปโอ๋น้องพร้อมทั้งหันมาถามความสมัครใจของพี่เอ็มแต่จะบอกว่าถามก็ไม่ถูกเรียกว่าบังคับทางอ้อมน่าจะถูกมากกว่า พี่เอ็มก้มมองหน้าน้องอาร์ทสลับกับมองหน้าผม ก่อนจะพูดออกมาว่า

“ไม่ได้!!”  ผมหน้าเสียทันทีที่ได้ยิน ทำไมวะทำไมเป็นคนแบบนี้แม่งไอ้เหี้ยพี่เอ็มนอกจากจะกวนตีนแล้วยังนิสัยไม่ดีอีก เชอะ

“งั้นพี่ก็กลับไปก่อนเลย ชิ คนนิสัยไม่ดี” ผมพูดก่อนจะสะบัดหน้าหนีพี่มัน

“พี่จะบอกว่าเล่นตรงนี้ไม่ได้ครับดื้อ เราไปนั่งเล่นตรงอื่นที่มันร่มมากกว่านี้กันไหม แล้วเราก็ย้อนกลับไปตรงที่พ่อแม่น้องให้น้องรอกันไม่ดีกว่าเหรอ หื้ม เอะอะจะงอนอย่างเดียวเอง” พี่เอ็มพูดพร้อมทั้งเอมือมาขยี้หัวผมพร้อมทั้งส่ายหน้า

“อย่ามาใช้คำว่างอนกับผมได้ไหมละ แบบผมเขาเรียกไม่พอใจตะหากเล่า”

“น้องอาร์ทฮับเราไปเล่นรอพ่อแม่หนูตรงที่มันร่มๆกันดีกว่านะฮับ ตรงนี้แดดมันร้อน เดินไหวไหมฮับ” ผมหันไปถามน้องอาร์ทเพื่อกลบเกลื่อนความอายของตัวเอง

“ฮาร์ทเดินไม่ไหวฮับพี่แมว ฮาร์ทเจ็บขามากๆเยย” น้องอาร์ทพูดอ้อนผมออกมาแต่เดี๋ยวก่อนนะ เรียกพี่เอ็มว่าพี่หมีนี่ผมพอเข้าใจแต่เรียกผมว่า แมว นี่ผมไม่เข้าไจ ผมหันไปมองพี่เอ็มทันทีที่ได้ยินเสียงหัวเราะของคนตัวสูงที่ยืนอยู่

“หัวเราะอะไรพี่เอ็ม ตลกนักเหรอ” ผมหันไปพูดพร้อมทั้งขมวดคิ้วใส่

“ฮ่า ฮ่า เปล่าครับน้องแมว น้องอาร์ทครับเดี๋ยวพี่หมีอุ้มหนูเองนะครับ ส่วนน้องแมวตามพี่หมีกับน้องอาร์ทมาเยยฮับ ฮ่าฮ่า” ยังมีหน้ามาบอกว่าเปล่าอีกก็หัวเราะอยู่เห็นๆ ฮึ่ย ฝากไว้ก่อนเถอะ ก่อนที่ผมจะออกเดินตามพี่หมีเอ้ยพี่เอ็มไป

“ก่อปราสาทฉูงๆเยยนะฮับพ่อหมี น้องหมาอยากได้ฉูงๆ” เอาเข้าไปครับตอนนี้พี่เอ็มและน้องอาร์ทอัพเกรดเป็น พ่อลูกกันแล้วครับ พ่อหมีลูกหมา เออครอบครัวสัตว์มหัศจรรย์กันจริงๆ

“บอกให้แม่แมวมาช่วยพ่อหมีด้วยสิครับลูกหมา ปราสาทของเราจะได้สวยมากๆและก็สูงมากๆไงครับ” ผมหันไปมองค้อนไอ้พี่เอ็มมันทันทีผมอะไรออกใครแม่แมวกัน ฮึ่ย อากาศร้อนเนอะทำหน้าผมร้อนไปหมดละเนี่ย

“แม่แมวฮับ ช่วยพ่อหมีสร้างปราสาทหน่อยนะฮับ อ๊ะ แม่แมวเป็นอายัยฮับทำไมหน้าแดงๆ พ่อหมีฮับแม่แมวไม่ฉะบายแน่ๆเยย แม่แมวหน้าแดง” เจ้าลูกหมาเอ้ย น้องอาร์ทหันมาอ้อนผมก่อนจะทำเสียงตกใจโวยวายเสียงดังว่าผมหน้าแดง ฮ่าๆ น้องน่ารักจังเลยครับ หลงน้องแล้ว ฮือ อยากวิ่งไปลงทะเลแล้วเอาหัวจ่มลงน้ำ ไม่ไหวแล้วครับ น้องน่ารัก ยิ่งเวลาน้องอ้อนนี่ เขิงแลง (วิบัติเพื่อบอกความรู้สึกตัวเอง ฮ่าๆ) จะรออะไรครับสังคม น้องอ้อนมาขนาดนี้ กระโจนไปช่วยสร้างปราสาทเลยครับ

“พี่เอ็ม อย่าเอาทรายมาทับอันที่ผมสร้างสิ” ผมปัดทรายที่พี่เอ็มมันเอามาทับปราสาทของผม ก็ผมสร้างของผมอยู่ดีๆพี่มันแม่ง หงุดหงิดแล้วนะเดี๋ยวผมตามไปทำลายปราสาทพี่มันมั้ง

“อะไรครับน้องแมว นี่พี่ช่วยเราอยู่นะครับ ช่วยเราสร้างปราสาทไง เราทำสูงเกินไปมันจะพังลงมาได้นะ”

“อะไรเล่า มันไม่พัง พี่คอยดู สร้างสูงๆมันสวยแต่กว่าสร้างแบบนี้ แหวะ ไม่เห็นสวยเลย” ผมกันไปมองปราสาทของพี่มันก่อนจะว่าออกมา เรื่องอะไรจะยอมรับครับว่าพี่มันสร้างปราสาทได้สวยตามที่พี่มันโม้จริงๆ

“แม่แมว พ่อหมี หยุดเถียงกันก่อนฮับ ยูกหมาหยั่กล่ายทั้งสองแบบเยยฮับ เรามาสร้างปราสาทเยอะๆกันดีกว่าฮับ” ก็ได้ครับในเมื่อน้องขอมาแบบนี้ก็ได้ ผมยอมแพ้แล้ว แพ้ทางน้องทุกอย่างครับสังคม ฮือ พูดแล้วก็ขอฟัดแก้มน้องไปทีสองที ฟอดดดดดด เสียงฟัดแก้มน้องของผมเองครับ อ่า ชื่นใจจัง

“ก็ได้ฮับเจ้ายูกหมา งั้นหนูมาช่วยพี่ทำนะครับ” ผมว่าก่อนจะชวนน้องมาทำปราสาทด้วยกัน

“ได้ฮับ พ่อหม่มาช่วยแม่แมวทำปราสาทด้วยกันฮับ ปราสาทที่พ่อ แม่ ยูก ช่วยกันสร้าง คริ่คริ่”

“ได้เลยครับคนเก่งว่าแต่แม่แมวจะยอมให้พ่อหมีช่วยไหมน๊า” พี่เอ็มแกล้งผมอีกแล้วครับทุกคน น้องอาร์ทเมื่อได้ยินเช่นนั้นรีบหันมาหาผมทันที ส่งสายตาอ้อนมาให้ด้วย ผมจะทำไงได้ละครับนอกจากตอบตกลงไป

เย่ ปราสาทพวกเราเสร็จแล้วครับทุกคน เสร็จแล้ว สวยมากๆเลย ฝีมือผมก็งี้แหละครับ

แปะ แปะ เสียงปรบมือของน้องอาร์ทที่ปรบมือด้วยความดีใจก่อนจะกระโดดด้วยความตื่นเต้น “เย่ เย่ เย่”

“ยูกหมาครับ อย่ากระโดดครับเดี๋ยวล้มทับปราสาทนะ มาครับเรามาถ่ายรูปกันไว้เป็นที่ระลึกดีกว่า” พี่เอ็มเตือนน้องได้วยความหวังดีก่อนที่จะชวนน้องมาถ่ายรูปด้วย

“งื้อ แม่แมวมาถ่ายด้วยกันสิฮับ นะ นะ” น้องอาร์ทหันมาเรียกผมให้เข้าไปถ่ายรูปด้วยกัน

“ได้สิครับ” ว่าจบผมก็เข้าไปถ่ายรูปรวมกัน ถ่ายไปหลายท่าจนเริ่มเมื่อยแล้ว น้องอาร์ทก็เริ่มง่วงแล้วด้วย เพราะดูท่าทางน้องคงจะเพลียจากการร้องไห้ไหนจะเจ็บแผลจากการหกล้มอีก น้องจะงอแงอีกแล้วครับ

“พ่อหมี แม่แมวฮับ เมื่อไหร่พ่อแม่น้องอาร์ทจะมา น้องอาร์ทง่วงแล้วฮับ ฮืออ”

“พี่เอ็มครับ เราจะทำยังไงกันดี หรือว่าเราจะพาน้องกลับบ้านพักด้วยครับ โอ้ย เจ็บนะ เขกมาได้” ผมหันไปปรึกษาพี่เอ็มก่อนจะเสนอทางเลือกแต่คงไม่ดีเท่าไหร่เลยโดนพี่มันเขกหัวซะ

“นั่นไง ใช่พ่อแม่น้องอาร์ทเปล่า” พี่เอ็มพูดก่อนจะหันไปมองชายหญิงคู่หนึ่งที่มาพร้อมกับตำรวจอีก 2-3คน กำลังวิ่งมาทางนี้

“น้องอาร์ทครับ ใช่พ่อแม่เราไหมเอ่ย” ผมก้มหน้างเรียกน้องอาร์ทที่ตอนนี้กำลังซบไหล่ผมร้องไห้แบบเงียบๆอยู่ เมื่อได้ยินที่ผมพูดน้องก็เงยหน้าขึ้นมา

“พ่อ!!แม่!!น้องอาร์ทอยู่นี่ฮับ” น้องตะโกนเรียกพ่อแม่ตนเองก่อนจะเอี้ยวตัวไปหา

“น้องอาร์ทเป็นไงบ้างลูก หายไปไหนมาแม่ตามหาแทบแย่ ขอบคุณนะคะที่ช่วยดูแลลูกของดิฉัน” แม่น้องอาร์ทพูดกับน้องก่อนที่จะหันมาขอบคุณพวกเราสองคน

“ไม่เป็นไรครับ น้องน่ารัก ไม่ซนเลย” ผมยิ้มให้แม่ของน้องก่อนจะพูดว่าไม่เป็นไร

“งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” คราวนี้เป็นฝ่ายพ่อของน้องอาร์ทที่พูดขอบคุณเราและขอตัวกลับก่อน

“ครับ บ๊ายบายครับลูกหมา ไว้เจอกันคราวหน้านะครับ” พี่เอ็มตอบรับก่อนจะหันไปลาเจ้าตัวน้อยที่อยู่บนอกแม่

“บะบายฮับพ่อหมีแม่แมว บะบาย” เรายืนโบกมือลาน้องอาร์ทจนคนทั้งหมดหายลับไปจากสายตา ก่อนที่เราทั้งคู่จะหันมามองกันเองก่อนจะเผลอหัวเราะออกมา

“เราก็ต้องไปกันได้แล้วนะดื้อ อยากอาบน้ำไม่ใช่รึไง” พี่เอ็มพูดบอกพร้อมทั้งเอามือมาขยี้หัวผมอีกแล้ว เป็นไรมากป่ะเนี่ย

“โว๊ะ เป็นไรกับหัวผมกับผมของผมมากป่ะเนี่ยแม่งขยี้อยู่ได้ ไปดิพี่เอ็มจะยืนรออะไรครับ ผมไปก่อนนะ” ว่าจบผมก็เดินออกมาก่อน ก่อนจะหันไปตะโกนเร่งพี่มันให้รีบเดินตามมา ได้ยินเสียงพี่เอ็มหัวเราะก่อนจะวิ่งมาจับมือผมแล้วเราทั้งคู่ก็เดินกลับบ้านพัก ไปอาบน้ำและได้กินข้าวเสียที

TBC

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พ่อแม่แม่แมวของเราน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกงุ้ยหลงน้องพีช นุ้งพีชของพิ

สายชาร์จโน้ตบุคพังค่ะทุกคนนนนนนแง้นี่เพลงลงกับโทรศัพท์นะคะ คำผิดอะไรไม่ได้ดูด้วยค่ะฝากทุกคนดูแทนด้วยนะคะ
ทุกคนคะสายชาร์จasusนี่ที่ศูนย์มีขายไหมคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ด้วยนะคะ


ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ up! ตอนที่ 4 03/06/2560
«ตอบ #8 เมื่อ06-06-2017 01:21:37 »

ใสๆๆๆน่ารักดี 2 คู่แน่ๆๆ



จะมี2คู่หรือไม่รอติดตามนะคะเรื่องนี้ใสๆตามสไตล์คนเขียนค่ะ กิ่กิ่

ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ up! ตอนที่5 05/06/2560
«ตอบ #9 เมื่อ09-06-2017 22:55:33 »

คนของหัวใจ

ตอนที่ 6

หลังจากที่น้องอาร์ทกลับไปกับพ่อแม่แล้วนั้น เราทั้งคู่ก็เดินกลับบ้านพักด้วยความเร่งรีบเพราะตอนนี้อากาศก็เริ่มเย็นลงและท้องของผมก็เริ่มประท้วงด้วยการส่งเสียงโครกครากแล้วครับ

“ดื้อ เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จแล้วออกไปหาอะไรกินด้วยกันนะครับ ดูสิเล่นน้ำมากเกินไปหรือเปล่าหน้าแดงตัวไหม้หมดแล้วนั่น” พี่เอ็มบอกผมก่อนจะบ่น ออกมาเล็กน้อย แล้วทำไมตอนแรกพี่ไม่ห้ามผมครับ เฮ้อ

“ครับงั้นสักประมาณทุ่มนึงเราออกไปหาอะไรกินกันนะครับระหว่างนี้ก็อาบน้ำพักผ่อนกันไปก่อนก็ได้เนอะ” ผมพูดบอกพี่เอ็มออกไปตอนนี้ก็ 6 โมงเย็นแล้วอีกแค่ชั่วโมงเดียวเองเราทั้งคู่คงจะทำอะไรๆ ได้ทันเวลาพอดีแหละครับ

หลังจากที่พีชตอบรับและนัดแนะกับเอ็มแล้ว ชายหนุ่มก้เดินเข้าห้องพักของตัวเองห้องพักที่เอ็มเลือกนั้นภายในห้องมีขนาดไม่กว้างมากนัก เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอเตียงนอนขนาด 3 ฟุต อยู่ตรงหน้า มีตู้เสื้อผ้าอยู่ทางซ้ายมือของเขา และมีทีวีอยู่ติดกับผนังตรงข้ามกับเตียงนอน เมื่อเปิดผ้าม่านออกไปจะเจอกับชายหาดและทะเลอยู่ไม่ไกลมากนักถ้านอนตอนกลางคืนอาจจะได้ยินเสียงคลื่นทะเลเป็นเพลงคอยขับกล่อมเขาให้นอนหลับก็ได้ ห้องพักที่พีชใช้นอนนั้นไม่มีห้องน้ำอยู่ในตัว เขาต้องเดินออกไปข้างนอกแต่ก็ไม่ได้ไกลมากหรอกนะ เพราะถ้าเขาเปิดประตูออกไปห้องน้ำที่ว่าจะอยู่ทางซ้ายมือเขานั้นเอง ส่วนห้องพี่เอ็มเป็นห้องใหญ่มีห้องน้ำภายในตัวไปเลย ไม่ต้องออกมาอาบข้างนอกเหมือนเขา

พีชเดินไปหยิบเสื้อผ้า  ผ้าเช็ดตัว แล้วเดินออกไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกทันที พีชจัดการอาบน้ำสระผมทันที เขามองเข้าในกระจกที่สะท้อนให้เห็นคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา คนที่มีผมแสดกลาง คิ้วตก หน้าแดงๆเพราะอยู่ท่านกลางแสงแดดมากเกินไป  บางทีมันอาจจะแดงเพราะใครบางคนที่อาบน้ำอยู่ในห้องตรงข้ามกับเขา...ก็ได้

เขายิ้มก่อนจะยกมือมาตบหน้าตัวเองเบาพร้อมทั้งสายหน้าไปมาเบา

“ตั้งสติหน่อยไอ้พีช แค่นี้มึงก็หวั่นไหวแล้วเหรอวะ” เขาส่ายตัวอีกครั้ง

“พี่เอ็มอันตรายเกินไปที่มึงจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยนะเว้ย ขืนยุ่งๆมากๆมึงได้เสียใจเป็นบ้าแน่ๆ มึงอยากร้องไห้เหรอ” เขาเตือนตัวเองเบาๆ ก่อนจะยิ้มขำกับตัวเองด้วยความรู้สึกที่เขาเองก็บอกไม่ถูก

เขาเลิกฟุ้งซ่านก่อนจะหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้แห้งจากน้ำแล้วใส่เสื้อผ้าข้างในห้องน้ำออกไปเลย อะไรป้องกันได้ก็ควรปกกัน อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยครับ ที่บอกว่าพี่เอ็มอันตรายนี่ผมพูดจริงๆนะครับ

เขาเดินออกมาจากห้องน้ำพอดีกับประตูห้องตรงข้ามก็เปิดออกมาพอดี ทำไมไม่แต่งตัวดีๆวะแม่ง

“เอ่อ พี่เอ็มเสร็จแล้วเหรอครับแล้วทำไมแต่งตัวแบบนั้นครับ” จะไม่ให้เขาถามได้ไงในเมื่อร่างหนาตรงหน้าเขานี้แต่งตัวด้วยกางเกงห้าส่วน เสื้อกล้ามย้วยๆ นี่พี่มันจะออกไปกินข้าวด้วยสภาพพร้อมนอนแบบนี้จริงๆเหรอครับ คือไม่ใช่อะไรนะผมไม่เคยเห็นพี่เขาแต่งตัวออกไปข้างนอกแบบนี้อะ ปกติออกจะเนื๊ยบด้วยซ้ำ

“อะไรดื้อ ทำไมมองพี่แบบนั้น พี่แค่จะมาดูว่าดื้ออาบน้ำเสร็จยังแค่นั้นเองไม่ได้จะออกไปทั้งชุดแบบนี้สักหน่อย” เหมือนว่าพี่เอ็มจะรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรถึงได้พูดออกมา

“ผมอาบน้ำเสร็จแล้ว เราจะไปกันเลยไหมละครับ” ผมพูดบอกพี่เอ็มก่อนจะเดินเอาเสื้อผ้าที่ใส่เล่นน้ำเมื่อกี้ไปหมกในถุงพลาสติก ก่อนจะออกไปหาร่างหนาที่รอเขาอยู่หน้าประตู

“ดื้อหิวแล้วเหรอ งั้นรอพี่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ”

“แล้วทำไมพี่ไม่เปลี่ยนเสื้อให้มันเรียบร้อยก่อนละทำไมชอบทำอะไรที่มันยุ่งยากหื้ม” ผมแอบบ่นพี่เอ็มนิดนึงแหละครับเพราะตอนนี้ผมหิวมากแล้ว แล้วผมก็ไม่เข้าใจว่าจะแต่งตัวให้มันยุ่งยากทำไม แฮะๆ

“โอเคครับดื้อ โอเคครับ เดี๋ยวดื้อรอพี่ไม่ถึง  1 นาทีนะครับ โอเคนะ ห้ามทำหน้าบึ้งสิไม่หล่อเลย” พี่เอ็มยกมือสองข้างขึ้นมาอยู่ระดับเดียวกับใบหน้าตัวเอง เป็นสัญลักษณ์ว่ายอมแพ้แล้ว แต่ผมมองว่าพี่มันกวนตีนผมนะผมว่า ก่อนจะห้ามผมทำหน้าบึ้งและขยี้ผมของผมไปอีก 1 ทีเต็มๆมือ สักวันผมจะไปโกนผมทิ้งเพราะพี่มันขยันเล่นผมของผมจังเลยแม่ง

“จิ๊ รีบๆไปเลย ฮึ่ย อย่าขยี้ผมของผมสิมันเสียทรง!!!” ผมจิ๊ปากก่อนจะโยกหัวหลบ ซึ่งมันไม่ทันแล้วครับผมก็เลยปล่อยไปเลยตามเลย

วิ๊ดวิ๊ว วื๊ดวิ้ว วิ๊ว พี่มันเป๋าปากก่อนจะเดินกลับเข้าห้องตัวเองไปเปลี่ยนเสื้อ แม่งอยากจะวิ่งไปกระโดดถีบแม่งสักที กวนตีนจริงๆ

ผ่านไป 5 นาทีแล้วครับ ไหนพี่มันบอกว่ารอพี่ไม่ถึง 1  นาที อย่างโน้นอย่างนี้แม่งผมมองนาฬิกาก่อนจะตัดสินใจลุกเดินไปเคาะประตูห้องพี่เอ็ม ตอนนี้ผมรอพี่เอ็มอยู่ตรงห้องนั่งเล่นที่อยู่กลางบ้านอะครับ

“อะ อ้าวพี่เอ็มไหนว่า 1 ไง นี่มันจะ 5 นาทีแล้วนะ ทำอะไรอยู่วะช้าแม่ง” ผมดวยพี่เอ็มออกไปทันทีที่พี่เอ็มเปิดประตูออกมา คือผมยังไม่ได้เคาะประตูหรอกครับแต่พี่มันเปิดออกมาพอดี

“พี่หาของที่พี่เตรียมมาไม่เจอน่ะ แต่ตอนนี้พี่หาเจอละ ขอโทษนะไม่งอนนะครับ เดี๋ยวมื้อนี้พี่เลี้ยงเองเนอะ” ว่าจบพี่เอ็มก็จุงมือผมออกไป

“พี่เอ็มครับไม่ต้องจูงมือผมก็ได้ไง ผมเดินได้สบายดีไม่ได้ตาบอดแต่อย่างใดนะครับพี่ครับ” ผมพูดพร้อมทั้งสะบัดมือตัวเองออกจากการกอบกุมของอุงมือหมีตัวใหญ่ข้างๆนี่

“พี่รู้ครับแต่ว่าพี่อยากจูงมือเรานี่นา นะให้พี่จับมือเราแล้วเดินไปแบบนี้นะ” พูดอย่างเดียวก็ได้ครับไม่ต้องปากว่ามือถึงและตาอ้อนใส่ผมขนาดนี้ก็ได้

“ไม่ครับ และพี่เดินไปเลยครับเดี๋ยวผมเดินตามเอง” ผมปฏิเสธพร้อมทั้งให้พี่มันเดินนำหน้าผมไป ผมมีนิสัยประหลาดอย่างหนึ่งคือผมไม่ชอบเดินนำใครและไม่ชอบเดินไปพร้อมใครอะครับ ผมชอบที่จะเดินตามมากกว่ามันมีความรู้สึกว่าผมไม่ได้เดินอยู่คนเดียว และผมไม่ได้ถูกทิ้งไว้ข้างหลังนะ ผมยังมีคนให้ผมเดินตามแบบนี้อะครับ

“ก็ได้ครับ แต่พีชต้องมาเดินข้างๆพี่นะ พี่ไม่ชอบให้ใครเดินตามหลังพี่อะครับ โดยเฉพาะถ้าคนนั้นคือพีช พี่ยิ่งไม่ชอบ แต่พี่อยากให้พีชมาเดินข้างๆพี่นะ เดินไปพร้อมกันได้หรือเปล่าครับ นะพี่ขอแค่นี้เอง” พี่เอ็มพูดออกมาผมจึงพยักหน้าและก้าวเดินไปหาร่างสูงที่หยุดรอตรงหน้าเพื่อที่เราทั้งสองคนจะเดินไปพร้อมกันตามที่พี่เอ็มร้องขอออกมา

ผมเห็นนะว่าพี่เอ็มแอบยิ้มอะถึงแม้ว่าตามจะไม่ได้สว่างมากนักแต่ผมก็เห็นเพราะคนข้างๆเล่นยิ้มออกมาอย่างไม่คิดจะปิดบัง ถามว่าผมยิ้มไหมผมก็ยิ้มนะแต่ผมไม่ยอมให้คนข้างๆรู้หรอกว่าผมแอบยิ้ม มันเป็นการยิ้มที่ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะยิ้มทำไมเช่นกัน

ร้านที่พี่เอ็มมาผมมานั้น คนเยอะมากครับ ย้ำว่าคนแม่งโคตรเยอะ คือคนเยอะถึงขนาดที่ว่ามีคนเข้ามารอที่โต๊ะทั้งๆ ที่พนักงานเขายังไม่ได้เก็บโต๊ะเก็บจานเลยด้วยซ้ำ และเราทั้งสองคนก็คือหนึ่งในนั้นที่ต้องเดินไปรอที่โต๊ะครับ รอให้พี่พนักงานเขาเก็บจานเก็บโต๊ะ เมื่อพี่พนักงานเก็บของเรียบร้อยแล้วนั้น เราทั้งสองคนก็นั่งรอและนั่งดูเมนูไปพลางๆ ก่อนครับ

“พี่ครับ ผมเอา ปลาหมึกไข่เค็ม กุ้งเผา ปลากหมึกย่าง ข้าวผัด ยำทะเล ต้มยำรวมมิตรครับ พี่เอ็มพี่เอาอะไรอะรีบๆสั่งสิครับ” ผมหันไปสั่งพี่พนักงานที่จดมือระวิงเชียวครับ พี่ครับผมขอโทษผมหิวอะ ก่อนที่ผมจะหันไปถามพี่เอ็ม เผื่อว่าพี่เอ็มอยากกินอะไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ผมสั่ง

“ดื้อกินหมดเหรอ ผมเอาเบียร์2ขวดครับ แล้วก็เอาห่อหมกทะเลนะครับ อ้อขอน้ำเปล่าด้วยครับ ขอคุณนะครับ” พี่เอ็มถามว่าผมจะกินหมดเหรอแล้วพี่มันก็สั่งมาเพิ่มอีก มีความย้อนแย้งในตัวเองนะพี่เนี่ย

“กินหมดสิครับ พี่คอยดูเถอะ ตอนนี้ต่อให้มีช้างอยู่ตรงหน้าไอ้พีชก็กินหมดครับ แล้วพี่อะกินข้าวใครเขาให้กินเบียร์วะ” ผมพูดก่อนจะหันไปว่าพี่เอ็มที่สั่งเบียร์มากินตอนกินข้าว คือไม่ใช่อะไรนะครับ แม่ผมเคยบอกว่ากินข้าวก็อย่ากินเบียร์เพราะอะไรผมก็ไม่รู้ ก็แม่บอกผมมาเท่านี้เองครับ แฮะๆ

“ทำไมดื้อ มันจะทำให้พี่อิ่มเร็วแล้วพี่ก็จะกินข้าวได้น้อยใช่ไหม” พี่เอ็มตอบผมกลับมาด้วยคำถามที่ฟังดูยังไงแม่งก็กวนตีน คือ เอาจริงๆนะครับสังคมไอ้ยอดชายนายพีชโคตรอยากถีบหน้าแม่งสักที คนอะไรหน้าแม่งโคตรกวนตีนยิ่งพอได้พูดออกมานะ ความกวนตีนนั้นสมควรจะโดนกระทืบสักที

“ไม่รู้เว้ย แม่ผมบอกมาว่าไม่ให้กินเบียร์ตอนกินข้าว และพีชก็ไม่รู้ว่าทำไมด้วย” ผมพูดบอกพี่เอ็มก่อนจะสะบัดหน้า เอ่อ ใช้คำว่า หันหน้าหนีดีกว่าครับ ผมหันหน้าหนีพี่เอ็มไปทางทะเล ลืมบอกครับว่า ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้ชายหาด ฝั่งหนึ่งของร้านอยู่ในน้ำทะเลเลยครับ บรรยากาศโคตรดี แต่ยุงเยอะไปหน่อย ให้อภัยได้ เพราะมี ก.ย. 15 (ผมไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใดนะครับ) ให้ลูกค้าทาทุกโต๊ะครับ

“ตลกว่ะดื้อ แทนตัวเองว่า พีชและผมในประโยคเดียวกันเนี่ยนะ ฮ่ะ ฮ่ะ” แล้วมันทำไมครับ ใครจะทำไมผมจะแทนตัวเองแบบนี้แล้วใครจะทำไม

ขวับ!

ผมหันไปมองคนที่หัวเราะและยักคิ้วใส่ผม และก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรออกมานั้น พี่พนักงานก็เอาอาหารมาเสิร์ฟขัดจังหวะการต่อปากต่อคำของเราพอดี รอดตัวไปครับ

“ขอบคุณครับ/ขอบคุณครับ” เราทั้งคู่หันไปขอบคุณพี่พนักงานที่ยกอาหารมาให้เรา และหลังจากนั้นก็ต่างคนต่างก้มกินไม่มีใครพูดอะไรออกมาทั้งนั้นแหละครับสังคม ณ จุดๆนี้ความหิวชนะทุกอย่าง

“ดื้อ เราไปกินเบียร์นั่งชิวที่ริมหาดไหม ไหนๆพรุ่งนี้เราก็จะกลับแล้ววันนี้เราก็ไม่ต้องนอนกันหรอก นั่งดูดาวกินเบียร์ชิวๆกัน” หลังจากที่เราสวาปามอาหารจนหมดเกลี้ยงไม่เหลือแม่แต่กระดูก เพราะมันไม่มีนั้น เราทั้งคู่ก็ออกมาเพื่อที่จะเตรียมเดินกลับบ้านพัก ถือว่าเดินย่อยไปในตัวด้วย แต่พี่เอ็มก็เสนอข้อเสนอที่น่าสนอยู่ไม่น้อย

“ไปสิครับ แต่ไม่ดื่มให้เมามากนะครับเพราะพรุ่งนี้พี่ต้องขับรถกลับกรุงเทพอีกนะอย่างลืม และก็นั่งดื่มสักพักก็ได้ นี่ผมไม่ได้อยากดื่มเลยนะผมแค่เห็นพี่อยากดื่มเท่านั้นเอง จริงๆนะ” ผมหันไปตกลงกับพี่เอ็มทันทีที่ได้ยินพี่เอ็มชวน ไม่ได้อยากดื่มเองจริงๆนะครับสังคม ผมพูดจริงๆนะแต่ไม่สาบานหรอก ผมไม่นับถือศาสนาน่ะเพราะฉะนั้นการสาบานไม่ได้ผลหรอก

เมื่อพี่เอ็มได้ยินผมพูดเช่นนั้นก็หันมายิ้มให้ผมก่อนจะยกมือมาบิดแก้มผมแรงๆหนึ่งที แม่งโคตรเจ็บ แรงผู้ชายนะเว้ยไม่ใช่ผู้หญิง

“อึก เพ่เอ็ม อึก พีชว่าเรากลับบ้านกันไหมครับ อึก” ผมว่าตอนนี้ผมเริ่มมึนๆแล้วแหละครับทุกคน ตอนแรกก็นั่งกินกันคนละ 2-3 ขวด แต่เป็นกันไหมครับกินไปนานๆมันก็เพลิน ผมเลยให้พี่เอ็มมันไปซื้อเบียร์มาอีกลังหนึ่ง อึก

“เมาแล้วดื้อ ไหวไหมเนี่ยหืม” พี่เอ็มถามผมที่ตอนนี้กำลังซบไหล่พี่มันอยู่ ผมไม่ได้เมามากสักหน่อย รู้ตัวทุกอย่างเลยด้วยแค่ผมคุมสติไม่ค่อยอยู่แค่นั้นเอง

“ม่ายมาวววววว ใครมาวกัน นี่พีชยังรู้ตัวอยู่นะ คนมาวที่หน่ายพรูดรู้เรื่องขนาดเน้ อึก” ผมตอบพี่เอ็มไปด้วยความฉะฉานครับ บอกไปว่าเราไม่เมา คนแบบเราเคยเมาที่ไหนกัน

“ครับๆ ไม่เมาครับงั้นเรากลับบ้านกันเนอะ เดี๋ยวดื้อรอพี่อยู่ตรงนี้นะครับห้ามไปไหนนะ ห้ามลงเล่นน้ำทะเลด้วยเข้าใจมั้ยครับ” สั่งอีกแล้ว แล้วพี่เอ็มจะไปไหน งื้อ ไม่ให้ไป จะทิ้งผมไว้คนเดียวอะสิ ผมรู้นะ ไม่ให้ไปหรอก เรื่องอะไรจะอยู่คนเดียว อึก

“อึก เพ่เอ็มจาปายหน่าย ม่ายห้ายปายหรอกอึก เพ้จาทิ้งพีชไว้โคนเดียวเหรอ อึก ม่ายยอมหรอกนะ” ผมเอื้อมมือที่ไม่ค่อยจะมีแรงไปจับแขนพี่เอ็มไว้ ก่อนที่คนข้างๆตัวจะลุกขึ้นไปเสียก่อน แล้วผมเป็นอะไรทำไมเป็นแบบนี้วะพีช

“พี่จะเอาขวดไปทิ้งครับดื้อ ดื้อรอตรงนี้นะห้ามลุกไปไหน และก็ห้ามเล่นน้ำเข้าใจนะครับ ปล่อยพี่ก่อนเร็วเด็กดี” พี่เอ็มพูดบอกผมก่อนจะปะเหลาะให้ผมปล่อยมือจากแขนตัวเอง ชิใครเขาอยากจับกัน แต่มือผมมันไม่ยอมปล่อยแขนพี่เองนี่นา

“รู้เล่า ไม่ใช่เด็กนะจะสั่งอะไรนักหนาแล้วจาอาวขวดไปทิ้งตรงไหน” ผมพูดก่อนจะถามพี่เอ็ม

“ไม่ไกลครับ ตรงนั้นเองเด็กดื้อมองเห็นพี่แน่นอนครับ เดี๋ยวพี่มานะ” พี่เอ็มชี้มือไปที่ถังขยะที่อยู่ไกลแต่ไม่ไกลเกินสายตาจะมองเห็น เมื่อผมเห็นดังนั้น ผมเลยยอมปล่อยมือและพยักหน้าให้พี่มันเอาขวดไปทิ้ง

เขาหลับตาลงเพราะว่ามันมึนหัวมากๆแถมโลกนี้ยังหมุนติ้วๆราวกับมีใครไปหมุนมันยังไงยังงั้นแหละ ใช้เวลาไม่นานตามที่คิดพี่เอ็มก็เดินมาหยุดตรงหน้าเขา แล้วฉีกยิ้มให้เขาก่อนจะยื่นมือมาให้เขาจับ

“ไปครับดื้อ เรากลับบ้านไปนอนพักดีกว่า วันหลังพี่ไม่ให้เรากินเหล้าแล้วนะ” ไหนเหล้าวะที่กินเมื่อกี้มันคือเบียร์ต่างหากล่ะสังคม พี่เอ็มมันนี่บ้าบอนะ อึก ผมลืมบอกไปครับว่าผมกินเหล้าได้เยอะมากครับและเมายากมากด้วยแต่ผมไม่ถูกโฉลกกับเบียร์เฉยๆ อึก อ่า ทำไมโลกใบนี้มันหมุนเร็วขนาดนี้ละครับสังคม

“อ้าว ดื้อ ดื้อ หลับซะละ” อื้อ เสียงอะไรเนี่ย คนจะนอน บ้าบอจริงๆ

“ดื้อครับ ดื้อถอดรองเท้าก่อนเร็ว ถึงบ้านแล้วครับ” พี่เอ็มเขย่าตัวผม ผมก็พยายามยืนตรงๆเพื่อถอดรองเท้าออกมาจอดไว้ที่หน้าบ้าน เมาทั้งคู่แหละครับผมว่านะ ผมอาจจะเมาหนักหนานิดนึงแต่ผมยังไม่สติอยู่นะครับรู้เรื่องทุกอย่าง เดินเซด้วย

“หึหึ” เสียงพี่เอ็มหัวเราะข้างๆหูผม มือพี่มันก็โอบเอวผมไว้กันผมล้ม ผมหันไปมองก่อนจะยิ้มตาหยีให้พี่มัน ยิ้มทำไมผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ

อะ อื้ม พี่เอ็มมันก้มมาจูบผมละครับ ผมรู้ตัวนะแต่ผมไม่มีแรงผลักคนตรงหน้าออกได้แต่ส่ายหน้า ก้มหน้า หลบปากพี่มันที่พยายามจะจูบผมอยู่หน้าประตูบ้าน จนในที่สุดผมก็ยกมือมากั้นหน้ายกพี่มันไว้  พร้อมทั้งยกมือข้างนึงมาตบหนาพี่มันเบาๆดังแปะ แปะ เพื่อเรียกสติน่ะครับไม่ได้ตบแรงอะไร

“อื้อ พี่เอ็ม พอแล้วจะจูบให้ปากเปื่อยเลยรึไง เข้าบ้านกันเถอะครับ” ผมเดินนำเข้าไปก่อนส่วนพี่เอ็มเดินตามหลังผมมา

“เซ พีชเดินเซแหละพี่เอ็ม” ผมหันไปบอกพี่เอ็มว่าตัวเองเดินเซ พร้อมทั้งยิ้มกว้างๆ ไปให้อีกหนึ่งที ที่จริงผมไม่ต้องบอกคนข้างหลังก็ได้นะว่าผมเดินเซ เพราะพี่เอ็มน่าจะเห็นอยู่แล้วนะเพราะเขาเดินตามหลังผมมาอะ แต่ยังไงผมก้อยากบอกอยู่ดี ใครจะทำไม

ผมเดินเข้าไปในห้องของตัวเองด้วยความมึนและเซนิดๆหน่อยๆ พอเห็นเปิดประตูได้ผมก็ทิ้งตัวลงเตียงเลยละครับ ผมพยายามถอดเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่อยู่จนเหลือเพียงกางเกง

“อะ อือ อื้ม พี่เอ็มจะทำไรวะ อื้มมมม” ผมหันหน้าหนี จนจะนอนยังมากวนอยู่ได้แม่งมันน่ากระโดดถีบจริงๆนะครับสังคม

“ก็พีชยั่วพี่อะ” ใครยั่วใครนะแล้วพี่เอ็มมันขยับมานอนทับผมทำไม พื้นที่เตียงยังเหลือเยอะแยะมานอนทับผมทำไม

“ใครยั่วใครอะ แล้วพี่มานอนทับพีชทำไม” ผมว่าก่อนนะพยายามผลักตัวพี่มันให้ออกไปจากตัวผม

“.......................................”

พี่เอ็มมันไม่ตอบอะไรผมครับ แต่คนข้างบนพยายามเอาหน้ามามาจูบไล่ไปทั่วใบหน้าของผม ผมหลุดเสียงหัวเราะออกมาเพราะมันจั๊กจี้อะครับ

“พีช พี่ขอนะ” ขออะไร เอาไปเลยแล้วออกจากห้องด้วยนะ อ้อ อย่าลืมล็อคประตูด้วยเดี๋ยวยุงเข้า

“ขอไรอะ พี่เอ็มอยากได้ไร พีชให้แล้วก็นอนดีๆได้แล้วนะครับ”  เฮ้อ ผมได้ยินเสียงถอนหายใจดังข้างหน้าผมอะครับ พี่มันเครียดอะไรเหรอ

“เฮ้อ พี่ถือว่าพี่ขอเราแล้วนะ ตื่นมาก็อย่าว่าพี่ละ” อะไรวะพี่เอ็มมันจะเอาอะไรแล้วทำไมผมต้องว่ามันด้วย

“ครับไม่ว่าครับ” ผมอนุญาตก่อนจะหลับไปด้วยความมึนจากเบียร์ที่กินไปก่อนหน้านี้ โดยที่พีชเองก็ไม่รู้ว่าจะอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเอง และถ้าเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาสาบานว่าเขาจะไม่อนุญาตอะไรออกไปทั้งนั้น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


TBC

วันนี้ลงดึกมากเลยค่ะแฮะๆ อ่านหนังสือเพลินไปหน่อยแฮะๆ
เอาละเรามาดูกันนะคะว่าน้องพีชของเราจะรอดจากอำนาจมืด รอดจากอุ้งมือพี่เอ็มได้หรือไม่ ก็ในเมื่อคนน้องเล่นเมายับแถมเอ่ยปากอนุญาตไปขนาดนั้นแล้ววววว จะเกิดอะไรขึ้นกันน้าาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนของหัวใจ up! ตอนที่5 05/06/2560
« ตอบ #9 เมื่อ: 09-06-2017 22:55:33 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ up!!! ตอนที่7 12/06/2560
«ตอบ #10 เมื่อ12-06-2017 22:07:15 »

คนของหัวใจ

ตอนที่ 7

“ครับไม่ว่าครับ” ผมอนุญาตก่อนจะหลับไปด้วยความมึนจากเบียร์ที่กินไปก่อนหน้านี้ โดยที่พีชเองก็ไม่รู้ว่าจะอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเอง และถ้าเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาสาบานว่าเขาจะไม่อนุญาตอะไรออกไปทั้งนั้น

. . . . . . . .


อื้อ ผมปรือตาจ้องมองสิ่งที่รบกวนการนอนอันแสนสุขของผม สิ่งที่รบกวนผมตอนนี้คือตัวอะไรก็ไม่รู้ครับสังคม มันมายุ่งแถวๆคอผม หน้าผมวนเวียนอยู่แค่นี้ แมลงอะไรวะตัวใหญ่ฉิบหายเลยแม่ง แต่ เฮ้ย ว่าแต่มือใครวะมาลูบไล้บริเวณเอวของผมเนี่ย ผมรีบยกมือทั้งสองข้างของตัวเองขึ้นมามองในความมือ มือผมอยู่นี่ แล้วมือใครอยู่ที่เอวผมวะ

อื้มมมมมมมมม เสียงใครวะมาอื้ม อื๊อ ข้างๆหูกูเนี่ย

ภาพที่พร่ามัวไม่ชัดเจนในตอนแรกเริ่มค่อยๆชัดขึ้น หลังจากที่สายตาของผมปรับให้ชินกับความมืดได้แล้ว ภาพที่ผมเห็นคือ ร่างสูงๆของคนที่กำลังก้มๆ เกยๆอยู่บนตัวผม นี่มันไอ้เหี้ยพี่เอ็มนี่หว่า มันมาอยู่ห้องกูได้ไงวะ ความเมาที่มีอยู่ในตัวสร่างหายไปทันที เมื่อมันเอามือล้วงเข้าไปในกางเกงของผม ผมดิ้นพล่านอย่างกับนางเอกช่องมากสีที่กำลังโดนพระเอกทำโทษด้วยฉากบนเตียง

ไอ้ควายยยยยยยยยยยเอามือมึงออกป๊ายยยยยยยยยยยยย

“ปล่อย! ไอ้เหี้ยพี่เอ็ม!!!ปล่อยกูนะเว้ย ปล่อยสิวะ!!” ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ยิ่งดิ้นเหมือนมันยิ่งมีแรงมากขึ้น โถ่วไอ้เหี้ย ไอ้โรคจิต ไอ้คนผิดสัญญา ไอ้ร่างหมีเดินได้ ไอ้หัวล้าน ไอ้ตีนกาขึ้นหน้าเยอะมาก ไอ้อะไรก็ไม่รู้แล้วเว้ย

เมื่อไอ้เหี้ยพี่เอ็มมันเห็นผมฟื้นขึ้นมาจากที่ตอนแรกมันทำอย่างช้าๆเบาๆ ผมเดาเอาจากการที่นอนไม่รู้สึกตัวอะครับว่ามันทำเบา -*- มันจับข้อมือผมแน่นมากแล้วรวบมือผมไปไว้ด้านข้างซ้ายมือผม มืออีกข้างมันปิดจมูกผมอยู่ ไอ้ควายกูหายใจไม่ออก แม่ง ส่วนมืออีกข้างมันก็รุดลงไปในกางเกงขาสั้นปราการด่านสุดท้ายของไอ้พีช สุดท้ายมันก็ถอดออกไปได้แล้วครับ พร้อมทั้งปามันลงพื้นแบบไม่กลัวว่ากางเกงของผมมันจะเจ็บ

“โวยวายอะไรดื้อ พี่ขอเราแล้ว และเราก็อนุญาตแล้วด้วย” มันพูดตอบกลับมาครับ ขออะไรอนุญาตอะไรกัน ตอนนั้นกูเมากูไม่สติ กูบ้ากูเพ้อ ปล่อยกู๊วววววววว

“ขะ ขออะไรกัน ละ แล้วผมไปอนุญาตตอนไหนวะครับ” จะกลัวแค่ไหนก็ต้องพูดให้เพราะไว้ก่อน พ่อสอนไว้ครับ ส่วนในใจหยาบได้เต็มที่พ่อไม่ได้ยิน ยังครับ ยัง ยังตลกอยู่อีก ฮือออ

อึก มึงอย่าไปลูบมันสิ T^T ปล่อยให้มันนอนของมันดีๆเถอะนะ

“อะ อย่า พี่เอ็มไม่เอา เอามืออกไป” เสียงกูทำไมมันแหบพร่าแบบนั้นวะ

“พีชไม่เอา แต่พี่จะเอาและพี่ต้องได้เอาด้วย” อ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรงปล่อยให้มันปลุกน้องชายของผมอยู่แบบนั้นแหละครับ ผมพยายามเอามือผมที่พี่มันเผลอปล่อยไปพลักหัวพลักตัวพี่มันออกไปจากตัวเอง แต่มันก็ไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งสิ้น ฮึก สังคมครับ ช่วยผมด้วย

พี่มันเลิกลูบน้องชายผมแล้วครับ แต่!!! มันกลับลากลิ้นขึ้นมาตั้งแต่หน้าท้องผมยันใบหน้าผมเลยเว้ย โว้ยไอ้ควายชาติที่แล้วเป็นหมาไงวะ        เลียแม่งอยู่ได้

“พี่เอ็มครับ อย่าทำพีชเลยนะ” อ้อนมันครับ นาทีนี้ต้องอ้อน

“อืม” อืมบ้าอืมบออะไรเงยหน้าขึ้นมา โอมจงเงยขึ้นมา

“พี่เอ็มคร๊าบบบบบบบบบ เงยหน้ามามองหน้าพีชก่อนนะครับ นะ”  อ้อนอีกครับอ้อนเยอะๆ เหยดเข้ ได้ผลด้วยครับพี่มันยอมหยุดเลียแล้วมองหน้าผมแทน

“ว่าไงครับพีช เราเป็นอะไรครับ ก็เราบอกพี่เองนี่นาว่าให้ทุกอย่างที่พี่ขออะ” พี่เอ็มถามผมกลับและทวงถึงคำสัญญาที่ผมไม่รู้ว่าไปสัญญากับแม่งมันตอนไหน

“กะ ก็ตอนนั้นผมเมาอะพี่เอ็ม ผะ ผมไม่รู้เรื่องสักหน่อย” ผมพูดพร้อมทั้งทำหน้าตาให้ดูน่าสงสารมากที่สุด พี่ฟังผมสิพี่เอ็ม และมือของพี่มันอะไรกันเนี่ย หยุดลูบได้แล้วมันขนลุก

“หื้ม ใช่เหรอครับพี่ว่าเราไม่ได้เมาเลยนะ ฟอด” เฮ้ย ใครสั่งใครสอนให้พูดไปหอมแก้มไปครับไอ้เหี้ยพี่แม่ง

“อื้อ ยะ หยุดลูบหยุดหอมแก้มผมก่อนครับ ระ เรามาคุยกันก่อน” ผมพูดพร้อมทั้งพยายามผลักพี่มันออกจากตัวและลุกขึ้นนั่งให้เร็วที่สุด นอนคุยกันด้วยท่าแบบนี้มันดูไม่ปลอดภัยเท่าไหร่นะผมว่า

“อื้อ อย่าครับดื้อ อย่าพยายามผลักพี่ออกจากตัวเรานะ” พี่เอ็มว่าพลางยื้อตัวเองไม่ให้โดนผมผลักออกไปง่ายๆ

“ผมโกรธพี่จริงๆนะ ผมโกรธพี่มากด้วยถ้าพี่ไม่ยอมลุกออกไป อยู่แบบนี้มันหนักนะพี่เอ็ม!!อื้อ ลุกออกไปเลย” คราวนี้ง่ายแฮะ รู้งี้บอกว่าโกรธพี่มันไปตั้งนานแล้ว

“เฮ้ย!!!!”

“แบบนี้ดื้อไม่หนักแล้วเนอะ ห้ามโกรธพี่ด้วยเพราะดื้ออยู่ข้างบนตัวพี่แทนแล้ว” ครับพี่มันว่าง่ายครับ ว่าง่ายมาก แม่งโคตรเจ้าเล่ห์ มันพลิกตัวเองลงไปนอนข้างล่างแล้วให้ผมเป็นฝ่ายที่อยู่ข้างบนแทน ดี๊ดีย์

“ดื้อครับ” พี่มันเรียกผมพร้อมทั้งทำหน้าอ้อน แขนแข็งแรงของพี่เอ็มกอดกระชับตัวเขาให้นอนทับคนพี่มากยิ่งขึ้น แน่นแม้แต่อากาศก็ไม่มีทางเข้าได้แน่นอน อันนี้เขามั่นใจได้ เสียงคนพี่ที่แหบพร่ากระซิบเรียกชื่อเขา ข้างๆหู

“พีชครับ สบตาพี่หน่อยครับ นะ นะครับ” มือแกร่งของพี่เอ็มพยายามเชยคางเขาที่ตอนนี้มันแทบจะจมไปกับอกคนพี่ไปแล้ว เมื่อเขาเผลอเงยหน้ามาตามที่คนพี่ต้องการ ร่างข้างล่างก็รีบยื่นหน้าเอาปากอุ่นทาบทับกับเรียวปากของเขา

พี่เอ็มไม่ได้จูบแบบตละตะกราม แต่เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความอ้อนวอน ขอร้อง เป็นจูบที่อ่อนโยนและบางทีก็แฝงไปด้วยความร้อนแรง พีชหลับตาลงและพยายามควบคุมลมหายใจและเสียงหัวใจที่เต้นราวกับมีคนมารัวกลองอยู่ข้างในให้เงียบเสียงลงและเป็นปกติเสียที

ชายหนุ่มยอมให้คนข้างใต้ที่รับบทเป็นคนคุมเกมนำจูบเขาไปเรื่อยๆ ทั้งยังเผลอให้อีกฝ่ายสอดลิ้นร้อนเข้ามากวาดต้อนลิ้นของเขาราวกับผีเสื้อดูดน้ำหวานจากดอกไม้ ต่างกันก็ตรงที่เขาทั้งสองคนเป็นมนุษย์นั่นเอง

ฝ่ามือที่กว้างราวกับอุ้งหมีของคนเป็นพี่ค่อยๆลูบไล้ตัวของคนน้องช้าๆ ราวกับกลัวว่าร่างบอบบางในสายตาเขานั้นจะแตกเป็นเสี่ยงถ้าเขานั้นแตะต้องแรงกว่านี้

พี่เอ็มพลิกร่างเขาให้ลงไปอยู่ข้างล่างร่างของอีกฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง ร่างหนายกตัวขึ้นคร่อมเขาพร้อมทั้งพรมจูบไปทั่วทั้งใบหน้าของเขาไม่ห่าง ไม่ว่าจะเป็นตา แก้ม หน้าผากไล่มายังสันจมูกก่อนจะหยุดทีริมฝีปากของเขา พีชหันหน้าหนี แก้มของเขาร้อนมาก ร้อนจนชายหนุ่มจะกลัวว่ามันจะระเบิดออกมาเสียให้ได้ แต่พี่เอ็มก็หาได้ยอมไม่ ร่างของคนที่อยู่ด้านบนค่อยๆเอามือมาจับหน้าเขาให้หันไปหาอีกฝ่ายจนได้

“พะ พี่เอ็มครับ” เขาส่งเสียเรียกคนพี่ออกไปด้วยเสียงอันแผ่วเบาที่เขาไม่แน่ใจว่านอกจากตัวเขาแล้วคนตรงหน้าเขาจะได้ยินไหม

“อื้อ” อื้ออะไรเล่า T^T

“นะ ไหนว่าเราสองคนจะ จะคุยกันก่อน อื้อ ไงครับ” เขาพูดท้วงออกไปก่อนที่อะไรทุกอย่างมันจะสายไปเสียก่อน

“ก็พูดมาสิครับ พี่ฟังเราอยู่” ไหนว่าฟังอยู่ไงครับ แล้วมือที่ลูบที่เอวผมน่ะเอามันออกไปก่อนได้ไหมครับ สังคมครับช่วยผมด้วย

“อ๊ะ พี่อย่ากัดสิมันเจ็บนะแล้วถ้าพี่ไม่คุยกับผมผ่านคืนนี้ไปเราก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก!!!” ผมเริ่มจะโกรธจริงๆแล้วนะครับ มีอย่างที่ไหนบอกว่าจะคุยกันก่อนแต่ก็ไม่ยอมคุย มัวแต่ทำเรื่องน่าอายอยู่ได้

“โอเค คุยครับคุย แต่ว่าพี่ขออยู่แบบนี้ก่อนได้ไหมครับ” เออ จะอยู่แบบไหนก็อยู่ไป แต่อย่าทำแบบนั้นกับกูก็พอ

“ครับ แต่ห้ามทับผมแรงนะ ผมหนัก” ผมพูดบอกกับอีกฝ่ายที่นอนนี้นอนทับผมมาครึ่งตัวโดยเฉพาะท่อนล่างแต่พี่มันเบี่ยงหน้าไปซบกับหมอนใบเดียวกับผมนี่แหละครับ

“พีชครับพี่ขอนะ นะครับ” พีชรับรู้ถึงปฏิกิริยาด้านล่างของคนที่นอนทับตัวเองอยู่เป็นอย่างดี เนื่องจากท่อนล่างมันแนบแน่นกันเสียขนาดนั้นจะไม่ให้เขารู้สึกก็กระไรอยู่

“ตะ แต่ พีชยังไม่พร้อม พะ พีชกลัว อีกอย่างเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” ผมตอบกลับพร้อมทั้งหลุบตาเสมองไปทางอื่นตอนนี้แก้มผมเห่อร้อนมากราวกับว่าอีกไม่กี่วินาทีร่างทั้งร่างของเขาจะระเบิดออกมาเป็นจุลอย่านั้นแหละ

“พี่รักเรานะครับเด็กดื้อ พี่รักเราตั้งแต่ที่เราเจอกันครั้งแรกเลย รักแรกพบอะครับดื้อ ดื้อรู้จักไหม หื้ม ฟอด” รักแรกพบเคยได้ยินครับ เพลงรักแรกพบของ Tattoo Colour ไงครับ ยัง ยังอีกยังตลกไม่รู้จักเวล่ำเวลาอีกจะเสียตัวอยู่รอมร่ออยู่แล้วเนี่ยไอ้พีช

“พูดง่าย แล้วก็หยุดหอมแก้มผมได้แล้วครับ จะหอมให้ช้ำไปเลยหรือไง” ผมว่าพลางทั้งขยับตัวเพราะอึดอัดแต่ก็ทำไม่ได้ดั่งใจเมื่อไอ้คนบนร่างมันกดตัวลงมาอีก

“ก็ไม่เห็นยากเลยครับ รักนะ พี่รักพีชนะ โคตรรักเลยเว้ย แม่งรักโคตรเลย แล้วแก้มอะไม่เลิกหอมหรอกของรักของข้า” ผมเกือบหลุดหัวเราะตอนที่พี่มันบอกว่าของรักของข้า แม่งเสือกทำเสียงเลียบแบบกอลลัมด้วย ตลกเกินไปแล้วไอ้สัด

พีชหน้าแดงหลังจากที่ได้ยินคนตรงหน้าบอกรัก ถึงเขาจะไม่รู้ว่าที่คนพี่บอกว่ารักจะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน แต่เขาก็เขิน โดนบอกรักทั้งๆที่ท่าทางล่อแหลมขนาดนี้ใครไม่เขินก็บ้าแล้วครับสังคม

“พีชครับ พี่จะพูดอีกครั้งนะครับ พี่ขอนะ พี่อยากขนาดนี้แล้วพีชจะใจร้ายกับพี่ได้ลงคอเหรอครับ” ไม่พูดเปล่า คนพี่จับมือคนน้องไปสัมผัสกับตัวตนของตัวเองเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเขาต้องทรมานกับความอยากนี้มากเพียงไหน

บางส่วนที่มันร้อนระอุ ส่วนนั้นที่มันดุนดันหน้าขาของเขาอยู่ และส่วนนั้นที่แข็งขืนอยู่ภายใต้ร่มผ้าและภายใต้ฝ่ามือของเขาจนเขาสัมผัสได้

เขารีบชักมือตัวเองออกมาก่อนจะยอมพยักหน้า

“ตะ แต่ว่า พีชยังไม่พร้อมให้พี่เข้าไป พะ พี่เอ็มทำแค่ข้างนอกได้ไหมครับ นะครับ” พี่เอ็มทำหน้าผิดหวัง และเขาก็หวังว่าพี่เอ็มจะเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการนะ

“ผมจะใช้มือให้” ตัวเลือกที่หนึ่งที่ผมเลือกมาให้พี่เอ็มแต่ดูเหมือนว่าพี่เอ็มจะไม่โอเคนะครับ เพราะพี่เขาขมวดคิ้วแน่นเลย ฮึก สังคมครับคืนนี้ผมจะรอดไหม

“ตกลงครับ ก็ได้ แบบไหนที่พีชให้พี่ได้พี่เอาทั้งนั้นแหละครับเด็กดื้อของพี่” พี่เอ็มว่าพลางจะลุกออกจากตัวผม แต่ทว่าผมผวาเข้าไปกอดพี่เอ็มไว้ก่อน

“ไม่เป็นไรครับ นอนแบบนี้ก็ได้ พะ พีชทำได้ครับ” ผมว่าก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือลงไปกอบกุมตัวตนของพี่เอ็มที่ร้อนผ่าวผ่านเนื้อผ้าในขณะนี้

“พี่เอ็มครับ ถะ ถอดกางเกงหน่อย พีชทำไม่ได้” หน้าอายที่สุด ก่อนที่คนพี่จะยกสะโพกช่วยให้เขาถึงขอบกางเกงมาไว้ที่ใต้สะโพกได้อย่างหมิ่นเหม่

มือข้างนึงของเขากำลังเริ่มจับตัวตนของคนพี่และเริ่มขยับมือช้าๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจับตัวตนคนอื่นที่ไม่ใช่ของตนเอง เขาพยายามทำให้คนเป็นพี่รู้สึกดีมากที่สุด อึก อื้ม เสียงทุ้มครางดังขึ้นข้างๆหูเขา เมื่อคนพี่หลุดเสียงครางออกมา เขาก็เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น มือที่เริ่มขยับอย่างช้าๆเปลี่ยนมาขยับด้วยความเร็วที่มากขึ้น

ส่วนมืออีกข้างที่ว่างนั้น เขามิได้ปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ เขาเอื้อมมือไปกอดแผ่นหลังกว้างที่ตอนนี้กำลังสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกที่ยากเดินจะคาดเดาได้

“พีชเร็วกว่านี้หน่อยครับ ระเร็วอีก อึก...” เสียงคนพี่เร่งและครางตามมาติดๆ เมื่อได้ยินที่คนพี่บอกเช่นนั้น เขาก็รีบเร่งมือ เขารู้สึกว่าคนบนร่างตัวเองกำลังมีเหงื่อผุดซึมที่ขยับ ตัวเกร็ง

“พี่เอ็มจะ จะกอดพีชหรือจูบพีชก็ได้นะ พีชไม่เป็นไร” ผมพึมพำบอกกับคนบนร่าง ก่อนจะเร่งมือเพื่อให้คนบนร่างเสร็จเร็วมากขึ้น

“อื้ม” “อื้ม” เสียงครางที่ดังไปทั่วห้อง เสียงที่แยกไม่ออกว่าของใครที่ดังมากกว่ากัน เมื่อพีชเร่งขยับมือที่กำลังรูดรั้งตัวตนของคนเป็นพี่อยู่นั้น เขาก็รู้สึกว่าคนพี่กำลังเคลื่อนสะโพกไปตามจังหวะมือที่เขาขยับขึ้นลงเพื่อกระตุ้นความเร่งเร้ามากขึ้น

เขาหน้าร้อนผ่าวทันที เมื่อนึกได้ว่าพี่มันขยับสะโพกโต้ตอบทำไม ตัวเขาโยกสั่นคลอนไปตามจังหวะที่คนบนร่างขยับเข้าหาเขา เขารู้สึกว่าคนบนร่างใกล้จะเสร็จแล้ว เนื่องจากมันมีความอุ่น ความชื้น และความลื่นร้อนไหนจะจังหวะที่ร่างข้างบนขยับเร็วขึ้นนั่นอีก

ถึงแม้ว่าเขากับพี่เอ็มจะไม่ได้สอดใส่กันแต่การกระทำแบบนี้ใช่ว่าจะต่างกันเสียเมื่อไหร่ เขารับรู้ได้ทุกอย่างที่ชายหนุ่มร่างหนารู้สึกได้

“พะ พีช พี่อยากเข้าไปในตัวเรา อึก อื้มมมม....ให้พี่เข้าไปนะครับ” เอ็มครางเสียงทุ้มต่ำ พร้อมทั้งกระชัดอ้อมแขนเพื่อรั้งให้เขากับคนที่อยู่ใต้ร่างเขาใกล้ชิดกันมากกว่านี้

“มะ ไม่นะพี่เอ็ม พี่สะ สัญญากับพีชก่อนมาแล้วไง พี่จะผิดสัญญาเหรอครับ” เขาว่าพลางขยับตัวหนีจากอ้อมแขนแข็งแกร่งนี้แต่ทว่าเขาก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่ดี เพราะพี่มันรัดเขาแน่นมาก

“งะ งั้น พี่ขอแค่ข้างนอกแบบที่เราบอกได้ไหมครับ บะ แบบใช้ขาของเราช่วยให้พี่เสร็จก็พอนะครับ” เขานิ่งไป 2 วิ เขาอึ้งกับคำขอของพี่เอ็ม ถ้าเขาอนุญาตมันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆใช่ไหม แล้วถ้าทุกอย่างมันพลาดละ แล้วถ้า ถ้า

“นะครับ สัญญาเลยว่าจะไม่มีการสอดใส่เข้าไปแน่ๆครับ” เมื่อเขาเผลอไปสบตากับคนที่กำลังขอร้องเขาก็นั้น เขาก็ใจอ่อนโดยพลัน

“กะ ก็ได้ครับ แต่ไม่มีการสอดใส่นะครับ” หน้าเน่อนี่แดงไปหมดแล้วครับ แดงทั้งตัว ไม่รู้ว่าแดงเพราะเขินหรือเพราะว่าโดนคนข้างบนตัวกัดมากกว่ากัน

เขาโดนคนพี่จับพลิกตัวให้นอนคว่ำ คนพี่เอาหมอนมาสอดบริเวณท้องของเขา

“เอาหมอนมาสอดไว้นะครับเด็กดี มันจะทำให้พี่ใกล้ชิดเรามากขึ้น” เขาไม่ว่าอะไรเมื่อได้ยินคนที่ทำอะไรก่อนแล้วค่อยมาบอกเขาทีหลัง ก่อนจะเอาหน้ามุดกับหมอน เพื่อกลั้นเสียงคราง

“ตัวเราขาวจังเลยดื้อ ขาวจนซีดเลย” ไม่ว่าเปล่า คนที่ว่าตอนนี้กำลังไล้มือไปตามตัวเขา ไล้มือช้าๆ ไม่ว่าจะเป็นหลังคอ หัวไหล่ เอวของเขา และก็วนเวียนอ้อยอิ่งบริเวณสะโพกของเขานานหน่อย

“อื้อ หยุดลูบและหยุดพูดมากสักที” เขาว่าคนพี่ไปก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะโรคจิตที่ดังขึ้นแผ่วๆ

หึหึ เอ็มค่อยๆสอดตัวเองลงในช่องว่างของขาหนีบ รับรู้ได้ถึงความเกร็งของคนใต้ร่างของตัวเอง

“อย่าเกร็งนะดื้อ พี่ไม่ได้ใส่เข้าไปนะครับ และก็ขออนุญาตขยับตัวนะครับ” เมื่อได้ยินที่เอ็มพูด เขาก็พยายามผ่อนคลายตัวเอง อาศัยความเชื่อเชื่อใจในตัวร่างหนาว่าเป็นคนรักษาสัญญาพอสมควร

เขาเขินมาก เขินจนไม่รู้ว่าชาตินี้จะเขินได้แบบนี้อีกไหม เขารับรู้ได้ถึงความร้อนของสิ่งที่กำลังสอดเข้ามาระหว่างขาหนีบของตนเอง เขารู้ว่าตอนนี้ไม่เพียงแต่ใบหน้าของเขาเท่านั้นที่แดงแต่มันคงแดงไปทั้งตัวแล้วแน่ๆ

เมื่อชายหนุ่มที่อยู่ด้านบนขยับตัวเขาก็รับรู้ได้ถึงการขยายขนาดของตัวตนของพี่เอ็มที่ใหญ่มากขึ้น ใหญ่กว่าตอนที่เขาจับมันเสียอีก  มือของเขากำผ้าห่ม กำผ้าปูที่นอนจนมันยับยู่ยี่ไปหมด

เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่เกิดจากคนพี่กระแทกตัวเข้ามานั้น มันสร้างความเขินอายให้แก่เขาเป็นอย่างมาก เสียงแบบนี้มันน่าอายยิ่งนัก

ร่างทั้งร่างของเขาโยกสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกของคนที่ควบคุมเกม พี่เอ็มกระแทกอยู่ในท่านั้นได้ไม่นานก็พลิกตัวเขาให้นอนหงายขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือมาจับตัวตนของเขาที่กำลังชูชันอวดสายตาของทั้งสองคนอยู่

“พี่เอ็ม!!!ทำอะไรครับ อื้อไม่เอา พีชทำเองได้” ผมว่าก่อนจะปัดมือแกร่งให้พ้นจากน้องชายตัวเอง แต่ก็ไร้ผลสิ้นดี เพราะตอนนี้พี่มันจับไว้ไม่ปล่อยแล้วครับ

“อื้ออออออออออออออ.........พะ พี่เอ็ม อึก” เสียงครางของผมดังออกมา มันน่าอายมากครับที่มีคนมาทำให้แถมยังหลุดเสียงที่น่าอายนี้ออกมาอีก ผมกัดปากกลั้นเสียงคราง

“ปล่อยครับไม่เอาไม่กัดปากนะ ครางออกมาเลยพี่ชอบฟัง” มือข้างนึงก็ทำให้ผม อีกข้างเอามามาลูบริมฝีปากผมให้มันคลายออก ส่วนสะโพกก็ทำหน้าที่เคลื่อนที่เข้าเคลื่อนที่ออก แยกประสาทได้ดีเหลือเกิน

“อ๊ะ อื้อ..อื้ม” ปลายลิ้นขอคนตัวโตสอดใส่เข้ามากระหวัดหยอกล้อกับลิ้นของผม แล้วพละออก

เสียงครางที่ผสมกันปนเปมั่วไปหมดไม่รู้ของใครเป็นของใคร พี่เอ็มกระแทกตัวหนักมากขึ้น มือก็ขยับให้เขาเร็วมากขึ้นเช่นกัน

ส่วนปากและมืออีกข้างก็ขยี้นมของผมอย่างแดงจนมันเจ็บไปหมด

“พี่เอ็ม ระ แรงๆและเร็วๆเลยครับ พะ พีชจะเสร็จแล้ว” ผมว่าพลางทั้งเร่งให้พี่เขาขยับมือเร็วๆ ก่อนที่ตัวผมจะกระตุกพร้อมทั้งหลั่งออกมาเลอะมือพี่เอ็มไปหมด

ด้านพี่เอ็มเมื่อเห็นว่าผมเสร็จนำเขาไปก่อนแล้ว เขาก็ขยับตัวเร็วและแรงมากขึ้น คนบนร่างกระแทกตัวเข้าหาเขาหนักๆสองสามทีก่อนจะกระตุกและปล่อยน้ำรักออกมา

สองร่างโอบกอดกันไว้จนลมหายใจที่เหนื่อยหอบตอนแรกค่อยๆปรับกลับมาเป็นปกติ ก่อนที่พี่เอ็มจะลุกมาจูบเขาหนักๆที่ริมฝีปากสองสามทีโดยที่ไม่มีการรุกล้ำแต่อย่างใด

“ดื้อครับ เราอาบน้ำด้วยกันไหมครับ” เมื่อได้ยินที่พี่เอ็มพูดชวน เขาก็หันขวับมามองคนตรงหน้าให้เต็มๆตา ก่อนจะต้องหลบสายตาของคนพี่อีกครั้งเมื่อโดนจ้องด้วยสายตากรุ่มกริ่มดูเจ้าเล่ห์ดูไม่น่าไว้ใจ

“ต่างคนต่างอาบดีกว่าครับ” ปฏิเสธออกไปพร้อมกับท่าทางที่จะหลับแหล่มิหลับแหล่

“แต่พี่ทำเราเลอะหมดเลย พี่ต้องรับผิดชอบ” มึงไม่ต้องมาเป็นคนดีตอนนี้ไอ้เหี้ยพี่เอ็ม แม่ง

“ถ้าอยากรับผิดชอบจริงๆพี่ต้องปล่อยให้ผมอาบน้ำเอง โอเคไหมครับ” ผมพูดพร้อมทั้งผลักพี่มันออกไป ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง

“พี่เอ็มครับ คืนนี้เราจะนอนที่ไหนอะเตียงมันเลอะแล้วอ่า” ผมว่าพร้อมทั้งหันไปถามคนพี่ที่ตอนนี้ใกล้จะหลับเต็มทีแล้ว

“นอนห้องพีชไงครับ พี่นอนเบียดเราได้ ส่วนเราถ้าไม่อยากให้พี่อาบน้ำให้ เราก็รีบไปอาบได้แล้วครับ ฟอด” เมื่อได้ยินที่พี่เอ็มว่า ผมก็รีบลุกทันที คราบที่พี่เอ็มทิ้งไว้มันค่อยๆไหลลงมาเปื้อนตามแนวขา สร้างความอับอายให้ผมอีกแล้ว เดี๋ยวนะ น้ำไหลลงจากตัว ตัวผมเพิ่งทำเรื่องน่าอายกับพี่เอ็ม ถอดเสื้อผ้า ลุกขึ้น ไม่มีผ้าขนหนู เปลือยต่อหน้าพี่เอ็มอีกแล้ว งื้อ เขิน เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงรีบเดินเขาห้องน้ำทันไป

ปัง!!

“ปิดประตูเบาๆหน่อยดื้อ อายอะไรเล่า พี่เห็นหมดแล้ว” เสียงพี่เอ็มตะโกนดังจากข้างนอกก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะตามหลังมา

“พีช ผ้าเช็ดตัวเราอยู่บนเตียงนะ ออกมาแล้วก็ใส่เสื้อผ้าแล้วไปนอนเลยนะไม่ต้องรอพี่” เมื่อผมออกจากห้องน้ำก็เจอกับผ้าขนหนูและเสื้อผ้าที่พี่เอ็มบอกแต่ผมไม่เจอเจ้าตัว สงสัยเจ้าตัวคงอาบน้ำที่ห้องน้ำข้างนอกแน่ๆเลย ผมรีบใส่เสื้อผ้าและรีบเข้าไปนอนก่อนที่พี่เอ็มจะอาบน้ำเสร็จ

ผมพยายามข่มตาให้หลับแต่มันก็ไม่หลับ ตอนนี้พี่เอ็มอาบน้ำเสร็จแล้ว กำลังจะนอนแล้วด้วย

“ฝันดีนะครับเด็กดื้อของพี่” พี่เอ็มกอดผมจากด้านหลังก่อนจะบอกฝันดีและจูบหน้าผากผมไปทีนึงก่อนนะนอนกอดผมจากด้านหลังนั่นแหละครับ ผ่านไปไม่นานพี่เอ็มก็หลับลงไปผมนอนฟังเสียงหายใจของอีกคนก่อนจะค่อยๆเคลิ้มหลับตาม

++++++++++++++++++100%+++++++++++++++

TBC

ตอนนี้เพลงเขินมากค่ะเขินอะไรไม่รู้รู้แต่ว่าเขินค่ะ อรั้ยยยยยยย55555555555555

ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ up!!! ตอนที่ 8 19/06/2560
«ตอบ #11 เมื่อ19-06-2017 20:03:20 »

คนของหัวใจ

ตอนที่ 8

อื้อ ผมลืมตาขึ้นมาในเวลาเช้า ด้วยอาการที่ปวดหัวราวกับว่ามันจะระเบิดออกมาเสียให้ได้  ผมกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง ท่าทางของผมเหมือนคนที่ครุ่นคิดอะไรสักอย่างอยู่ ทั้งที่ความจริงแล้ว ผมปวดหัวขนาดนี้จะให้ผมคิดอะไรอีกละครับตอนนี้ในหัวผมมันว่างเปล่าไปหมด เขาค่อยๆกะพริบตาปริบๆ ค่อยๆไล่เรียงความคิดว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น

เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนไหลเข้ามาในสมองของพีชราวกับมีใครไปกดสวิตซ์เปิดความจำขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น

อ๊ะ อื้อ พะ พี่เอ็ม  เสียงที่ผมครางร้องเรียกพี่เอ็มยังดังก้องอยู่ในหัว

ภาพที่พี่เอ็มขัยตัวสอดใส่หว่างขาของผม เสียงคราง การกระแทกตัวของเขา การสัมผัสและท่าทางของเขา มันทำให้คนที่นอนนึกถึงเรื่องเมื่อคืนร้อนหน้าไปหมด

“นี่มึงทำอะไรลงไปไอ้พีช ไอ้บ้า บ้าบอที่สุด” ผมพูดเสียงอู้อี้เพราะว่าผมแนบหน้าข้างหนึ่งไปหับหมอน ก่อนที่ผมจะยกแขนมาลูบหน้าตัวเอง

แต่ไม่ทันที่ผมจะได้ลูบหน้าตัวเองสมใจยาก ผมก็ค้นพบว่าตัวเองยกแขนขึ้นได้แค่ข้างเดียว ส่วนอีกข้างนั้นผมขยับได้นิดเดียวแต่มันไม่สามารถยกขึ้นมาได้เท่านั้นเอง

“นะนี่ คะแค่กินเหล้าเมาและทะ ทำเรื่องที่น่าอายแบบนั้น ถึงกับเป็นอัมพาตเลยเหรอวะ” T^T ฮือ ผมเป็นอัมพาตเพราะกินเหล้าเมาหนัก รู้ถึงไหนอายถึงนั่น อายไปยันลูกบวช แต่ผมคงไม่มีโอกาสได้มีลูกบวชแน่ๆเพราะผมเป็นอัมพาตไปแล้ว สังคมครับช่วยผมด้วย แงงง

“พีชครับ เป็นไรทำไมทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้แบบนั้นละครับ” เสียงที่ดังขึ้นช่วยทำให้ผมหยุดความคิดที่มันฟุ้งซ่านได้ในขณะนี้เป็นอย่างดี

กึก!!!! “โอ้ย/โอ้ย!!!” เสียงที่ประสานกันดังขึ้นด้วยความเจ็บปวด คือเสียงของผมและพี่เอ็มครับ

ถึงเมื่อคืนจะทำอะไรกันแบบนั้นแต่ผมก็ไม่จำเป็นต้องชินใช่ไหมครับที่เสียงพี่มันดังขึ้นมาจากข้างบนหัวผมนี่นา.....แล้วทำไมอีกฝ่ายถึงยังไม่ออกจากห้องเขาไปอีก......

........เมื่อคืนก็เนียนนอนห้องเขาไปทีนึงแล้วนะแต่เป็นเพราะว่าเขาเมาหรอกถึงไม่มีแรงไล่กลับ...

“อยู่นิ่งๆสิครับเดี๋ยวหัวเราก็ชนกับคางพี่อีกหรอก ไม่เจ็บเหรอหืม” พี่เอ็มพูดพร้อมทั้งกระชับแขนที่โอบผมไว้ให้แน่นขึ้นไปอีก

อ๋อ ไอ้ที่แขนผมมันขยับไม่ได้ก็เพราะว่าอีกฝ่ายนอนทับแขนของเขาไว้นั่นเอง ทุกคนพอจะคิดภาพออกไหมครับ คือตอนนี้เราสองคนนอนอยู่ในท่าที่พี่เอ็มนอนเอาคางเกยหัวเขาเอาไว้แล้วตัวพี่เอ็มก็ทับแขนผมไว้อีกที ส่วนขา พี่เอ็มก็ยกมาเกยตัวเขา ทำเหมือนว่าตัวเขาเป็นหมอนข้างยังไงยังงั้นแหละ และที่ยกแขนขึ้นไม่ได้ก็เพราะว่าแขนผมมันชา   โถ่ว ผมก็คิดว่าผมเองเมาแล้วเป็นอัมพาตเสียอีก

“ทำไมพี่ยังไม่กลับห้องของพี่ แล้วนี่มานอนกอดผมทำไม ปล่อยได้แล้วครับมันร้อนและผมก็เมื่อยมากขอย้ำอีกทีว่ามาก” และที่สำคัญเหน็บมันเล่นงานแขนผมจนชาไปหมดแถมยังคิดบ้าคิดบอว่าตัวเองเมาจนเป็นอัมพาต บ้าบอที่สุด

“ร้อนอะไรครับดื้อ เปิดแอร์จนพี่นึกว่าเราอยู่ขั้วโลกเหนือเสียอีก ยังมาร้อนอะไรครับแล้วนี่เมื่อยเหรอ เดี๋ยวพี่นวดให้เอาไหม” ไม่พูดธรรมดาครับ พี่มันขยับตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมทั้งทำท่าจะนวดตัวให้เขาเหมือนที่พูดไว้จริงๆ

“มะ ไม่เอา แค่พี่ลุกออกไปก็พอแล้ว” ผมพูดพร้อมทั้งหลบตาที่อีกฝ่ายจ้องมองมา สายตาที่ฝั่งนั้นมองมามันทำให้เขารู้สึกร้อน ร้อนจนต้องอยู่นิ่งไม่ได้

“ดื้อครับ ดื้อมองพี่หน่อย พีชครับหลบตาพี่ทำไมแล้วหน้าแดงทำไมครับ คิดถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่เหรอ” เพราะใครกันเล่าที่ทำให้เขามีอาการแบบนี้ ยังมาพูดแหย่อยู่ได้ แม่ง

“ใครหน้าแดง พีชร้อน ผมร้อนบ้างเหอะ ผมไปอาบน้ำดีกว่า อากาศมันร้อนเนอะ” ผมพูดพร้อมทั้งทำท่าจะลุกออกไปอาบน้ำตามที่พูดไว้ ก่อนที่ผมจะโดนอีกคนจับแขนไว้ได้ทัน

“มิน่าละแก้มแดงทั้งแถบเลย สงสัยพีชต้องร้อนแบบที่พีชบอกพี่แน่ๆเลยใช่ไหม” อีกฝ่ายไม่พูดเปล่า ร่างหนาที่นั่งข้างๆเขายกมือลูบแก้มพร้อมทั้งจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เขาเองก็อ่านไม่ออก ก่อนที่เขาจะหลบตาอีกครั้ง

“เรา...อาบน้ำพร้อมกันไหมครับ” เขาเลิกคิ้วมองคนพูดประมาณว่าเมื่อกี้พูดอะไรได้คิดก่อนไหม ทำนองนั้น

“พูดออกมานี่คิดไหมครับ คิดว่าผมจะยอมอาบน้ำกับพี่เหรอ” ผมพูดพลางส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา

“พี่ก็ชวนเราเผื่อฟลุคไงครับ แต่ถ้าพีชไม่อยากอาบพร้อมพี่ พี่ก็ไม่บังคับ” พี่เอ็มพูดจบพร้อมกับก้มหน้ามาหอมแก้มเขาดัง ฟอด ก่อนจะลุกไปอาบน้ำที่ห้องพักตัวเอง พร้อมกับเดินฮัมเพลงออกไปอย่างอารมณ์ดี

ทิ้งเขาให้ช็อคกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นอยู่คนเดียว

...

...

...

...

“ขอบคุณนะครับพี่เอ็มที่ชวนผมไปทะเลแบบกะทันหันแต่ก็สนุกมากเลยครับ” ตอนนี้ผมและพี่เอ็มกลับกรุงเทพกันแล้วครับ เพราะพรุ่งนี้ก็วันจันทร์แล้วเราต้องกลับมาลุยกับการเรียนต่อ

“พี่ก็ต้องขอบคุณพีชเหมือนกันนะครับที่ไปเป็นเพื่อนพี่ ถึงพีชจะไม่เต็มใจก็เถอะ” ขยี้หัวผมอีกแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้ร่างหนาตรงหน้าขยี้ผมเขาละก็โยกหัวเขาไปมาเหมือนเอ็นดูเขามากงั้นแหละ

“อะ เอ่อ พี่เอ็มกลับไปได้แล้วครับ เดี๋ยวผมก็จะเข้าหอแล้วครับ” ผมเอ่ยปากบอกให้อีกคนกลับไปพักผ่อนเสียที เพราะพรุ่งนี้อีกฝ่ายมีเรียนแต่เช้าเดี๋ยวจะตื่นไม่ไหว แต่ผมไม่พูดหรอกพี่เอ็มคงรู้อยู่แล้วว่าผมเป็นห่วง

“พี่รอให้เราเดินเข้าหอไปก่อนครับ เดี๋ยวพี่ก็กลับแล้ว ฝันดีนะครับเด็กดื้อของพี่ พรุ่งนี้ให้พี่มารับไหมครับ”

“ไม่ดีกว่าครับพรุ่งนี้ผมมีเรียนสายๆ เดี๋ยวผมไปเองอีกอย่างพี่อย่าลืมสิครับว่าหอผมใกล้มหาลัยนิดเดียวเอง และก็ฝันดีครับ” ผมบอกฝันดีพี่เอ็มพร้อมทั้งหันหลังเดินเข้าหอ ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้

“พี่เอ็มครับ ถะ ถ้าถึงบ้านแล้วโทรมาบอกหรือส่งข้องความมาบอกผมด้วยนะครับ” ผมหันไปบอกพี่เอ็มก่อนจะวิ่งเข้าหอด้วยความอาย

….





1 ชั่วโมงผ่านไป

ทำไมพี่เอ็มยังไม่โทรมาหรือส่งข้อความมาบอกผมว่าถึงไหนแล้ว แต่ปกติพี่เอ็มขับรถจากหอผมไปบ้านก็ไม่เคยนานขนาดนี้มาก่อนเลยนะ จะว่ารถติดก็ไม่น่าใช่เพราะนี่มันก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วนะ

“โทรมาสักทีเซ่ หรือส่งข้อความมาก็ได้” ผมหยิบมือถือขึ้นมาถือ พร้อมกับจ้องมองมันราวกับว่าจะสามารถสั่งให้มันดังได้งั้นแหละ

ผมนอนจ้องโทรศัพท์อยู่ประมาณ 5 นาที ในที่สุดพี่มันก็ส่งข้อความมาบอก

“พี่ถึงบ้านแล้วนะครับดื้อ พี่เพิ่งอาบน้ำเสร็จกำลังจะนอน ฝันดีนะครับดื้อ ฝันถึงพี่ด้วยนะ”

ผมส่งสติกเกอร์กลับไป พร้อมทั้งขยับตัวจัดท่านอนให้ตัวเอง และค่อยๆหลับไปด้วยความเพลียจากการเดินทาง

.

.

.

.

เสียงจอแจวุ่นวายนี่มันอะไรกันครับสังคม แค่ปิดเสาร์อาทิตย์เองทำไมทุกคนดูมีเรื่องมาคุยกันเยอะแยะจังวะครับ

โอ๊ะ ขวับ!! นั่นกล้าสาบานไหมครับคุณ”กัส” กัสคือเพื่อนในกลุ่มผมครับ กลุ่มผมมีกันอยู่ 4 คน มีผม คุณโอม คุณกัส และคุณเฟอร์คู่กัดคุณโอมเขานั่นแหละครับ

และเสียงโอ๊ะ นั้นคือเสียงของผมเองครับ ไอ้คุณกัสมันใช้มือหรือใช้เท้าไม่รู้ครับในการสะกิดผมแต่พูดอีกทีอย่าเรียกว่าสะกิดเลยครับ มันเจ็บปวด

“อะไรครับ อะไรมึง มองหน้าผมแบบนี้มึงปีปัญหากับกุเหรอครับไอ้คุณพีช” แม่งถ้ามึงจะพูดคำหยาบคำสุภาพคำมึงก็ไม่ต้องพูด เลือกเอาสักอย่าง

“เปล่ามีปัญหาอะไรเลยครับคุณกัส แล้ววันนี้ทำไมมาเร็วได้ละครับ ปกติต้องวิ่งเข้าห้องไม่ใช่เหรอครับ” ผมปฏิเสธออกไปพร้อมทั้งถามเพื่อนกลับไป แต่คำถามคงจะแทงใจดำคุณกัสมากเขาจึงทำหน้าเหมือนจะกระโจนเข้ามาบีบคอผม ฮ่าๆ

“ทำไมวะคนอย่างกูจะมาเร็วบ้างไม่ได้เหรอวะ แล้วนี่สองคนผัวเมียเขาไปไหนวะ ยังไม่มาอีกเหรอ” กัสพูดพร้อมทั้งนั่งลงข้างๆเขาและถามหาเฟอร์กับโอมที่ยังไม่มามหาลัยทั้งคู่

“ถ้าเขาทั้งสองคนมาถึงแล้วคุณกัสก็มองเห็นสิครับ แต่นี่คุณกัสไม่เห็นผมไม่เห็นก็แปลว่าสองคนนั้นยังมาไม่ถึงไงครับ” ผมทำหน้าเอือมๆ ส่งไปให้คุณกัสเลยโดนคุณกัสผลักหัวไปหนึ่งที อะไรกันพูดเรื่องจริงทำมาเป็น

“ไอ้เฟอร์เว้ย วู้ ทางนี้” คุณกัสหันไปตะโกนเรียกคุณเฟอร์ที่จับมือ เอ่อ ลากคุณโอมมาด้วยกัน

“มึงจะตะโกนหาพ่อมึงเหรอ ไอ้เตี้ย กูมองเห็นพวกมึงแล้ว นั่งสิอ้วนยืนไปน้ำหนักมันก็ไม่ลดหรอก” เฟอร์พูดกับกัสก่อนจะกันไปบอกให้โอมนั่งลงด้วยน้ำเสียงที่น่าประเคนฝ่าเท้าเป็นรางวัล

“อ้วนพ่อมึงไอ้เหี้ยเฟอร์ คุณพีชครับ จริงหรือไม่ครับที่วันหยุดที่ผ่านมาคุณไปทะเลกับพี่ชายของกระผมสุดหล่อนายโอมคนนี้ สองต่อสอง จริงหรือไม่อย่างไรครับ ฮั่นแหน่ะ” โอมหันไปหาเฟอร์ก่อนจะนั่งลงแล้วหันมาซักถามเขาแทน แหมรู้ทั้งรู้ยังแกล้งมาถามเขาอีก

“ไม่มีอะไรครับ พี่เอ็มเขาอยากไปเที่ยวทะเลแต่ไม่มีคนไปด้วยเขาก็เลยชวนผมไปด้วยน่ะครับ” ผมพูดออกไปตามความจริงแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตามก็พี่เอ็มมันไม่ชวนใครนี่ครับจะมีคนไปด้วยได้ยังไง

“จริงหยอ แล้วมึงกับพี่กู อะจึ่งอะจึ่งกันยัง” คำถามนั้นของคุณโอมทำให้ผมรู้สึกร้อนๆ ที่หน้าทันที แล้วแม่งทำเสียง จริงหยอ ได้โคตรกวนตีนอะครับ แบบดัดๆเสียง ผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน

“แหน่ะ หน้าแดง ว๊ายหน้าแดง กัสๆเพื่อนมึงหน้าแดงอะ ว๊ายยยยยยย” ไอ้เหี้ยคุณโอมกับไอ้เหี้ยคุณกัส มึงจะล้อกูทำสวรรค์วิมานอะไร สังคมครับช่วยยอดชายนายพีชให้ออกไปจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ที ฮือ

“เออ พีชไหนมึงบอกสุดหล่อทีสิว่ามึงหน้าเองทำไม พี่เอ็มเขาทำอะไรน้องพีชของพี่ครับ” คุณกัสพูดพร้อมทั้งยกมือกอดคอผมและก้มจ้องมองหน้าผมไม่ยอมให้ผมได้หลับสายตาอะไรทั้งสิ้น

“ผมร้อนครับ หน้าผมเลยแดงเพราะผมขาวมากไงครับ เวลาร้อนมันก็เลยมองออกง่ายเป็นพิเศษ” ผมพูดออกไปพร้อมกับเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนของคุณกัส ตัวก้เล็กกว่าผมกระแดะเรียกตัวเองเป็นพี่และลามปามกอดคอผมอีก

“เข้าเรียนเถอะว่ะมึง ได้เวลาเรียนกันแล้ว” เหมือนเสียงสวรรค์มาโปรดเลยครับ คุณเฟอร์พระมาโปรดของผมพูดตัดบทพร้อมทั้งจูงมือคุณโอมให้ขึ้นเรียนไปพร้อมกัน

“โอ้ย ไอ้เหี้ยเฟอร์กูเดินเองได้โว้ยไม่ต้องมาจับ” เสียงคุณโอมโวยวายไปตลอดทาง

“ไอ้พีชมึงว่าสองคนผัวเมียนั่นแม่งแปลกๆป่ะวะ” มาอีกแล้วครับคุณกัส ผู้ที่อยากรู้อยากเห็นทุกเรื่องของคนอื่น ทำไม่ตอบอะไร ผมทำเพียงปรายสายตาไปมองคุณกัสก่อนจะลุกเดินตามสองคนนั้นไป

“แม่งมองกูด้วยสายตาแบบนั้นอีกแล้ว เออกูไม่เสือกก็ได้ แต่อย่าให้กูรู้นะมึง” เสียงคุณกัสตะโกนมาก่อนที่จะวิ่งตามผมมา

..

..

..

“นักศึกษาคะ ก่อนจบคลาสวันนี้อาจารย์จะให้นักศึกษาไปทำรายงานมาคนละเล่ม ส่งวันจันทร์หน้านะคะ ใครไม่ทำก็ได้ค่ะอาจารย์ไม่ได้บังคับ บลาๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงอาจารย์ประจำวิชาภาษาศาสตร์กำลังสั่งการบ้านอยู่หน้าห้อง โดยที่ไม่ได้สนใจนักศึกษาในห้องเกือบครึ่งที่กำลังหลับเป็นตายกันอยู่เลย

แต่ผมไม่ได้หลับนะครับ ผมเด็กดีจดทุกอย่างไว้ แต่ถามว่าเรียนรู้เรื่องไหม ตอบด้วยความภาคภูมิใจเลยครับว่าไม่รู้เรื่องสักนิดเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นสัทอักษร และอะไรอีกก็ไม่รู้ครับ เยอะแยะไปหมด

“สั่งงานเยอะประหนึ่งกูเรียนอยู่วิชานี้วิชาเดียว” ผมสะดุ้งเพราะเสียงคุณโอมที่พึมพำพูดออกมา ผมหันไปมองเห็นคุณโอมกำลังนั่งกินลูกอมอยู่

“คุณโอมไม่ได้หลับหรอกเหรอครับ”

“หลับตอนต้นคาบน่ะแล้วก็ตื่นตอนที่จารย์สั่งงานนี่แหละ สั่งไรนักหนาวะงานจะทับตัวกูตายแล้วเนี่ย” คุณโอมบ่นออกมา

“พูดมากว่ะอ้วน” เสียงเรียบๆของคุณเฟอร์พูดออกมา ทำให้ผมที่ตอนแรกจะพูดกลับไปเป็นอันต้องเงียบเพราะตอนนี้ คุณโอมหันไปเถียงกับคุณเฟอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

“หาไรกินกัน ไอ้เหี้ยกัสถ้ามึงจะมานอนแบบนี้มึงกลับไปนอนที่บ้านก็ได้ไหม เปลืองหน้าเทอมฉิบหาย” คุณโอมหันมาปลุกคุณกัสที่นอนน้ำลายยืดก่อนจะประชดคุณกัสไปอีกนิดหน่อย

”เออ กูก็กะว่าจะนอนที่บ้านอะแหละแต่บังเอิญว่าป๋ากับเจ้ไม่ยอมว่ะบอกว่ากูเป็นลูกก็ควรทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด” อ้อ คุณกัสเรียกพ่อกับแม่ตัวเองว่า ป๋ากับเจ้อะครับ เรียกพ่อว่าป๋าผมเข้าใจแต่เรียกแม่ว่าเจ้นี่ผมไม่เข้าใจจริงๆครับ

“ไปกินที่ไหนดีวะ ไม่อยากกินที่โรงอาหารเลยคนเยอะแถมกูเบื่ออาหารที่โรงอาการเต็มทีแล้วว่ะ” คุณกัสพูดออกมาพร้อมกับถามความเห็นของเราทุกคน สรุปว่าเราจะออกไปกินข้าวข้างนอกกันครับเพราะวันนี้พวกเราไม่มีเรียนกันแล้ว เรียนสบายครับวันนี้ เรียนคาบเดียวแต่สภาพเหมือนคนออกไปทำสงครามมา

Tru tru tru

“พี่เอ็ม”

“ฮัลโหลครับพี่เอ็ม” ผมกดรับสายก่อนจะทักอีกฝ่ายก่อน

“เรียนเสร็จยังครับ ไปหาไรกินกันพี่ยังไม่ได้กินข้าวเลย” เสียงปลายสายตอบกลับมา

“ผมจะออกไปกินข้าวกับเพื่อนๆอะครับ ยังไงวันนี้พี่ก็กินคนเดียวไปก่อนนะครับ” ผมนึกก่อนจะบอกอีกคนไปตามตรง อีกอย่างผมยังไม่อยากเจอหน้าพี่เอ็มตอนนี้ ผมยังอายเรื่องคืนนั้นอยู่

“อ่างั้นเหรอครับ งั้นก็ได้ครับแต่พรุ่งนี้พีชต้องมากินข้าวกับพี่นะครับ ห้ามปฏิเสธด้วย แล้วก็คิดถึงนะครับ”

“อ่าครับ” ผมตอบรับก่อนผมเกือบจะตัดสายแล้วถ้าเสียงปลายสายไม่ดังขึ้นมาก่อน

“ครับอะไร พีชบอกพี่ก่อนสิครับว่าพีชคิดถึงพี่หรือเปล่าครับ คิดถึงพี่เหมือนที่พี่คิดถึงพีชไหม บอกพี่หน่อยครับคนดี” มาคิดถึงอะไรกันเล่าเพิ่งแยกจากกันไม่ถึง24ชั่วโมงด้วยซ้ำ

“เห้อ บ้าบอว่ะพี่เอ็ม ผมจะกดวางแล้วนะแล้วก็อย่าลืมหาอะไรกินด้วยนะครับ สวัสดีครับ” ผมบอกอีกฝ่ายก่อนจะตัดสายแล้วเดินไปหาเพื่อนๆ ที่รออยู่ที่รถกันแล้ว

เมื่อเดินไปถึงรถก็เป็นไปตามคาดครับ คุณกัสกับคุณโอมแซวผมจนลั่นรถ แต่เมื่อผมไมมีปฏิกิริยาตอบกลับพวกเขาก็หยุดไปเองนั่นแหละครับ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

TBC

ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ up!!! ตอนที่9 19/06/2560
«ตอบ #12 เมื่อ19-06-2017 20:09:32 »

คนของหัวใจ

ตอนที่ 9

ตอนนี้พวกเราอยู่ชาบูครับ  อะไรนะครับทำไมถึงเลือกร้านนี้เหรอ มันคงต้องย้อนความกันสักหน่อย

ตอนที่คุณโอมและคนอื่นๆ แซวผมลั่นรถ ผมก็ทำเป็นเฉยๆก่อนที่เสียงตะโกนแซวเหล่านั้นจะเงียบหายไปเพราะผมไม่ยอมตอบโต้อะไรเลย

เมื่อพวกเราทั้ง 4 คนมาถึงห้าง อาการโรคอยากกินอะไรก็ไม่รู้กำเริบขึ้นมาทันที คุณโอมและผมอยากกินอะไรร้อนๆคล่องคอ คุณกัสอยากกินพิซซ่า ส่วนคุณเฟอร์อะไรก็ได้ แต่ผมรู้ครับว่าคุณเฟอร์ต้องกินอะไรก็ได้ที่คุณโอนอยากกิน สุดท้ายพวกเราก็ตกลงกันไม่ได้สักทีจนเป็นเหตุให้คุณโอมระเบิดลง

“ตกลงจะกินไรกันวะ นี่ก็ไม่เอา นู่นก็ไม่อยากกิน ให้แดกที่มอก็ไม่แดก พอมาถึงห้างก็ไม่รู้จะกินไรดี แยกกันกินไหมวะ” โอมโวยวายออกมาด้วยความโมโหหิว

“ใจเย็นดิอ้วน มึงอยากกินไรตามใจมึงเลย ใช่ไหมพวกพวกมึง” เฟอร์พูดกับโอมก่อนจะหันมาถามความเห็นของพวกเขาที่ยืนหน้าซีดกันอยู่

“จะกินชาบูร้านนี้” โอมชี้ไปที่ร้านชาบูที่อยู่ด้านหน้าพวกเรา ก่อนที่โอมจะเดินนำเข้าไปในร้าน

“ฉิบหายมึงเล่นปล่อยระเบิดกลางห้างงี้ แล้วมึงพูดขนาดนี้ต่อให้กูไม่แดกก็ต้องแดกละวะ ผัวมึงต้องตามใจมึงอยู่แล้วนิ” เสียงกัสบ่นเบาๆ งุ้งงิ้งตามหลังมา ถึงคุณกัสจะบ่นเบาแค่ไหนแต่ผมก็ได้ยินอยู่ดีครับ

ด้วยเหตุนี้ พวกเราถึงมานั่งกินชาบูกันอยู่ตรงนี้นั่นเอง

.

.

.

“มึงเป็นไรพีชปวดขี้ก็ไปเข้าห้องน้ำมานั่งดุ๊กดิ๊กกระดุกกระดิกอยู่ได้” คุณกัสหันมามองผมที่นั่งอยู่ข้างๆ คงรำคาญที่ผมนั่งกระสับกระส่ายอยู่ไม่สุขแน่ๆ และที่ผมนั่งไม่นิ่งนั้น เพราะว่ามีโต๊ะข้างหน้าชอบมองผมแบบแปลกๆ ต่างหาก ใช่ว่าผมจะปวดเข้าห้องน้ำสักหน่อย

“ไม่ใช่สักหน่อยครับ คุณกัสมั่วมากอะ” ผมถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงอ้อมแอ้มปฏิเสธข้อกล่าวหาที่คุณกัสว่าผม ก่อนที่คุณกัสจะหันมาผลักหัวผม

“โอ้ย ผมเจ็บนะครับ จะบอกตอนนี้แล้วไง ก็โต๊ะข้างหน้าเรา มองงผมแบบแปลกๆผมเลยอึดอัดไงครับ” ผมรีบพูดบอกก่อนที่จะโดนคุณกัสด่ามาทางสายตา อะไรวะตัวแม่งเล็กแค่นี้แต่มือหนักเป็นบ้าเลย

“คนไหนวะพีช คนที่นั่งหันหน้าเข้าหาเรานี่เหรอ ใส่เสื้อสีขาวนั่นเหรอวะ” กัสเงยหน้ามองคนที่อยู่ข้างหน้า

พร้อมกับหันมาถามเขา

“ใช่ครับคนนั้นแหละครับ ผมเห็นเขาจ้องตั้งแต่เราเดินเข้ามากันแล้วครับ ตอนแรกผมคิดว่าเขาจ้องคนอื่นเลยไม่ได้สงสัยอะไร” ผมพูดบอกทุกคนในโต๊ะพร้อมกับพยักหน้าเพื่อเป็นหารยืนยันคำพูดตัวเองอีกที

“แล้วทำไมมึงไม่พูดตั้งแต่แรก เดี๋ยวขอกูดูหน้าหน่อยสิ” คุณโอมพูดพร้อมทั้งหันหลังไปจ้องโต๊ะนั้น การจ้องของคุณโอมเป็นการจ้องที่ทำให้คนมองรู้สึกตัวว่าโดนจ้อง

“อ้วน เสียมารยาทไปจ้องเขาขนาดนั้นไงได้กัน” เฟอร์ดึงไหล่ของคนที่นั่งข้างๆ ตัวเองให้หันกลับมานั่งเหมือนเดิม

“จิ๊ อะไรเล่า ก็อยากเห็นอ่าว่าคนแบบไหนนะที่จะนั่งจ้องคนอื่นจนเขารู้สึกตัวอะ บ้าบอ” คุณโอมทำหน้างอพร้อมทั้งพูดเสียงกระเง้ากระงอด ก่อนจะตักผักที่อยู่จานของตัวเองมากิน

“โง้ย อ้อน อ้อน อ่า เออร์ ออ อ้าม อ้ามอะอ้าม” (โอ้ย ร้อน ร้อน อ่า เฟอร์ ขอน้ำ น้ำอะน้ำ) ผมแปลให้เรียบร้อยแล้วครับ ฮ่าๆ หน้าคุณโอมโคตรตลก คือผักในจานนั้นคุณเฟอร์เพิ่งตักจากหม้อมาใส่ในจานคุณโอมก่อนที่จะรั้งให้คุณโอมหันมานั่งดีๆ เมื่อกี้แหละครับ

“ทำไมไม่บอกว่าผักมันร้อน ห๊ะ!!!” คุณโอมหันไปเอาเรื่องกับคุณเฟอร์พร้อมกับดื่มน้ำไปอีกอึกใหญ่ คุณเฟอร์ไม่ตอบอะไรได้แต่ส่ายหน้าไปมา

“พวกมึงอิ่มกันยัง เก็บตังเหอะว่ะ อีกอย่างมันจะหมดเวลาแล้วด้วย” คุณกัสพูดขึ้นพร้อมทั้งถามพวกผม ก่อนที่พวกผมจะพยักหน้าเพื่อบอกว่าอิ่มแล้ว

“เช็คบิลเลยครับ นี่เงินนะครับ เดี๋ยวผมออกไปรอหน้าร้านนะครับ” ผมยื่นเงินให้คุณเฟอร์ ก่อนที่ผมกับคุณกัสจะเดินออกมารอหน้าร้าน

“พีชมึงรอตรงนี้นะห้ามเดินไปไหนคนเดียว เดี๋ยวกูมา กุไปเข้าห้องน้ำแปปนึง ย้ำว่าอยู่ตรงนี้ ห้ามไปไหน” รอได้สักพักคุณกัสก็ขอไปห้องน้ำ ผมพยักหน้าให้ ก่อนที่คุณกัสจะเดินออกไปด้วยความรีบร้อน แม่งเตือนอยู่นั่นแหละผมจะไปไหนได้วะ ยังอยากนั่งรถกลับหอนะเว้ยยังไม่อยากเดินอีกอย่างนี่ 18 จะ 19 ในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้ว ไม่ใช่เด็กเสียหน่อย บ้าบอที่สุด

“เอ่อ คุณครับ” เสียงดังขึ้นพร้อมทั้งอะไรที่มาสะกิดตัวเขาจากด้านหลังดังขึ้น ส่งผมให้ชายหนุ่มหันไปมองก็เห็นเป็นผู้ชายโต๊ะด้านหน้านั่นเอง

“ครับ? มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ?” ผมหันตอบรับพร้อมทั้งถามเขากลับเผื่อว่าที่เขามองผม เขาอาจจะมีอะไรให้ผมช่วยก็ได้ ใครจะรู้

“เอ่อ คือว่า ผมแบบว่า” ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยท่าทางประหม่าก่อนจะยกมือขึ้นเกาตรงท้ายทอย น่ารักดีแหะ

“ครับ คือว่าอะไรครับ” ผมยิ้มให้เขาเพื่อให้เขาไม่ประหม่ามากไปกว่านี้ คนที่อยู่หน้าหน้าพีชตอนนี้เป็นผู้ชายสูงประมาณ 170 ได้มั้ง ตัวขาวๆ ตาโตๆ แถมมีลักยิ้มเวลาพูดหรือยิ้มด้วย น่ารักมากอะครับ

“ผมชื่อดราฟนะครับ และขอโทษด้วยที่ผมมองคุณจนดูน่าเกลียด ผม แบบว่าผมรู้สึกถูกชะตากับคุณมากอะครับ แล้ว แล้วทีนี้ผมก็อยากจะขอเบอร์ เอ่อ เบอร์คุณหน่อยได้ไหมครับ ตะ แต่ว่า ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับ ผะ ผมแค่อยากลองของดูเฉยๆเอง งั้นผมไปแล้วนะครับ” พีชมองคนที่แนะนำตัวเองว่าชื่อ “ดราฟ” ด้วยท่าทางที่เขินและประหม่ามากกว่าเดิมเพียงแค่เขายิ้มให้ ทำให้เขารู้สึกอยากยิ้มกว้างมากขึ้น ดูๆไปแล้ว ดราฟนี่คงจะอายุน้อยกว่าเขาละมั้ง

“ได้สิครับ ขอได้ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับแล้วก็ไม่ต้องประหม่าด้วย ดูท่าทางแล้วพี่คงจะอายุมากกว่าดราฟใช่ม่ะ พี่ชื่อ พีช นะเอาโทรศัพท์มาสิเดี๋ยวพี่กดเบอร์พี่ให้” ผมพูดพร้อมทั้งแนะนำตัวเองไปด้วยเลย ก่อนที่ ดราฟจะส่งโทรศัพท์มาให้ผมกดเบอร์ตัวเองลงเครื่องของเขา

“เอ่อ เราว่าพีชคงเข้าใจผิดแล้วแหละ พี่อายุมากกว่าเราแน่นอน เพราะปีนี้พี่ก็อายุ 24 แล้วนะ คิคิ ขอบคุณสำหรับเบอร์พีช ถ้าพี่จะขอโทรไปหาบ้างคงไม่เป็นไรหรอกเนอะ” ผมหน้าเหวอทันทีเมื่อรู้ว่าคนตรงหน้า อายุมากกว่าเขาหลายปี ไม่น่าเชื่อว่าพี่เอ็มและคนตรงหน้าเขาจะอายุเท่ากัน เพราะพี่เอ็มนี่หน้าตานำอายุตัวเองไปหลายปีแล้ว ส่วนคนตรงหน้าที่ยืนตัวเล็กอยู่ตรงนี้อายุนำหน้าไปหลายปีเช่นเดียวกัน

“คะ ครับ” ผมพูดอะไรไม่ออกนอกจากตอบรับและยิ้มเขินๆให้พี่ดราฟ เมื่อรู้ว่าตัวเองปล่อยไก่ตัวโตเลยทีเดียว

“คิคิ งั้นพี่ไปก่อนน๊า แล้วค่อยคุยกันนะครับ” พี่ดราฟพูดพร้อมทั้งโบกมือและเดินกลับไปหาเพื่อนของเขา

“เฮ้ย ไอ้พีชมึงนอกใจพี่ชายกูเหรอ กูโทรฟ้องพี่ชายกูแน่” เสียงคุณโอมดังขึ้นมาจากหน้าร้าน สงสัยจะจ่ายตังเสร็จแล้วและคงยืนดูตั้งแต่ต้นถึงได้ไม่ถามอะไรเขาเลยแบบนี้

“ไร้สาระครับคุณโอม แล้วนี่คุณกัสเมื่อไหร่จะกลับมาไปเข้าห้องน้ำหรือว่าไปนอนที่ห้องน้ำกันแน่” ผมทำหน้าเอือมใส่คุณโอมก่อนจะบ่นไปถึงคนที่ไปเข้าห้องน้ำ

“กูมาตั้งนานแล้วไอ้พีช ไอ้เด๋อกูยืนมองมึงกับพี่ดราฟตั้งนาน มึงไม่สนใจกูเอง” กัสเดินเข้ามาพร้อมทั้งผลักหัวเขาไปที ก่อนจะเขย่งกอดคอเขา นี่ก็อีกคนไม่เจียมความสูงของตัวเองเลย พอๆกับคุณโอม เห้อ น่าเบื่อนะครับสังคม มีเพื่อนไม่เจียมสังขารตัวเองแบบนี้ ผมส่ายหัวก่อนจะเดินนำออกมา

.

.

“เจอกันพรุ่งนี้เว้ย เดินเข้าหอดีๆ ถึงห้องแล้วก็โทรบอกหรือส่งไลน์มาบอกพวกกูด้วยเข้าใจไหม” เฟอร์บอกกับพีชก่อนที่พีชจะเปิดประตูลงจากรถ พีชพยักหน้าแล้วปิดประตู รอจนเฟอร์จะขับรถออกไป ตัวเองถึงจะหันหลังเดินกลับเข้าหอตัวเอง

“ไปไหนมาดื้อ พี่มารอตั้งนาน” ผมสะดุ้งเพราะเสียงพี่เอ็มที่ดังขึ้นในมุมมืด แล้วจะไปยืนตรงนั้นทำไมครับ รู้ว่าตัวเองผิวแทนพอไปยืนตรงนั้นมันก็มองไม่เห็นอะสิ

“ตกใจหมดเลยพี่เอ็ม ทำไมมายืนตรงนี้เนี่ย ถ้าผมหัวใจวายไปใครจะรับผิดชอบ” ผมถอนหายใจดังเฮ้อก่อนจะหันไปหาคนตัวสูงที่ก้าวออกมาจากมุมนั้น

“ตอบครับ” อ้าวเฮ้ยมาทำเสียงเข้มใส่อีก เป็นอะไรวะ

“ไปกินข้าวกับพวกคุณโอมมาครับ แล้วทำไมพี่ไม่โทรหาผมอะจะมารอทำไมแล้วนี่โดนยุงกัดป่ะเนี่ย” ผมตอบพร้อมทั้งสอบถามพี่เอ็มกลับไป

“แค่กินข้าวจริงเหรอ กินเสร็จก็กลับเลยเหรอ ไม่ได้ไปยุ่งกับใครเลยเหรอ ไม่ได้มีใครมายุ่งเลยเหรอ” ผมมองหน้าพี่เอ็มด้วยความงงและเงิบเล็กๆ พี่มันมันเป็นอะไร ไปโกรธใครมา หรือง่าโมโหหิว

“พี่เอ็มเป็นอะไรครับ หิวเหรอขึ้นไปบนห้องไหมเดี๋ยวผมต้มมาม่าให้ก็ได้ครับ” ผมพูดชวนพี่เอ็มพยายามตะล่อมให้พี่มันใจเย็น ดูทำหน้าเข้า ขมวดมันเข้าไปคิ้วน่ะ

“ไปครับ” พี่เอ็มพูดพร้อมทั้งจูงมือผมเข้าหอ เอาคีย์การ์ดไปแตะประตูพร้อมทั้งไม่ยอมปล่อยมือผม ผมก็ไม่รู้จะท้วงอะไรเลยยอมๆให้คนที่กำลังจับมือของผมตอนนี้เดินจับต่อไป

“พี่เอ็มรอเดี๋ยวนะครับ เดี๋ยวผมมา” หลังจากที่เดินเข้ามาในห้องแล้ว ผมก็พาคนที่ทำหน้าบึ้งไปนั่งก่อนจะเดินออกมาหามาม่ามาต้มให้เผื่อจะอารมณ์ดีขึ้น

“ไม่ต้องครับดื้อ ดื้อมานั่งนี่ แล้วตอบคำถามพี่มาให้ครบและต้องตอบตามความจริงเท่านั้น” พี่เอ็มออกแรงกระชากแขนผมให้นั่งลงบนตักตัวเอง

“พี่เอ็มปล่อยผมนั่งดีๆเถอะครับนั่งแบบนี้มันอึดอัดอีกอย่างผมกลัวตกด้วย” ผมพยายามดิ้นแต่ก็ไม่เป็นผล แถมคนที่ทำตัวเป็นเก้าอี้ให้เขานั่งนั่งกระชับอ้อมแขนให้ตัวเขาชิดกันมากขึ้นไปอีก

“ก็ได้ๆ นั่งแบบนี้ก็ได้ครับ ไหนมีอะไรจะถามผมงั้นเหรอ หืม” ผมถอนหายใจปลงแล้วครับที่พี่มันเป็นแบบนี้ ขัดมันไปก็ไม่ส่งผลดีต่อตัวเองหรอกครับ

“วันนี้เราให้เบอร์ใครไปครับ ลืมแล้วเหรอว่าเรากับพี่เป็นอะไรกัน” พี่เอ็มถามผมถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้สงสัยคุณโอมต้องเป็นคนบอกแน่ๆเลย เดี๋ยวเถอะผมจะให้คุณเฟอร์จัดการเอาให้เข็ดเอาให้ไม่กล้าฟ้องไปนานแสนนานเลยคอยดู

“ผมให้เบอร์ใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่ครับ อีกอย่างผมให้ไปก็ไม่ได้แปลว่าผมจะต้องสานสัมพันธ์ต่อสักหน่อยนี่ครับ และที่สำคัญผมกับพี่เราเป็นอะไรกันเหรอ” ผมตอบพร้อมทั้งอธิบายและย้อนถามพี่เอ็มกลับไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างเรา

พี่เอ็มทำหน้าครุ่นคิดพร้อมทั้งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นมากกว่าเดิม ก่อนจะเงียบและไม่ยอมตอบคำถามผม

“อือ พี่หิวแล้ว เราไปทำมาม่าให้พี่กินเถอะ” พี่เอ็มพูดพร้อมทั้งปล่อยให้ผมลุกขึ้น

“นั่นไงถามให้ตัวเองจิตตกทำไมวะไอ้พีช ไอ้บ้า บ้าบอที่สุด” ผมพูดเบาๆกับตัวเองก่อนจะตั้งใจทำมาม่าให้คนที่นั่งรอดีกว่า

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

TBC.

เพลงลงให้ 2 ตอนเลยนะคะ ขอโทษนะคะที่วันศุกร์เพลงไม่ได้ลง โน้ตบุคเพลงยังเดี้ยงเหมือนเดิมค่ะ แง้  สั่งสายชาร์จไปทางเน็ตก็ดั้นสั่งมาผิดอีกค่ะ ร้องห้ายยยยยยย ถ้ามีคำผิดตรงไหนวานบอกเพลงด้วยนะคะ พิมพ์ทางโทรศัพท์มองหาคำผิดยากเย็นเหลือเกินค่ะ  T^T

เข้าเนื้อเรื่องดีกว่า อีพี่เอ็มนี่มันน่าตบหน้าตบปากให้สักทีนะคะ ตบด้วยรักสักที แล้วกระชากน้องพีชของเพลงมาโอ๋ๆ พี่รักหนูนะคะ

ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ up!!! ตอนที่10 28/06/2560
«ตอบ #13 เมื่อ29-06-2017 00:41:34 »

คนของหัวใจ

ตอนที่ 10

หลังจากที่พีชลุกไปต้มมาม่าให้คนที่นั่งรอ สติของร่างเพรียวไม่ได้อยู่กับร่องกับรอยมากนัก ถึงแม้ว่าพีชเองจะพยายามเรียกสติกลับมาก็ตาม

“ตกลงเราเป็นอะไรกัน” คำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบอย่างแท้จริง เพราะหลังจากที่เขาเอ่ยคำถามนี้ออกไป ระหว่างเขาและร่างสูงก็มีแต่ความเงียบที่กำลังส่งเสียงท่ามกลางพวกเขานั้นเอง บางที ความเงียบนั้นก็อาจจะเป็นคำตอบที่อีกฝ่ายตอบเขาแล้วก็ได้ใครจะรู้

“ดื้อ” “โอ้ย” เสียงตะโกนเรียกเขาดังมาจากข้างนอก ทำให้เขาที่กำลังยืนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยถึงกับสะดุ้งจนทำให้น้ำร้อนลวกแขนตัวเองจนได้

ตึก ตึก ตึก เสียงวิ่งดังขึ้นก่อนจะเห็นคนที่ทำให้เกิดเสียงดังเมื่อกี้วิ่งเข้ามา จะวิ่งทำไมอยู่ใกล้แค่นี้เอง

“พีช!!!!เป็นอะไรครับ เจ็บอะไรตรงไหน ร้องเสียงดังทำไม ไหนมาให้พี่ดูหน่อยสิครับ พีชครับ พีช!อย่าดื้อไม่เข้าเรื่อง!” เสียงพี่เอ็มค่อยๆดังขึ้นตามอารมณ์ของคนพูดจนกลายเป็นเสียงตะคอกในที่สุด ผมหน้างออัตโนมัติทันทีที่ได้ยินพี่เอ็มตะคอกผมด้วยเสียงอันดัง ตะคอกทำไม พูดเสียงดังทำไม ไม่ชอบ

“อย่ามาขึ้นเสียงใส่ผมนะ ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” ร่างเพรียวพูดพร้อมกับซ่อนแขนที่โดนน้ำร้อนลวกเอาไว้ไม่ให้เอ็มเห็นเนื่องจากเคืองที่เอ็มตะคอกเขานั่นเอง

“พี่ไม่ได้ตะคอกเรานะครับดื้อ พี่ขอโทษที่พูดเสียงดังไปนิดหน่อย แล้วนั่นเอาแขนไปซ่อนไว้ข้างหลังทำไมครับ” ร่างสูงพูดชี้แจงก่อนจะเดินไปคว้าตัวพีชมากอดไว้พร้อมทั้งกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นเมื่อคนในอ้อมแขนไม่ตอบคำถามเขาสักที

“ผมแค่โดนน้ำร้อนลวกนิดหน่อยครับ ไม่ได้เป็นอะไรมาก อ้อ พี่เอ็มมาม่าของพี่สุกแล้วนะครับพี่จะกินตรงนี้หรือยกไปข้างนอกก็ตามใจแต่ตอนนี้ผมขอไปอาบน้ำก่อนนะครับเหนียวตัวมากเลย” พีชพยายามหาทางเลี่ยงออกจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้

“เดี๋ยวครับพีช ก่อนจะไปอาบน้ำเอาแขนมาให้พี่ดูก่อนครับ” ร่างสูงยังคงไม่ยอมแพ้ที่จะขอดูแขนพีชให้ได้ถ้าบอกว่าไม่เป็นอะไรมากต้องกล้าให้เขาดูสิ

“ฮึก ฮือ อยากดูก็ดูไปเลย คนเขาบอกว่าไม่เป็นอะไรมากยังจะขอดูอยู่นั่นแหละ ฮึก ฮือ แสบมากเลยอะโคตรแสบอยากอาบน้ำ มันแสบอะฮืออออ แสบไปหมดแล้ว” พีชทนความเจ็บแสบจากพิษน้ำร้อนลวกไม่ไหวจึงปล่อยโฮออกมาพร้อมทั้งยื่นแขนให้คนตรงหน้าดู ก็บอกว่าไม่เป็นอะไรมากยังมาขอดูอยู่ได้ไหนจะน้ำเสียงที่ใช้นั้นอีก

“โอ๋เอ๋ครับดื้อ แสบมากไหมล้างน้ำยังครับเอาน้ำแข็งประคบก่อนเนอะ ไปหาหมอกันครับ” เอ็มถามคนที่กำลังร้องไห้พร้อมทั้งเอานิ้วเกลี่ยแก้มเกลี่ยน้ำตาออกจากใบหน้าให้พีช การกระทำของร่างสูงทำให้พีชร้องไห้หนักกว่าเดิม ใช่ว่าเขาอยากจะร้องไห้สักหน่อยพอมีคนมาโอ๋มันก็ยิ่งทำให้อยากร้องไห้เพิ่มขึ้นไปอีก รู้สึกอยากงอแงอยากร้องไห้ให้คนปลอบมากกว่าเดิม

“ตกลงว่าไงครับ ฮึบก่อนครับฮึบเร็ว ฮึบแล้วตอบพี่นะครับ” เอ็มถามซ้ำเมื่อพีชไม่ยอมตอบเขาเอาแต่ร้องไห้แล้วใช้ขยี้ชายเสื้อเขาจนมันยับยู่ยี่หมด เอ็มกอดพีชไว้พร้อมทั้งโยกตัวพีชไปมาเป็นการปลอบ พีชยกแขนข้างที่ไม่เจ็บขึ้นมาทุบหลังคนพี่ คิดว่าเขาเป็นเด็กหรือไงกันมากอดแล้วโยกปลอบเนี่ย

“จะเจ็บครับ ฮะ ฮึก แต่ มะไม่ไปหาหมอนะ ฮึกไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย ฮึก” ร่างเพรียวที่ค่อยๆคลายอาการสะอื้นเงยหน้าตอบร่างสูงพร้อมทั้งทำหน้าอ้อนคนพี่โดยที่ไม่รู้ตัว

“ไม่ได้ครับ พีชต้องไปหาหมอนะ อยากมีแผลเป็นบนแขนตัวเองหรือไง อยากแสบอยากร้อนแบบนี้หรือไง หืม” เอ็มพูดก่อนที่จะไปเอาน้ำแข็งในตู้เย็นออกมาให้คนน้องประคบแขนไว้บรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนไปชั่วคราวก่อน ก่อนที่จะลากคนน้องไปหาโรงพยาบาล

“ขอบคุณครับ ผมไปแล้วนะครับ สวัสดีครับ” พีชยกมือไหว้คนอายุมากกว่าก่อนจะหันมาเปิดประตูลงไปเพื่อเดินขึ้นหอ

ปัง! ขวับ! พีชสะดุ้งเมื่ออยู่ๆก็มีคนมาจับแขนตนเอง

“พี่เอ็ม!!! อีกแล้วนะครับทำไมชอบทำให้ผมตกใจอยู่เรื่อยเลยวะ แม่ง หรือว่าผมลืมอะไรไว้ในรถหรือเปล่าครับ” พีชหันไปโวยวายเมื่อรู้ว่าคนที่วิ่งมาจับแขนของตนนั้นคือใคร

“แฮะๆ ขอโทษครับ พีชไม่ได้ลืมของไว้ที่รถหรอกแต่ แต่ว่า เอ่อ” เอ็มพูดขอโทษออกมาที่ทำให้พีชตกใจก่อนจะพูดตะกุกตะกักจนทำให้คนที่รอฟังเกิดอาการทนไม่ไหวจะสะบัดมือทิ้ง

“คือว่าคืนนี้ให้พี่ค้างกับเรานะครับ ให้พี่ดูแลเรานะ เราเจ็บแขนคงทำอะไรเองไม่สะดวกแน่ๆละ” ร่างสูงพูดกับคนที่ยืนตรงหน้าตนด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนมีความจอร้องมีความอ้อนตีนอยุ่ในตัว

“…….”

“……”

ท่ามกลางของคนสองคนที่ยืนจ้องหน้ากันอยู่ รอบข้างมีเสียงจอแจนะแต่ทว่าทั้งสองคนไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ปล่อยให้รอบข้างตัวเองมีความเงียบ ต่างกันตรงที่อีกคนเงียบเพื่อใช้ความคิดกับอีกคนเงียบเพื่อรอคอยคำตอบที่ใจตนเองต้องการ ร่างโปร่งรู้สึกว่าวันนี้พวกเขาจะเงียบใส่กันบ่อยไปแล้วมันไม่ใช่เงียบแล้วสบายใจแต่มันเป็นการเงียบที่มีแต่ความอึดอัดลอยเต็มไปหมด

“พีช/พี่เอ็ม” ทั้งสองคนพูดต่างก็เรียกชื่ออีกฝ่ายขึ้นมาพร้อมๆกัน ก่อนที่จะหยุดไม่ยอมพูดกันต่อ

“เอ่อ พี่เอ็มพูดก่อนเลยก็ได้ครับ”

“ที่พี่ขอเราค้างด้วยคืนนี้ เป็นเพราะว่าพี่เป็นต้นเหตุให้เราโดนน้ำร้อนลวกไง ถ้าพี่ไม่ตะโกนเรียกเราเสียงดัง เราก็คงไม่ตกใจจนโดนน้ำร้อนลวกหรอก ใช่มั้ย เพราะฉะนั้นคืนนี้ให้พี่ดูแลเรานะครับ พี่จะได้ไม่รู้สึกผิดอยู่แบบนี้” เอ็มออกมายาวเหยียดก่อนจะมัดมือชกด้วยการพาพีชเดินเข้าไปในหอทันที พีชที่ไม่ทันตั้งตัวก็ยอมให้เอ็มจูงเดินเดินเข้าไปด้วยความงง

“พี่เอ็มครับ พี่เอ็ม เดี๋ยวครับ เดี๊ยวววววว ผมดูแลตัวเองได้ครับเจ็บแขนนะไม่ได้พิการสักหน่อย ไม่รบกวนพี่หรอก” พีชยื้อตัวเองไว้หลังจากที่ตั้งสติได้ก็รัวคำพูดออกมา

“อย่าดื้อครับ พี่รู้ว่าเราดูแลตัวเองได้แต่พี่อยากดูแลเราไงครับ”

“เฮ้อ แล้วแต่พี่เลยครับ ถึงผมบอกว่าไม่พี่ก็คงไม่ฟังกันใช่ไหมละ” พีชถอนหายใจออกมาก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำออกไปก่อน

“ก็แค่เนี่ยให้พี่ดูแลเราอะดีที่สุดแล้ว หึหึ” เอ็มเร่งฝีเท้าเดินมาให้ทันพีชก่อนจะล็อคคอพีชแล้วเอามือขยี้หัวเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยว

“ฮึ่ย ผมไปอาบน้ำก่อนนะส่วนพี่ก็หาไรกินเอาเองแล้วถ้าจะกรุณาก็ช่วยเก็บกวาดห้องครัวให้ด้วยนะครับ”

“ได้ครับผม ว่าแต่พีชอาบน้ำเองได้แน่นะ ให้พี่ช่วยอาบไหมครับ รับรองสะอาดทุกซอกทุกมุม” ร่างเพรียวมองค้อนคนพูดก่อนจะยกขาเตะหน้าแข้งคนพูดไปทีนึงด้วยความหมั่นไส้

“ไม่ต้อง!!!”  พูดจบพีชก็เดินเข้าห้องน้ำไปปล่อยให้คนที่หัวเราะอยู่ข้างนอกเป็นคนเก็บกวาดห้องครัว

M Talk

หลังจากที่ผมลั่นวาจาว่าอยากรู้จักกับพีชเพื่อนน้องชายของตัวเองให้มากกว่าเดิมนั้น ผมก็เดินหน้าทำความรู้จักกับน้องทันที ผมไม่ปล่อยให้เวลานี้แสนหอมหวานเหล่านี้ไปง่ายๆ แน่ครับ

อย่างที่ผมได้บอกไปแล้วในตอนแรกว่า ผมมีคนที่อยากอยากจะแต่งงานด้วยแล้ว เราทั้งคู่วางแผนกันไว้ว่าถ้าเราเรียนจบจะขอเวลาทำงานสักปีสองปีแล้วค่อยแต่งงานกัน แต่แล้วความฝันของผมนั้นก็เป็นอันว่าต้องสลายหายไปกับตา เมื่อ “เต้ย” คนรักของผมเดินมาบอกว่า รักของเรามันเป็นไปไม่ได้ที่แล้วมาให้คิดเสียว่าผมและเธอแค่ฝันไป

เหอะ ฝันไปงั้นเหรอ ผมจะคิดว่ามันฝันไปก็ได้แต่ผมอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้เธอเดินมาบอกผมว่าเรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้แบบนั้น ทั้งๆที่เราสองคนรักกันมาก จริงจังกันมากถึงขั้นนั้นแล้วแท้ๆ

สงสัยกันละสิว่าทำไมถึงไม่เคยเจอเต้ยที่มอเลย เพราะว่าเต้ยไม่ได้เรียนที่นี้น่ะสิ เพื่อนผมรู้หมดแหละครับว่าผมจริงจังกับเต้ยมากแค่ไหน ตั้งแต่วันนั้นพวกมันเลยไม่เคยพูดถึงเต้ยกันเลย

และด้วยเหตุนี้ เรื่องผมกับเต้ยจึงค่อยๆเงียบหายไป โดยที่ไม่มีใครพูดถึง ถามว่าผมยังอยากเจอเต้ยไหม อยากเจอนะครับ โคตรอยากเจอเลย อยากเจออยากถามว่าทำไมตอนนั้นถึงพูดออกมาแบบนั้น ไม่รักกันแล้วเหรอ หรือว่ายังไง แม่งโคตรอยากรู้เหตุผล อยากรู้คำตอบของคำถามที่ผมถามเต้ยไปในวันนั้น

“มึงเอาจริงเหรอวะไอ้เอ็ม” เสียงตะโกนของเต๋าทำให้เอ็มหลุดจากภวังค์

“อะไรของมึงวะเต๋า เอาอะไรวะ” เอ็มหันไปถามเพื่อนก่อนจะกระดกแก้วเหล้าเข้าปากต่ออย่างไม่สนใจเพื่อนและสิ่งรอบข้างมากนัก

“ก็ที่มึงเล่ามาไงไอ้ห่า ที่มึงบอกว่ามึงจะจีบเพื่อนของน้องโอมน้องชายมึงไง” เมื่อได้ยินที่เต๋าขยายคำถาม เอ็มก็ร้องอ๋อในใจทันที

“ไม่รู้ว่ะ กูยังไม่รู้ว่าจะเอาจริงหรือเอาไม่จริง เรื่องนั้นกูต้องได้เอาก่อนถึงจะบอกพวกมึงได้ว่ะ ว่าจะเอาหรือไม่เอา” พอทุกคนในโต๊ะได้ยินที่เอ็มพูดแบบนั้นออกมาถึงกับโห่เสียงดังให้ตกเป็นเป้าสายตาของใครหลายๆคน

“สัสเง้ย มึงมันคนเหี้ยแห่งปี ไอ้เหี้ยเอ็ม” ฮ่าๆ “ดรีม” เพื่อนตัวเล็กของเขาหันมาพูดใส่หน้าเขาก่อนจะสบถออกมา ดรีม เป็นคนตาโต สูงราวๆ 176 หน้าแม่งโคตรหวานแต่สันดานอ้อนตีนมากครับบอกตรงนี้ รู้แล้วใช่ไหมครับว่าทำไมมันถึงคบกับพวกผมได้ คนมันศีลเสมอกันอะครับ

“ไอ้เต๋ามันหมายความว่า มึงจะจีบน้องน้องเขาจริงๆเหรอ ส่วนเรื่องเอามึงจะเอาหรือไม่เอาก็เรื่องของมึง”  “ท็อป” อธิบายให้เอ็มฟัง ทั้งๆที่รู้ว่าเอ็มก็แกล้งกวนเพื่อนไปอย่างนั้นแหละ

“แล้วมึงลืมเต้ยได้แล้วเหรอ มึงถึงจะไปจีบน้องเขาอะ ดีๆนะมึงน้องมันไม่รู้เรื่องด้วย” ดรีมพูดขึ้นอีกเมื่อเห็นว่าเอ็มทำเป็นเล่นๆ แล้วเขาไม่ชอบ ไม่ชอบอะไรที่มันค้างคาไม่เคลียสักที

“อ้าว พวกมึงคอยดูกันต่อไปเถอะว่ากุจะจีบหรือเปล่า ส่วนเรื่องเต้ยมึงจะพูดถึงทำไมวะ ไอ้ท็อปๆมึงดูโต๊ะนั้นแม่งโคตรแจ๋ม โคตรดีเลย” เอ็มไม่ตอบคำถามของเพื่อนที่ถามตนเอง แถมเอ็มยังกลบเกลื่อนเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อย ทำให้เพื่อนๆในโต๊ะต้องเปลี่ยนหัวข้อเรื่องที่คุยกันไปเรื่อยๆ

ท่ามกลางแสงสี และเสียงดนตรีที่ดังอึกทึกครึกโครม ผู้คนที่เบียดเสียดกันในสถานที่แห่งนี้ โต๊ะของเอ็มและเพื่อนๆ เป็นโต๊ะที่มีคนอยากเข้ามาทำความรู้จักมากที่สุด แต่คืนนี้ข้างกายของคนในโต๊ะนั้นมีคนข้างกายจองหมดเรียบร้อยเสียแล้ว

แสงแดดที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างทำให้ชายหนุ่มและหญิงสาวที่นอนเปลือยก่ายกอดกันอยู่ต้องพลิกตัวหนีไอความร้อนและแสงสว่างที่แยงตาเขา มือของชายหนุ่มก็ลูบไล้ไปตามร่างกายของหญิงสาวที่นอนข้างๆตน

“อือ เอ็มคะ พะ พอแล้ว แก้วไม่ไหวแล้ว” หญิงสาวที่บอกว่าตนเองไม่ไหวกลับเป็นคนพลิกตัวขึ้นมาคร่อมตัวของเอ็มก่อนจะเป็นฝ่ายเล้าโลมเอง

“ไม่จูบนะ ห้ามจูบผมเด็ดขาด” เอ็มพูดออกมาเมื่อเห็นว่าแก้วพยายามจะก้มลงมาจูบเขา เอ็มถือคติที่ว่าถึงเขาจะมั่วแต่เขาก็ไม่จูบกับคนไปทั่ว

“อะ อื้มมม” หลังจากนั้นทุกอย่างก็เป็นไปตามที่ร่างกายต้องการ จนกระทั่งทั้งสองคนเหนื่อยและเพลียนั่นแหละทั้งคู่ถึงจะหยุดทำ

“พวกมึง กูอยากไปทะเลยว่ะ” อยู่ๆเอ็มก็พูดขึ้นมา หลังจากที่เอ็มนั่งกดมือถือดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย เอ็มก็เจอกับโพสต์ที่มีคนแชร์อย่างล้นหลามถึงที่พักริมทะเลที่ชะอำ

“คิดอะไรอยู่วะ ทำไมถึงอยากไป” เอ็มยักไหล่เมื่อได้ยินคำถามที่ดิวถาม ก่อนที่ดิวจะก้มลงไปกินข้าวต่อ แม่งจะถามทำไมวะถามแล้วไม่รอเอาคำตอบน่ะ

“ไม่มีไร กูแค่อยากไปและกูต้องได้ไป”

“แต่พวกกูไม่ไป” พวกมันพูดขึ้นมาพร้อมๆกัน ไอ้ห่าทีเรื่องแบบนี้ละสามัคคีกันนักนะ

“เรื่องของพวกมึง ถึงพวกมึงอยากไป กุก็ไม่ให้ไป เกะกะกู!!” เมื่อพวกมันได้ยินที่ผมพูดแบบนั้นมันก็ใช้สายตาจับผิดผมทันทีครับ ให้มันใช้ไปครับสายตงสายตาแบบนั้น ที่พวกมันคิดก็ถูกแล้วครับ ใช่แล้วผมจะชวนน้องพีชไปทะเล งานนี้ต้องได้เผด็จศึกสักที หึหึ

วันเสาร์วันที่ผมจะไปทะเลมาถึงแล้วครับ ผมยิ้มกริ่มจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าก่อนที่จะโทรหาน้อง แต่ว่าน้องไม่ยอมรับโทรศัพท์ผม น้องเป็นอะไรหรือเปล่านะ ช่างเถอะ ผมขึ้นไปหาน้องที่ห้องก็ได้  ผมเคยมาส่งพีชที่หอและเคยมีโอกาสขึ้นห้องไปส่งพีชอยู่ครั้งสองครั้ง ด้วยเหตุนี้ผมเลยรู้จักหอและห้องของพีชนั้นเอง

ผมตัดสินใจขับรถไปที่หอน้อง และขอร้องให้ยามเปิดประตูให้ ผมอ้างว่าน้องไม่สบายและน้องโทรไปตาม ยามเมื่อเห็นสีหน้าผมแรกๆก็ไม่ยอมหรอกครับ แต่พอผมเริ่มดราม่าหนักขึ้นก็ยอมเปิดให้

ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

ก๊อก ก๊อก ก๊อก..

ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

ผมเคาะประตูห้องของพีชรัวเลยครับ เผื่อน้องหลับอยู่จะได้รู้สึกตัว และที่สำคัญผมอยากเห็นสีหน้าที่หงุดหงิดของน้อง มันต้องน่ารักมากแน่ๆ พีชเขาไม่ค่อยรู้ตัวหรอกว่าเวลาที่เขาทำสีหน้าที่มันหลากหลายเขาน่ารักมากแค่ไหน หึหึ

ผ่าง!!!

“มาแล้วครับ ใจเย็นๆครับ เคาะครั้งเดียวก็พอแล้ว ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่าครับ” สีหน้าหงุดหงิดของเจ้าของห้องโผล่ออกมาทำให้คนที่เคาะประตูรู้สึกขำ อยากขยี้ผมนุ่มๆเหมือนขนแมวนั้น ให้มันยุ่งกว่านี้เสียจริง เขากลั่นขำเมื่อหน้าพีชเหวอแบบคนตกใจเหมือนคนที่กำลังงงว่าเขามาทำอะไรที่นี่ ฮ่าๆ โคตรน่าเอ็นดู

“คะ คือว่าพี่จะมาชวนเราไปเที่ยวทะเลน่ะ” ที่เขาพูดตะกุกตะกักนี่ไม่ได้เขินอะไรเลยครับแต่เป็นเพราะว่าเขากลั้นยิ้มจนปวดแก้มไปหมดแล้วตะหาก

“ทะเล ทะเลที่ไหนเหรอครับ ผมไม่ไปครับ ผมง่วงผมจะนอน” สีหน้าของเจ้าตัวที่บอกว่าง่วงดูยุ่งๆดูแล้วท่าจะง่วงนอนมากจริงๆ แต่เขาไม่ยอมหรอก ผมเลยขู่น้องว่าจะไปทะเลกับผมดีๆหรือว่าจะให้ผมปล้ำน้องอยู่ที่ห้อง ไอ้ดื้อของผมเลยจำใจเดินกระแทกเท้าไปอาบน้ำ

ส่วนผมตอนนี้ก็มองสำรวจห้องของน้องไปพลางๆระหว่างรอน้องอาบน้ำ

ตอนนี้เราทั้งสองคนมาถึงที่พักแล้วครับ ระหว่างทางน้องก็ถามแหละว่าทำไมต้องไปทะเลกันสองคนด้วย  สีหน้าน้องกลัวจะโดนผมปล้ำมากอะผมเลยสัญญากับน้องไปก่อนว่าจะไม่ปล้ำน้องแน่นอน ถ้าน้องไม่ยั่วหรือน้องเต็มใจเองอันนั้นถือว่าผมไม่ผิดสัญญานะ แต่อันหลังผมไม่ได้พูดออกไปหรอกกลัวน้องจะงอแงกลับกรุงเทพอะสิ

“พีช!!ไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้” ผมตะโกนดังลั่นเมื่อเห็นชุดที่ไอ้ดื้อตาใสของผมใส่ จะไม่ให้ตะโกนได้ไงครับ ก็ดูเขาแต่งตัวสิ เสื้อกล้ามสีดำ ถึงมันจะเป็นสีดำแต่มันก็เสื้อกล้ามนะครับ กางเกงห้าส่วนอันนี้หยวนๆให้ครับ

แต่ไอ้ดื้อก็ยังเป็นไอ้ดื้ออยู่ดี น้องก็เถียงไปเรื่อยอะครับ สุดท้ายผมก็ชนะน้องยอมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่ผมต้องการ

เมื่อเล่นน้ำกันเสร็จแล้วผมพาเด็กดื้อไปหาอะไรกินก่อนจะพากันไปนั่งกินเบียร์ที่ริมทะเล ใครจะไปคิดว่าไอ้ดื้อคออ่อนขนาดนี้ล่ะครับ กินนิดเดียวเองเมาแอ๋เลย แต่น่ารักดี

จะว่าผมฉวยโอกาสก็ได้นะผมไม่ว่า ผมใช้โอกาสนี้ในการจูบน้อง ทั้งๆที่ตัวเองไม่ชอบจูบใครพร่ำเพรื่อแต่กับน้องผมกลับจูบ สงสัยเป็นเพราะว่าผมเริ่มมึนๆแล้วแน่ๆ หลังจากนั้นผมพยายามที่จะขอน้องแต่ผมรู้ว่าน้องกลัว ผมเลยขอแค่ข้างนอกสอดเข้าหว่างขาน้อง ความรู้สึกของผมในตอนนั้นถ้าได้มากกว่านี้มันจะดีมากแต่ได้แค่นี้มันก็ดีแล้วครับ ผมไม่คิดว่าน้องจะให้ผมทำแบบนั้นด้วยซ้ำ

พอพายุทุกอย่างพัดผ่านไป น้องก็รีบไปอาบน้ำ ส่วนผมก็ออกมาอาบน้ำที่ห้องน้ำด้านนอก ระหว่างที่อาบน้ำผมดันเกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกผมเลยต้องช่วยตัวเองพออาบน้ำเสร็จ พีชก็อาบน้ำเสร็จแล้วและกำลังนอนหลับอยู่  ผมเลยขึ้นไปบนเตียงดึงน้องมากอดจากด้านหลัง ก่อนจะบอกฝันดีและจูบหน้าผากน้องไปทีนึง

“ฝันดีนะครับเด็กดื้อของพี่” พอพูดประโยคนี้เสร็จผมรู้สึกว่าน้องค่อยๆหลับไปแล้ว ผมจึงหลับตามน้องไปพร้อมกับรอยยิ้มที่แต้มเต็มใบหน้าของผม

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
TBC

ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ up!!! ตอนที่11 13/07/2560
«ตอบ #14 เมื่อ13-07-2017 08:59:09 »

คนของหัวใจ

ตอนที่ 11

พีชตื่นมาด้วยความรู้สึกอึดอัดจากการกอดรัดของเอ็มและความปวดเมื่อยตัวจากการที่เขานอนตะแคงมาทั้งคืน....

“อื้อ พี่เอ็ม ปล่อยก่อนครับ ผมเมื่อย” คนงัวเงียส่งเสียงประท้วงออกมา เมื่อเจ้าของอ้อมกอดนั้นไม่ยอมปล่อยแถมยังกอดรัดให้แน่นมากกว่าเดิม เพียงเท่านี้พีชก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายนั้นตื่นเต็มตาแล้วแน่ๆ

ปึก อึก คนมือเจ็บยกมือข้างที่เจ็บนั้นแหละขึ้นมาทุบคนขี้แกล้ง แต่คนชอบแกล้งยังไงก็ชอบแกล้งอยู่ดี โดนทุบแค่นี้ไม่ระคายผิวเลยสักนิด หน่ำซ้ำยิ่งโดนเขาทุบแรงมากเท่าไหร่พี่เอ็มก็ยิ่งรัดเขาแน่นมากขึ้นเท่านั้น

“อ๊อก ยอมแล้วครับยอมแล้ว เจ็บแผลแล้วเนี่ยพี่เอ็ม ฮะ ฮ่ะ ฮ่า เหนื่อยแล้วด้วย ฮ่ะ ฮ่ะ คิคิ ยอมแพ้แล้วครับ ยอมแล้ว” พีชแกล้งทำเสียงอ๊อกออกมากเมื่อเขาโดนอีกฝ่ายรัดแน่น เอ็มเมื่อได้ยินพีชแกล้งทำเสียงแบบนั้นก็แกล้งจี๋เอวพีชเพิ่มจนทำให้พีชต้องหลุดปากพูดคำว่ายอมแพ้ออกมา

“น่ารักอะพีช เมื่อกี้เราน่ารักโคตรๆเลยรู้ตัวป่ะเนี่ย ยิ่งตอนที่พูดว่ายอมแพ้นะยิ่งน่ารักเลย ฟอด ฟอด” ไม่พูดเปล่าเอ็มที่หมั่นเขี้ยวพีชจากเมื่อกี้ก็ก้มหอมแก้มพีชอย่างแรงจนแก้มของพีชแดงเถือกไปหมด

“พอได้แล้วครับพี่เอ็ม ผมหิวผมจะไปอาบน้ำแล้วก็จะไปหาไรกิน ส่วนพี่ก็กลับไปได้แล้ว” พีชพูดเสร็จก็ฉวยโอกาสตอนที่เอ็มพลิกตัวลุกขึ้นเดินเลี่ยงไปอาบน้ำทันที ปล่อยให้เอ็มนอนอยู่ที่เตียงนั่นแหละ

เฮือก!!

พีชสะดุ้งเมื่ออยู่ๆก็มีคนมากอดตนจากด้านหลัง ไม่ต้องเดาให้ยุ่งยากก็คงจะเป็นพี่เอ็มนั่นแหละที่เล่นอะไรพิเรนทร์ๆแบบนี้ 

“โอ้ยพีช หยิกพี่ทำไมครับ เดี๋ยวนี้ซาดิสม์เหรอครับหื้ม ซาดิสม์เหรอหนู” เอ็มพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าแนบบาทาไปลูบหน้าเหลือเกิน กวนตีน...

“สนุกมากไหมพี่เอ็ม ทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีกครับ ไปอาบน้ำ! เสื้อผ้าอยู่ในตู้หาเอาเองหรือจะใส่ตัวเดิมก็ได้มันแห้งแล้วอยู่ในตู้เหมือนกันครับ รีบอาบนะจะได้กินข้าวเร็วๆ” พีชพูดไปด้วยทำกับข้าวไปด้วยก่อนจะหันมามองเมื่อเห็นว่าเอ็มเงียบไป

“….”

“เงียบ ทำมะ”

ฟอดดดดดดด “มอนิ่งคิสครับเด็กขี้บ่น” พูดจบเอ็มก็เดินผิวปากไปอาบน้ำทันที ปล่อยให้พีชยืนหน้าแดงอยู่คนเดียว

“แม่งกวนตีนมาหอมแก้มคนอื่นเขาอยู่ได้ หลายรอบแล้วนะแม่ง” พีชบ่นพึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะตัดใจทำกับข้าวต่อให้เสร็จ

“เย็นนี้ว่างไหม” เอ็มเอ่ยถามพีชขึ้นมาในขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งดูทีวีและรอให้อาหารย่อย

“ว่างกับบางเรื่อง แต่กับบางเรื่องก็ไม่ว่าง มีไรเปล่าครับ” พีชตอบแบบกั๊กก็มันจริงนี่ เขาว่างให้กับทุกเรื่องไม่ได้หรอกนะ เขาเชื่อว่าทุกคนก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ

“แต่บางเรื่องของพีชต้องว่างให้พี่นะครับ วันนี้พี่จะชวนเราไปดูหนัง ว่างเนอะ ตกลงว่าว่าง พีชว่างพี่จองตั๋วเลยนะ” เอ็มพูดแบบไม่เว้นจังหวะให้พีชได้ตอบโต้เลยแม้แต่นิดเดียว พอเสร็จเอ็มก็จัดการจองตั๋วไปเรียบร้อย ยังมีการเงยหน้ามายิ้มให้ละยักคิ้วให้ด้วยนะ

เชื่อเขาจริงๆเลย ให้ตายเถอะ

“มองอะไรครับหนู นอนไหมอีกตั้งเกือบสองชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาดูหนัง หรือว่าเราจะไปเดินเล่นที่ห้างฆ่าเวลากันดี” เอ็มพูดเสนอทางเลือกมาให้ ทีแบบนี้ละถามเขาดีนักนะ แล้วทำไมเมื่อกี้ถึงไม่ถามวะ

“แล้วแต่พี่เถอะ ทำอะไรตามใจฉันมันคือพี่อยู่แล้วนี่นา” พีชส่ายหน้าเบาๆด้วยความเอือม ก่อนจะลุกไปแต่งตัวให้เข้ากับสถานที่มากกว่านี้

ณ ห้างสรรพสินค้า

ทั้งคู่เดินทางมาถึงห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ในเวลาไม่นานมากนัก เนื่องจากรถไม่ค่อยติดมากนัก

“เราจะมากันก่อนทำไมครับตั้งชั่วโมงนึง” พีชหันไปพูดกับเอ็มที่กะเวลาพลาดจนทำให้ทั้งคู่มาถึงห้างก่อนที่หนังจะเข้าร่วมชั่วโมง

“”แฮะๆเราก็ไปนั่งกินอะไรกันก่อนก็ได้ เนอะ” เอ็มพูดเสร็จก็จูงมือคนน้องเดินเข้าร้านอาหาไทยร้านหนึ่ง ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังจะเดินเข้านั้นก็มีเสียงทักพีชขึ้นมาเสียก่อน

ตึก ตึก ตึก

“พีช!!!” เสียงวิ่งเข้ามาทักและตะโกนเรียกเขาเสียงดัง ทำให้พีชต้องหันกลับไปมอง ก่อนที่ยกยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนทักเขา

“อ้าวพี่ดราฟ” พีชเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กส่งยิ้มกว้างมาให้เขา พี่เอ็มปล่อยมือเขาไปตอนไหนก็ไม่รู้เขาไม่ได้สนใจมากนัก

“พี่เห็นข้างหลังพีชแว็บๆเลยวิ่งเข้ามาทักอะ แล้วนี่จะไปไหนกันเหรอ ตอนแรกพี่ว่าจะโทรไปหาพีชแล้วแหละแต่ว่าพี่ไม่กล้าอะ แฮะๆ” คนตรงหน้าพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด ส่งผลให้พีชยิ้มเอ็นดูออกมา ทั้งคู่คุยกันจนลืมเอ็มที่ยืนรอไปเลย

“พีช!!”

“พีช!!!” เอ็มส่งเสียงเรียกพีชแต่พีชก็ไม่ได้ยิน จนเอ็มต้องแผ่นรังสีบางอย่างออกมาจากตัว

“เอ่อ พีชเดี๋ยวพี่ไปก่อนนะ พี่นัดเพื่อนดูหนังเอาไว้น่ะ” ดราฟที่ได้รับรังสีกดดันจากตัวเอ็มก็รีบเอ่ยปากขอตัวออกไปก่อน

“มันเป็นใคร” เอ็มเอ่ยถามเสียงเข้มทันทีที่ดราฟเดินลับสายตา เอ็มจ้องหน้าพีชด้วยสายตาดุๆแกมบังคับว่าเขาต้องตอบคำถามนี้

“เพื่อนรุ่นพี่ครับทำไมเหรอ พี่เอ็มมีอะไรหรือเปล่าครับ” พีชตอบออกไปพร้อมกับเอ่ยคำถามย้อนกลับไป

เฮ้อ

เอ็มถอนหายใจออกมา ทำท่าจะพูดอะไรสักอย่างแต่แล้วก็ไม่ยอมพูดออกมา

“พี่เอ็มมีอะไรหรือเปล่าครับ” พีชเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นท่าทีที่คิดไม่ตกของเอ็ม

“พี่ เอ่อ พี่” เอ็มพูดตะกุกตะกักอย่างคนคิดไม่ตก

“พี่เอ็ม พี่ทำไมครับ ถ้าไม่พูดก็ไม่ต้องพูดแล้วนะครับ ยืนนานๆผมก็เมื่อยเป็นเหมือนกันนะ” พีชพูดออกมาก่อนจะทำท่าเดินออกไปจากตรงนั้น

“งั้นเราไปคุยที่อื่นกัน” เอ็มพูดพร้อมทั้งจับมือพีชให้เดินตามตนเองออกมา

“เดี๋ยวดิพี่เอ็มแล้วหนังอะไม่ดูแล้วเหรอ” พีชประท้วงออกมาก่อนจะยื้อตัวเองไว้

“ไม่ดูแล้วครับเรื่องที่พี่จะพูดกับเรามันสำคัญกว่าเยอะเลย ไปเถอะครับ” เอ็มหันมาตอบก่อนจะกึ่งลากกึ่งจูงมือคนที่ยื้อตัวเองไว้เบาๆ

“พี่เอ็ม พี่พาผมมาที่สวนทำไมครับ” พีชถามออกมาเมื่อเห็นว่าเอ็มพาตนเองมาที่ไหน

“พีชพี่ว่า เราเป็นแฟนกันไหมวะ พี่เบื่อที่จะจีบละ พี่เบื่อที่พี่หวงพีชแบบออกนอกหน้าไม่ได้ พี่อยากดูและเราว่ะ เป็นแฟนกันเถอะ มัน เอ่อ มันอาจจะเป็นการขอเป็นแฟนที่ไม่โรแมนติกนะแต่ว่าพี่พูดมันออกมาจากใจนะ พี่ว่า เอ่อ ตกลงว่าไงครับเด็กดื้อของพี่” เอ็มพูดออกมายาวเหยียด หุของคนตรงหน้ามีสีแดงเข้มก่อนจะลามไปทั่วใบหน้า คนพี่ยิ้มเขินๆเมื่อเห็นว่าเขายังคงจ้องไม่วางตา

“………” เขายังคงเงียบไม่ตอบอะไรทั้งนั้น ใบหน้าของเขาไม่แสดงอาการอะไรออกไปแม้แต่รอยยิ้มก็ไม่มีแต้มอยู่บนใบหน้าเลยสักนิด

“พีชครับ ตกลงว่าไงครับ” เอ็มสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะตัดสินใจถามเขาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเขาเงียบ สีหน้าของร่างหนาก็เริ่มซีดลงจนน่ากลัวว่าเลือดจะไปหล่อเลี้ยงไม่ทัน

“เอ่อ ถ้าเป็นแฟนกับพี่ผมจะได้อะไรอะครับ ไหนลองบอกผมมาสักสามสี่ข้อหน่อยสิ” ในที่สุดผมก็เอ่ยออกไป ผมแค่อยากรู้ว่าถ้าผมกับเขาเป็นแฟนกันแล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นหรือเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงไหน

“เอ่อ อันดับแรกเลย คือ พีชได้พี่เป็นแฟน ต่อมาพี่จะดูแลเราให้ดีและทำให้เรามีความสุขมากที่สุด อันสุดท้ายพี่จะไม่มีวันนอกใจเราเด็ดขาดและที่สำคัญทั้งเราทั้งพี่ก็มีสิทธิ์ที่จะหวงกันและกันโดยที่ไม่ต้องเก็บมันไว้ในใจอีกต่อไป” พี่เอ็มพูดออกมาด้วยท่าทางที่มั่นใจจนน่าหมั่นไส้ เมื่อเขาได้ฟังร่างสูงพูดออกมาแบบนั้น เขาก็ค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมา

“ผมไม่ได้ต้องการอะไรมากมายหรอกครับ ผมต้องการแค่ให้พี่ดูแลผมและให้ผมได้ดูแลพี่ก็พอแล้ว” พีชพูดออกไปด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม

“แล้วตกลงว่า” เอ็มยังคงทำหน้าลุ้นอยู่ โอ้ย พี่เอ็มไม่เข้าใจเลยหรือเขาพูดขนาดนี้แล้วมันก็หมายความว่าเขาตกลงแล้วไงเล่า

“……” พีชไม่ตอบแต่ใช้ภาษากายตอบแทนนั่นคือการพยักหน้าตอบตกลง

“เย้” เอ็มตะโกนออกมาก่อนจะโผเข้ากอดเขาเต็มแรง เขาเซไปด้านหลังนิดหนึ่งแต่ไม่เป็นไรเพราะพี่เอ็มคอยประคองเขาอยู่ แบบนี้ต่อให้เซมากกว่านี้เขาก็คงไม่ล้มหรอกเพราะอะไรน่ะเหรอ

เพราะเขามีคนที่กำลังกอดเขาคอยดูแลและประคองเขายังไงล่ะ ^_^

ท่ามกลางคนที่วิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะแห่งนี้บรรยากาศรอบตัวของทั้งสองคนกลับเหมือนกับว่าโลกทั้งใบมีแค่เขาสองคนเท่านั้น

ทั้งคู่ส่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสุข จากนี้ไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแค่มีกันและกันพวกเขาก็พร้อมจะเดินไปข้างหน้าและฝ่าฟันทุกอย่างโดยที่ไม่มีคำว่ากลัว

“พีช เราย้ายไปอยู่กับพี่ไหมครับ พี่อยากตื่นเช้ามาก็เจอหน้าเราเป็นคนแรกและก่อนเข้านอนพี่ก็อยากเจอเราเป็นคนสุดท้าย นะครับ” หลังจากที่พี่เอ็มขอผมเป็นแฟนที่สวนนั่นแล้ว ตอนนี้พี่เอ็มก็พาผมกลับมาหอพักแล้วครับ เพียงแต่ตอนนี้ร่างสูงไม่ยอมกลับคอนโดตัวเองสักที แถมยังมาอ้อนขอให้ผมไปอยู่ด้วยอีกต่างหาก อย่าอ้อนเยอะสิครับ เดี๋ยวผมใจอ่อน ยอมไปอยู่ด้วยมันจะลำบากนะครับสังคม แฮะๆ

“ไม่เอาอะ ทำไมพีชต้องย้ายไปอยู่กับพี่ด้วย พีชก็มีหอของพีชนี่ไงพี่เอ็มก็รู้ว่าหอพีชอยู่ตรงไหน พี่ก็แค่ขับรถมาแป๊ปเดียวก็ได้เจอกันแล้ว” ผมพูดอธิบายคนที่โตแต่ตัวแต่ความคิดความเอาแต่ใจไม่แพ้เด็กอายุ 2 ขวบ อ้อ เรื่องการแทนตัวเองด้วยชื่อนี่พี่เอ็มเขาก็ขอมา บอกว่าอยากให้ผมแทนตัวเองด้วยชื่อตลอด

“ม่ายอาว พี่จะให้พีชไปอยู่กับพี่นะ สิ้นเดือนนี้ไปเลยนะ ไม่งั้นพี่จะย้ายมาอยู่กับพีชเองนะ เอาสิ” คนตรงหน้าพูดเสร็จก็ลุกมาดึงผมให้ล้มไปทับตัวเองก่อนจะพลิกตัวผมให้อยู่ด้านล่างแล้วก็ส่ายหน้าไปมาจนทำผมจั๊กจี้ไปหมด

“ฮ่ะ ฮ่ะ โอเคครับสิ้นเดือนพีชจะย้ายไปอยู่ด้วย แต่ว่าตอนนี้พี่เอ็มปล่อยพีชก่อนเร็ว พีชอยากอาบน้ำนอนแล้ว” ผมตอบรับไปในที่สุดก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำ พี่เอ็มก็ปล่อยทันทีไม่มีการมายื้อรั้งเอาไว้อีก

ออกจากห้องน้ำมาปุ๊ปคนที่นอนอยู่บนเตียงก็เด้งตัวลุกขึ้นมา ทำเอาเขาตกใจหมดเลย อะไรวะ อยากลุกก็ลุกแบบนี้ก็ได้เหรอ ถ้าเขาหัวใจวายไปใครจะรับผิดชอบละครับสังคม...

พอรู้ว่าเขาจกใจพี่เอ็มก็ส่งเสียงหัวเราะเขา ก่อนจะชวนเขาคุย

“จะนอนเลยไหมครับเราน่ะ”

ได้ยินอย่างนั้น เขาก็พยักหน้ารับ ก่อนจะส่งเสียงออกไป

“พี่เอ็มจะนอนนี่เหรอครับ งั้นก็ไปอาบน้ำได้แล้วครับ”

อีกฝ่ายพยักหน้าก่อนจะเดินมาขยี้ผมเขาแล้วเดินเลี่ยงไปเข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้เขาเข้านอนไปก่อน

เขานอนกลิ้งรอคนพี่ที่เข้าไปอาบน้ำไปเรื่อยๆจนไม่รู้ตัวว่าเขาเผลอหลับไปตอนไหน จนรู้สึกตัวอีกทีก็คือตอนที่อีกคนออกมาล้มตัวนอนข้างๆเขา เขาขยับตัวนิดๆก่อนที่คนพี่จะลูบหลังเขาเบาๆจนทำให้เขาเคลิ้มหลับไปอีกรอบในเวลาไม่นาน

จึ๊ก

จึ๊ก

จึ๊ก

อื้อ พีชเอามือปัดจมูกเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังรบกวนการนอนหลับอันแสนหอมหวานของตัวเอง ก่อนจะพลิกตัวหนีสิ่งนั้นละหลับต่อไปอย่างรวดเร็ว

หึหึ

“ดื้อคร๊าบบบบบบบบบ ตื่นเร็วพี่หิวแล้วนะครับ” คนที่แกล้งเขาส่งเสียงหัวเราะก่อนจะเขย่าตัวเพื่อปลุกเขาจากการนิทราอันแสนสุขของเขา

“.........”

“ไม่ตื่นพี่จะหอมแก้มแล้วนะ ฟอดดดดด”

“นี่มันไม่ จะ แล้วนะ ฮึ่ย”

เขาตื่นเต็มตาแล้วตอนนี้ ใครมันจะไปหลับต่อได้อะ คนอะไรมือไวใจไวชะมัดเลย แบบนี้ไว้ใจไม่ได้แน่ๆ

เขาทำหน้ายุ่งนิดหน่อยก่อนที่อีกฝ่ายจะเอื้อมมือมาจัดผมเผ้าให้เขาแล้วส่งยิ้มละมุนมาให้ โอเคครับ ยกนี้ผมแพ้อย่างราบคาบเลยครับทุกคน

“พี่อาบน้ำยังครับ”

อีกฝ่ายพยักหน้าเป็นคำตอบแทนคำพูดส่งมาให้

“งั้นขอพีชไปอาบน้ำแป๊ปเดียวนะครับ ค่อยออกไปหาอะไรกินกัน”

ผมเดินออกมาก็เจอกับคนที่ตื่นเช้ากว่ากำลังฟุบหลับอยู่ที่เตียงของเขา เพลียมากเลยเหรอหรือแค่ง่วงเฉยๆอันนี้ไม่ชัวร์แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าคงง่วงมากกว่าเพลีย

ผมเดินไปเขย่าตัวพี่เอ็มเบาๆ ก่อนจะส่งเสียงออกไป

“พีชไปซื้อกับข้าวขึ้นมาให้ไหมครับ ถ้าง่วงเราก็ไม่ต้องออกไปไหนหรอก”

ผมเสนอตัวเลือกให้พี่เขาเพื่อที่พี่เขาจะเลือกได้โดยที่เราวินวินกันทั้งสองฝ่าย อีกอย่างง่วงก็นอนเถอะผมเข้าใจการง่วงแล้วไม่ได้นอนแม่งโคตรทรมาน

“อื้อ มานี่หน่อยครับ”

 พี่เอ็มเรียกผมให้เข้าไปหา พอผมไม่เข้าไปหาก็ทำหน้ายุ่ง หน้างอคอหักเหมือนปลาทูแม่กลองเลย ฮ่า

“พีชครับมาดึงมือพี่หน่อยครับพี่ลุกไม่ขึ้น”

ผมทำหน้าเอือมก่อนจะเดินไปดึงคนที่ทำตัวอ่อนไม่ยอมลุกมาสักที

เหวอ

“พี่เอ็มเล่นอะไรบ้าบอมากไปละ ไม่เล่นแล้วครับ”

ผมโวยวายใส่พี่เอ็มที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง พอผมไปดึงมือพี่เอ็มใช่ไหมครับ พี่มันก็ยื้อตัวเองไว้แล้วผมดึงผมให้ล้มทับต้องเอง แต่ช้าแต่ สมน้ำหน้าพี่มันเพราะว่าศอกผมไปโดนท้องพี่มันจนมันจุกตัวงอไปเรียนร้อยละ

เหอะ อยากจะสมน้ำหน้าสักล้านรอบเล่นไรไม่รู้เรื่อง

“พีชพี่จุกมากอะ ทิ้งศอกลงมาได้”

 แล้วพี่อยากเล่นอะไรบ้าๆทำไมละครับ อันนี้คิดในใจแต่ไม่ได้ตอบไปหรอก ขี้เกียจจะพูดด้วยแล้ว



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

กลับมาแล้วค่ะ หายไปจัดการเรื่องเรียนจบแล้วเพลงก็ได้งานพอดีเลยต้องจัดการเรื่องทำงานให้ลงตัวก่อน ตอนนี้ลงตัวแล้วววววว จะกลับมาลงนิยายตามเดิมนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-07-2017 09:02:38 โดย Pleanplang »

ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ up!!! ตอนที่12 22/07/2560
«ตอบ #15 เมื่อ23-07-2017 17:11:27 »

คนของหัวใจ

ตอนที่ 12


และแล้ววันนี้ก็เป็นวันที่ผมต้องย้ายเข้ามาอยู่คอนโดกับพี่เอ็มตามสัญญาแล้วครับ พี่มันเล่นมาช่วยผมขนข้าวก่อนจะสิ้นเดือนตั้งหนึ่งอาทิตย์ โดยให้เหตุผลว่า วันออกจริงๆ ของจะได้ไม่เยอะ ผมก็เออออตามพี่มันไปนั่นแหละครับ รู้ว่าห้ามไปพี่มันก็คงไม่ฟังผมแน่ๆ
“เหนื่อยไหมครับเด็กดื้อ ดูดิเหงื่อเต็มเหม่งเลย”
เสียงทุ้มต่ำของคนพี่เอ่ยถามขึ้นมาเบาๆ พร้อมทั้งยกมือมาลูบหน้าผากเขาอีกต่างหาก ก่อนที่พีชจะหันหน้าไปมองแล้วยิ้มแล้วเอ่ยตอบ
“เหนื่อยดิ พี่ลองมาเก็บของเองสิ ง่วงแล้วแถมหิวอีกด้วย เลือกไม่ถูกแล้วว่าจะทำอะไรก่อนดี”ผมเผลอทำเสียงงอแงในคนพี่เนื่องจากอาการเพลียจากการเก็บของและการรับมือกับการแกล้งของร่างสูงตรงหน้า เล่นอะไรเป็นเด็กไปได้
“ง่วงด้วย หิวด้วย อื้มมมม พี่ว่า กินก่อนแล้วค่อยนอนดีกว่า” ผมหันไปมองคนที่เลือกให้ผมเสร็จสรรพ จะว่าไปแบบนั้นมันก็ดีเหมือนกันนะ เพราะถ้าผมนอนแล้วค่อยกินผมก็จะนอนไม่หลับ ยังไงก็ไม่หลับแน่ๆ อะ
“โอเคครับ งั้นพีชไปอาบน้ำก่อนนะ พี่เอ็มจะอาบน้ำไหมครับ” ผมหันไปบอกคนตรงหน้าก่อนที่จะเอ่ยถามออกไป
“ทำไมครับ พีชจะให้พี่อาบน้ำด้วยเหรอ แหน่ะ ทะลึ่งนะเรานอกจากจะดื้อแล้วยังลามกอีกนะคนเรา”
เมื่อได้ยินดังนั้น ผมก็ทำหน้าเอือมก่อนจะฟาดหลังมือไปที่ต้นแขนของอีกฝ่าย ก่อนจะเดินหนีเข้าห้องอาบน้ำไป ได้ยินเสียงหัวเราะตามหลังมาแว่วๆด้วย


“จะออกไปกินไรข้างนอก หรือว่าจะสั่งมากินในห้องกันดีอะพี่เอ็ม”
ผมหันไปถามอีกคนเมื่อเห็นว่าเขาอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ต้องชะงัก เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมแต่งตัวสักที ใบหน้าของพีชเริ่มขึ้นสีระเรื่อ
“ทะ ทะ ทำไมไม่แต่งตัวให้ดีๆก่อนออกมาล่ะครับ”
“ก็พี่ร้อนอะ นี่พี่ก็ใส่กางเกงอยู่นะหันมามองพี่ดีๆสิครับดื้อ หันมาเร้ว”
ใครมันจะกล้าหันไปมองกันวะก็กางเกงที่พี่มันบอกว่านุ่งอยู่คือกางเกงในน่ะสิ กางเกงในเพียวๆไม่มีกางเกงตัวอื่นทับเลยครับ ฮือ สังคมครับช่วยไอ้พีชคนนี้ด้วย
  ร่างบางได้แต่นิ่งเงียบเมื่ออีกคนเอ่ยคำพูดที่ทำให้เก้อเขินจนไม่อาจสบตา ใบหน้าหวานหันไปมองทางอื่นอย่างพยายามซ่อนความเขินอายบนใบหน้าที่เห่อร้อน
เขายืนตัวแข็งทื่อเมื่อคนที่ยืนอยู่ข้างหลังบัดนี้ได้เข้ามาประชิดตัวเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แถมยังโอบกอดเขาไว้แน่นจนรู้สึกว่าช่วงตัวของทั้งสองคนแนบชิดกันขนาดไหน
จมูกโด่งเป็นสันขยับเข้ามาคลอเคลียบนแก้มเนียนใสราวกับหมียักษ์กำลังอ้อนเจ้าของ เสียงทุ้มที่เจ้าเสน่ห์คอยกระซิบข้างใบหูของคนรัก ดวงตาโตเหลือบกลับมามองคนที่อิงแอบแนบชิด ใจเต้นแรงกับท่าทางนั้นไปจนหมด
“พะ พี่เอ็มครับ พีชหิวแล้ว สั่งอาหารมากินที่ห้องก็ได้ครับ” เขาพยายามที่จะเบี่ยงตัวหลบสันจมูกนั้นแต่ก็ไม่พ้นอยู่ดีเมื่อคนตัวโตพยายามยื่นหน้ามาคลอเคลียอยู่ตลอดเวลา ฮือ
“พี่ก็หิวเหมือนกันครับ” คนที่กอดเขาอยู่กระซิบตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหบพร่า น้ำเสียงที่ชวนจักจี้นั้นทำให้เขาต้องย่นใบหน้าและลำคอลง
“หิวก็ปล่อยพีชสักทีสิครับ ปล่อยพีชนะ แล้วพี่เอ็มไปแต่งตัวให้ดีๆ นะครับ นะ”
“…….”
“พี่เอ็ม”
“......”
“ขอจูบหน่อยสิ แล้วพี่จะปล่อยเรา พี่อยากจูบเราอะจะได้ไหมครับ”
ไม่พูดเปล่าร่างหนายังจับตัวเขาให้หันหน้ามาเผชิญกันอีกต่างหาก ตอนนี้ใบหน้าของเขาต้องแดงมากแน่ๆ ก่อนที่คนหน้าหวานระบายยิ้มอ่อนๆยอมเอ่ยคำที่อีกคนต้องการในที่สุด คำตอบนั้นทำให้เอ็มยกยิ้ม ประกายความสุขฉายชัดออกมาจากดวงตาคมจนพีชสังเกตเห็น
“พอจูบเสร็จแล้วไปแต่งตัวเลยนะครับ”
“อื้อ พี่เอ็มพอแล้วครับ”
 พีชหันหน้าทีทันทีที่อีกคนทำเหมือนว่าจะหยุดตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ ตกใจครับ ใครจะไปนึกว่าพี่มันจะพุ่งเข้ามาจูบผมทันทีที่ผมเอ่ยปากอนุญาตกันล่ะ   
“โอเคครับ ดื้อให้พี่พอพี่ก็พอ พี่ไปแต่งตัวแล้วนะครับ ชื่นใจ”
สงสัยพูดธรรมดาไม่เป็นต้องก้มมาหอมแก้มคนอื่นดังฟอด ให้เขาใจเต้นรัวจับจังหวะไม่ได้เล่นๆอีก นิสัยไม่ดีฮึ่ย แล้วผมจะยิ้มทำไมนักหนา ว่าแล้วก็ยกมือมาปิดแก้มตัวเองให้หุบยิ้มดีกว่าก็อีกคนชอบทำแบบนี้จะไม่ให้ผมใจเต้นกับเขาได้ยังไงกันล่ะ ทำไมพี่เอ็มถึงมีพลังทำลายล้างแบบนี้นะ
.
.
.
.
เสียงประตูนอนเปิดออกมา ผมหันไปมองพร้อมทั้งแอบทำหน้ากลั้นยิ้ม กลั้นทำไมไม่รู้เหมือนกันครับ อีกคนแต่งตัวสบายๆอยู่ห้อง กางเกงกีฬากับเสื้อบอลแต่มันทำให้ใจผมเต้นผิดจังหวะอีกแล้ว ก่อนที่คนที่ถูกพูดถึงจะเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ
“คิดได้ยังว่าจะสั่งอะไรเข้ามากิน หรือจะออกไปกินข้างนอก”
อยากกินพิซซ่าแต่ก็อยากออกไปข้างนอกด้วย แต่ก็ขี้เกียจด้วย เฮ้อ เลือกไม่ถูก
ผมไม่ตอบแต่หันไปทำหน้ายุ่งยากใส่เขาก่อนที่อีกคนจะหัวเราะแล้วหยิบโทรศัพท์ออก
จะสั่งอะไรมากินนะ?
“สั่งพิซซ่าหน่อยครับ เอาหน้าคาวาเอี้ยนถาดใหญ่ สปาเกตตี น่องไก่ด้วยครับ ครับที่อยู่เดิมครับ ได้ครับ สวัสดีครับ”
ผมหันไปมองพี่ทันทีที่พี่เขาวางสายโทรศัพท์ รู้ได้ยังไงว่าผมอยากกิน เอ๊ะ หรือว่าเขาก็อยากกินเหมือนกัน ก่อนที่ผมจะคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปมากกว่านี้
“พี่อยากกินน่ะเราก็อยากกินใช่ไหมล่ะ หน้าตาเรามันแสดงออกทุกอย่างแหละเด๋อเอ้ย”
อ่ะ มาว่ากูเด๋ออีก เอาเล้ย จะเรียกอะไรก็เรียกเลย จะดื้อ จะเด๋อก็เรียกไปเถอะไอ้หมียักษ์!!
ผมไม่ตอบอะไรได้แต่ส่งยิ้มให้ก่อนจะกันไปดูทีวีที่กำลังฉายวอลเล่ย์บอลอยู่
“เด๋อ เด๋อว่าอาทิตย์หน้าเราไปเที่ยวกันอีกไหม รอบนี้ไปกันเยอะๆ ชวนเพื่อนพี่ เพื่อนเราไปด้วย พี่จะพาเราไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการ”
ผมหันไปมองคนพี่ที่ตอนนี้ล้มตัวนอนบนตักผมไปแล้วเรียบร้อยอะไรมันจะสบายเบอร์นี้ครับสังคม
”อาทิตย์หน้าพี่ว่างเหรอ พีชยังไม่รู้เลยว่าพีชว่างไหมอาจจะว่างหรืออาจจะไม่ว่างก็ได้ใครจะรู้”
“ทำไมครับเด๋อจะไปไหนอะ พี่บอกเราล่วงหน้าแล้วเราก็ต้องว่างสิ”
ไม่พูดเปล่าพี่มันยังดึงมือผมไปลูบเล่นพร้อมทั้งดมๆเหมือนแมวเลยครับ จั๊กจี้และน่ารักดี
“แล้วพี่จะไปเที่ยวไหน” ผมถอนหายใจแล้วถามกลับไป คนอะไรตัวก็โตแถมยังเอาแต่ใจอีก เฮ้อ คิดถูกคิดผิดที่มาอยู่ด้วยเนี่ย
ไอ้บ้าไอ้บอที่สุด
ไอ้คนใจบาป
ไอ้คนเงาแค้น
เกี่ยวไหมไม่รู้รู้แค่ว่าอยากด่าเฉยๆ แฮะๆ
“ไม่รู้อะเด๋อ แต่พี่อยากไปเที่ยวกับหนูอะ หนูไปกับพี่นะ นะ นะคะ”
ดูมันเรียกดูเด๋อไม่พอ ยังมีหนูโผล่มาอิ้กกกกก
“ฮะ ฮะ พี่เอ็มมมมปล่อยก่อนเร็ว ไว้คิดออกแล้วมาชวนใหม่ก็ได้ครับ ฮะ ฮะ ฮ่า โง้ย ปล่อยก่อนเร็ว เสียงอ๊อดดังอะ”
ผมหัวเราะเสียงดังลั่นห้องเพียงเพราะพี่เอ็มมันไม่พูดเปล่าไงครับมันจับมือผมหงายแล้วเกาฝ่ามืออะ อย่าลืมสิว่าผมบ้าจี้
.
.
.
.
“เรานั่งกินกันตรงนี้แหละเนอะ เช็ดน้ำลายเร็วน้ำลายยืดแล้วนั่น”
ผมโยนหมอนอิงใส่หน้าพี่มันก่อนจะไปนั่งกินพิซซ่าที่สั่งมากันเงียบๆ รู้เลยนะครับว่าทั้งสองคนหิวกันมากขนาดไหน
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
TBC
วันนี้เพลงเอารูปยัยน้องมาให้ทุกคนดูแหละค่ะ น่ารักเนอะ แย่งมาจากอิคนพี่

ออฟไลน์ Pleanplang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: คนของหัวใจ up!!! ตอนที่13 30/07/2560
«ตอบ #16 เมื่อ30-07-2017 20:04:51 »

คนของหัวใจ


ตอนที่ 13
เกือบเจ็ดเดือนแล้วครับที่ผมย้ายมาอยู่กับพี่เอ็ม อยู่ด้วยกันก็ค่อยๆ เรียนรู้นิสัยกันและกันไป ซึ่งเจ็ดเดือนที่ผ่านมานั้นมันทำให้ผมรู้ว่าพี่เอ็มแม่งขี้แกล้งขนาดไหนและพี่มันก็ร็ว่าผมไม่ได้สุภาพเสมอไป อย่างเช่นวันนี้ก็เช่นกัน
“โว้ยอึดอัดไหมล่ะอีพี่หมี!!ตอนนอนก็นอนใครนอนมันพอตื่นมาก็มาแกล้งมากอดแรงๆนิสัยไม่ดี!!” ผมลุกมานั่งโวยวายเจ้าของอ้อมกอดที่ผมรู้ว่าต้องตื่นแล้วแน่ๆถึงได้กอดเสียแน่นแบบนี้
“ทำไมพี่จะกอดเด๋อไม่ได้หื้มมมนี่แหน่ะกอดให้แน่นกว่าเดิมเลย ฮึบบบบบบ” เรื่องชื่อก็เช่นกันครับ ที่พี่เอ็มเรียกผมว่าเด๋อเพราะว่าผมชอบทำท่าทางเด๋อๆใส่เขา แต่ผมไม่รู้หรอกแค่ไหนที่เรียกว่าเด๋อ
“อ๊อก แอ๊ก แค่กแค่ก หะ หายใจไม่ออก”
พอผมทำเสียงแบบนออกไปพี่เอ็มก็หลุดหัวเราะก่อนจะยอมปล่อยแล้วหันมาหอมหน้าผากผมแทน แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำพร้อมกับเสียงหัวเราะ
เป็นแบบนี้ทุกเช้าอะครับ เสียงหัวเราะของพี่มันคือสิ่งที่ผมได้ชินทุกเช้า กลางวัน และก่อนนอน ทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกันรอบๆตัวเราจะมีบรรยากาศที่มีความสุขและเสียงหัวเราะลอยอบอวนไปทั่ว
ถามว่าวันนี้ผมสามารถพูดได้เต็มปากว่ารักพี่เอ็มได้ยัง บอกได้เลยว่าผมสามารถพูดได้เลยว่ารัก แต่ผมยังไม่บอกพี่เอ็มหรอกครับ ผมรู้ว่าพี่ต้องรู้แน่ๆ
“อ่ามีอะไรให้ทำอาหารเช้าไหมนะ” ผมเดินไปเปิดตู้เย็นดูว่ามีของสดพอที่จะทำกับข้าวสำหรับมื้อเช้าไหม ก็พบกับวัตถุดิบแค่ไม่กี่อย่างเลยตัดสินใจว่าจะทำข้าวต้มทรงเครื่องละกันและตอนเที่ยงค่อยชวนพี่เอ็มออกไปซื้อของสดมาตุนไว้








ถึง10%ไหมไม่รู้รู้แต่ว่ามันน้อยมา แง้เพลงขอโทษนะคะพรุ่งนี้จะขอแก้ขอใหม่ค่ะ ก้มหน้าคุกเข่า
...............................มาน้อยมากๆเพลงขอโทษนะคะพรึ่งนี้จะมาลงเพิ่ม..................................................

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด