ตอนเดียวจบ | เมื่อเราได้คุยกัน -- PART 1|2|3-END!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนเดียวจบ | เมื่อเราได้คุยกัน -- PART 1|2|3-END!  (อ่าน 1586 ครั้ง)

ออฟไลน์ Phak

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
สวัสดีครับ ผม Phak (ภัค)
กลับมาแล้วคร้าบบบบบบบบบ!
หลังจากห่างหายไปนานมากกกกกก
ครั้งนี้เอาเรื่องสั้นมาฝากกัน
ไม่ต้องกลัวว่าลงแล้วจะหายกันไปอีก เพราะเรื่องนี้

มี ตอน เดียว จบ!

มันแค่ไม่กี่หน้าเท่านั้นครับ แต่ถ้าลงในนี้แล้วยาวไป
อาจจะแบ่งเป็นสองพาร์ทแทนนะครับ
ยังไงก็ฝากด้วยครับ
.
ปล. แนะนำติชมใดๆ ได้เหมือนเดิมเลยครับ ><

::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2018 23:20:34 โดย Phak »

ออฟไลน์ Phak

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เมื่อเราได้คุยกัน
When it starts
..........

                    ผมนั่งจ้องมองหน้ากระดาษว่างเปล่า กับเคอเซอร์ที่กะพริบเป็นจังหวะสม่ำเสมอของโปรแกรมจัดการเอกสารยอดนิยมมาแล้วกว่าชั่วโมง กับแก้วน้ำเปล่าๆ ที่อดีตมันเคยมีโกโก้เย็นบรรจุอยู่เต็มแก้ว จน ณ เวลานี้โกโก้หมดแก้ว เช่นเดียวกับหน้ากระดาษที่ยังว่างเปล่า…..

                    ยอมรับกันตามตรงว่าหลายสัปดาห์มานี้ผมเริ่มหมดไอเดียที่จะเขียนนิยาย หรือกระทั่งเรื่องสั้นเรื่องใหม่ๆ เพื่อส่งให้กับสำนักพิมพ์ ผมสู้อุตส่าห์ลาออกจากงานประจำ หันมาทำฟรีแลนซ์ เพื่อจะได้จัดสรรเวลามาทำอีกสิ่งหนึ่งที่ผมชอบ นั่นก็คือการเขียนหนังสือ แต่นี่ผมกลับนั่งจ้องจอคอมโดยไม่ทำอะไรกับมันมาเป็นเป็นเวลาหลายวันเข้าไปแล้ว ทั้งๆ ที่ผมวางแผนไว้ว่าภายในเดือนนี้จะต้องได้เรื่องสั้นอย่างน้อยหนึ่งเรื่อง แต่จวนจะครบหนึ่งเดือนในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว ผมกลับพิมพ์และลบ แล้วทำซ้ำแบบนี้ไม่รู้กี่รอบ ก่อนจะยอมแพ้แล้วหันไปสนใจอย่างอื่นแทน อย่างเช่นการดูหนังเป็นต้น

                    เช่นเดียวกันกับวันนี้ที่ผมเริ่มจะยอมแพ้กับมันอีกครั้ง แล้วหันไปให้ความสนใจกับหน้าเฟสบุ๊กที่ผมเปิดค้างไว้ เลื่อนหน้าฟีดไปเรื่อยๆ อย่างเบื่อหน่าย ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจนัก แต่ทำไมผมกลับอยู่กับมันได้เป็นชั่วโมง ที่แม้จะเบื่อ แต่ก็ไม่ยอมละไปจากมัน ยิ่งได้เล่นในมือถือยิ่งหนัก เพราะแม้จะเข้าห้องน้ำทำธุระหนักอยู่ก็ยังสามารถถือเข้าไปได้ แล้วระหว่างที่ผมกำลังนั่งสไลด์หน้าฟีดอย่างเบื่อๆ อยู่นั่นเอง ก็มีโพสต์หนึ่งสะดุดตาผมขึ้นมา มันเป็นโพสต์ที่ทำพื้นหลังเป็นสีออกม่วงๆ กับข้อความที่ไม่รู้ว่าเจ้าของโพสต์ต้องการสื่อว่าอย่างไร

                    Great Attapol
   
                    เฮ่อออออออออออออ :’ (

                    เขาเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เราเคยคุยกันบ้าง แต่ไม่ได้สนิทกันมากนัก แม้กระทั่งตอนเรามีเฟสบุ๊กของกันและกัน ก็ยังทักทายกันเพียงไม่กี่ประโยค เราเพียงรู้จักชีวิตของแต่ละฝ่ายผ่านหน้าฟีดเท่านั้น และครั้งนี้ เพื่อหลบเลี่ยงความน่าเบื่อ ผมจึงเลื่อนหาชื่อเขาในกล่องแชต แล้วกดทักเขาไป

                    Phoom Worrapong: ไง
                    Phoom Worrapong: เป็นไงบ้าง

                    ไม่ได้หวังว่าเขาจะต้องตอบทันที แต่ขอให้อ่าน แล้วก็ตอบกลับมาก็พอ ผมจึงไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับแชตนานนัก เมื่อทักไป ก็กลับไปเลื่อนหน้าฟีดต่อ แต่เพียงไม่ถึงนาที ข้อความแชตก็เด้งเตือน…

                    Great Attapol: :’ (
                    Great Attapol: แย่ว่ะ
                    Great Attapol: เราเลิกกับแฟนแล้ว


                    ณ วินาทีที่ผมเห็นประโยคสุดท้ายนั้น ผมยอมรับตรงๆ ว่าแอบรู้สึกดีใจ หัวใจผมมันเต้นแรงอย่างตื่นเต้นอย่าง มีความหวัง ถึงอย่างนั้นก็ตามผมก็ต้องเก็บความหวังนั้นไว้ก่อน เพราะการที่เขาเลิกกับแฟน ไม่ได้หมายความว่า เขาจะหันมาสนใจผม….

                    Phoom Worrapong: อ่า…..
                    Phoom Worrapong: เราเสียใจด้วยนะ
                    Great Attapol: อืม…. L
                    Phoom Worrapong: เดี๋ยวก็คงดีขึ้นเองแหละเน้าะ
                    Great Attapol: อืม…. เราก็หวังว่าอย่างนั้น
                    Phoom Worrapong: อืม….


                    เออ…. ไม่รู้จะคุยอะไรต่อแล้วจริงๆ ด้วยความที่เราไม่สนิทกัน และผมก็ไม่เคยรู้เรื่องราวตื้นลึกหนาบางของเขา ก่อนหน้านี้เลย แล้วผมก็ไม่รู้ด้วยว่าเราควรจะปลอบคนอกหักยังไง เว้นเสียแต่ว่าเขาจะอยากเล่าเรื่องราวของเขาออกมาเอง ซึ่งนั่นก็คงจะยากสำหรับผม แต่แล้วจู่ๆ ก็มีข้อความที่ไม่คาดคิดจากเขา จนทำให้ผมรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน ไปหมด

                    Great Attapol: วันเสาร์นี้ภูมิว่างมั้ยอะ
                    Phoom Worrapong: ว่าง
                    Phoom Worrapong: จริงเราว่างทุกวันแหละ ทำไมเหรอ หรือว่าจะชวนเราไปไหน ><


                    ผมก็แค่ถามไปอย่างนั้นแหละครับ แต่ว่า….

                    Great Attapol: ไปร้านกาแฟเป็นเพื่อนเราหน่อยดิ


                    ผมอ่านทวนประโยคนั้นอีกรอบอย่างไม่อยากเชื่อ


                    Great Attapol: นะ ได้มั้ย?


                    ผมใจเต้นแรง ตื่นเต้นไปหมด เหมือนความรู้สึกเดิมๆ มันกลับเพิ่มขึ้นมาอีก ทำไมอยู่ๆ เขาถึงชวนผม


                    Great Attapol: ไม่ว่างเหรอ?


                    หรือเขาอาจแค่ต้องการเพื่อนสักคน แต่เพื่อนเขาก็น่าจะมีไม่น้อยนี่


                    Great Attapol: ไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ


                    เชี่ยยยยยยย!


                    Great Attapol: เราไปคนเดียวก็ได้








                    Phoom Worrapong: ว่าง
                    Phoom Worrapong: เราว่าง คือไปได้น่ะ



                    ผมตอบไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่อย่างน้อยก็ทำให้ผมได้ใกล้ชิดกับเขามากกว่าที่เคย


                    Great Attapol: เย้
                    Great Attapol: งั้นเดี๋ยวเราไปรับนะ ที่บ้านภูมิ


                    อะไรนะ! จะมารับที่บ้านเลยเนี่ยนะ เดี๋ยวๆ โอ๊ยยยย ทำไมอยู่ๆ ผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสาวน้อยวัยรุ่น ที่กำลังจะได้ออกเดตกับชายหนุ่มที่แอบชอบเป็นครั้งแรกยังไงอย่างงั้นเลย!

                    Phoom Worrapong: เกรตรู้จักบ้านเราเหรอ

                    เขาไม่ได้ตอบทันที แต่มีจุดสามจุดเด้งขึ้นลงสลับกัน แสดงว่าอีกฝ่ายกำลังตอบอยู่ อดคิดไม่ได้ว่าคำถามง่ายๆ แบบนี้ไม่น่าจะต้องใช้เวลาในการคิด

                    Great Attapol: ไม่รู้หรอก :P
                    Great Attapol: เอาอย่างงี้ ภูมิช่วยส่งโลเคชั่นมาให้เราหน่อยแล้วกัน
                    Great Attapol: เราจะได้ไปถูก
                    Phoom Worrapong: อ่าๆ
                    Phoom Worrapong: [SENT LOCATION]
                    Great Attapol: ขอบคุณครับ ^^
                    Great Attapol: แล้วเจอกันวันเสาร์นะ
                    Phoom Worrapong: อืม โอเค


                    คุณครับ ตอนนี้ผมทั้งดีใจ ทั้งงงไปหมดแล้วครับ อะไรทำให้เขาชวนผม เขาแค่อยากมีใครสักคนคุยด้วย หรือเพราะอยากเจอผมจริงๆ แต่เราแทบไม่ได้คุยกันมากนัก ก็อย่างที่ผมบอกไป เราคุยกันบ้างบางครั้ง ผ่านแชตเฟสฯ ครั้งละไม่กี่ประโยค จริงอยู่ว่าผมนั้นถามไปด้วยว่าอยากคุยกับเขา แต่แบบนี้มันเกินกว่าที่ผมคาดฝันไว้ซะอีก! เอาเป็นว่าตอนนี้ ก็คงต้องรอดูต่อไป ว่าวันเสาร์จะเป็นยังไง……

● ● ● ●













::TALK::
วันนี้ขออนุญาตลงแค่นี้ก่อนนะครับ
ตอนนี้ผมไม่ไหวแล้ววววว ง่วงมากเวอร์  o19
ขอตัวไปนอนก่อน แล้วจะกลับมาอัพให้ใหม่ตอนค่ำแน่นอนครับ
รับรองว่าเรื่องนี้จะลงให้จบอย่างรวดเร็ว เพราะเขียนไว้เสร็จหมดแล้วครับผม
ฝากติดตามด้วยนะครับ ><
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2018 14:47:31 โดย Phak »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
มีเงื่อนงำ...เกรทหลอกจีบรึป่าว รอจ้า  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Phak

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
-2-

● ● ● ●

               ผมนั่งมองคนตรงหน้าที่นั่งดื่มมอคค่าเย็น ดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบข้างของร้านกาแฟอันแสนไกลอย่างสบายอารมณ์ จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่า มันพึ่งอกหักมาจริงๆ น่ะหรอ

               “เกรต เราถามอะไรหน่อยดิ” เขาวางแก้วลงก่อนหันมาหาพร้อมกับยิ้มให้…. “นายอกหักจริงๆ น่ะเหรอ ทำไมดูเหมือนไม่เศร้าเลย”

               เกรตมีสีหน้าเศร้าลงเล็กน้อย ก่อนจะตีหน้าเศร้าแบบสุดฤทธิ์ ที่ดูก็รู้ว่าเกินจริง

               “จริงสิ เราพึ่งเลิกกับแฟนได้แค่สามเดือนเอง เรายังรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ อยู่เลย” เขาถอดแว่นกันแดด ส่งสายตาเจ็บปวดมาให้ผม
               “แล้วทำไมดูนายไม่ค่อยเศร้าเลยนะ”
               “ก็เพราะเรามีนายมาด้วยไง” เขายิ้มกว้าง เล่นเอาผมทำตัวไม่ถูก เหมือนกำลังโดนเขา ….เออหยอด “เฮ่อ มันก็สามเดือนแล้วนะ จะให้จมปลักกับมันต่อไปก็คงไม่ได้ สู้ยอมรับ แล้วเดินหน้าต่อไปดีกว่า”
               “อ้อๆ” ผมพยักหน้าทำเป็นเข้าใจ “ก็แสดงว่าพอทำใจได้บ้าง”
               “อืม”
               “แล้วทำไมต้องพามาไกลขนาดนี้ด้วยเนี่ย!”
               เขายิ้มกว้างก่อนตอบ “เราอยากมา อยากเปลี่ยนบรรยากาศน่ะ อยู่แต่ในเมืองมันน่าเบื่อ รถก็เริ่มจะติดเหมือนกรุงเทพฯ ละ”
               “แม่แตงเนี่ยนะ! อีกสองชั่วโมงก็ถึงปายแล้วมั้ย ไม่ไปปายเลยล่ะ” ผมอดที่จะประชดไปไม่ได้ แม้ว่าผมจะอยากมากับเขาแค่ไหน และแม้ว่าจะไม่ได้มีอะไรทำมากมาย แต่การพามาร้านกาแฟที่ไกลถึงแม่แตง ใช้เวลาเดินทางเกือบชั่วโมง ก็ดูจะเกินไปหน่อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าร้านนี้บรรยากาศค่อนข้างดี มีฟาร์มแกะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน และก็มีแกลเลอรี่อยู่ด้วย แถมข้างร้านก็เป็นทางเข้าไปน้ำตกหมอกฟ้าอีก
               “เอาน่า เปลี่ยนบรรยากาศ ชิลล์ ดูดิมีแกะด้วย ตรงนั้นก็เป็นแกลเลอรี่ หรือถ้าเบื่อๆ ก็ไปเที่ยวน้ำตกก็ได้นะ”

               ดูเอาสิ ยังมาทำหน้าระรื่นชมนกชมไม้อีก เฮ่ออออ

               “เออๆ ช่างเหอะ เห็นว่าเลี้ยงหรอกนะ” ใช่ครับทริปนี้มันเลี้ยง แหมผมนี่โชคดีจริงๆ “แล้วทำไมถึงชวนเราอะ เพื่อนนายหายไปไหนหมด”
 
               แว็บหนึ่งเหมือนผมเห็นว่าเกรตดูมีสีหน้าผิดหวัง

               “เราอยากเจอภูมิไง”
               “ห้ะ” ผมไม่ได้หูฟาดไปใช่มั้ย
               “ก็เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ตอนเรียนด้วยกันก็ไม่ค่อยได้คุยกัน ขนาดเรียนมหาลัย ยังมารู้ว่าภูมิเรียนที่เดียวกันก็ตอนปีสามเข้าไปแล้ว บางทีเราก็อยากคุยกับภูมิบ้างนะ อย่างน้อยๆ ก็ในฐานะ คนที่พอจะรู้จักกัน”

               ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ทำไมอยู่ๆ เกรตก็เกิดสนใจอยากจะคุยกับผมขึ้นมา ทั้งๆ ที่ตลอดเวลาที่เรารู้จักกัน เราคุยกันแทบนับครั้งได้ ครั้งหนึ่งก็ไม่เกิดสี่ห้าประโยค และจริงอย่างที่เขาว่า เราพึ่งมารู้ว่า เราเรียนที่เดียวกันตอนมหาลัย ก็ตอนปีสามเข้าไปแล้ว หลังจากนั้นก็แทบไม่ได้คุยอะไรกันเลยจริงๆ

               “เราเห็นเกรตมีเพื่อนมีคนคุยตั้งเยอะ ก็เลยสงสัยว่าทำไมจู่ๆ ถึงชวนเรา เพราะเอาเข้าจริง เราก็ไม่ได้สนิทอะไรกันขนาดนั้น แค่คุยกันไม่กี่ครั้งเอง”
               “งั้นเราก็คุยกันบ่อยๆ สิ จะได้สนิทๆ กันไง ครั้งหน้าเราก็จะได้ชวนภูมิมาเที่ยวอีก”

               เขาจะรู้บ้างมั้ยว่าเขากำลังทำผมปั่นป่วนไปหมด ผมไม่อยากเข้าข้างตัวเองเลย แต่สิ่งที่เขาทำ ประโยคที่เขาพูด สายตาที่เขาส่งมา มันทำให้ผมคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้จริงๆ แต่มันก็ทำให้ผมสับสน ก็ในเมื่อเขาไม่เคยมีวี่แววใดๆ ว่าจะชอบผู้ชายเลย บางทีเขาอาจจะแค่เหงา ก็เลยอยากหาคนคุยด้วยเฉยๆ ก็ได้ และเผอิญว่าตอนนั้นผมทักเขาไปพอดี พอคิดแบบนี้ก็อดรู้สึกผิดหวังไม่ได้จริงๆ …

               “ภูมิ เป็นอะไรรึเปล่า หรือเราพูดอะไรผิดไป” เขาคงสังเกตเห็นสีหน้าผิดหวังของผมแน่ๆ
               “เปล่าหรอก” ผมยิ้มกลบเกลื่อน “เดี๋ยวเราขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะ” ไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้ประโยคแบบนี้ใน
ชีวิตจริง เพื่อหลีกหนีสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วน

               ผมเดินไปที่ห้องน้ำ ทำธุระให้เรียบร้อย จังหวะที่ล้างมือ ผมมองตัวเองในกระจก แล้วก็นึกถามตัวเองขึ้นมาว่า เขาจะจีบเราจริงๆ น่ะหรือ หรือเราแค่คิดไปเอง ก่อนจะสะบัดหัวไล่ความคิดนั้นออกไป เพราะมันคงเป็นไปไม่ได้ ที่ผู้ชายอย่างเขาจะจีบผู้ชายอย่างเรา ไม่ใช่เรื่องว่าแมนหรือไม่แมน แต่มันแค่เป็นไปไม่ได้ ผมคิดอย่างนั้น…..
               หลังจากจัดการกับความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองเสร็จ ผมก็เดินกลับมาที่โต๊ะ ดูเหมือนเกรตกำลังคุยกับโทรศัพท์
กับใครอยู่ จนผมเดินเข้าไปในระยะได้ยิน

               “ขอบใจนะแพรวที่เข้าใจ……. อืม ยังไงก็ขอให้แพรวโชคดีด้วยเหมือนกันนะ ไว้เจอกัน…… ครับผม ยังคิดถึงอยู่นะ….. ฮ่าๆ โอเคๆ วางละๆ”

               แพรวคือแฟนเก่า…. ของเกรตครับ แต่ผมชักไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังเป็นแฟนเก่าอยู่รึเปล่า หรือว่าจริงๆ พวกเขายังไม่ได้เลิกกัน
   
               “เสร็จแล้วเหรอ” เกรตหันมาเห็นผมพอดี “ไปถ่ายรูปเล่นกัน” เขาเดินมาลากมือผมไปยังแกลเลอรี่ที่อยู่ถัดไป








               ร้านนี้มีพื้นที่ที่กว้างขวาง แบ่งเป็นส่วน คือสวนที่เป็นร้านกาแฟที่เราพึ่งนั่งกันไป อีกส่วนใหญ่ๆ เป็นฟาร์มที่เลี้ยงแกะ และอีกหนึ่งอาคารที่เป็นแกลเลอรี่ของศิลปินท่านหนึ่ง
               เกรตหยิบกล้องที่เอามาด้วยยกขึ้นถ่ายรูปไปเรื่อยๆ แล้วหันกล้องมาผม ผมก็โพสท่าไปเรื่อยเปื่อย สนุกๆ ไม่ได้คิดอะไร อยากถ่ายก็ให้ถ่าย ไม่ได้หวงตัว เอาว่ามาเที่ยวสนุกๆ ก็พอ อีกอย่างไม่รู้ด้วยว่า จะมีโอกาสได้มากับเขาอีกเมื่อไหร่ด้วย

               “ภูมิเซลฟี่กัน”
               “ห้ะ”    
               “หาอะไร เซลฟี่ไง เร็ว” เขาดึงตัวผมเข้าไป ยกแขนขึ้นโอบไหล่ผม หัวใจผมเต้นรัวเร็วจนกลัวว่ามันจะได้ยิน “ยิ้มดิๆ”

               ผมยิ้มให้กับกล้องที่มันยกขึ้นมาแบบฝืนๆ เล็กน้อย คุณครับถ้ามีคนที่คุณแอบชอบอยู่ใกล้ขนาดนี้ คงเข้าใจนะครับว่าจะรู้สึกยังไง เรามักจะทำตัวไม่ถูก มักจะเกร็ง เก้ๆ กังๆ ตลอด จนดูไม่เป็นธรรมชาติ

               “ทำไมยิ้มแปลกๆ วะ เอาใหม่ๆ” มันยกกล้องขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ผมยิ้มเต็มที่ ช่างแม่งมันแล้ว แลบลิ้นปลิ้นตาก็มีเอา อยากถ่ายก็ถ่ายไป   
               “เชี่ย ทำหน้าอะไรของมึงงงง ฮ่าๆๆๆ” มันก้มมาดูรูปแล้วก็หัวเราะร่วนกับหน้าประหลาดๆ ของผม ขนาดผมเองก็ยังรู้สึกอายๆ ไม่ได้ที่ทำแบบนั้นออกไป แต่มีอยู่สองสามภาพที่ทำให้ผมรู้สึกใจกระตุกเบาๆ มันเป็นภาพที่มันหันมามองผมแล้วยิ้มน้อยๆ แต่มันก็กดเปลี่ยนไปอย่างเร็ว
   
               “ไปดูแกะกันดีกว่าปะ”
               “ร้อนอะ ดูแดดดิออกไปเราละลายแน่อะ”    
               “อยู่ตรงนี้ก็ละลาย ออกไปก็มีค่าเท่ากันมะ”

               เราไม่ได้อยู่ในอาคารหรอกครับ แต่จุดที่ยืนอยู่มันยังมีร่มเงาคอยบังแดด ซึ่งก็พอจะลดความร้อนลงไปบ้าง แต่ส่วนที่เป็นแกะ มันโล่งมากกกก ไม่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ไม่มีหลังคาใดๆ บังแดด อ่า จะสุกหรือไหม้คงได้รู้กัน
               เราถ่ายรูป ดูแกะ เล่นกับมันบ้างท่ามกลางแสงแดดจ้า แต่โชคดีที่อากาศยังเย็นๆ อยู่บ้าง แม้จะเป็นช่วงหน้าร้อน หลังจากเล่นกับแกะเสร็จ มันลากผมกลับไปทางร้านกาแฟ ด้านนอกร้านมีการล้อมรั้วเล็กๆ มีแกะน้อยอยู่ข้างใน ให้ลูกค้าได้จ่ายเงินให้นม ให้ฟางแกะกินได้

               “น่ารักดีเน้าะ” เขาพูดขณะป้อนนมให้ลูกแกะ ผมหยิบกล้องของเขามาถ่าย และไม่ลืมถ่ายด้วยมือถือของตัวเองเก็บไว้   
               “อืม แต่ก็มีกลิ่นเบาๆ นะ” เขาทำท่าสูดดม    
               “เออจริง”    
               “ฮ่าๆ แล้วจะดมทำไม”    
               “ก็อยากพิสูจน์กลิ่นไง ได้เต็มๆ เลย”    
               “สมน้ำหน้า”    
               เขาหันมายิ้มให้ “ป้อนบ้างมั้ยจะหมดแล้วนะ”

               ผมเอื้อมมือไปจับขวดนม คืนกล้องให้เขา ดูลูกแกะดูดนมที่เหลืออยู่อีกไม่เยอะอย่างหิวโหย ผมได้ยินเสียงชัตเตอร์ จึงหันไปหาเขา

               “อะไร แอบถ่ายรูปเราเหรอ”
               “เมื่อกี้ภูมิยังแอบถ่ายเราเลย”

               ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ดึงขวดนมที่หมดแล้วออกมา จากลูกแกะที่หิวโหย

               “ก็เราใช้กล้องเกรตถ่ายนี่ ไม่เห็นเป็นไร”
               “โทรศัพท์ก็ด้วยไม่ใช่เหรอ” เขาทำหน้าเจ้าเล่ห์ ผมยังทำหน้ามึนเช่นเคย เอาขวดนมเปล่าไปวางไว้ที่เดิมของมัน “น่ารักดีแฮะ” อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาขณะดูกล้อง
               “ไหนดู” ผมดูรูปที่เขาถ่ายตอนผมกำลังป้อนนมแกะ ดูเหมือนจะเห็นผมชัดกว่าแกะซะอีก
               “แกะเบลอหมดเลย ถ่ายยังไงเนี่ย” ผมแสร้งทำเป็นโวย
               “ก็เราตั้งใจจะถ่ายภูมิไง ดูสิเราพึ่งเห็นนะว่าภูมิน่ารักกว่าแกะตั้งเยอะ”

               เขายิ้มกว้างมองมาทางผม ผมรู้สึกทำตัวไม่ถูก พยายามหาคำพูดมาตอบกลับไป แต่ก็เหมือนจะว่างเปล่าไปหมด

               “ตลกแล้ว” เท่านั้นที่ผมคิดได้จริงๆ ก่อนจะรีบเดินกลับไปที่รถ

               ผมรู้ว่าไม่ควรเข้าข้างตัวเอง แต่มันชัดเจนขนาดนี้ มันคงคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้วมั้ง ถึงอย่างนั้นก็ตามผมก็คงต้องพยายามไม่คล้อยตามไปกับวาจาเชิงเย้าหยอกของเขามากนัก เกิดตกหลุมพรางเขาขึ้นมา แล้วเขาไม่ได้คิดอะไร     จะกลายเป็นผมที่ต้องเสียใจ

               “นี่ ไปน้ำตกกันมะ แค่เข้าไปในซอยนี่เอง” ผมมองไปทางเข้า ก่อนตอบกลับไป
               “เอาดิ ไหนๆ ก็มาแล้ว”

● ● ● ●

TBC.










::TALK::
อะ ....ขอมาสั้นๆ (มากๆ) ก่อนนะ เดี๋ยวเย็นย้ำค่ำมืดมาลงให้อีกนะครับ
พาร์ทหน้าคือจบแล้วจริงๆ แต่มันค่อนข้างยาว เกรงว่าลงต่อกันจะไถกันยาวๆ ไป
.
ยังไงก็ฝากแนะนำติชมด้วยนะครับ เราจะได้มีกำลังใจในการเขียนเรื่องต่อๆ ไปอีก
และไม่ดองงานอีก พูดจริงๆ นะ  :impress:
.
แล้วเจอกันเย็นๆ ครับ ^^









อะ หยอกๆๆๆ แถมให้อีกหน่อย อิอิ






               ทางเข้าไปน้ำตกค่อนข้างจะชัน เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลงสลับกันไป แม้จะเป็นเพียงทางสั้นๆ แต่ก็อดทำให้รู้สึกหวาดเสียวไม่ได้ แต่พอลงมาถึงน้ำตกแล้วก็ถือว่าคุ้มกับความงาม และความสงบ
               น้ำตกหมอกฟ้าเป็นน้ำตกเล็กๆ อาจไม่ได้สวยจับใจมากมาย และบางคนอาจบอกว่าไม่คุ้มหากจะขับรถไกลๆ มาจากตัวเมือง น้ำตกแห่งนี้จึงเป็นเพียงแค่ทางผ่านของนักท่องเที่ยวที่จะไปปาย แต่น้ำตกเล็กๆ แห่งนี้ก็ทำให้รู้สึกได้พักผ่อน และผ่อนคลายอยู่ไม่น้อย การที่ได้แช่ขาลงไปในน้ำเย็นๆ ร่างกายโดนละอองน้ำตกก็ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นไม่น้อย
               เกรตยังคงสนุกกับการถ่ายรูปน้ำตก ….และรูปผม ซึ่งก็ไม่ได้คิดอะไรแล้ว เพียงแต่ปล่อยให้เขาถ่ายไป ไว้กลับไปจะขอจิ๊กรูปจากเขาสักหน่อย จะได้มีรูปไปอวดคนอื่นบนเฟสบ้าง จะว่าไปผมเองก็วนเวียนอยู่แต่บ้านกับร้านกาแฟ จนไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเป็นเดือนๆ เลย การมาครั้งนี้ก็เหมือนได้เที่ยวพักผ่อนไปด้วย อย่างน้อยๆ ก็ยังมีข้อดีอีกข้อที่ตรงนี้
               ผมเดินขึ้นจากน้ำ มานั่งบนโขดหินข้างๆ กับเกรต ที่กำลังพยายามเก็บกล้องให้ห่างจากละอองน้ำมากที่สุด
   
               “ดูสนุกจังนะ” เขาว่า “ไม่ค่อยได้เที่ยวเหรอ เห็นว่าลาออกแล้วไม่ใช่เหรอ”
               “ไม่อะ วนเวียนอยู่แต่กับร้านกาแฟ ไม่ค่อยได้คิดเรื่องเที่ยวเท่าไหร่หรอก ไม่มีตังค์ด้วย” เขาพยักหน้ารับรู้ “ว่าแต่เกรตรู้ได้ไงว่าเราออกจากงานแล้ว”
   
               เกรตมีอาการกระตุกเล็กน้อย เสมองไปข้างหน้า ยกมือขึ้นลูบท้ายทอย เหมือนพยายามหาคำแก้ตัว
   
               “ก็มันขึ้นหน้าเฟสไง เราเห็นภูมิโพสต์หน้าเฟสน่ะ ก็เลยรู้ว่านายลาออกแล้ว”
   
               ก็จริงของเขา ผมโพสต์จริงๆ ว่าออกงานแล้ว
   
               “แล้วไงบ้างล่ะ งานเขียนน่ะ” ผมหรี่ตาอย่างสงสัย เกรตมีอาการเหมือนเดิมอีกครั้ง เรื่องที่ผมเขียนนิยายมีคนเพียงไม่กี่คนที่รู้ และถึงผมจะโพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ไม่ค่อยจะบอกชัดเจนนัก เว้นแต่เขาจะตามติดผม แทบทุกโพสต์ อ่านทุกคอมเมนต์ แล้วปะติดปะต่อเรื่องราวเอง
               “เฟสบุ๊กไง โธ่ เราก็รู้จากเฟสบุ๊กนายน่ะแหละ เดาๆ เอาน่ะ”
               “อ้อ” ผมตอบ แม้จะยังไม่ค่อยกระจ่าง แต่ก็ขี้เกียจจะซักต่อ “ตอนนี้ตันๆ อะ คิดพล็อตอะไรไม่ออกเลย เฮ่อ”
               “อืมๆ”
               “แต่อันที่จริง ได้มาแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อยู่กับคอมมานานๆ แล้วปวดหัวชะมัด แบบนี้รู้สึกโล่งดี บางทีอาจจะคิดอะไรออกบ้างก็ได้ บางทีน่ะนะ”
               “เหรอ ดีจังเน้อะ”
               “แล้วเกรตอะ เรื่องงานเป็นไงบ้าง”
               เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเซ็งๆ ก่อนจะพูดออกมา “น่าเบื่ออะ นี่เรากำลังจะหางานใหม่ ล่าสุดเจ้านายรู้แล้วด้วย และไม่รู้ว่าเหมือนแกล้งกันหรือยังไงนะ เอางานมากองให้เราเต็มเลย เซ็งชะมัด!”
               “เอาน่า เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น บางทีหางานใหม่แล้วอาจจะดีขึ้นก็ได้นะ เน้อะ สู้ๆ” ผมยิ้มให้เขาอย่างปลอบใจ
               เขายิ้มตอบกลับมา “ขอบใจนะ ได้ยินภูมิพูดแบบนี้แล้วมีกำลังใจเยอะ” เอาล่ะ ผมจะพยายามไม่สนใจ
               “แล้วได้บ้างยังอะ ที่กำลังหาน่ะ”
               “ยังอะ นี่กำลังคิดว่าออกมาหาอะไรทำเองดีมั้ย นี่ก็มีเพื่อนชวนไปเปิดร้านเบียร์คราฟต์อยู่นะ ก็น่าสนอยู่ แต่มันกำลังดูเรื่องกฎหมายอยู่ ไม่รู้ได้ความว่าไงแล้วบ้าง บางทีเราอาจจะไปลงทุนกับมันจริงๆ จังๆ ก็ได้ ดีเหมือนกันนะ เป็นนายตัวเอง”
               “เออ ดีไว้เปิดเมื่อไหร่ จะไปเป็นลูกค้าประจำนะ”
               “ฮ่าๆ ครับผมคุณลูกค้า” และเราก็หันไปสนใจน้ำตกตรงหน้ากันอีก แต่โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย เกรตก็ถามอะไรบางอย่างขึ้นมา
               “ภูมินายมีแฟนรึยังอะ ...คือแค่ถามดูน่ะ”









::TALK::
ไปจริงๆ แล้วครับ มาต่อให้นิดเดียวจริงๆ
ลองลุ้นกันพาร์ทดีกว่า ว่าเกรตถามไปทำไม
แล้วทำไมเกรตถึงซอกแซกเรื่องของภูมิได้ขนาดนั้น
รอกันนะๆๆๆๆๆ ><
.
แล้วเจอกันเย็นๆ ครับ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2018 14:57:18 โดย Phak »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
คิดเอาไว้ว่าใช่..ต้องใช่แน่ๆ #เรื่องของคนแอบรัก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Phak

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
-3-

● ● ● ●

               “ภูมินายมีแฟนรึยังอะ คือแค่ถามดูน่ะ”
               “ยัง” ผมตอบไป อยากจะเพิ่มเติมไปแบบเล่นๆ เหมือนกันว่า ก็รอนายอยู่นั่นแหละ แต่ใจก็ไม่กล้าพอ ผมแอบเห็นเขามีสีหน้าที่ดูดีใจ ก่อนจะพยายามซ่อนมันเอาไว้
               “นี่ เราถามอะไรอย่างสิ” ผมพูดออกไป
               “อะไรเหรอ”
               “ทำไมนายถึงเลิกกับแพรวเหรอ” เขาหุบยิ้มทันที แววตามีความเศร้าแฝงอยู่เล็กน้อย “ถ้าลำบากใจก็ไม่ต้องบอกก็ได้นะ เราไม่ได้อะไร”
               “เพราะเราไม่ได้รักกันแล้ว” ผมพูดอะไรไม่ถูกกับเหตุผลนั้น มันดูชัดเจนในตัวมันเองอยู่แล้ว “ไม่ใช่ว่าเราหมดรักกันไปเลยหรอกนะ แค่เราต่างคนต่างรู้สึกว่า เราไม่ได้รักกันเหมือนที่ผ่านๆ มา ไม่รู้ว่าเพราะเราอยู่ห่างกันเกินไป หรือเพราะจริงๆ แล้วในใจเรามีใครอีกคนอยู่”

               ผมชักเริ่มไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขาพูดจริงๆ แล้วถ้าชอบใครอยู่แล้ว แล้วคบกันทำไม

               “แพรวมีคนที่แอบชอบมาตลอด ตั้งแต่มหาลัยแล้ว แต่แพรวไม่กล้าจะเข้าหาคนนั้นเท่านั้นเอง ตอนแพรวตกลงเป็นแฟนกับเรา เราก็รู้นะว่าแพรวมีใครอีกคนอยู่ในใจ แต่แพรวก็ดีกับเราจริงๆ นะ แพรวพึ่งมากล้าบอกเราตรงๆ เมื่อปีก่อนนี่เอง เราก็เลยบอกแพรวไปตรงๆ เหมือนกันว่า จริงๆ เราก็มีคนที่แอบชอบอยู่”
               “ห้ะ” สรุปความสัมพันธ์ของสองคนนี้เป็นยังไงกันแน่ ผมงงไปหมด “โทษทีแต่เรางง ยังไงกันแน่”
               “ฮ่าๆ” ยังจะมีหน้ามาหัวเราะอีก! “จริงๆ ตอนนั้นมันก็เหมือนบอกเลิกกันกลายๆ แหละ แต่เรายังรักแพรวไง เราเลยยังไม่อยากปล่อยเธอไป พยายามทำดีกับเธอตั้งหลายอย่าง ซึ่งเธอก็ชอบนะ แต่ท้ายที่สุดก็รั้งไว้ไม่อยู่ว่ะ ฮ่าๆ”

               ผมแอบเห็นเขาตาแดงๆ เหมือนจะมีน้ำตาคลอ เกรตคงรักแพรวมากจริงๆ เพราะขนาดรู้ว่าแพรวชอบใครอีกคน
อยู่แล้ว ก็ยังจะพยายามรั้งเธอไว้ แต่เอ๊ะ เรื่องที่เกรตบอกว่ามีคนอื่นที่แอบชอบอยู่เหมือนกันล่ะ มันยังไงกัน

               “แล้วเรื่องที่เกรตแอบชอบคนอื่นอยู่อะ แพรวรับได้เหรอ”
               “จริงๆ เรากะประชดแพรวน่ะ แม้ว่าเราจะมีคนที่แอบชอบอยู่จริงๆ ก็ตาม แต่เชื่อปะ แพรวดันรับได้ และดีใจซะด้วย ท้ายที่สุด แพรวก็ใช้เหตุผลนี้มาขอเลิกกับเรา และเราก็ได้รู้ว่า เราคบกันด้วยความรู้สึกที่ไม่เท่ากัน แพรวไม่ได้แค่แอบชอบ แต่แพรวแอบรัก กับเรา แพรวแค่ชอบ มากกว่าเพื่อน… โคตรเจ็บเน้าะ แต่เราก็ปล่อยเขาไป แล้วก็ตั้งปณิธานกับตัวเองว่า หลังจากทำใจได้ เราจะเดินหน้าจีบคนนั้นอย่างเต็มที่ เอาให้เขาหลงไปเลย จะได้ไม่เป็นอย่างครั้งก่อนอีก อย่างน้อยๆ เราก็จะได้คบกับคนที่เราชอบตั้งแต่แรกจริงๆ”

               ผมแอบรู้สึกเจ็บขึ้นมาในใจไม่ได้ เขามีคนที่แอบชอบอยู่แล้ว และคงไม่ใช่ผม ผมก็คงเป็นได้แค่คนที่แอบชอบเขาข้างเดียวต่อไป
               ผมลุกขึ้นยืน กลืนก้อนจุกๆ ลงไปให้หมด สูดอากาศ และเก็บทุกความทรงจำในวันนี้ไปให้ได้มากที่สุด แล้วหันหลังเดินออกไป

               “กลับกันเหอะ เดี๋ยวจะมืด” ผมแค่หันไปยิ้มให้เขาเท่านั้น เขาดูมีสีหน้างงๆ แต่ผมก็ไม่ได้มองต่อ รีบออกเดินไปอย่างเร็ว
               “ภูมิเดี๋ยวดิ เป็นไรเปล่า”

               ผมเอาแต่เดินไปเรื่อยๆ พยายามทิ้งระยะให้ห่างจากเขามากที่สุด เพราะอยู่ๆ ผมก็รู้สึกร้อนที่ตา ภาพข้างหน้าดูมัวๆ น้ำใสๆ เออขึ้นมาที่ขอบตา ก่อนไหลอาบที่แก้ม
               ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงปฏิเสธใครต่อใครที่เขามา ทำไมผมถึงเอาแต่เลื่อนดูหน้าฟีดที่น่าเบื่อบนเฟสบุ๊ก เพราะมีโพสต์ของเขาอยู่ ตลอดเวลาเกือบห้าปี ที่ผมแอบชอบเขา ตลอดเวลาที่ผมเห็นแทบทุกกิจกรรมของเขาเท่าที่เขา อนุญาตให้เห็นบนโลกออนไลน์ หลายๆ ครั้งที่เราได้คุยกัน แม้จะเพียงเวลาสั้นๆ แต่มันดันทำให้ผม ….รักเขาไปแล้ว
               เรื่องราวของเขา มันคงไปกระตุ้นต่อมความรู้สึกของผม แสดงให้เห็นความเป็นจริง ที่ผมพยายามปฏิเสธมัน ว่าจริงๆ แล้วเราก็เป็นได้แค่คนที่เข้ามาส่อง แล้วก็จากไป….
               ผมรู้สึกถึงแรงที่บ่า ผมพยายามขืนไว้ “เป็นอะไรรึเปล่า เดินไวจัง”
               ผมสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ พยายามปรับน้ำเสียงให้ปกติที่สุด “เปล่า ขอเข้าห้องน้ำแป๊บนะ” ผมสลัดมือนั้นออกไป แล้วสาวเท้าไปที่ห้องน้ำอย่างไว ได้ยินเสียงเขาตะโกนไล่หลังมา
               “งั้นเราไปรอที่รถนะ”

               ผมไม่ได้ตอบไป ยังคงเดินตรงไปยังห้องน้ำ ผมมองหน้าตัวเองในกระจก …อีกครั้งที่ผมใช้มุกเข้าห้องน้ำมาเป็นข้ออ้าง ในการหลีกหนีจากสถานการณ์แบบนี้ น้ำตาที่เก็บกลั้นมาตลอด ไหลออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ ผมเม้มปากแน่น ยกมือขึ้นปิดปาก ไม่อยากให้เสียงสะอื้นมันดังลอดออกมาให้ใครได้ยิน แม้จะมีคนมาเที่ยวน้ำตกไม่มาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสที่จะมีใครเข้ามา
               ผมปล่อยให้ตัวเองได้ร้องไห้จนสุด ก่อนจะเปิดน้ำล้างหน้า ให้คราบน้ำตา และความผิดหวังเสียใจบนใบหน้าผมหายไปให้หมด ผมมองหน้าเปียกๆ ของตัวเองในกระจก แล้วบอกกับตัวเองในใจ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมเสียน้ำตา ให้มัน ผมจะตัดใจจากมัน ไม่ส่อง ไม่หวัง ปล่อยให้มันได้มีความรักกับคนที่มันแอบชอบ ผมจะคอยเป็นกำลังใจให้มันอยู่ห่างๆ ไม่เข้าไปยุ่งให้มากกว่านี้ เพราะอาจเป็นผมที่ทนไม่ได้ จนเผยความในใจออกมากับมันก็ได้
               ผมสูดหายใจเข้าเต็มปอด สำรวจดูตัวเองอีกรอบว่า ไม่มีอะไรจะทำให้มันรู้ว่าผมเป็นอะไร ยิ้มให้กับตัวเองในกระจก เป็นการให้กำลังใจตัวเอง ก่อนต้องไปเผชิญหน้ากับมันอีกครั้ง…
               “โอเค สู้ๆ เฮ!” เฮ่อ ดูเหมือนผมจะอกหักจนเพี้ยนไปแล้ว



               ผมเดินกลับมาที่รถ เกรตยืนหน้านิ่งกอดพิงรถอยู่ ผมส่งยิ้มให้มัน แต่ดูมันไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบกลับมาเลย ผมชักใจเสียแล้วสิ ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้มันไม่พอใจรึเปล่า หรือผมทำให้มันรอนานเกินไป คงไม่มั้ง....
               ผมหยุดยืนตรงหน้ามัน ส่งยิ้มแบบสดใสอย่างเต็มที่ให้มัน แต่มันกลับขมวดคิ้วมาให้ผม

               “เป็นไรครับ ทำไมทำหน้าอย่างงั้น”
               “ภูมิเป็นอะไรทำไมไม่บอกเรา”
               ผมทำหน้ามึน “เป็นไร เราไม่เป็นอะไรสักหน่อย ดูดิสบายดี” ผมส่งยิ้มกว้างให้มัน
               “สบายดีแล้วทำไมร้องไห้ล่ะ” ผมหุบยิ้มลงทันที ทำไมมันถึงรู้ว่าผมร้องไห้ล่ะ! หรือหน้ามันยังฟ้องอยู่ ผมเลยรีบหันหน้าหนีทันที
               “เปล่าสักหน่อย ร้องไห้ไรล่ะ เมื่อกี้เราปวดขี้เหอะ เลยนานไปหน่อย กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวดึก” ผมว่าแล้วกำลัง
จะเดินเปิดอีกด้านของรถ แต่คำพูดของเกรตก็หยุดผมไว้
               “เราไม่ได้โง่นะภูมิ เรารู้ตั้งแต่ภูมิบอกจะเข้าห้องน้ำแล้ว แล้วเราก็เห็นภูมิร้องไห้ในห้องน้ำ” ผมยังเงียบ “ภูมิเป็นอะไรทำไมไม่บอกเราอะ เรามาด้วยกันนะเว้ย มีอะไรก็พูดกันได้นะ หรือว่าเป็นเพราะเรา”

               ผมสะอึก น้ำตาที่หายไปแล้ว เหมือนมันกำลังมาอีกครั้ง ผมพยายามกลั้นอย่างที่สุด ก่อนหันไปยิ้มให้มัน

               “เปล่าสักหน่อย ไม่เกี่ยวกับเกรตหรอก เราแค่ฟังเรื่องเกรตแล้วเรานึกถึงเรื่องของเราน่ะ มันเลยเศร้าๆ นิดหน่อย” เกรตยังคงไม่เชื่อ ผมยกมือขึ้นขยี้หัวเขาแรงๆ “คิดมากน่า ไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรสิ กลับเหอะ”

               เขายังคงมองผมนิ่ง ไม่รู้ว่าในหัวเขาคิดอะไรอยู่ แต่ตอนนี้สีหน้าเขาเหมือนมีความลังเลอะไรบางอย่าง ผมเลยหันหลัง เตรียมเดินไปอีกฝั่งอีกครั้งแต่เสียงเขาก็หยุดผมไว้อีกครั้งเช่นกัน

               “เราชอบภูมิ” ผมค่อยๆ หันกลับไปหาเขาอย่างไม่เชื่อหู “คนที่เราแอบชอบ คือภูมิ ตั้งแต่มอปลายแล้ว จนมหาลัย”
               “เกรต ไม่ตลกนะเว้ย”
               “เราพูดจริงๆ ตอนนั้นเราไม่กล้า แล้วตอนที่เราเจอกันตอนปีสาม เราก็พึ่งคบกับแพรว แล้วเราก็กลัวว่านายคงมีแฟนแล้ว เพราะนายดูมีคนเข้ามาเยอะ ก็เลยพยายามตัดใจ”
               “ไม่อ่ะ ไม่จริง”
               “จริงๆ นะ …สามสี่เดือนที่เราคุยกันไง ถ้ามันพอจะพิสูจน์อะไรได้บ้างนะ”
               “แต่นายยังคบกับแพรวอยู่ แล้วเราก็คุยกันแค่นิดๆ หน่อยเอง”
               “จริงๆ ความสัมพันธ์ของเรากับแพรวมันจางลงตั้งเกือบปีแล้ว ตอนที่เราคุยกันบ่อยๆ แพรวก็เจอคนนั้นของเขาแล้ว เราทำใจไว้แล้ว ถึงคิดจะคุยกับภูมิจริงจังไง แต่ก็ไม่รู้จะคุยอะไรอยู่ดี”
               “นายก็ยังคงรักแพรวอยู่ใช่มั้ย” ผมยังคงไม่เชื่ออยู่ดี ว่าเขาจะชอบผมจริงๆ เขามีแววตาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย
               “เราไม่ปฏิเสธนะ ว่าเรายังมีความรู้สึกดีๆ ให้แพรวอยู่ แต่จนตอนนี้ มันคงเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้นแหละ ส่วนภูมิ” เขาดึงตัวผมเข้าไปหาเขา “ภูมิคือคนที่เราไม่เคยลืม คนที่เรายังชอบอยู่ และมากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ ภูมิคือคนที่เราไม่อยากปล่อยไปอีกแล้ว จริงๆ นะ”

               แววตาของเกรตดูมีความจริงจัง และจริงใจอยู่ในนั้น จนผมแทบจะเชื่อทุกคำที่เขาพูดมา แต่พอนึกถึงตลอดวันนี้ ที่เขาแสดงออก มันก็คงยืนยันคำพูดเขาได้พอสมควร แต่ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าเขาชอบผมจริงๆ ไม่ใช่แค่คิดจะจีบผม เพราะเหงา...

               “เราจะแน่ใจได้ยังไง ว่านายชอบเราจริง ไม่ใช่แค่เหงา และเราเข้ามาพอดี”
               เขายิ้มกว้างดึงผมเข้าไปกอด “ภูมิไม่ได้เข้ามาพอดี แต่ภูมิอยู่ในนี้ตลอด” เขาจับมือผมทาบไปที่หน้าอกของเขาที่ เต้นแรงไม่แพ้ผม ...แต่มุกนี้ก็ออกจะน้ำเน่าไปหน่อยนะ
               “ภูมิยังไม่ต้องเชื่อเราตอนนี้ก็ได้ แต่เราจะจีบภูมิ จนภูมิหลงเราเลยคอยดู” เขากำลังโน้มหน้ามาใกล้ๆ แต่ผมดันตัวเขาออก แล้วถอยห่างออกมาเล็กน้อย

               สมองผมประมวลทุกอย่างรวดเร็ว แล้วก็พบว่า ควรใช้ใจในการตอบเรื่องนี้ ผมมองหน้าเขายิ้มๆ ก่อนรวบรวมความกล้าพูดออกไป

               “จีบอะไรล่ะ รอมาตั้งนาน จนจะสามสิบอยู่แล้ว แบบนี้ก็คบเลยเหอะ จะได้ไม่เสียเวลา”

               เขาเบิกตาโพลง ยิ้มกว้าง ไม่รู้ว่าดีใจ หรือมีอะไรอยู่ข้างหลังผมกันแน่ เขาคว้าผมเข้าไปจูบอย่างไม่ทันตั้งตัว แม้จะรู้สึกดี แต่ก็กลัวว่าจะมีใครมาเห็น ผมจึงรีบผละออกจากเขาอย่างรวดเร็ว

               “เชี่ย อายเขาบ้างมั้ยเนี่ย” หน้าผมร้อนผ่าวไปทั้งหน้า ไม่กล้าหันไปมองทางอื่นว่ามีใครมองอยู่บ้าง
               “ใครสน!” ดูมัน! อะไรจะหน้าด้านได้ขนาดนี้ “แค่ได้ยินแบบนี้เราก็ดีใจแล้ว เราคิดว่าภูมิไม่ได้ชอบเราซะอีก คิดว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
               “ก็มีสิ ชอบมาตั้งนานแล้วด้วย” เกรตหุบยิ้มทันที หน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด “แต่แม่งไม่กล้า”
               “ภูมิ หมายความว่าไง ภูมิชอบใคร” เขาเสียงสั่นๆ สีหน้าสลด จนผมอดสงสารไม่ได้ โธ่เอ้ย! ประโยคก่อนหน้า นี่มันได้ยินมั้ยนะ ก็บอกว่า ‘รอมาตั้งนานแล้ว’ ไง
               “เกรตไง รู้จักมั้ยล่ะ” ดูเหมือนมันยังประมวลผลอยู่อีกสักพัก ก่อนยิ้มกว้างออกมา แล้วพุ่งตัวเข้ามาหาผม แต่ผมกันมันไว้ได้ก่อน เพราะรู้ว่ามันจะทำอะไร
               “แกล้งเราเหรอ ห้ะ”
               “ใครให้โง่ ก็บอกอยู่ว่ารอมาตั้งนาน ไม่รู้เรื่องไง”
               “โอเคๆ ได้” แล้วมันก็พยายามจะจูบผมให้ได้อยู่นั่นแหละ แต่มีเหรอผมจะยอม

               ผมพยายามใช้แรงทั้งหมดปลุกปล้ำกับมัน จนสุดท้ายมันหลุดออกจากผม แล้วผมก็รีบเดินอ้อมไปอีกด้านของรถทันที

               “เปิดรถ จะกลับบ้านแล้ว” มันยังทำหน้ากวนตีนใส่ผมอยู่
               “ไม่เปิด”
               “จะกลับบ้าน เปิดเร็วๆ”
               “ไปกินข้าวกับเรา แล้วเราจะเปิดรถ”
               “จะกินที่นี่รึไง เห็นมั้ยเนี่ยว่ามีร้านข้าวมั้ย”
               “ครับๆ เปิดก็เปิด แต่เดี๋ยว” อะไรของมันอีก กูอายยยยยยยย!
               “สรุปว่า เราเป็นแฟนกันแล้วใช่มั้ย ภูมิชอบเราใช่มั้ย” โอ๊ยยยย ไองัว! ยังจะเซ้าซี้อะไรอีก ผมว่าที่แพรวเลิกกับมันคงเป็นเพราะมันช่างซักไม่เลิกนี่แหละ
               “ไม่รู้โว้ย คิดเอาเองดิ”

               มันหัวเราะก่อนกดเปิดประตูรถให้ ไม่วายพอเข้ามานั่งข้างใน มันยังยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มผมได้อีก เอากับมันสิ!    เฮ่อออ มันไม่เคยมีแฟนรึไงนะ แต่แบบนี้ก็เท่ากับว่า ผมเองก็มีแฟนแล้วสินะ! แฟนคนแรกของผมก็คือคนที่ผมแอบชอบ อะไรจะโชคดีปานนี้ รู้สึกดีที่ผมตัดบทไม่จีบ แต่คบไปเลย ก็ในเมื่อเรามีความรู้สึกตรงกันแล้ว แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่ามันชอบผมแค่ไหน แต่รู้แค่ว่าคนที่มันแอบชอบคือผม และมันก็กล้าบอกชอบกับผม แค่นี้ก็คงพอแล้ว ที่เหลือก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตไปแล้วกัน ไปคิดอะไรมากก็ปวดหัวเปล่าๆ
               ผมนั่งพิงเบาะรถอย่างอารมณ์ดี เพลงเพราะๆ กับบรรยากาศดีๆ สองข้างทาง และแฟนคนแรกที่กำลังยิ้มแป้นเป็นคนบ้า นั่งขับรถอยู่ข้างๆ

               “ยิ้มอะไรนักหนาวะ ไม่เคยมีแฟนไง” ผมถามมันออกไป
               “แฟนน่ะเคยมี แต่ไม่เคยได้เพื่อนเป็นแฟน”
               “เพื่อนไรล่ะ แทบไม่ได้คุยกันจริงๆ จังๆ มะ ก่อนหน้านี้” มันไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่หัวเราะน้อยๆ เท่านั้น ผมมองไปข้าง บนถนนที่คดเคี้ยว ทอดยาวกลับสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ แล้วผมก็นึกได้ว่ามันเป็นการเดินทางกลับที่ให้ความรู้สึกต่างจากตอนมาโดยสิ้นเชิง เพราะผมกลับไปด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความยินดี ไม่ใช่ความอึดอัด

               “นี่” ผมพูดขณะยังมองไปข้างหน้า “รู้ปะ ว่าเกรตเป็นแฟนคนแรกของเราเลยนะ”

               เสียงเบรกดังขึ้นอย่างทันที ตัวผมแทบพุ่งไปข้างหน้า ดีว่าผมคาดเข็มขัดไว้ ผมหันไปมองข้างหลังเพื่อดูว่าไม่มีรถตามมา จนอาจชนเรากระเด็นไปไกล

               “เชี่ย! ทำเหี้ยไรเนี่ยเบรกทำไม” มันหันมองผมด้วยหน้าตาตื่นเต้น
               “ภูมิไม่เคยมีแฟนเลยเหรอ เราเป็นคนแรกเหรอ”
               “เออดิ ไปได้แล้วเดี๋ยวเขาด่าเอา”
               “จริงๆ หรอ” มันยังคงไม่ออกรถ
               “เออ จริงๆ ไปๆ” มันเริ่มเคลื่อนรถไปข้างหน้า แต่หน้าตามันยังเหมือนเจอเงินสิบล้านหล่นอยู่ตรงหน้าอยู่ “เล่นอะไรบ้าๆ วะ ดีไม่มีรถตามมา ไม่งั้นแม่งได้มีแฟนคนแรก พร้อมตายครั้งแรกด้วยเนี่ย เฮ่อ” ผมถอนหายใจออกมายาวๆ แต่ดูเหมือนคนข้างๆ ผมมันจะยังไม่สำนึก และกับประโยคถัดมายิ่งย้ำได้ชัด

               “งั้นภูมิก็คงยังไม่เคยมีอะไรกับใครอะดิ” มันถามแล้วยิ้มหื่นๆ มาทางผม ผมขนลุกหน้าร้อนไปหมด แม่งมาถามอะไรเอาตอนนี้วะ

               “โอ๊ย! ขับรถไป!”
               “หึหึ” มันหัวเราะอย่างน่ากลัว แล้วขับรถต่อไปด้วยหน้าตาหื่นๆ

               อยู่ๆ ผมก็รู้สึกเสียวสันหลังว้าบขึ้นมา ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องเซ็กส์เลยจริงๆ นี่ผมต้องเป็นเมียมันเหรอ? ไม่ๆ ผมต้องหาทางรุกมันก่อน ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งคิดจะมีอะไรกันขึ้นมา โอเคๆ เอาว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาก็ช่างมันไปก่อน แต่ดูจากหน้ามันคิดว่าคงเร็วๆ นี้แน่ๆ นี่ผมกำลังคบกับคนขี้หื่นอยู่รึเปล่าเนี่ย ม่ายยยยย!

               อ้อ แต่สุดท้ายทริปนี้ก็ทำให้ผมได้พล็อตเรื่องขึ้นมาจริงๆ นะ แล้วหน้ากระดาษบนโปรแกรมเวิร์ดของผม ก็คงไม่ว่างเปล่าอีกต่อไป รวมไปถึงที่ว่างข้างๆ กายของผมด้วย!

-จบ-










::TALK::
จบแล้วคร้าบบบบบบ ><
บอกแล้วว่าสั้นมากๆๆๆ แต่ที่แบ่งเป็นพาร์ท ก็เพราะว่าตอนลงพาร์ทแรกเราง่วงมากๆ
ไม่สามารถลงต่อได้จริง บวกกับจำนวนหน้าใน pages แม้จะมี 10 หน้า แต่ถ้าลงตู้มเดียวในนี้
ก็น่าจะยาวน่าดู เลยแบ่งเป็นพาร์ทเอาดีกว่าครับ
.
เอาเป็นว่าก็จบลงไปแล้วกับเรื่องราวสั้นๆ ของเกรตภูมิ
คิดเห็นกันยังไง สนุกไม่สนุก มีติดขัดตรงไหน ก็แนะนำติชมกันเข้ามาได้เลยครับ ><

และท้ายที่สุดนี้ ก็ขอฝากเพจของผมไว้ในอ้อมอกอ้อมใจกันด้วยนะครับ
จะได้มาตามกันได้ถูกนะครับ ><

FACEBOOK: https://www.facebook.com/pkplfullstop/
.
ขอบคุณ และสวัสดีครับ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ขอตอนพิเศษค่ะ  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ขออีกๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด