..................................................................................
“ตัว.....” แมทที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงเรียกให้ผมให้ไปหาก่อนตบเตียงข้างๆ ตัวเอง ‘ปุๆ’
“.............” ผมเฉย อ่านพลอยแกมเพชรต่อไป
“ตัว........” แมทเรียกผมและตบเตียงอีกแต่ดังกว่าเมื่อกี้ครับ
“............” ก็คนมันกำลังอ่านบทความเรื่อง ‘ที่บ้านย่า’ ค้างอยู่นี่หว่า
“ตัว..........” คราวนี้แมทลากเสียงยาวขึ้น ผมหันไปมอง มันก็ตบเตียง ‘ปุๆ’ แล้วพยักหน้าหม่อยๆ ของมัน “ตกลงจะไม่ขึ้นมาดีๆ ใช้ไหม?” แมทมันลุกขึ้นก้าวขายาวๆ มาหาผม “ไม่ต้องอ่านแล้วได้เวลาทำงานแล้ว”
“แว้ก! อะไรกันนี้คนกำลังอ่านหนังสืออยู่นะ” แมทมันจับผมโยนโครมไปบนที่นอน “โอ้ย! เจ็บนะโว้ย!!”
“ดี! เจ็บแล้วจะได้จำเอาไว้ว่าถ้าผัวเรียกให้รีบๆ มาหา นี่แน่ะ”
แมทก้มลงกดมือสองข้างผมไว้เหนือหัวแล้วก้มลงดูดเม้มแรงๆ ที่กลางแผงอกผมซึ่งลายพร้อยเพราะรอยแดงที่แมทมันเป็นคนทำทั้งนั้น
“พอแล้วๆ เค้ายอมแพ้แล้ว พอแล้วตัวอย่าดูดอีกสิ เค้าจะกลับพรุ่งนี้แล้วนะเดี๋ยวคนอื่นเห็น”
“เห็นสิดี มันจะได้รู้ว่าตัวมีเจ้าของแล้ว”
“อ้ากกกกกกกกกกกก! ไอ้บ้า กัดทำไมเนี้ย” แมทมันกัดลงตรงซอกคอผมครับ
“กัดให้รอยนะสิถามได้ แต่ไม่เอาดีกว่า...สงสารใครบ้างคนแค่นี้มันคงช้ำใจตายแล้ว” แมทมันพาดพิงคนอื่นครับ
คืองี้ครับ...ที่กรุงเทพฯนั้นผมพักอยู่ห้องเดียวกับแฟนเก่าครับ อิอิ
คือจะเล่าว่าไงดีหละ...คือว่าเมื่อก่อนผมเคยมีแฟนมาคนนึง ผมรักเค้ามาก ทำให้ทุกอย่าง ยอมทุกอย่าง เชื่อไหมว่าตอนนั้นทั้งเขาผมเองก็ยังเรียนอยู่...ทางบ้านส่งเงินมาให้ผมใช้จำกัด ผมต้องจ่ายค่าห้อง ค่าน้ำค่าไฟ ค่ากินอยู่สารพัดอยู่คนเดียว เขาคนนั้นไม่เคยช่วยในเรื่องนี้ผมเลย ผมต้องประหยัดอย่างมาก ต้องนั่งเฉพาะรถเมลล์แดงไปมหาลัยเพราะมันถูกกว่ารถยูโรฯมาก ผมต้องซักเสื้อผ้าทั้งของตัวเองและของเขาด้วยมือเพราะไม่อยากลงไปหยอดเหรียญซักครั้งละยี่สิบบาท
เขาอยากดูหนังหรือไปเที่ยวกลางคืน....ผมจ่าย เขาอยากกินโออิชิ....ผมต้องยอมลดค่าอาหารในส่วนกลางวันของตัวเองเพื่อพาเขาไปกิน แต่ก็นานๆ ครั้งหรอกครับเพราะว่าผมไม่มีตังค์ บางวันเค้าไม่มีเงินไปมหาลัยเพราะเงินที่ทางบ้านส่งมาให้...เขาใช้มันหมด ผมต้องแอบสอดเงินตัวเองเข้าไปในกระเป๋าตังค์ของเขาทั้งๆ ที่ตัวเองก็ต้องบังคับตัวเองให้จ่ายวันละร้อยห้าสิบเพื่อให้มีเงินเหลือพอถึงตอนสิ้นเดือน
เวลาที่เขาต้องนั่งทำงานส่งอาจารย์ดึกๆ ก็มีผมนี่ล่ะครับที่อยู่ช่วยจนฟุบหลับคากองเศษวัสดุพวกนั้นอยู่เสมอ แต่ไม่เคยมีคำขอบคุณออกจากปากของเขาเลย ไม่รู้ว่าผมทนอยู่อย่างนั้นไปได้อย่างไรตั้งนานหลายปี จนสุดท้ายผมกับไปที่บ้านต่างจังหวัด....วันนึงก็มีเบอร์ที่ผมไม่รู้จักโทรมาหาผมตอนสายๆ
“หวัดดีครับ ขอสายพี่นุหน่อยครับ” เป็นเสียงผู้ชายเด็กๆ โทรมาหาผมครับ
“ครับผมกำลังพูดครับ นั้นใครครับ?”
“ผมเรียวครับ เป็นแฟนวุฒิครับ”
“ระ...เหรอ.....?” แฟนเก่าผมชื่อวุฒิครับ “แล้วโทรมาทำไมครับ?”
“โทรมาเพื่อจะบอกพี่ว่าเลิกกับพี่วุฒิเขาซะ แล้วต่อไปนี้ห้ามยุ่งเกี่ยวกับพี่เขาอีก”
“เอ่อ...แล้วน้องเป็นใคร? รู้จักวุฒิเขามานานแล้วหรอ? ผมถามในเรื่องเดิมอีกเพราะมัวแต่ตกใจกับประโยคเมื่อกี้ เชื่อไหมว่า?...ผมว่าใจผมหยุดเต้นไปแว่บนึง! จริงๆนะ
“ก็บอกแล้วไงว่าเป็นแฟนพี่วุฒิ เป็นคนที่พี่วุฒิรักมากที่สุด เรียวรู้จักกะพี่วุฒิมานานแล้วหลังที่พี่เจอพี่วุฒิได้ไม่นานหรอก พี่รู้ไหมห้องนอนพี่วุฒิที่พี่เคยมานอนค้างนะ...ผมก็ไปนอนทับรอยพี่มาแล้วนะ ผมมี sex กะพี่วุฒิตั้งหลายครั้งในห้องนั้น พี่วุฒิเขาเอาเก่งนะพี่ว่าไหม? ผมละชอบมากๆ เลย มันส์สุดยอดเดี๋ยวเปลี่ยนท่านั้นเดี๋ยวเปลี่ยนท่านี่ แต่ท่าที่พี่เขาชอบมากที่สุดคือท่าขอบเตียงแต่พี่เขาก็ชอบให้ผมนั่งเทียนชอบให้ผมดูดให้”
“หรอ?” แปลกนะตอนนั้นผมไม่ร้องไห้
“ใช่! แล้วพี่รู้ปะ?...ตอนนั้นที่พี่โทรไปหาพี่วุฒิแล้วเขาบอกว่านั่งกินข้าวต้มที่ซอยหงส์อยู่คนเดียวนะ ความจริงผมนั่งอยู่ข้างๆ พี่วุฒิเองแหละ” ใช่ครับผมเคยโทรไปหาวุฒิจริงๆ ตอนนั้น “พี่วุฒิเขายังบ่นๆ อีกว่าพี่น่ะงก กะอีแค่ไปกินโออิชิหรือดูหนังพี่ก็บ่นสามวันแปดวัน” ใช่ผมทำอย่างนั้นจริงๆ “พี่เขาเบื่อพี่จะแย่อยู่แล้วนะ ผมว่าพี่น่ะออกไปจากชีวิตพี่วุฒิได้แล้ว ออกไปเหอะ”
“ระ...หรอ?”
“ต่อไปนี้ผมจะดูแลพี่วุฒิเอง พี่เขาเบื่อที่จะต้องทนอยู่กับคนหน้าตาแย่ๆ อย่างพี่แล้วก็ห้องสับปะรังเคเล็กเท่ารูหนูของพี่เต็มทนแล้ว”
“อะ....อืม แล้วพี่จะถามวุฒิเองนะ ขอบใจน้องมากที่โทรมาบอก”
ผมวางสายไปด้วยอาการงงๆ สมองผมเหมือนมันไม่ทำงานไปแล้วอะครับ คิดไรไม่ออกมันว่างเปล่าขาวไปหมด อกผมเริ่มแน่นเหมือนจะหายใจไม่ออกอีกแล้วในตอนนั้น ใจผมเต้นรัวไม่เป็นส่ำจะบอกว่าเจ็บจี๊ดๆ ในใจหรือเปล่า ผมก็ตอบไม่ได้ ผมรู้สึกเพียงแต่ว่าผมปวดหัวตึ้บเหมือนสมองข้างในมันเต้นตุบๆ ตุบๆ แล้วก็แน่นหน้าอกหายใจไม่ออกจนต้องทรุดลงนั่งกะพื้น ผมกดโทรศัพท์หาวุฒิทันทีเมื่อผมตั้งสติได้
“วุฒิเหรอ? เราเลิกกันเหอะ”
ผมพูดเท่านี้แล้วก็ว่างสายไปทันที ไม่รอฟังว่าวุฒิจะว่ายังไงบ้าง แต่วุฒิมันก็โทรฯกลับเข้าเครื่องผมมาอยู่อีกหลายครั้ง...ผมไม่รับสายแล้วก็ปิดเครื่องไปเลยครับ ปิดไปตลอดเวลาตอนที่ผมอยู่ที่บ้านเลย ผมยังจำได้แม่นมาก...ตอนนั้นเป็นหน้าฝน ผมสามารถมองเห็นภูเขาได้อย่างชัดเจนจากดาดฟ้าบนบ้าน ฝนเพิ่งหยุดตกไปใหม่ๆ หมอกยังลอยต่ำเรี่ยยอดเขา ผมนั่งดูภาพนั้นไปแล้วก็นั่งร้องไห้โยกและกอดตัวเองอยู่คนเดียวบนดาดฟ้า มาถึงตอนนี้พอนึกย้อนกลับไปก็ตลกตัวเองดีเหมือนกัน...ก็อยากไปรักเขาเองนิ อยากไปทำสิ่งต่างๆ ให้เขาเองด้วยที่เขาก็ไม่ได้ออกปากขอร้อง อย่างนี้เรียกว่า...เสือกไปเอง...หรือเปล่าครับ?
พอผมกลับมาถึงกรุงเทพฯ ผมเจอวุฒิรอผมอยู่ที่ห้อง ผมไม่พูดจาทักทายวุฒิเลยสักคำแต่เดินเลยเข้าไปในห้องจัดการรื้อค้นเสื้อผ้าข้าวของทุกอย่างของวุฒิออกมากองที่กลางห้อง วุฒิมันยืนมองผมเฉย พอผมรื้อจนเหนื่อยมันก็เดินเข้ามากอดผมไว้แน่น
“ปล่อย บอกว่าให้ปล่อยไง?” ผมบอกมันเสียงเรียบ ผมไม่ขัดขืนไม่ดิ้นรนแต่ยืนนิ่งๆ อยู่ให้มันกอด
“นุ...วุฒิขอโทษ วุฒิไม่ได้คิดอะไรกับเด็กคนนั้นนะ วุฒิรักนุ”
“หึ! รักหรอ? พอเหอะ ป่านนี้น้องเขาคงรอวุฒิอยู่ วุฒิรีบไปหาเขาเถอะ”
“ใช่! เรียวมันรอวุฒิอยู่” ผมหันไปจ้องหน้ามัน “แต่มันต้องรอนุด้วย วุฒิสั่งให้มันรอเราสองคน”
“รอนุ? รอเพื่ออะไร นุไม่อยากเจอหน้ามันนักหรอกนะ พอเถอะวุฒิให้มันจบๆ กันไป นุไม่อยากคิดหรือพูดหรือทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ พอที...จบเรื่องของเรากันเสียที นุให้สิ่งที่วุฒิต้องการไม่ได้หรอก วุฒิไปหาเอาจากคนอื่นดีกว่า”
“แต่....”
“ไม่ต้องแต่หรอกวุฒิ เราอยู่กันมาหลายปี...สามปีได้แล้วมั่งเนอะ อย่าให้ความสัมพันธ์สามปีนี้มันหายไปเลยเหลือไว้แค่ความเป็นเพื่อนดีกว่า” ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมพูดออกไปอย่างนั้น แต่มันก็จริงนะ...จริงอยู่ผมโกรธวุฒิมาก แต่ผมก็รักของผมมากเหมือนกัน ชีวิตผมมีวุฒิเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งจนถ้ามันขาดหายไปผมก็คงเคว้งเหมือนกัน
ผมเข้าใจในตัววุฒิด้วยนะผมว่า...ในเมื่อผมให้ในสิ่งที่วุฒิต้องการไม่ได้ ของแบรนด์เนม กินข้าวในร้านบนห้าง เงินทอง พาไปดูหนังหรือเที่ยวเธคเที่ยวบาร์ วุฒิก็ต้องไปหาจากที่อื่นในเมื่อคนเราทุกคนมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเอง และสิ่งที่ผมให้วุฒิมันก็ไม่ได้ดีเด่นอะไรมาก ก็แค่คอยเอาใจใส่เรื่องกินข้าวกินปลา คอยปลุกให้ไปเรียนและเคี่ยวเข็ญมาตลอดจนเกือบจะเรียนจบอยู่แล้ว ข้าวข้างทานคงไม่ถูกใจวุฒิมากนัก ซักรีดเสื้อผ้าหรอ?...จ้างคนอื่นทำก็ได้ถ้ามีเงินเสียอย่าง ข้าวของเครื่องใช้ก็แค่ของพื้นๆ ที่บางทีก็มาจากตลาดนัดในวัดท้ายซอย คนอื่นเขามีรถรับส่งมีเตียงนอนกว้างๆ ให้วุฒิมันนอน ส่วนผม...ไม่มี ไม่มีเลย
“งั้นวุฒิขอฝากเก็บข้าวของไว้ที่นี่ก่อนได้ไหม? วุฒิจะได้มาที่นี่บ่อยๆ นะนุ อย่าเพิ่งให้วุฒิเก็บข้าวของออกไปจากห้องวันนี้เลย”
“อืม...ได้! แต่วุฒิเก็บเองแล้วกัน นุจะออกไปข้างนอก หวังว่ากลับมาคงไม่เจอวุฒิในห้องนี้อีก”
“นุ....” วุฒิมันเรียกผมเสียงยาว “อะไรกัน? วุฒิจะกลับมานอนที่นี่อีกไม่ได้หรอ”
“อย่าเลยวุฒิ ตอนนี้นุยังไม่ไหวจริงๆ รอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนเถอะแล้วค่อยว่ากัน”
“อืมๆ “
วุฒิลงมือเก็บข้าวของที่ผมรื้อออกมาโยนกองเอาไว้กลางห้อง ส่วนผมก็เปิดประตูเดินออกมายืนสับสนอยู่ปากซอย ผมไม่รู้จะไปไหนดีจริงๆ ในตอนนั้น ผมโทรไปหาโอ้มัน
“แกอยู่ไหนวะ? ชั้นอยากจะไปหาแก”
“ชั้นอยู่ที่มหาลัยกำลังเดินกลับห้อง เออๆ แกมาก็ดีแล้วชั้นมีเรื่องจะบอกแก ตกลงเจอกันที่ห้องนะ อืมๆ”
ผมวางสายหลังจากพูดกับโอ้อีกสองสามครับ ผมรู้จักกับโอ้มาตั้งแต่เรียนปีหนึ่งแล้วครับแต่เรียนคนละภาควิชากัน ตอนเรียนปีหนึ่งผมกับโอ้ไม่ค่อยถูกกันเพราะในวิชาที่โอ้เก่งผมจะไม่ถนัดเลยส่วนวิชาที่ผมได้ท้อปโอ้ก็แค่ผ่านๆ มีนครับ เลยเขม้นกันเล็กน้อย
พอผมเจอโอ้หลังจากไปนั่งรอที่พื้นหน้าห้องมันราวสิบนาที มันก็ถามผมใหญ่ว่าทำไมหน้าตาโทรมแบบนี้ ผมเลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมในช่วงสองสามวันมานี้ให้มันฟัง มันตบเข่าฉาดแล้วเอาน้ำมาให้ผมที่นั่งทำหน้าเมื่อยอยู่บนเตียงนอนในห้องมัน
“ชั้นว่าแล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้” โอ้เริ่มต้นประโยคเมื่อนั่งลงข้างๆ ผม “วันก่อนชั้นไปกินฟูจิที่สยามมา เห็นไอ้วุฒิเดินออกจากร้านกับใครก็ไม่รู้ มันไม่ทันเห็นชั้นเพราะชั้นนั่งรออยู่ตรงเก้าอี้หน้าร้าน แหม่! ผมเดินตัวงี้ติดกันแทบจะเป็นเดียวกันเลยแก น่าเกลียดมาก”
“อืม...คนนั้นแหละมั่งที่ชื่อเรียว”
“อ้อ! ตัวเล็กๆ ขาวๆ แก ท่าทางจะสาววะ”
“หรอ? ไม่รู้สิ ช่างมันเถอะ! เรื่องมันจบลงไปแล้ว”
“แล้วแกจะทำไงต่อไปนี้”
“ชั้นก็คงอยู่ตัวคนเดียวต่อไป ก็โดนหักอกแล้วนี้หว่า แต่คงฉลาดขึ้น...เพื่อนแกมีเขามาตั้งนานแต่ไม่ยักรู้ตัวเลยแหะ”
“เออนา! โง่ได้แต่อย่านาน แต่ความจริงไม่น่าโง่นะได้ท้อปวิชาชีวะนิ”
“อีเวร! ยังไม่เลิกพูดเรื่องนี้อีก ผ่านมาตั้งนานแล้ว”
“ใครจะลืมเรื่องที่ทำให้แกกับชั้นทะเลาะไม่พูดกันจนถึงตอนอยู่ปีสองล่ะ”
“เออๆ ตอนนี้ก็โสดแล้ว...ไปแรดดีกว่าแกคืนนี้”
“ดีมากเพื่อน ผู้ชายมีมากมายเกลื่อนถนนรอให้แกออกไปเกี่ยวมาใส่กระเป๋าอยู่นะโว้ย!”
“คงได้หรอกนะหน้าแบบนี้ หึ!”
....................................................