จบไม่สวยอยู่แล้ว ออกแนวเล่นให้มันจบๆไปอย่างแรงง
อาจจะเพราะสถานที่ไม่เอื้อ รีบเล่นรีบกลับบ้านห้างจะปิดล่ะมั้ง
ไม่กล้าอวดตัวว่าเป็นแฟนคลับมายาวนาน แต่ก็ยาวนานพอสมควร ประมาณเดือน ตค ปี 53 น่ะ
ตามทุกงานที่ขอนแก่น และงานใหญ่ๆที่กทม
รับรู้ได้อยู่แล้วว่างานไหนทำด้วยใจ งานไหนเอ่อ.. จะบอกว่าไม่ตั้งใจทำก็ไม่ได้ น้องคงตั้งใจในระดับหนึ่งแหล่ะ
แต่พูดตรงๆนะ มันสัมผัสได้เลยว่าอันไหนรีบๆอันไหนละเมียด
(เราสังเกตว่า งานที่กร่อยและจืดไร้การสื่อสารระหว่างกัน งานนั้นซินจะชอบนับเพลงโดยเผลอพูดไม่รู้ตัวว่านี่เป็นเพลงสุดดท้ายแล้วนะ เจอมาสองสามงานละ โดยเฉพาะช่วง Road show)
ไม่ได้ตั้งใจจะต่อว่าน้องนะคะ เพราะเรารักน้องเราถึงต้องพูดตรงไปตรงมานี่แหละ (ไม่งั้นจะไม่ไปดู อยู่ในช่วงจะส่งเล่มวิทยานิพนธ์ ต้องนั่งรถทัวร์ไปเช้ามืดกลับตอนดึกเพื่อไปเห็นหน้า)
ไอ้ครั้นจะไม่ให้เปรียบเทียบ ก็คงไม่ได้ เพราะงานอื่นๆก่อนหน้ามันเด่นหราในความทรงจำอยู่นะ
แม้แต่การรีเควสของแฟนๆ ก็ไม่มีอันไหนสมประสงค์สักอัน ต่อให้เป็นอันที่ไม่ยากมาก ไม่เกินคอนเซปเช่นอันที่เราขอก็เถอะ
(เล่นแบบอคูสติกกันสองคนไม่มีแบ็คอัพสักเพลงนึงหรือสองเพลง ซึ่งแต่ก่อนสองคนนี้ก็ทำบ่อยๆ)
ยังไม่รวมว่า ทุกงานใหญ่ชนิดเสียค่าบัตรเป็นพันขึ้นไป ซกล จะต้องโชว์พิเศษเช่นเล่นเพลงของวงอื่น รู้สึกงานนี้จะมีเพลงเดียวมั้งแถมต่อด้วยเพลงช้าแบบ ปรับอารมณ์กันไม่ทันอีก
เราไม่มีปัญหากับเพลงซกล. เรารักน้องอยากฟังเพลงน้องเป็นส่วนใหญ่น่ะแหละ แต่การคัฟเว่อร์เพลงอื่นก็เป็นสีสัน เอามาช่วยเสริมให้งานสนุกและมีรสชาติมากขึ้นได้ มันอยู่ที่จะใส่ใจหรือปล่าว
เหนือสิ่งอื่นใดคือ ระหว่างซินนัทแทบไม่มีการสื่อสารกัน (ไม่ได้มองเบบมุมมองสาววายนะ คือไม่ได้ต้องการเซอร์วิส) แต่อย่างน้อยมันควรมีการแสดงออกว่าพยายามแล้วในการประสานงานกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างพูดสคริปตัวเองสั้นๆ แล้วเน้นเล่นเพลงยาวเลย สรุปสั้นๆว่า คำว่า Live (ที่ขายบัตรในราคาแพงระดับนึง) มันควรเป็นมากกว่า การฟังซีดีแบบมีนักร้องนักดนตรีเล่นให้ดู แถมด้วยสคริปนิดหน่อยอ่ะ
งานนี้มีดีตรงที่พิธีกรนี่แหละ ที่เล่นมุกสดได้ฮาและน่ารักมาก แต่ถึงกระนั้นก็ยังเกือบไปไม่รอดตอนเล่นเกมส์แรกเพราะคาดจำนวนคนผิด เกมที่สองสนุกพอใช้ เกมที่หนึ่งชวนงงว่าเพื่ออะไร แถมซินนัทก็อยู่ในตำแหน่งลอยตัวร่วมกิจกรรมแบบห่างๆเหมือนเดิม
(ไม่เหมือนแฟนมีทครั้งก่อนๆที่ซินนัทออกแอคชั่นเล่มเกมด้วย ให้ความอบอุ่นสมกะคำว่าแฟนมีทเพราะได้เห็นเค้าทำอะไรที่แปลกๆไป)
เอาเป็นว่า สรุปได้ว่าถ้าไม่ได้รักได้หลงแบบหน้ามืดตามัวจริงๆ จะยอมรับได้ว่าเป็นโชว์ที่ไม่ค่อยสนุกเท่าไร มีดีพอแค่ได้เห็นหน้าพอบรรเทาความคิดถึง (ทำใครของขึ้นขออภัยเลยนะคะ เดี๋ยวล้มตัวลงนอนให้เหยียบ)
รอวันกลับมาของทั้งคู่ แต่ต้องเป็นสิ่งที่ทั้งคู่มีความสุขด้วยนะ ถ้าใครคนใดคนนึงไม่สุขและมองเห็นว่ามันไม่เวิร์คเท่าไร เราคนนึงแหละจะยอมตัดใจ ไม่อยากฝืนใจใครนิ