กฏเล้าประกาศ 22/9/2019 จะลบนิยายที่ไม่มาต่อจนจบทิ้งทั้งหมดเล้าเป็ดรณรงค์ ให้ใช้เรียกนักเขียน นักอ่านแทน ไรท์เตอร์ รีดเดอร์ เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของเว็บเรากันนะคะ
สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ
เสื้อกาวน์เก่าๆ......กับเราสองคนตอนที่ 100จดหมายถึงพระจันทร์ โดย หมอติ๊บฉลองครบ 100 ตอน แต่ดูจากต้นฉบับแล้วยังไม่ครึ่งเรื่องเลยยยยยังไงมาเป็นกำลังใจให้นักเขียนตัวน้อยของผมด้วยน่ะคับพอดีขอตอนนี้มาจากไดอารี่หมอตื๊บ ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าเขียนได้น่ารักมากกกมาติดตามกันเลยน่ะคับ อย่าลืมให้กำลังใจหมอติ๊บเขาด้วยล่ะกันนนนนจดหมายจากพระจันทร์สวัสดีดวงตะวันคืนนี้มีดาวเต็มฟ้าทอประกายภาระฉันจึงไม่มีมากมายพอมีเวลานั่งเขียนถึงเธออยู่สบายไหมตะวันเราไม่ค่อยได้เจอะกันเลยใช่ไหมทั้งทั้งที่ฟ้าเดียวกันเหมือนใกล้แต่เพราะภาระของเราต่างกันแม้จะไม่ได้พบเจอเธอก็รู้เสมอว่าเธออยู่ตรงไหนและฉันก็รู้ว่างานเธอหนักเพียงใดเธอต้องดูแลใครใครมากมายอยากบอกเธอว่าคิดถึงมีฉันซึ่งยังเป็นห่วงเสมอแม้ฉันไม่รู้เมื่อไหร่จะพบเธอแต่ฝันถึงเธอทุกคืนรู้ไว้พระจันทร์ดวงนี้รอพบเจอและคิดถึงเธอเหลือเกินสมัยเด็กๆย่าเคยนั่งตะบันหมากอยู่ที่ชานบ้านในตอนค่ำหลังจากเสร็จสิ้นจากอาหารค่ำป้ายังคงนั่งทำเครื่องจักสานเหมือนทุกคืน ซึ่งติ๊บก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วมันจะเป็นอะไรติ๊บยังคงนอนใกล้ๆกับย่าและนอนนับเดือนนับดาวไปตามประสาเด็กบ้านนอกห่างไกลแสงสีหรีดหริ่งเรไรที่ส่งเสียงระงมในตอนกลางคืน ราวกับบทเห่กล่อมที่ขับขานจากธรรมชาติบ้านเราจำได้ว่า.......ย่าเคยบอกกับติ๊บว่าถ้าคิดถึงพ่อก็ขอให้มองดูดวงจันทร์ เพราะบนดวงจันทร์มียายจันทร์ที่คอยตำข้าวอยู่ให้เห็นในทุกๆคืน คนที่อยู่บนดวงจันทร์ก็จะมีแต่คนขยันเพราะต้องมาตำข้าวในตอนค่ำมืดดึกดื่นอยู่ทุกคืนเลย พ่อแคนของกะติ๊บเป็นคนขยันเพราะฉะนั้นพ่อก็คงอยู่บนดวงจันทร์นั่นด้วยซินะ ว่าแต่ย่าจ๋า.........เมื่อไหร่หนอที่จะเป็นวันที่พ่อออกมาตำข้าวแทนยายจันทร์ ติ๊บจะได้เห็นพ่ออีกครั้งหนึ่งมั้ยนะนอกจากดวงจันทร์แห่งความขยันแล้ว ย่ายังบอกด้วยว่าถ้าคิดถึงแม่ก็ขอให้มองไปที่ดวงดาวเพราะดวงดาวมันสวย ใครๆก็อยากสวยเหมือนดวงดาว แม่มอญของกะติ๊บเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก แม่คงเป็นดาวดวงที่ส่องแสงสุกสกาวระยิบระยับดวงโตที่อยู่ทางทิศเหนือของบ้านเราเป็นแน่ แล้วถ้าติ๊บตะโกนเรียกไปแม่จะได้ยินติ๊บไหมนะ ติ๊บคิดถึงแม่จังเลย...........พ่ออยู่บนดวงจันทร์ แม่อยู่บนดวงดาวบางคืนหนูมองเห็นทั้งดวงจันทร์และดวงดาวอยู่บนฟากฟ้าในเวลาเดียวกันบางคืนหนูมองเห็นเพียงแค่ดวงจันทร์ที่ทอแสงสว่างไสวอยู่บนฟากฟ้าเพียงลำพังบางคืนหนูมองเห็นแสงระยิบระยับจากหมู่ดาวนับร้อยนับพันบนฟากฟ้าเหนือชายคาบ้านของเราและบางคืนที่หนูมองไม่เห็นทั้งดวงจันทร์ และดวงดาว มันมืดมิด วังเวงและทำให้หนูรู้สึกโดดเดี่ยวที่ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ มองลงมาเพื่อคุ้มครองดูแลหนูถ้าเป็นอย่างนั้น หนูคงจะเป็นดั่งดวงพระอาทิตย์ดวงกลมนั้นทอแสงอ่อนๆในตอนเช้า ดูเป็นเด็กน่าทะนุถนอม อ่อนโยน กร้าแกร่งและร้อนแรงในตอนกลางวัน ก่อนจะหมดแรงล้าในตอนเย็นรอการพักผ่อนแต่ในทุกวันที่ผ่านไป หนูยังคงเฝ้ารอการมาเยือนของดวงจันทร์กับดวงดาวเสมอบางทีเราอาจจะไม่ได้อยู่ใกล้กัน แต่เพราะว่าเราก็ยังคงรับรู้การมีอยู่ของกันและกันเสมอและนอกจากนี้ย่าก็ยังสอนเอาไว้ว่าไม่ว่าในคืนที่มืดมิดเพียงใด พระจันทร์และดวงดาวจะยังคงหน้าที่เดิมเสมอๆ หากแต่มีเพียงกลุ่มเมฆบดบังจึงทำให้หนูไม่สามารถมองเห็นได้ เหมือนกับที่พ่อและแม่คอยเฝ้ามองและดูแลหนู หนูอาจจะไม่ได้เห็นพ่อแม่ในวันนี้ แต่ว่าพ่อแม่ก็ยังคงรักและเฝ้ามองลงมายังหนูเสมอๆพ่อแม่ไม่ได้จากหนูไปไหน แต่พ่อแม่ยังอยู่กับกะติ๊บเสมอๆไม่ว่าเวลาใดย่าบอกว่าหนูมีคิ้วและดวงตาที่มีประกายเหมือนกับดวงดาวบนฟากฟ้าเช่นเดียวกับแม่ของหนูย่าบอกว่าหนูมีจมูกที่แหลมเชิดและปากกระจับแต่ก็ช่างพูดจาพาทีเหมือนพ่อตอนเด็กๆไม่มีผิดเห็นไหมว่า พ่อกับแม่ไม่ได้จากหนูไปไหนเลย พ่อกับแม่ยังอยู่ข้างๆหนูเสมอถ้าเป็นเช่นที่ย่าบอกจริงในตัวของหนูคงมีมากกว่าพ่อกับแม่แล้วละเพราะตอนนี้หนูรู้สึกว่าหนูมีเลือดนักสู้ เข้มแข็ง อดทนและไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาเหมือนกับที่ป้าเป็นไม่ต่างกันเลย ในขณะเดียวกันหนูก็มีความจริงใจและโอบอ้อมอารีให้แก่คนรอบข้างเหมือนที่ย่าเป็นอยู่เปี๊ยบเลย เพราะฉะนั้นไม่ว่าหนูจะอยู่ที่ใดในโลกใบนี้หนูก็จะมีพ่อ แม่ ป้า และย่า อยู่เป็นส่วนหนึ่งและคอยคุ้มครองให้ความรักความเอ็นดูแก่หนูอยู่ทุกที่ใช่มั้ยจ๊ะวันนี้หนูเลือกเขียนจดหมายถึงดวงจันทร์เพราะหนูอยากส่งจดหมายนี้ไปบอกกับพ่อว่า..... ไม่ว่าจะนานแค่ไหนที่หนูไม่มีโอกาสได้พบหน้าพ่อ แต่พ่อยังอยู่กับหนูเสมออยู่เป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของหนู อยู่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของหนู ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งเดียวที่หนูอยากรู้ตอนนี้คือ พ่อสุขสบายดีหรือไม่อย่างไรเท่านั้นเองตอนนี้ป้าทำงานหนักมาหลายปีแล้ว จนมีอาการปวดหลังปวดข้ออยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้หนูให้ป้าเลิกทำไร่ยาสูบแล้วน่ะป้าจึงหันมาปลูกข้าวโพดกับผักต่างๆไว้ไปขายที่ตลาดแทน เป็นงานเล็กๆน้อยๆที่ป้าทำได้ และหนูก็ไม่อยากขัดใจแกส่วนย่าตอนนี้ก็แก่มากแล้ว แต่ย่ายังทำงานบ้านทุกอย่างเหมือนเดิม บ่อยครั้งที่หนูโดนดุเพราะแอบไปนึ่งข้าวเหนียวแทนย่า แม้แต่หญ้าตรงหน้าบ้านย่าก็ยังไม่ให้มันมีโอกาสขึ้นมาแม้แต่ต้นเดียวเพราะย่าบอกว่าเดี๋ยวพวกงู พวกตะขาบจะมากัดหนูเอา บางทีหนูก็รู้สึกว่าย่ายังไม่แก่เลยส่วนลูกของพ่อเองยังเข้มแข็งและพร้อมจะปกป้องดูแลป้ากับย่าและทำหน้าที่หลานที่ดีเสมอแม้บางครั้งจะเหนื่อยล้ากับปัญหาที่พร้อมจะถาโถมเข้ามาให้เราเหนื่อยล้าอยู่เสมอแม้บางครั้งจะต้องเจอกับความกดดันมากมาย จากสิ่งต่างๆรอบตัวแม้บางครั้งจะรอนท้อกับการเผชิญสิ่งต่างๆที่โหดร้ายบนโลกใบนี้เพียงลำพังแม้บางครั้งจะเหนื่อยจนคิดจะถอดใจ เพราะคิดว่าก้าวต่อไปข้างหน้าไม่ไหวแล้วแต่กะติ๊บอยากบอกพ่อกับแม่ว่า ลูกยังอยู่ไหว ลูกยังอยู่ได้ ยังยิ้มได้ เพื่อรอสักวันที่เราทั้งสามคนจะมีโอกาสได้กลับมาพร้อมหน้ากันอีกครั้ง แต่ไม่ว่าโอกาสนั้นมันจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งเดียวที่อยากบอกพ่อกับแม่ตอนนี้คือ ไม่ว่าพ่อกับแม่จะอยู่ที่ใดบนโลกใบนี้ แต่พ่อกับแม่ก็ไม่เคยจากติ๊บไปไหน ยังอยู่กับติ๊บที่นี่เสมอ ที่ตรงหัวใจ..................
24/01/2015. นครพนมหนาวมาก 14 องศา เป็นไปได้ไงเนี่ย. คิงคองตัวใหญ่ไม่อาบน้ำจะไล่ไปนอนข้างนอกก็กลัวจะหนาวตาย. งั้นคืนนี้นอนนิ่งๆนะ. จะหนุนให้เมื่อยแขนไปเลย....ฝันดีทุกคนค้าบบบบ
รอไฟแดงหน้ามหาวิทยาลัยนเรศวรทำให้คิดถึงหมอติ๊บ