My Santa
ไม่รู้ว่าผมเคยเล่าไปรึยังว่าผมกับพี่ฉลามไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันพิเศษต่างๆ ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายเพราะเมื่อเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับมัน ความทรงจำเกี่ยวกับวันพิเศษเหล่านี้จึงมีน้อยมาก จำได้ว่ามีวาเลนไทน์อยู่ปีหนึ่งที่ผมร้องขอกุหลาบจากพี่เขา ซึ่งเขาคงประหลาดใจมากๆ เพราะผมไม่เคยขออะไรที่หวานแหววเลยตั้งแต่คบกันมา เมื่อผมเอ่ยปากขอ สิ่งได้กลับมาก็เป็นความทรงจำที่ทำให้ยิ้มได้มาจนถึงทุกวันนี้ แต่ที่ผมจะเล่าไม่ใช่เรื่องวันวาเลนไทน์ครั้งนั้น แต่เป็นวันคริสต์มาสอีฟที่เพิ่งผ่านมาเพียงวันเดียวต่างหากครับ
ช่วงสองอาทิตย์สุดท้ายของเดือนธันวาคมเป็นช่วงที่ผมยุ่งมากที่สุด ผมต้องเคลียร์งานที่คั่งค้างให้เสร็จก่อนหยุดยาว เป็นความสบายใจของมนุษย์ที่บ้างานอย่างผมเอง เพราะวันที่ 25 ผมมีนัดกับเพื่อนถึง 2 กลุ่ม วันที่ 26 ก็เป็นงานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัท และบริษัทของผมให้หยุดตั้งแต่วันที่ 27 ครับ
ผมถามพี่ฉลามก่อนแล้วว่าวันคริสต์มาสจะไปไหนกันไหม ผมจะได้ไม่รับนัดคนอื่น พี่เขาบอกว่าไม่ไป เขาขี้เกียจออกไปเบียดกับคนตามร้านอาหารต่างๆ ผมคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าเขาไม่อยากไปไหน นิสัยของเขายังเหมือนเดิม คือไม่ชอบความวุ่นวาย อีกอย่างหนึ่งคือวันหยุดยาวเราก็มีเวลาอยู่ด้วยกัน กรุงเทพจะโล่งมากเหมือนทุกปี เราค่อยใช้เวลาช่วงนั้นด้วยกัน ผมจึงรับนัดเพื่อนๆ ที่ไม่ค่อยได้เจอกัน ส่วนพี่ฉลามก็คงฉลองกับกลุ่มเพื่อนของเขาเหมือนกัน ถ้าให้ผมเดา ก็คงตั้งวงเหล้าที่บ้านพี่ฉลามนี่แหละครับ เมื่อกำหนดแผนออกมาแบบนี้ผมจึงรีบลุยงานให้เสร็จก่อนวันคริสต์มาส ช่วงนั้นผมกลับดึกทุกวัน เหนื่อยมาก
ปกติแล้วถ้ามีงานติดพันที่จะต้องกลับดึกๆ ผมจะมานอนค้างที่คอนโด หอบหิ้วงานมาทำต่อ มันสะดวกทั้งการเดินทางและที่สำคัญมันเงียบดีครับ เวลาคิดงานผมชอบอยู่คนเดียว ซึ่งมันเป็นแบบนี้มาหลายปี พี่ฉลามไม่เคยห้ามหรือบ่นอะไรเพราะหลายปีที่ผ่านมาผมแบ่งเวลางานกับเวลาส่วนตัวได้แบบไม่ขาดตกบกพร่อง
คนส่งส่วยเวลาผมลุยงานก็ยังเป็นพี่ฉลามคนเดิม เขามาแบบเงียบๆ ซื้อนั่นนี่มาเตรียมเอาไว้ให้ มาชงโกโก้ร้อนให้ วางไว้ให้แบบไม่พูดอะไร ทำอะไรเสร็จก็มาหอมแก้มผม แล้วก็กลับบ้าน บางทีผมก็เกรงใจพี่เขาที่ต้องมาห่วงมาดูแลผมตลอด ผมเคยบอกว่าผมดูแลตัวเองได้ อยากให้พี่เขาพัก แต่เขาบอกว่านี่คือการการพักของเขา มันคือความสุขของเขา เขาไม่ได้เหนื่อยอะไร
นั่นคือเหตุการณ์ที่ผ่านมา แต่กับการจำศีลการทำงานในครั้งนี้พี่ฉลามเปลี่ยนไป
ยังไงเหรอครับ?
เขาให้ผมกลับไปทำที่บ้าน เขามารอรับผมทุกวันทั้งที่ตัวเขาก็งานยุ่งจะตาย ผมถามเขา เขาก็บอกว่าเขารู้สึกห่วงผม ผมไม่ได้มาที่คอนโดของตัวเองเป็นเดือนแล้วครับ เพราะพี่ฉลามไม่ยอมให้มาคนเดียว
“เอาดีๆ ห่วงหรือระแวงอะไรกลอนรึเปล่า” ผมถามเขาเพราะมันผิดปกติ
“ระแวงอะไร กลอนมีกิ๊กเหรอพี่ถึงต้องระแวง” เขาถามผมกลับ
“บ้าดิ ทำงานจนหัวฟูแล้วเอาเวลาที่ไหนไปหากิ๊ก”
“ไหนหัวฟูเหรอ มาดูหน่อย” เขาโน้มคอผมให้มาใกล้ๆ แล้วก็แกล้งหอมหัวผมหลายที
“เนี่ย มีอะไรแน่เลย เนียนเลี่ยงไปเลี่ยงมา บอกกลอนมา ทำไมให้กลับบ้าน”
“ห่วงจริงๆ”
“แล้วพี่ก็ต้องมารอกลอนดึกๆ ดื่นๆ กลอนก็ห่วงพี่นะ ให้ขึ้นมารอที่ทำงานพี่ก็ไม่เอา รอในรถก็ติดเครื่องไม่ได้ ร้อนจะตาย”
“เออน่า พี่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการรอกลอน”
“อีกแค่อาทิตย์เดียวเอง งั้นพี่มานอนกับกลอนที่คอนโดก็ได้ มันใกล้ที่ทำงานดี”
“เอากลับไปทำที่บ้านแหละ”
ในเมื่อพี่เขายื่นคำขาดมาแบบนี้ผมก็ขี้เกียจเถียง แต่เหตุผลฟังไม่ขึ้น ดื้อไหมครับพี่ฉลามของทุกคน
ผมสงสารพี่เขามากเลย ยิ่งช่วงใกล้วันหยุดยาวผมยิ่งเลิกงานดึก พี่เขาก็ยังมารอผม ผมก็กลับมาคิดทบทวนว่าตัวเองทำอะไรให้พี่เขาไม่ไว้ใจหรือเปล่า เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่ผมก็ไม่มีใครจริงๆ แถมเลิกงานเสร็จเราสองคนก็ไม่ได้ไปกินข้าวกันต่อนะครับ ตรงกลับบ้านเลย ผมเหนื่อยจนอยากจะเดินหลับด้วยซ้ำ บางวันกินข้าวกล่องในรถกันทั้งสองคน พี่เขาซื้อมารอไว้เลยเพราะรู้ว่าผมยังไม่ได้กินอะไรแน่ๆ วันไหนพี่เขาติดประชุมมารับไม่ได้ก็ส่งคนขับรถมารอรับแทน บางวันผมขึ้นรถได้ก็หลับสนิทเลย ถึงบ้านพี่เขาถึงได้ปลุก สีหน้าเขาดูไม่ดีเหมือนกันที่เห็นผมเหนื่อย แต่ผมก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามแล้วว่าทำไมถึงต้องห่วงผมขนาดนี้ เขาอาจจะฝันไม่ดีหรือมีอะไรสักอย่างทำให้รู้สึกห่วงผม ถ้าเขาสบายใจ มันก็ไม่ได้ยากลำบากอะไรเลยที่ผมจะตามใจเขา
......
24 ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ 21.00 น. ผมเคลียร์งานทั้งหมดแล้ว จบสิ้นเสียทีความเหนื่อยที่สะสมมา สามารถก้าวเข้าสู่ปีใหม่ด้วยความสบายใจไร้กังวลแล้วครับ ตอนนี้อยากนอนแช่น้ำอุ่นและหลับบนเตียงนุ่มๆ ในห้องแอร์เย็นๆ คิดแล้วก็รีบเก็บข้าวของแล้วลงไปหาคนที่รอผมอยู่ตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว
“บอกให้ขึ้นไปรอข้างบนก็ไม่เอา” ผมเห็นพี่เขานั่งเล่นเกมในมือถือในรถมืดๆ เลยบ่นเขาสักหน่อย
“ขึ้นไปให้โดนแซวว่าหวงแฟนอะดิ”
“แล้วไม่หวงเหรอ” ผมถาม
จริงอยู่ที่เพื่อนร่วมงานผมแต่ละคนไม่ธรรมดาเลย สาววายเข้าขั้น แต่ผมรู้ว่าเขาไม่ได้อายที่โดนล้อ มีไม่กี่คนในที่ทำงานของผมรู้ว่าผมเป็นเกย์ พี่เขาเลยไม่อยากให้ผมอึดอัดใจเวลาถูกซักถามเรื่องส่วนตัวหรือถูกจ้องมอง เขายังเป็นคนที่เข้าใจผมเสมอ ผมเคยถามเขาว่าอยากให้ผมบอกเพื่อนที่ทำงานไหมว่าเราเป็นแฟนกัน กลัวเขาน้อยใจ เขาบอกว่าไม่ต้องไปบอกใครเรื่องของเรา ถ้าใครจะรู้ให้รู้เอง โดยเฉพาะเพื่อนผู้ชายที่เป็นเกย์ ห้ามบอกเด็ดขาด ให้คนอื่นคิดว่าผมอยากมีเมียน่ะดีแล้ว ผมฟังแล้วก็ขำ
“หวงแบบมีสติ” เขาตอบผม แถมยังยักคิ้วให้ กวนผมอีกแล้ว เรื่องที่ผมเคยหึงเขาแบบไม่มีสติยังคงถูกเขาล้อมาจนถึงทุกวันนี้ครับ ผมมันเขี้ยวเขาที่สุด ถ้าไม่ติดว่าที่จอดรถมีคนเดินผ่านอยู่เรื่อยๆ ผมคงขอหอมเขาสักที
“ไปหาอะไรกินกันไหม” ผมถามเขา พรุ่งนี้ผมหยุดงาน แต่จะไปกินข้าวกับเพื่อน วันนี้เลยอยากไปกินกับพี่ฉลามก่อน
“เอาสิ ที่ไหนดี”
“พี่เลือกเลย”
แล้วเราสองคนก็ไปกินข้าวกันในวันคริสต์มาสอีฟที่...เยาวราช ก๋วยจั๊บร้านเดิม ร้านโปรดของพี่เขา ช่างเข้ากันกับเทศกาลจริงๆ ครับ
เสร็จจากนั้นพี่ฉลามก็พาผมมาที่คอนโด ผมเลิกคิ้วแทนการถามว่าทำไมไม่พากลับบ้าน
“ก็เห็นว่าอยากเอางานมาเก็บที่คอนโดไม่ใช่เหรอ พี่เลยแวะมาให้ก่อน พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องมาเอง”
“พี่มีอะไรเปล่าเนี่ยถามจริง”
“อะไร แหน่ะ มาจ้องหน้าอีก ไป ขึ้นห้อง” พี่เขาทำหน้าตายก่อนจะเดินนำขึ้นไป
เราสองคนมาถึงหน้าห้อง ผมว่าต้องมีอะไรแน่ๆ ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศแผ่ลอดประตูห้องออกมาด้านนอกเลยครับ เขามองหน้าที่สงสัยของผมแล้วก็หัวเราะ คงคิดว่าผมคงเริ่มเดาได้แล้วว่าพี่เขาต้องทำอะไรให้ผมประหลาดใจเอาไว้แน่ๆ
เมื่อประตูห้องเปิดผมได้กลิ่นหอมลอยก่อนเลย กลิ่นมิ้นท์เย็นๆ จากเครื่องทำอโรม่า
“ทำไมไม่เปิดไฟอะพี่ฉลาม” ผมถามเมื่อเขาจูงมือผมให้เดินตามเข้ามาในห้องแบบมืดๆ ผมจะเปิดไฟก็ไม่ยอม
“ใจเย็น หลับตาก่อน”
“ตื่นเต้นอะ” ผมตื่นเต้นจริงๆ เราไม่ค่อยเซอร์ไพรส์อะไรกันสักเท่าไหร่
ผมหลับตาได้พักใหญ่ อยากจะแอบหรี่ตามองแต่ในใจก็คิดว่าเขาอุตส่าห์ทำอะไรเซอร์ไพรส์ผมอยู่ ผมควรรอ
Why do birds suddenly appear Every time you are near Just like me, they long to be Close to you แล้วสียงเพลง close to you ก็ดังขึ้นเบาๆ พี่เขาเคยบอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่เขาได้ยินทีไรหน้าผมจะลอยมาทุกที
Why do stars fall down from the sky Every time you walk by Just like me, they long to be Close to you ผมหลับตาฟังเพลงได้ไม่นานก็ลืมตาขึ้นเพราะทนรอไม่ไหว พี่เขาเงียบหายไป พอลืมตามาไฟก็สว่างแล้ว เห็นพี่เขานั่งยิ้มอยู่ตรงหน้า ผมใจเต้นแรงมาก บอกตรงๆ ว่าไม่เคยใจเต้นแรงแบบนี้มานานแล้ว ไม่ใช่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่เขานะครับ แต่เราอยู่ด้วยกันมานานจนเหมือนเป็นเพื่อน เป็นคนในครอบครัว เป็นคนสนิท อยู่ใกล้กันทุกวันจนมันไม่ได้เกิดอาการแบบนี้ง่ายๆ เหมือนสมัยแรกรัก
On the day that you were born the angels got together And decided to create a dream come true So they sprinkled moon dust in your hair of gold and starlight in your eyes of blue แต่สายตาของเขาที่จ้องมาในวันนี้มันทำให้ผมใจเต้นแรงอีกครั้ง ดวงตาคู่เดิมที่มองผมมาตลอด 26 ปี
“พี่อยากให้เรามีวันคริสต์มาสอีฟด้วยกันสักปี” เขาบอกผม
“พรุ่งนี้กลอนไม่ไปกับเพื่อนก็ได้นะ” ผมบอกเขา อยากให้เขารู้ว่าเขาสำคัญมากเหมือนกัน
“ไม่เป็นไร ปีหน้าเราค่อยมีวันคริสต์มาสด้วยกัน สะสมไปเรื่อยๆ ไม่รีบ ให้ทั้งชีวิต” แล้วพี่เขาก็ลุกขึ้นยืน ยื่นมือมาให้ ผมลุกขึ้นยืนตาม ส่งมือให้เขาจับ ไม่รู้ว่าเขาจะพาไปไหน
แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่การยื่นมือมาเพื่อพาไปไหน
“เต้นรำกัน”
That is why all the girls in town Follow you all around Just like me, they long to be Close to you คำร้องขอจากพี่ฉลามทำให้ผมหัวเราะ ไม่ได้หัวเราะเพราะตลก ผมเขิน พี่เขาไม่ใช่คนหวาน ผมเองก็ไม่ใช่ เรารู้ตัวเองเสมอว่าเราสองคนคือผู้ชยาที่รักกัน เราไม่ได้อยากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้หญิง ไม่ได้อยากได้ความอ่อนหวาน เราคงเป็นเหมือนผู้ชายทั่วไป แต่เราแค่รักกัน และผมเชื่อว่า การร้องขอครั้งนี้...พี่ฉลามแค่อยากทำทุกอย่างที่คนรักกันทำด้วยกัน
ผมเต้นรำไม่เป็น คิดว่าคงขัดๆ เขินๆ แน่ พี่ฉลามเขาเข้ามาใกล้ๆ มือหนึ่งสวมกอดที่เอวของผม รั้งให้ตัวผมไปแนบชิดกับตัวของเขา อีกมือแตะที่ท้ายทอยของผมเพื่อให้ผมซบที่บ่าเขา ผมสวมกอดเอวของพี่เขาเช่นกันก่อนจะแนบใบหน้าลงตรงพื้นที่ที่อบอุ่นที่สุดในชีวิต เราสองคนขยับขาไปตามเพลง เดินวนไปวนมา ไม่ได้เหยียบเท้ากันอย่างที่ผมคิด มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ อาการขัดเขินค่อยๆ หายไป แต่ความซาบซึ้งใจกำลังเข้ามาแทนที่เพราะคำพูดที่เขากระซิบพูดกับผม
“เราคบกันเกินยี่สิบห้าปีแล้วนะ ความรักของเราเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว”
“ถึงเหรอ พี่นับตั้งแต่ตอนไหน”
“ตั้งแต่ตอนที่เราเจอกันวันแรก ถึงตอนนั้นจะยังไม่รู้ว่ารัก แต่ฟ้ากำหนดมาแล้วให้เราคู่กันก็ต้องนับเลย”
“แบบนี้ได้ด้วยเหรอ”
“อืม”
“คิดนานไหม ขอเต้นรำเนี่ย ฉลามตัวจริงหรือเปล่า” ผมถาม ไม่อยากขัดความโรแมนติกนะครับ แต่มันไม่ใช่พี่เขาเลย
“มีอะไรอีกหลายอย่างที่พี่อยากทำกับกลอน เคยคิดแต่ไม่ได้เริ่มทำสักที ไม่รู้ว่ารออะไรเหมือนกัน”
“พี่ไม่เบื่อกลอนบางเหรอ”
“พูดแบบนี้เคยเบื่อพี่อะดิ”
“ไม่เคย แค่อยากรู้ว่ารู้สึกเหมือนกันไหม”
“อยากเบื่อเหมือนกัน กลัวว่าวันหนึ่งถ้าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันพี่จะใช้ชีวิตยังไงวะ”
“พี่ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม” ผมเงยหน้าขึ้นมามองเขาทันที
อายุเราสองคนก็ไม่ใช่น้อยๆ ไม่ใช่ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้ เคยอธิษฐานว่าหากมีใครต้องจากไป ขอให้เป็นผมก่อน ผมคงทนไม่ได้หากต้องอยู่โดยไม่มีพี่เขา ผมเพิ่งรู้ว่าเขาเองก็ทนไม่ได้หากผมต้องไปก่อน
“แข็งแรงดี เดี๋ยวคืนนี้จะเตะปี๊บให้ดู” เขารีบบอกผม สงสัยสีหน้าของผมจะแสดงออกถึงความกังวลชัดไป
“เดี๋ยววันหยุดนี้เราไปตรวจสุขภาพพร้อมกันนะ ตรวจแบบละเอียดยิบเลย”
“อืม”
“กลอนรักพี่มากนะ”
“เอ้า โรแมนติกอยู่ดีๆ กลายเป็นนางนาคซะงั้น”
“พี่ฉลามอะ” ผมหลุดขำ โอเค มุกนี้ถึงจะเกร่อแต่จังหวะมันได้ครับ
“ทำงานให้น้อยลงนะ พี่เป็นห่วง” เขากระชับกอดผม
“ครับ”
“อยากได้อะไรจากซานต้าไหม”
“พี่จะเป็นซานต้าให้กลอนเหรอ”
“ใช่ ให้ได้ทุกอย่าง”
“แพงๆ ก็ได้เหรอ”
“พี่รู้ว่ากลอนไม่ได้อยากได้อะไรแพงๆ”
“รู้ใจไปหมด อืม..กลอนขอให้พี่เป็นซานต้าของกลอนทุกปีนะ”
“แต่ปีนี้ของเป็นสองอย่างนะ”
“หืม” ผมทำหน้าสงสัย
“พี่ขอเป็นกวางด้วย”
“ทำไมอะ” ผมสงสัยหนักกว่าเดิม
“กลอนจะได้ขี่พี่ไง”
ผมหัวเราะหนักเลย สงสัยว่าคริสต์มาสปีนี้พระเจ้าคงประทานพรให้ผมในฐานะที่เป็นคนดีมาหลายปี เปลี่ยนแฟนของผมให้กลับมาเป็นวัยรุ่นคึกคักเชียวครับ ผมเซอร์ไพรส์มากจริงๆ
นากจากอยากเป็นกวางให้ผมขี่แล้ว พี่ฉลามยังแต่งคอนโดให้ผมใหม่ มิน่าถึงไม่ยอมให้ผมกลับมาที่คอนโดเลยเป็นเดือนๆ ห้องรับแขกไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่มีโต๊ะทำงานใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม เก้าอี้นั่งทำงานก็เปลี่ยนใหม่ให้ ดูท่าจะนั่งสบายมากๆ ผมปวดหลังบ่อยๆ พี่เขาใส่ใจผมทุกอย่างจนผมยังอิจฉาตัวเอง
เดินเข้ามาถึงในห้องนอนก็แทบจะร้องว้าวออกมา โทนสีแดง สีเขียว สีทอง สมกับคริสต์มาส พี่เขาบอกจ้างบริษัทตกแต่งของเพื่อนเขาเอง เขาบอกเพื่อนไปว่า...อยากได้โทนสีนี้จะได้ร้อนแรงตื่นเต้นเร้าใจ เหมือนชีวิตจะได้เริ่มต้นใหม่ตลอดเวลา พี่ฉลามอำผมแน่ๆ เขาคงไม่พูดทะลึ่งแบบนี้กับเพื่อนเขาหรอก
บอกเลยว่าการตกแต่งดูดีมากเลยครับ ที่นอนดูหนามาก ถ้าได้ทิ้งตัวลงนอน ผมคงจะนอนหลับสบาย
แต่คงไม่ใช่ในคืนนี้....
“ขอบคุณนะครับซานต้าของผม” ผมหอมพี่เขา
‘การกอดและการหอม’ เป็นสองสิ่งที่เราสองคนปฏิบัติต่อกันเสมอ เราไม่เคยเบื่อที่จะทำ มันสื่อแทนคำพูดนับร้อยพัน เป็นได้ทั้งกำลังใจ คำปลอบโยน คำสัญญา คำว่ารัก
“พี่ทำให้กลอนรู้สึกว่าที่ผ่านมากลอนใส่ใจพี่น้อยกว่าที่พี่ใส่ใจกลอนอีก” ผมคิดแบบนี้จริงๆ พี่เขาใส่ใจผมทุกอย่าง ให้ความสำคัญกับผมเสมอ ยี่สิบกว่าปีไม่ใช่น้อยๆ นะครับที่ใครสักคนยังรักเราไม่เปลี่ยนแปลง
“คิดมากอีกแล้ว ลองคิดสิ พี่ได้คนรักที่ซื่อสัตย์กับพี่ที่สุด เป็นคู่คิดให้พี่ ให้เกียรติพี่และครอบครัว เป็นคนดีที่พี่ได้เขามาครอบครอง พี่ยังไม่น่าอิจฉาอีกเหรอ”
“ขอบคุณนะครับ กลอนชอบทุกอย่างที่พี่ทำให้” ผมรู้สึกดีมากที่ได้ยินคำพูดของพี่ฉลาม พี่ฉลามไม่เคยโกหกผม เขาเป็นคนจริงใจกับคำพูดของตัวเอง มันเลยทำให้ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเองเมื่อเขาเอ่ยชม
“กลอนชอบพี่ก็มีความสุข”
“กลอนก็มีของให้พี่นะ” ผมบอก พี่เขาทำหน้าประหลาดใจ คงคิดว่าผมไม่ได้เตรียมให้เขาแน่เลย ถึงผมจะยุ่ง และถึงเราไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับวันพิเศษตามเทศกาลต่างๆ แต่ผมก็นึกถึงเขาเสมอ “แต่เก็บไว้ที่บ้าน ไม่รู้ว่าโดนเซอร์ไพรส์ก่อนนี่นา อุตส่าห์คิดว่าจะได้เซอร์ไพรส์พี่ก่อน จริงๆ กลอนอยากให้พี่กลับไปเปิดเลย แต่ว่าคืนนี้เราต้องฉลองเตียงใหม่ที่นี่กันก่อนเนอะ”
“รู้ใจผมจังครับคุณกรกฏ”
“สุขสันต์วันคริสต์มาสอีฟนะมายซานต้า”
“.......” พี่เขายักคิ้วเหมือนรอจะให้ผมพูดอะไรต่อ ผมนึกตั้งนานกว่าจะนึกออก
“มายเรนเดียร์ด้วย”
Wa, close to youWa, close to youHa, close to youLa, close to you บันทึกพิเศษนี้ผมขอมอบให้เป็นของขวัญวันคริสต์มาสและวันปีใหม่สำหรับทุกคน
แทนคำขอบคุณที่มอบความรู้สึกดีๆ
และฝากคำอวยพรต่างๆ มาให้คู่ของเราอยู่เสมอ
ผมก็ขออวยพรให้ทุกท่านพบเจอแต่สิ่งดีๆ และมีความสุขนะครับ
กลอน
MAKE A WISH ?
MAY ALL YOUR WISHES
COME TURE
......................