และก็ถึงวันที่รอคอย
วันนี้เป็นวันแรกที่ผมต้องเข้าคลับหลังลาหยุดมานาน แผลเองก็แห้งสนิท เพิ่งไปตัดไหมมาสดๆ ร้อนๆ ผมขยับมือแล้วก็รู้สึกโล่งชอบกล แถมยังรู้สึกแปลกตากับรอยกรีดสีแดงขวางกลางฝ่ามือไม่น้อย มองไปมองมาก็เพิ่งรู้สึกตัวเอาตอนนี้เองว่าผมนี่บ้าบิ่นชะมัด
ผมขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงานด้วยความคิดถึงบรรยากาศเดิมๆ ไม่ลืมใส่ถุงมือปกปิดแผลเป็นเพื่อไม่ให้มีคนถามถึงสาเหตุซึ่งค่อนข้างจะเล่ายาก ผมจอดรถด้านหลังผับ เปิดประตูเข้าไปก็เจอกับกรเป็นคนแรก
“พี่เอกมาก็ดีแล้ว” กรบอกอย่างจริงใจ “ผมไม่เหมาะกับตำแหน่งอัศวินเลย ขอเป็นบิชอปทำตัวเงียบๆ เหมือนเดิมดีกว่า”
“ยังไงก็ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไรครับพี่”
เขาน่ะไม่เป็นไร แต่ผมน่ะเป็น เพราะสุดท้ายแล้วคีย์การ์ดใบที่สามผมก็ต้องวานให้กรช่วยเอาไปก็อปปี้ให้อยู่ดี แม้จะกำชับไม่ให้บอกใครก็ไม่อาจวางใจได้หากคนคนนั้นเป็นควีนจอมล้วงความลับชาวบ้าน
“แล้วก็...อืม...ไว้พี่รู้จากบอสดีกว่า” กรพูดให้อยากแล้วจากไป เขาดันหลังให้ผมรีบขึ้นไปหาบอส ทิ้งความสงสัยว่าระหว่างที่ผมไม่อยู่เกิดอะไรขึ้นบ้าง
เห็นแบบนี้ผมเลยรีบเคาะประตูห้องออฟฟิศ เมื่อได้รับอนุญาตก็เปิดประตูเข้าไป เจอบอสกับควีนกำลังคุยกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพอดี แต่พอเห็นผม ควีนก็ทำตาประกาย กระตือรือร้นจนชักไม่แน่ใจว่าผมหรือเขากันแน่ที่จะไปจีบนาย
“วันนี้แล้วสินะพี่เอก ไม่ต้องห่วงหรอก ไว้ใจผมได้เลย!”
...ความเชื่อใจแอบติดลบดูเหมือนควีนจะเล่าเรื่องนี้ให้บอสฟังแล้ว เขาเลยไม่โกรธใส่ลูกน้องอย่างผมเท่าไหร่ที่แอบมีนัดลับๆ กับคนรักของพระราชา เพราะถ้าควีนจับคู่สำเร็จ เขาก็จะได้ไม่ต้องคอยหึงหวงรำคาญนายให้ปวดหัว
“อย่าเถลไถล” บอสหันมากำชับคนรักที่ออกนอกหน้านอกตาเป็นพิเศษ
“เออน่า ก็แค่ไปเลี้ยงข้าวต้มเป็ด แล้วก็สะบั้นเยื่อใยกับนาย ยังพอกลับมาทันถล่มศึกมังกรอีกสองยกได้แบบสบายๆ เลย”
บอสยิ้ม ควีนเองก็ยิ้ม พวกเขาทะเลาะกันมากสุดแค่มีปากเสียง เพราะต่างคนต่างก็รู้จักที่จะยอมถอยทีละก้าว
...มันคือการให้เกียรติ ควีนเคยว่าไว้
ถึงจะรู้สึกหวาดๆ กับควีน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขากับบอสเป็นคู่รักตัวอย่างที่น่าชื่นชม
“ชั้นหนึ่งมีปัญหา” บอสเข้าเรื่องคลับด้วยสีหน้าดุโหด มีแค่ควีนเท่านั้นแหละที่จะได้เห็นรอยยิ้มแบบที่ไม่ใช่การแสยะขู่ขวัญ “กรบอกว่ามีคนน่าสงสัยเข้ามาขโมยของจากลูกค้าคนอื่น มันไม่อยากก้าวก่ายหน้าที่อัศวิน เลยรอให้มึงมาจัดการเอง”
เพราะถ้าเกิดบิชอปออกโรงเองแบบเอิกเกริกเกินไป อัศวินเฝ้าประตูอย่างผมจะถูกลดความสำคัญและถูกมองว่าเป็นตำแหน่งที่จะให้ใครแทนก็ได้ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องดีนัก รู้แบบนี้แล้วผมก็ชักรู้สึกผิดที่เอาแต่ทำตัวโรคจิตไล่ตามนายช่วงคลับมีปัญหา
“รับทราบครับบอส ผมจะรีบจัดการทันที”
บอสพยักหน้ารับ ก่อนจะโยนเอกสารชุดหนึ่งให้ผม เป็นประวัติของคนน่าสงสัยที่ว่า เพราะทุกคนที่เข้ามาในคลับแห่งนี้ต้องลงทะเบียนกับแว่นโดยใช้บัตรประชนชาพร้อมทั้งที่อยู่ข้อมูลจริงเพื่อป้องกันไม่ให้มีสายจากที่อื่นเข้ามาปะปน
ผมสะดุดตากับชื่ออันแสนเป็นเอกลักษณ์เข้าอย่างจัง
“นาย...สมถุย?” แถมยังหลุดอ่านออกเสียงอีกต่างหาก
ควีนที่นั่งนิ่งทำตัวเรียบร้อยให้บอสคุยกับลูกน้องพลันหัวเราะก๊าก เขาคงรอปฏิกิริยานี้จากผมอยู่แล้ว
“ไม่เหนือบ่ากว่าแรงหรอกพี่” ควีนยิ้มอย่างนึกสนุก “ผมเคยลงไปดูหมอนี่มาแล้ว มันชอบแอบขโมยของจุกจิก อย่างเก็บชิปที่ตกตามใต้โต๊ะบ้าง แอบเนียนหยิบจากกองชิปเวลาลูกค้าคนอื่นเผลอบ้าง วันหนึ่งได้ไปไม่เท่าไหร่ ก็เลยยังพอทิ้งช่วงให้มันได้ใจแล้วรอพี่มาจัดการเอง”
ด้วยตำแหน่งของควีนไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องยิบย่อยอย่างการแทรกแซงตำแหน่งเหมือนอย่างกร เขาสามารถเข้ามาดูแลปัญหาตรงนี้ได้ทันที...ถ้าอยากจะทำ
“แต่มันมือเบาน่าดู หลบกล้องวงจรปิดเก่ง เลยยังหาหลักฐานจังๆ ไม่ได้ ลูกค้าเองก็ไม่ทันสังเกตซะด้วย จากประวัติที่พี่แว่นให้มา ดูเหมือนทางบ้านมันเองก็ไม่ได้ลำบากอะไร สงสัยจะเป็นเด็กวัยรุ่นที่คิดทำอะไรท้าทายแก้เซ็งมากกว่า”
ผมพยักหน้ารับ แต่พออ่านประวัติก็ขมวดคิ้ว...สมถุยอายุยี่สิบเอ็ดปี เพิ่งเรียนจบมากๆ สนใจด้านศิลปะการต่อสู้เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะมวยไทย เทควันโด้ ไอคิโดก็ไปเรียนมาหมด
แล้วคนแบบนี้จะมาป่วนคลับทำไม
หรือเขาคิดอยากจะลองวิชาโดยไม่รู้ว่าคิงส์คลับเป็นสถานที่อันตรายขนาดไหน
“เพลาๆ หน่อยนะพี่เอก มือพี่เองก็ยังไม่หายดีด้วย แถมวันนี้มีนัดสำคัญ อย่าหมดหล่อล่ะ”
“ครับควีน”
ผมรับคำ ชักรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ความจริงผมไม่ชอบการมีเรื่อง แต่ช่วงนี้กำลังหงุดหงิดอยู่พอดี
ไอ้สมถุยคนนี้มาได้เวลาไม่เลว
ผมคืนประวัติลูกค้าให้บอสเพราะไม่สามารถเดินถือไปถือมาในคลับให้ลูกค้าคนอื่นเห็น ก่อนจะขอตัวด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนอะไร เก่งยืนรออยู่แล้ว เขาทำทีจะเข้ามาคุยกับผมตั้งแต่แรก แต่เพราะกรให้ผมเข้าไปหากับบอสก่อนเลยยังไม่ได้จังหวะ
“วันนี้ควีนบอกว่าพี่จะไปกินข้าวต้มด้วยกันเหรอ”
“ใช่ เดี๋ยวฉันขับมอเตอร์ไซค์ตามไป”
ปกติแล้วเก่งจะนั่งรถตู้ไปกับพวกเบี้ยน่ะครับ ที่นั่งจำกัดจำนวนซะด้วย
“ดีเลย พวกผมจะได้เลี้ยงข้าวฉลองที่พี่หายดี”
“ควีนเป็นคนเลี้ยงไม่ใช่เหรอ”
“ก็พวกเราออกเงินก่อน แล้วค่อยไปทวงเงินควีนอีกทีไงพี่”
...เดี๋ยวได้กัดกับควีนตายเก่งกับควีนเป็นไม้เบื่อไม้เมากันครับ ไม่ได้เกลียดอะไรหรอก แต่เจอทีไรเป็นต้องหาเรื่องทุกที
ผมพยักหน้าแบบไม่ใส่ใจนัก ปกติก็ไม่ได้ยุ่งเรื่องของคนในคลับอยู่แล้ว ถ้ามาปรึกษาผมก็ช่วย แต่ถ้าไม่เอ่ยออกมาก่อนผมก็ปล่อยไปตามยถากรรม หรือเพราะเหตุนี้กันนะถึงได้มีคนนึกหมั่นไส้ ก่อเกิดเป็นเจ้ากรรมนายเวรตามติด ทำให้ชีวิตผมในช่วงอาทิตย์นี้ติดๆ ขัดๆ ตลอด
สงสัยจบงานนี้ต้องไปทำบุญสักหน่อยแล้วผมตั้งปฏิญาณกับตัวเองในใจก่อนจะลงไปยืนประจำตำแหน่งตรงประตูคลับ รอคอยการมาเยือนของนายสมถุย ระหว่างนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเป็นระยะ ส่งข้อความไปบอกนายว่าอย่าลืมนัดของเราในวันนี้
‘ฉันไม่ลืม’ในที่สุดนายก็ตอบผมสักที ให้ความรู้สึกเหมือนช่วงแรกๆ ตอนที่เขาใจจดใจจ่อกับควีนจนแทบไม่เห็นหัวผม แต่ตอนนี้น่ะไม่ใช่แล้ว...ไม่รู้ว่าคิดไปเอง หรือเข้าข้างตัวเองกันแน่ แต่ผมมั่นใจว่านายเริ่มปลงตกกับควีนกว่าเมื่อก่อน เพราะยังไงซะ...เขาก็ไม่มีหวังตั้งแต่แรก
ผมตื่นเต้นกับนัดหลังจากนี้มากกว่าเรื่องสมถุยซะอีก
ถ้าควีนปฏิเสธตรงๆ นายจะยังพยายามยื้อยุดอีกมั้ยนะ แต่นายก็เหมือนกับผม ต่อให้รู้ว่าจะถูกปฏิเสธก็ยังตัดใจให้ขาดไม่ได้ อย่างน้อยขอแค่เจอหน้าก็ยังดี
อืม...พวกเราควรจะไปทำบุญด้วยกันด่วนๆ เลย“พี่เอก” เบี้ยคนหนึ่งสะกิดผม พยักเพยิกไปทางชายคนหนึ่งที่เพิ่งเดินเข้ามา
สมถุย
ผมรับบัตรสมาชิกมาตรวจสอบ พยายามไม่สนใจกับสายตาสำรวจของหมอนี่ที่คล้ายจะรู้จักผม พวกเราจ้องตากันตอนคืนบัตร สมถุยอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจไปเดินวนเวียนแถวๆ โต๊ะแบล็คแจ็คซึ่งมีคนมุงเยอะที่สุด
ไม่วายหันมามองผมเหมือนท้าทายให้จับผิด
“พี่เอก ทำยังไงต่อดีครับ”
ผมไม่ตอบ แต่เหลือบมองควีนซึ่งโบกมือให้กำลังใจจากชั้นสอง ข้างๆ คือกร บิชอปตัวดีที่ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม ไม่บอกก็รู้ว่าพวกเขาอยากเห็นว่าผมจะจัดการสมถุยยังไง
ลองขยับมือข้างที่บาดเจ็บ...ยังรู้สึกเสียดๆ ตึงๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่หนักหนาขนาดทนไม่ได้
“คอยกันคนไว้ที”
ผมบอกกับเบี้ยก่อนจะเดินตรงเข้าหาสมถุยที่กำลังเนียนหยิบชิปที่กระเด็นออกจากกองของลูกค้า จับข้อมือมันเอาไว้แบบหลักฐานคาตา แต่สมถุยเองก็รออยู่แล้ว มันเลยส่วนหมัดอีกข้างเข้าทันที
ผมเองก็ใช่ว่าจะไม่ระวังตัว กระชากข้อมือมันเข้าหาจนเสียสมดุลแล้วยกเข่ากระแทก แต่สมถุยดูจะเชี่ยวไม่เบา เพราะมันเกร็งหน้าท้องทัน ทำให้ไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่นัก ส่วนหมัดที่ปล่อยออกมาแม้จะผิดเป้าหมายจากหน้าเป็นไหล่ไปบ้าง แต่ก็เล่นเอาเจ็บใช่ย่อย
ผมกับมันซัดกันทันที
เบี้ยที่ได้รับคำสั่งคอยกันลูกค้าให้ออกห่างจากรัศมีตะลุมบอนอย่างรวดเร็ว ไม่นานเสียงตื่นตกใจก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงเชียร์เฮอย่างสนุกสนาน โต๊ะไพ่ถูกทิ้งหมางเมิน เพราะลูกค้าเจอการพนันครั้งใหม่ที่น่าสนใจกว่า
“จะพูดอะไรก็ว่ามา”
ผมเช็ดรอยเลือดตรงมุมปากระหว่างพักยกให้หายใจหายคอ เมื่อกี้โดนต่อยไปสองหมัด ตรงไหล่กับที่กราม ส่วนสมถุยโดนไปสามหมัด ข้างแก้มสองครั้งกับกกหู โชคดีของมันคือหมัดขวาของผมแรงน้อยกว่าปกติ แม้จะสวนเข้าหน้าจังๆ ก็ไม่ค่อยสะทกสะท้านสักเท่าไหร่
แต่โชคร้ายของมันคือมือข้างถนัดของผมดันเป็นมือซ้าย ตอนโดนหลอกให้ระวังขวาจนโดนตบป้าบที่กกหูจังๆ มันเลยมึนจนต้องเป็นฝ่ายผละห่างไปเอง
“ผมสนใจตำแหน่งอัศวิน”
ผมยิ้ม รู้ดีอยู่แล้วว่ามันไม่ได้เล็งที่จะขโมยของลูกค้าหรอก แต่เป็นการเรียกร้องความสนใจอย่างหนึ่งเพื่อเปิดตัวให้เอิกเกริก คิงส์คลับนั้นมอบหมายตำแหน่งตามความสามารถ ถ้าทำให้ทุกคนยอมรับโดยการโค่นเจ้าของตำแหน่งเดิมลงไป ต่อให้อายุน้อยแค่ไหนก็จะได้ขึ้นแทนที่ทันที
เก่งซึ่งเป็นอัศวินซึ่งอายุน้อยที่สุดของคลับก็ได้รับการแต่งตั้งด้วยวิธีนั้นเช่นกัน
นับว่าไอ้เด็กนี่ยังคิดเป็น เพราะเก่งมันบ้าพลัง กล้ามโต ตัวบึกบึน พร้อมจะอาละวาดตลอดเวลา เทียบกับผมที่ดูเอื่อยเฉื่อยแล้วยังน่าลุ้นกว่า
“ถ้าอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของคลับ ก็ต้องเริ่มจากการสมัครสมาชิก” ผมอธิบายอย่างใจเย็น “ไม่งั้นต่อให้ล้มฉันได้ก็ไม่มีประโยชน์ คิงส์คลับมีกฎที่เข้มงวด และทุกคนก็ต้องเคารพในกฎ ไม่มีการข้ามขั้นตอนใดๆ ทั้งสิ้น”
สมถุยเหมือนโดนน้ำสาด จากที่ตั้งการ์ดเตรียมลุยกลายเป็นทำหน้าเอ๋อ
เหล่าลูกค้าเองก็เริ่มเซ็งเพราะมวยล่มซะอย่างนั้น
“แล้วผมจะได้วัดฝีมือตอนไหนล่ะ”
“ถ้าสมัครสมาชิกแล้วจะมาท้าฉันตอนไหนก็ได้ทั้งนั้นยกเว้นในเวลาทำงาน ไม่อย่างนั้นค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนายจะต้องเป็นคนจ่ายสองเท่า”
“ถ้าเป็นตอนเลิกงานก็ได้งั้นสิ”
ผมขมวดคิ้วทันที แต่ก็ยอมตอบออกไป
“ใช่”
“งั้นผมขอท้าคุณเดิมพันด้วยตำแหน่งของอัศวิน วันนี้...หลังเลิกงาน...หวังว่าจะไม่กลัวจนต้องบอกปัดหรอกนะ”
ผมไม่ใช่คนที่ถูกยั่วยุง่ายๆ ด้วยถ้อยคำเด็กน้อยแบบนั้นหรอก แต่ต่อหน้าลูกค้าทุกคนที่รอลุ้นแทนเหมือนกำลังดูละครสนุกๆ สักเรื่อง ผมจะทำให้พวกเขาผิดหวังได้ยังไง
“ก็ตามใจ”
จบงานนี้ผมว่าแค่ทำบุญยังไม่พอ คงต้องไถ่ชีวิตโคกระบือให้ไอ้สมถุยนี่ด้วยซะแล้ว
ไปช้าสักหน่อยก็อย่าว่ากันนะครับนาย -----------------
ไปๆ มาๆ เราชักสนุกกับการหาเรื่องซวยๆ โยนใส่พี่เอกซะงั้นค่ะ 5555
ควรจะเปลี่ยนชื่อเรื่องจาก เพราะเป็นเจ้านาย = เพราะเป็นความซวย ได้แล้วนะคะพี่เอก ส่วนนายสมถุย...เอาเป็นว่าเรารู้กันเนอะ จุ๊ๆ แต่คิดว่าหมอนี่น่าจะมีบทบาทจากนายสมคนอื่นๆ เยอะอยู่พอสมควร เป็นสมที่แหกคอกออกมาอีกที แต่ก็เป็นตัวประกอบอยู่ดี
เพจนักเขียนที่อยากจะไปเป็นแม่ยกเกาะขอบเวทีถวายตัวเชียร์พี่เอก