บทที่ 13
แกร๊ก….
“มึงนอนห้องใหญ่กับส้มแล้วกัน” ผมเปิดประตูเดินนำเข้าไปในห้องนอนใหญ่ของห้อง เลือกหยิบกางเกงขาสั้นกับผ้าเช็ดตัว
“อืออ จายมากเพื่อนนน” ไอ้ไผ่ว่าประคองคนเมาที่เดินเซไปมา ได้แต่นึกในใจว่าจะรอดมั้ยคนเมาสองคนกระเตงกันไปมา
ปึก! สุดท้ายส้มก็ดิ้นหลุด แล้วพุ่งมาทางผม ผมเซเล็กน้อยเมื่อีกฝ่ายทิ้งตัวมาเกาะที่แขนผมแน่น
“พี่ตองงงงงง ขอบคุณนะค้า ” ผมมองส้มที่ยังเกาะหนึบที่แขนไม่ยอมปล่อย ไม่ทันได้อ้าปากตอบ
ไอ้ไผ่เลยรีบเซถลาตามประสาคนเมาได้ที่ สองมือจับที่แขนทั้งสองข้างของส้มจากด้านหลัง
ส้มหันไปมองตอบ ก่อนจะลากถูลูถูกังกันไปที่เตียง
“ส้มๆ มาๆ ไปนั่งรอที่เตียงนะค้าบบบบ นอนๆ นะ เด็กดี” ผมมองทั้งคู่ที่พึ่งล้มลงไปบนเตียง
เคยเห็นฉากในละครไหม .... แบบนั้นแหล่ะ ทั้งคู่ล้มลงไปขณะที่แขนข้างไอ้ไผ่โอบเอวของส้ม
ถูกทับลงกับพื้นเตียง ทั้งสองคนหันหน้าเข้าหากัน เหมือนไฟที่มันสปาร์ค ไอ้ไผ่ไล้มือลูกที่แก้มส้ม...
ถึงจุดจุดนี้... เหมือนผมไม่ได้มีตัวตนอีกต่อไป ผมกำมือตัวเองแน่น เบือนหน้าไปทางประตูห้อง แล้วรีบเดินออกมา
ทิ้งตัวลงกับโซฟาความตั้งใจแรกที่จะอาบน้ำแล้วรีบนอนถูกลบเลือนหายไป
กดเปิดทีวีเพื่อกลบเสียงบางอย่าง เดินไปหยิบเบีย์ในตู้เย็นที่มีอยู่ครึ่งโหลออกมา
กระดกเบียร์ดื่ม ... เจ็บกว่าที่คิดแฮะ เจ็บเหมือนจะทนไม่ไหว.. ผมนั่งห่อตัว มืออีกข้างกำลังจิกเข้าไปที่อก....
ข้างที่หัวใจของผมกำลังบีบรัดอย่างเจ็บปวด เจ็บ...แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นี่น้ำตาผมไหลเหรอ?
ไม่ได้มีเสียงสะอื้น....ก็แค่หยดน้ำใสๆ ที่ค่อยๆ ไหลอย่างเชื่องช้า ค่อยๆ ทรมานหัวใจของผมให้ด้านชาเหมือนเดิม
ผมไม่อยากคิดว่าข้างในกำลังเกิดอะไรขึ้น .. แต่ถึงผมจะโกหกตัวเองไปแบบนั้น
แน่นอนว่า...ถึงจะพยายามสุดความสามารถแค่ไหน แต่ผมรู้ดี... รู้ว่าข้างในกำลังเกิดอะไร
ผมควรจะยินดีงั้นหรือ? ทำไมผมถึงไม่รู้สึกถึงความยินดีสักนิด มีแต่ความเจ็บร้าวที่กำลังกัดกินหัวใจของผม
หรือถึงเวลาแล้ว......ที่ผมควรจะพอ มันควรจะชัดเจนแล้วใช่ไหม....ว่าผมต้องพอสักที
ผมไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน... เบียร์หลายกระป๋อง ถูกกระดกเข้าไปในลำคอ..... รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าจนแทบทนไม่ไหว
ผมทิ้งตัวลงกับพื้นโซฟา ไฟของห้องดับสนิทไปแล้ว มีเพียงแสงไฟจากทีวีที่ยังทำหน้าทีของมันได้ดี
ผมหลับตาลง... เพลงเศร้าเพลงนึงจากรายการที่ผมไม่รู้ว่ารายการอะไรเพราะผมไม่ได้สนใจดังขึ้น
เพลง #เรา
https://www.youtube.com/watch?v=M5H7fr-lmD8&list=RDM5H7fr-lmD8&start_radio=1&t=0 เนิ่นนานที่เรามองตากัน
ในแววตาคู่นั้นเหมือนเธอไม่มั่นใจ
เธอสงสัยเรื่องใดสายตาของเธอบอก
บอกว่าเธอไม่มั่นใจ
เราคบกันมาเป็นปี
จากวันนั้นถึงวันนี้เธอยังคิดอะไร
เธออยากรู้เรื่องใดขอเธอจงถามไถ่
เธออย่าทำหน้าอย่างนั้น
ความรักฉันไม่เคยเลือนลาง
ไม่เคยจางหาย ไม่เคยจางไกล
ความคิดถึงไม่เคยจางไปจากใจ
ฉันมีแต่เธอเสมอ
**ความรักของฉันไม่เปลี่ยนไปไหน
ความคิดถึงฉันยังไม่แปรเปลี่ยนไป
เพราะฉันรักเธอ รักเธอมากสักเท่าไร
ใจของฉันจะเป็นของเธอเสมอ
แม้เวลาผ่านเป็นปี
จากนาทีแห่งนี้ไปจนนิรันดร์
เพราะฉันรักเธอมากเกินกว่าชีวิตฉัน
โปรดจำไว้ ว่าใจฉันเป็นของเธอ
เราสองแม้จะแตกต่าง
แต่ชะตาปลายทางยังให้เรามาเจอ
ชีวิตฉันแม้มันจะไม่ได้เลิศเลอ
โปรดเถิดเธอจงรู้ไว้
ความรักฉันไม่เคยเลือนลาง
ไม่เคยจางหาย ไม่คลายเคลือนไป
เพราะรักแท้จะไม่จางไปจากใจ
ฉันมีแต่เธอเสมอ
**ความรักของฉันไม่เปลี่ยนไปไหน
ความคิดถึงฉันยังไม่แปรเปลี่ยนไป
เพราะฉันรักเธอ รักเธอมากสักเท่าไร
ใจของฉันจะเป็นของเธอเสมอ
แม้เวลาผ่านเป็นปี
จากนาทีแห่งนี้ไปจนนิรันดร์
เพราะฉันรักเธอมากเกินกว่าชีวิตฉัน
โปรดจำไว้ ว่าใจฉันเป็นของเธอ
ความรักฉันไม่เคยเลือนราง
ไม่เคยจางหาย ไม่คลายเคลือนไป
เพราะรักแท้ไม่เคยจางไปจากใจ
ฉันมีแต่เธอ
Cocktail are : Vocal : ปัณฑพล ประสารราชกิจ Guitar : ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย Drum : ฟิลิปส์ เปรมสิริกรณ์ Bass : เกริกเกียรติ สว่างวงศ์
ผมขดตัวให้เล็กลง...ราวกับว่าความเจ็บปวดที่คืบคลานเข้ามาหาอยู่นี้ จะหายไปได้อย่างนั้น เสียงเพลงที่ดังแว่วลง
ค่อยๆ ห่างไปทุกที พร้อมๆ กับสติของผม ที่ค่อยๆ เลือนหายไปเช่นกัน
“ตอง ตอง ” ผมกระพริบตาถีๆ ภาวนาขอให้เมื่อคืนเป็นเพียงแค่ความฝัน ค่อยเปิดเปลือกตาอย่างเชื่องช้า
ใบหน้าไอ้ไผ่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ผมกัดริมฝีปากแน่น... ยกแขนข้างนึงขึ้นพาดมาบนหน้า ซ่อนน้ำตาที่กำลังจะล้นออก
รอยจางๆ ที่คอ... มันย้ำชัดความถึงที่ว่า
“หือออ” แสร้งทำเป็นง่วงต่อ เพียงเพื่อจะหลบเลี่ยงบทสนทนาที่กำลังจะเกิดขึ้น
“มึงไปนอนในห้องดีๆ เถอะ เดี๋ยวกูไปส่งส้มก่อนเดี๋ยวแวะซื้อโจ๊กเจ้าประจำมาให้... ขี้เซาเอ้ยย หึหึ”
มันขยี้หัวผมเบาๆ แล้วจากไป มันจะรู้บ้างไหมว่ามันยิ่งสัมผัสผมมากเท่าไหร่
หัวใจ....ผมยิ่งแตกสลายมากเท่านั้น เสียงประตูปิดลง...
ผมซมซานพาร่างที่ยังแฮ้งเดินไปที่ห้องนอนใหญ่ กำลังจะเปิดประตูก็ชะงักกึก ...
บ้าเอ้ย.... มือผมสั่น เมื่อภาพเมื่อคืนฉายชัดอีกครั้ง หันหลังพิงผนัง....ขาที่อ่อนแรงค่อยๆ ทรุดลงไปกับพื้น
บางครั้งผมก็เกลียด..... เกลียดความเหมาะเจาะของทุกอย่าง เสียงเพลงจากทีวีที่ยังเปิดค้างไว้ดังขึ้นอีกครั้ง
เสียงที่ทำให้เขื่อนของน้ำตาผมพังทลาย
https://www.youtube.com/watch?v=2B9wsX6mcPYทำได้เพียง
ทเวนตีไฟฟ์อาเวอส์
นานกว่าจะทำใจ
กว่าจะเรียนรู้มันเป็นอย่างไร
รักของเธอกับฉันมันไม่ง่าย
เมื่อวันเวลา
ที่คอยสั่งสอนให้เราเข้าใจ
มันตัดสินให้ต้องลา
ฉันคงไม่โทษที่เธอไป
เพราะว่าเข้าใจตลอดมา
หมดเวลาแล้วเธอคงต้องไป
แต่สิ่งที่เหลือในใจยังอยู่
คือความคิดถึงที่เธอนั้นไม่รู้
พูดไม่ได้
ทำได้เพียงแค่คิดถึงเธอ
ยอมอยู่กับความจริง
แต่จะไม่ทิ้งเรื่องราวที่ดี
ฉันจะมีเธอไว้ในหัวใจ
อยู่กับเวลา
ที่มันยังหมุนให้ก้าวต่อไป
แม้ต้องเหงาสักเท่าไร
ฉันคงไม่โทษที่เธอไป
เพราะว่าเข้าใจตลอดมา
หมดเวลาแล้วเธอคงต้องไป
แต่สิ่งที่เหลือในใจยังอยู่
คือความคิดถึงที่เธอนั้นไม่รู้
พูดไม่ได้
ทำได้เพียงแค่คิดถึงเธอ (ฮ้า ฮ้า ฮ้า)
ฉันคงไม่โทษที่เธอไป (ฮ้า)…