ดวงใจในสายลม ตอนที่ 9
เช้านี้ก็เป็นอย่างเช่นทุกวันรักษ์มักตื่นแต่เช้ามืดมาช่วยป้าอุ่นทำอาหารและงานอื่นๆ ที่พอช่วยได้
“ทำอะไรทานหรือครับป้าอุ่น” รักษ์ที่พึ่งเดินเข้าครัวมาเอ่ยถามขึ้นทั้งที่พอจะรู้คำตอบอยู่แล้วจากหม้อที่ตั้งอยู่บนเตา
“ป้าจะทำโจ๊กหมูนะจ๊ะ” เธอบอกทั้งที่ง่วนอยู่กับหม้อบนเตา
“ให้ผมช่วยอะไรไหมครับ” ร้องถามทั้งมองบนโต๊ะว่ามีอะไรพอจะช่วยได้บ้าง สายตาเรียวก็เหลือบไปเห็นจานหมูสับที่ยังไม่ได้ปั้นก็เลยเอ่ยขอทำ “ผมปั้นหมูให้นะครับป้า”
“จ๊ะ เอาเลย ขอบใจมากนะจ๊ะคุณรักษ์” เธอบอกไปเพราะป่วยการที่จะห้ามยังไงรักษ์ก็ต้องดื้อดึงทำอยู่ดี ตั้งแต่มาอยู่จนถึงวันนี้รักษ์คอยช่วยเหลืองานเธอตลอดทำให้เธอเบาแรงไปเยอะมาก เกรงใจไม่ใช่ไม่เกรงใจ ไอ้ห้ามก็ห้ามแต่คุณรักษ์ของเธอไม่ยอมฟังเลยหลังๆ มาเลยปล่อยตามใจคุณเขาไป
“คุณรักษ์ค่ะวันนี้ป้าจะซักผ้าเดี๋ยวคุณรักษ์ช่วยเตรียมผ้าที่จะซักไว้ให้ป้าทีนะจ๊ะ” บอกไปทั้งที่รู้ว่าอีกคนคงจะตอบแบบเดิมอย่างทุกครั้ง แต่ก็ถามเผื่อว่าคุณเขาจะเปลี่ยนใจบ้าง
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมซักเอง” นั้นไงผิดอย่างที่เธอคิดที่ไหนกัน
“อีกแล้วนะจ๊ะ ให้ป้าทำหน้าที่ของป้าบ้างเถอะ”
“ป้าก็ซักของคุณลม แล้วก็ของน้องอินทร์น้องจันทร์อยู่แล้วนะครับ ของผมไม่เป็นไรเดี๋ยวผมซักเอง”
“ก็พูดกับป้าแบบนี้ทุกที่สุดท้ายคุณก็ช่วยป้าทำเกือบทั้งนั้น” เธอว่าอย่างหน่ายๆ ทำไมถึงเป็นเด็กดีได้ถึงขนาดนี้ เธออยากรู้จริงๆ ว่ารักษ์ถูกเลี้ยงมาแบบไหนจะได้เอาไปสอนลูกสอนหลานเธอบ้าง
“หึหึ ก็ผมว่างนี้ครับ”
“ว่างอะไรกันค่ะต้องดูแลคุณหนูทั้งสองแท้ๆ”
“เอาเถอะครับป้าให้ผมทำเถอะ อีกอย่างผมอยากสอนให้น้องอินทร์น้องจันทร์ทำด้วย เขาจะได้ช่วยเหลือตัวเองเป็น” รักษ์บอกทั้งรอยยิ้ม ยามที่นึกถึงสองแสบรักษ์รู้สึกมีความสุข และสนุกที่ได้ดูแลเด็กทั้งสอง อยากสอนอะไรหลายๆ อย่างให้น้องอินทร์กับน้องจันทร์จะได้ไม่ลำบาก จากที่คอยกังวลมาตลอดว่าจะดูแลสองแสบไม่ได้ในวันนี้กลับเปลี่ยนไปมันเป็นเหมือนเรื่องท้าทายอย่างหนึ่ง พอนึกว่าจะให้สองแสบทำอะไร จะสอนอะไรสองแสบดีมันทำให้ตื่นเต้น ยิ่งเห็นสองแสบยิ้มอย่างมีความสุขรักษ์เองก็มีความสุขด้วยเช่นกัน
“ขอบคุณนะจ๊ะคุณรักษ์ที่รักคุณหนูทั้งสอง” เธอเอ่ยขอบคุณจากใจจริงๆ แค่มองตาก็รู้ว่ารักษ์ให้ความสำคัญกับคุณหนูของเธอแค่ไหนมันไม่เหมือนกับพี่เลี้ยงคนอื่นๆที่ผ่านมา ที่คอยแต่จะทำดีคุณหนูเพราะหวังจะเอาหน้ากับคุณลม นับว่าโชคดีจริงๆ ที่ได้รักษ์มาเป็นพี้เลี้ยงให้คุณหนูที่เธอรักเหมือนลูกเหมือนหลาน
“หึหึ ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็สองแสบออกจะน่ารัก หึหึ”
“คุณรักษ์ก็พูดไป แสบอย่าบอกใครแบบนั้น” เธอเอ่ยแซ่วทั้งหัวเราะอย่างนึกเอ็นดู ก็คุณหนูของเธอแสบจริงๆ นั้นแหละแต่ว่าเป็นเมื่อก่อนตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะเลยความดีความชอบก็คงต้องยกให้คุณพี่เลี้ยงเขา
เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะที่ดังจากทางครัวทำให้ลมเลที่พึ่งเดินลงมาจากชั้นสองต้องเดินไปดูแต่เมื่อได้ยินทั้งสองพูดถึงสองแสบก็ต้องหยุดเท้าลงเพราะอยากรู้ว่าทั้งสองจะพูดถึงลูกตนเองไปในทางไหน ไม่ใช่ไม่พอใจแต่แค่อย่างรู้ว่าพี่เลี้ยงรู้สึกยังไงกับลูกของเขาถึงจะรู้อยู่แล้วจากการสังเกตการกระทำของอีกคนแต่ก็ยังอยากฟังและคำพูดนั้นมันทำให้ลมเลต้องยกยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปเอ่ยทักคนทั้งสอง
“ทำอะไรกันครับ” เสียงทักที่ดังขึ้นเรียกให้รักษ์และป้าอุ่นต้องหันมอง
“อ้าวคุณลมตื่นแล้วหรือค่ะ” เป็นป้าอุ่นที่ทักไปรักษ์ทำเพียงยิ้มทักทายเท่านั้นก่อนจะหันมาสนใจปั้นหมูก้อนสุดท้าย
“ครับ ผมขอกาแฟสักแก้วนะครับ” ลมเลว่าเสร็จก็เดินออกไปทันทีแต่ไม่ลืมที่จะเหลือบมองพี่เลี้ยงที่ตั้งใจปั้นหมูอย่างไม่สนใจเขาเลย
“เดี๋ยวผมชงกาแฟไปให้คุณลมเองครับป้าจะได้อยู่ดูโจ๊ก” พออีกคนเดินไปรักษ์ก็ร้องบอกขึ้นทัน
“ป้าฝากด้วยนะจ๊ะคุณรักษ์” เธอว่าก่อนจะหันไปสนใจหม้อที่ตั้งอยู่บนเตารักษ์ทำเพียงยกยิ้มแล้วจัดการชงกาแฟให้กับนายหัวแห่งไร่สายลม
“กาแฟครับคุณลม” รักษ์ยกกาแฟมาให้ลมเลที่อ่านหนังสือพิมพ์อยู่ก็เหลือบมองดูนาฬิกาตรงผนังห้องพบว่าได้เวลาปลุกสองแสบแล้วเลยตั้งใจจะเดินขึ้นไปปลุกเด็กทั้งสองเสียงเรียกของลมเลดังขึ้นเสียก่อน
“รักษ์” เสียงชื่อที่หลุดจากปากอีกคนไม่บ่อยนักที่รักษ์จะได้ยินเลยอดใจเต้นไม่ได้
“คะ ครับ” รักษ์ไม่เข้าใจว่าตัวเองจะเสียงสั่นทำไมแค่อีกคนเรียกชื่อแค่นั้นเอง
“จะไปปลุกสองแสบเหรอ” ลมเลถามนิ่งๆ ทั้งยังอ่านหนังสือพิมพ์
“ครับ” รักษ์ตอบไป ลมเลทำเพียงแค่พยักหน้ารักษ์เลยหมุนตัวจะเดินต่อแต่ต้องหยุดชะงักอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดของอีกคน
“อาทิตย์หน้ายายน้ำฟ้าจะลงมา” เห็นว่าเป็นเพื่อนกันก็เลยตั้งใจจะบอก แต่สีหน้าของรักษ์ที่ได้ยินทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ หรือ จำเป็นต้องยิ้มหน้าบานขนาดนั้นไหมคิดแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมารู้นี้ไม่บอกเสียก็ดี ลมเลพับหนังสือพิมพ์เก็บอย่างหงุดหงิด รักษ์เองก็งงกับการกระทำของอีกคน เป็นอะไรของเขา รักษ์ได้แต่สงสัย และต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงร้องของคนที่นั่งอยู่ ให้ตายเถอะกาแฟร้อนนะไม่ใช่เย็นทำไมไม่ระวังเลย
“คุณเป็นอะไรมากไหม” รักษ์รีบเข้าไปถามไถ่ ลมเลทำเพียงยกมือขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่าไม่เป็นอะไรก่อนบอกให้รักษ์ไปปลุกสองแสบถ้าขืนให้อยู่ต่อมีหวังรักษ์ได้เห็นอะไรที่เขาไม่อยากให้เห็นแน่ๆ พอเห็นว่าอีกคนเดินไปแล้วลมเลก็ถอนหายใจออกมาเสียงดังนึกด่าทอตัวเองในใจที่ไม่รู้เป็นอะไรนับวันยิ่งอยู่ใกล้พี่เลี้ยงลูกยิ่งทำให้เขาไม่เป็นปกติไม่ใช่ไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่มันคืออะไรก็เขาไม่ได้ใสซื่อขนาดไม่รู้อะไรสักหน่อยแต่มันจะจริงแท้แค่ไหนก็ต้องรอดูกันไปก่อนเพราะเขาอาจแค่เข้าใจผิดไปเอง
“แสบวันนี้พ่อจะเข้าไปสวนทุเรียนจะไปไหม” ลมเลเอ่ยถามลูกทั้งสองหลังจากกินข้าวเช้ากันเสร็จแล้วคำตอบที่ได้รับทำเอาคนเป็นพ่อตกใจ
“ไม่ไป...ครับ” พูดจบก็หันยิ้มโชว์ฟันขาวให้อารักษ์อย่างออดอ้อนเพราะเกือบลืมสิ่งที่อารักษ์สอน
“ครับ?” ลมเลพูดขึ้นอย่างงงๆ แต่ก็ไม่เท่ากับสีหน้าประหลาดใจที่แสดงออกมา สองแสบพูดมีหางเสียงเป็นครั้งแรกคนเป็นพ่อก็อดประหลาดใจไม่ได้
“เอ่อ มีอะไรหรือครับคุณลม” รักษ์ถามเพราะรู้สึกไม่สู่ดีกับสีหน้าของเจ้านายนี้เขาสอนอะไรน้องอินทร์ น้องจันทร์ผิดไปหรือเปล่า
“ไม่มีอะไรแค่แปลกใจนิดหน่อย ไงแสบพูดเพราะก็เป็นนิ” ลมเลตอบก่อนจะหันไปคุยกับเด็กทั้งสอง
“อารักษ์บอกเป็นเด็กต้องพูดเพราะๆ ครับ” ขุนอินทร์ตอบ
“ต้องมีครับด้วย งั้นไม่น่ารักครับ” ขุนจันทร์ว่าต่อ
พอได้ยินลูกทั้งสองลมเลหันมองรักษ์ทันที ไม่ได้จะตำหนิอะไรแค่ขอบคุณทางสายตารักษ์เองก็รับรู้ เรื่องการพูดจาของลูกความผิดก็เป็นเขาที่ไม่ใส่ใจลูกเองต้องขอบคุณรักษ์จริงๆ ที่ใส่ใจลูกเขามากขนาดนี้ไม่เคยมีพี่เลี้ยงคนไหนที่ดูแลลูกเขาได้ดีแบบนี้มาก่อนคงต้องขอบคุณน้ำฟ้าซินะที่ส่งรักษ์มาให้ พอคิดแบบนี้ความรู้สึกที่คลุมเครือมันก็เริ่มชัดเจนขึ้นมาแต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ชายสองคนจะรักกันได้ยิ่งเขาที่มีลูกอยู่แล้วไหนจะรักษ์ที่ไม่รู้ว่าคิดยังไงกับเขาอีก
“เอาละพ่อไปทำงานดีกว่า ตกลงพวกเอ็งไม่ไปแน่นะ” ว่าทั้งยืนขึ้นเตรียมจะไป สองแสบรีบสายหน้าตอบกลับทันที “มีน้ำตกให้เล่นนะพวกเอ็ง” ลองล่อลวงอีกสักที สองแสบก็ยังสายหัว “อะไรของพวกเอ็งปกติมีแต่ตื้อจะไปด้วยไหนลองว่ามาสิทำไมพวกเอ็งถึงไม่ไป” เมื่อหมดความอดทนก็อดที่จะถามไม่ได้
“น้องจันทร์จะช่วยอารักษ์ซักผ้าครับ” ขุนจันทร์ตอบทันทีทั้งยังยิ้มร่า
“พี่อินทร์ก็ด้วยครับ” ก็วันนี้สัญญากับอารักษ์แล้วนี้น่าเด็กทั้งสองคิด
“อย่างพวกเอ็งจะไปช่วยไรได้ มีแต่สร้างเรื่องสิไม่ว่า” ลมเลว่าทั้งยิ้มเย้ยลูกชาย รักษ์ถึงกับหลุดหัวเราะออกเสียงดังกับท่าทางของคุณพ่อลูกแฝดเล่นเอาลมเลต้องตวัดสายตามองรักษ์เลยต้องทำเป็นนิ่งทั้งที่ในใจอยากหัวเราะออกมาดังๆ ก็ผู้ชายตัวโตๆ มายืนเก๊กท่าแบบนี้มันเข้ากันที่ไหน
...
มาแล้ววววววววว หายไปนานมากกกกกก เขาไม่ว่างเย้ยยยยยย ลืมเขาไปหรือยังงงงงงง กระซิกๆๆ
กว่าจะมีเวลามีแรงมาแต่งต่อได้ คิดถึงมากกกกกกก แต่ด้วยภาระหน้าที่เลยไม่มีเวลาแต่พอมีก็ไม่มีแรงแต่ง สู้รบปรบมือกับเด็กก็หมดแรงแล้ว (บ่นมากว่ะ) อิอิ อย่างอนเขาเลยน่าาาาาาา ยังไม่ได้ตรวจคำผิดนะคะพอดีเมาตัวหนังสือทำแผนการสอนจนเมา ตอนนี้เรื่อยๆๆค่ะ (เรื่อยๆทั้งเรื่อง)