มาแว้วครับ......
====================================
กริ๊งงงงงๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกตอนเช้า.....
นี่มันเช้าแล้วหรอเนี่ย.......
ทีไม่โทรหาผมจริงๆ ด้วย......มันน่างอนนัก......โทรหาเราซักหน่อยก็ไม่ได้นะ
ใจร้ายจริงๆ.......
ผมเลยตัดสินใจที่จะโทรหาทีเองก็ได้....ก็แหม คนมันคิดถึงหนิ.....รีบๆ โทรก่อนที่จะ
อาบน้ำแล้วค่อยไปเรียน....เพราะว่าวันนี้ผมมีเรียนทั้งเช้าและบ่าย.......เดี๋ยวจะไม่ได้โทร
ทั้งวัน.....ผมจะคิดถึงทีตายเลย.........
ว่าแล้วก็ไม่รอช้าครับ......โทรเลยละกัน
“ขออภัยค่ะ... ยอดเงินคงเหลือของท่านไม่พอที่จะโทรเบอร์นี้ค่ะ”
ซวยอีก!! เงินในมือถือหมดอีก......ผมเลยอดโทรซะอย่างนั้น......เอาเหอะไปอาบน้ำก่อน
เพราะว่าต้องรีบไปเรียนตอนเช้า......ตกเย็นค่อยโทรก็ได้วะ.....แต่ว่ากว่าจะถึงตอนนั้น
ขาดใจตายพอดี.....
ทีก็ใจร้ายเหลือเกิน......โทรหาผมหน่อยก็ไม่ได้ นึกแล้วมันน่าน้อยใจจริงๆ เลย วันนี้ทั้งวันผม
เลยเรียนไม่รู้เรื่องเลย.....เพราะว่ามัวแต่คิดถึงที.....ผมตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงตอนเย็น
ให้เลิกเรียนซักที....ผมจะได้รีบไปซื้อบัตรเติมเงิน......เพื่อที่จะได้โทรหาที.....เสียที
พอได้เวลาเลิกเรียนผมดีใจมากๆ เลย.....รีบกลับไปที่ 7-11 ทันทีเลย เพื่อที่จะได้ซื้อบัตรเติมเงิน
แล้วก็โทรหาที.....
“ซื้อบัตรเติมเงิน orange 50 บาทครับ” ผมบอกกับพนักงานขาย
“หมดค่ะ”
“งั้นเอา 90 บาทก็ได้ครับ เอาใบนึง” ผมพูด....ปกติผมจะเติมเงินทีละไม่เยอะครับ
เพราะว่ามันจะเปลืองเงินผม....อีกอย่างมันจะควบคุมการโทรลำบาก
“หมดเหมือนกันค่ะ ต้องขออภัยนะค่ะ”
“300 บาทก็ได้ครับ” ผมตัดใจซื้อแบบ 300 บาท
“หมดค่ะ แต่ว่าเหลืออีกราคานะค่ะ”
“หรอครับ เอาใบนึงก็ได้ครับ”
“ค่ะ” พนักงานขายหันหลังไปหยิบมาให้ผม
“แปดร้อยบาทค่ะ” พนักงานขายบอก
ผมเหงื่อตกทันทีเลยอ่า....แบบว่ามันแพงเกินไปครับ ผมคงตัดใจซื้อไม่ได้หรอก
“แปดร้อยเลยหรอครับ งั้นไม่เอาละกันครับ ขอบคุณครับ” ผมปฏิเสธแล้วเดินออกจากร้าน
“พรุ่งนี้บัตรจะมาส่งนะค่ะ” พนักงานพูดในขณะที่ผมกำลังเดินออกจากร้าน
ทำไมแย่จังเลย......กว่าจะมาส่งตั้งพรุ่งนี้แหนะ......แล้วใครจะไปรอไหวล่ะเนี่ย
หยอดเหรียญโทรก็ได้นี่นา
ผมเลยไปหยอดตู้โทรหน้าหอ..........โทรศัพท์มันดันเจ๊งอีกครับ....ซวยรอบสอง
จะให้เดินไปที่ตู้อื่นก็ขี้เกียจแล้ว.......เหนื่อยมากแล้ว........ไปอาบน้ำกินข้าวก่อน
แล้วค่อยโทรละกัน.......
ผมอยากรู้มากๆ เลยว่าทีจะคิดถึงผมหรือเปล่า.......นี่เราไม่ได้คุยกันมาตั้งสองวันแล้วนะ
ไม่โทรมาหาเราเลยหรอเนี่ย........ใจร้าย..........ทีจะกระวนกระวายเหมือนผมหรือเปล่า
เนี่ย........
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว.....ผมก็ลงไปกินข้าวที่ข้างล่างหอ.......แต่ก็ไม่วายจะ
แกล้งเดินผ่านห้องของที......แบบว่าอยากจะรู้ว่าทีทำอะไรอยู่......ทีจะเป็นอย่างไรบ้างน๊อ
ผมได้ยินเสียงของที....ไอ้เสี่ยว...ไอ้อ้วน คุยกันเล่นสนุกกันคิกคัก....ดูมีความสุขเหลือเกิน
ฟังเสียงจากข้างนอกห้องเนี่ย.....ดูเหมือนพวกทีกำลังวุ่นวายกับการจัดห้อง – จัดของอยู่....
นี่มันไม่ได้คิดถึงเราเลยหรอเนี่ย.......เฮ้อ....คิดแล้วเหนื่อยใจจังเลย.........อยากเข้าไปหา
จังแต่ว่ามันคงจะไม่ดี......เพราะว่าทีจะโกรธ.....อีกอย่าง.....ผมคงไม่หน้าด้านที่จะเข้าไป
ที่ห้องของทีทั้งๆ ที่ไม่มีคนต้องการไม่ได้หรอก..........
เมื่อผมลงไปที่หน้าหอก็เห็นอั๊ตกำลังเดินไปที่โรงอาหารพร้อมกระเป๋า.......สงสัยว่าอั๊ตคง
จะไปกินข้างแล้วก็คงกลับบ้านอีกตามเคย
“อั๊ตๆ ไปไหน” ผมตะโกนเรียก
“อ่อ ไปกินข้าว แล้วก็จะกลับบ้านอ่า”เราเดินกันไปคุยกันไปจนถึงโรงอาหาร......
“นี่มันจะทุ่มนึงแล้ว......ยังจะกลับอีกหรอ”
“กลับดิ....เดี๋ยวกลับกับแม่”
“อ่อ แม่มารับหรอกรึ” ผมถาม
“ก็ประมาณนั้น”
“เดี๋ยวไปซื้อข้าวแล้วมานั่งโต๊ะนี้ละกันนะ” อั๊ตบอก
“แม่มารับกลับบ้านประจำเลยหรอ” ผมถาม
“ก็ไม่หรอก ไม่ทุกวัน บางวันเราก็อยู่หอ บางวันก็กลับบ้าน ขึ้นอยู่กับแม่อ่า”
“แม่นายก็ดีเนอะ ว่างๆ ยังอุตส่ามารับอีก”
“คือแม่เราทำงานที่มหา’ลัย” อั๊ตบอก
“อ้าวหรอ.....ทำงานเป็นอะไรอ่า” ผมถาม
“ก็เป็นอาจารย์ที่นี่แหละ”
“หรอ...ดีจัง แล้วสอนคณะอะไรอ่า” ผมถามอีก
“ก็สอนที่คณะเราแหละ.....แม่สอนเราเองเลยแหละ”
“หรอๆ” ผมรับ
“ก็เทอมที่แล้วก็สอนเรา วิชา Transport phenomena อ่า”
“อ้าวหรอ ไม่ยักกะรู้มาก่อนว่าแม่อั๊ตเป็นอาจารย์....”
กินข้าวกับอั๊ตวันนี้ผมเลยรู้เลยว่าแม่อั๊ตเป็นอาจารย์....แล้วก็เลยได้รู้ว่าทำไม
อั๊ตถึงกลับบ้านบ่อยๆ..เป็นผมก็คงไม่แปลก...ก็ในเมื่อนั่งรถกลับบ้านกับ
แม่สบายกว่ากลับบ้านเองเป็นไหนๆ......
พอกินข้าวเสร็จ......ผมดันเกิดอารมณ์หยิ่งขึ้นมาอีก.......แบบว่าอารมณ์ไม่อยากคุยแล้ว
ไม่ง้อ........ผมก็เลยตัดสินใจไปเดินเล่นคนเดียวให้มันหายเหงา.........อีกอย่าง
ถ้าไม่คุยนานๆ เดี๋ยวทีก็โทรมาหาผมเองแหละ..........ตอนนี้ที่ทียังไม่โทรก็อาจเป็น
เพราะว่าทีคงไม่ได้คิดถึงผม......และอีกอย่าง.....ผมเองก็เคยไม่คุยกับทีเป็นอาทิตย์นี่เนอะ
ทีมันก็คงไม่รู้หรอกว่านี่คือแผนของผม.......
เพราะฉะนั้น......คืนนี้ผมก็จะไม่โทร........รอให้ทีโทรมาหา
.
.
.
.
จนแล้วจนรอดทีก็ไม่โทรมา.......เช้านี้ผมเลยตัดสินใจจะโทรหาทีเองก็ได้
ผมเลยรีบไปอาบน้ำแล้วไปที่ 7 – 11 เพื่อซื้อบัตรเติมเงินแล้วโทรหาที
ตู๊ด.........ๆๆๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์ดังหลายครั้งแล้ว แต่ว่าทียังคงไม่รับสายของผม..........
หรือว่านี่เช้าเกินไป แล้วทีไม่มีเรียนตอนเช้า.......ทีเลยไม่ตื่น..........
ผมเลยกะว่าจะโทรหาอีกทีตอนเที่ยง.......และเมื่อถึงตอนเที่ยงผมโทรหาที
นอกจากทีก็ยังคงไม่รับสาย ยังตัดสายผมทิ้งอีกต่างหากแหนะ.....
เกิดอะไรขึ้นกับทีนะ......สองครั้งแล้ว........หรือว่าทียุ่งอยู่กันแน่นะ......
พอระหว่างเบรกคาบบ่าย......ผมโทรหาทีอีก........
ทีก็ไม่รับสายผม............แล้วก็ตัดสายแบบเดิม......ผมเริ่มใจเสีย......
สงสัยว่าทีจะจับได้ว่าผมกำลังจะเล่นแง่กับที.............คงคิดได้ว่า
ผมจะลองดีกับที.......ทีเลยโกรธผมกันแน่นะ
คิดแล้วรู้สึกแย่.............ไม่น่าลองดีกับทีเลย...........แล้วคราวนี้ผมจะทำยังไงดีเนี่ย
เลิกเรียนผมโทรหาทีอีกครั้ง แล้วทีก็รับสาย
“หวัดดีที......ทำไมไม่รับสายเราอ่า” ผมทำเสียงตัดพ้อเชิงงอนๆ
“ไม่อยากคุย” ดูทีมันตอบ....สงสัยมันจะงอน
“ไมไม่อยากคุยครับ” ผมถาม
“เกลียดคนทำตัวแบบนี้”
“ทำตัวแบบไหน.......แบบที่ไม่โทรหาหรอ” ผมแหย่
“ประสาทป่ะ เราไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อยปัญญาอ่อน แต่เราเกลียดคนนิสัยแบบนาย”
“ไม่ใช่เรื่องไม่โทรหาหรอ....แล้วโกรธเรื่องไรอ่ะ”
“ยังไม่รู้ตัวอีก.....แค่นี้นะ เราเบื่อแล้วเกลียดคนแบบนี้” ทีตอบ
“ที”
“แค่นี้นะ แล้วไม่ต้องโทรมาหาอีก....เบื่อ!!!” พูดแล้วก็วางสายไปเลย
ผมงงมากๆ ไม่รู้ว่าผมทำอะไรผิด......ไอ้ผมก็นึกว่าทีจะงอนเรื่องไม่โทรหา.....
ผมคิดไม่ออกจริงๆ ว่าผมทำอะไรผิด..........ทีถึงได้โกรธมากมายขนาดนี้
แต่ผมก็คิดคงจะโทรไปง้อที......คงโทรไปง้อวันพรุ่งนี้...........คิดว่าง้อๆ เดี๋ยวทีก็
คงจะหายโกรธ.......น่าจะง้อง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อน.........ขอให้เป็นอย่างนั้นทีเถอะ........
=============================================