อ่านชิล ๆ กันเนอะ
ได้โปรดอย่าจิ้น!
อร๊ายยยยยย กรี๊ดดดดดด ฟินที่สุดเลยค่าาาาา
ตั้นปิ๊ก! ตั้นปิ๊ก! ตั้นปิ๊ก!
Ah! เอามือออกไปได้ไหมเนี่ยพี่ตั้น!
โอ๊ยไม่ต้องมายิ้มกรุ้มกริ่มเลยไอ้บ้านี้ ทำตัวรุ่มร่ามอยู่ได้ รู้น่ะว่าชอบ skinship แต่ช่วยลดลงบ้างสักนิดดดนึงไม่เป็นรึไงวะ!
ไอ้เราก็ต้องทำหน้ายิ้ม ๆ เขิน ๆ ต้องทำเหมือนไม่ชอบ แต่ก็ต้องทำเป็นเขินเพื่อเอาใจแฟนคลับเนี่ย มันอึดอัดนะโว้ย
“ร้อนเนอะ เหงื่อไหลเลย”
อย่าบอกนะว่ามึงจะเอาทิชชู่ที่มึงใช้แล้วเช็ดหน้ากู! ไอ้พี่ตั้น! อ๊ากกก มันเช็ดจริงด้วย ไอ้พี่ชั่วววววว
“อย่าทำหน้างั้นดิ เดี๋ยวเขาก็เอาไปทำมีมหรอก หืมเด็กมีม~”
“จริงจังหน่อยสิพี่ เรากำลังแถลงข่าวอยู่นะ!”
ชักจะทนไม่ไหวละ ปกติผมความอดทนสูง ไม่ค่อยด่ามันหรอก ปล่อยให้มันรุ่มร่ามไป แต่วันนี้แม่งดันเมาไง มันตื่นเต้นได้เปิดตัวอัลบั้มเต็มสักที เลยซดเบียร์ไปกระป๋องนึง นี่ผมยังได้กลิ่นเบียร์จากมันอยู่เลย ดีนะไม่มีไฮทัชหรือต้องใกล้แฟน ๆ ขายขี้หน้าแย่
“โอยร้อนจังเลย~”
มันแกล้งอ่อยแฟนด้วยการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต แถมเปิดออกให้เห็นหน้าอกขาวรำไร ๆ
คนบ้าอะไร แรดกว่าตูอีก
“ถ้าพี่ยังเล่นอยู่นะ...”
ใช้ไม้ตายมันซะเลย แฟนคลับถ่ายวิดีโอช็อตนี้ได้ก็ช่างมัน ดีจะตายจะได้รู้ว่าเราก็โหดเป็น ไม่ใช่แมวแง้ว ๆ ที่ชอบเปรียบเทียบกัน นี่เป็นเสือน่ะเสือ เข้าใจไหมแฟน!
“เฮ้อ!...ก็ได้ครับ”
.
.
.
ฟู่ววว ผ่านพ้นไปด้วยดีกับงานแถลงข่าวอัลบั้มเต็มของพวกเราชาว x-thinx
เราเป็นวงไอดอลเพลงป๊อบ มีกันอยู่ 5 คน ประกอบด้วย หนึ่ง เมนโวคอลคือผม นามว่า ปิ๊ก อายุ 20 แล้ว เป็นเกย์หน้าตาดีคนหนึ่งที่อยากเข้าวงการบันเทิง
สอง ไอ้พี่ตั้น แก่กว่าหนึ่งปี เมนแด๊นซ์กับแร็ป แต่มันแร็ปห่วยมาก แต่เพราะมันหล่อ เป็นวิชวลของวง เลยพอถู ๆ ไถ ๆ ไปได้
สาม ไอ้มาร์ติน ลูกครึ่งที่โคตรจะหล่อ หล่อแบบหล่อโคตร ๆ ผมบรรยายไม่ถูกจริง ๆ โคตรตรงสเป็ค
สี่ คนนี้แก่สุด พี่น้ำฟ้า นิ่ง ๆ แต่กินเหล้าเก่งมาก ชอบก๊งกับไอ้พี่ตั้น
และห้า พี่ท็อป หัวหน้าวงผู้ประเสริฐของเรา เก่งทุกอย่าง ทั้งร้อง เต้น เอนเตอร์เทน เป็นคนตลกหน้าตาย อยู่ด้วยแล้วมีความสุข บางครั้งผมก็ถูกจับคู่กับพี่แก
“ร้อนนะวันนี้ ห้างแม่งไม่เปิดแอร์หรือไงวะ”
ไอ้มาร์ตินกระพือปกเสื้อ ซึ่งทุกคนก็ทำตามกันเป็นโดมิโน่
“เอาน่า...คนมาเยอะด้วยมั้ง น่าดีใจเนอะ ไม่นึกว่าจะเยอะขนาดนี้”
พี่ท็อปตบไหล่มาร์ตินดังปั้ก ๆ
“ห้างแตกอะพี่”
พี่ตั้นที่กอดคอผมเสริมบ้าง แม่งห่างกูไม่ได้ ร้อนจะตายห่านอยู่แล้ว
“มึงก็นี่น้าไอ้ตั้น หัดเก็บไม้เก็บมือบ้างนะ ไอ้ปิ๊กกูช้ำขึ้นมาแล้วจะยุ่ง คู่จิ้นกูนะเว้ย”
“ใช่ที่ไหนพี่ท็อป นี่มันคู่จิ้นผม”
“ของกูต่างหาก”
“ของผม!”
“โอ๊ยอย่าเถียงกันสิโว้ย ไอ้พี่ตั้น มึงเอาแขนออกไปเลย อึดอัด ถึงรถแล้วค่อยมาเกาะใหม่ ไม่อยากถูกถ่ายรูปไปจิ้น”
เถียงกันไม่ดูที่ทางเล้ยพวกนี้ ดูมันสิ เดินกันอยู่ในห้างที่เราเพิ่งจะแถลงข่าวไปเนี่ยแหละ แฟนคลับก็วิ่งตามกันเป็นกระพรวน มันยังเถียงกันเรื่องไร้สาระอยู่ได้ เห็นแฟน ๆ หัวเราะคิกคักแล้วอายชะมัด ขอให้เขาอ่านปากไม่ออกเถ้อะ!
“เย่~~หมีน้อยครับ พ่อมาแล้วครับผม~”
ผู้ชายเสียงสองที่พูดก็คือพี่ตั้น มันไม่ได้เลี้ยงหมาหรือแมวถึงพูดอย่างนั้น มันแค่พูดกับตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มหึมาที่กินพื้นที่โซฟาของเราไปครึ่งหนึ่ง ผมคิดผิดที่ซื้อมา
เราห้าคนอยู่คอนโดห้องเดียวกัน มีสองห้อง ห้องเล็กหนึ่ง ห้องใหญ่หนึ่ง ห้องน้ำอีกสอง ห้องครัวก็มี เรียกได้ว่าครบครันทุกสิ่งอย่าง โดยที่ค่ายเป็นคนซัพพอร์ตให้ พวกเราโชคดีที่ได้มาอยู่ค่ายที่มีตังค์หน่อย ถึงแม้ต้องนอนด้วยกันกับสมาชิกวง แต่บริเวณอื่น ๆ ไม่อึดอัดเลย กว้างขวางสบายมาก ขนาดมีรองเท้าเป็นร้อย ๆ คู่ ก็ยังไม่รก
โชคดีด้วยที่พวกเราทั้งห้าคนไม่ใช่พวกซกมกน่ะ เลยอยู่กันได้ยืด ไม่เคยทะเลาะกัน มีงอนกันบ้างนิดหน่อย แต่ก็แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามประสาวัยรุ่นเลือดร้อน
ผมกับพี่ตั้นเจอกันก่อน ฝึกได้ประมาณ 3 ปี อีกสามคนถึงเข้ามา ฝึกต่ออีก 3 ปี พวกเราก็ได้เดบิวต์ และถือว่าประสบความสำเร็จมากทีเดียว จากเมื่อก่อนที่ต้องกระเบียดกระเสียน ตอนนี้อยากกินอะไรก็ได้กิน อยากได้อะไรก็ได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกแล้ว
“พี่อาบน้ำก่อนนะ”
พี่ตั้นคว้าผ้าขนหนูไป ผมพยักหน้าตอบ สายตามองทีวีจอใหญ่ นอนกอดหมียักษ์ มีมาร์ตินนั่งข้าง ๆ ส่วนพี่อีกสองคนเข้าห้องไปแล้ว
“กูเห็นนะ”
เสียงไอ้หมาตินครับ เสียงชั่วมาเลย
“อะไร”
“ข้อมือมึงอะ กลัวคนเขาไม่รู้?”
“อะไรของมึง ข้อมืออะไร”
“แหม ๆ ใช่ซี้~กูหล่อ แต่กูคารมไม่ดีเท่าพิ—โอ๊ย ๆ ยอมแล้วจ้า”
ผมรำคาญมัน ชอบแซว เลยถีบไปตั้งหลายที
“เจ็บนะเว่ย”
“ไปเอาโยเกิร์ตมาให้ซิ”
“เออ!”
มันก็ดีแบบเนี้ย ใช้ง่ายมาก ๆ พวกพี่ ๆ เขาชอบสปอยล์ผมไม่รู้ตัว ไอ้มาร์ตินที่อายุเท่ากันก็เป็นไปด้วย ผมไม่ได้ตัวเล็กหน้าเคะอะไรมากนะ แต่ก็นุ่มนิ่มกว่าคนอื่นเขาอยู่ดี ยิ่งพอรู้รสนิยมและโพสิชั่น ก็มองผมเป็นคนที่ต้องปกป้องอะไรพรรค์นั้น พวกผู้ชาย!
พอไอ้มาร์ตินเข้าห้องไปอีกคน พี่ตั้นก็ออกมาจากห้องน้ำพอดี ห้องน้ำเรามีสองห้อง ห้องหนึ่งอยู่ด้านนอก อีกห้องอยู่ในห้องใหญ่ ผมกับพี่ตั้นที่นอนด้วยกันจะใช้ห้องด้านนอกเป็นปกติ
“เล่นอะไรกับติน”
สะบัดผมเปียกใส่ ท่อนบนเปลือย ท่อนล่างใส่กางเกงขายาว หุ่นมันดีนะ ลีน ๆ มีกล้ามเนื้อกำลังเหมาะ ไม่เหมือนไอ้มาร์ติน ซิกแพ็คชัดมาก ตัวก็ใหญ่ แต่ไหงไม่มีใครจิ้นผมกับมันเลย
“มันแซว”
“หึ ๆ เห็นกันด้วยเหรอ”
“ไม่เห็นก็ตาบอดแล้ว พี่ไม่หนาวเหรอ ไปใส่เสื้อสิ”
“ไม่เอาอะ มีเรากันอยู่สองคน ไม่อาย”
มันปากดี นั่งลงมาเบียดผมอีก แทบจะเกยกันอยู่แล้ว โอ๊ยย ยังมากอดอีก เอาหัวมึงออกป๊ายยย มาซุกคอกูทำม้ายยย
“โอ๊ยผัวครับ ทั้งวันเลยนะครับวันนี้”
“ก็เมียน่ารักอะ ชอบผมทรงนี้ที่สุดเลย ชอบลุคนี้ด้วย ใส่เสื้อครอป ทับด้วยสเวตเตอร์ โคตรน่ารัก นึกถึงวันแรกที่เจอกันเลย”
กลอกตามองบน คุณมึงก็หลงกูทุกลุคนั่นแหละ
เอาล่ะ!
คุณคงจะตกใจ ว้อทแฮปเพ่นวิทยู??
ไอจะบอกก็ได้
คือเราคบกันจริง เป็นคู่ผัวตัวเมียร่วมเตียงกันมาตั้งแต่เป็นเด็กฝึก...นั่นล่ะครับท่านผู้ชม
•
ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่....ตอนที่เราเผลอสบตากันแล้วต้องรีบหันไปมองทางอื่น ตามมาด้วยใบหูแดง ๆ ที่เด็กอนุบาลยังดูออก
ผมเดาว่าสำหรับตัวผมเอง น่าจะเริ่มจากวันที่เราเลิกซ้อมช้ามาก เลยข้าวเที่ยงไปแล้ว โรงอาหารจึงไม่มีข้าวเหลือ เราสองคนที่ยังเป็นเด็กฝึกหน้าใหม่...อาจจะประมาณได้สองเดือนมั้ง จึงออกไปซื้อข้าวแช่แข็งในร้านสะดวกซื้อมานั่งกินกันที่บันไดทางเดิน เพราะว่าเย็นดี แล้วก็แคบดี ดีกว่าในโรงอาหารโล่ง ๆ เหมือนหนังสยองขวัญ
วันนั้นเราคุยกันหลายเรื่องมาก ทั้งเรื่องหนัง เพลง ที่เรียนพิเศษ ที่ซ้อมเต้น เครื่องดนตรี การ์ตูน ผมไม่คิดว่าผมจะคุยได้เป็นต่อยหอยขนาดนั้น จากวันนั้นผมก็ชอบคุยกับเขา ชอบมาก ๆ เวลาเดินผ่านก็อดไม่ได้ที่จะใจเต้น แต่สมองก็สั่งปากให้ทักทุกครั้ง และไม่มีครั้งใดเลยที่เราจะหมดเรื่องคุยกัน
ผ่านไป 1 ปี ...ผมในวัยขบเผาะก็รู้สึกอยากเปิดเผยตัวตนสักที ช่วยไม่ได้นะ อยู่ไปมันอึดอัด แล้วเขาล่ะ...เขายังอมพะนำ ไม่เห็นสื่อสารใด ๆ นอกจากสกินชิพที่ทำให้ผมมีความหวังขึ้นทุกวัน เดี๋ยวก็กอดบ้างล่ะ เดี๋ยวก็ลูบหัวบ้างล่ะ ถามจริง ใครไม่แพ้คนลูบหัววะ
ถ้าพี่เขาเป็นแฟนผม มันต้องดีมากแน่เลย ผมอายุ 15 แล้วนะ เป็นเวลาเหมาะสมที่ต้องมีแฟน พ่อแม่เข้าใจไหมครับ
“แต่มันยังเร็วไปนะลูก”
ดูสิ ท่านตอบมาอย่างเงี้ย ไม่เข้าข้างผมเลย!
จนวันหนึ่ง...วันที่ผู้จัดการพาไปดูคอนโดที่เด็กฝึกที่ในอนาคตจะได้ร่วมวงกัน ผมเตรียมสถานการณ์เอาไว้แล้วว่าให้พี่ผู้จัดการนอนคนเดียว ส่วนผมกับพี่ตั้นสองคนนอนห้องเดียวกัน งอแงเข้าไปเยอะ ๆ เขาแพ้ลูกอ้อนเรา เพราะปกติผมจะนอนกับพี่ผู้จัดการเวลานอนตามโรงแรม ทุกคนน่าจะคิดว่าผมต้องนอนด้วยอีกแน่ ถึงจะสนิทกับพี่ตั้น แต่ผมไม่เคยนอนด้วยกันเลยนะ มันเขินน่ะ พี่ตั้นก็เหมือนกัน...ชอบเขิน แล้วก็ทำตัวแรด ๆ กลบเกลื่อน เป็นผู้ชายตลก เป็นผู้ชายสายอ่อย ...โคตรน่ารักเลย
เอาล่ะ ๆ เลิกเพ้อก่อน
เป็นไปตามแผน ผมได้นอนกับพี่ตั้นที่วิ่งเข้าห้องน้ำไปแล้ว
“ปิ๊ก ๆ พี่ลืมผ้าขนหนูว่ะ เอาให้พี่หน่อย”
บ...บ้า! เหตุการณ์มันเป็นใจขนาดนี้เลยเหรอวะ พี่มันอ่อยปะวะเนี่ย ไม่ได้ ๆ เขินไปก็เท่านั้น ยังไงก็ต้องส่งผ้าให้อยู่ดี
ผมหยิบผ้าขนหนูออกมาจากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ รีบหยิบ รีบปิด เพราะเห็นกางเกงในแล้วใจหวิว พี่มันเป็นเกย์หรือเปล่าก็ไม่รู้ พยายามไม่คิดเข้าข้างตัวเองนะเนี่ย
“ได้ยัง”
พี่มันแง้มประตู ยื่นหน้าออกมาเล็กน้อย ผมได้กลิ่นสบู่หอมละมุน รู้สึกหน้าร้อนมาก ๆ ร้อนไปทั้งคอ
“อะนี่”
“ตัวแดงนะเรา”
พูดเฉย ๆ ก็ได้ ทำไมต้องยิ้มมุมปากด้วย!
“ไปอาบต่อสิ!”
หันตูดให้แม่ง
ทำไงดี ๆ เราอายุ 15 แล้ว พ่อแม่ก็ห้าม แต่หัวใจมันเรียกร้องอยากมีแฟน เพื่อนมันมีแฟนกันหมดแล้วยกเว้นเราที่เป็นเด็กฝึก แล้วการเป็นเกย์เนี่ย ต้องหาแฟนยากแน่เลย ผู้ชายในประเทศไทยมีน้อย คนที่ชอบผู้ชายด้วยกันที่อายุเท่า ๆ เราก็ต้องน้อยลงไปอีก ถ้าให้ไปจีบลุงอายุ 20 ก็หยึย ๆ อะ ไม่รู้จะคุยอะไรด้วย มีแต่พี่ตั้นเท่านั้นแหละที่รู้สึกดี...ดีมาก ๆ เลย
“นอนกลิ้งที่นอนเละหมดแล้ว”
“พี่ยุ่งอะไรด้วยล่ะ เตียงก็คนละเตียง”
ผู้จัดการเราน่ะแสนรู้ หาเตียงเดี่ยวให้ซะงั้น ฮึ่มม
“เถียงเหรอ นี่แน่ะ”
“ฮ่า ๆ ๆ โอ๊ยพอแล้ว”
มันจี้ผม จี้เอว จี้เท้า คร่อมทับมาทั้งตัว ไม่รู้รึไงว่าตัวหนัก
“ตัวหอมจัง”
พูดพร้อมเกลี่ยปลายจมูกลงบนแก้ม แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะหอมนะ วันนี้ไม่ได้ทาแป้ง
พี่ตั้นคลอเคลียไปเรื่อย ตอนแรกผมก็คิดว่าแกเล่นสกินชิพตามประสา แต่จู่ ๆ สายตาเราก็ประสานกัน ในตอนนั้นเองที่ร่างกายของผมก็รับรู้ได้ถึงท่วงท่าของเรามันน่าชวนคิดลึก และสายตาของพี่เขามันไม่ใช่...พี่น้อง
“พี่ว่าเราคิดตรงกันนะ”
“บ...บ้า”
“หึ ๆ บ้าอยู่แล้วว่ะ”
จบคำ พี่มันก็หอมแก้มผม หอมลึก หอมนาน ไม่รู้เอาอะไรไปหอม ผมหน้าแดงเห่อร้อนไปทั้งตัว มือเจ้ากรรมก็ไม่เล่นตัวสักนิด กอดตอบเขา เข้าใจแล้วว่าทำไมคนชอบกอดกัน รู้สึกดีมาก ๆ
แต่เราก็ไม่มีอะไรเกินเลย...
ซึ่งผมคาดหวังนะ จิตฟุ้งซ่านไปหลายตลบ ขอตัวไปอาบน้ำบ้าง พอคิดมากเข้า แล้วทฤษฎีมันแน่นอก ผมก็เลยล้างตัวทุกซอกทุกมุมทั้งข้างในข้างนอก แบบว่ามันไม่มีอะไรทำอะ
พอออกมา พี่ตั้นก็หลับไปแล้ว ผมหยิบน้ำเปล่าที่พี่มันรินใส่แก้วไว้บนหัวเตียงมาดื่ม ช่างใส่ใจจริง ๆ เฮ้อ! เขินสายตาที่เขามองเราจัง ถ้าใครเห็นก็ต้องคิดว่ารักเรามาก ก็รักเรามากนั่นแหละน่า ถึงจะยังไม่พูดก็เถอะ ...พี่ตั้นนะพี่ตั้น เก็บสายตาบ้างดิ
โอ๊ย เขินโว้ย!
ผมลงนอนบนเตียงเดียวกัน นอนแคบ ๆ นี่แหละ อยากอยู่ใกล้ ๆ อยากชิด ๆ ให้เนื้อแนบเนื้อ ชอบกลิ่นตัวพี่เขา กลิ่นปากก็หอม ชอบร่างกายที่พอเหมาะพอดี สูงพอกัน แขนขาไม่เก้งก้าง หน้าตาก็หล่อ โธ่เอ๊ย! ไม่มีอะไรที่เราไม่ชอบเลย มีที่ติบ้างสิพ่อคุณ
เราสองคนคงเกิดมาคู่กันนั่นแหละ
“นอนได้เหรอ”
จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงจากคนที่คิดว่าหลับไปแล้ว
“ได้สิ พี่ล่ะอึดอัดมั้ย เอาเตียงมาต่อกันไหมล่ะ”
“พรุ่งนี้ดีกว่า ขี้เกียจ”
จากนั้นพี่ตั้นก็พลิกตัวตะแคงมามองผม ไม่รู้ทำไม มองผมทีไร ต้องยิ้มทุกครั้ง ไม่เมื่อยปากเหรอ
“ถ้าปิ๊กถามอะไรสักอย่าง พี่จะตอบตรง ๆ ปะ”
“อืม ถามสิ”
“พี่ก็ชอบผู้ชายเหรอ”
“ไม่รู้สิ ไม่เคยชอบใครนะ”
“จริงดิ พี่เนี่ยนะ”
“จริง แล้วเราล่ะเคยชอบใคร”
“ก็หลายคน สมัยอนุบาล กับประถม เป็นผู้ชาย”
“แสดงว่ารู้ตัวเร็วกว่าพี่น่ะสิ”
“งั้นมั้ง”
“แล้วเคย...มั้ย”
“ย...ยัง”
ถามแบบมีนัยยะ ผมที่ใสซื่อน่ะไม่รู้ร้อกก
“เมื่อวาน...ลองซื้อมา ไม่เคยใช้หรอกนะ แต่ว่าอยากรู้—ที่พี่หายไปตอนเย็นอะ—”
“พี่เอาปิ๊กได้นะ”
“เฮ่ยพูดตรงจัง”
“ถึงพ่อแม่จะสอนมาแบบผู้ดี แต่ปิ๊กก็ชอบคบกับเพื่อนสายเถื่อนน่ะ”
นอนติดกันขนาดนี้ ถ้าพี่ไม่รู้สึกอะไร ผมจะงอนมาก ๆ เลย
เราหน้าตาดี นิสัยก็ดี เข้ากันก็ได้ เหลืออย่างเดียวจะเข้ากันไหมไม่รู้ ยังไงก็ต้องลอง
พี่มันเห็นผมกัดปากยั่ว เลยกระโดดออกจากเตียงไปที่กระเป๋า หยิบขวดอะไรสักอย่างเป็นแท่ง ๆ ทรงกระบอก กับกล่องทรงสี่เหลื่ยมจัตุรัสมันวาวยามกระทบแสงไฟ
“มันจะแปลกไหมถ้าเราทำกันตั้งแต่วันแรกที่คบกัน”
“ไม่รู้”
ผมตอบตามจริง
พี่ตั้นพยักหน้าหงึกหงัก แต่ยังคงเดินปรี่เข้ามา มันวางสองสิ่งนั้นลงข้างผม เห็นแล้วว่าเป็นเจลหล่อลื่นกับกล่องถุงยาง
“พี่ไม่เคยนะ นี่เป็นครั้งแรก ไม่เคยใส่ถุงยางด้วย”
พูดแค่นั้น พี่ตั้นก็ขึ้นคร่อมผม ใช้ปลายจมูกโด่งกับปากสีชมพูกระจับสัมผัสไปทั่วทั้งคอ จากนั้นจึงถอดเสื้อผ้าออกหมดเลยทั้งสองคน มันเงอะงะด้วยความเขินอาย พี่ตั้นจึงเปิดแค่โคมไปดวงเดียว มีแค่แสงสลัว จะได้ไม่อายมาก ผมก็ไม่กล้ามองเต็มตาเท่าไหร่ด้วย ได้แต่จับของสงวนของกันและกัน ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก หัวใจเต้นแรงมาก เหมือนใช้พลังงานมากกว่าซ้อมเต้น
“เสียว...กว่าทำเองอีก”
เสียงฮึมฮำแทบฟังไม่ได้ศัพท์
“ตรงข้างล่าง..ปิ๊กว่าต้องทำให้มันชินก่อน”
เจลอุ่นไหลออกมาจากขวด พี่มันเข้าใจเลือก นึกว่ามีแต่เจลเย็นอยู่บนโลก ผมบีบใส่มือตัวเองนิดนึง เสียดายของ แล้วลูบ ๆ ตรงปากทางเข้าด้านล่าง มีพี่ตั้นนั่งมองด้วยสายตาหื่นมาก
“ให้พี่ช่วยมั้ย”
“ขอปิ๊กทำก่อน”
ผมกลัวเจ็บน่ะ แค่นิ้วเดียวมันก็ไม่เข้า พยายามทำใจให้สบาย ผ่อนคลายมากขึ้น บีบเจลใส่อีกนิด แล้วค่อย ๆ กดนิ้วเข้าไป
“โอ๊ย ๆ ๆ ๆ”
เจ็บเห้ ๆ
ฮือ...พ่อจ๋า แม่จ๋า เจ็บมาก ๆ
“เจ็บมากเลยเหรอปิ๊ก”
“อือ”
เจ็บนะ แต่ผมยอมไม่ได้!
นิ้วชี้ค้างอยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนที่ผมจะขยับมันไปมา ถึงได้รู้สึกแปลก ๆ เวลาที่นิ้วกระทบผนังอ่อนนุ่ม ถ้าโชคดีอาจเจอจุดเสียวก็ได้ แต่ไม่น่าเจอ เพราะไม่ถนัด
“พี่ตั้นทำให้ปิ๊กทีสิ...เทเจลเยอะ ๆ นะ”
พี่ตั้นน่าจะเป็นงานกว่า เพราะเห็นเราลองผิดลองถูกมาแล้ว
คราวนี้พี่แกนวดตรงปากทาง แล้วกดนิ้วชี้เข้ามา ดึงเข้าออก ผมหายใจแรงขึ้น พี่มันเหมือนได้ใจ ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสองนิ้ว
“อือ...”
มันก็เพลินดีนะ แต่ความเจ็บหนึบ ๆ ยังคงอยู่
“เจ็บมั้ย”
“ไม่ค่อย...อะ...อ๊า!”
“ตรงนี้เหรอ”
“อ๊า! อ๊า! พี่ตั้น!..พ..พอ !”
แฮ่ก ๆ เมื่อกี๊คืออะไร ...ตาแทบเหลือก
รู้สึกประหลาดมาก...นี่หรือความความเสียว หรือมันคือจุดสุดยอดอีกรูปแบบหนึ่ง แต่มันก็ไม่สุดนะเท่าที่เคยผ่านประสบการณ์แม่นางทั้งห้าด้านหน้ามา
“ไหวมั้ย”
“ไหว ๆ สุดยอด—พี่ใส่ของพี่เลยก็ได้นะ คงไม่เจ็บมากหรอก”
ใจร้อน ผมอยากเจอของจริงนี่นา ลองมานานแล้ว ดึกแล้ว
พี่ตั้นมันก็คงจะอยากเต็มที่ ไอ้นั่นแข็งปั๋งเลย เขาใส่ถุงยาง แต่ทำไมทำหน้าแบบนั้น
“แปลก ๆ อะ พี่ใส่ถูกหรือเปล่า”
“ไม่รู้ น่าจะถูกนะ ปิ๊กก็ไม่เคยใส่ มันเป็นไง”
“เหมือนเอาถุงมาครอบ แน่นวะ รู้สึกไม่ธรรมชาติเลย พี่ใส่ผิดแน่ ๆ”
ว่าแล้วมันก็ถอดทิ้ง แล้วฉีกอีกถุงใส่ใหม่
“ไม่ใช่แล้ว ถุงแม่งกาก”
“ห้ะ?”
“พี่คงซื้อของกาก ๆ มาว่ะ”
“งั้นไม่ต้องใส่ก็ได้นะ”
ผมสงสารมากเลย ไอ้นั่นเหี่ยวลงไปนิด ๆ คงรู้สึกไม่ดีจริง ๆ
ก็นะ มันคือถุงนี่นา ถุงที่ต้องครอบอวัยวะของเรา แค่เอาพลาสติกคลุมหัวตอนฝนตกยังรู้สึกประหลาดเลย
“งั้นพี่สดนะ แต่จะรีบเอาออกไว ๆ จะได้ไม่ท้อง”
“ไอ้บ้า เอาออกมาแตกข้างนอกก็ท้องได้ คิก”
นี่เราพูดเรื่องอะไร ขำกันอยู่สองคน ผมรักพี่ตั้นจัง
อุ๊บ! เราพูดว่า ‘รัก’ เหรอ
สุดยอดไปเลย
ผมรักแฟนตัวเอง!
“พี่จะทำเบา ๆ นะ”
“อื้ม”
ผมนั้นช่างใสซื่อ
ไม่รู้เลยว่าลมปากของคน...มันเชื่อไม่ได้
(เป็นครั้งแรกที่ทำเอาซ้อมเต้นไม่ได้ไปสามวัน ต้องหลอกผู้จัดการว่าป่วย แต่สายตาแกบอกว่า ฉันรู้นะ พวกแกทำอะไรกันในห้องข้าง ๆ คืนนั้น เพราะร้องดังมาก)
•