F.L.Y. Fall in Love with You
Chapter 3.5: Fly with me.
แสงแดดอ่อนยามเช้าลอดผ่านมู่ลี่มากระทบเปลือกตาทำให้หมอแพทเริ่มรู้สึกตัว แพขนตาหนาขยับขยุกขยิกก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ คุณหมอตัวเล็กต้องประหลาดใจแต่เช้าเมื่อพบว่าตนนอนขวางอยู่กลางเตียง โดยไม่มีใครอีกคนอยู่ด้วย จึงได้แต่ลุกขึ้นนั่ง กวาดตามองไปรอบห้องอย่างงุนงง
"ติ๊ก” เรียกหาอีกฝ่าย แต่อาจเพราะเพิ่งตื่นนอน เสียงจึงแผ่วเบาคล้ายกำลังพึมพำกับตัวเองเสียมากกว่า จึงไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่ายที่เรียกหา
กึก ๆ กึก ๆ
แต่กลับได้ยินเสียงแปลก ๆ เมื่อชำเลืองมองตามเสียงนั้น จึงพบว่ามีบางอย่างขยับไหว ๆ อยู่ที่ระเบียงนอกห้อง หมอแพทขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง เดินไปเลื่อนประตูกระจกที่เชื่อมไปสู่ระเบียงกว้าง
"เหวอ!!!" คุณหมอต้องสะดุ้งจนเผลอร้องอุทาน เมื่อมีของบางอย่างจำนวนมากมายลอยโฉบผ่านสายตาไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งแหงนหน้ามองตามจึงพบว่าเป็นลูกโป่งสีขาวกลุ่มใหญ่กำลังลอยตัวขึ้นไปสูงลิบลิ่ว
และเมื่อกลับมามองที่ระเบียง ยังพบว่ามีลูกโป่งแบบเดียวกันมัดติดกับราวระเบียงเรียงแน่นเป็นแถวยาว ขยับเคลื่อนไหวตามแรงลมพัดโบกอย่างเป็นอิสระ มองแล้วก็ขาวละลานตาไปหมด
แต่กระนั้นก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาช่างสำรวจของคุณหมอ เขาพบว่าใบลูกโป่งสีขาวนวลนั้นมีตัวหนังสือเล็ก ๆ เขียนติดอยู่ จึงเดินไปไล่อ่านทีละใบ ๆ จนหมด พบว่ามันสามารถเรียบเรียงเป็นประโยคได้
'WILL YOU FLY WITH ME?'
หมอแพทนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะอมยิ้มจาง ๆ ยืนกอดอก และเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ "ติ๊ก ออกมา”
ไม่มีเสียงใครตอบกลับอย่างที่คาดไว้ แต่มีเครื่องบินบังคับลำเล็กมาบินอยู่ด้านบน บินวนไปรอบ ๆ หน้าหวานอมยิ้มให้กับของเล่นประจำห้อง ที่ไม่มีใครได้แตะนอกจากพวกเขาสองคน แต่คราวนี้กลับมีสิ่งที่สะดุดตาคุณหมอ นั่นคือม้วนกระดาษที่ถูกผูกติดไว้ใต้ท้องเครื่อง ด้วยขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กนั้นทำให้มองเห็นได้ชัดแม้อยู่สูง
ไม่นานเครื่องบินค่อย ๆ ลดระดับลงมาทีละน้อย แต่ดูเหมือนจะไม่ทันใจ คุณหมอจึงพยายามเขย่งตัวขึ้นไขว่คว้า แต่มันก็ไม่ง่ายนักเมื่อเจ้าของเล่นประจำห้องก็บินหลบเลี่ยงได้อย่างจงใจ หมอแพทมีอาการฮึดฮัดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ยอมแพ้ ร่างเล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่งไล่จับจนได้มาครอบครองในที่สุด
มือเล็กกระตุกเอาม้วนกระดาษต้องสงสัยนั้นออกมาคลี่ดูทันที รายละเอียดที่ซ่อนอยู่จึงปรากฎต่อหน้า ให้ได้ทราบว่าเป็นใบสำรองที่นั่งเที่ยวบินแบบไปกลับ ชั้น First Class
"มัลดีฟ?...พรุ่งนี้?” คู่ตาหวานเบิกกว้าง ปมคิ้วขมวดเข้าหากัน ก่อนจะค่อยพรายยิ้ม เมื่อเข้าใจความหมายของมัน
"ติ๊ก ออกมาได้แล้ว” คุณหมอกอดอกเรียกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทว่าอีกฝ่ายกลับยังเงียบและไม่ยอมเผยตัว
คุณหมอจึงได้แต่ยืนกอดตัวเองนิ่ง ๆ เปลือกตาค่อย ๆ ปิดลง ยืนรอการตอบรับจากอีกฝ่ายอย่างใจเย็น
ทันทีที่ได้ยินเสียงขยับฝีเท้า หมอแพทลืมตาโพลงแล้วหันตัวกลับไปมองทันใด!
"แพทอ้ะ!!” และเป็นไปตามคาด ภาพปรากฎตรงหน้าคือชาญวิทย์หยุดชะงักในท่าเดินย่อง สองแขนกางกว้างเพื่อเตรียมจะสวมกอด นั่นทำให้คุณหมอตัวเล็กระเบิดเสียงหัวเราะออกมาชุดใหญ่
ชาญวิทย์สีหน้ากระเง้ากระงอด "ทำไมต้องรู้ทันตลอดเลย”
คุณหมอพยายามกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ ก่อนจะหันตัวกลับ และแสร้งทำหน้าเหรอหรา "เอ...ติ๊กหายไปไหนนะ เรียกก็ไม่ยอมออกมา”
"แพทอย่าตอกย้ำได้ป้ะ?”
"ทำไมเราเรียกแล้วก็ไม่ออกมา ถ้านับหนึ่งถึงสามแล้วติ๊กไม่ออกมา เราจะทำไงดีล่ะ?”
ชาญวิทย์มองการแสดงของอีกฝ่ายด้วยสีหน้าออกบึ้งตึง ขณะที่หมอแพทยังทำท่าชะเง้อมองซ้ายทีขวาทีอยู่อย่างนั้น จนท้ายที่สุดเป็นเขาเองที่ต้องถอนหายใจเฮือกยาว ก่อนเดินเข้าไปสวมกอดร่างเล็กจากด้านหลัง ค่อย ๆ กระชับวงแขนโอบล้อมอีกฝ่ายอย่างทะนุถนอม
"เราอยู่นี่แล้ว” กระซิบบอกข้างหู หมอแพทค่อย ๆ ปล่อยตัวตามสบาย ทิ้งน้ำหนักไปด้านหลังพิงร่างสูงใหญ่เอาไว้ โดยชาญวิทย์ยังคงยืนได้อย่างมั่นคง
"จำได้ไหม? แพทเคยบอกเราว่า แพททำได้ทุกอย่าง ยกเว้นขับเครื่องบิน”
"อืม” คุณหมอตอบพึมพำในลำคอ เอียงแก้มซบอกกว้าง ชาญวิทย์จับมือคู่เล็กเอาไว้มั่น
"เราอาจจะช่วยให้แพทขับเครื่องบินไม่ได้ แต่เราพาแพทบินไปกับเราได้” กัปตันหนุ่มค่อย ๆ ดึงตั๋วเครื่องบินใบมือหมอแพทออกมากางให้ดูอีกหน
"ทำไมถึงเป็นมัลดีฟ...แล้วทำไมมีที่นั่งเดียว?” คุณหมอถามคนรัก ชาญวิทย์กระชับยิ้ม
"เพราะไฟลท์นี้เราคุมเองทั้งเที่ยวไปเที่ยวกลับ ถึงแม้จะไม่ได้นั่งข้างกัน แต่แพทจะบินไปพร้อมกับเรา...เราอยากให้แพทนั่งเครื่องที่เราขับนะ”
"ติ๊ก...” หมอแพทหันไปหาคนรักด้วยสีหน้าลำบากใจ
"แต่เราติด...”
"ไม่ติดหรอก"
"ฮะ?”
"งานน่ะไม่ติดหรอก เราแลกเวรให้แล้ว”
"!!!” คุณหมอถึงกับสะดุ้งจนตาเบิกโพลง วินาทีต่อมาจึงขืนตัวออกจากอ้อมกอดคนรัก แต่กัปตันไม่ปล่อยให้หลุดออกไปได้
"แลกเวร...ได้ไง?”
"ต้องได้ดิ ให้ไอ้กานต์จัดการให้หมดแล้ว วันนี้แพทไม่ต้องไปทำงาน และจากนี้อีกหนึ่งอาทิตย์ก็เป็นวันหยุดพักร้อน ทุกอย่างคอนเฟิร์มแล้ว จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว” ตอบพร้อมอธิบายอย่างยาวด้วยน้ำเสียงเริงร่า
"...ทำไมไม่บอกเราก่อน”
"บอกก่อนแพทก็ปัดเราสิ”
"...” หมอแพทไม่โต้ตอบว่ากระไร แต่หันหน้าหนี ก้มหน้าลงและนิ่งเงียบ ชาญวิทย์เริ่มรู้สึกได้ว่าคนรักตัวเล็กของเขากำลังโกรธ เขากอดหมอแพทเอาไว้แน่น
"เราขอโทษที่ทำอะไรไม่บอกก่อน เราแค่อยากให้แพทตื่นเต้น แพทเองก็ทำงานเหนื่อยมาทั้งปีแล้ว จะได้พักผ่อนด้วยไง”
หมอแพทไม่ตอบว่ากระไร เงียบกันไปนานจนชาญวิทย์เริ่มใจไม่ดี และเวลาต่อมาร่างเล็กก็ค่อย ๆ ขืนตัวออกจากอ้อมกอดเขา นั่นทำให้กัปตันหนุ่มต้องสลด ยืนคอตกทำหน้าจ๋อย
"กระเป๋าอะ?”
แต่แล้วคำถามทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่างเล็กที่หยุดอยู่ข้างประตู ชาญวิทย์ตีคำถามกลับไป "กระเป๋าอะไร?”
คำตอบถูกส่งออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
"กระเป๋าเดินทางเราไง”
และกัปตันหนุ่มก็ถึงบางอ้อ เพียงเท่านั้นรอยยิ้มก็ผุดพรายเต็มหน้า ดีใจจนหน้าบาน ดีใจมากจนทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อตั้งสติได้ ก็ว่าจะวิ่งไปกอดคนรักให้แน่นสักที
"หยุด!” ทว่ายังไม่ทันได้ออกก้าวแรกกลับถูกสั่งเสียงเข้ม ชาญวิทย์หยุดชะงักทันทีและมองหน้าอีกฝ่ายอย่างงุนงง คุณหมอตัวเล็กสีหน้าเคร่งขรึม ยกมือชี้มาทางเขา "หยุดอยู่ตรงนั้น อยู่เฉยๆ ยืนตรงๆ"
เขาทำตามอย่างว่าง่าย ขณะที่หมอแพทนิ่งเงียบ
แต่ท้ายที่สุดหน้าหวานก็ฉีกยิ้ม...
หมอแพทวิ่งมาหาเขา และกระโดดกอดเขา จนตัวเซไปชิดระเบียง
"ติ๊กกอดเรามาเยอะแล้ว ให้เรากอดติ๊กบ้างนะ”
ได้ฟังคำอธิบายแล้วชาญวิทย์รู้สึกหัวใจเต็มตื้น เขาหัวเราะแผ่ว ก่อนจะกอดตอบเช่นกัน ขณะที่หมอแพทหลับตาพริ้ม ท่ามกลางสายลมและลูกโป่งสีขาวที่ขยับพลิ้วไหว ช่วยเสริมให้ภาพอ้อมกอดนี้สวยงามไร้ที่ติจริง ๆ
ในเวลาต่อมา ชาญวิทย์ฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้ และนั่นทำให้เขาพรายยิ้มกว้าง
'วิธีทำมีหลายทางให้เลือก แต่คำตอบสุดท้ายมีเพียงหนึ่งเดียว'
"แพท...”
"หืม?”
"นั่นแหละ”
"หือ??”
Fin. และแล้วก็จบบริบูรณ์ ฮือ~ น้ำตาไหล
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องราวของหมอแพทและกัปตันติ๊กนะคะ
ถึงจะเป็นระยะเวลาสั้นๆ แค่หนึ่งเดือน แต่ก็รู้สึกเหมือนแต่งเรื่องนี้มาแล้วยาวนานมากกกก ๕๕๕๕
เรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีนายเอกของเรา ขอบคุณพี่หมอเกาลัด ที่ให้น้องยืมตัวมาเล่นนะคะ
ที่จริงก็แอบขอบคุณเพจคุณนักบินคนนึง ที่ศรีไปเก็บข้อมูลมาอย่างเงียบๆ
เรื่องนี้บอกเลยว่าแต่งยากค่ะ อาชีพตัวละครเฉพาะทางมาก และตัวศรีเองก็ห่างจากงานเขียนมาหลายปี
ก็ดีใจนะคะ ที่ได้รู้ว่ามีคนติดตามเรื่องนี้อยู่ แต่งไป ๆ เลือดหมดตัว รู้สึกเหนื่อย ก็อาศัยเข้ามาอ่านคอมเม้นนี่แหละค่ะ
เหมือนได้ยาชูกำลังชั้นดีเลย ขอบคุณจากใจจริง ๆ ค่ะ
และวันนี้ศรีก็มีข่าวมาประชาสัมพันธ์ด้วยว่า FLY มีแผนจะรวมเล่มค่า~
ใครที่สนใจ เดี๋ยวไว้ศรีจะเอารายละเอียดมาลงในนี้ให้อีกทีนะคะ
จะเข้าไปอ่านจากหน้าโน้ตในเพจของศรีก่อนก็ได้ หรือเข้าจากลิ้งก์นี้ค่ะ
http://on.fb.me/1cXl1PUปล.มีคำผิดไหมหลงมาคะ รบกวนผู้เชี่ยวชาญเหมือนเดิมค่ะ ๕๕๕๕