สวัสดีครับ
สงกรานต์ปีนี้อุตส่าห์นั่งอยู่ที่ข้างประตูบ้านยังโดนสาดน้ำและประแป้ง แต่คนที่มาสาดน้ำและทาแป้งนี่สิ เฮ้อ...เสียดายจริงๆ
หวังว่าทุกคนคงได้เปียกกันทั่วหน้านะครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ
ตอนพิเศษ 3
อัสนัย VS. ตฤณอัสนัยกำลังเดินออกมาจากประตูด้านหน้าของห้องประชุมแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นคนที่ยืนพิงรถเบนซ์สีดำคันใหญ่รอเขาอยู่ด้านหน้าสโมสรตำรวจ ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกๆ แล้วทำใจสู้เสือ เดินตรงเข้าไปหาคนหน้าขรึมช้าๆ
"ผมบอกแล้วไงว่าจะกลับเอง" อัสนัยหน้ามุ่ยเมื่อเดินไปถึง
"ผมก็บอกแล้วว่าจะมารับ และไม่อยากให้ไปต่อกับเพื่อนของสารวัตรอธิคม"
"หึงหรือ" อัสนัยยื่นหน้าเข้าไปถามตฤณ
"เพื่อนกลุ่มเดียวกันกับสารวัตรก็คงไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่" ตฤณหน้าเคร่ง เสียงเข้ม
"เหมือนกันตรงไหนไม่ทราบ"
"ความเจ้าชู้ไง" ตฤณตอบห้วนๆ พร้อมยักไหล่ "ถ้าผมเดาไม่ผิด"
"อ๋อเหรอ ไม่ยักรู้" อัสนัยพยักหน้าช้า จงใจกวนอารมณ์ตฤณ "งั้นคุณตฤณก็คงกลัวว่าเขาจะมอมเหล้าผมแล้วทำมิดีมิร้าย"
"เชิญขึ้นรถ ผมร้อน" ตฤณตัดบท ไม่สนใจคำกระทบกระเทียบของอัสนัย
"ผมอยากเที่ยว" อัสนัยหน้ามุ่ย ทำท่าฮึดฮัด ในใจนึกอยากจะลงไปนอนดิ้นกับพื้นเหมือนเด็กๆ อยากได้ของเล่น "อย่ามาขัดใจผมนะ"
"ทำไมต้องเที่ยวคืนนี้ ก็รู้อยู่ว่าผมจะมารับ" ตฤณทำเสียงแข็ง จ้องตาอัสนัยอย่างคาดคั้น
"จะบังคับให้ผมกลับไปนั่งอ่านหนังสือพิมพ์เป็นเพื่อนให้ได้เลยใช่ไหม" อัสนัยทำปากยื่นอย่างไม่สบอารมณ์
"คุณจะทำอย่างอื่นก็ได้ จะดูทีวีหรือจะ..."
"เล่มเกมเศรษฐี หรือสแกรมเบิ้ล" อัสนัยเบ้ปาก แทรกคำพูดตฤณด้วยเสียงเนือยๆ
"อัสนัย" ตฤณทำหน้าดุ เรียกชื่อแฟนเสียงเข้ม
"ครับ" อัสนัยขานรับ ถอนหายใจแรงๆ ในใจรู้สึกเหมือนมีพ่อมาคุมยังไงยังงั้น
"คุณตฤณ ขอคืนนี้คืนเดียว ขอให้ผมไปเที่ยวเถอะ ผับเปิดใหม่ วันนี้เหล้าฟรีโต๊ะละขวด สารวัตรกวิณบอกว่ามีเหล้านอกตัวใหม่มาให้ลองด้วย ไม่ต้องห่วง ถ้าคุณหวงผมมากนัก ก็ไปนั่งเฝ้าผมก็ได้"
"ผมง่วงนอน" ตฤณตอบสั้นๆ
"ผมยังไม่ง่วง กำลังคึก" อัสนัยทำตาวาว
"นอกจากสารวัตรกวิณแล้วมีใครอีก"
...จะไปรู้หรือ จะให้เขียนรายชื่อคนที่ไปเที่ยวด้วยกันออกมาหมดทุกคนแล้วทำเอกสารเสนอเซ็นอนุมัติหรืออย่างไร...
"ก็มีเพื่อนของสารวัตรกวิณ มีแฟนของเพื่อนสารวัตร แล้วก็เพื่อนของแฟนของเค้า แล้วก็คุณชาคริต"
"ชาคริตเพื่อนของสารวัตรอธิคม เจ้าชู้หนักพอๆ กันสารวัตรธงรบหรืออาจจะหนักกว่า" ตฤณพูดเสียงเรียบ
...รู้ได้ยังไงนี่ ตฤณนี่หูตาเป็นสับปะรด...
...แล้วนี่จะรู้หรือเปล่าว่าชาคริตกับเขาเคยกับอยู่พักหนึ่ง...
"คุณตฤณครับ กลบไปรอที่บ้านเถอะ ผมกลับไม่ดึกหรอก" อัสนัยเล่นบทออดอ้อน เมื่อดื้อรั้นไม่ได้ผลก็ต้องใช้วิธีนี้
"ผมทำงานหนักและเครียดมานาน อยากไปผ่อนคลายบ้าง ไปเที่ยวกับคนรู้จักกัน ดีกว่าไปกับคนที่ไม่ค่อยสนิทกันนี่ครับ อีกอย่างผมอายุตั้ง 30 ปีแล้วนะ ไม่ใช่ 18-19"
"ถ้าอายุ 20 ต้นๆ จะไม่ว่าซักคำ เพราะเป็นวัยเที่ยว แต่นี่อายุ 30 แล้ว เป็นวัยอยู่บ้าน" ตฤณสรุป
"ผมอยากไป ทำงานเหนื่อยเครียดมาตั้งนาน ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง" อัสนัยพูดเสียงเรียบ แล้วถอนหายใจเบาๆ ทำท่าอัดอั้นตันใจ
...แบบนี้ตฤณใจอ่อนทุกครั้ง...
"หกทุ่มนะ" ตฤณพูดเบาๆ
...จะบ้าหรือ หกทุ่มจะไปทำอะไรด้ ไม่ทันได้สนุกด้วยซ้ำ...
"หกทุ่มครึ่ง อย่าให้ต้องเป็นซินเดอเรลล่าเลยน่า" อัสนัยต่อรอง แต่ในใจคิดว่าตีหนึ่งครึ่งถึงตีสองถึงจะกลับ
"ผมแค่เป็นห่วง" ตฤณพึมพำ
"รู้แล้ว ถ้าคุณตฤณไม่ห่วงผม ใครจะมาห่วง แต่คืนนี้ขอไปสังสรรค์กับเพื่อนหน่อย คืนพรุ่งนี้จะให้เวลาคุณตฤณทั้งคืนเลย" อัสนัยทำเสียงอ่อนนุ่ม
...สี่ทุ่มหรือไม่เกินสี่ทุ่มสิบห้าตฤณก็นอนแล้ว "ทั้งคืน" ของตฤณนั้นสั้นนัก เขาให้เวลาตฤณทั้งคืนได้สบายมาก...
"ผมจะคอย" ตฤณพูดสั้นๆ แล้วเปิดประตูรถเข้านั่งประทำที่คนขับ
...อะไรกัน หมายความว่ายังไงที่จะคอย จะนั่งคอยมองประตูบ้านหรือยังไง พอเดินเข้าไป เปิดไฟ ก็เห็นคนหน้าดุนั่งกอดอกอยู่บนโซฟาจ้องตาเขม็ง แล้วถามว่า ทำไมกลับดึกเกิดเคอร์ฟิว...
...โอย ไม่ไหวแล้ว พ่อเขายังไม่ดุขนาดนี้...
"รับรองไม่เกิน 6 ทุ่มครึ่งครับ" อัสนัยพูดเอาตัวรอดไปก่อน ในใจคิดว่ากลับเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน ถูกดุหน่อยก็ค่อยทำตาละห้อยขอโทษ ตฤณคงไม่ถึงกับเฆี่ยนด้วยไม้เรียว
...เฮ้อ คิดผิดหรือคิดถูกที่เป็นแฟนกับตฤณเนี่ย...
**************