เห็นค้างกันเยอะเลยเอามาลงให้อ่านกัน อิอิ
บอกแล้ว เรื่องนี้เน้น ฮา มาม่าไม่มี ไม่มีใครเชื่อพิตสักกะคน
ขอบคุณสำหรับ ทุกรี ทุกเม้น นะคะ ขอบคุณมากที่ทำให้นิยาย
พิตต้าคนนี้พ้นหน้า2 ฮ่าๆๆ
รักคนอ่านจังเล๊ย ม๊วฟๆๆตอน 6
(ภาคเซ้นส์)
ผมนั่งมองรูปที่แอบถ่ายตอนกันนอนหลับไว้เป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน ตั้งแต่วันนั้นวันที่กันเลือกที่จะจากไปผมแทบไม่ได้ไปไหนด้วยซ้ำ ใครจะว่าผมอ่อนแอก็คงไม่ผิดทั้งๆที่ผมเป็นคนบอกเองว่ารับได้ทุกอย่างแต่เอาเข้าจริง ผมกลับยอมรับอะไรไม่ได้เลย ผมคิดถึงรอยยิ้ม คิดถึงสัมผัส คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเคยทำกับกัน
ก๊อกๆๆๆ
“เข้ามา”
“บอสครับเกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ ผู้กองกันถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสครับ”
“นายว่าอะไรนะ” ผมวิ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อลูกน้องทันที บอกผมสิว่ากันไม่ได้เป็นอะไร เมื่อกี้ผมฟังผิดไปเองใช่ไหม
“คือเอ่อ คือ ว่า”
“มัวอึกอักอะไรอยู่ว่ะ ไปเตรียมรถสิโว้ย!!” ผมตะโกนก้องก่อนที่คนบอกข่าวจะลนลานออกไป
ผมมาถึงโรงพยาบาลด้วยหัวใจที่แสนกังวล ผมกลัวว่าจะเสียเขาไปชีวิตผมเจอการสูญเสียมามากแล้วอย่าให้ผมต้องเสียกันไปอีกคนเลยนะครับ ถ้ามีใครสักคนต้องตายขอให้มันเป็นผมได้ไหม พระเจ้าครับ ผมยินดีแลกชีวิตที่ไร้ค่าของผมถ้ามันจะทำให้คนที่ผมรักรอดตาย
“ขอโทษนะครับ รตอ กันทรากรอยู่ห้องไหนครับ”ผมวิ่งเข้าไปถามพยาบาลทันที
“เอ่อ ขอโทษนะคะคือเคสนี้ต้องวางระบบรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษให้เฉพาะญาติหรือคนใกล้ชิดเท่านั้นที่เข้าเยี่ยมได้
ไม่ทราบว่า คุณเป็นอะไรกับผู้กองเหรอคะ”คำถามแสนธรรมดาของพยาบาลทำให้ผมพูดอะไรไม่ออก นั่นสิ ผมเป็นอะไรกับกันงั้นเหรอ ตอนนี้แม้แต่คนรู้จักผมก็เป็นไม่ได้ด้วยซ้ำแล้วผมมาเยี่ยมกันในฐานะอะไร ผมได้แต่อึ้งก่อนจะค่อยๆนั่งลงบนโซฟาช้าๆ ผมไม่รู้ต้องทำยังไงจะอยู่ก็ไม่รู้จะอยู่ในฐานะไหนจะไปก็เป็นห่วงอีกคนมากเหลือเกิน
“ภาสวิช”
“พี่โอ๋”
“มานั่งทำอะไรตรงนี้ทำไมไม่เข้าไปเยี่ยมพี่กันล่ะ”
“คือผม ไม่รู้จะไปเยี่ยมกันในฐานะอะไร นิครับ ในเมื่อตอนนี้ผมกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“เฮ้อ พวกนายสองคนเนี่ยน๊า ป่ะไปกับพี่ ถ้าไม่รู้จะไปในฐานะอะไรก็ไปในฐานะน้องชายพี่แล้วกันโอเคไหม”
“ขอบคุณครับพี่” ผมเดินตามพี่โอ๋ไปทันทีก่อนที่พี่โอ๋จะมาหยุดที่หน้าห้องๆนึง พี่โอ๋บอกกับผมว่าอาการของกันยังไม่พ้นขีดอันตรายหมอเลยต้องให้อยู่ในห้องปลอดเชื้อไปก่อนแต่โชคดีที่ถึงคนร้ายจะยิงโดนหน้าอกข้างซ้ายแต่ไม่โดนจุดสำคัญเลยทำให้กันรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ผมเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับหัวใจที่เหมือนถูกค้อนทุบภาพของคนที่ผมรักนอนอยู่บนเตียงรอบๆตัวมีสายระโยงระยางไปหมด มันเหมือนผมโดนใครสักคนเอามีดมากรีดหัวใจถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้คนที่นอนอยู่ตรงนั้นเป็นผมด้วยซ้ำผมไม่อยากเห็นกันเจ็บแบบนี้
“หมอบอกไหมพี่โอ๋ว่ากันจะหายเมื่อไหร่”
“พี่ก็ไม่รู้หรอกแต่หมอบอกว่าของแบบนี้มันอยู่ที่กำลังใจมากกว่า”
มืด นั่นคือความรู้สึกที่ผมมี ที่นี่มันที่ไหนทำไมถึงมืดไปหมดแบบนี้
“กัน ๆๆๆๆ ” เสียงคุ้นหูดังขึ้น
“เซ้นส์ เซ้นส์อยู่ไหน” ผมตะโกนตอบไปทันที
“กันอย่าทิ้งเซ็นส์ไปนะ กลับมาหาเซ้นส์นะ” เสียงของเซ้นส์ยังคงดังขึ้นเรื่อยๆทำไมเสียงเขาดูเศร้าแบบนี้ล่ะ เซ้นส์เป็นอะไร
“กัน ฮึกๆๆกลับมาหาเซ้นส์นะ”
“เซ้นส์อย่าร้องไห้นะ กันจะไปหาเซ้นส์นะ อย่าร้องนะ”
ผมรีบวิ่งตามเสียงเซ้นส์ไปทันที เซ้นส์อย่าร้องนะ กันทนไม่ได้ที่เห็นเซ้นส์ ร้องไห้ ผมวิ่งไปตามเสียงของเซ้นส์ไปเรื่อยๆก่อนจะเกิด ความรู้สึกเหมือนผมถูกกระชากจากอะไรบางอย่างและกำลังตกจากที่สูงก่อนที่ผมจะไม่รับรู้อะไรอีกเลย
“กันๆ”เสียงเรียกเบาๆทำให้ผมค่อยๆขยับเปลือกตาขึ้น ภาพแรกที่ผมเห็นไม่ใช่เซ้นส์แต่เป็นพ่อ
“พ่อ” ผมพึมพำเบาๆ
“ฟื้นซะทีนะไอ้ลูกหมา” ท่านผู้การว่าทีเล่นทีจริงก่อนจะประคองแม่ผมเข้ามา
“กัน ในที่สุดกันก็กลับมาหาแม่นะลูก” แม่ผมปรี่เข้ามากอดทันทีก่อนจะร้องไห้ออกมา ผมกอดตอบแม่แทบจะทันทีพลางมองไปรอบๆเผื่อจะเจอใครคนนั้นแต่ผมคงหวังมากไปเพราะนอกจากพ่อแม่ กับหมอแล้วก็พยาบาลผมก็ไม่เห็นใครอีกเลย
นี่ใจคอจะตัดขาดกันเลยใช่ไหม แต่ผมก็คงหวังอะไรไม่ได้เพราะคนที่เลือกเดินออกมาคือผมเอง
วันนี้เป็นวันที่3หลังจากที่ผมฟื้นผู้คนมากมายทั้งที่ผมรู้จักและไม่รู้จักต่างมาเยี่ยมไม่ขาดสายแต่ผมกลับรอแค่คนๆเดียวคนที่ผมไม่เห็นแม้แต่เงา ทำไมนะใจคอจะไม่มาเยี่ยมกันบ้างเลยเหรอผมได้แต่คิดอย่างน้อยใจ แล้วน้ำตามันพาลจะไหลทุกที ทำไมช่วงนี้ผมอ่อนไหวจังครับเนี่ย หรือเป็นเพราะผมป่วยกันแน่นะ
“คิดถึงใครอยู่เหรอพี่กัน” เสียงของรุ่นน้องตัวแสบดังขึ้น
“เปล่าซะหน่อย”
“กำลังน้อยใจที่แฟนไม่มาเยี่ยมอยู่ล่ะสิ” ไอ้นี่มันจะเดาเก่งไปแล้วนะ
“เขามานะพี่ แต่ชอบมาตอนพี่ไม่เห็น”
“แกหมายความว่าไงว่ะ”
“หึหึ คืนนี้พี่ลองนอนดึกกว่าเดิมซะหน่อยแล้วพี่จะรู้เอง” โอ๋พูดก่อนจะเดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดี สิ่งที่โอ๋บอกมันจะจริงหรือเปล่าคืนนี้คงต้องลองดูกันหน่อย
ปล ถ้ามีคำผิดบอกน้องด้วยนะคะ จะเป็นพระคุณอย่างสูง