ความทรงจำที่หวนคืน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ความทรงจำที่หวนคืน  (อ่าน 142056 ครั้ง)

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-05-2008 22:10:31 โดย romaneeya »

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๐๔

“เป็นไงวะมึง ตามลูกหมาเจอมะ” อาร์ท ถามพลางหัวเราะ เมื่อ ภู วางจานข้าวและแก้วน้ำลงข้างๆ ก่อนจะนั่งลงไป
“เจอสิวะ มือชั้นนี้แล้ว” ภู ตอบพลางนั่งลง แล้วตักข้าวเช้าเข้าปากอย่างรวดเร็ว เขาต้องรีบกินให้อิ่ม เพราะใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว
“เฮ๊ย ... จริงอะ แล้วเป็นไงมั่งวะ ตกลงว่าใช่เด็กคนนั้นรึเปล่า” อาร์ทถามอย่างตื่นเต้น
“กูค่อนข้างมั่นใจหว่ะ แต่อยากดูต่ออีกหน่อย”
“ต้องดูอะไรอีกวะ” อาร์ทถามอย่างสงสัย
“ก็ กูว่ามันยังมีอะไรแปลกๆอยู่หว่ะ” ภู ตอบพลางอมยิ้ม
“แปลกยังไงวะ” อาร์ท ยื่นหน้าเข้าไปถามใกล้ๆ ด้วยความอยากรู้
“....................” ภู ไม่ตอบ ได้แต่อมยิ้ม พลางรีบกินข้าวกินข้าวจนหมดจาน แล้วทั้งสองก็รีบไปยังห้องเรียน

ในขณะที่นั่งเรียนอยู่ ภู อดคิดถึงช่วงเวลาที่เขาอยู่กับ ตั้ม เมื่อวานนี้ไม่ได้
... คนอะไรวะ เปิ่นฉิบหาย ... ภู คิดพลางนั่งยิ้ม จน อาร์ท ที่หันมาเห็นต้องพึมพัมด้วยความสงสัย
“ท่าจะบ้าเว๊ย ยิ้มอยู่ได้ไอ้นี่” อาร์ท ส่ายหน้าด้วยความระอาใจ พลางหันไปฟังอาจารย์ ที่บรรยายอยู่หน้าชั้นเรียนต่อไป
...............................................................................
....................................
เขาได้ยิน ตั้ม พึมพัมอะไรเบาๆออกมาคำหนึ่ง แต่ไม่ได้สนใจ เพราะมัวแต่หันไปเรียกพนักงานบริการของร้าน
“ขอช้อนเปลี่ยนหน่อยครับ” ภู ตะโกนบอกกับพนักงาน สักพักเขาก็ได้รับช้อนคันใหม่
“อ๊ะ กินต่อเหอะ” เขายื่นช้อนให้ ตั้ม
ตั้ม รับช้อนมา แล้วก้มหน้าค่อยๆตักไอศครีมเข้าปากเป็นคำเล็กๆ ภู เองก็กินไอศครีมของเขาไป พร้อมกับมองดู ตั้ม ที่เหลือบสายตาที่หวาดระแวงขึ้นมามองเป็นระยะ สายตานั้น ทำให้เขารู้ว่า ตั้ม คงกำลังอึดอัด
“เชอรี่นี่ไม่กินช่ายมะ งั้นขอ” ภู เอื้อมมือไปจับก้านเชอรี่ ลูกที่อยู่ในถ้วยไอศครีมของ ตั้ม แล้วหยิบขึ้นมาแกว่งไปมาเบาๆ
“กินสิ” ตั้ม โพล่งออกมา ทำเอา ภู นึกขำ... ยังกับเด็กโดนแย่งของ ...
“แต่ถ้านายอยากกินก็เอาสิ ไม่เป็นไร” ตั้ม พูดต่อ
“เปลี่ยนใจและ ให้นายกินดีกว่า” ภู ยื่นลูกเชอรี่สีแดงสดเข้าไปใกล้ๆปากของ ตั้ม “อ้าปากเร็ว อ้ามมม...”
“นายกินเหอะ” ตั้ม พูดพลางหน้าเริ่มแดง เพราะมองเห็นพนักงานในร้านบางคนหันมามองยิ้มๆ
“เรากินของเราแล้วไง ลูกนี้นายกินบ้าง อ้ามมม... นะกินเร็ว”
ท่าทางและแววตาที่ส่อแววขี้เล่นออกมาของ ภู ทำให้ ตั้ม รู้สึกผ่อนคลายลง จึงเอาช้อนรองลูกเชอรี่ไว้ ภู เห็นอย่างนั้นก็ปล่อยมือออก ให้ ตั้ม ใช้ช้อนส่งลูกเชอรี่เข้าปาก กัดก้านออกแล้วเคี้ยวอย่างช้าๆ หลังจากนั้น ตั้ม ก็ยกแก้วน้ำขึ้นจิบแล้ววางแก้วลง
ภู เห็นดังนั้น ก็หยิบกระดาษทิชชู่ แล้วเอื้อมมือไปเช็ดคราบชอคโกแลตที่ติดอยู่กับริมปากของ ตั้ม อย่างเบามือ

ใบหน้าของ ตั้ม แดงเรื่อขี้นมาทันที ดวงตาเต็มไปด้วยแววเขินอายภายใต้กรอบแว่น ทำให้ ภู ยิ้มกว้าง พลางมองดูร่างบางตรงหน้าด้วยความเอ็นดู
...............................................................................
....................................
คิดขึ้นมาถึงตอนนี้ ภู ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะให้กับตัวเอง

ท่าทางที่เขินอายจนหน้าแดง จนต้องก้มหน้าหลบสายตาของ ตั้ม ดูแล้วมันดูแตกต่างจากท่าทางของหญิงสาวหลายๆคน ที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ด้วย  มันดูบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ดูแล้วน่ามองกว่าท่าทางที่เหมือนมีการปรุงแต่งของสาวๆพวกนั้น โดยสิ้นเชิง

ไม่น่าเป็นไปได้ ผู้ชายที่เคยมีทั้งความรัก และแค่ประสบการณ์ ที่เขาถือว่าเป็นกำไรชีวิต กับหญิงสาวมาแล้วหลายคนอย่างเขา จู่ๆจะสนใจในตัวผู้ชายด้วยกันแบบนี้

... ไม่หรอกน่า เขาแค่อยากค้นหาความจริง ของเด็กชายที่อยู่ในความฝันของเขาเท่านั้นเอง ...


salapaw

  • บุคคลทั่วไป
โอเห ตกลงสนใจแค่เป็นเด็กในฝันช่ายป่ะ เชอะๆๆๆ :o

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๐๕

โป๊กกก......

“ฮ่าๆๆ” ภู หัวเราะ ตั้ม ที่กำลังเอามือคลำหัวของตัวเองป้อยๆ อีกมือหนึ่งจับแว่นที่เกือบหลุด ขยับมันให้เข้าที่ พลางทำจมูกย่น สีหน้าแหยๆ

เป็นครั้งที่ ๒ แล้วที่ ภู ได้มาเจอกับ ตั้ม เมื่อคืนนี้เองที่เขาโทรศัพท์ไปนัดให้มาเดินเล่นด้วยกัน ในศูนย์การค้าใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ เมื่อนัดเวลาและสถานที่เสร็จ เขาก็วางหูโทรศัพท์ทันที โดยไม่รอคำตอบ แล้วก็เป็นอย่างที่เขาคิด เมื่อเขามาถึงที่นัดพบตามเวลา เขาก็พบ ตั้ม นั่งรอเขาอยู่แล้ว จากนั้นทั้งสองคนก็พากันเดินดูของตามร้านต่างๆไปเรื่อยๆ จนมาถึงร้านขายตุ๊กตาร้านนี้ ตั้ม ชะโงกหน้าเข้าไปดูตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆ ที่อยู่ในตู้โชว์ จนหัวชนกับกระจกตู้โชว์

“ซุ่มซ่ามจริง นายนี่นะ” ภู พูดพลางเอามือขยี้หัว ตั้ม เบาๆ  “หิวรึยัง”
“กินเลยก็ได้อะ จะบ่ายอยู่แล้วนี่ กินอะไรดีล่ะ” ตั้ม พูดพลางมองนาฬิกาข้อมือ
“อยากกินไรล่ะ ให้นายเลือก”
“ให้เราเลือกเหรอ งั้น...” ตั้ม นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ตามมาเลย เดี๋ยวเราพาไป ลงไปที่ชั้น ๔ นะ”
พูดจบ ตั้ม ก็เดินนำไปทางบันไดเลื่อน ภู ก็เดินตาม ท่าทางเวลามองบันไดเลื่อนที่ดูเก้ๆกังๆของ ตั้ม ทำให้ ภู อดไม่ได้ที่จะต้องเอามือไปจับข้อมือซ้าย ตั้ม ไว้
... ทำไมข้อมือมันเล็กอย่างนี้วะ  ... ภู คิดพลางมองหน้า ตั้ม ด้วยความสงสัย แต่เมื่อเห็นหน้าที่มีแววเขินอาย ทำให้เขาอมยิ้มออกมา
“อ้าว หยุดทำไมล่ะ เดินนำไปดิ” ภู เร่งเพราะเมื่อเดินลงบันไดเลื่อนมาแล้ว ตั้ม กลับยืนนิ่งไม่ขยับ
“เอ้อ...” ตั้ม อึกอัก “ข้อมือเรา”
“ไปเร็วสิ เราเริ่มหิวแล้ว” ภู แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ พลางเลื่อนมือมาจับมือ ตั้ม ออกเดิน “ไหนร้านไหน” ... มือก็เล็กซะจนกำมิด หรือว่ามือเราใหญ่เกินไปวะ ...
“ร้านนี้แหละ” ตั้ม หยุดยืนตรงกำแพงที่จัดเป็นเหมือนตู้โชว์ ภายในวางอาหารตัวอย่างที่เป็นอาหารญี่ปุ่น มากมายหลายอย่างอยู่ภายใน
“ร้านนี้เหรอ” ภู พูดพลางขมวดคิ้ว แล้วเขาก็มองเข้าไปทางช่องที่เหมือนเป็นทางเข้าร้าน ...โห ร้านนี่ท่าทางแพงเอาเรื่องหว่ะ ตังส์จะพอมั๊ยวะ ...
 ตั้มพยักหน้า แล้วเดินนำเข้าไปในร้าน
“สวัสดีค่ะ วันนี้มีเพื่อนมาด้วยเหรอค่ะ” พนักงานต้อนรับ ยกมือสวัสดีทักทาย ตั้ม “นั่งที่เดิมหรือเปล่าค่ะ”
“ถ้าว่างก็ขอเป็นที่เดิมค๊าบ” ตั้ม ตอบพลางยิ้มให้พนักงานอย่างคุ้นเคย
“กำลังเก็บโต๊ะอยู่ค่ะ ลูกค้าเพิ่งจะออกไปพอดี รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวไปดูให้” พูดจบเธอก็เดินเข้าไปข้างใน แต่ตั้มยังยืนนิ่งไม่ได้เดินตามเข้าไป
“อ้าว ไม่เข้าไปล่ะ” ภู ถามด้วยความสงสัย
“เดี๋ยว รอเค้าจัดโต๊ะให้เรียบร้อยก่อนไง” ตั้ม หันมาบอก “เรามีโต๊ะประจำ”
“โห แปลว่ามาบ่อยอะดิ” ภู ถามแล้วก็มองไปด้านใน มีเคาเตอร์ซูชิอยู่ด้านในสุด ภายในร้านคนค่อนข้างหนาตา
“ก็อาทิตย์ละครั้งอะ”
ก่อนที่ภูจะถามอะไรต่อ พนักงานคนเดิมก็เดินออกมาจากด้านใน
“เรียบร้อยแล้วค่ะ เชิญเลยค่ะ”
ตั้ม หันไปยิ้มให้เธอ แล้วเดินนำเข้าไปในร้าน ภู สังเกตดูลูกค้าที่ยังนั่งทานอาหารอยู่ ส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัท และอยู่ในวัยกลางคนขึ้นไปเป็นส่วนใหญ่  ไม่มีคนในวัยขนาดเขาเลย  เขาคิดมาตั้งแต่มองเห็นการจัดหน้าร้านแล้ว ว่าร้านนี้คงเป็นร้านที่มีระดับพอสมควร  ตั้ม พาเขาเดินผ่านโต๊ะอาหารหลายโต๊ะ ไปยังมุมหนึ่งของร้าน ผ่านบังตาเข้าไป มีโต๊ะเล็กๆอยู่เพียง ๓ ชุด มีบังตาเล็กๆคั่นระหว่างโต๊ะ เป็นมุมที่สงบเงียบ ด้านข้างเป็นกระจกใส มองออกไปเป็นวิวทางด้านนอก ฝาผนังยังประดับด้วยดอกไม้ประดิษฐ์ จัดแบบญี่ปุ่น และสวนหินเล็กๆ ตรงมุมกำแพง

บรรยากาศที่เงียบสงบ แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความเคร่งขรึม ดูมันช่างตรงกันข้าม กับบุคคลิคของคนตรงหน้าของเขาเสียเหลือเกิน

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
นึกว่าจะไม่มาต่อซะอีกนิ เห็นบอกว่ามีงานเลี้ยงนิ
ว่าแต่ ตั้มคะทำไมตอนมันสั๊น สั้น งืม....ยังอ่านไม่จุใจเลยอ่า.....
ภาคใหม่นี่มีบทของพี่ราญกับพี่ชัยมั๊นอ่ะ คิดถึงจัง
 :o8: :o8:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๐๖

“เอ้อ ... ช่วยปล่อยมือเราก่อนได้มั๊ยอะ”

ตั้ม หันมาพูดเบาๆ ภู จึงได้รู้สึกตัวแล้วค่อยๆปล่อยมือของ ตั้ม ...ไม่อยากปล่อยเลยหว่ะ นิ่มชมัด ... ภู คิดด้วยความเสียดาย
“รับโอเด้งด้วยหรือเปล่าค่ะ วันนี้” พนักงานบริการถาม ตั้ม ด้วยความคุ้นเคย หลังจากที่ทั้งสองคนนั่งลงแล้ว
“เดี๋ยวขอเมนูมาดูก่อนนะค๊าบ สักพักค่อยสั่งอาหาร” ตั้ม ยิ้มพลางรับเมนูที่พนักงานส่งให้ เธอส่งเมนูอีกเล่มหนึ่งให้ ภู
“ตามสบายนะค่ะ” เธอหันไปรับถ้าผ้าเย็นจากพนักงานอีกคนหนึ่ง วางไว้บนโต๊ะ แล้วเธอก็เดินออกไป
“อ๊ะ ผ้าเย็น” ตั้ม หยิบผ้าเย็น แล้วเลื่อนถาดให้ภู “กินไรดีอะ”
ภู มองดู ตั้ม พลิกเมนู พลางเอาผ้าเย็นเช็ดมือ แล้วเปลี่ยนไปแตะๆตามลำคอ อดคิดไม่ได้ว่าสีหน้าของ ตั้ม ตอนเลือกอาหารดูรื่นเริงดีจริง ... เดี๋ยวเวลากินมันไม่เหาะได้เหรอวะ ...
“อาหารร้านนี้ท่าทางจะอร่อยนะ” ภู พูดพลางเปิดดูเมนูเล่มใหญ่ ที่มีรายการอาหารพร้อมรูปประกอบ แล้วเขาก็คิดถึงความฝันที่เขาเคยฝันถึง เมื่อไม่นานมานี้ ... จะเป็นอย่างไรบ้างนะ ถ้าเขาลองพูดคำพูด ที่เขาได้ยินในความฝัน ให้คนตรงหน้านี้ได้ฟัง ...
“เราอยากกินอะไรเยอะแยะเลย แต่สงสัยจะกินไม่หมด เดี๋ยวนายช่วยเรากินนะ”
ตั้ม ละสายตาจากเมนู เงยหน้าขึ้นมามองหน้า ภู ด้วยความงุนงง ... คำพูดทำนองนี้ เขาจำได้ว่าเขาเคยพูดกับคนบางคนมาก่อน ครั้งหนี่งเมื่อนานมาแล้ว
“เป็นอะไรล่ะ” ภู มองหน้า ตั้ม พลางหัวเราะด้วยความขบขัน “เพิ่งเห็นความหล่อของเราชัดๆ เลยงงเหรอไง”
ตั้ม เบ้หน้าทันทีที่ได้ยินแบบนั้น แล้วก้มหน้าดูเมนูต่อ
“สั่งอาหารดีกว่า เดี๋ยวท้องร้องส่งเสียงกวนชาวบ้าน” ตั้ม เงยหน้ากลับขึ้นมามองหน้า ภู อีกครั้ง
“แล้วเดี๋ยวกินให้ทันเรานะ หมดก่อนอดกินไม่รู้ด้วย” ภู มองหน้า ตั้ม พลางยิ้มกว้างแบบที่เขาคิดว่าเท่ห์ที่สุด
ตั้ม ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ พลางหันไปเรียกพนักงานบริการ ให้เข้ามารับรายการอาหาร

... หากมันเป็นความบังเอิญ มันคงเป็นความบังเอิญอย่างร้ายกาจ ที่คำพูดเหล่านี้ คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ในอดีต ที่อยู่ความทรงจำของ ตั้ม เสียเหลือเกิน ...

คำพูดของเขา คงจะสะกิดความรู้สึกบางอย่าง ของคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ภู สังเกตว่า ถึงแม้ ตั้ม จะยิ้มให้พนักงานบริการ แต่ดูจะเป็นยิ้มที่แห้งแล้งเสียเหลือเกิน เขาเห็นแล้วไม่ชอบเลย เพราะยิ้มเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกว่า จิตใจของเขาหมองหม่นลงอย่างประหลาด และปรารถนาที่จะทำทุกวิธี  ให้รอยยิ้มของคนที่อย่ตรงหน้า กลับมาเป็นรอยยิ้มที่สดใสเหมือนเช่นเดิม ระหว่างทานอาหาร ภู จึงชวน ตั้ม คุยเรื่องต่างๆอยู่ตลอดเวลา เขานึกแปลกใจ ที่ ตั้ม ไม่ค่อยรู้เรื่องราวรอบตัวเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง กีฬา หนัง ละครโทรทัศน์ โฆษณา ทำให้เขากลายเป็นคนเล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง แต่กลับรู้สึกสนุกสนาน เหมือนกับได้เล่านิทานให้เด็ก สีหน้าที่ตั้งอกตั้งใจฟัง เสียงหัวเราะกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เมื่อเขาเล่าถึงฉากตลกในละครโทรทัศน์ สีหน้าที่ตื่นเต้นจนบางครั้งอ้าปากหวอ ตอนที่เขาเล่าฉากในหนังผจญภัย ทำให้เขาเพลินจนลืมเวลา เมื่อเขารู้สึกตัว เวลาก็ผ่านไปเกือบ ๓ ชั่วโมง

“โห เพลินเลย จะสี่โมงแล้ว” ภู หัวเราะ
“จะมื้อเย็นแล้วอะดิ” ตั้ม พูดพลางหัวเราะน้อยๆ
“ยังจะกินต่ออีกเหรอ ขนมคนละตั้ง ๓ ถ้วยแล้วนะ” ของหวานของร้านนี้ อร่อยเสียจนเขาเผลอสั่งไป ๓ รอบ
“ม่ายยย ... แค่นี้ก็ล้นถึงคอแล้ว” ตั้ม ตอบพลางส่ายหน้าเบาๆ ทำให้ ภู หัวเราะด้วยความเอ็นดู
“งั้นเดี๋ยวไปเดินย่อยอาหารกันนะ” ภู พูดจบก็กวักมือให้สัญญาณกับพนักงานบริการ ให้นำบิลมาให้
“มื้อนี้เราเลี้ยงนะ คราวที่แล้วนายเพิ่งจ่ายค่าไอศครีมไป” ตั้ม พูดจบ ก็ยื่นมือรับแฟ้มเล็กๆจากพนักงานบริการ เปิดดูบิล วางการ์ดใบหนึ่งลงบนแฟ้ม แล้วยื่นส่งให้พนักงานบริการ โดยที่ไม่ให้ ภู ได้เห็นตัวเลขภายในบิลเลยแม้แต่น้อย
“จ่ายบัตรเครดิตเหรอ” ภู ตกใจ เพราะจากที่เห็นภายนอก ตั้ม น่าจะยังเรียนอยู่เหมือนเขา ไม่น่ามีบัตรเครดิตได้
“บัตรเสริมเหรอ ใครทำให้น่ะ” ภู ถามหลังจากที่พนักงานบริการเดินออกไป
“เปล่า บัตรวีซ่าของเราเอง”
“บัตรวีซ่า” ภู พูดพลางขมวดคิ้ว “ของนายเองเนี่ยนะ เรียนอยู่แท้ๆ ทำบัตรวีซ่าเองได้ไง”
“ใครว่าอะ เราเรียนจบมาตั้งนานแล้ว ทำงานมา ๕ ปีได้แล้วมั๊ง” ตั้ม ตอบพลางมองหน้า ภู ด้วยความสงสัยในสีหน้าที่ตกใจของ ภู

... เฮ๊ย อะไรวะ ไม่ได้เรียนอยู่ซักปี ๑ หรือ ปี ๒ หรอกเหรอ กรรม เรียนจบแล้ว ทำงานมา ๕ ปี ...
“นี่นายอายุเท่าไรวะ” ภู ถามไปเพราะอดไม่ได้
“ก็บวกไปดิ ซิ่วไปปีนึง เรียนมหาวิทยาลัย ๔ ปีจบ ทำงานอีก ๕ ปีอะ แก่อ่อนกว่านาย ปีหรือสองปีมั๊ง”
คราวนี้ ภู ถึงกับนิ่งเงียบไป

ตัวเขาเองเรียนช้าไป ๒ ปี เข้ามหาวิทยาลัยตอนอายุ ๒๐ ตอนนี้เรียนอยู่ปี ๓ อายุ ๒๒
ส่วน ตั้ม เข้ามหาวิทยาลัยตอนอายุประมาณ ๑๙ เรียนจบก็ประมาณอายุ ๒๒ ทำงานอีก ๕ ปี ก็ ๒๗

... ๒๗ ลบ ๒๒  ตั้ง ๕ ปี เชียวเหรอวะ
แต่ทำไมถึงได้รู้สึกว่า เราตะหากที่น่าจะเป็นผู้ใหญ่กว่านาย ๕ ปี ...


ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
อืม...จะเรียกว่าสำนึกสุดท้ายของปอได้มั๊ยนะที่อยู่ในตัวของภูเพราะถ้าเป็นวิณญาณก็ไม่น่าจะใช่แต่ใช่ปอแน่ๆ
แล้วจะได้รักกันตอนไหนนี่ ลุ้นๆๆๆๆ

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
อืม...จะเรียกว่าสำนึกสุดท้ายของปอได้มั๊ยนะที่อยู่ในตัวของภู เพราะถ้าเป็นวิณญาณก็ไม่น่าจะใช่แต่ใช่ปอแน่ๆ
แล้วจะได้รักกันตอนไหนนี่ ลุ้นๆๆๆๆ

ถ้าวิญญาณ สงสัยกลายเป็นเรื่องผีแหง  :try2: น่ากลัวเกินไปอะ
ไม่ใช่แค่สำนึกสุดท้ายหรอกครับ แต่เป็น ...  :sad5:
เดี๋ยวตอนหน้าจะให้รู้นิดนึง... นิดนึงพอ อิ อิ อิ   :-[

... อ้อ อีกอย่าง งานนี้ ตั้ม ไม่รอดมือหรอกครับ จริงมะ   o13

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
จริงเหรอค๊า  น้องตั้มไม่รอดมือภูจริงอ่ะ    :o8:  เขิล
ว่าแต่ตรูจะเขิลไมเนี่ย   :m23:  ชอบนึกว่าตัวเองเป็นนางเอกซะเรื่อย    :laugh:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
^
^
^
จริงเหรอค๊า  น้องตั้มไม่รอดมือภูจริงอ่ะ    :o8:  เขิล
ว่าแต่ตรูจะเขิลไมเนี่ย   :m23:  ชอบนึกว่าตัวเองเป็นนางเอกซะเรื่อย    :laugh:
เอ... หรือจะให้รอดดี  :laugh:
ให้รอกันไปอีกรอบ เรื่องจาได้ ยืดดดดดดดดดดดดดดด .....  :o211:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






salapaw

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: น่าอ่อนอ่า ภูตกกะใจเลย
แล้วไม่ทราบว่าไมถึงตั้งชื่อตัวละคนตัวนี้ว่า ภูล่ะคะ   :o8:

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
อืม...จะเรียกว่าสำนึกสุดท้ายของปอได้มั๊ยนะที่อยู่ในตัวของภู เพราะถ้าเป็นวิณญาณก็ไม่น่าจะใช่แต่ใช่ปอแน่ๆ
แล้วจะได้รักกันตอนไหนนี่ ลุ้นๆๆๆๆ

ถ้าวิญญาณ สงสัยกลายเป็นเรื่องผีแหง  :try2: น่ากลัวเกินไปอะ
ไม่ใช่แค่สำนึกสุดท้ายหรอกครับ แต่เป็น ...  :sad5:
เดี๋ยวตอนหน้าจะให้รู้นิดนึง... นิดนึงพอ อิ อิ อิ   :-[

... อ้อ อีกอย่าง งานนี้ ตั้ม ไม่รอดมือหรอกครับ จริงมะ   o13


ถ้าลองรอดดิ๊ มีเฮ
รออ่านอย่างใจจดใจจ่อ :o8:
จะไม่รอดอย่างไรน้อ :o8: :laugh:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
:o8: น่าอ่อนอ่า ภูตกกะใจเลย
แล้วไม่ทราบว่าไมถึงตั้งชื่อตัวละคนตัวนี้ว่า ภูล่ะคะ   :o8:
ง่าๆๆๆ ตอบยังงายดีอะ  :serius2:
ชื่อมานแว๊บบบบ เข้ามาในหัว ชื่อเท่ห์ช่ายมะล่าาา ...  o13
... จริงๆแล้วเป็นชื่อรุ่นน้องคนหนึ่งน่ะครับ อิ อิ

ถ้าลองรอดดิ๊ มีเฮ
รออ่านอย่างใจจดใจจ่อ :o8:
จะไม่รอดอย่างไรน้อ :o8: :laugh:
อย่างนั้น ตั้ม ไม่รอดเหมือนเดิมนะ  :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2008 18:26:01 โดย บุหรง »

BeePed

  • บุคคลทั่วไป
อืม...จะเรียกว่าสำนึกสุดท้ายของปอได้มั๊ยนะที่อยู่ในตัวของภู เพราะถ้าเป็นวิณญาณก็ไม่น่าจะใช่แต่ใช่ปอแน่ๆ
แล้วจะได้รักกันตอนไหนนี่ ลุ้นๆๆๆๆ

ถ้าวิญญาณ สงสัยกลายเป็นเรื่องผีแหง  :try2: น่ากลัวเกินไปอะ
ไม่ใช่แค่สำนึกสุดท้ายหรอกครับ แต่เป็น ...  :sad5:
เดี๋ยวตอนหน้าจะให้รู้นิดนึง... นิดนึงพอ อิ อิ อิ   :-[



งั้นขอเดาว่าตอนปอเสียชีวิต  พ่อแม่ได้เซ็นบริจาคอวัยวะให้สภากาชาด  แล้วภูคงได้อวัยวะของปอไป  อาจเป็นหัวใจก็ได้คะ   :oni1: :oni1:

BeePed

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
 
เพิ่มเติมจากรีบน  อาจเป็นกระจกตาก็ได้ที่ภูได้ไป  เพราะตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ  :o8: :o8:

แล้วภูยังเรียนช้าไป 2 ปี คงป่วยผ่าตัดรักษาตัวมาแน่ๆเลย

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
รีบนคิดเก่งจัง เห็นด้วย ภูต้องได้รับบริจาคหัวใจของปอแหงเลย

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
เออ ใช่!!!!จริงด้วย แหมช่างคิด o13
 :a3: :a3: :a3: :a3:

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
เป็นนักสืบกันโม้ด

ใช่ก็ไม่หนุกเลยน้า  เดาง่าย เอาแบบเขียนให้จบแบบพลีกล็อกไปเล้ยยยยยยยยย :laugh:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๐๗

๒๗ เชียวเหรอวะ แล้วยังมีหน้ามาพูดอีกว่า แก่อ่อนกว่ากันแค่ปีหรือสองปี
หนอย ... เราไม่ได้แก่ขนาดนั้นซะหน่อย ถึงจะเรียนช้ากว่าชาวบ้านเขา ๒ ปีก็เถอะ
นายนั่นแหละ ทำตัวเป็นเฒ่าทารก แล้วยังเสือกหน้าอ่อนอีก
บอกมาได้ว่าเป็นครูสอนดนตรี
ท่าทางเซ่อซ่า ซุ่มซ่าม แบบนี้น่ะนะ ... เป็นครู
แบบนี้ต้องหาทางพิสูจน์ซะหน่อยแล้ว

ภู คิดพลางมองดู ตั้ม ที่กำลังหยิบขนมปังไส้ต่างๆ จากชั้นวางของในซุปเปอร์มาเกต ใส่ลงไปในตะกร้า จากนั้นก็เดินไปยังชั้นวางขนมขบเคี้ยว สารพัดยี่ห้อ แล้วหยิบขนมหลายถุงใส่ลงไปในตะกร้าที่ถืออยู่
“นี่จะซื้อไปเปิดร้านเหรอไง” ภู ถามอย่างอดไม่ได้
“ซื้อไปฝากแม่น่ะ” ตั้ม หันมาตอบยิ้มๆ
ยังไม่ทันที่ ภู จะถามคำถามที่คิดไว้ ก็มีเสียงเรียกดังขึ้นมา
“ครูตั้ม ... ครูตั้ม แม่ๆนั่นครูตั้ม” เสียงตะโกนจากเด็กชายอายุประมาณ ๗ หรือ ๘ ขวบ แล้วเด็กคนนั้นก็วิ่งเข่ามาจับมือ ตั้ม เขย่าไปมา
“ว่าไง เจมส์ มากับใครเอ่ย” ตั้ม ก้มหน้าไปทักทายเด็กชาย
“สวัสดีค่ะ คุณครู มาซื้อของเหรอค่ะ” เสียงทักจากผู้หญิงซึ่งเข็นรถเข็นใส่ที่ของอยู่มากมาย ภู คิดว่าคงเป็นแม่ของเด็กที่ชื่อ เจมส์
“สวัสดีครับ คุณแม่ มาเดินเที่ยวกับเพื่อนน่ะครับ” ตั้ม ตอบไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พลางหันหน้าไปทาง ภู แล้วจึงหันหน้ากลับไปหาผู้หญิงคนนั้น

... เออนะ เป็นไปได้ บุคลิกท่าทางเปลี่ยนไปเชียว ท่าทางและสำเนียงการพูดจะดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนิดนึง ... นิดหนึ่งเท่านั้นในความคิดของ ภู
ดูสิขนาดคุยอยู่กับผู้ใหญ่ แต่มือที่จับกับมือของ เจมส์ กลับแกว่งไปแก่วงมา มิหนำซ้ำยังเอานิ้วโป้งดันกันไปมา เหมือนเล่นซูโม่ ทำเอาเด็กที่ชื่อ เจมส์ หัวเราะชอบใจ

“อย่างนั้นไม่รบกวนนะคะ เดี๋ยววันอาทิตย์เจอกันที่โรงเรียนค่ะ” หญิงสาวพูดแล้วหันไปทาง เจมส์ “ไปซื้อของกันต่อลูก อย่ารบกวนคุณครู”
เด็กชายปล่อยมือจากมือ ตั้ม แล้วเดินตามแม่ไป แต่พอเดินไปได้ไม่ไกล ก็หันหน้าไปบอกอะไรสักอย่างกับผู้เป็นแม่ แล้วก็วิ่งกลับไปหา ตั้ม
“ครู .. ครู” เด็กชายกวักมือ
ตั้ม ก็ก้มหน้าลงไปหาใบหน้าใสๆของเด็กชาย
เด็กชายเอามือประคองหน้าของ ตั้ม ไว้ แล้วหอมแก้ม ตั้ม ทีละข้าง จากนั้นก็ยื่นหน้าให้ ตั้ม ทำเช่นเดียวกัน แล้วเด็กชายก็หัวเราะเสียงใสวิ่งกลับไปหาหญิงสาวที่เป็นแม่ ซึ่งกำลังมองดูด้วยความเอ็นดู

 ภาพที่เห็นทำเอา ภู ตาค้าง พลางรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
...................................................................
................................
“มึงหึงอะดิ” อาร์ท บอกหลังจากที่ ภู เล่าจบ
“หึงเตี่ยมึงสิ กูผู้ชายนะเว๊ย นั่นก็ผู้ชายทั้งคู่” ภู เถียง
“นั่นสิวะ กูก็สงสัย มึงหึงหมาน้อย หรือหมาเด็กล่ะวะ”
“อะไรของเอ็ง หมาน้อย หมาเด็ก ” ภู ถาม งงๆ
“อ้าว ก็ผู้ชายที่เอ็งเรียกว่าไอ้ลูกหมาน้อยไง เป็นหมาน้อย ถูกป่ะ ส่วนไอ้เด็กนั่นเป็นหมาเด็ก ฮ่าๆๆ” พูดแล้ว อาร์ท ก็หัวเราะด้วยควมชอบใจ ส่วน ภู ได้แต่ส่ายหน้าด้วยความระอา แต่เขาก็อดขำไม่ได้ ... ไอ้ลูกหมาน้อยเอ๊ย แก่แต่อายุน่ะสิ ที่แท้ก็เด็กชัดๆ ยังไงยังไง โตแค่ไหน ก็ยังคงเป็นเป็นลูกหมาน้อยอยู่ดีล่ะวะ
“เออ จริงสิ หมู่นี้เป็นไงมั่งวะ ไม่เห็นเอ็งเล่าเรื่องเด็กคนนั้นให้ฟังเลย” อาร์ท หยุดหัวเราะแล้วถามอย่างจริงจัง
“เด็กที่ไหนอีกล่ะวะ” ภู หันมามองหน้า อาร์ท ด้วยความสงสัย
“ก็เด็กที่เอ็งเห็นในฝันบ่อยๆไงวะ หมู่นี้ไม่เห็นเอ็งเอามาบ่นเลย” อาร์ท ขยายความ
“เออ นั่นดิ กูไม่เห็นมาสองอาทิตย์ได้แล้ว แปลกๆหว่ะ”

นั่นสินะ เขาไม่ได้เห็นเด็กคนนั้นเข้ามาในความคิด หรือแม้แต่ฝันถึงอีกเลย นับตั้งแต่วันที่เขาไปหา ตั้ม ที่ร้านซีดี หรือว่า พอเขาได้พบกับตัวจริงแล้ว สิ่งที่เป็นเหมือนภาพลวงตานั้นจึงได้หายไป แต่ว่าทำไมล่ะ หรือมันจะเป็นอย่างที่เขาคิด เด็กชายที่เป็นเหมือนภาพลวงตาคนนั้น มีความสัมพันธ์กับ ตั้ม

และ ตั้ม มีความสัมพันธ์บางอย่าง กับเจ้าของอวัยวะจากผู้บริจาค ที่เขาได้รับมาจากการผ่าตัดเมื่อ ๔ ปีก่อน


ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดคุณ BeePed ตอบถูกอ่ะดิ o13
จะลงอีกซักตอนมั๊ยคะตั้ม??? :oni1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






sun

  • บุคคลทั่วไป
หุหุ นายภู ริ รักข้ามรุ่นเหรอ เนี่ย...  :laugh:

แต่ยังไง ก้อยังคงเป็น ไอ้ลุกหมาน้อย ของ นายภูอยู่ดีชิมิ  อิอิ

มีทั้งหมาน้อย หมาเด็ก วุ้ย ... ท่าทาง จะต้อง ตามหึง ไปอีกนานป่ะ กว่าจะได้แอ้ม ฮ่าๆๆ   :m20:

kana

  • บุคคลทั่วไป
เอาแล้วเฉลยมานิดนึงแล้ว o7

หัวใจแน่ๆเลย  :a2:

ต้องติดตามกันต่อไปปปป :oni2:

แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
ตั้มยังน่ารักเหมือนเดิมเลย  :o8:

คิดถึงพี่ชัย+พี่ราญจังค่ะ 

 :L1:  :L1:  :L1:

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
เข้ามารอ..........
 :a3: :a3: :a3:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๐๘

“ตกลงเอ็งเอาไงวะ จะไประยองด้วยกันรึเปล่า” นน ถามขึ้นระหว่างที่กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบกันอยู่
“แล้วไปกันกี่คนวะ” ภู เงยหน้าจากหนังสือขึ้นมาถาม
“ก็มีกู นน  จูน แล้วก็กิ่งกับแฟนมัน ถ้าเอ็งไปด้วยก็เป็น ๖ คน” อาร์ท ตอบ
“นพมันเอารถตู้ไป” นนหมายถึงแฟนของ กิ่ง “แต่กูว่าจะขับรถไปเอง”
“มีงไปรถตู้ได้มั๊ยวะ แล้วกูยืมรถมึงขับตามไปที่หลัง” ภู หันไปถาม นน
“ทำไมวะ” นน ถามด้วยความสงสัย
“กูจะพาคนไปด้วยหว่ะ แต่คงต้องตามไปตอนเย็น” ภู พูดยิ้มๆ
“ใครวะ” จูน หญิงสาวคนเดียวในที่นั้นถามขึ้น “นั่นแน่ เด็กใหม่นายเหรอ ถึงขนาดต้องเอารถไปรับ น่าสงสัยเว๊ย” จูน ถามต่อ พลางทำหน้าล้อเลียน
“ไม่ใช่เว๊ย แค่ขับรถจะได้ไปถึงเร็วไง ไม่งั้นกว่าพวกกูจะไปถึง ก็ค่ำพอดี” ภู หัวเราะเมื่อนึกถึงคนที่เขาชวนไปเที่ยวด้วยกัน “ว่าไงวะ ได้รึเปล่า ไอ้นน” เขาหันกลับไปถาม
“ก็ได้หว่ะ งั้นกูนอนเบาะหลังนะเว๊ย” นน ตอบพลางหัวเราะเบาๆ แล้วก็พูดต่อ “แล้วที่พักเอาไงวะ ที่จองไว้มี ๓ ห้อง ต้องเพิ่มเตียงเสริมสิ”
“เออ ไอ้กิ่งนอนกะกู แฟนมันนอนกะไอ้นน ส่วนเอ็งนอนกะอาร์ท แล้วเอาเตียงเสริมเพิ่มห้องเอ็งแล้วกัน” จูน เสนอ
“เฮ้ย ให้อาร์ท นพ กับนน อยู่ห้องเตียงเสริมได้มั๊ยวะ กูขออยู่กับลูกหมาน้อยของกูเหอะ ไม่งั้นก็เอาห้องเพิ่มอีกห้องก็ได้ กูจ่ายเพิ่มเอง” ภู พูดยิ้มๆ
“อะไร มึงจะเอาหมาไปเที่ยวด้วยเหรอวะ” นน ถามหน้าตาตื่น “แล้วเอารถกูไปรับหมาเนี่ยนะ”
“นะเว๊ย กูขอแล้วกัน ลูกหมาตัวนี้กูตามหามานานแล้ว ให้กูสมหวังเหอะ” ภู พูดดวงตาเป็นประกาย เพื่อนๆได้แต่มองหน้ากันด้วยความงุนงง
“เฮ๊ย ไอ้ภู หรือว่ามึงจะชวนคนนั้นไปด้วยวะ” อาร์ท ถามเมื่อนึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมาได้
“เออ ...” ภู ตอบสั้นๆ เพราะเริ่มรู้สึกงุนงง กับคำตอบเมื่อครู่นี้ของตัวเองเช่นกัน
“ถ้าจองห้องเพิ่มนะ กูได้นอนคนเดียวแน่เลย” จูน พูดพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย “นังกิ่ง มันไปนอนกะแฟนมันแหง๋ๆ ฮ่าๆๆๆ”
.......................................................................................
......................................
“เออๆ นี่กูใกล้ถึงแล้วพวกมึงจะออกมาปูพรมรับก็ออกมา ไม่งั้นเดี๋ยวกูไปเอากุญแจที่เคาเตอร์เอง พอเข้าห้องพักแล้วจะโทรบอก” พูดจบ ภู ก็กดสายวางหูโทรศัพท์ พลางหันหน้าไปมองคนที่นอนหลับอยู่บนที่นั่งข้างๆ

ตอนที่เขาไปรับ ตั้ม ที่สถาบันดนตรี เป็นช่วงหมดชั่วโมงสอน ชั่วโมงสุดท้ายของ ตั้ม พอดี ทั้งเด็กนักเรียนและผู้ปกครองพลุกพล่านไปหมดในช่วงต่อระหว่างชั่วโมง เขาจึงยืนรออยู่หน้าประตู สักพักเขาก็เห็น ตั้ม เดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบย่อม
“นู๋ตั้ม เที่ยวให้สนุกนะจ๊ะ” พนักงานหญิงค่อนข้างมีอายุ พูดพลางโบกมือให้ ตั้ม อย่างยิ้มแย้ม
“ครูตั้ม ซื้อขนมมาฝากด้วยนะ ไม่งั้นพวกหนูไม่ยอมด้วย” พนักงานสาวๆหลายคนตะโกนบอก
“เที่ยวดีๆนะครู ระวังปลาฉลามล่ะ” ร.ป.พ. ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเล็กๆหน้าโรงเรียน พูดแซว
“ฮ่าๆๆ ถ้าเจอนะ จะจับมาให้พี่ทำหูฉลามกิน” ตั้ม ยิ้มแล้วตอบไปอย่างอารมณ์ดี
“ตั้ม กินอะไรก่อนมั๊ย เดี๋ยวหิวกลางทาง” ภู เดินเข้าไปทักทาย พลางเอื้อมมือออกไป ตั้งใจจะช่วยถือกระเป๋า
“เราถือเองได้อะ” ตั้ม พูดปฏิเสธไปเบาๆ “ภู หิวรึเปล่าล่ะ ถ้ายังไม่หิวเดี๋ยวหาอะไรรองท้องระหว่างทางก็ได้มัง”
“งั้นเรารีบไปกันดีกว่า ไม่งั้นจะมืด เราอยากดูพระอาทิตย์ตก”
แล้วทั้งสองคนก็ลงลิฟท์ไปยังรถที่จอดอยู่ พอรถออกจากเขตตัวเมืองได้ระยะหนึ่ง ตั้ม ก็ผลอยหลับไป

... สงสัยจะเหนื่อย เห็นว่าสอนทั้งวันตั้งแต่เมื่อวาน  เล่นหลับไม่ระวังเนื้อระวังตัวซะเลยนะ ไม่ได้กลัวว่าเขาจะทำมิดีมิร้าย บ้างเลยหรือไง... แล้ว ภู ก็รู้สึกสะดุดกับความคิดของตัวเอง ว่าคิดแบบนี้ได้อย่างไรกัน
“บ้าไปรึเปล่าวะกู คิดอะไรแบบนี้วะ” เขาพึมพัมเบาๆ แล้วก็เหลือบสายตามองดู ตั้ม ที่หลับอยู่ด้วยความเอ็นดู ... แต่ยิ่งดู ยิ่งน่ารักหว่ะ ไอ้ลูกหมาน้อยเอ๊ย ...
.......................................................................................
......................................
ภู ค่อยๆจอดรถ ตรงบริเวณใกล้ๆกับทางเข้าลอบบี้ของโรงแรม คืนวันอาทิตย์ที่แขกส่วนใหญ่ทยอยกันกลับ เพื่อเตรียมตัวสำหรับเช้าวันจันทร์ ทำให้ที่จอดรถมีรถอยู่บางตา เขาหันไปทาง ตั้ม จากแสงอ่อนๆของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับฟ้าที่ส่องเข้ามา เขาเห็นใบหน้าที่หลับอยู่ดูสงบจนน่าแปลกใจ เขาพิจารณาดูใบหน้ารูปไข่ คิ้วเรียวบาง  จมูกเป็นสันเล็กน้อย และริมฝีปากบางเบา โหนกแก้มที่สูงเป็นสัน  ยิ่งทำให้ใบหน้าดูเด่นแปลกตา แต่แล้วภาพของเด็กชายคนหนึ่งก็เข้ามาซ้อนกับใบหน้าของ ตั้ม

เด็กชายนอนฟุบอยู่กับโต๊ะ ใบหน้าซีดเซียวเหมือนคนป่วย เขาเอื้อมมือแตะที่หน้าผากของเด็กชายเบาๆ รู้สึกถึงความอุ่นของหน้าผาก ถึงแม้ความเย็นของแอร์ในรถยังคงอยู่
“ตั้ม ตั้ม เป็นอะไรรึเปล่า” ภู เรียกเบาๆ
“หือ ... ปอ เหรอ” ตั้ม งัวเงียเงยหน้าขึ้นมา แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ปลุกตัวเองอย่างชัดเจน
“ภู...” ตั้ม อึกอัก “ขอโทษนะเรานึกว่าคนอื่น”
“ฝันถึงคนนั้นอยู่เหรอ” ภู ถามยิ้มๆ ... น่าแปลก ทำไมเขาถึงได้ดีใจที่ ตั้ม เรียกชื่อคนอื่น มิหนำซ้ำ เหมือนมันชุ่มชื่นหัวใจพิกล ...
“อื้อ ... เราฝันถึงตอนที่เราเรียนมัธยมอยู่น่ะ” ตั้ม ตอบไม่ค่อยเต็มเสียงนัก ... ทำไมเขาถึงฝันได้ แล้วยังเป็นช่วงกลางวันเสียด้วย ...
“ตอนที่ไม่สบาย จนต้องนอนฟุบในห้องน่ะเหรอ” ภู ถามพลางหัวเราะเบาๆ
“รู้ได้ไง” ตั้ม ถามพลางหันมามองหน้า ภู อย่างสงสัย
“เอ้อ” ภู อ้ำอึ้ง ... อย่าเพิ่งบอกดีกว่า ไว้ค่อยหาเวลาอธิบายวันหลัง ...
“เข้าห้องพักก่อนดีกว่านะ เพื่อนๆรอแล้ว” ภู พูดตัดบท พลางเปิดประตูรถออกไป ตั้มจึงต้องปลดสายเซฟตี้เบลท์ แล้วเปิดประตูรถตามออกมา


ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
 o9 o9 o9เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตั้มง่ะใจร้ายตอนสั้นนิ๊ดเดียว....... :serius2:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๐๙

“ไหนวะลูกหมาของเอ็ง ไม่จูงลงมาด้วยล่ะวะ” นน ถามขึ้นเมื่อ ภู นั่งลงที่โต๊ะอาหาร
“โห ทำไมกับข้าวเยอะแบบนี้วะ” ภู มองดูกับข้าว ๗-๘ อย่างบนโต๊ะ
“เอ็งไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ไหนวะเด็กเอ็งอยู่ไหน” อาร์ท พูดพลางตักกุ้งเข้าปาก
“ผู้ใหญ่เว๊ย ไม่ใช่เด็ก อาบน้ำอยู่เดี๋ยวลงมา” ภู ตอบพลางเริ่มกินข้าว “หิวหว่ะ ไม่ได้กินอะไรรองท้องมาเลยตั้งแต่สี่โมง”
“แล้วใจคอจะไม่รอเหรอวะ นี่จะอาบน้ำนานรึเปล่า” กิ่ง ถามพลางตักกับข้าวที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโต๊ะ ให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ไม่นานหรอก แค่ล้างเหงื่อ ทำงานมาตั้งแต่เช้า แล้วก็รู้ว่าพวกเรารออยู่ด้วย นั่นไง มาแล้ว” ภู หันไปโบกมือให้ ตั้ม ที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าทางเข้าห้องอาหาร
“ขอโทษนะ ที่มาช้า” ตั้ม ยิ้มทักทายคนบนโต๊ะ แล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ ภู
“ผมไม่ได้หวีเหรอไง” ภู มองไปยังผมที่เปียกชื้น คงเพียงแค่เอามือปัดให้เป็นทรง เพราะมันดูยุ่งเหยิงพิกล
“ก็จะได้ลงมาเร็วๆไง เกรงใจอะ เห็นว่ารอกันนานแล้ว” ตั้ม ตอบพลางหันไปยิ้มให้
ภู อดไม่ได้ที่จะเอามือไปปัดผมที่ระอยู่ข้างแก้ม ให้เข้าที่เข้าทาง
“เฮ๊ย ลูกหมาน้อยของเอ็งนี่น่ารักดีหว่ะ ขนฟูกระเซิงมาเชียว” จูน พูดจบทุกคนก็พากันหัวเราะ ยกเว้นแต่ นน ที่ทำหน้าเจื่อนๆ
“กินข้าวก่อนสิ เดี่ยวกับข้าวหมดซะก่อน ไอ้พวกนี้น่ะปอบทั้งนั้น กินไม่ทันมันหรอก” ภู ชักชวนพลางตักกับข้าวให้ ตั้ม “อ๊ะนี่ปูผัดผงกะหรี่ ของโปรดไง”
“รู้ได้ไง” ตั้ม หันหน้าไปถามด้วยความสงสัย
“เอ้อ... เราเดาเอาน่ะ ก็ตอนไปกินอาหารญี่ปุ่นด้วยกัน นายบอกเองนี่ว่าชอบแครี่ เราก็เลยคิดว่านายคงชอบปูผัดผงกะหรี่ด้วย”

ตั้ม ได้แต่แปลกใจ ถึง ภู จะคอยตักกับข้าวให้เขา แต่ทำไมถึงดูเหมือนจะรู้ไปหมดว่า ตั้ม ชอบอะไร ไม่กินอะไร ขนาดปลาราดพริก ก็ยังเขี่ยพริกออกตักน้ำราดมาจนชุ่มแบบที่ ตั้ม ชอบทำ อาหารเย็นผ่านไปด้วยความอิ่มหนำสำราญ ท่ามกลางเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน มีเพียง ตั้ม ที่ยังรู้สึกไม่ค่อยคุ้นเคยกับคนอื่นนัก และ นน กลับคุยน้อยกว่าปรกติ และมีท่าทางกระอักกระอ่วนในบางครั้ง
“ยังหัวค่ำอยู่เลย ลงไปดูทะเลกันดีมะ” นพ แฟน ของ กิ่ง ชวนหลังจากที่ทานอาหารกันเสร็จ
“เออ ดีเหมือนกัน เดินย่อยอาหารด้วย กูอิ่มจนจะกลิ้งได้อยู่แล้ว” อาร์ท พูดแล้วหัวเราะ
แล้วทุกคนก็ชักชวนกันลงไปยังชายหาด ที่อยู่เกือบจะติดกับโรงแรมที่พักอยู่ เพียงแต่เดินออกจากประตูอาคารที่พักไปไม่กี่เมตรเท่านั้น
............................................................
............................
“หนาวเหรอ” ภู ถามพลางโอบไหล่ ตั้ม ที่เอามือกอดอกไว้
“เปล่าอะ กำลังสบายเลย” ตั้ม ตอบพลางเดินให้เร็วขึ้น จนมือของ ภู หลุดออกไปจากไหล่ แต่เขาก็ไม่ได้เดินตาม ปล่อยให้ ตั้ม เดินไปยังชายหาดเพียงคนเดียว
ตั้ม เดินย่ำทรายชื้นๆลงไปจนถึงน้ำทะเล ที่เป็นคลื่นเล็กๆกระทบทรายอยู่เบาๆ  แล้วหยุดยืนให้น้ำทะเลสาดใส่เท้าพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“ไม่ตามลงไปเหรอวะ” จูน เดินเข้ามาถาม พลางทำหน้าทะเล้นใส่ ภู
“ไม่ดีกว่าหว่ะ ตอนนี้คงอยากอยู่คนเดียว” ภู ตอบโดยที่ตายังมองตาม ตั้ม ที่อยู่ไกลๆ
เขารู้ว่า ตั้ม ชอบที่จะเดินย่ำทรายที่มีคลื่นซัดมาเบาๆ มันทำให้ ตั้ม รู้สึกสบายใจและเป็นสุข และเวลาแบบนี้ ตั้ม ชอบที่จะอยู่คนเดียวสักครู่หนึ่ง เพื่อที่จะได้ดื่มด่ำกับความสุขแบบนี้เพียงลำพัง ... ทำไมเขารู้ได้นะ ... เขาเองก็ยังแปลกใจอยู่เหมือนกัน

... ไอ้นน มันเข้าไปทำไมวะ ... ภู ขมวดคิ้ว นน เดินไปหา ตั้ม ที่ยืนอยู่บนชายหาดด้านล่าง ท่าทางขัดเขินของ นน ทำให้เขารู้สึกเขม่น สักพัก เขาเห็น ตั้ม เอามือแตะที่แก้ม นน แล้วท่าทางของทั้งสองคนก็เปลี่ยนไป เหมือนกับรู้จักกันมาเป็นสิบปี ภาพนั้นเหมือนทำให้เขามีโมโหขึ้นมาเล็กน้อย
“ระวังนะเอ็ง เดี่ยวลูกหมาน้อยจะถูกหมาใหญ่คาบไปแดก” อาร์ท พูดพลางเอามือมาจับไหล่ ภู
“ไม่มีทางหรอกมึง กูเฝ้าของกูมาตั้งหลายปี กูไม่ยอมพลาดอีกเป็นครั้งที่สองหรอก” พูดจบ ภู ก็เดินลงไปหาคนทั้งสอง
คำตอบของ ภู ทำให้ อาร์ท และ จูน มองหน้ากันด้วยความงุนงง

“มันพูดอะไรผิดรึเปล่าวะ ไหนว่าเพิ่งรู้จักกันไง” จู หันไปพูดกับอาร์ท
“ไม่ผิดหรอกหว่ะ เพิ่งเจอกันเมื่อไม่นานนี้เอง แต่ ภู มันรู้จัก ตั้ม มาหลายปีแล้ว” อาร์ท ตอบพลางมองตามหลัง ภู
“ไปรู้จักที่ไหนวะ” จู ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“ในฝันหว่ะ  มันรู้จักกันในความฝัน” อาร์ท พูดพลางถอนหายใจ


ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
เอาใจช่วยภูนะ

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
๐๙


“ไม่มีทางหรอกมึง กูเฝ้าของกูมาตั้งหลายปี กูไม่ยอมพลาดอีกเป็นครั้งที่สองหรอก”




 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
นั่นสิอย่าให้หลุดมือนะ ปอ อิอิ
ว่าแต่...นนเค้าเป็นใครกันแน่หนอ......

sun

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด...ด 

อย่าบอกนะ ว่านน คือ " นึก " อ่ะ  จำชื่อผิดป่ะว๊าช้าน เอิ้กๆ   (ถ้าผิดก้อหน้าแหกแล่ะ กร๊ากกก...ก )  :m20:

(แบบว่า แอบไปอ่านมา แต่ยังมิได้เม้น )  :m23:


แต่คงมิใช่  พี่ชัย กับ พี่ ราญ ชิมิ คุนบุหรง เอิ้กๆ

หรือว่า...... ปล่อยให้ซินเดาต่อปาย กร๊ากกกก....ก  :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด