Short Story :: เพียงแค่เราจะรักกัน
“ดิน เราเลิกกันเถอะนะ” ผมยิ้มให้กับคนที่ผมรักที่สุด เดินหันหลังจากมาด้วยท่าทางเฉยชาเหมือนคนไม่เคยรู้สึกอะไร ถามผมเหรอว่าเจ็บไหม? แล้วทำไมผมถึงต้องตอบว่าไม่เจ็บด้วยล่ะ
ผมคบกับดินมาเกือบปีแล้ว เราเป็นคนรักกัน ถ้าเรียกให้ถูกตอนนี้ต้องบอกว่าเขาเป็นรุ่นพี่ แต่ผมเรียกชื่อเขาเฉยๆแบบนี้จนติดปาก เขาเป็นหนุ่มนักกีฬาเทควันโด หน้าตาก็ไม่ได้ถึงขั้นเลวร้ายอะไรนัก ค่อนข้างไปทางมีผู้หญิงรุมเยอะด้วยซ้ำไป แต่เขาก็เลือกมาคบกับผม คนที่เคยเรียกเขาว่าพี่ชายเสมอมา
ผมเป็นแค่เด็กธรรมดาคนหนึ่ง เป็นคนที่ดูจะเย็นชาไม่แคร์ความรู้สึกของใครสักเท่าไหร่ อยากพูดอะไรก็พูด อยากทำอะไรก็ทำ ขอแค่สิ่งนั้นมันไม่ผิดกฎหมายและอยู่ในความพอใจของผมมันก็พอ แล้ววันนี้ผมก็ต้องเจ็บเพราะการกระทำตัวแบบนี้ของผม เอาใจใครไม่เป็น แสดงความรู้สึกก็ไม่เก่ง ทำเฉยๆเวลาเขาทำอะไรดีๆให้ เวลาเจ็บก็ไม่รู้ต้องพูดให้เขารู้ไปทำไม เพราะแบบนี้ทุกคนเลยมองว่าผมเข้มแข็ง
“ดูนั่นดิ เห็นว่ามันเป็นฝ่ายบอกเลิกพี่ดินว่ะ”
“ไหนวะ? โหย...ไอ้หน้ารูปปั้นนี่นะ กูเป็นพี่ดินกูบอกเลิกเองดีกว่า”
“เออกูก็ว่าอย่างนั้น คนห่าอะไรไม่เคยเห็นมันยิ้มเลย ทื่อขนาดนี้กูเอากับท่อนไม้ดีกว่า”
ผมก้มหน้าเดินเข้าห้องเรียนไปด้วยอารมณ์บอกไม่ถูก พอได้ยินคำนินทาต่อหน้าจังๆแบบนั้นแล้วก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าเจ็บเล็กๆ แต่แค่ไม่นานผมก็ไล่ความคิดเหล่านั้นออกไป ก้มหน้าก้มตาสนใจกับหนังสือเรียนตรงหน้าแทน
ผมอยู่โรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง ซึ่งฟากติดกันนั้นเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดัง ดินเองเคยเป็นรุ่นพี่ของโรงเรียนนี้แล้วสอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยฝั่งตรงข้ามได้ ไม่แปลกอะไรที่จะมีคนรู้จักพี่เขามากมาย รวมถึงข่าวว่าพี่เขาคบกับผมนั่นผมก็กระจายตัวเป็นวงกว้าง เพราะความเงียบของผมถึงไม่มีคนเข้ามาถามหรือหาเรื่องตรงๆ จะมีเด็กผู้หญิงโรงเรียนใกล้ๆ มาล้อมกรอบด่าว่าบ้างผมก็ไม่ได้แคร์อะไร
เลิกเรียนผมก็แค่เก็บกระเป๋าเดินลงไปด้านล่าง พ่อผมกำลังจะย้ายไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ผมคิดว่าพอเรียนจบ ม.6 ก็จะตามท่านไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของที่นั่น เพราะที่นี่ผมไม่เหลืออะไรให้ต้องรู้สึกผูกพันด้วยอีกต่อไป
“เพจ! เพจ! จะไปไหนน่ะ”
ผมไม่ได้หันกลับไปมองตามต้นเสียง เดินเลี่ยงไปอีกทางขึ้นรถยนต์ที่พ่อเพิ่งถอยมาให้กับผมเป็นรางวัลที่สอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่นได้ ผมก้มหน้าหลบไม่หันไปมองภาพที่ทำให้ผมอาจจะใจอ่อนอีกต่อไป แต่ผมคิดผิดถนัด...
ดินเดินจูงมือมากับวิว ผู้หญิงที่ทำให้ผมบอกเลิกกับดิน เธอไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกนะครับ ก็แค่เธอแบ่งปันความสำคัญของผมจากดินออกไปให้กับตัวเธอเองบ้างก็เท่านั้น เธอไม่ผิดอะไรเลย ผิดที่ผมที่รับไม่ได้กับการกระทำของดิน และเลือกเป็นฝ่ายจากไป
จะอยู่ไปทำไมในเมื่อความสำคัญของเราต้องใช้มันร่วมกับใครบางคน
ผมอาจจะดูผิดในสายตาของใครหลายคนที่เลือกจะหันหลังให้กับความดีของผู้ชายคนหนึ่ง ไม่ว่าจะทำอะไรผมก็ผิดไปหมดเสียทุกครั้ง ไม่ว่าอะไรผมก็ผิดอยู่เสมอเมื่อต้องอยู่กับดิน
กลับมาถึงบ้านผมก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียง หลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อนกับภาพที่ต้องมาเห็น อุตส่าห์ทำเหมือนไม่เป็นอะไรได้แล้วแท้ๆ แต่ความรู้สึกลึกๆในใจบอกว่าสิ่งที่ผมทำกับบางอย่างที่รู้สึกมันตรงกันข้ามกันสิ้นดี บอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไรซ้ำๆ จนตอนนี้คำว่าไม่เป็นอะไรมันเริ่มจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างเสียแล้ว
ผมลุกพรวดเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ เปลือยกายเหวี่ยงเสื้อผ้าเอาไว้ด้านนอก ก่อนจะเข้าไปยืนหันหน้ารับกับสายน้ำจากฝักบัวให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง เหลือบมองเงาตัวเองในกระจกก็เห็นเพียงคนโง่คนหนึ่งซึ่งไม่สามารถทำอะไรได้เพื่อความรัก เมื่อกลัวจะเจ็บก็จึงเลือกจะทิ้งขว้างมันไป ผมเห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัวจนยอมไม่ได้หากมีใครหรืออะไรมาแบ่งเอาความรักในส่วนที่เคยเป็นของผมไป ถ้าหากจะเสียไปบ้างผมเลือกจะทิ้งไปทั้งหมดยังดีกว่า
ผมออกมาด้วยผ้าขนหนูเพียงผืนเดียวพันรอบกาย แอร์เย็นๆ กระทบผิวกายจนรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วทั้งร่าง ผมเหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่างเห็นแต่เพียงความมืดเริ่มเข้าปกคลุมท้องฟ้าทีละน้อย จัดแจงแต่งตัวเสร็จก็ลงไปด้านล่างคืนนี้ผมอยากไปปลดปล่อยอารมณ์ที่ไหนสักที่
รถยนต์คันหรูของผมขับตรงมายังสถานที่ที่เรียกว่าโฮสต์คลับ ที่เลือกมาที่นี่เพราะอย่างน้อยมันก็ไม่ได้มีพวกชั้นล่างเยอะแยะเหมือนกับในผับหรือบาร์ทั่วไป ไอ้ที่ว่าชั้นล่างผมหมายถึงนิสัยไม่ใช่เงินทองหรอกนะครับ บ้านผมก็แค่มีอันจะกินไม่ได้อะไรมากมาย
“สวัสดีครับ คุณลูกค้ามาใหม่ใช่ไหมครับ? เชิญเลือกโฮสต์ที่ชอบได้เลยครับ”
ผมกวาดสายตามองรายชื่อโฮสต์พร้อมรูปภาพตรงหน้าก่อนส่ายหัว ผมไม่ได้อยากเที่ยวแค่อยากหาที่ดื่มเหล้าย้อมใจ เผื่อไอ้อาการเจ็บแปลบๆแถวอกข้างซ้ายมันจะทุเลาลงไปได้บ้าง
“ไม่ครับ ขอโต๊ะที่นั่งสบายที่สุดก็พอครับ”
“ได้ครับ จัดเป็นที่นั่งหน้าฟลอร์แล้วกันครับ เชิญทางนี้ครับ” พนักงานหนุ่มซึ่งจัดได้ว่าหน้าตาดีมากกำลังพาผมไปนั่งที่โซฟาเนื้อดีข้างฟลอร์เต้นรำ ก่อนจะมีบริกรเดินเข้ามารับออเดอร์จากผม
ไม่นานนักรายการเครื่องดื่มพร้อมกับแกล้มของผมก็ถูกเสิร์ฟวางลงบนโต๊ะ เพียงแต่คนที่มาเสิร์ฟนั้นไม่ได้ใส่ชุดบริกรอย่างคนเมื่อสักครู่ กลับแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนม ฉีดน้ำหอมราคาแพง ใบหน้านั้นสวยราวกับผู้หญิง แต่ว่ารูปร่างยังคงได้รูปสมกับเป็นผู้ชายที่ต้องดูแลตัวเองเป็นอย่างดี นัยน์ตาพราวระยับแบบนั้นเดาได้ไม่ยากว่าเพลย์บอยตัวพ่อมาเอง รอยยิ้มนั่นก็คงเป็นกับดักไว้ล่อเงินในกระเป๋าของลูกค้า
“จะรังเกียจไหมครับถ้าผมจะขอนั่งด้วยคน” ใบหน้านั่นคงเรียกคะแนนสงสารบวกพิศวาสจากพวกสาวแก่แม่ม่ายโต๊ะข้างๆได้ไม่น้อย เสียงกรี๊ดด้วยความอยากถึงดังได้ดังดีขนาดนั้น
“รังเกียจครับ ผมบอกไปแล้วว่าไม่ต้องการโฮสต์” ผมยิ้มตอบอย่างที่คิดว่าสุภาพที่สุด ก่อนจะยกแก้วเหล้าชงเข้มกระดกเข้าปากรวดเดียว
“ดื่มแบบนั้นเดี๋ยวก็เมาหรอกครับ ให้ผมอยู่ช่วยชงเหล้าให้ดีกว่า”
“อย่าเลยครับ เพราะถึงทำแบบนั้นผมก็ไม่ยอมจ่ายค่าตัวคุณแน่ๆ ผมอยากดื่มไม่ได้อยากมีเซ็กซ์กับคุณเหมือนคุณนายโต๊ะข้างๆ” ผมปรายสายตาไปมองคุณป้าเหล่านั้นที่ทำท่าจะดิ้นพราดๆ เข้ามาตบผมสักฉาดสองฉาดเสียให้ได้ แต่ก็ถูกเหล่าโฮสต์ของโต๊ะนั้นช่วยกันห้ามเอาไว้
แน่จริงก็ลองมาตบผมสิ จะได้เห็นดีกันว่าใครจะแน่กว่าใคร
“ตรงดีจังเลยนะ” แก้วเหล้าของผมถูกชายอีกคนยึดเอาไว้ ผมมองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ มาดหล่อแบบเถื่อนๆของเขามันทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบหน้าอย่างแรง ผู้ชายนักกีฬา...ผมเกลียดนัก!
“แล้วผมกล่าวถึงคุณหรือไงครับ” ผมเบือนหน้าหนีเตรียมจะเรียกพนักงานมาเก็บเงิน อยู่นี่นานผมคงอารมณ์เสียหนักกว่าเดิม
“กลัวหรือไง”
“ทำไมผมต้องกลัวครับ คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน” ผมหันไปมองหน้าไอ้เถื่อนอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก
“หึหึ ฉันชื่อโดม เผื่อเวลาครางบนเตียงจะได้เรียกชื่อถูก” หมอนั่นใช้มือมาจับหน้าของผมให้เข้าไปประชิด พูดคำที่ผมรู้สึกอยากจะต่อยหน้ามันให้กระเด็นสักหมัดสองหมัด
“ผมชื่อดิวครับ แค่สั่งมาเท่านั้นความปรารถนาในรสกามารมณ์ของคุณจะเป็นจริง” ไอ้หน้าหวานนั่นก็เอามือโอบเอวผมเข้าไปใกล้กระซิบถ้อยคำที่น่าเอารองเท้ายัดปาดมันด้วยอีกคน
“ปล่อยกูนะ!” ผมดิ้นพราดๆ พยายามจะหลุดออกจากไอ้สองคนนี้ให้ได้ ดูยังไงก็แค่พวกหลงตัวเองชัดๆ
“ไม่สุภาพเลยนะครับ แบบนี้ต้องลงโทษ”
พูดจบไอ้หน้าหวานก็ก้มลงซุกไซ้ซอกคอผมอย่างรุนแรง ไอ้เถื่อนเองก็ไม่ยอมแพ้ก้มลงมาประกบปากกับผมอย่างดูดดื่ม ริมฝีปากนั่นบดขยี้พยายามดันลิ้นแทรกเข้ามา ผมพยายามเบือนหน้าหนีแต่ก็ถูกมือของมันจับเอาไว้พร้อมบีบคางของผมอย่างรุนแรง
“เชี่ย กูเจ็บ!”
ผมร้องก่นด่ามันเสร็จก็ถูกลิ้นร้อนๆของมันรุกรานเข้าภายในโดยที่ผมไม่เต็มใจ มือทั้งสองข้างถูกไอ้หน้าหวานใช้เนคไทด์ของมันมัดเอาไว้อย่างแน่นหนา ขาก็ถูกกดเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนีไปไหนได้ มือของมันสองคนเริ่มลวนลามน้องชายของผม บีบคลึงจนผมรู้สึกหน่วงๆบริเวณนั้น มืออีกข้างก็สอดเข้าไปบีบก้นผมอย่างรุนแรง จนอดที่จะบิดตัวเร่าๆ ด้วยอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาไม่ได้ ในขณะที่ผมโดนทั้งสองคนทำอนาจารกลางโฮสต์คลับ เหมือนโชคจะเข้าข้างผมเพราะโทรศัพท์ของผมดังขึ้นมาพอดี
“เชี่ยเอ๊ย! ขัดอารมณ์ฉิบหาย มึงรับที” ไอ้หน้าเถื่อนถอนจูบออกจากริมฝีปากของผม ซึ่งก็ดันล้มฟุบลงไปหอบหายใจบนแผ่นอกกว้างของมันพอดี “น่าเอานะมึงน่ะ ยิ่งตอนนี้โคตรน่าโดนเลย”
ผมผลักตัวของไอ้เถื่อนให้ออกห่าง พร้อมทั้งพยายามดันศีรษะของไอ้หน้าวานที่ก้มลงไซ้เป้ากางเกงของผมจากด้านนอกให้ออกไปห่างๆ พวกมันแม่งโคตรหน้าด้านเลยจริงๆ แต่ผมสิหน้าด้านกว่าพวกมันอีก ดันโดนทำแล้วมีอารมณ์ตามพวกมันไป
“อือ...ไอ้บ้ากามหลุดไซ้ซักที อืม...อา...” ผมหลุดครางออกมาเป็นครั้งแรกหลังจากฝืนเอาไว้ ลองโดนเองไหมล่ะข้างล่างมันไม่มีตาหรอกนะ โดนใครทำให้มันก็ไม่รู้ทั้งนั้น จะมีอารมณ์ก็ไม่เห็นจะน่าแปลกตรงไหน
“คุณก็อย่าครางสิครับ” ไอ้หน้าหวานยิ้มยั่ว
“ก็หยุดสักทีสิ ผมจะรับโทรศัพท์” ผมเอื้อมมือไปกดโดนปุ่มรับสายบนหน้าจอสัมผัสพอดี แต่พอเหลือบเห็นชื่อบนหน้าจอผมก็รีบกดตัดสายไปทันที
“ไหนว่าจะรับไง แฟนโทรมาเหรอ?” ไอ้หน้าหวานหยุดการกระทำด้านล่างเงยมามองหน้าผม ไอ้หน้าเถื่อนเองก็ดึงหน้าผมเข้าไปหาจนชิด
น้ำตาผมไหล ปกติผมไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นง่ายๆ แต่เวลานี้ผมเจ็บจริงๆ ใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ของผมมันทำให้ผมต้องลำบากทุกครั้ง ผมแค่ไม่รู้ต้องทำตัวยังไง แค่ตอนนี้รู้ว่าอยากร้องไห้ออกมาให้หมด
“เชี่ยเล่นเอากูหมดอารมณ์เลย”
“ง่า...อย่าร้องนะครับแต่ช้าแต่ผมไม่แกล้งแล้ว มาๆวันนี้ผมเลี้ยงเหล้าคุณเองนะ” ไอ้หน้าหวานลุกขึ้นมานั่งโซฟากับผมตามเดิมก่อนจะเอื้อมมือมาดึงผมเข้าไปกอด กลิ่นน้ำหอมราคาแพงนั่นมันไม่ได้ฉุนอย่างที่ผมเคยคิดสักเท่าไหร่ กลิ่นอ่อนๆกับคำพูดปลอบโยนนั่นมันทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยอย่างไม่เคยเป็นมานานแสนนาน จึงปล่อยน้ำตาให้ไหลไปอย่างไม่คิดจะหยุดมันเอาไว้
สักพักเดียวผมก็ดันตัวมันออก เห็นไอ้เถื่อนยื่นแก้วเหล้ามาให้ผม ผมรับมาแล้วเริ่มกระดกเข้าปากอย่างไม่เกรงใจใคร ดื่มโดยไม่รู้ว่าดื่มไปมากมายแค่ไหน รู้ตัวอีกทีก็หลับสนิทไปจนถึงเที่ยงๆของอีกวัน
“อือ...” ผมร้องประท้วงเมื่อรู้สึกถึงแขนใหญ่ๆของใครบางคนกำลังทับอยู่บนตัวผม พอพลิกตัวไปอีกทางก็ต้องพบกับกลิ่นเหล้าเคล้ากลิ่นน้ำหอม จะว่าไปทำไมหมอนข้างผมมันแปลกๆไปนะ “เฮ้ย! อะไรวะ” ผมดีดตัวพรวดขึ้นจากเตียงทันทีที่เริ่มจำเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ได้
มองไปทางซ้ายก็เจอไอ้เถื่อนคนเมื่อวานปรือตาขึ้นมามองผม พอเริ่มก้มต่ำลงไปก็เห็นแผงอกกว้างกับหน้าท้องไร้ไขมันของมันบวกกับซิกแพคแน่นๆน่าสัมผัสนั่น แต่พอก้มลงมองต่ำไปอีกผมก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อของของมันกำลังตั้งตระหง่านสู้สายตาของผม ใหญ่จนแค่คิดว่าหากมันเข้ามาในตัวผม ผมคงขาดใจตายก่อน แต่เฮ้ย! ทำไมผมต้องไปคิดอย่างนั้นด้วยวะ
คราวนี้ผมลองหันไปมองทางขวามือของผมบ้าง ไอ้หน้าสวยกำลังนอนหลับสบาย แผงอกเนียนกับเม็ดสีชมพูนั่นทำให้ผมใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก พอคิดว่าเมื่อคืนผมร้องไห้ซบอกคนๆนนี้ใจผมก็ยิ่งเต้นรัวขึ้นไปอีก แต่คราวนี้ผมไม่กล้าก้มลงมองต่ำกว่านั้นอีก ขืนมองลงไปผมคงเห็นอะไรๆเต็มสองตาอีกแน่ๆ
คราวนี้ก้มลงมองสภาพตัวเองบ้าง เฮ้อ...โชคดียังมีกางเกงอยู่ติดกับตัว ไม่อย่างนั้นคงคิดว่าเมื่อคืนผมกับมันสองคนออกกำลังกายกันยามค่ำคืน
“ตื่นไวดีนี่นา” ร่างของไอ้เถื่อนลุกขึ้นมานั่งทำให้ผ้าห่มซึ่งแทบไม่คลุมอะไรๆตรงหว่างขาของมันยิ่งเปิดให้เห็นส่วนนั้นจนชัดเจน
ไอ้ที่ตื่นไวมันของแกไม่ใช่หรือไงกัน “หืม...ใจร้ายจังครับ ตื่นแล้วไม่เรียกแบบนี้” ไอ้หน้าหวานเอื้อมมือมากอดผมจากทางด้านหลัง แต่สัมผัสเบื้องล่างแม้จะไม่เห็นด้วยตาก็รับรู้ได้ว่าบางอย่างที่ใหญ่กว่าของผมมากกำลังจิ้มประตูหลังของผมอยู่ไม่ไกลนัก แถมยังแข็งแล้วเสียด้วย
“หึหึ ทำหน้าตาน่ารักแบบนั้นแต่เช้านี่เชิญชวนหรือไง” เถื่อนเริ่มขยับตัวเข้ามาใกล้จนผมเห็นอะไรๆตรงหว่างขาของมันเต็มสองตา
แม่เจ้า! ทำไมพ่อมันให้มาเยอะจังวะ! “นี่...มองแต่ของโดม ของผมก็ไม่แพ้มันหรอกนะครับ” ไอ้หน้าหวานไม่พูดเปล่า ดึงมือของผมให้ไปสัมผัสกับส่วนนั้นของมันเพื่อพิสูจน์ความจริงอีกต่างหาก แค่ให้จับไม่พอเจ้าตัวยังถือวิสาสะกุมมือผมให้ลูบไล้สัมผัสกับส่วนนั้นของตนอย่างภูมิใจ
“จ...จะทำอะไรน่ะ”
“เชี่ยดิวมึงอย่าโกง กูไม่ยอมแพ้มึงหรอก” ไอ้เถื่อนจ้องหน้าไอ้หน้าหวานอย่างไม่ค่อยพอใจ สักพักมันก็ดึงมืออีกข้างของผมให้ไปลูบไล้ความใหญ่โตของมันบ้าง
ตอนนี้ผมทั้งมึนทั้งงง แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นไปกับสิ่งที่กำลังได้เรียนรู้ ผมคบกับดินแต่ก็ไม่เคยมีเรื่องทำนองนี้กันมาก่อน แค่จูบก็ยังไม่เคย มีแค่เดินจับมือโอบกอดกันบ้างเป็นครั้งคราว
“เด็กน้อยครับ ช่วยพวกผมหน่อยนะครับ” ไอ้หน้าหวานเริ่มจับมือของผมรูดขึ้นลงตามความยาวของสิ่งนั้น ไอ้เถื่อนเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าจับมือของผมให้สะกิดส่วนปลายนั้นอย่างจงใจ ก่อนจะทำมือผมให้เป็นช่องผมรัดกับของมันได้ แล้วเริ่มกระแทกเอวเข้ามาใส่อุ้งมือของผม
ผมนั่งกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเห็นภาพเหล่านั้น ผมเป็นเกย์ก็จริงแต่ไม่เคยได้เรียนรู้เรื่องแบบนี้มาก่อน ภาพผู้ชายสองคนกำลังใช้มือของผมเป็นเครื่องบำบัดความใคร่นั้นทำให้ผมเองก็เริ่มรู้สึกปวดตรงกลางหว่างขาของผมเช่นกัน สีหน้าที่แสดงออกถึงความเสียวกระสันของคนทั้งสองพาสติผมให้กระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง ใบหน้าเหยเกกับเสียงครางกระเส่านั้นราวกับทั้งคู่กำลังยั่วผมให้ติดหลุมพรางของเขาทั้งสองคน
“อ๊า....อู้ว........ซี๊ดดดด....จะแตกแล้ว” ไอ้เถื่อนร้องลั่นมันเริ่มโยกสะโพกกระหน่ำใส่มือผมไม่ยั้ง ข้อมือผมสั่นด้วยแรงกระแทกของมัน ผมจ้องของของมันตาไม่กระพริบ แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็ต้องหันกลับไปอีกด้าน
“อื้อ....อีกนิด...อ้า....ซี้ดดดดด....” ปลายหัวสีชมพูของไอ้หน้าหวานเคลื่อนผ่านอุ้งมือขวาของผมอย่างเร่งจังหวะเช่นกัน แม้ของมันจะใหญ่ไม่เท่ากับของไอ้เถื่อนแต่ความยาวดูแล้วน่าจะมากกว่าของไอ้เถื่อนที่ผมกำไม่มิด
“อ๊าวววววว......” เสียงร้องยาวดังขึ้นพร้อมกัน น้ำรักของทั้งคู่ถูกฉีดกระเด็นไปเปรอะฝาผนังห้องอีกด้านอย่างรุนแรง มองทั้งสองข้างของผมก็เปรอะไปด้วยคราบน้ำเหนียวๆนั่นเต็มไปหมด สักพักมันทั้งสองคนก็เคลื่อนตัวเข้ามาประกบผมไว้ก่อนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์โดยไม่พูดอะไร
“นั่นจะทำอะไรกันน่ะ”
ผมร้องลั่นเมื่อรับรู้ถึงอันตรายที่กำลังจะตามมา กางเกงของผมถูกปลดลงไปกงออยู่ปลายเตียง ส่วนทั้งสองคนนั่นก็ลงไปนั่งอยู่ด้านล่าง ไอ้เถื่อนใช้สิ้นแฉะๆของมันตะหวัดเลียพวงด้านล่างของผมผ่านกางเกงในเนื้อบาง ส่วนอีกข้างก็ถูกไอ้หน้าหวานอมเข้าไปดูดผ่านเนื้อผ้านั้นจนมือผมเกร็งจิกผ้าปูที่นอนด้วยความเสียวซ่านกับสัมผัสใหม่ที่เพิ่งเคยได้รับ
เพียงครู่เดียวกางเกงในของผมก็ลงไปกองอยู่แถวๆ กองเสื้อผ้าเมื่อคืนของพวกมัน ของของผมเริ่มแข็งตัวแต่ยังไม่ตั้งแบบของพวกมันสองคนเมื่อครู่ พวกมันสองคนจับผมนั่งอ้าขาอยู่ขอบเตียง ผมเห็นปลายของตัวเองมีน้ำไหลซึมเล็กน้อย ทั้งสองคนมองตากันก่นจะเข้าจู่โจมอวัยวะสำคัญของผม ไอ้หน้าหวานเริ่มดูดเลียพวกทั้งสองจนผมเผลออาขาให้กว้างขึ้นเพื่อให้มันทำได้ถนัด ส่วนไอ้เถื่อนเองก็ตรงเข้าเอาปากครอบส่วนลำเอาไว้ก่อนจะดูดรูดขึ้นลงเป็นจังหวะ ผมเสียวมากจนเผลอเอมมือไปกดหัวของทั้งคู่เอาไว้พร้อมกระแทกเอวใส่ปากของไอ้เถื่อนอย่างไม่เกรงใจ
ไอ้เถื่อนมองหน้าผมเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกถึงแรงดูดที่มากกว่าเมื่อครู่ในปากของมัน ผมยิ่งได้ใจกระแทกใส่ปากของมันจนมิดลำ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะเสร็จไอ้เถื่อนก็ยันตัวของผมออก ไอ้หน้าหวานก็เหมือนรู้หน้าที่ตรงเข้ามาจัดการครอบลำของผมไว้แทน แต่คราวนี้มันทั้งเลีย ดูด ดุน หยอกล้อกับลำของผมสลับกับพวงด้านล่างอย่างชำนาญจนผมครางลั่น ไอ้เถื่อนเองก็ขึ้นมาขบเม้มยอดอกของผมอย่างหื่นกระหาย ผมรู้สึกเสียวทั้งช่วงล่างและช่วงบน แต่เพียงไม่นานน้ำรักของผมก็ถูกปลดปล่อยออกมาใส่โพรงปากของไอ้หน้าหวาน ซึ่งไอ้เถื่อนพอเห็นก็เลิกเล่นกับหน้าอกของผม ลงไปก้มแบ่งปันน้ำจากไอ้หน้าหวานด้านล่าง
ผมนอนลงไปบนเตียงอย่างหมดแรง เป็นครั้งแรกที่ผมได้เรียนรู้และได้ทำออรัลเซ็กซ์เป็นครั้งแรก เทคนิคการโม๊คของคนทั้งสองคนทำเอาผมถึงจุดหมายอย่างสุขสมเป็นที่สุด
“เด็กน้อยครับ ชอบไหม” หลังจากดูดเลียน้ำของผมจนหมดไอ้หน้าหวานก็ช้อนตาขึ้นมามองแล้วถามอย่างออดอ้อน พอมองแล้วเหมือนลูกแมวไม่มีผิด ผมหน้าแดงแต่ก็พยักหน้าตอบรับโดยไม่มองหน้าของคนทั้งสอง
“หึหึ ชอบก็ดี คราวหน้ากูไม่ให้จบแค่ตรงนี้หรอก” ไอ้เถื่อนจับผมไปสบตากับมันแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ซึ่งผมรู้เลยว่าคราวหน้าของของมันคงหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายผม เพราะความอยากในตอนนั้นหรืออะไรผมก็ไม่ทราบ มันดลใจให้ผมเอ่ยประโยคที่ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นคนพูดออกไป
“อืม...เอาสิ แต่ว่าเอาไว้วันหยุดยาวนะ กลัวลุกไปเรียนไม่ไหว”
“ผมชอบคุณนะเด็กน้อย” ไอ้หน้าหวานหอมแก้มข้างขวาของผมฟอดใหญ่
“แต่กูรักมึงนะไอ้ดื้อ” คราวนี้ผมโดนไอ้เถื่อนหอมแก้มบ้าง แต่ประโยคนั่นทำให้ผมตัวแข็งทื่อเพราะไม่ติดว่าคำบอกรักจากคนที่รู้จักกันไม่ถึงวันมันจะทำให้หัวใจผมเต้นรัวด้วยความดีใจได้ขนาดนี้
แล้ววันนั้นผมก็อยู่กับเขาสองคนทั้งวัน โดยการที่พวกเราอาบน้ำพร้อมกัน ก่อนแต่งตัวออกไปหาอาหารตามภัตตาคารหรูในโรงแรมทาน โดมกับดิวบอกว่าเขาเป็นพี่น้องกันเป็นเจ้าของกิจการโฮสต์คลับแต่ไม่เคยอกรับลูกค้า พอเห็นผมถูกใจเลยเข้ามาชวนคุย ก่อนจะเป็นอย่างที่รู้ๆกัน โดมกับดิวพาผมกลับมาส่งที่บ้านในตอนเย็นๆ พร้อมกับไม่ลืมที่จะแลกเบอร์โทรศัพท์กับอีเมลล์ไว้ติดต่อกันไว้ ซึ่งผมคิดว่าคงมีโอกาสได้พบกันเร็วๆนี้แน่
******************************************************************************************************
เอ่อ..ชอบกันหรือเปล่าคะ คือยาอกเขียนก็เลยลองดูค่ะ
ฝากด้วยนะคะถ้าชอบยังมีอีกครึ่งที่เหลือค่ะ ยังไม่ได้เคลียร์กับดินเลย
ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ
3P~~~!!!