เบ๊บ-ก้อง : ตอน 2
ร่างโปร่งเดินลิ่วๆในสภาพแต่งตัวไม่เข้ากับสภาวะอากาศอย่างแรงเนื่องจากใส่เสื้อแขนยาวทับเสื้อนักศึกษากับผ้าพันคอสีเทาสนิทพันรอบคอผูกไว้อย่างดี หน้าตายุ่งๆปากขมุบขมิบมาตลอดทาง แม้เหงื่อจะออกจนชุ่มแต่ก็ไม่มีท่าทีจะถอดผ้าพันคอหรือเสื้อแขนยาวอยู่เลย !
แหงสิใครมันจะถอด คอเป็นรอยคิสมาร์กเต็มไปหมด ตามแขนก็มี ! แม่งเอ้ยไม่น่าเมาเลยกู ลืมไปได้ไงว่าเมาแล้วจะเปลี่ยนจากเวอร์ชั่นปกติเป็นแมวยั่วสวาท ! รู้ถึงไหนอายถึงนั่น
“พี่ก้องขา ไม่ร้อยหรอคะใส่ซะเหมือนกับอยู่เกาหลี” สาวๆรุ่นน้องที่ปลื้มเขาในคณะเดินเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลัง คนมันหล่อก็งี้ล่ะนะ
“แล้วพี่หล่อพอจะเป็นดาราเกาหลีมั้ยล่ะครับ หืม ?”
“คิกๆพี่ก้องหล่อจะตาย นึกว่าดาราที่ไหน กลางวันนี้ไปทานข้าวกับพวกเรามั้ยคะ” ปากบางขยับยกยิ้มหว่านเสน่ห์เล็กน้อย
“คงไม่ได้ครับ พี่ต้องไปหาน้องชายโอกาสหน้านะ ขอตัวก่อนนะครับ” ใช่แล้ว ! เขาต้องรีบเนรเทศตัวเองไปอยู่บ้านน้องชายเพื่อหนีหน้าไอ้คนที่ทำเขาอับอาย เค้าแค่เมาแล้วยั่วแต่มันไม่ต้องสนองขนาดถึงพริกถึงขิงขนาดนั้นก็ได้ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้หรือไง ! เขาไม่ได้ยั่วขนาดนั้นซะหน่อย แม่งเอ้ยยยย ตูดยังเจ็บอยู่เลยแม่ง ! เมื่อเช้ายังตื่นมาในสภาพตรงนั้นยังเชื่อมกันอยู่เลย โอ้ยให้ตายน่าอายชิบ
“ไอ้กลองงงงงงงงง”
“อ่าวพี่ก้อง” ร่างสูงหันขวับมามองพี่ชายตัวเองแล้วเลิกคิ้ว
“นี่พี่จะไปต่างประเทศหรอวะ ?”
“มันมีเหตุนิดหน่อยคืนนี้กูไปนอนห้องมึงนะ”
“อ่าว ไมวะ ? ไหนว่าชอบอยู่บ้านมากกว่าคอนโดขนาดไปหาคนแชร์บ้านเลยไม่ใช่ไง”
ฟังน้องชายตัวเองพูดก็เหมือนมีมีดมากรีดใจ ถ้าเมื่อสามเดือนที่แล้วตูไม่ดื้อจะหาบ้านอยู่จนได้ไอ้คนแบบนั้นมาอยู่ด้วย ป่านนี้ชีวิตคงไม่เป็นแบบนี้ !!
“เอ่อ นิดหน่อย อยากนอนกับแกมั่งไม่ได้ไง”
“เหอะ ทะเลาะกับคนร่วมชายคาหรือไง พี่เค้าก็ดูนิสัยดีไม่ใช่หรอวะ พี่ปรับตัวยากเองเปล่า สามเดือนที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหานี่หว่า”
“เออน่า ไม่มีไรหรอก นอนด้วยคืนนึงแค่นี้จะตายหรือไง ?”
“เออๆ ไม่ตายๆ แต่ผมกำลังจะไปรับแฟน พี่ไปเองได้ช้ะ ?”
“เออๆ เอากุญแจมา เร็วๆดิ๊” เดี๋ยวแม่งมาตามถึงมหาลัยกูจะทำไงเนี่ย อ๊ากกก
“อ่ะๆ ทำตัวมีพิรุธนะ ไปละเจอกันที่ห้องไปรับเมียก่อน” หลังจากได้กุญแจขายาวๆก็รีบพาตัวเองออกจากมหาลัยไปที่คอนโดจุดหมายทันทีก่อนจะมีไอ้ตัวต้นเหตุโผล่มา คิดถึงเมื่อเช้าแล้วจะร้องไห้
‘เฮ้ย มะ … มึงทำไรกู’ เขามองตัวเองเปลือยเปล่า มีตรงนั้นของไอ้คนร่วมบ้านสอดอยู่ช่องทางด้านหลัง นี่มันแช่ทั้งคืนเลยแท้ๆ
‘หืม … อะไรแต่เช้าล่ะเนี่ย’
‘มะ … มึง ไอ้เหิ้ยยยยยทำกับกูแบบนี้ได้ยังไง’ หมอนใบใหญ่ตีลงไปที่ร่างสูงที่ยังสะลึมละลือ
‘ก้องใจเย็นๆ พี่ทำอะไร เมื่อคืนก้องเมาแล้วก็ ….’
‘พอมึงไม่ต้องพูด ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วกัน อย่าพูดถึงมันอีกนะ’ แค่รู้ว่าตัวเองเมาทุกอย่างก็คลี่คลายแล้ว ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าตัวเองเมาแล้วเป็นยังไง
‘พี่ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก … ก้องก็รู้ว่าพี่ ..’
‘พอ จบเรื่องมันผ่านไปแล้ว ! กูเป็นผู้ชายกูไม่ถือ กูท้องไม่ได้ ให้มันจบไปเหอะ’ ก้องเขยิบลุกจากเตียงแต่ความปวดก็แล่นมาเป็นริ้วๆจนทรุดลงกับพื้นข้างเตียง ร่างสูงรีบถลาเข้ามาดูแต่ทว่ากลับโดนผลักออก
‘ไม่ต้องมายุ่ง กูยังไม่ตายเร็วๆนี้หรอก’ และเขาก็ฝืนสังขารเปลี่ยนเสื้อผ้าพาตัวเองมาถึงมหาลัย แม้ไอ้บ้านั่นมันจะอาสามาส่ง ทั้งพยายามจะคุยแต่เขาก็ไม่ยอม เฮ้อใครมันจะไปคุยลงวะอารมณ์นี้ จะด่ามันก็ด่าไม่ได้กูมันยั่วเขาเองนี่หว่า !
“พี่ก้องโว้ยมาเมียมาให้รู้จัก นั่งเหม่อไรหน้าทีวีเนี่ย” ก้องสะดุ้งเล็กน้อยออกจากห้วงความคิดตัวเอง มองไปที่น้องชายกับเด็กผิวขาวตาตี่ใส่แว่นดัดฟันกำลังยืนหน้าแดงอยู่ข้างๆ
“มึงอยากเข้าคุกก็ไม่บอก” เขาเอ่ยแซวน้องขำๆ เล่นไปฟัดเด็กมัธยมวัยใสซะงั้น
“โห ปากน่าถีบจริงๆ นี่น้องดิว ดิวนั่นพี่ก้อง”
“อ่า สวัสดีครับพี่ก้อง”
“สวัสดีๆ แล้วดิวจะค้างนี่หรอมาซะเย็น”
“อ๋อ ห้องดิวตรงข้ามกันนี่เองครับ แหะๆ” เออมันน่ารักดีตาถึงแฮะน้องกู
“พอๆพี่ก้องอย่าจ้องมากคนนี้หวง”
“ถุ้ย เออทำไรก็ทำไปละกัน กูขอนอนก่อนเหนื่อยว่ะ” เมื่อคืนไม่น่าไปผับ ไม่น่าเชื่อไอ้บาเทนเดอร์นั่นว่าแค่เหล้าอ่อนๆก็ไม่เมา แล้วก็ไม่น่าเจอไอ้เบ๊บบ้านั่น ถ้าเป็นคนอื่นคงเป็นความสัมพันธ์ฉาบฉวยแล้วก็จบได้อย่างสบายใจ ! โอ้ยยยยยไม่น่าเป็นไอ้เบ๊บเลยจริงๆ
ติ๊ด ๆ ๆ ใครส่งแมสเสจอะไรมา
“ก้องเย็นแล้วทำไมยังไม่กลับบ้านพี่รออยู่นะ” เชิญมึงรอไปเหอะจ้างพันล้านกูก็ไม่กลับ ปิดเครื่องแม่ง ขอนอนเอาแรงหน่อยเหอะ
“พี่ ผมยืนโทรศัพท์โทรหาเพื่อนหน่อยนะ มือถือตกน้ำ” เสียงไอ้กลองดังมาลางๆผมก็อือๆออๆ ทำไรทำไปเหอะ กูจะนอน
ผมลืมตามาอีกครั้งเพราะรู้สึกว่ากำลังโดนอุ้ม แต่มันเหมือนเป็นแค่ฝันใครคนนั้นลูบหัวผมเบาๆ กระซิบบอกผมว่าฝันดี .. โอเคฝันดีงั้นกูนอนต่อละ
“คงจะเหนื่อยหลับสนิทไม่ค่อยรู้สึกตัวเลย”
“ผมให้คุณมาถึงห้องแล้วอุ้มพี่ชายผมมานอนบนเตียงไม่ได้หมายความว่าผมจะไว้ใจ
คุณหรอกนะ พี่ผมมาค้างที่นี่เพราะคุณใช่มั้ย” กลองจ้องหน้าคนที่เขาเคยเจอในฐานะผู้ร่วมบ้านของพี่ชาย
“อืม .. อาจจะเป็นเพราะผม พอดีเมื่อคืนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนิดหน่อยที่ผมควบคุมไม่ได้” กลองกระชากคอเสื้อผู้ชายตรงหน้าอย่างแรง
“คุณทำอะไรพี่ผม”
“ใจเย็นๆก่อนครับ ไม่รู้ว่าคุณรู้หรือเปล่า .. เรื่องพี่ชายคุณเมา” แค่นั้นแหละตาคมเบิกกว้างทันที
“เมื่อคืน พี่ก้องเมา ?” โอ้ยยยยย งานนี้เป็นอันว่าพี่ชายตัวเองนั่นแหละที่ผิด ! เฉพาะหินแข็งๆเท่านั้นแหละถึงจะไม่พลาดกับเรื่องนี้
“ครับ …”
“คุณไม่รังเกียจพี่ผม ? แล้ว ..”
“ผมโดนกวนจนเกือบเช้า และผมมีเลือดมีเนื้อ” ชัดเจน ! งานนี้พี่ตูเสียตัวเพราะตัวเองแท้ๆ เฮ้อ ทำไงดีวะเนี่ย มือหนายกขึ้นขยี้หัวตัวเองแรงๆมองสภาพพี่ชายที่นอนอยู่บนเตียง หลังจากถอดแขนยาวกับผ้าพันคอออกก็เห็นรอยที่เรียกว่าเยอะจนจินตนาการไม่ออกเลยว่าสองคนนี้ผ่านกระบวนการมาหนักหนาขนาดไหน
“ไม่ต้องกังวลไปครับ ผมจะรับผิดชอบเอง”
“ไม่ต้องหรอกถ้าคุณรู้สึกผิด ยังไงพี่ผมก็เป็นฝ่ายผิดล่ะนะ”
“เปล่า .. สำหรับผมเขาเป็นคนพิเศษ ผมเต็มใจ”
“ผมมีพี่ชายคนเดียว ผมไว้ใจคุณได้แน่ ?”
“ผมอยู่บ้านเดียวกับเขามาสามเดือน ไม่เคยนอกลู่นอกทางจนกระทั่งเมื่อคืนนี้ล่ะครับ ผมรอให้เขาพร้อมมาสามเดือนแล้ว .. จะรออีกหน่อยคงไม่เป็นไร”
“โอเค งั้นก็ฝากพี่ชายผมด้วยแล้วกัน” กลองก้าวขาจะเดินออกไปแต่ว่าที่พี่เขยกลับรั้งไว้ด้วยคำถามที่แทบจะทำเอาสะดุด
“เอ่อ … มีวิธีไหนจะทำให้เขามาเป็นของผมได้ด้วยความเต็มใจมั้ย ?”
“มีครับ” แววตาของกลองเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันทีและปากก็ตอบไป ..
“ฉุดแม่ง ! ร้อยทั้งร้อยก็ยอม เชื่อผม หน้าด้านเข้าไว้แล้วจะดีเอง”
- --------------------------
จะฉากเรืยกเลือดอย่างเดียวคงไม่ดี 555 มันต้องมีเหตุการณ์เชื่อมนิ้ดดนึง ฮุฮุ
ฝากนิยายเรื่องยาวด้วยนะคะใกล้จบละ :
love @ first drunk :
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,27495.0.html