10-11-59 |*จบแล้ว*| พันธะร้าย กลายรัก || ตอนที่ ๑๖(จบ) อัพแล้ว*
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 10-11-59 |*จบแล้ว*| พันธะร้าย กลายรัก || ตอนที่ ๑๖(จบ) อัพแล้ว*  (อ่าน 38426 ครั้ง)

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
วันนี้ไม่มาต่อหรอ

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa



ตอนที่ ๙

เอมมิกามาโรงเรียนได้สามวันแล้ว คราแรกเด็กสาวรู้สึกประหม่ากับสายตาของทุกคนในโรงเรียนและเพื่อนร่วมชั้นอยู่บ้าง หากทว่ายังมีบางคนที่ยังเชื่อว่าเธอไม่ได้ทำอย่างที่ถูกกล่าวหา แม้นว่าลับหลังจะแอบนำไปนินทาว่าร้ายก็ตาม อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ลำบากเกินจะอยู่ได้

วันนี้อีกวันหนึ่ง ที่เธอเห็นรถยนต์ของฝ่ายปกครองจอดสนิทอยู่หน้าบ้านหลังจากเลิกเรียนกลับมา ดูเหมือนทั้งสองจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับเธอสักที เอมมิกาเห็นแล้วเปิดประตูรั้ว เดินสะพายกระเป๋าเข้าไปในบ้านพักอย่างอารมณ์ดี

กวาดมองเข้าไปด้านในก็สะดุดสายตา เห็นพี่ชายตัวเองเป็นฝ่ายนั่งอยู่บนตักอาจารย์แทนคุณ “ว้าย! ทำอะไรกันน่ะ”

ทั้งสองหันมาด้วยความตกใจ เห็นเธอยกมือปิดหน้าก็กระโดดไปนั่งคนละมุมโซฟารวดเร็ว

“พี่เปล่านะ แค่นั่งคุยกันเฉยๆ”

เอมมิกาแอบยิ้มเมื่อเห็นแทนคุณทำท่ากระแอมกระไอวางท่าขรึม ไม่ทิ้งลายอาจารย์ผู้วางมาด ขณะที่มาวินส่ายหน้าปฏิเสธว่าเมื่อครู่ไม่ได้ทำอะไรกัน ที่จริงเอมมิกาไม่ได้ตั้งใจจะจับผิดอะไรทั้งนั้น เพียงแต่เห็นท่าทางเงียบเชียบมีมาดของแทนคุณแล้วมันน่าแกล้งดี

เธอไม่เคยคิดอคติกับเขา ถึงแม้ทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้น แต่ดูแล้วสังเกตได้ว่าแทนคุณดูเปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากคบกันกับพี่ชายของเธอ เขาคงกำลังสัมผัสได้ว่ามาวินตัวจริงกับภาพที่เห็นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อย่างน่าตกใจ ไม่นานอย่างที่คิด แทนคุณอาจประทับใจมาวินจนถอนตัวไม่ขึ้น เหมือนที่เธอรักพี่ชายอยู่ตอนนี้

“อาจารย์มาที่นี่ทุกวันเลย หาหลักฐานช่วยตัวเองได้แล้วหรือคะ หนูไม่เห็นเจออะไรที่โรงเรียนเลย” ขณะถอดรองเท้าวางไว้บนชั้น เด็กสาวชำเลืองตามองแทนคุณสอบถามไปด้วย

“หาได้แล้วน่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยได้หรือเปล่า”

“แล้วนายจะถูกสอบสวนวันไหน” มาวินถามแทรก

“วันศุกร์นี้แล้วใช่ไหมคะ หนูคิดว่าจะเข้าไปในห้องสอบสวนด้วยค่ะ แล้วก็...คงต้องวานให้พาไปหาหมอ...”

“เอมเป็นอะไรอีก บอกพี่มา รู้สึกเจ็บตรงไหน”

พี่ชายได้ฟังก็พุ่งไปพยุงเด็กสาว พาเดินมาทรุดนั่งร่วมวงสนทนาในระยะใกล้กว่าเดิมอีกขั้น ในขณะที่สองหนุ่มตั้งหน้าตั้งตารอคำตอบ เอมมิกาหน้าขึ้นสี อธิบายให้ทั้งแทนคุณและมาวินฟังอย่างตรงไปตรงมาว่า “ก็...พาไปตรวจว่าหนูยังบริสุทธิ์อยู่ไงคะ จะได้เอาไปรับรองแพทย์ไปปาใส่หน้าคณะสอบสวนนั่นเลยว่าอาจารย์ไม่ใช่คนแบบนั้น อาจารย์ถูกใส่ร้าย”

“เอม...” มาวินลูบผมน้องสาว

“เอมไม่อายหรอกนะพี่วิน ให้ไปหาหลักฐานอะไรนั่น ไม่มีใครยอมรับหรอก มีแต่พวกตีสองหน้าทั้งนั้น...”

ไม่ใช่เพียงแค่มาวินที่ทำให้แทนคุณรู้สึกประทับใจ ยังมีน้องสาวที่ชายหนุ่มใฝ่ฝันอีกหนึ่งคนด้วย เอมมิกาแสดงให้แทนคุณเห็นว่าเธอเป็นน้องสาวที่ดีอย่างแท้จริง สมควรแล้วที่มาวินคอยประคบประหงมตามใจ

เมื่อเอมมิกามาถึงบ้านพักแล้ว แทนคุณนึกเกรงใจเธอจึงขอตัวกลับเพราะคิดว่าไม่ควรอยู่นานนัก ขณะที่ย่างเท้าเดินคู่กันออกมาหน้าบ้าน แทนคุณครุ่นคิดอยู่เสมอว่าอยากจะทำอะไรเพื่อเป็นการตอบแทนทั้งสองคน ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่ข้างรถยนต์ หันมองมาวินอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งดูเหมือนอีกฝ่ายจะวางใจมากขึ้น เมื่อได้ฟังสิ่งที่เอมมิกาเลือกทำเพื่อช่วยเขา

แทนคุณไม่คิด ว่าเรื่องที่เคยปล่อยผ่านจะหวนมาทำร้ายทั้งเขาและเอมมิกาเพียงนี้ หากฉุกคิดได้ เขาคงจัดการกับเด็กพวกนั้นตั้งแต่รู้ตัวแล้วว่ามีคนกำลังแอบมอง

“ผมอยากให้คุณย้ายบ้านนะ ไปอยู่ที่โน่นซะ”

มาวินยังง่วนอยู่กับประตูรั้วไม้เก่ากึก ขยับทีก็หลุดมาหนึ่งท่อนที “นี่ ฟังผมอยู่หรือเปล่า บ้านโทรมแบบนี้ไม่ดีต่อน้องสาวคุณนะ ไอ้ประตูไม้เก่าที่ตัวบ้านก็ด้วย เขย่าสองสามทีก็หลุดแล้ว”

“ไม่เป็นไรน่าแทน ฉันกับเอมอยู่มานานแล้วไม่มีอะไรหรอก ตอนนี้ยังไม่มีเวลาซ่อมมันเฉยๆ”

“คุณมันพวกชอบไปไหนมาไหนไม่บอกน้องสาว ชอบเที่ยวกลางคืน ชอบปิดโทรศัพท์ใครจะติดต่อก็ไม่ได้ นี่จะให้วัวหายแล้วค่อยล้อมคอกใช่ไหม...”

คนฟังชะงัก ผละไปมองคนกล่าวซึ่งอยู่ไม่ไกลนักกำลังกอดอกวางท่าอย่างนึกคิดตามไปด้วย มันก็จริงอย่างที่แทนคุณพูด แต่หากจะให้เขากับน้องย้ายไปอยู่บ้านของแทนคุณ มันออกจะเห็นแก่ได้เกินไปหน่อยยกระมัง

แน่นอน...

ตอนถูกแทนคุณทำร้ายมันเจ็บไปทั้งตัว ทำให้มาวินทั้งหวาดระแวงจนถึงขั้นนึกขยาด แต่แทนคุณก็ยังแสดงให้เห็นว่ายังระงับตัวเองได้ รู้สึกผิดเป็น ไม่นานมาวินก็หายเจ็บ และได้รับสิ่งตอบแทนมากมายจากแทนคุณเช่นกัน ทั้งเงิน โอกาส และความรู้สึก แต่ถึงอย่างนั้นเขาจะมาตีค่าทั้งหมดเป็นน้ำเงินอย่างเดียวไม่ได้ มาวินเงยขึ้นสบตาคนตัวสูงกว่า ส่ายหน้าไปด้วย

“ฉันรู้ว่านายหวังดีกับฉัน นายให้ฉันมาก็หลายอย่างแล้ว แต่...”

แทนคุณเบิกตา ก้มมองที่มือตนเองบัดนี้ถูกกอบกุมด้วยนิ้วเรียวยาวของอีกฝ่าย “ฉันมันโลภมาก ถ้านายดีกับฉันแบบนี้ ตามใจฉันตลอดเวลา ฉันอาจจะคิดครอบครองนายไว้กับตัวเองได้นะ”

“ก็เอาสิ...”

คนฟังราวเหมือนถูกดวงตาแทนคุณสาป เบี่ยงไปด้านอื่นทันที “อย่ามาตอบแบบพล่อยๆ นะ”

“ใครเขาตอบแบบพล่อยๆ กัน คุณก็รู้นี่ผมชอบคนท้าทาย”

มาวินมุ่นคิ้วผละมือออก จากที่เป็นฝ่ายเริ่ม จำต้องเบี่ยงหลบของอีกฝ่ายที่ยื่นมาจับกุมของเขาแทน บางทีแทนคุณก็เป็นพวกปากตรงกับใจเกินกว่าเหตุ ชนิดคนฟังแทบทำใจไม่ได้ “กลับไปได้แล้ว ยังไงก็ไม่ย้ายหรอก เดี๋ยวจะซ่อมแล้วแหละ”

“ก็ไหนบอกว่าอยากมีเวลาส่วนตัว อยากมีพื้นที่ส่วนตัว ถ้าวันนี้เอมมิกากลับมาเจอคุณกับผมกำลัง...”

“พอได้แล้ว! ไอ้บ้านี่” พูดอะไรออกมาได้หน้าตาเฉยอย่างนี้กัน

มาวินยกมือกุมริมฝีปากแทนคุณปราม เกรงว่าเอมมิกาจะมาได้ยินหัวข้อสิบแปดบวกระหว่างทั้งคู่ ถึงเธอจะรับรู้ถึงสถานะของพวกเขา แต่มาวินยังรำลึกได้เสมอว่าไม่ควรประเจิดประเจ้อให้น้องสาวเห็น นี่คืออีกสาเหตุหนึ่งทำให้เขากับบิดาเกิดบาดหมางกันก่อนเขาจะแยกตัวออกมา หากทราบ ท่านคงโกรธมากแน่ที่เขาปล่อยให้น้องสาวรับรู้และเห็นเรื่องพวกนี้มาโดยตลอด

เอมมิกาผูกพันกับเอกณรงค์เช่นกัน รายนั้นหยิบยื่นทุกอย่างให้ราวกับเธอเป็นน้องสาวแท้ เอกณรงค์เป็นเกย์แท้ที่ไม่สนผู้หญิงเลยแม้แต่นิด นั่นจึงทำให้มาวินวางใจไปเปราะหนึ่ง หากทว่าแทนคุณไม่เหมือนกัน

แทนคุณไม่ใช่เกย์ แทนคุณเพียงแค่ไม่มีทางเลือกที่จะคบกับใคร

เขาไม่ควรให้น้องสาวไปอยู่บ้านของแทนคุณไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

“ไม่รู้ว่าหน้าด้านถามไปอย่างนี้มันจะดีหรือเปล่า...”

เสียงทุ้มของอีกฝ่ายดังขึ้นฝ่าความเงียบ ขณะที่มาวินหลุดลอยอยู่ในความคิดของตัวเองแล้ว ความคิดที่อย่างไรเสียก็มีแต่แง่ร้ายต่อแทนคุณ ชายหนุ่มเงยขึ้นสบ นึกแปลกใจเมื่อมือที่กุมเคลื่อนเปลี่ยนตำแหน่ง มากุมบ่าของเขาบริเวณที่ถูกกัดเมื่อสองสามวันก่อน มาวินหยีหน้าด้วยความเจ็บ เหตุเพราะยังไม่หายระบมดีนัก

“นายจะถามอะไร” มาวินกุมบ่าของตนเอง หลบนัยน์ตาคมที่งุดลงมองอย่างสนใจ

“ผมได้คำตอบแล้ว ยังเจ็บอยู่ซีนะ มันดูแปลกนะที่ถามแบบนี้ แปลก...”

“ไม่ ไม่แปลก...”

มาวินรีบส่ายหน้าเถียง แทนคุณไม่ผิดที่จะสำนึกกับสิ่งที่ทำ มันดีเสียด้วยซ้ำที่เขายังมีความรู้สึกนี้อยู่ แทนคุณไม่ได้เลวเสียจนไม่สามารถดึงรั้งกลับมาได้ คนบอกเชยตาขึ้นสบไปด้วยความสัตย์จริงของใจ “ไม่แปลกเลยนะ นายไม่แปลกอะไรเลย ดีเสียอีก ฉันดีใจมากเลยที่นายถาม...”

คนกล่าวยกยิ้ม กุมมืออีกฝ่ายที่ยังทิ้งอยู่บนบ่าตนเองด้วยการส่งความเชื่อมั่นไปให้อีกฝ่ายทราบ ถึงจะมีความคิดหนึ่งนึกหวาดกลัว มาวินเองก็ยอมรับว่ายังมีความรู้สึกดีประสมอยู่ แทนคุณเหมือนกำลังเดินอยู่ในทางมืด ยังคิดว่าตนเองแปลกแตกต่างกับคนอื่น หากยังดีอยู่เช่นนี้คงมีสักวันหนึ่งที่มาวินยอมเปิดใจ ผันตนเองมาเป็นแสงสว่างให้แทนคุณเดินไปยังจุดหมาย

“ขอบคุณนะ” คนตรงหน้าพูดคำอื่นไม่ออก เพียงระบายยิ้ม

ดูเหมือนจะอีกไม่นาน มาวินครุ่นคิดทั้งยังสบมองชายเบื้องหน้า ใครกันกล้าปล่อยชายบริสุทธิ์ผู้น่าสงสารให้เดินในทางมืดคนเดียวได้นานกันเล่า

 

วันถูกสอบสวนเดินทางมาถึงพร้อมกับแทนคุณและเอมมิกาที่เดินถือเอกสารเข้าไปในตึก พร้อมกับสายตาเหล่านักเรียนที่ยังจับมองพวกเขา น่าแปลกที่วันนี้คุณภาวินีมารดาเขาเลือกไม่ไปบริษัทและตามมาดูการสอบสวนด้วย ครั้นไปถึง ชายหนุ่มยังเชื่อมั่นว่าตัวเองสามารถพ้นสิ่งถูกใส่ร้ายได้ จริงอยู่ว่า ข้อหานี้มันฉาวและทำให้เสื่อมเสียถึงวงการการศึกษา และเขาน่าจะถูกแบนตั้งแต่เรื่องเกิด

หากทว่าเขาไม่ยอมรับข้อสงสัยทั้งหมดและยืนยันจะหาความจริง นั่นทำให้เรื่องยืดยาวมาจนถึงตอนนี้ ทั้งคณะอาจารย์ผู้สอบสวนและผู้อำนวยการเองคงคิดว่าเขาอาจยอมออกจากงานไปโดยง่าย เพราะที่จริงลำพังเงินเดือนครูก็ไม่ได้ทำให้เขาอยู่ดีมีกินขึ้นมา ร่ำรวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อาชีพครูก็แค่เป็นแค่อาชีพคั่นเวลาแก้เหงาไปพลางเท่านั้น แต่มิใช่...แทนคุณรักที่จะทำอาชีพนี้ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อได้กลับมาทำงาน

เรื่องนี้เรื่องใหญ่ ทางโรงเรียนจึงเปิดรับให้ผู้ปกครองบางท่านเข้ามารับฟังการสอบสวนด้วย

มาถึง แทนคุณกางข้อมูลทุกอย่างต่อหน้าเหล่าอาจารย์ผู้ใหญ่ พร้อมกันกับเอมมิกาที่นั่งฟังอย่างสงบ เขาเริ่มเล่า ตั้งคำถามว่ามันน่าสงสัยเกินไป ทุกอย่างมันประจวบเหมาะเกินกว่าที่จะเป็นฝีมือเด็กเหล่านั้นได้

เขาครุ่นคิดอยู่หลายวันว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง กระทั่งกลับไปที่ห้องรักษาความปลอดภัยอีกครั้งเพื่อสอบหาความจริงเมื่อหลายวันก่อน ยามคนหนึ่งเกิดหลุดปากพูดว่าไม่มีอะไรหายไปทั้งนั้น นั่นเป็นคำตอบว่าต้องมีอะไรหายไปแน่ แทนคุณพาช่างเทคนิคกลับมาอีกครั้งเพื่อตรวจสอบ กลับถูกกีดกันจากหัวหน้ารักษาความปลอดภัย บอกว่ารองผู้อำนวยการไม่อนุญาต

“เดี๋ยวครับอาจารย์ อาจารย์หมายความว่าผมไม่ให้ความร่วมมือกับอาจารย์น่ะหรือครับ” ท่านรองผู้อำนวยการยกมือขึ้นกล่าวแทรก “ผมให้เหตุผลไปแล้วนี่ครับว่ากล้องบริเวณนั้นชำรุด ผมว่าคุณกำลังเบี่ยงประเด็นนะครับ เราให้เวลาคุณหาข้อมูลแก้มัดตัวเองนะ”

“ใช่ครับ นี่แหละสิ่งที่ผมหาได้ ตอนนี้ผมไม่ได้กำลังเบี่ยงประเด็นอะไรทั้งนั้น ผมกำลังพูดออกมาตรงๆ ว่ามีใครบางคนกำลังดิสเครดิตผม ต้องการให้ผมถูกแบนจากกระทรวง”

“พูดอย่างนี้ไม่ถูกนะครับ หลักฐานมีอยู่ทนโท่ว่าคุณทำอะไรกับนักเรียนอยู่หน้าห้องพยาบาล แถมมีข่าวจากนักเรียนคนอื่นอีกว่าวันนั้นคุณเป็นคนอุ้มนักเรียนคนนี้ไปที่ห้องพยาบาลด้วย คุณสองคนมีความเกี่ยวข้องกันเชิงชู้สาวให้เห็นอย่างชัดเจน แต่จะมาเล่าเป็นตุเป็นตะว่ามีใครกำลังกล่าวหาคุณไม่ได้”

“อาจารย์คะ หลักฐานของอาจารย์มันไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เรากำลังตั้งข้อสงสัยค่ะ” ทั้งรองผู้อำนวยการ อาจารย์ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งสมทบกันทำให้แทนคุณพูดไม่ออก คงเพราะต้องใช้เวลาที่จำกัด ทำให้เขาหาข้อมูลที่ทุกคนคิดว่าไม่มีจริงได้ทัน

ชายหนุ่มพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเหนื่อย “ผมตอบก็ได้” ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ผมกับเอมมิกาไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวอะไรทั้งนั้น”

“นี่คุณยังจะปฏิเสธแบบไม่มีหลักฐานอย่างนี้ต่อไปอีกหรือครับ”

“ดูเหมือนท่านรองต้องการให้ผมยอมรับเสียเต็มประดานะครับ” ชายหนุ่มย้อนไปในทันที กวาดสายตาคมไปจบลงที่ร่างตรงกันข้าม พร้อมกับชายวัยกลางคนผู้สวมสูทภูมิฐานเบื้องหน้าเปลี่ยนท่าทีอย่างลืมตัว หลังทุกสายตาหันไปมองเป็นจุดเดียว นั่นแหละคือสิ่งที่แทนคุณต้องการ

“ผะ ผมเปล่าสักหน่อย แค่ไม่อยากเสียเวลาเท่านั้นเอง”

“มันเสียเวลาตั้งแต่แรกแล้วแหละครับ เพราะผมกับเอมมิกาไม่ได้เกี่ยวข้องกันแบบนั้นจริงๆ” ชายหนุ่มกล่าว ขณะรับเอกสารจากมือเอมมิกาไปถือ เอกสารที่เรียกให้เหล่าคณะอาจารย์และผู้ปกครองหันมาสนใจ ว่านี่จะเป็นไม้ตายใดมางัดกับข้อกล่าวหา

ขณะเปิดซองสีน้ำตาล แทนคุณยังเห็นแววตาหวาดหวั่นของท่านรองว่าเขาจะนำอะไรมาเป็นกุญแจสำคัญ เพื่อลบความผิดของตัวเอง

เพราะท่านรองเคยมั่นใจว่าปิดทุกอย่างไว้ได้มิดชิดแล้ว

แต่ก็ยังกลัวจะมีอะไรหลุดออกมาอยู่ดี

“ถ้าผมกับเอมมิกาจะต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเชิงชู้สาวอย่างแน่นอน”

“อะไรทำให้คุณมั่นใจขนาดนั้นคะ” อาจารย์หญิงผู้หนึ่งกล่าว ขณะรับเอกสารที่ถูกแจกไปเปิดอ่าน เพียงครู่เดียวก็เงยขึ้นมาสบมองแทนคุณและเด็กสาวสายตาไม่เชื่อ หลังเห็นว่าเป็นใบรับรองแพทย์ ที่พิสูจน์ความจริงว่าเอมมิกาไม่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน

“เด็กคนนี้ยังบริสุทธิ์อยู่”

จากนั้น ในห้องประชุมที่เงียบสงบกลับมีเสียงซุบซิบเกิดขึ้นพร้อมกับดูหลักฐานไปด้วย หากมีเพียงเสียงเดียวเท่านั้นที่เอ่ยขึ้น มิใช่ใครที่ไหน ท่านรองที่เป็นผู้ใหญ่ของโรงเรียนนั่นเอง เรียกให้ทุกคนไปมอง

“อาจารย์แทนคุณ ผมว่าคุณรู้ดีว่าระดับคุณน่ะ สามารถสร้างของพวกนี้ขึ้นมาได้อย่างง่ายดายเลยแหละ”

ยิ่งนานขึ้น รองผู้อำนวยการคนนี้ยิ่งบอกแทนคุณกลายๆ ว่าเป็นใครคนนั้นที่ชายหนุ่มสงสัย

“คิดว่าผมเอาพรหมจรรย์ของคนอื่นมาเล่นงั้นหรือครับ”

“ไม่แน่นี่ครับ” ได้ฟัง ชายหนุ่มพยายามปรับลมหายใจตนเองอยู่ช่วงหนึ่ง

“พวกคุณพูดแบบนี้ทำให้ผมรู้เลยนะว่าเป็นคนประเภทไหน ทำแบบนี้คุณไม่ให้เกียรติเด็กคนนี้บ้างหรือครับ นี่ถ้าผมบริสุทธิ์จริงแล้วหาหลักฐานได้ ผมมีสิทธิ์ฟ้องพวกคุณกลับได้ใช่ไหม รวมถึงเอมมิกาด้วย ในฐานะเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหา ทำให้ถูกสังคมมองในแง่ลบ เธอมีสิทธิ์เอาเรื่องพวกคุณอย่างถึงที่สุดใช่ไหมครับ!”

“อาจารย์คะ”

เอมมิกาส่ายหน้าปรามทั้งใจหาย เมื่อเห็นว่าแทนคุณเริ่มโกรธ

“เรามีสิทธ์ตั้งคำถามค่ะ คุณยังหาคำตอบที่ชัดเจนให้เราไม่ได้ว่าคุณกับนักเรียนคนนี้แอบมีความสัมพันธ์ยังไง”

“แค่ใบรับรองแพทย์นี่ไม่พอหรือครับ” แทนคุณกัดฟันกรอดระงับอารมณ์ตนเอง ขณะที่เริ่มมีเสียงฮืฮฮาจากผู้ปกครองที่นั่งฟัง เพราะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของรองผู้อำนวยการ ที่กล้าใช้คำถามเชิงดูหมิ่นเอมมิกา ขณะกำลังวุ่นวาย ท่ามกลางเสียงผู้ปกครองเริ่มถกกันเองแล้วนั้น แทนคุณปวดหัวกับปัญหา และกับเอมมิกาที่ยังทำตัวไม่ถูกในสถานการณ์ที่เพิ่งพบ

“เอมกับแทนจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง ในเมื่อแทนเป็นแฟนผม!”

จู่ๆ เสียงจากมุมของผู้ปกครองก็ดังขึ้น ทั้งหมดหันไปมองด้านหลังอัตโนมัติราวกับถูกร่ายคำสาปให้ทำเช่นนั้น

หากเป็นแทนคุณเสียเองที่ไม่ต้องหันไปก็จำได้ดีว่านี่เป็นเสียงของมาวิน ชายหนุ่มเข้าใจเจ้าตัวดี มาวินคงนึกห่วงเขาและน้องสาว จึงแอบมาฟังด้วยตัวเอง และทนไม่ได้ที่คนพวกนี้กำลังจู่โจมน้องสาวตนโดยไม่ให้เกียรติ วินาทีนั้นนอกเสียจากผู้ปกครองคนอื่นจะตกใจ แทนคุณเองก็เหลือบไปเห็นคุณภาวินีว่ามีสีหน้าเช่นไร

“นี่คุณพูดเรื่องอะไร ผู้ปกครองห้ามแทรกนะครับ”

“ผมเป็นพี่ชายเอมมิกา แล้วก็เป็นแฟนของอาจารย์แทนคุณด้วย ผมทนไม่ได้ที่พวกคุณทำตัวต่ำทรามรุมประณามพวกเขาทั้งที่ไม่มีความผิด คนที่ผิดก็คือพวกคุณเองที่อยากปรักปรำเขา ใช่...สองคนนั้นอาจสนิทกันมากกว่าอาจารย์กับนักเรียน แต่ไม่มีทางเป็นแบบที่พวกคุณมโนได้...” มาวินเดินเข้ามายืนขนาบข้างชายหนุ่ม หันประจันหน้ากับเหล่าคณะอาจารย์พูดเสียงดังฟังชัด

“แทนเป็นเกย์!”

สิ้นคำ เสียงเหล่าผู้ปกครองฮือฮาขึ้นมาอีกระลอกหนึ่งอย่างไม่ได้นัดหมาย พร้อมกันกับแทนคุณที่ยกมือขึ้นนวดขมับอย่างเสียมิได้ จริงอยู่ว่าตอนนี้สามารถเคลียร์ปัญหาที่มีได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ดูจากสายตาของเหล่าอาจารย์ผู้ใหญ่ในนี้ และผู้ปกครองหลายสิบชีวิตที่มานั่งฟัง หากทว่าเมื่อเหลือบไปเห็นสีหน้าของมารดาที่นั่งอยู่ตรงนั้น แทนคุณคิดว่าอาจต้องได้รับมือปัญหาอีกครั้ง

หลังจากทุกคนแยกย้ายกันแล้ว ชายหนุ่มไม่ทันได้พูดอะไรกับคุณภาวินีหรือขอบคุณมาวิน เขารีบเดินตามหลังรองผู้อำนวยการไปติดๆ เพื่อหาความจริง เมื่อเห็นอีกฝ่ายรู้ตัวว่าเขาตามไป แทนคุณออกแรงวิ่งตาม มิยอมให้ชายคนนั้นเปิดประตูรถขับหนีไป มือหนากระชากสูทนั้นเต็มแรง ให้ร่างชายวัยกลางคนกันมาประจันหน้าด้วยกลัวว่าจะไม่ทันการณ์ ทั้งที่จริงไม่ได้อยากใช้กำลังกับอีกฝ่ายแม้เพียงนิด

“จะทำอะไร!” ผู้ถูกจับขืนแรงสู้

“รีบไปไหนครับท่าน มาตอบคำถามผมก่อนสิ”

“ผมไม่มีอะไรจะตอบคุณทั้งนั้น!”

“แสดงว่าคุณมี”

มือหนากระชากเสื้อชายตรงหน้าเข้ามาใกล้ ระยะความสูงใหญ่ของแทนคุณคล้ายกับเสือหนุ่มกำลังจะขย้ำแกะตัวเล็ก “คุณทำแบบนี้ทำไม คุณรู้ใช่ไหมว่าถ้าผมกลับมาที่นี่แล้วเอาช่างเก่งๆ มาเพียงไม่กี่นาทีก็รู้แล้วว่าตัวเองบริสุทธิ์ จ่ายยามไม่กี่บาทก็รู้แล้วว่าใครสั่ง คุณจะได้อะไรถ้าผมถูกโรงเรียนแบนไม่ให้เข้ามาทำงาน รู้ไหม...ถ้าความจริงปรากฏแล้วใครกันแน่ที่จะถูกแบน ผมจะเล่นงานคุณ จะเล่นงานคนที่เกี่ยวข้องให้หมด!”

“คุณจะไม่ทำอย่างนั้นแน่ พนันได้เลย”

แทนคุณชะงัก เมื่อเห็นแววตาที่ฉายแววสะใจระคนเยาะเย้ยเขาอยู่ในทีจากชายกลางคนในอาณัติ มือเขากำคอเสื้อของอีกฝ่ายแน่นอย่างไม่เข้าใจ อีกนัยหนึ่งก็ไม่อาจทนรับฟังได้ หากความจริงที่เขาได้ค้นพบกำลังจะทำให้แทนคุณเสียใจ

“หมายความว่ายังไง แบบนี้หมายความว่ายังไง”

เสียงฝีเท้ามาวินและเอมมิกาตามมาจะห้ามทัพ พร้อมกับรองผู้อำนวยการออกเสียงหัวเราะให้เห็นชัด

“ทั้งที่เกิดเรื่องแล้วก็ควรล้มเลิกอาชีพนี้ซะก็ไม่ยอม กลับมาสาวให้มากความอยู่ได้ ผมเองก็ขี้เกียจเก็บความลับเหมือนกัน อยากรู้ก็ไปถามแม่คุณเอาเองสิ อยากรู้อะไรก็ไปถามเลย ทีนี้เล่นงานให้ถูกคนล่ะ!”

หมายความว่าอย่างไร

“พูดออกมา! พูดออกมาว่าแม่ผมเกี่ยวอะไรด้วย...”

“แทน! แทน อย่า...”

ไม่ทันได้รับฟังเหตุผล ชายกลางคนพุ่งเข้าไปในรถยนต์ทันทีหลังชายหนุ่มถูกดึงรั้งกลับ หากมาวินไม่วิ่งมาปรามแทนคุณในวันนี้ ชายหนุ่มคงลืมตัวทำอะไรอย่างไม่ทันยั้งคิดไปอย่างแน่แท้ แทนคุณเก็บพละกำลังตนเองภายในอ้อมกอดของชายผู้วิ่งมาใหม่ มองตามรถยนต์ของรองผู้อำนวยการโรงเรียนไปอย่างนึกคับแค้นในใจ แม้นจะเริ่มคลำหนทางแห่งความจริงด้วยตนเองได้แล้ว เมื่อรู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดมิใช่ใครที่ไหน

มารดาของเขาเอง!

เพราะอยากให้เขาเลิกเป็นครู ไปทำงานที่บริษัท

ต้องทำกันถึงขนาดนี้เชียวหรือ!





--------------------------------------------------

ปมนี้เป็นจุดเริ่มต้นได้เคลียร์ไปแล้วว่าผู้ใดเป็นคนทำ

เดี๋ยวผลทุกอย่างจะตามมาตอนหน้าๆ โน้นอีกเรื่อยนะคะ พร้อมกับความรักของแทนกับวิน

แทนจะน่ารักขึ้น มาวินจะรู้จักคิดเรื่องพ่อของตัวเองขึ้น ในตอนถัดไป

มาเติบโตไปพร้อมกับทั้งสองคนกันเถอะ

ชอบก็เม้น แชร์ บอกรักคนเขียนด้วย เจอกันตอนหน้าจ้า

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa


ตอนที่ ๑๐

ตั้งแต่วันนั้นแทนคุณก็ไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นให้มาวินฟังอีกเลยว่าต้นสายปลายเหตุมาจากอะไรแน่ ทุกอย่างมลายหายไปพร้อมกันกับที่ทุกคนในโรงเรียนเข้าใจว่าทั้งสองบริสุทธิ์ใจจริง เพราะข่าวใหม่ที่เพิ่งทราบเกี่ยวกับรสนิยมส่วนตัวของอาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียนกลบแทนเสียได้

ผ่านมาหลายวันร่วมเดือน มาวินหวังว่าอีกฝ่ายจะเล่าอะไรให้เขาฟังคลายความเครียดบ้างก็ไม่เคยได้ยินคำขอปรึกษา จนต้องละความอยากรู้อยากเห็นไปเสียเอง

แทนคุณคงอยากมีพื้นที่ส่วนตัว ถึงจะคิดว่าเขาคือคนของแทนคุณ แต่บางทีก็ไม่ควรก้าวก่ายเกินไป มาวินทราบถึงข้อจำกัดของตนเองดี

เอมมิกากลับไปใช้ชีวิตในโรงเรียนปกติ พร้อมกับหน้าที่ของแทนคุณเช่นกัน

ทุกวัน แทนคุณจะขับรถจากโรงเรียนมาบ้านของเขาเพื่อรับประทานอาหารเช้าและเที่ยง เพราะไม่ห่างจากโรงเรียนนัก บางวันก็กลับมาทานมื้อเย็นพร้อมเอมมิกา พ่วงด้วยคำเกลี้ยกล่อมแบบใหม่หลายหลากเพื่อเชิญชวนให้มาวินย้ายบ้านไปจากที่นี่ นับวัน ทั้งคู่ก็เริ่มก้าวเข้าหากันทีละก้าวเมื่อได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของแต่ละฝ่าย

พร้อมกับหัวใจที่ค่อยๆ เปิดทีละเล็กน้อย…

แทนคุณเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผล ส่วนมาวินมักเอาใจใส่ผู้อื่นเสมอ แต่ถึงอย่างไร แม้ใครจะคิดว่าแทนคุณเป็นเกย์อีกทั้งคบหากับเขาอยู่ มาวินก็ยังไม่เชื่อใจ

เสียงรถรานอกบ้านไม่ได้ทำลายบรรยากาศระหว่างสองหนุ่มที่เดินออกมาพร้อมกันเท่าใดนัก มีเพียงคนทั้งคู่เท่านั้นที่ตั้งหน้าตั้งตาปิดปากเงียบ ทำลายบรรยากาศไปเสียเอง อากาศช่วงเย็นยังร้อนอบอ้าว หากทว่าร่างกายของอาจารย์หนุ่มผู้สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวกลับไม่มีกลิ่นเหงื่อสักนิด

มาวินเคยคิดว่าแทนคุณเป็นผู้ชายที่มีกลิ่นตัวเป็นเอกลักษณ์มาก หอมกรุ่น ได้กลิ่นถึงความสูงส่งและเย่อหยิ่งไปในคราเดียวกัน ที่จริง ตอนนี้แทนคุณอาจยังเป็นอย่างนั้นอยู่ เพียงแค่ยอมสยบให้มาวินเท่านั้นเพราะไม่มีทางเลือกก็เป็นได้ ชายหนุ่มกวาดสายตามองไปยังเงาตัวเองและอีกคนบนท้องถนน แนบใกล้ ให้ได้กลิ่นหอมจางของเสื้ออาจารย์หนุ่มข้างกาย

“เขยิบไปไหนเล่า” กำลังได้กลิ่นหอมเพลินอยู่เลย มาวินเงยขึ้นไปค้อน เห็นว่าแทนคุณกำลังทำหน้าระแวงระวัง ราวกับว่าตัวเขาเป็นโรคจิตไม่น่าไว้ใจเสียเอง

“ก็ดูทำหน้าเข้าซี ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่นี่”

“บ้าหรือไง”

“ทำไม หรือว่ากำลังคิดเรื่องทะลึ่งอยู่”

หลังแทนคุณย้อนมาหน้าตายแล้วนั้น มาวินถึงกับอ้าปากค้างไปต่อไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมองเขาในแง่นั้นได้ จริงอยู่ตั้งแต่ครานั้นที่นอนด้วยกัน นี่ร่วมเดือนแล้วที่แทนคุณไม่ได้แตะต้องเขาอีกเลย มาวินคิดว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายยังรู้จักตรึกตรองได้อยู่ว่าไม่ควรให้เขาเจ็บตัวบ่อยเกินไป สำนึกผิด

ทว่ามาวินไม่เคยคิด เขาไม่เคยคิดเรื่องทะลึ่งระหว่างตัวเองกับหมอนี่สักครั้ง สาบานได้

“คิดไม่ออกหรอก เรื่องทะลึ่งกับนายน่ะ”

ได้ฟัง แทนคุณเลิกคิ้วคล้ายอยากจะเย้าอยู่ในที แต่ก็ไม่ทำ

“งั้นกลับดีกว่า ขอบคุณสำหรับมื้อเย็นนะ”

“ติดใจฝีมือฉันแล้วน่ะซี” ขณะที่อาจารย์หนุ่มควานหากุญแจรถในมือ เสียงของมาวินกล่าวให้หลังชวนให้ยกยิ้มได้ไม่รู้เบื่อ

พักนี้ แทนคุณไม่สามารถนับครั้งที่ตนเองยิ้มได้เลย ปกติจะเป็นเสือยิ้มยากประจำบ้านแท้ๆ ใครเขาก็พูดถึงแทนคุณเช่นนี้หากไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริง ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียนได้ หากไม่มีความน่ายำเกรงเช่นนี้

ในยามที่กำลังง่วนอยู่กับตัวเอง แทนคุณเปิดประตูรถเตรียมจะทรุดกายลงไปนั่ง หากแต่ร่างกายถูกคนด้านหลังคว้าตัวเขาหมับเข้าไปกอด สร้างความประหลาดใจแก่ชายหนุ่มขึ้นมาว่ามาวินต้องการอะไร หรือแค่อยากจะใช้ลูกไม้เดิมออดอ้อนเขา ครั้นได้ยินเสียงมาวินสูดลมหายใจฟอดใหญ่ข้างหลัง เล่นเอาแทนคุณหลุดยิ้ม

“ทำอะไรของคุณน่ะ ดมอะไร”

“คนรวยนี่ดีเนอะ กลิ่นต่างกันดี”

คนฟังมุ่นคิ้ว “หืม...”

ฟังจากน้ำเสียงแล้วมาวินมิได้มีเรื่องราวทุกข์ใจอะไรผสม ออกจะติดไปทางสุขใจเสียมากกว่า ถึงอย่างนั้น มือหนาของผู้ถูกกอดยังเลือกที่จะกุมมือมาวินไว้เช่นนั้น นัยหนึ่งคืออยากให้ความเชื่อมั่นและกำลังใจ และอีกนัยคือต้องการสัมผัสปลอบโยน แทนคุณไม่ได้พูดอะไรฝ่าความเงียบระหว่างทั้งคู่ เพียงแค่ปล่อยให้คนด้านหลังกอดไว้เช่นนั้น ให้ใจสื่อถึงใจ สัมผัสถึงสัมผัส เผื่อว่ามาวินอาจต้องการพลังงานจากแรงกอด

เหมือนเขา...

ไม่นานอ้อมแขนอีกฝ่ายก็คลายออก เปลี่ยนมาลูบคลำหน้าท้องชายหนุ่ม อีกทั้งเคลื่อนใบหน้ามาเกยบ่าเอ่ย “แทน ดูสิดู...พักนี้นายดูมีห่วงยางขึ้นนะรู้ตัวหรือเปล่า พุงย้วยเชียว ไม่ค่อยออกกำลังกายล่ะสิ”

คนฟังเลิกคิ้ว หันไปมองหน้า สบตามาวินก่อนจะตอบ “ไม่ใช่หรอก พักนี้แฟนผมเลี้ยงดีไปหน่อย”

“ฉันไปเป็นแฟนนายเมื่อไรกัน” คนกล่าวส่ายหน้า

“ใครกันไปป่าวประกาศบอกเขาก่อนน่ะ ลืมแล้วหรือไง”

“แต่ฉันขอโทษนายไปแล้วนะ ขอโทษอีกก็ได้ เอ้า...” คนตัวเล็กกว่ายกมือประนมให้รู้ว่ารู้สึกผิดจริง หากแม้นสุ้มเสียงของแทนคุณไม่ติดไปทางเคืองโกรธแม้แต่น้อยก็ตาม มาวินก็อยากที่จะขอโทษที่คิดทำไปโดยพลการอยู่ดี ซึ่งคนมองก็มิได้คิดจะปล่อยให้ทำเช่นนั้นนาน ร่างสูงใหญ่ดึงคนตรงหน้าเข้าไปแนบกอดซุกกายในอก กระซาบผ่านความตกใจของมาวินออกมาว่า

“ผมจะโกรธคุณลงได้ยังไงมาวิน ในเมื่อคุณตั้งใจทำเพื่อผม...” คนฟังใจเต้นโครมคราม ทำได้เพียงแค่หอบหายใจเพราะปรับอารมณ์ตามไม่ทัน

“ผมต้องขอบคุณคุณต่างหากถึงจะถูก ขอบคุณ...มาวิน”

เสียงกระซาบรดผ่านใบหูของแทนคุณฟังดูยั่วยวนนัก ไม่ได้การแล้ว ยิ่งนานวันมาวินยิ่งไม่สามารถทัดทานความน่ารักของแทนคุณได้ ชายหนุ่มกะพริบตาถี่รัวภายใต้อ้อมอกแข็งแรงของอีกฝ่าย ไม่สามารถควบคุมสติของตัวให้หยุดตื่นเต้นได้ แทนคุณกำลังจู่โจมเขา รุนแรง เร่าร้อนจนมาวินแทบจะสิ้นฤทธิ์อยู่ร่อมร่อ...

ภายใต้ความบริสุทธิ์นี้ช่างร้ายกาจ อาจทำให้มาวินยอมสยบได้อีกไม่ช้า!

 

เช้าวันหยุดของสองพี่น้องวันนี้รวดเร็วกว่าทุกวัน คงเพราะมาวินนัดกับเอมมิกาว่าจะซ่อมแซมบ้านไว้ตั้งหลายวันก่อนแล้ว และเพราะเอมมิกาไม่สบาย ยังไม่มีโอกาสทำความสะอาดบ้านและจัดแจงให้เขาที่อย่างจริงจัง วันนี้ทุกอย่างเลยถูกเหมามารวมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่มีสมาชิกใหม่เพิ่มมาช่วยเบาแรงอีกที ซึ่งมาวินก็ยังไม่ทราบว่าจะช่วยหรือจะมาเป็นภาระกันแน่ ท่าทางคุณชายถึงเพียงนี้

หลังรับประทานมื้อเช้าร่วมกันแล้ว ทั้งสามต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง เอมมิกาได้ไม้กวาดและไม้ถูพื้นเป็นอาวุธ ส่วนมาวินถือค้อนและกล่องเครื่องมือมาหยุดอยู่หน้าบ้าน ทำทียืนคิดว่าจะลงมือส่วนใดก่อนดี ภายใต้การจับตามองของแทนคุณซึ่งอยู่ไม่ห่างเท่าใดนัก

“มองอะไร”

คนฟังเลิกคิ้ว ราวกับมาวินกำลังคิดว่าแทนคุณรู้ทันว่าอีกฝ่ายทำงานช่างพวกนี้ไม่เป็น

“เปล่า ลงมือไปเลยซี”

“ของแบบนี้มันต้องวางแผนก่อน”

มาวินกล่าว มือก็หยิบตารางเมตรวัดความยาวโน่นนี่นั่น ผลสุดท้ายก็ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้วมาวินยังง่วนอยู่กับตารางเมตรอย่างไม่มีทีท่าว่าจะจับเลื่อย หรือค้อน อุปกรณ์ชนิดอื่น แทนคุณระบายยิ้มเล็กน้อยอย่างรู้ทัน กะว่าจะเดินเข้ามาช่วยสักหน่อย หากเพราะเสียงรถยนต์ที่เคลื่อนมาจอดหน้ารั้วนั้นต่างแย่งจุดสนใจของชายทั้งคู่ให้จำต้องเงยขึ้นมองอย่างเสียมิได้

ไม่ใช่คนมาผิดบ้านหรือจะถามทางอะไรทั้งนั้น

แทนคุณคุณย่างเท้าไปหยุดขนาบคู่ร่างของมาวินทันที เมื่อท่าทางของอีกฝ่ายแสดงให้เห็นว่าอาจรู้จักเจ้าของรถยนต์คันนี้ ซึ่งเป็นชายวัยกลางคนผิวขาวสะอ้าน แต่งกายดี หน้าเข้มขรึมจนถึงขั้นติดไปทางโหดเสียด้วยซ้ำ อีกฝ่ายย่ำเดินมาหยุดตรงหน้าคนทั้งคู่อย่างไม่ต้องบอก ก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้มดุว่า

“น้องอยู่ไหน”

แทนคุณหันมองมาวินทันที ประโยคนี้น่าจะอธิบายอะไรให้เขาเข้าใจได้หลายสิ่ง ว่าชายหน้าดุตรงหน้าไม่ใช่ไก่กาที่ไหน นี่เป็นถึงผู้มีอำนาจสำหรับมาวิน ถึงขั้นทำให้คนข้างกายเขาอึ้ง พูดไม่ออกไปชั่วนาทีหนึ่ง “อยู่...อยู่ในบ้าน”

ผู้มาเยือนคงยังตีหน้าเข้ม กล่าวต่ออีกว่า “ดูแลกันยังไง ปล่อยให้น้องเจ็บป่วยขนาดนี้”

มาวินนิ่ง “มันห้ามป่วยไม่ได้เสียหน่อยนี่”

คนหน้าดุเงียบไปไม่ได้พูดอะไรต่อเสียให้มากความ เพราะขี้เกียจเถียงด้วย ก่อนจะละสายตามาเจอะกับแทนคุณซึ่งยืนฟังมานานแล้ว ชายตัวสูงหนึ่งเดียวถึงกับผงะ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ทักทาย จึงรีบยกมือขึ้นไหว้เมื่อนึกถึงมรรยาทที่พึงกระทำยามพบผู้ใหญ่

อีกฝ่ายมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพินิจพิเคราะห์ ไม่ได้รับไหว้แทนคุณ เพียงกล่าวกับมาวินเสียงเรียบว่า “ไม่ใช่คนเดียวกันกับคนที่แล้วนี่”

แทนคุณหูผึ่ง หันมองมาวินหลังชายกลางคนคนนี้จุดเชื้อไฟ

ไม่ต้องเชื้อเชิญอะไรทั้งสิ้น มาวินและแทนคุณจำต้องเงียบเพราะรังสีความทะมึนมืดยังกระจายทั่วร่างของชายวัยกลางคนตรงหน้า เขาเดินเข้าไปในบ้านอย่างไม่ต้องให้มาวินบอก ทำท่ากวาดมองโดยรอบอย่างนึกดูแคลนสถานที่อยู่ในที เห็นแล้ว แทนคุณรู้สึกถึงความลำบากของมาวินที่กำลังจะตามมาอีกไม่นาน

“นั่นพ่อคุณงั้นหรือ ท่าทางดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไรเลยนะ”

“อืม นั่นแหละพ่อฉัน” มาวินตอบ

มองตามหลังของประเด็นที่พูดถึงกำลังเข้าไปภายในของบ้านพัก ซึ่งจุดหมายคงเป็นเอมมิกา ที่รู้ข่าว อาจได้ยินจากน้าอรอีกทีก็เป็นได้ ที่จริงแล้วตลอดสี่ห้าปีที่น้องสาวย้ายมาอยู่กับเขา มาวินถือทิฐิมาโดยตลอด ไม่ยอมติดต่อกลับไปบอกข่าวคราวของตนเองและเอมมิกาแก่ท่านสักครั้ง เพราะโกรธ เพราะน้อยใจ เพราะยังจำทุกประโยคที่ชายผู้นี้กล่าวกลับเขา

“แกมันไม่ใช่ลูกฉัน!”

มาวินยังจำสีหน้าและแววตาของบิดาวันนั้นได้ชัดเจนสว่างไสว ยามเอ่ย

“อย่าซมซานกลับมาแบมือขอเงินฉัน เราขาดกันตั้งแต่วันนี้!”

มาวินเคยอยู่สุขสบาย ครอบครับเขาสามารถพูดได้ว่าร่ำรวย มีไร่เป็นร้อยไร่อยู่หลายแปลง เคยมีกินจนเหลือไว้ใช้เล่นฟุ่มเฟือยได้ไม่มีวันหมด มาวินเคยเสียใจที่ตัดขาดตัวเองจากครอบครัว จากบิดาและความสุขสบาย หน้าด้านกลับไปหาบิดาอยู่ครั้งหนึ่ง นั่นทำให้เขาเลือกคิดอย่างเด็ดขาดจริงจังแล้วว่าจะไม่กลับไปอีก เพราะท่านไม่ได้ทำอย่างที่พูดไว้เลย ยอมให้ที่พักพิงอาศัย ให้เงิน ให้อยู่ที่นั่นพร้อมกับสบถด่าต่างๆ นานา ดูถูกเขาสารพัด การทำแบบนั้นเจ็บปวดยิ่งกว่าที่ถูกท่านปฏิเสธเสียอีก

เขาก็แค่ใช้ข้ออ้างเรื่องแม่เลี้ยง ข้ออ้างเรื่องน้าอรเพื่อที่จะไม่กลับไปบ้าน ที่จริงแล้วมาวินไม่สามารถสู้หน้าบิดาของตัวเองได้ต่างหาก เพราะเขายังไม่สามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้ ได้เพียงคิดว่าจะมีสักวันหนึ่งจะกล้ากลับไป ซึ่งวันที่ไปรับเอมมิกา มาวินเคยคิดว่าสามารถยืนตอบโต้บิดาได้แล้ว แต่ไม่เลย...

ท่านยังดูถูกเหยียดหยามมาวินอย่างเคย เมื่อเหลือบไปเห็นเอกณรงค์ที่ตามไปด้วย

“แล้ววันนี้ท่านมาทำไม” แทนคุณเอ่ยถาม

เมื่อเห็นหน้าของบิดา หวนให้มาวินย้อนคิดถึงอดีตและความผิดของตนเองขึ้นมา

“คงมาเยี่ยมเอมน่ะ นายก็ได้ยินแล้วนี่ เขาคงโกรธแล้วก็อยากมาด่าฉันด้วยละมั้ง” มาวินส่ายหน้า มองเข้าไปด้านใน เห็นน้องสาวและบิดายืนพูดคุยกันอยู่และอาจรับรู้ว่าท่านกำลังต้องการอะไร

อาจอยากให้เอมมิกากลับไป

 

คุณเกรียงไกร บิดาของมาวินอุตส่าห์ขับรถมาเองจากเมืองกาญเพื่อเยี่ยมน้องสาวเขา เพราะได้ยินจากน้าอรว่าเธอไม่สบายจนถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลผ่าตัด เพราะไม่เห็นน้าอรที่นั่นหลายวันจึงเข้าไปสอบถาม ครั้นมาถึง เอาเข้าจริงมาวินที่คิดว่าท่านจะบังคับขู่เข็ญให้น้องสาวเขาตามกลับไปตั้งแต่แรกเสียอีก แต่ไม่ ท่านดูใจเย็นกว่าที่คิด สอบถามสารทุกข์สุกดิบเธอทุกอย่าง

ดูเหมือนท่านจะเป็นห่วงเป็นใยเอมมิกา หากทว่าเป็นฝ่ายมาวินที่ลำบาก มาวินทราบดีว่ากำลังถูกจับผิด ชายหนุ่มเห็นสายตาของคุณเกรียงไกรยามเหลือบมองแทนคุณทุกครั้ง เต็มเปี่ยมไปด้วยแววสงสัย

พูดคุยทักทายกันสักพัก คุณเกรียงไกรก็ออกปากว่าจะช่วยซ่อมแซมบ้านให้เพราะเก่งงานช่าง อีกอย่างเอมมิกาก็เชื่อฝีมือของบิดาว่าจะต้องออกมาดีแน่ เพียงแต่ ท่านต้องการลูกมือเป็นแทนคุณเท่านั้น พร้อมให้เหตุผลอีกด้วยว่าท่าทางหน่วยก้านของแทนคุณดี น่าจะเก่งงานช่างและใช้กำลัง

เหตุใดมาวินจะไม่รู้ทันสิวัยบิดาบ้าอำนาจของตนเอง คนโหดอย่างคุณเกรียงไกรมองเฉียบขาดยิ่งกว่ากรรไกรที่ไหนเสียอีก อาจกำลังนึกอยากจะลองใจหรือกลั่นแกล้งแทนคุณ ซึ่งดูอย่างไรก็ลูกคุณหนูชัดเจนอย่างไม่ต้องสังเกตก็เป็นได้ คิดแล้วมาวินก็ส่ายหน้า แต่เจ้าตัวน่ะซี ลุกพรวดพราดยอมรับข้อเสนอเจ้าเล่ห์ของคุณเกรียงไกรอย่างไม่รู้ทัน แล้วอย่างนี้มาวินจะไปช่วยอะไรได้ นอกเสียจากยืนมองความอนาถของแทนคุณจากมุมนี้

มาวินถูกสั่งห้ามให้ไปก่อกวน ชายหนุ่มยืนมองจากในบ้าน เห็นร่างสูงของแทนคุณกำลังพันแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นไปบนข้อศอกอย่างรู้งาน หันไปหยิบเศษไม้มากองตามที่คุณเกรียงไกรชี้นิ้วบอก

จะไปได้สักกี่น้ำกัน พ่อคุณชาย

“ทำงานอะไร” ขณะที่ยังจับเลื่อยเลื่อยไม้ในมืออยู่นั้นเอง แทนคุณเงยขึ้นมองคนถามด้วยความฉงนใจ เมื่อจู่ๆ อีกฝ่ายฝ่าความเงียบระหว่างทั้งคู่ด้วยคำถามนี้ “ไม่ต้องเงยมามองหน้า ทำงานตัวเองต่อไปซี”

หนำซ้ำทั้งทีมิพิรุธให้เขาเห็นอีกด้วย

“เป็นอาจารย์ครับ”

“อาจารย์ แค่อาจารย์ธรรมดาน่ะหรือ” ท่ามกลางเสียงค้อนกระทบกับไม้ แทนคุณสัมผัสได้ว่าน้ำเสียงของคุณเกรียงไกรกำลังเยาะ และไม่เชื่อในสิ่งที่ชายหนุ่มบอกไป

“ครับ เป็นแค่อาจารย์ธรรมดา”

“ฉันไม่เชื่อว่าคนอย่างนายเป็นแค่อาจารย์ธรรมดา จะบอกให้นะ ว่าฉันรู้จักไอ้ลูกชายของฉันดีกว่าใครทั้งหมด ถ้านายเป็นเพียงแค่อาจารย์ธรรมดาน่ะหรือ หึ! ลูกชายฉันไม่มีวันเหลียวแลนายแน่ ต่อให้หล่อหรือดีแค่ไหนมันก็ไม่มอง นายเข้าใจสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดใช่ไหม ไอ้คนโง่...” คุณเกรียงไกรทำเสียงเหนือกว่า หัวเราะในลำคออยู่ลำพัง

“ทำไมคุณถึงคิดว่ามาวินเป็นคนแบบนั้นล่ะครับ”

“ก็ฉันบอกแล้วไงว่ารู้จักมันดี หึ...คนอย่างนายนี่มันน่าสมเพชดีนะ หาดีกว่านี้ไม่ได้หรือ หรือว่าดีแต่หน้าตาแล้วมีอะไรไม่ดีซ่อนอยู่จนคนอื่นเขารับไม่ได้ล่ะ รู้ดีใช่ไหมว่าลูกฉันมันไม่แคร์เรื่องนั้นหรอก มันแคร์แค่ว่ามีปัญญาให้มันมากขนาดไหนแค่นั้น...”

“จะว่าผมน่ะผมไม่เคืองอะไรคุณหรอกนะครับ แต่อย่าพูดถึงลูกชายคุณเองแบบนั้นเลย มันดูเหมือนคุณกำลังดูถูกเขา ในเมื่อคุณเองยังไม่รู้จักลูกตัวเองดี คุณไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งนั้นมาตัดสินเขา ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาใช้ชีวิตยังไงเพื่อพยายามดูแลเอมมิกา และเพื่อไม่กลับไปขอเงินคุณ...” ชายหนุ่มชำเลืองขึ้นมองชายวัยกลางคนตรงหน้าขณะกล่าว

คุณเกรียงไกรเปลี่ยนสีหน้า ตบตักตัวเองอย่างนึกโมโห “บ๊ะ! แกนี่มันต่อปากต่อคำเก่งซะจริง ไอ้วินมันกล้าเล่าเรื่องฉันให้แกฟังงั้นหรือ!”

“ตลอดเวลาที่ผมอยู่กับเขา ทั้งชีวิตของมาวินมีแต่น้องสาว เขาไม่เคยเล่าด้วยซ้ำว่าตัวเองมีพ่อแม่ครอบครัวที่ไหนอีก นี่ละมั้งที่ผมพอจะเดาอะไรได้ตั้งแต่ได้รู้ว่าคุณคือพ่อของเขา เขาคงเจออะไรมาเยอะ...”

ชายหนุ่มพูดเพียงแค่นั้น เมื่อสบตาผู้ฟัง ทำได้เพียงทอดถอนใจ ก้มหน้าก้มตาเลื่อยไม้ในมืออย่างตั้งอกตั้งใจทั้งที่จริงแล้วในอกแทบจะระเบิดเพราะชายตรงหน้า

แต่เพราะเห็นสีหน้าของคุณเกรียงไกรหลังได้ฟังในสิ่งที่บอกไป แววตาผิดหวังนั้นทำให้ชายหนุ่มจำยอมเงียบ สงบปากสงบคำที่อยากจะต่อว่า ลบคำที่อยากสั่งสอนบางอย่างให้หายไปจากความคิด เขาคงสะเทือนใจเมื่อได้รู้ว่าตนเองไม่มีความสำคัญต่อมาวินเลยสักนิด

อีกฝ่ายเงียบไป ไม่หาเรื่องแทนคุณอย่างเคย เรียกว่าเงียบราวกับตกอยู่ในภวังค์อะไรสักอย่างก็เป็นได้

ชายหนุ่มลุกขึ้นไปถอดบานพับของประตูรั้วมาวางไว้กับพื้น ตัดส่วนที่ผุพังของรั้วออกที่ละท่อนอย่างตั้งอกตั้งใจและรู้หน้าที่ นานเท่าไรไม่รู้ที่ออกแรงทำงาน มารู้ตัวอีกทีเหงื่อกาฬก็ท่วมเต็มเสื้อเชิ้ตสีฟ้าของชายหนุ่ม พร้อมหยดน้ำผุดขึ้นเต็มหน้าผาก แทนคุณย่างเท้าไปหยิบค้อนที่วางอยู่กับพื้น ไม่สนคนพักที่นั่งอยู่ไม่ห่างเท่าใดนักว่าจะเหนื่อยเพียงไหนกับเพียงแค่ตอกหรืองัดเศษตะปูออก

“เฮ้ย ทำเป็นหรือไงจะมาหยิบค้อนไปน่ะ”

ชายหนุ่มยักไหล่ “ก็ไม่ได้บอกว่าทำไม่เป็นนี่ครับ ถึงท่าทางผมจะดูไม่ให้ก็เถอะ”

“โห...อาจารย์แทนเท่จังเลยค่ะพี่วิน” ขณะที่คนตัวสูงลุกขึ้นถอดเสื้อแขนยาวด้วยเห็นว่ามันเกะกะขยับตัวยากแล้ว ชายหนุ่มหันไปเจอะมาวินกับเอมมิกาพอดี ทั้งคู่ถือน้ำมาวางไว้ข้างคุณเกรียงไกร ยืนมองแทนคุณที่ยังสวมเพียงเสื้อกล้ามสีขาว ตามร่างกายชื้นไปด้วยเหงื่อเดินกลับไปยังรั้วหน้าบ้าน

“นี่! ถ้าเหนื่อยก็มาพักก่อนสิแทน ฉันกับเอมเอาน้ำมาให้”

“ไม่เป็นไร ผมแค่ร้อนน่ะ”

“จะไหวจริงเร้อ...”

หากยังมีคนใช้เสียงและสายตาสบประมาทอย่างนี้ แทนคุณคงเหนื่อยตอนนี้ไม่ได้ ชายหนุ่มระบายยิ้มขณะสบมองมาวิน พยายามปล่อยผ่านคุณเกรียงไกรไปเพราะรู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นคนช่างจับผิด ถึงท่านจะดูปากร้าย เห็นแล้วว่าก็ยังอ่อนไหวกับอะไรสักอย่างได้อยู่เช่นกัน เขาไม่ควรเล่นงานเพราะอย่างไรแล้วก็เป็นบิดาของมาวิน ถึงจะนึกแอบหมั่นไส้อยู่ก็ตามที

บางที แทนคุณก็อยากจัดการให้ทุกฝ่ายคิดได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเห็นว่ายังมีบางอย่างที่ไม่ว่าจะอายุเท่าไร ก็ไม่สามารถฉุกคิดได้อยู่

ดูเหมือนความอวดเก่งของแทนคุณจะทำให้อีกฝ่ายนึกอยากแกล้งอีกครั้ง คุณเกรียงไกรเลยยุให้คำเพียงคนเดียวมิยอมให้ใครมาช่วย แทนคุณเหงื่อตก ไม่ใช่เพราะความเหนื่อย เพราะสายตาของมาวินที่ส่งให้บิดาเจ้าตัวนั่นต่างหาก

ชายหนุ่มหยิบไม้ที่ตัดไว้มาตอกด้วยตะปูเบอร์ใหญ่ต่อเติมรั้วส่วนที่ผุแล้ว ท่าทางทะมัดทะแมงขณะออกแรงและกล้ามแขนพอจะทำให้คุณเกรียงไกรเปลี่ยนสีหน้าไปได้บ้าง พร้อมรอยยิ้มของมาวินยามรู้ว่าแทนคุณอยู่เหนือความคาดหมายของบิดา

มารู้ตัวอีกที แทนคุณชักไม่แน่ใจว่าตนเองเป็นอะไรสำหรับมาวินกันแน่

เพียงแค่รู้สึกดี หากทำให้มาวินโล่งใจ

ทำคนเดียวก็กินเวลาอยู่นาน หากท้ายสุด ชายหนุ่มก็สามารถยกประตูรั้วซึ่งเคยเก่ากึกในสภาพเหมือนใหม่ขึ้นติดกับบานพับแบบแข็งแรงได้ ท่ามกลางเสียงปรบมือของเอมมิกาและแววตาภาคภูมิใจของมาวิน สองหนุ่มช่วยกันทาสีรั้วใหม่ หากยังคงเป็นสีฟ้าเช่นเดิม เพิ่มเติมคือความเข้มและสดใหม่ของมัน ร่างกายแทนคุณเปรอะไปด้วยสี ช่วยมาวินเก็บข้าวของเข้าไปในห้องอย่างไม่ปริปากบ่น

กว่าทุกอย่างจะเสร็จก็มืดค่ำ

“เดี๋ยวเสร็จแล้วนายไปอาบน้ำในบ้านนะ ฉันจะเตรียมชุดไว้ให้ มันดึกแล้ว กลับไปสภาพนี้ไม่ดีแน่” มาวินมองสารร่างของคนตัวสูงกว่าพร้อมรอยยิ้มล้อเลียน แทนคุณรู้ทันเมื่อเห็นแววตาคนบอก ชายหนุ่มกอดอก หลังจากว่างข้าวของลงบนที่เก็บไว้เรียบร้อยแล้ว

“ได้หรือ ผมจะไม่ถูกพ่อคุณด่าใช่ไหม”

“นี่มันบ้านฉัน ไม่ใช่บ้านพ่อ”

แทนคุณยักไหล่ หันเดินขนาบข้างมาวินเพื่อเข้าไปในบ้าน “ผมเห็นนะ หน้าคุณดูเหมือนจะสะใจมากที่ผมเอาชนะพ่อคุณได้ ควรขอบคุณผมไว้ซะนะ”

“คร้าบ ขอบคุณมาก ไปอาบน้ำได้แล้วไป”

“คุณจะไม่อาบพร้อมกันหรือ”

“อย่ามาพูดแบบนี้แถวนี้นะ พ่อฉันอาจได้ยิน” มาวินค้อน เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้นึกตกใจกับสิ่งที่ได้ฟัง คนอย่างแทนคุณที่สัมผัสเมื่อได้อยู่ใกล้กับคุณเกรียงไกรเพียงไม่นาน คงทราบแล้วว่าท่านมีนิสัยอย่างไร  ขณะเดินเข้าบ้านมาพร้อมกัน สองหนุ่มเห็นผู้ที่ถูกกล่าวถึงยังนั่งอยู่บนโซฟาแม้ว่าจะอาบน้ำหรือทานมื้อเย็นไปก่อนแล้วก็ตาม คงเพราะเดาใจกันได้ มาวินเหลือบมองแทนคุณอยู่วินาทีหนึ่ง

เพราะไม่รู้ว่าคนบนโซฟากำลังคิดอะไรอยู่ จึงรีบออกปาก “ไปอาบน้ำล้างตัวเสียสิ ฉันจะเอาเสื้อผ้าไปให้ เดี๋ยวกลับบ้านดึกกันพอดี”

แทนคุณรับทราบ รีบหมุนตัวไปหาห้องน้ำเมื่อได้ยิน

“จะไม่ค้างที่นี่ก่อนหรือ”

แขกผู้เป็นหนึ่งเดียวชะงัก หันกลับไปมองคนกล่าวอย่างนึกไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยินไปเมื่อครู่ ไม่เชื่อว่าชายกลางคนจอมทิฐิที่เคยตั้งแง่ต่อเขาจะรู้จักเปิดใจด้วย แม้กระทั่งตัวลูกชายของคุณเกรียงไกรเองก็คิดเหมือนกันกับเขา

แทนคุณยกยิ้ม มองสีหน้าของมาวินเมื่ออีกฝ่ายหันไปสบมองพ่อตัวเองนิ่งอยู่เช่นนั้น แววตาที่แทนคุณเห็นภายใน มาวินไม่อาจปิดซ่อนความปีติดีใจได้มิด

แล้วอย่างนี้ ชายหนุ่มจะปฏิเสธได้อย่างไร

มาวินกำลังเห็นว่าบิดาที่เคยคิดอคติด้วยในสมัยเด็กนั้นยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก และฝ่ายคุณเกรียงไกรเองก็เช่นกันที่รับรู้ว่าลูกชายตัวเองได้เติบโตขึ้นแล้วอย่างที่วาดหวัง หากทั้งคู่ไม่เอาแต่มองด้านเดียวก็จะเข้าใจ

แทนคุณยินดี ที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นกาวเชื่อมสัมพันธ์ของทั้งสองให้กลับมาแน่นแฟ้นเหมือนเดิม

ชายหนุ่มเชื่อว่ามันจะดีกับมาวินแน่...





----------------------------------------------

เรื่องของคุณแม่แทนเพิ่งจะจบไป คุณพ่อของมาวินตบเท้าเข้ามาต่อคิวแล้ว อิอิ

เรื่องแม่ของแทนจะมาอีกระลอกเนอะ นางแอบร้าย ปมของแทนจะมาทีหลังมาวินค่ะ

แทนแคร์มาวิน มาวินก็เริ่มจะใจอ่อนแล้ว จะยอมรับกันเร็วๆ นี้เนอะ อาจเป็นตอนหน้า หรือตอนไหนใกล้ๆ

ทุกอย่างจะเริ่มเข้มข้นขึ้น เมื่อแทนพยายามปรับตัว แต่คุณกายแกกลับมาหามาวิน

แทนจะอดทนได้นานมั้ย หรือจะตบะแตกทำร้ายมาวินอีก รอดูค่า

จุ๊บ!

ออฟไลน์ rotedump

  • รถดั้มพ์ถังซัมจั๋ง
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สนุกจังครับบบ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa





ตอนที่ ๑๑

ภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมเล็กมืดสลัว แสดงนีออนจากด้านนอกสาดเข้ามายังร่างหนาซึ่งนอนอยู่บนเตียง เงาสะท้อนให้เห็นเหงื่อผุดพราวระยับบนหน้าผาก ไม่มีใครทราบว่าเขากำลังฝันอะไรอยู่ รู้เพียงว่าสีหน้าตอนนี้ช่างทรมาน ราวกับตกอยู่ในห้วงฝันร้ายที่มีปิศาจเป็นร้อยตนรายรอบ

“อยู่ในนี้ ห้ามออกมาจนกว่าแกจะสำนึกผิด เข้าใจไหม!”

“แม่...”

ภาพมารดาในวัยสาวแผดเสียงจนเอ็นปูดเต็มคอ ยกนิ้วชี้ชี้หน้าสอนสั่ง ดวงตาของเธอวันนั้นแดงก่ำเต็มไปด้วยความโกรธขึ้งและอารมณ์ร้าย เหมือนปิศาจ เหมือนแม่มดใจร้าย เด็กชายหกขวบกลั้นสะอื้นภายในความมืดมิดกลางดึกของคืนหนึ่ง ร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว สิ่งเดียวที่ทำได้คือมองลอดออกไปยังช่องเล็กของประตูที่ปิดสนิทบานนั้น ทันใดนั้นเอง ดวงตาของใครสักคนโผล่ตรงหน้าประตู เคาะเรียกเขา

“แทน!”

“พี่...”

แทนคุณสะดุ้งลืมตา สิ่งที่เดียวรู้สึกได้ยามนี้คือดวงใจเต้นระทึกกลัวกับสิ่งที่เผชิญเมื่อครู่ หากแม้นเป็นเพียงฝัน แทนคุณรู้ดีว่ามันเป็นฝันที่หลอกหลอนเขามาตลอดยี่สิบปี ชายหนุ่มยกมือขึ้นปาดเหงื่อ กวาดสายตาไปมองมาวินซึ่งตื่นขึ้นมาชะโงกหัวขึ้นมองเขาด้วยความสงสัย

“เป็นอะไรหรือเปล่าแทน โอเคไหม”

ทุกอย่างมันจบลงไปแล้ว มันผ่านยี่สิบกว่าปีแล้ว...

“ช่วยเปิดประตูนอนได้หรือเปล่า ผม...อยากให้เปิด...”

แทนคุณเกลียดประตู เกลียดยามที่มันปิดไว้กั้นโลกภายนอก ชายหนุ่มหันกายแนบกอด ซุกอยู่ในอกของมาวินอย่างเงียบเชียบหลังอีกฝ่ายเดินกลับมาทรุดกายนอนข้าง ทำตามคำขอของชายหนุ่มอย่างไม่มีข้อแม้ โดยที่ไม่มีคำถามใดใดทั้งสิ้นรบกวนใจหรือตอกย้ำให้เจ็บปวด

“นอนเถอะ ประตูเปิดแล้ว ไม่ต้องกลัว”

แม้ในยามไม่มีสติ มาวินไม่ทราบว่าแทนคุณละเมอพูดหรือไม่ คนในอ้อมแขนของเขามักพูดผ่านความเงียบว่าเปิดประตู เปิดประตู เปิดประตูอยู่เช่นนั้นทั้งคืน ราวกับกำลังถูกขังอยู่ในห้องมืดที่ไหนสักที่ ที่ที่ทำให้คนบริสุทธิ์อย่างแทนคุณเปลี่ยนไป กลายเป็นแทนคุณที่เขาเห็นอยู่ในขณะนี้

เขาไม่อาจรู้ได้ว่าเพราะเหตุใด แต่มันช่างน่าสะเทือนใจ ชายผู้นี้อาจเคยพบเจออะไรร้าย ๆ มาก็เป็นได้

ทำได้เพียงแค่ปลอบโยนให้นอนหลับ มอบความอบอุ่นด้วยแรงกอด และพรมจูบลงบนใบหน้าของแทนคุณในความมืดมิดนั้น พร่ำบอกกับคนฟังด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างแผ่วเบาอ่อนโยน

“นายอยู่กับฉันแทน นายจะปลอดภัย ฉันจะกอดนายเอง จะกอดไว้จนเช้าเลย...”

“อย่าเกลียดผม อย่าเกลียดผม”

“ไม่เลย ฉันไม่เคยเกลียดนาย”

ชายหนุ่มคลายวงแขน ประคองใบหน้าอันเต็มตื้นไปด้วยความหวาดกลัวขึ้นมาสบตา เพราะกำลังกลัว เพราะเคยเผชิญความน่ากลัวมาก่อน แทนคุณจึงกลายเป็นคนที่เสพติดความเจ็บปวดของผู้อื่นเสียเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ มาวินเข้าใจคนตรงหน้าแล้ว ใบหน้าเรียวงุดลง มอบจูบให้อีกฝ่ายเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เขากำลังบอกไป มิใช่เรื่องโกหก

แทนคุณกอดเขา รับจูบนั้นอย่างอ่อนแผ่ว พลิกกายขึ้นมาอยู่บนตัวนำจูบเสียเองราวกับกำลังเว้าวอน ชายหนุ่มพริ้มตา ร่างกายมือไม้พัวรัวนัวเนียอยู่บนเตียง ใต้ผ้าห่มผืนบาง มีเพียงเสียงริมฝีปากซึ่งยังดื่มด่ำไปกับรสจูบคั่นกลางระหว่างทั้งคู่ จูบแรกที่มาวินสัมผัสได้ว่าแทนคุณไม่พยายามที่จะอ่อนโยน มันเป็นไปเองโดยสัญชาตญาณ

“มาวิน...”

คนตรงหน้าหล่อเหลากระซาบแผ่ว ยามผละออกมาสบตา แสงนีออนสาดกระทบโครงหน้าในความมืดของห้องเปลี่ยนมุมมองให้เห็นอีกแบบ แทนคุณเหมือนประติมากรรมสุดรักของศิลปินคนใดคนหนึ่ง ยามเมียงมองสบตาเขาด้วยสีหน้าอ่อนไหวเช่นนี้ มือเรียวยาวเคลื่อนขึ้นไปสัมผัส ราวกับความฝัน ยามอีกฝ่ายมอบจูบ ลามเลียไปทั่วทุกส่วนของร่างกายเขา มารู้ตัวอีกที กางเกงก็กองลงไปที่ข้อเท้าเสียแล้ว

“อื้อ...แทน...”

มือเรียวยาวเคลื่อนสัมผัสเส้นไหมสีดำของอีกฝ่ายเบามือ ความหวามไหวโถมถั่งใส่ร่างมาวินจนหายใจไม่ทั่วท้อง

ไม่อาจเดาใจแทนคุณได้ มาวินนอนก่ายหน้าผากขณะอีกข้างลูบไล้เรือนผมของผู้กระทำซึ่งยังปรนนิบัติให้ ทำราวหลงใหลทุกอย่างของมาวินอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เหลียวไปเห็นประตูเปิดทิ้งไว้ก็เกรงว่าใครจะมาได้ยิน มาวินเม้มปากเน้น สูดลมเข้าปากเอาแรงเก็บกลั้นเสียง หอบหายใจขณะหน้าท้องยังหดเกร็งอยู่เช่นนั้น

ไม่รู้นานเท่าไรที่แทนคุณทำให้ ชายหนุ่มซุกหน้ากับหมอนยามริมฝีปากของแทนคุณดำดิ่งล้ำลึก พาร่างของเขาปลิวไปกับความสุขจนวินาทีสุดท้าย อารมณ์สุขซ่านหลั่งไหลออกมาเต็มความรู้สึกจนยากนักที่จะปิดบังได้

อีกฝ่ายไม่ได้สานต่อหลังจากนั้น เขาไม่ได้สวมกางเกง มาวินถูกผ้าห่มและร่างหนาใหญ่ทรุดลงแนบทับไปเสียทั้งอย่างนั้น ราวกับแทนคุณต้องการร้องขอที่จะอยู่เช่นนี้ หากทว่าชายหนุ่มอุ่นใจ เมื่อพบเจออีกด้านหนึ่งของแทนคุณเข้าแล้ว และยอมรับว่ามันไม่ได้แย่ไปเสียทีเดียว

แทนคุณกำลังอธิบายว่ากำลังจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อเขา มันน่ารัก น่าทนุถนอมเกินไป

 

เช้าแล้ว เสียงรถด้านนอกปลุกให้มาวินรู้สึกตัว งัวเงียชะโงกหัวออกจากเตียงนอนไปยังหน้าต่าง เห็นรถของแทนคุณเคลื่อนออกไปจากรั้วอย่างไม่ได้เร่งรีบนัก คงเพราะเรื่องเมื่อคืนทำให้ตื่นสาย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายลุกออกไปตั้งแต่เมื่อไร ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแหงนมองผนังกับอะไรบางอย่างวนเวียนรบกวนใจ เหลือบมองประตูตอนนี้ที่ปิดสนิทแล้วภาพใบหน้าของแทนก็ผุดขึ้น

บ้าจริง! มาวินยกมือกุมขมับสางผมฟูของตัวเองด้วยความไม่เข้าใจความคิด ทั้งของตนเองและอีกฝ่าย เมื่อคืนมันเกิดขึ้นเร็วมาก หนำซ้ำยังปลอดไปด้วยแอลกอฮอล์อีกต่างหาก

เวลาเท่านี้เอมมิกาอาจเดินทางไปโรงเรียนแล้ว หากแต่ว่าเขาคงลืมอะไรบางอย่างไป มาวินผุดกายลุกขึ้นนั่งเมื่อนึกถึงคุณเกรียงไกรขึ้นมา รีบสวมกางเกงเดินลงไปด้านล่างด้วยความเร็วรี่ เขาอาจพูดอะไรให้แทนคุณลำบากใจก็เป็นได้ มาวินทราบวิสัยของบิดาดี

“ลุกได้แล้วหรือ ตื่นสายโด่งอย่างนี้ยังจะกล้าพูดว่าดูแลน้องอีกนะ น้องดูแลแกสิถึงจะถูก”

มาวินเกาหัวยุ่งของตนเอง เหลือบมองบิดาที่ยังนั่งอยู่กลางบ้าน และเห็นร่องรอยที่เอมมิกาใช้ครัวทิ้งไว้เพื่อทานข้าวเช้า จึงเดินลงไปจัดการข้าวของในครัว ไม่สนคนที่พูดด้วยสักนิด

อาจเพราะไม่รู้ว่าเริ่มจะพูดอะไรมากกว่า บิดาพูดออกมามีเพียงแต่คำดูถูกดูแคลนทั้งสิ้น ฟังเมื่อไรก็แทงใจเมื่อนั้น ชายหนุ่มทอดถอนใจ หลังทำความสะอาดเครื่องครัวที่น้องสาวทำทิ้งไว้แล้วจึงคิดจะไปอาบน้ำ หากต้องเดินผ่านคุณเกรียงไกรไปก่อน และแน่นอนว่าท่านคงกำลังสรรค์หาประเด็นใหม่มาคุยกับเขาเช่นเดิม ให้มาวินรู้สึกเพียงความอึดอัดที่ยังวนเวียนอยู่

“แกทำงานอะไรอยู่ ไม่ได้ทำใช่ไหม เกาะไอ้อาจารย์คนนี้อยู่งั้นซีนะ”

ชายหนุ่มมองบิดาด้วยความไม่เข้าใจ “พ่อทำอย่างนี้ทำไม อย่ายุ่งกับเขานะ ไม่ต้องไปถามอะไรแทนทั้งนั้น”

“ทำไม ขายหน้าหรือ คิดทำแบบนี้เองแล้วจะอายทำไม” มาวินกำมือแน่น คงเพราะสิ่งที่คุณเกรียงไกรสวนกลับนั้นเป็นหมัดที่หนักพอควร ทำเอาเขารู้สึกเจ็บจุก ลุกขึ้นมาตอบโต้อะไรมิได้ นอกเสียจากยืนตัวสั่นอยู่เช่นนี้

“กลับไปซะพ่อ ถ้าจะมาพูดเรื่องพวกนี้ก็กลับบ้านไปเลยดีกว่า ยังไงเอมก็ไม่ตามพ่อกลับไปหรอก”

“ฉันจะรอจนกว่าเอมจะตัดสินใจไปด้วย”

“ไม่! อย่ามาก้าวก่ายเรานะ” ชายหนุ่มเดินไปหยุดยืนตรงหน้าบิดาสีหน้าจริงจัง “พ่อจะมาเอาแต่ใจเหมือนอยู่บ้านตัวเองไม่ได้ เราโตกันแล้ว เราอยู่กันเองได้ตั้งนานโดยที่ไม่ต้องขอความช่วยเหลือกับพ่อ อย่ายุ่งกับเอม อย่ายุ่งกับแทน ไปอยู่กับเมียกับลูกของตัวเองโน่น...”

“แกคิดว่าไอ้อาจารย์นั่นจะอยู่เลี้ยงแกกับน้องไปได้นานเท่าไร แกจริงจังกับมันขนาดไหน!”

บิดาลุกขึ้นมาจ้องหน้าเขาเขม็ง นิ้วมือจิ้มลงบนอกมาวินให้ฉุกคิดถึงความจริงได้ ชายหนุ่มชะงัก ฟังบิดากล่าวต่ออีกว่า “ฉันเป็นพ่อของเอม ฉันสามารถดูแลเอมได้ตลอดเวลา แกคิดว่าแกเดินทางไหนอยู่น่ะหาไอ้วิน คิดว่าการเกาะคนอื่นกินอยู่มันมั่นคงสำหรับแกแล้วหรือไง ทั้งแก ทั้งไอ้อาจารย์นั่นจริงจังต่อกันแค่ไหน! แกตอบฉันมาซิว่าแกมั่นใจในตัวมัน พรุ่งนี้ มะรืนนี้มันจะไม่เบื่อแก มันจะไม่เจอคนที่ดีกว่าแก มันจะไม่ทิ้งแกไปใช่ไหม!”

“ผมมั่นใจ!”

ชายหนุ่มตะเบ็งเต็มเสียงสู้ เมื่อคืนแทนคุณอธิบายให้มาวินเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าภายในเบื้องลึกนั้น แทนคุณเป็นคนอย่างไร ชายหนุ่มเชื่อมั่นว่าแทนคุณไม่ใช่คนรักง่ายหน่ายเร็วถึงเพียงนั้น หมอนั่นมีเหตุผลมากพอที่จะไม่ทำอย่างที่คุณเกรียงไกรพูด

“พ่อไม่ควรถามผมด้วยคำถามแบบนี้ ทั้งที่ตัวเองยังไม่แน่นอน ไม่เคยรักใครได้จริงสักที ทั้งกับแม่ กับน้าอร แม้แต่กับเอม ผมไม่เชื่อว่าพ่อจะดูแลน้องได้ พ่อมีเงิน มีทุกอย่าง แต่สิ่งเดียวที่พ่อไม่มีคือความรับผิดชอบ!”

อีกฝ่ายทำราวกับอึ้งที่มาวินตอบกลับในเช่นนั้น ทุกอย่างที่มาวินพูดตอกอกบิดาจนพูดไม่ออก อึ้งอยู่หลายนาที

“แกจริงจังกับมันงั้นหรือ...”

ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมใบหน้า ระงับอารมณ์ตนเองอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่ต้องยุ่งเรื่องของเรา กลับไปซะพ่อ...”

มาวินไม่ได้ตอบสิ่งที่บิดาตั้งใจถาม เป็นทิฐิที่ยังฉายเด่นอยู่เต็มใบหน้า ก่อนจะละเดินหนีขึ้นไปด้านบนไม่ยอมพูดคุยกับเขาต่อ คุณเกรียงไกรยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตนเองก่อนจะทรุดลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยหน่าย ภาพสีหน้าของมาวินยามเอ่ยตอบโต้กลับมายังฉายเด่นอยู่เต็มโสต ว่าเด็กคนนั้นจริงจังเพียงไหน คิดเห็นอย่างไรกับเขามาตลอดสี่ห้าปีที่ผ่าน

ขณะที่ก่อนหน้านั้น เขาเองก็ได้คุยกับแทนคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ก่อนที่อาจารย์นั่นจะออกจากบ้านไป แววตาของแทนคุณดูเหมือนคนเฉยชา ไม่รู้สึกถึงความรักต่อมาวิน หากแค่ว่าคำพูดที่ตอบกลับมาสามารถอธิบายได้ทุกอย่าง

“ถ้าไม่ได้รักมันจริงก็ออกจากชีวิตมันไปซะ”

ร่างสูงใหญ่ที่ยังยืนอยู่หน้าประตู กำลังสวมรองเท้าหันมาสบมองอยู่ช่วงนาทีหนึ่ง “ผมไม่รู้ว่าคุณคิดว่าผมเป็นคนแบบไหนหรอกนะครับ แต่ผมกับมาวินเราเริ่มต้นจากอะไรที่ลึกซึ้งเกินกว่าจะจบลงไปง่าย ๆ เพียงแค่คำสั่งของใครที่ไม่มีอิทธิพลต่อมาวินเลย ผมทำตามคำขอของคุณไม่ได้หรอกครับ พ่อ...”

ถึงจะสวนมาได้แสบสันต์ แต่ยังมีหน้ามาเรียกเขาว่าพ่อ ไอ้อาจารย์หน้าจืดคนนี้ภายนอกดูเหมือนจะไม่ค่อยสู้คน สงบเสงี่ยมเจียมตัว แต่แท้จริงแล้วกวนบาทาคนอื่นเก่งใช่ย่อย “แกมันก็ไม่ต่างจากคนอื่นหรอก ชอบงั้นหรือที่ไอ้วินมันเอาแต่ตักตวงผลประโยชน์ไป ที่ฉันบอกก็เพราะหวังดีนะรู้ไหม ไม่อยากเห็นแกถูกถีบหัวส่งเวลาไม่มีอะไรให้มันแล้ว แล้วทีนี้จะมาร้องไห้ขี้มูกโป่งทีหลังไม่ได้นะ”

“ขอบคุณที่หวังดีครับพ่อ แต่ผมยินดีจะให้เขา แล้วก็พร้อมที่จะรับในสิ่งที่เขาให้ผมด้วย ผมรู้ว่าคุณห่วงเขามากจนกลัวว่าเขาจะเจอคนไม่ดี เขาอาจเจออันตรายถ้าทำแบบนี้ต่อไป แต่มาวินโตแล้วครับ เขารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่...บางทีคุณคงไม่รู้ เขาทำให้ใครก็ได้ยอมสยบเขาอย่างง่าย ๆ ถึงแม้จะร้ายขนาดไหนก็ตาม ผมเองก็คือหนึ่งในนั้น...”

คุณเกรียงไกรพูดไม่ออก

รู้เพียงว่ามาวินเกลียดเขา...

บิดาผู้ทอดทิ้งลูก ไม่เคยแยแส สนใจแต่จะหาผู้หญิงใหม่เข้าบ้านเพื่อทดแทนภรรยาคนแรกอยู่เสมอแม้ลูก ๆ จะไม่ยินยอม เขาผิดส่วนหนึ่งที่ถือทิฐิ เอาแต่ใจ ไม่ยอมรับความจริงอะไรทั้งสิ้น ผู้หญิงทุกคนที่ก้าวเข้ามาในชีวิตล้วนแต่ต้องการเงินกันทั้งนั้น เหมือนที่มาวินกำลังทำกับผู้อื่นอยู่

มาวินไม่ผิดที่จะทำเช่นนี้ สมควรแล้วที่จะถูกลูกสาวและลูกชายเกลียด ซึ่งกำลังจะมีคนเกลียดเขาเพิ่มอีกหนึ่งคน คุณเกรียงไกรย่างเท้ามาหยุดอยู่หน้าห้องของลูกชายคนโต ยกมือขึ้นเคาะฝ่าความเงียบเชียบตึงเครียดของคนด้านใน

“แกพูดถูก วิน...”

ชายวัยกลางคนเอ่ยฝ่าความเงียบ มาวินไม่ได้เปิดประตู มันคงดีกว่าที่จะอยู่ในนั้นและไม่มาเห็นเขาในสภาพนี้ “ฉันไม่มีความรับผิดชอบอะไรเลย พอฉันเลิกกับเพ็ญปุ๊บก็คิดได้ว่าตัวเองไม่มีใครเลย ฉันไม่เคยคิดจะดูแลลูก โยนความรับผิดชอบไปให้คนอื่น มองรอบตัวอีกทีก็ไม่เหลือใครสักคน ลูกฉันต่างก็เกลียดฉัน ไม่อยากอยู่กับฉัน...”

มือเหี่ยวย่นละลงแนบลำตัว หลงเหลือเพียงแค่ความเงียบของทั้งคู่ “ฉันผิดเองที่ทิ้งแกกับน้อง ฉันเพียงแค่หวังว่าพวกแกจะไม่มีปมด้อย ฉันพยายามหาแม่ที่ดีให้กับแกจนลืมที่จะทำดีกับลูกตัวเอง ทุกอย่างมันเกิดจากตัวฉันเอง ฉันมันหน้าด้านที่อยากให้ตัวเองดูสำคัญในสายตาลูก ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่อลูกเลย…”

ผิดแล้ว...ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งสิ้น

มาวินรู้สึกมาโดยตลอดว่าที่คุณเกรียงไกรพยายามทำคือผลักดันให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ต่อว่า สอนสั่งให้เขาฉุกคิดได้เสมอ แต่เพราะไม่สามารถไปยืนจุดที่ท่านต้องการได้สักที มัวแต่เอ้อระเหย เที่ยวเล่น ทำให้มาวินไม่อาจสู้หน้าท่านได้หากยังไม่ได้เรื่องเช่นนี้ต่อไป

นั่นคือประโยคสุดท้ายก่อนที่คุณเกรียงไกรจะกลับกาญจนบุรีไป มาวินร้องไห้ ครุ่นคิดว่าต้องมีสักวันที่ตนเองจะกล้ากลับไปหาท่านที่นั่น ไม่ต้องให้คุณเกรียงไกรบากหน้ามาหาพวกเขาถึงที่นี่...

ท่านคงกำลังคิดถึง อุตส่าห์พับเก็บทิฐิมาหาเองถึงที่ ทว่ามาวินกลับพูดและกระทำเช่นนี้

 

ตกค่ำ เลิกงานแล้วแทนคุณหอบผ้าหอบผ่อนมาหาเขา แม้นมาวินไม่ยินยอมที่จะให้อยู่ด้วยเพราะเกรงใจเอมมิกา แทนคุณยังดื้อดึงอยากนอนค้างกับมาวิน อยู่ต่ออีกหลายวันโดยไม่สนคำต่อว่า ให้เหตุผลว่าชวนมาวินย้ายไปอยู่ด้วยแล้วแต่เขาไม่ยอมไปเอง ชายหนุ่มจำต้องละความพยายาม แม้จะกังวลเกี่ยวกับน้องสาวตนเองเท่าใดก็ตาม เอมมิกามิได้แสดงถึงความลำบากใจที่จะอยู่ร่วมบ้านกับแทนคุณเลยแม้แต่นิด

มาวินรู้ว่าต้องทำอะไรสักอย่าง แทนคุณบริสุทธิ์ใจและเป็นผู้ใหญ่กว่าเขามาก “เอมมิกายังไม่ถึงบ้านหรือ”

มาวินชะงัก คงเพราะกำลังง่วนอยู่ในครัวจนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของผู้มาเยือน ชายหนุ่มเชยตาขึ้นสบ เมื่อความอุ่นร้อนแผ่ซ่านทั่วแผ่นหลัง และลมหายใจของคนถามยังวนเวียน เทียวรดบนใบหูของเขาอยู่เนือง ๆ ขณะสวมกอดจากด้านหลัง พักนี้แทนคุณทำตัวน่ารักขึ้นทุกวัน “โทรมาบอกว่าจะเรียนพิเศษ ตอนนี้ไปหาโรงเรียนกับเพื่อนอยู่น่ะ”

“ฟังดูเข้าท่าดี”

“นี่จะไม่กลับบ้านของตัวเองหรือไง” ชายหนุ่มเงยขึ้นสบตาคนด้านหลัง

“ถ้าไปจะมายืนอยู่ตรงนี้หรือ แล้วดูทำหน้าเข้าซีมาวิน นี่ไม่อยากดูแลผมขนาดนั้นเลยหรือไง ถือเสียว่าเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวหลงทางไว้สักตัวก็ได้ หืม...”

“ฉันจะไปคิดแบบนั้นได้ยังไงกันเล่า”

มาวินร้องสวน หมาแมวที่ไหนจะเทียวแต่คิดอกกุศลกับเจ้านายอยู่ได้ทุกวี่วันเช่นนี้ หมาแมวที่ไหนจะเถียงได้ทุกคำเช่นนี้ ขนมาวินลุกซู่เมื่อริมฝีปากหนางับลงมาที่ใบหูต้องการกระเซ้าเย้าแหย่ ไหนจะมือปลาหมึกเคลื่อนหนุบหนับจับตรงโน้นทีตรงนี้ทีอีกเล่า

“นาย...มีปัญหาอะไรกับที่บ้านหรือเปล่า” นิ้วมือเรียวยาวเกาะกุมมือหนาของอีกฝ่ายไว้แน่น หันไปสอบถามด้วยความใคร่รู้ความจริง “มันแปลกนะรู้ไหม ฉันรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะถามหรืออยากรู้เกี่ยวกับตัวนายทั้งนั้น ทั้งเรื่องที่นายถูกสอบสวน ทั้งเรื่องนี้ แต่ฉันก็ยังอยากรู้อยู่ดี” ชายหนุ่มก้มหน้าลงหลังพูดจบ เขาเป็นคนหน้าด้านในสายตาแทนคุณ เป็นฝ่ายเดียวพยายามจะผูกมัด

“อยากรู้ทำไม เป็นห่วงงั้นหรือ”

“ปละ เปล่า...ฉันรู้ว่าตัวเองอยู่ในฐานะไหนดี ไม่ต้องถามฉันหรอกว่า...” มาวินชะงัก ไม่เข้าใจเมื่ออีกฝ่ายเคลื่อนใบหน้าเข้ามาแนบจูบ ปรามมิให้พ่นคำพูดไหนได้ต่อ แทนคุณอาจกำลังโกรธที่เขากำลังละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเกินไป

“คุณมีสิทธิ์ในตัวผมทุกอย่างมาวิน ผมจะขอบคุณมากถ้าคุณไม่คิดแบบนี้อีก หัดเข้าข้างตัวเองเสียบ้าง”

ชายหนุ่มเชยตาขึ้นสบ ระบายยิ้มยามนิ้วหัวแม่มือชายตรงหน้าไล้สัมผัสริมฝีปากของเขาอย่างอ่อนแผ่วขณะโน้มลงมาสบตา ตั้งแต่คืนนั้น แทนคุณเพิ่มดีกรีความดีและน่ารักมากขึ้นไปทุกที นี่ทำให้มาวินใจหวิว มันรู้สึกแปลกและดีไปพร้อมกัน

“นายคิดยังไงกับฉันก็บอกมาสิ สำหรับนายฉันเป็นอะไร ของเล่นงั้นหรือ”

คนฟังสั่นศีรษะ “ไม่ใช่ คุณสำคัญกว่านั้นมากทีเดียว” ใจมาวินระทึก เพิ่งจะถูกแทนคุณหยอดคำหวานจริง ๆ ก็วันนี้

“เพราะนายยังไม่เจอคนอื่นไงแทน แน่นอนว่าถ้าเขาไม่ใช่ฉันมันจะดีกว่า”

“ไม่ยักรู้ว่าคุณชอบมองตัวเองในแง่ร้ายขนาดนั้น จริงอยู่ที่ผมตกลงกับคุณว่าเราเป็นได้แค่ไหน แต่ผมสัมผัสได้ว่าคุณไม่เคยใส่หน้ากากเข้าหาผมเวลาอยู่ด้วยกัน ผมเองก็ไม่ต้องทนฝืนต่อหน้าคุณ นั่นทำให้ผมรู้สึกดีจริง ๆ นะมาวิน”

คนฟังเชยตาขึ้นสบ แทนคุณพูดกับเขาเช่นนี้ ทำราวกับว่ากำลังจะสารภาพรักเสียอย่างนั้น “ที่ผ่านมาคุณอาจจะจำเป็นต้องทำแบบนี้ แต่ตอนนี้ผมอยากให้คุณรู้สึกว่าตัวเองก็ไม่ได้ฝืนอยู่กับผมเหมือนกัน”

ถึงจะเป็นคำพูดที่มีความหมายดีเพียงไหน หากทว่ายังเสียดแทงดวงใจของผู้ฟังให้เจ็บหนึบเสียจนพูดไม่ออก ชายหนุ่มทราบดีว่าเพราะเหตุใดแทนคุณจึงเลือกทำเช่นนี้ เพราะเห็นว่าเขาเป็นสิ่งเดียวที่หลงเหลือในชีวิต เพราะเห็นว่าเป็นความหวัง แต่แทนคุณไม่ใช่เกย์ แทนคุณจะพูดและทำแบบนี้กับเขาไม่ได้

“ฉันไม่ได้ถามจริงจังอะไรนักหรอก ยังไงซะนายก็ยังต้องมีแฟน ต้องแต่งงานอย่างที่ควรจะเป็น ตอนนี้นายแค่กำลังสับสนเพราะฉันอดทนกับนายได้แค่นั้นเอง อย่าด่วนตัดสินใจอะไรเลย”

มาวินคลี่ยิ้มหลังกล่าวจบ หันไปสนใจสิ่งที่ยังทำไว้ไม่เสร็จแก้ขัด อีกเพราะไม่อาจฝืนเก็บกลั้นความดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกันของตนเองได้ เขาดีใจที่แทนคุณคิดต่อเขาเช่นนี้ และนึกเสียใจกับอะไรหลายอย่างที่แทนคุณ ‘ควรจะ’ เป็น

“อย่ามาวางแผนชีวิตให้ผมนะ ผมคิดอะไรเองได้ว่าตัวเองควรทำแบบไหน”

ก็ถูกของแทนคุณ ชายหนุ่มหันกลับไปสบตาชายตรงหน้า “แต่นายไม่ได้เป็นเกย์ นายแค่ไม่มีทางเลือก”

“หนแรกน่ะใช่ ฟังนะ แต่คราวหลังเป็นเพราะผมตัดสินใจเอง คุณคิดว่าผมไม่คิดมากหรือที่หนีคุณออกมาวันนั้น และถูกคุณทิ้งไว้คนเดียวอย่างนั้นหนที่สอง เราไม่มีโอกาสพูดคุยกันเรื่องนี้สักทีเพราะต่างฝ่ายต่างตัดสินกันไปก่อนหน้านี้แล้ว และเพราะผมมองเห็นคุณในแง่ใหม่ทำให้ผมเปลี่ยนใจได้ คุณล่ะ มองผมใหม่หรือยัง หรือเห็นผมเป็นแบบเดิม” แทนคุณกุมบ่าเขากล่าว น้ำเสียงยังปกติเช่นเดิม ไม่มีแววขุ่นเคืองใจใดใดเผยให้มาวินเห็น

“ฉัน...” ชายหนุ่มพูดไม่ออก เพราะหลายอารมณ์สุมอกทำให้ไม่อาจตอบได้ในตอนนั้น

หากเสียงฝีเท้าของผู้มาใหม่ได้เรียกความสนใจของทั้งคู่ หลุดออกจากความสับสนทั้งหมดให้หันไปมองหน้าประตูบ้าน เป็นเอมมิกาที่เร่งย่ำก้าวเข้ามาไม่พูดไม่จา มาสะดุดกึกระหว่างคนทั้งคู่อยู่หน้าประตูครัวด้วยแววตกใจ ประสมกับดวงตาแดงก่ำของเธอนั้นมาวินไม่สามารถเดาได้ว่าน้องสาวอยู่ในอารมณ์ไหน อาจร้องไห้ หรือเพราะร้อนแดด หรือไม่สบาย ชายหนุ่มจะเอ่ยทักทายก็ไม่ทัน เธอผละเดินหนีขึ้นไปชั้นบนอย่างผิดสังเกต

เอมมิกาเป็นอะไร มาวินไม่ทันได้คิด ชายหนุ่มรีบสาวเท้าตามเธอขึ้นไปชั้นบนด้วยความไม่เข้าใจ หรือน้องสาวถูกใครแกล้งมาอีก คิดได้แล้วนั้น มือหนายกขึ้นเคาะประตูที่ปิดสนิทด้วยอยากจะไขข้อข้องใจของตนเอง

“เอม...เป็นอะไร มีอะไรจะบอกพี่หรือเปล่า”

ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมขมับ เพราะเธอไม่สามารถมีอย่างคนอื่นเขาจึงพยายามหาให้ เพราะเธอไม่มีใครทดแทนความอบอุ่นมาวินจึงพยายามมอบความรักความเข้าใจให้ เพราะอย่างนั้นแล้ว เพียงแค่มองแววตาเอมมิกา มาวินก็เห็นอะไรหลายอย่างในนั้น เขาไม่เชื่อว่าในดวงตากลมคู่เมื่อครู่จะไม่มีอะไรอย่างที่เธอพยายามแสร้งทำ

“เอม บอกพี่ได้หมดเลยนะ”

เสียงของมาวินเป็นห่วงเป็นใยเธอนัก

เด็กสาวกลั้นเสียงสะอื้น เพราะนั่นยิ่งตอกย้ำให้เธอเจ็บปวดและรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้นไปอีกที่พี่ชายพยายามเพื่อเธอมาโดยตลอด ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงไหน มาวินไม่เคยเหนื่อยให้เธอเห็น ไม่เคยทุกข์ใจให้เธอเห็นสักครั้ง ยอมทำทุกอย่างเพื่อน้องสาวผู้เห็นแก่ตัวอย่างเธอโดยไมเคยมีข้อแม้ แม้จะต้องยอมแลกด้วยศักดิ์ศรีของตนเองก็ตาม

“ที่พี่วินเขาทำแบบนี้ก็เพื่อเอมนะ พี่แค่ให้เขาได้ไม่มากพอ เราเลยจบกัน”

เอกณรงค์ระบายยิ้มเล็กน้อยตอนเล่า ขณะเคลื่อนมือวางลงบนศีรษะของเธอแววเอ็นดูอย่างเคย พร้อมกับความจริงตลอดห้าปีที่ผ่านมาได้เปิดออก ให้เด็กสาวนึกโกรธตนเองที่เลือกทางเดินเห็นแก่ตัวเช่นนี้

“ที่เอมเห็น พี่เอกก็รักพี่วินดีนี่คะ”

“เอม พี่ชายเอมไม่เลือกความรักหรอก ถึงแม้ตัวเองจะรู้สึกแบบไหน แต่เอมเป็นที่หนึ่งเสมอ”

เพราะเธอ ทำให้มาวินต้องละทิ้งชีวิตสนุกสนานของตนเอง เพราะเธอ ทำให้มาวินต้องกลายเป็นคนสกปรกในสายตาคนอื่น เพราะเธอ ทำให้พี่ชายผู้เป็นฮีโร่ต้องทำลายศักดิ์ศรีของตนเองแลกกับเงิน เพราะเธอ ทำให้พี่ชายไม่สามารถรักใครที่ตนเองรักได้ เพราะเธอ ทุกอย่างจึงเลวร้ายลงเช่นนี้!

“พี่วิน เอมขอโทษ...”

เด็กสาวทำได้เพียงเท่านี้...ทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้จริง ๆ





---------------------------------------------

กลับมาอัพต่อแล้วจ้า

ตอนนี้เรื่องราวกำลังเริ่มมาถึงจุดพีคของเรื่องแล้ว

จะมาอัพให้อ่านกันแบบนันสต๊อบ ทุกเย็น จนจบ

จะมีตอนพิเศษตามมาด้วย ต้องรอตามเอานะคะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
เนื้อหาชวนประทับใจ แต่งได้ดีมากเลย ชอบมากๆค่ะ แต่ความสัมพันธ์สองคนนี้เปลี่ยนไวมากเลย ตามไม่ทัน 55 เหนือสิ่งอื่นใด อัพไวมาก ชอบบบ

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
เนื้อหาชวนประทับใจ แต่งได้ดีมากเลย ชอบมากๆค่ะ แต่ความสัมพันธ์สองคนนี้เปลี่ยนไวมากเลย ตามไม่ทัน 55 เหนือสิ่งอื่นใด อัพไวมาก ชอบบบ
ความสัมพันธ์ของคนเราระหว่างเปลี่ยนไวแต่คลุมเครือ กับ เปลี่ยนช้าแต่ชัดเจน ไม่ว่าจะแบบไหนต่างไม่แน่นอน ที่จริง มันก็ไม่ไวนะคะ เพราะดูในแง่ของตัวละครและเวลาก็ใช้ประมาณหนึ่งเลย จนมาถึงตอนที่ 11 แล้ว แน่นอนว่าเพราะความสัมพันธ์ดูคลุมเครือเลยทำให้นิยายดูน่าลุ้นด้วย ใช่มั้ยเอ่ย

ออฟไลน์ waza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เนื้อเรื่องสนุกดีนะค่ะ แต่ภาษางงไปนี้ดนึง อ่านแล้วมันจะสะดุด ไม่ต้องเปรียบเปรยเยอะก็ได้ค่ะ มันจะกลายเป็นนิยายน้ำไม่มีเนื้อ คือเราติเพื่อก่อเนอะ อย่าเคืองกันเลย ยังไงก็เพิ่งเข้ามาอ่าน แล้วก็ตามๆเรื่องนี้ยุ

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
เนื้อเรื่องสนุกดีนะค่ะ แต่ภาษางงไปนี้ดนึง อ่านแล้วมันจะสะดุด ไม่ต้องเปรียบเปรยเยอะก็ได้ค่ะ มันจะกลายเป็นนิยายน้ำไม่มีเนื้อ คือเราติเพื่อก่อเนอะ อย่าเคืองกันเลย ยังไงก็เพิ่งเข้ามาอ่าน แล้วก็ตามๆเรื่องนี้ยุ
โอ้ ขอบคุณมากเลยค่าาา นี่ก็ตัดไปตั้งเยอะแล้ว แฮะๆ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa


ตอนที่ ๑๒

เอมมิกาบังเอิญพบกับเอกณรงค์ระหว่างเดินเล่นอยู่ในห้างกับเพื่อน คงเพราะไม่ได้พบกันนานจึงพูดคุยทักทาย เธอถามสารทุกข์สุกดิบเขาอย่างที่ควรจะเป็น หลังจากนั้น เอกณรงค์ก็ถามถึงมาวินและฝากขอโทษในสิ่งที่พลาดทำลงไป แววตาของพี่ชายตรงหน้าสารภาพว่ามิได้โกหกยามกล่าว เขารู้ด้วยซ้ำว่ามาวินมีคนรักใหม่แล้ว เอมมิกาไม่เข้าใจระหว่างทั้งคู่จึงได้ถามว่าเหตุใดทุกอย่างจึงเกิดขึ้น และได้รับรู้ความจริง

เธอมีสิทธิ์ที่จะไม่เชื่อเขา หากความเป็นจริงที่เคยสงสัยเมื่อก่อนก็ตอบได้เป็นอย่างดี มาวินไม่เคยทำงาน เอาแต่เที่ยวเตร่และไม่คิดขอเงินบิดา เด็กสาวเคยคิดอยู่แต่ก็ไม่เคยถาม คงเพราะความเห็นแก่ตัวทำให้เธอมองผ่านมันไป เพราะตราบใดที่มาวินยังสนองความต้องการของเธอได้ก็ไม่มีปัญหา

เธอรู้ว่าเอกณรงค์ขี้หึงขี้หวง แต่ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะแย่ขนาดนี้ เป็นได้เพียงแค่คู่ขาเพื่อแลกเงินเท่านั้น กับแทนคุณก็ด้วย...เพราะเขาตอบแทนได้เยอะกว่าจึงต้องคบกัน...เพราะมาวินจะสามารถนำมาให้เธอได้เยอะกว่า

เด็กสาวลุกขึ้นจากเตียงนอน ไม่จำเป็นต้องเก็บเงียบอีกต่อไปแล้ว เธอเดินไปเปิดประตูซึ่งมีผู้ชายคนเดียวกำลังเป็นห่วงยืนรออยู่ ครั้นเห็น มาวินรีบยกมือจับประตูมิให้ปิด คว้าหมับดึงร่างเธอไปกอดราวกับกลัวว่าน้องสาวจะนึกเปลี่ยนใจไม่เดินมาหา กระซาบอยู่ข้างหูว่า “อย่าทำแบบนี้นะเอม อย่าทำให้พี่ห่วงมากกว่านี้ สัญญากับพี่เดี๋ยวนี้เลย”

“สัญญา...” เธอเอ่ยตอบทั้งสะอื้นไห้ กอดเขาแน่น “แล้วก็ขอโทษด้วย ที่ทำให้พี่ลำบากมาตลอด ที่เอาแต่ใจอยากได้นั่นอยากได้นี่สารพัดอย่าง ไม่สนเลยว่าพี่วินจะเหนื่อยหรือเปล่า”

“ไม่เป็นไรเลยนะ พี่โอเค”

“จะเลิกได้ไหม พี่วินเลิกทำแบบนี้ได้ไหมคะ”

ชายหนุ่มผู้มอบกอดชะงัก ก้มลงมองแววตาของน้องสาวด้วยความหวั่นเกรง เกรงว่าสิ่งที่กำลังต้องการปกปิดจะเผยขึ้น แน่นอนว่าเขาเจ็บปวดหากเอมมิกาจะผิดหวังในตัวพี่ชาย แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เธอมองเขาอย่างเว้าวอน ไม่มีสีหน้าโกรธขึ้งใดใดทั้งสิ้น ได้แต่หวังว่าที่เอมมิกาถามนั้น อาจจะเป็นเรื่องอื่น

“เลิก เลิกทำอะไร พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา”

ชายหนุ่มระบายยิ้ม ปรับสีหน้าระแวงระวัง ใจที่ว่าดีกระตุกไหวเมื่อเห็นน้องสาวร้องไห้ทั้งส่ายหน้า ราวกับไม่อยากยอมรับในสิ่งที่เขากระทำ

“ไม่ เอมรู้หมดทุกอย่างแล้ว ที่พี่วินคบกับอาจารย์ไม่ใช่เพราะรักกัน เพราะเอม เพราะเอมพี่วินถึง...”

“เอม...”

ชายหนุ่มใจหาย ดึงเธอเข้ามากอดด้วยสรรหาคำไหนมาแก้ตัวให้ตัวเองไม่ออก เขากลัวน้องสาวเกลียดที่ทำตัวย่ำแย่ กลัวทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่เพราะความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ เป็นความจริงที่ยังทิ่มแทงใจเขา ไม่ว่าจะระหว่างมาวินกับพ่อ หรือมาวินกับน้องสาว เขาก็ไม่กล้าสู้หน้าใครสักคนได้เพราะการกระทำสิ้นคิดของตัวเอง

อีกทั้ง ภาพใบหน้าของแทนคุณยังปรากฏต่อเขา ยามอีกฝ่ายกุมมือ สารภาพกับเขาว่าไม่มีใคร เพราะการเลือกกระทำผิดของตนเองทำให้ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

“เลิกทำได้ไหมคะ เอมจะกลับไปอยู่กับพ่อ พ่อแยกกันอยู่กับเมียใหม่ได้ปีแล้ว แล้วก็สัญญากับเอมด้วยว่าจะไม่หาใครมาใหม่ด้วย พี่วินจะได้ไม่ต้องเหนื่อยไง ถ้าต้องคบกับอาจารย์เพราะเงินพี่วินก็เลิกเถอะนะคะ เอมไม่อยากให้พี่วินฝืนทำเพื่อเอมอีกแล้ว จริง ๆ แล้วเอมไม่แน่ใจด้วยซ้ำนะ ว่าพี่วินเป็นเกย์จริงหรือเพราะไม่มีทางเลือกกันแน่ ถ้าเป็นอย่างนั้นเอมยิ่งรู้สึกผิด ได้โปรดหยุดเถอะนะคะ...”

มาวินเคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้มาก็หลายครั้ง ในช่วงเวลาที่สับสนเขาไม่เคยครุ่นคิดนานมาก่อนเช่นนี้ ทั้งที่ทุกอย่างควรดำเนินไปตามครรลองครองธรรมอย่างที่ควรจะเป็น หากแต่ใจของเขากลับปวดหนึบ เมื่อนึกถึงแววตาของใครสักคนในกลางดึกยามสบมอง อ้อนวอนขอความรัก ใจที่ว่าดีก็หวิวโหวงขึ้นมาอย่างช่วยมิได้

“ไม่ได้หรอกเอม แทนเขาต้องการพี่”

เด็กสาวชะงัก นิ่งไปเมื่อเห็นสีหน้าของพี่ชาย “พี่วิน ตลอดเวลาที่พี่คบกับพี่เอก เคยรักเขาไหมคะ”

“ไม่...” ชายหนุ่มตอบ มองแววตาของน้องสาวก่อนจะยิ้ม ยิ้มแบบผู้มองไม่อาจเดาอะไรได้เลย “ไม่กล้ารักน่ะ”

เพราะกลัว กลัวความรักจะผูกมัด

ความรักจะทำให้มาวินหยุดทะเยอทะยาน หยุดเก็บเกี่ยวตักตวง หยุดเห็นแก่ตัว จึงไม่กล้ารัก

“อะไรกัน”

น้องสาวดูเหมือนจะแปลกใจ

พอมาคิดอีกที ตอนนี้มาวินกลับลดความทะเยอทะยานลงไป หยุดที่จะพยายามหาผลประโยชน์ให้แก่ตัวเอง และคิดถึงแต่คนอื่น ตอนนี้ บางทีหัวใจของเขาอาจกำลังมีรักเติบโตขึ้นอย่างเชื่องช้าและแนบเนียนก็เป็นได้ เขาไม่รู้ตัว พอตั้งสติได้ ความคิดของมาวินก็เต็มตื้นไปด้วยใบหน้าเขาคนนั้นอย่างไม่สามารถปัดทิ้งออกไปได้โดยง่าย ชายหนุ่มกลืนน้ำลายครุ่นคิด เฝ้าบอกให้ตัวเองหยุดความรู้สึกก่อนที่จะสาย

ความรักมันน่ากลัวเกินไปสำหรับเขา

 

มาวินไม่คิดห้ามกับการตัดสินใจของเอมมิกาเพื่อเขา อย่างน้อยระหว่างเขากับบิดาก็พอจะเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น ท่านไม่ถือทิฐิและดูเหมือนต้องการดูแลเอมมิกาจริงอย่างที่พูด ชายหนุ่มเป็นฝ่ายโทรหาบิดาเอง อธิบายความจริงทั้งหมดให้ท่านฟังพร้อมกับแทนคุณซึ่งนั่งอยู่เคียงข้าง ราวกับต้องการเป็นกองกำลังใจให้มาวินกล้าหาญมากขึ้น

คุณเกรียงไกรจะกลับมาอีกครั้งอาทิตย์หน้า จะมารับหลังจากเอมมิกาทำเรื่องย้ายแล้วเสร็จ มาวินรู้สึกโล่งใจที่ท่านไม่ได้มีข้อกังขาหรือคำถามมากมายนัก เมื่อรู้ว่าเอมมิกาทราบความจริงและไม่อยากให้พี่ชายต้องลำบากเพื่อเธออีก นั่นอาจเพราะคุณเกรียงไกรก็เห็นด้วยกับลูกสาวกระมัง

เพราะอยากให้มาวินหยุดทำเช่นนี้ จึงเอาแต่ดุด่าว่ากล่าวให้มาวินคิดได้

หลังคุยธุระจบ มาวินหมุนกายจะเดินไปที่ไหนสักแห่งเพื่อครุ่นคิดอะไรบางอย่างซึ่งยังไม่สามารถตัดสินใจเด็ดขาดได้สักที หากแต่มือของคนด้านหลังฉุดให้ชายหนุ่มผละจากความคิด หันไปมอง เห็นเป็นแทนคุณซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาเงยขึ้นสบตา “คุณจะหยุดไหมถ้าเอมมิกาไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว เขาทำแบบนี้เพื่อให้คุณหยุดไม่ใช่หรือ”

ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไม่ต้องกังวลหรอก ไม่มีเอมแล้วแต่ฉันยังต้องกินต้องใช้ แค่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเท่าเมื่อก่อน เพราะอย่างนั้นฉันไม่จำเป็นห้องหาใครใหม่ จะรอจนกว่านายจะเป็นฝ่ายเบื่อแล้วก็ทิ้งฉันไปก่อน”

“อย่าพูดแบบนั้น คุณจะไปจากผมเมื่อไรก็ได้ ผมไม่บังคับ...”

ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ดูดีและราบรื่นเกินไปจนใจหาย มาวินนิ่ง มือไม้วางไม่ถูกตำแหน่งเมื่อร่างถูกดึงกลับเข้าไปสวมกอดจากคนด้านล่าง เนิ่นนานเท่าไรมิทราบที่แทนคุณซุกใบหน้าแนบกับหน้าท้องของเขาอยู่เช่นนั้น คงนานพอ พอที่มาวินจะสามารถสั่งให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ได้ทัน ก่อนที่มือหนาจะเคลื่อนมากุมเขาไว้แนบแน่นในความเงียบเชียบของคนทั้งคู่นั้น

“ไม่จริงเลย...” คนกล่าวกระซาบผ่านความเงียบขณะยังกอดเอวมาวินไว้เช่นนั้น พร้อมนิ้วมือของเขาซึ่งวางลงบนเส้นผมของอีกฝ่ายอย่างหาที่ลงมิได้ เพราะตกใจ และสับสนเกินไป

“ผมโกหก ที่จริงผมอยากผูกมัดคุณ ไม่อยากให้คุณเดินออกไปจากชีวิตผมแม้แต่ก้าวเดียว บังคับให้คุณมองแค่ผมคนเดียวเท่านั้น ทำดีกับผมแค่คนเดียวเท่านั้น แล้วมองผมด้วยสายตาแบบนี้แค่คนเดียวเท่านั้น มันเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวดีเหลือเกิน”

“แทน...”

มาวินใจหาย พยายามจะแกะมือของอีกฝ่ายออก หากคนกอดไม่ยินยอม

“อย่าทิ้งผม ขอร้อง อย่าทิ้งผม”

บางทีแทนคุณก็ทำตัวเหมือนลูกหมาข้างทางอย่างที่พูดไว้จริง ๆ เมื่อมีความหวังอยู่ตรงหน้าก็อยากจะพักพิงอาศัย อีกทั้งยังนึกระแวงอยู่และหวาดกลัวการอยู่คนเดียวอย่างเช่นเมื่อก่อน มันคงเหน็บหนาวและไม่น่าอยู่เท่าใดนัก

“นายยังคงสับสนอยู่นะแทน แต่ฉันสัญญาว่าจะอยู่กับนาย จนกว่านายจะไม่อยากอยู่กับฉันก็แล้วกัน เราจะได้ไม่ลำบากใจกันทั้งคู่ ถ้าวันหนึ่งนายเกิดฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าไม่ควรเสียเวลา นายจะไปเมื่อไรก็ได้”

“เลิกพูดแบบนี้สักทีได้ไหม มันฟังดูเหมือนผมแย่ที่รั้งคุณไว้ เรื่องของเอมมิกาทำให้คุณคิดอยากจะหยุดความสัมพันธ์กับผม ผมรู้...ใครกันจะทนอยู่กับคนโรคจิตอย่างผมได้ คุณอดทนมาโดยตลอด พอมีโอกาสแล้วเป็นใครก็อยากออกจากขุมนรกนี่สักที ผมรู้หรอก...”

 มาวินก้มลงมองหน้าคนกล่าวด้วยใจหวิวโหวง ใจหายกับคำตัดพ้อทำร้ายปมด้อยของตนเองที่แทนคุณกล่าว

“ฉันขอโทษ” เขาเคยทำร้ายแทนคุณด้วยคำพูดพวกนี้ เหตุใดวันนี้เป็นตัวเองเจ็บปวดแทนเสียได้

“ขอโทษทำไม คุณไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อยนี่”

มาวินโคลงศีรษะ “ขอโทษที่เคยคิดอย่างที่นายว่า เคยคิดหนี...”

ตลอดชีวิต มาวินตัดสินคนอื่นเพียงแง่เดียวมาโดยตลอด การพบเจอและได้รู้จักแทนคุณสามารถสอนสั่งอะไรเขาได้หลายอย่าง โดยเฉพาะความรู้สึกของคนอื่นที่ตนควรรำลึกถึงก่อนที่จะนึกถึงเพียงแค่ตัวเอง ชายหนุ่มระบายยิ้มเล็กน้อย กุมมือทั้งสองข้างบนใบหน้าเรียวยาวรูปหล่อนี้ด้วยความอ่อนแผ่ว

“นายไม่ใช่ไอ้โรคจิตสำหรับฉันอีกต่อไปแล้ว แทน”

แทนคุณเป็นคนเดียวที่สอนให้มาวินกล้ารัก กล้าก้าวผ่านความกลัวของตัวเองได้อย่างลืมตัว และสอนให้รู้สึกอิจฉา ภรรยาในอนาคตของแทนคุณคนนั้นช่างโชคดีอะไรเช่นนี้  เหตุใดโชคชะตาจึงใจร้ายเลือกแทนคุณ ทั้งที่ใครหลายคนก็ก้าวเข้ามาในชีวิตของเขาเช่นกัน อาจเป็นเพราะความรู้สึกของเขาที่สัมผัสได้กระมัง

“คุณทำดีแบบนี้กับทุกคนใช่ไหม” แทนคุณสบตา “ผมอยากรู้”

“ทำไม”

“ตอบมาเถอะ จากความรู้สึกจริง ๆ ของคุณ ผมจะได้ไม่ต้องเข้าข้างตัวเองอีก”

“ไม่ใช่หรอก...” มาวินส่ายหน้าขณะเอ่ย นี่ไม่ใช่คำตอบที่ชวนอึดอัดเท่าใดนัก “ฉันไม่ได้ทำดีแบบนี้กับใครที่ไหนนัก ออกจะเลวกับคนอื่นเสียด้วยซ้ำ”

“หมายความว่าคุณต้องการให้ผมรู้สึกกับคุณต่อไปอย่างนี้ใช่ไหม คุณมีสิทธิ์ตอบว่าตัวเองทำดีแบบนี้กับทุกคนที่เข้ามาในชีวิต มีสิทธิ์บอกให้ผมเลิกคิดเข้าข้างตัวเอง เลิกหลงตัวเองได้แล้ว แล้วทำไมไม่ทำ รู้ไหมนี่เป็นหนทางที่คุณสามารถสลัดผมทิ้งได้” มาวินเบิกตา เอวถูกกระตุกให้ทรุดกายลงนั่งบนตักชายตรงหน้าอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว อีกทั้งยังสับสนงุนงงกับประโยคเมื่อครู่

“อย่ามาทำเจ้าเล่ห์กับฉันนะ ไอ้นี่!”

“ไม่ให้ไป ผมไม่ให้คุณไปไหนทั้งนั้น”

“อย่ามาพูดอะไรเอาแต่ใจหน่อยเลย ปล่อยฉัน เดี๋ยวเอมมาเห็นเข้า” มาวินถอนใจ ยามเห็นแววเย้าแหย่อยู่ในสายตาคมที่สบมองตลอดเวลา

“คุณลองเอาแต่ใจกับผมบ้างซี มันก็ฟังดูไม่น่าเสียหายอะไร แค่พูดออกมาว่าอยากให้ผมทำอะไร ผมจะตามใจ”

“สิ่งที่ฉันอยากได้ นายให้ฉันไม่ได้หรอก”

“ไม่ลองขอแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าผมให้ไม่ได้ เลิกเสียเถิดน่า ไอ้นิสัยอะไรก็คิดเองเออเองอยู่คนเดียว” คนกล่าวยกมุมปากยิ้ม จะแซวก็ไม่ใช่ จะต่อว่าก็ไม่เชิง

“ก็เพราะว่าถ้าฉันคิดจะเห็นแก่ได้หรือเอาแต่ใจ คนอย่างฉันไม่คิดจะอยากได้อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แน่ นายไม่มีทางให้ฉันได้ถ้ารู้ว่าฉันต้องการอะไร”

“อะไรที่คุณอยากได้ที่สุด ตอนนี้”

แทนคุณยังไม่ถอยทัพ นั่นทำให้คนฟังจำต้องถอนใจ

“ทั้งหมดของนาย...”

คนกล่าวหลุบตาลงมองพื้นโซฟาอย่างช่วยไม่ได้ หากทว่าในระหว่างความเงียบของคนทั้งคู่นั้นไม่ได้อึดอัดอย่างที่มาวินเคยคิดไว้ล่วงหน้า อีกฝ่ายไม่ได้กล่าวอะไรในทันที มาวินไม่เข้าใจอะไรนักนอกเสียจากความสับสนงุนงงภายในสมองของตนเอง ชายหนุ่มตัดสินใจเงยขึ้น สบตาของแทนคุณด้วยใคร่ทราบความหมายของสถานการณ์นี้ นอกจะไม่มีแววตกใจ เคืองขุ่น หรือสิ่งอื่นใดที่มาวินเคยนึกกลัวแล้ว

บนใบหน้าคมคายของชายตรงหน้า กลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่เขามิเคยเห็นมาก่อน

รอยยิ้มที่ตรึงใจเขาจนสั่นไหว

“ใครกันแน่ที่กำลังสับสนน่ะ หืม...”

รอยยิ้มของแทนคุณขณะกล่าว ราวกับกำลังเอ็นดูเด็กน้อยเอาแต่ใจคนหนึ่ง มันดูน่ารักสำหรับคนมองนัก

“ฟังนะมาวิน สิ่งที่ผมทำ ผมตัดสินใจทำอย่างมีสติทุกครั้ง ในสมองของผมไม่เคยมีความลังเลหรือสับสนอะไรทั้งนั้น ผมใจจดใจจ่ออยู่ที่คุณเสมอ แค่นี้...เข้าใจผมมากขึ้นหรือยัง”

นั่นทำให้ใจของมาวินที่เคยคิดหวาดเกรงลอยเคว้ง ความลิงโลด ความเบาใจ เป็นสุข กำลังประสมอยู่ในเหวลึกอันเป็นก้นบึ้งของจิตใจ จากไม่เคยคิดว่าจะได้รับ มาวินรู้สึกมีความหวังไม่ต่างจากที่แทนคุณกำลังเป็นอยู่เท่าใดนัก

ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้งกำลังเดินอยู่ในทางมืดเปลี่ยวเพียงคนเดียว ได้พบเจ้านายที่รักมันจริง เข้าใจ พร้อมจะดูแลในวันที่สภาพมันย่ำแย่ ไม่น่าแลดูเพียงใดก็ตาม

 

เนิ่นนานมาแล้วที่มาวินเคยคิดว่าตนเองช่างไร้ค่า การใช้ชีวิตของเขามีความหมายหนึ่งเดียวคือเพื่อเอมมิกาเท่านั้น แต่ครั้นน้องสาวเลือกที่จะให้เขานึกถึงความรู้สึกของตนเองบ้าง ทำให้ชายหนุ่มสามารถมองโลกในแง่อื่นที่กว้างขวางขึ้น

เอมมิกาทำเรื่องย้ายที่เรียนเสร็จแล้ว พร้อมคุณเกรียงไกรที่เพิ่งมาถึงเมื่อเย็นวาน ถึงแม้จะดูขัดเขินกันไปบ้างหากทว่ามาวินก็มิได้ตั้งหน้าตั้งตาเอาแต่ใจเสียจนเกินไปอย่างเช่นเมื่อก่อน เช้าวันนี้มาวินลุกขึ้นมาตระเตรียมอาหารตั้งแต่ไก่โห่ คงเพราะแทนคุณจะต้องไปทำงานและเคยชินกับการดูแลน้องสาว ชายหนุ่มระบายยิ้ม เมื่อเหลือบไปเห็นอาจารย์หนุ่มกำลังจิบกาแฟบนโต๊ะเดียวกันกับคุณเกรียงไกร ก่อนอีกฝ่ายจะผละมาสบตาราวกับรู้ทันว่ามาวินเดาใจได้

แทนคุณกำลังจะเข้าทางว่าที่พ่อตา ซึ่งดูเหมือนคุณเกรียงไกรจะไม่มีทีท่าขัดอะไร แต่ก็มิได้ถึงขั้นเชิญชวนมาเป็นลูกอีกคน นั่นคงเป็นนิมิตหมายอันดีว่าอาจเดินไปถูกทางแล้ว

เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับแทนคุณ หลังจากวันนั้นมันก็ดีขึ้นมาเรื่อยราวกับเข้าใจไปเองโดยปริยาย ไม่ต้องพูดอะไร แทนคุณไม่ได้เอ่ยปฏิเสธมาวิน ในแววตามิได้กำลังสับสนดังเจ้าตัวว่า หลายวันมาแล้ว ที่มาวินรู้สึกเหมือนว่าเขากับแทนคุณแน่นแฟ้นขึ้นกว่าเก่าถึงขั้นเรียกกันได้ว่า ‘คนรัก’

หลังมื้อเช้า ชายหนุ่มเดินไปส่งแทนคุณที่รถอย่างเช่นทุกวัน เขาชอบการใช้ชีวิตแบบนี้จนรู้สึกคุ้นชินกับมัน “วันนี้ผมกลับค่ำ คุณกับครอบครัวทานข้าวกันก่อนเลย ไม่ต้องรอผมหรอก”

“นายแต่งตัวดูเหมือนไว้ทุกข์...” มาวินไม่รู้จะถามดีไหม เมื่อเห็นสีหน้าของแทนคุณที่ผิดแปลกไปตั้งแต่เช้าแล้ว ทั้งเหม่อลอย และดูเหมือนกำลังเศร้า

“วันนี้เป็นวันครอบรอบยี่สิบสองปีที่พี่สาวผมตาย ผมจะไปเยี่ยมเธอที่หลุมศพ”

“เข้าใจแล้ว” มาวินพยักหน้ารับอย่างที่พูด “ฉันเคยได้ยินนายละเมอถึงพี่สาว นายคงรักเธอมาก”

“พี่ทิพย์เธอน่าสงสาร เธอตายตอนผมอายุสักเจ็ดขวบได้ เธออายุเพียงแค่สิบหก พลัดตกลงมาจากดาดฟ้าของบ้าน”

มาวินใจหาย เหตุใดจึงเล่าเรื่องน่าเศร้าด้วยสีหน้าและน้ำเสียงกล้ำกลืนฝืนทนเช่นนั้น ทั้งที่จริงแล้วแทนคุณกำลังสะเทือนใจเมื่อกล่าวถึงมันอยู่แต่จำต้องกลบเกลื่อนด้วยท่าทีเมินเฉย ก่อนจะผละนัยน์ตาคมมาสบด้วยความฉงน พร้อมกับมาวินเองที่เพิ่งรู้ว่ามือมันเอื้อมไปลูบผมของอีกฝ่ายเองโดยอัตโนมัติ เพราะอยากปลอบโยนไม่ให้เศร้ากระมัง

“อยู่กับฉันนายไม่จำเป็นต้องเป็นคนอื่น”

คนฟังกระตุกยิ้ม กอบกุมมือที่เคยปลอบโยนบนศีรษะลงมาจุมพิต “ขอบคุณนะมาวินที่อยู่เคียงข้าง ผมหวังว่าถ้าเราพร้อม เราจะไปเจอพี่ทิพย์ด้วยกัน พี่ทิพย์ต้องชอบคุณมากแน่ เธอมีนิสัยคล้ายคุณหลายอย่าง”

“อื้ม ฉันก็อยากเจอเธอเหมือนกัน”

มาวินยกยิ้ม พร้อมกับความเขินอายแล่นเข้าสู่ใบหน้า ยามที่แทนคุณยังจ้องตา ฝังริมฝีปากหนาลงบนหลังมือเขาย้ำซ้ำอยู่หลายครั้งราวกับต้องการตีตราประทับจับจอง หายไปไหนแล้ว คุณชายที่เคยเลวร้ายมองคนอื่นในแง่ลบ อาจารย์ฝ่ายปกครองที่เห็นแก่ตัว วินาทีนี้ มาวินรู้จักเพียงแค่คนรักแสนดีของเขาที่ชื่อ ‘แทนคุณ’ เท่านั้น

เพียงคิด ก็ชวนให้ใจของชายหนุ่มผู้มีความรักล่องลอย เดินยิ้มแย้มเพียงคนเดียวโดยไม่อายใครเข้าบ้านพักเมื่อแทนคุณไปทำงานแล้ว ก้าวเท้าเข้าบ้านได้ ก็นึกตกใจเมื่อเหลือบเห็นสายตาของบิดาจับจ้องอย่างเอาจริงเกินไป

“แกกับไอ้อาจารย์นั่นจริงจังกันสักแค่ไหน”

ลำขายาวชะงักกึก หันไปตอบ

“ก็มากกว่าคนก่อน ๆ ล่ะ พ่อยังสงสัยอะไรในตัวเขาหรือไง”

“เปล่า แค่ฉันอยากได้ยินจากปากพวกแก ถ้ารักกันจริงฉันก็ไม่ได้คิดจะห้ามอยู่แล้ว”

คนฟังหันไปมองชายกลางคนผู้กล่าว ซึ่งยังทำเป็นวางท่าเข้มขรึมจับหนังสือพิมพ์อ่าน ประกอบด้วยน้ำเสียงไม่รู้สึกรู้สานั้นทำให้มาวินรู้สึกวางใจขึ้น เผยรอยยิ้มด้วยความอุ่นใจ

“ขอบคุณนะพ่อ”

เมื่อเปิดใจ เรื่องอะไรก็สามารถผ่านไปได้โดยง่าย

ช่วงนี้ชีวิตมาวินเหมือนกำลังอยู่ในขาขึ้น ทุกอย่างดูสะดวกไปเสียหมดจนน่าตกใจ อาจเป็นเพราะมุมมองในการใช้ชีวิตของเขาที่เปลี่ยนไปด้วยกระมัง เพราะมองแคบ ทุกอย่างเลยเป็นเรื่องยากและไม่น่าลงแรงไปเสียหมด ชายหนุ่มเข้าใจแล้ว

ตกเย็น มาวินก็ทำตามที่แทนคุณสั่งไว้ ชายหนุ่มลำเลียงกับข้าวกับปลาไปวางบนโต๊ะอาหาร ในขณะที่น้องสาวกำลังจัดจาน ตักข้าวให้บิดาอยู่อีกฝั่ง แต่ยังไม่ทันจะได้ลงมือทานกัน เสียงรถยนต์ที่เคลื่อนมาจอดริมรั้วหน้าบ้านได้เรียกจุดสนใจของทุกคนให้เหลียวไปมอง คงเพราะคิดว่าแทนคุณอาจกลับมาก่อนเวลา มาวินจึงลุกเป็นคนแรก ย่ำเท้าวิ่งออกไปนอกบ้านด้วยความรวดเร็ว

ชายหนุ่มประหลาดใจ ในยามหัวค่ำแสงของรถยนต์ที่สาดไม่สามารถบอกสีของมันชัดแจ้งนัก ชายหนุ่มชะลอลำขาเมื่อมิใช่รถยนต์ของคนรัก พร้อมกับความประหลาดใจก่อเกิดขึ้น

คนขับรถสวมชุดสีดำลงมาเปิดประตูให้เจ้านายซึ่งนั่งอยู่ด้านหลัง เผยให้เห็นลำขาขาวของสตรีค่อนกลางคนในชุดสูทของนักธุรกิจก้าวลงมา วินาทีแรกนางเหลียวมองบรรยากาศโดยรอบมิได้พูดอะไรทั้งสิ้น ก่อนจะไล่เรียงกวาดสายตามาจรดที่ร่างของเขา หากจำไม่ผิด หน้าตา และสีหน้าหยิ่งผยองที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้มาวินเคยพบเห็นมาก่อน

“เธอสินะ มาวิน ฉันจำได้”

ชายหนุ่มชะงัก รีบยกมือไหว้แม้จะไม่ชอบใจสายตาของหญิงตรงหน้าเท่าใดก็ตาม อย่างไรเสีย นางก็เป็นถึงมารดาของคนที่เขารัก อย่างน้อยก็ควรจะมีมรรยาทให้แทนคุณไม่ลำบากใจเสียบ้าง ถึงแม้นางไม่ค่อยมีทีท่าจะเห็นชอบระหว่างเขาทั้งคู่ก็เถอะ

“ครับ มาถึงที่นี่ คุณมีเรื่องสำคัญอะไรหรือเปล่า...”





--------------------------------------------------------

คุณนายมาแล้ว มาวินจะเจออะไรบ้างน้อ

อย่าลืมคอมเม้นค่ะ กลับมาอัพแล้ว นักอ่านหายไปไหน!

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
จ้างคนเขียนร้อยนึง ช่วยจัดฉากฆาตกรรมหั่นศพสยองขวัญของคนไข้โรคจิตที่หลุดออกมาจากโรงพยาบาลบ้าที่มียัยแม่เป็นเหยื่อ โดยที่ตำรวจพบศพได้เพราะหมาคาบหัวไปแทะอยู่ข้างกองถังขยะใจกลางเมืองที

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
จ้างคนเขียนร้อยนึง ช่วยจัดฉากฆาตกรรมหั่นศพสยองขวัญของคนไข้โรคจิตที่หลุดออกมาจากโรงพยาบาลบ้าที่มียัยแม่เป็นเหยื่อ โดยที่ตำรวจพบศพได้เพราะหมาคาบหัวไปแทะอยู่ข้างกองถังขยะใจกลางเมืองที

55555

ค่าจ้างแพงไปหน่อยนะคะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
นางมาแล้ววว!!! :katai1:. คุณพ่อ! คุณพ่อช่วยด้วยยยย~! :mew6:

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
แอบอมยิ้มนิดๆกับนิสัยเด็กๆของแทนคุณ :hao3:

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa



ตอนที่ ๑๓

รถราบนถนนยังแล่นสวนกันไปมาขณะที่ชายหนุ่มยังง่วนอยู่กับการเลือกซื้อของในร้านของสดภายในซอยที่เขาพัก หวังว่าจะเป็นวัตถุดิบสำหรับมื้อเย็นวันนี้ของเขากับแทนคุณ เมื่อเช้าคุณเกรียงไกรกับเอมมิกาไปโดยไม่ทันได้เอ่ยลาแทนคุณสักคำ เพราะเมื่อคืนไม่ได้กลับมาที่บ้านและมาวินหวังว่าวันนี้เขาจะมา นี่อาจเป็นเหตุให้มาวินใจลอย ไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่ามีรถยนต์ของใครมาเทียบจอดใกล้

หลังจากรับเงินทอน ชายหนุ่มหมุนกายกะจะเดินกลับไปยังบ้านพัก ใจหลุดวูบเมื่อเหลือบไปเห็นรถยนต์ข้างกาย ซึ่งเจ้าของของมันยังเปิดกระจกมองเขายิ้ม ๆ ไม่พูดไม่กล่าวทักทาย

“คุณกาย”

อีกฝ่ายค้อมศีรษะอย่างสุภาพ “นึกว่าจะไม่สนใจกันซะแล้ว”

“ขอโทษที เสียงรถแถวนี้มันดังผมไม่ได้ยิน”

“เราควรออกไปจากตรงนี้ไหม เดี๋ยวเจ้าของร้านจะว่าเรามายืนคุยหน้าร้านเขาได้ ขึ้นมาซี เดี๋ยวผมจะไปส่งคุณที่บ้าน” มาวินคลี่ยิ้ม เดินวนขึ้นไปนั่งอย่างไม่นึกตรองดูก่อนว่าจะมีปัญหาตามมาหรือไม่ เพียงแต่คิดว่าคงไม่มีอะไร แทนคุณเป็นคนมีเหตุผลพอที่จะหันมาพูดคุยกับเขา “ผมผ่านมาทางนี้พอดี เห็นคุณเดินอยู่ริมถนนก็เลยจะแวะมาทักทายเสียหน่อย เพราะเดี๋ยวนี้ไม่เห็นคุณเที่ยวเหมือนแต่ก่อน”

“มีเรื่องอะไรหลายอย่างให้ผมคิดน่ะ แต่ไม่อยากออกไปเล่าให้ใครฟัง ก็เลยคิดว่าอยู่ที่บ้านจะดีกว่า” มาวินก้มหน้าลงมองตัก ถึงอย่างนั้นยังยกยิ้ม

“คุณดูมีความสุขขึ้นนะวิน”

คนฟังหันมาสบตา “จริงหรือ”

“จริงซีครับ พบคุณครั้งแรกคุณเอาแต่เหม่อลอย แล้วก็พยายามพูดไม่ตรงกับใจตัวเองเพื่อรักษาความรู้สึก เอ้อ! นี่ก็ผ่านมานานแล้วนะครับ ผมอยากถามเหมือนกันว่าวันนั้นผมเป็นต้นเหตุให้คุณกับแทนมีปัญหากันหรือเปล่า” ดูเหมือนคุณกายจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่แทนคุณมอง ขณะถาม การุญยังเลือกใช้ถ้อยคำที่ระวังอย่างที่สุด

มาวินยิ้ม “ก็ไม่เชิง แต่เราเข้าใจกันดีแล้วแหละครับ”

“โล่งอกไปหน่อย” สิ้นคำของการุญที่รอ คนฟังก็หัวเราะ นั่นอาจค้างคาใจ ทำให้การุญนอนไม่หลับเพราะเป็นเหตุให้ชาวบ้านทะเลาะกันอยู่หลายคืนกระมัง จะว่าไป ยิ่งได้รู้จัก คนสุภาพและเป็นมิตรอย่างคุณกายคนนี้ก็น่าคบน่าคุยทีเดียว ไม่รู้ทำไมแทนคุณถึงจงเกลียดจงชักอะไรนัก มาวินไม่ค่อยเข้าใจ

แต่เพราะร้านค้าไม่ได้อยู่ไกลนัก ทั้งคู่จึงไม่ได้พูดคุยทักทายอะไรมากมาย จำต้องตัดตัดบทสนทนาเสียแต่ตอนนี้เมื่อเหลือบเห็นรั้วสีฟ้าบ้านพักตรงหน้า

“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง” มาวินหันไปกล่าว

“ไม่เป็นไรและยินดีที่ได้พบอีกครั้งครับ ผมหวังว่าเราจะได้เป็นเพื่อนกัน ถ้าเจ้าแทนมันไม่เอาไม้หน้าสามมาฟาดแล้วเตะตูดผมให้ออกห่างคุณเสียก่อนนะ”

มาวินหลุดหัวเราะ มือไม้ควานเก็บข้าวของสัมภาระพลางฟังสิ่งที่ชายข้างกายกำลังสันนิษฐานล่วงหน้า ก่อนจะหันไปสบตาคนขับรถ “แทนเขาไม่ทำแบบนั้นหรอก ผมคิดว่านะ”

“จะไม่ปฏิเสธมิตรภาพของผมใช่ไหม”

มาวินเปิดประตู หันไปแย้มยิ้ม “ยินดีเป็นเพื่อนซีครับ คนดี ๆ แบบคุณใครปฏิเสธก็บ้าแล้ว ผมน่ะ ได้เป็นเพื่อนคนระดับคุณก็ดีแค่ไหนแล้ว...”

“นั่นซีนะ ได้เป็นเพื่อนก็ดีแค่ไหนแล้ว”

คนฟังไม่ได้คิดตาม หรือแม้กระทั่งมองแววตาของผู้กล่าวอย่างถนัดชัดแจ้งเท่าใดนัก มาวินเพียงแค่ปิดประตูแล้วโบกมือลาอยู่ข้างรั้วนั้น ด้วยเพราะความวางใจและไม่เคยมองการุญในแง่อื่นมาก่อน ภายในดวงตายามพูดคุยกันจึงไม่ประสมความรู้สึกอื่นไปด้วยนอกจากเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้มองอยู่อีกฝั่งกลับไม่คิดเช่นนั้น

มาวินยังยืนอยู่หน้าบ้านแม้รถยนต์ของการุญเคลื่อนไปได้ไกลแล้ว ชายหนุ่มยืนโบกมือราวกับยังตกอยู่ในห้วงเวลานั้น คงเพราะแม้กำลังพูดคุยกับเพื่อนก็จริง แต่ภายในความคิดกับล่องลอยไปที่อื่น เฉกเช่นเดียวกับเวลานี้ เพราะเรื่องของคุณภาวิณีที่มาพบเขาเมื่อวาน และที่แทนคุณไม่ได้กลับมาที่บ้านโดยไม่บอกเขาก่อน

ที่จริงมาวินไม่ใช่คนคิดมาก แต่หลายอย่างทำให้เขากังวล

เสียงคนเปิดประตูรั้วเรียกความรู้สึกนึกคิดของมาวินให้กลับมา เพราะบิดากับน้องสาวกลับบ้านไปแล้วตั้งแต่เมื่อเช้า เขาจึงพอจะรู้ได้ว่าเป็นใครที่อยู่ในบ้าน ชายหนุ่มหันไปคลี่ยิ้มให้เจ้าตัว ซึ่งอาจรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายอาจติดใจกับรถยนต์ของการุญผู้มาส่ง

ชายหนุ่มจึงรีบสาวเท้าเข้าไปด้านใน สอบถามไปเรื่องอื่นไปก่อน “มาตั้งแต่เมื่อไรกันล่ะ มาเปิดประตูบ้านคนอื่นแบบนี้ คนเขาจะคิดว่าโจรนะ”

แทนคุณนิ่ง ไม่ได้ตอบรับกับมุกสุดแป้กของเขา เพียงแค่งุดตาลงมองถุงข้าวของในมือเท่านั้น มาวินไม่เข้าใจกับอารมณ์ของคนรักเท่าใดนัก เพียงแค่รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของอีกฝ่ายยามเอื้อมแขนมาจูงมือเขาเดินเข้าบ้านไปไม่พูดไม่จาเท่านั้น

หรือไปพบเจอกับอะไรแย่ ๆ มาอีก

“แทน นายโกรธฉันหรือ ถ้านายโกรธนายก็บอกฉัน” มาวินยื้อแขน เรียกให้คนตัวสูงผู้เดินนำหันกลับมา

“เปล่า ผมไม่ได้โกรธหรอก”

ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม “ฉันคิดไว้อยู่แล้วแหละว่านายมีเหตุผลพอ”

“แต่รู้ไว้ข้อหนึ่งว่านี่แหละคือสิ่งที่ผมไม่ชอบ หวังว่าคุณจะจำได้นะว่ามันจะทำให้ผมเป็นยังไง” คนกล่าวผละเดินวนไปทรุดกายนั่งบนโซฟา หยิบโทรศัพท์ขึ้นดูอะไรสักอย่างมิได้จะโวยวายเสียงดังอะไร ถึงอย่างนั้นมาวินก็ยังไม่เข้าใจ คงเพราะบรรยากาศระหว่างทั้งคู่เปลี่ยนไปกระมัง

“แทน เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนายหรือเปล่า ถ้ามีอะไรไม่สบายใจนายบอกฉันมาตามตรงได้นะ”

ใบหน้าคมคายสะท้อนแสงสีขาวจากโทรศัพท์เบือนขึ้นมองคนถาม “ทำไมคุณถึงเอาแต่ถามผมล่ะ”

เพราะอะไรน่ะหรือ

“อ๋อ...เรื่องนั้น...”

คงเป็นเพราะมาวินไม่กล้าสู้หน้าแทนคุณแล้วกระมัง เมื่อวาน การมาของคุณภาวิณีได้สร้างรอยแผลอะไรบางอย่างขึ้นอีก ตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ให้แย่ลงไปอีก ถึงแม้มันจะเริ่มต้นมาด้วยความแย่อย่างไรก็ตาม มาวินจำได้ ดวงตาของเขามองลงที่เชคเงินสดในมือของผู้ให้ราวกับรู้อยู่ก่อนแล้ว ว่านางจะมาไม้นี้

“เอาไปซะ แล้วออกไปจากชีวิตของลูกชายฉัน แทนไม่ใช่เกย์ เขายังต้องใช้ชีวิตของตัวเองต่อไปกับผู้หญิงดี ๆ ยังต้องมีครอบครัวให้ดูแล อย่ามาฉุดรั้งให้เขาตกต่ำไปด้วยเลยนะ” ฟังดูเกือบเหมือนขอร้องแล้ว แต่นี่มันราวตบหัวแล้วใช้เงินฟาดหน้ากันชัด ๆ

“แทนไม่ได้ตกต่ำเลย เขายังอยู่สูงของเขาเหมือนเดิม มีแต่พวกคุณเท่านั้นแหละที่กดเขาลงมา”

“ฉันไม่สนเลยสักนิดว่าเธอจะพูดสวยหรูอะไรแค่ไหน แค่รับเงินนี่ไป แล้วหายหน้าไปจากคุณแทนเสีย เพราะยังไงฉันไม่มีวันยอมรับความสัมพันธ์ผิดเพศของพวกเธอได้”

“ทำไมคุณถึงพูดอย่างนี้ คุณยังจะรังเกียจถึงแม้ว่าแทนเป็นลูกของคุณน่ะหรือ” มาวินส่ายหน้า มองนางซึ่งยังส่งสายตาเยียบเย็นไร้ความรู้สึกใดใดมาให้

“ถ้าเขายังคงรั้นแล้วยังยืนยันจะรักกับเธอต่อไป ฉันคงจะใช้ไม้แข็งจัดการเขาแล้วละ แต่ก่อนจะทำ ฉันอยากจะมาพูดคุยกับเธอให้เข้าใจเสียก่อน ถ้าเธอรักคุณแทนจริง เธอต้องไม่ทำให้เขาลำบากเพราะเธอ”

แทนคุณอาจมีปัญหากับที่บ้านเพราะเขาถึงไม่ได้กลับมาที่นี่เมื่อคืน มาวินมองชายหนุ่มผู้นั่งอยู่บนโซฟาซึ่งยังไม่ละสายตาไป พูดไม่ออก เพราะเงินจำนวนสามล้านนั่นยังอยู่ในกระเป๋า

“เพราะฉันเป็นห่วงความรู้สึกของนาย ฉันไม่อยากให้นายคิดเองแค่คนเดียว นายก็รู้ว่าฉันแคร์นาย...ขนาดไหน” ท้ายประโยค ชายหนุ่มเบี่ยงดวงตาหลบไปด้านอื่น สีหน้าราวเด็กน้อยสำนึกโทษนั้น เรียกรอยยิ้มของผู้มองได้อย่างดี

แทนคุณลุกขึ้นย่างสามขุมมาหยุดตรงหน้าอย่างรวดเร็ว คงเร็วเกินไปจนผู้ยืนอยู่นึกผวาถอยเท้าตั้งหลัก ไม่ทันได้ก้าวหนีมือหนาก็จับรั้งข้อแขนกลับไป ไม่ยินยอมให้มาวินหวาดกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ประโลมขวัญของเขาด้วยกอดแผ่วเบาเพื่อให้มาวินวางใจว่าจะไม่ทำร้าย

“กลัวหรือ” คนตัวสูงกระซาบ ขณะจับตัวไม่ให้มาวินขัดขืน “ผมยังน่ากลัวสำหรับคุณอยู่ซีนะ”

ผู้ที่อยู่ในอ้อมกอดใจหาย

“เมื่อกี้นายเป็นคนพูดขึ้นมาเองนี่ ฉันก็ต้องระแวงไว้ก่อน”

“ก็จำใส่สมองไว้ซีว่าอย่าทำให้ผมโกรธ ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่พวกชอบแส่หาเรื่อง อีกอย่าง...คุณไม่ได้น่าเล่นขนาดนั้น”

“นายพยายามไม่ทำให้ฉันเจ็บ มันคงน่าเบื่อสำหรับนายเกินไป”

คนฟังเชยใบหน้าของมาวินให้เงยขึ้นสบตา อยากทราบว่ายามเอ่ยออกมานั้นมีสีหน้าอย่างไร จริงจังกับสิ่งที่พูดเพียงไหน ใจของแทนคุณแกว่งไกวไร้ทิศทาง ยามเจ้าตัวจับจ้องมาที่ดวงตาของเขาอย่างนึกตัดพ้อ “ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นนะมาวิน ที่ผมจะบอกก็คือ คุณไม่เหมาะที่ผมจะล้อเล่นด้วย โดยเฉพาะทำให้เจ็บปวด”

นิ้วมือหนาเคลื่อนไล้บนโหนกแก้มคนฟังอยู่เช่นนั้นด้วยใจหวิวโหวง ในแววตาของคนตรงหน้ามีแต่ความสับสน แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากจะรับฟังสิ่งที่เขาเผชิญมาด้วยความห่วงใย เพราะแทนคุณเหนื่อย เพราะเขาเองที่ตั้งกำแพงระหวาดระแวงยามเห็นมาวินอยู่กับการุญ ทำให้ต้องเผลอเมินเฉยความรู้สึกห่วงใยนี่ไป

“ขอโทษนะ ผมคงหึงคุณมากไปหน่อย แต่ผมจะไม่ทำร้ายคุณหรอก”

มาวินคลี่ยิ้ม เงยขึ้นมาสบตา

“แทน...หยุดทำหน้าตาน่ารัก ๆ แบบนี้ได้แล้ว”

ชายหนุ่มยกยิ้มด้วยความเต็มตื้น มองใบหน้าของคนอายุมากกว่าในระยะใกล้อย่างอุ่นใจ บางทีก็นึกเกลียดตัวเองที่ทำให้มาวินกลัว จากเคยเสพติดความเจ็บปวดและสีหน้าทุกข์ทรมานของผู้อื่น กลับกลายเป็นความรู้สึกผิดและละอายแก่ใจแทน อีกซ้ำ เขาฝันร้ายถี่ขึ้นราวกับมันต้องการตอกย้ำว่าสิ่งที่แทนคุณทำ นอกจะผู้อื่นจะเจ็บปวดแล้ว ในเบื้องลึกตัวของเขาเองก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน

“ผมรักคุณ มาวิน รักจนจะบ้าอยู่แล้ว รู้หรือเปล่า”

จมูกโด่งเป็นสันคลอเคลียอยู่ในระยะใกล้ กลิ่นหอมอุ่นเจือจางขณะกล่าวทำให้ใจมาวินเต้นตึก ยิ่งไปกว่านั้น ประโยคเมื่อครู่ที่แทนคุณเอ่ย มาวินราวกับหูดับไปชั่วอึดใจหนึ่ง ไม่รู้จะตอบรับกลับไปอย่างไร ทำได้เพียงกะพริบตาสบมองใบหน้าคมคายซึ่งผละออก แล้วโน้มลงมาเสียใหม่ แนบริมฝีปากจูบเขาเมื่อเห็นสีหน้าของมาวินอย่างแจ่มชัดแล้ว แทนคุณคงเห็นว่าเขารู้สึกเป็นสุขอย่างไร

เนิ่นนานเท่าไรที่มัวเมาไปกับความรักที่อบอวลไปทั่วโพรงปาก แทนคุณหยอกล้อมาวินด้วยลิ้นอยู่พักหนึ่ง เคลื่อนมือหนาลงแตะสะโพก ลากต่ำลงไปบีบเค้นเนื้อแน่นหนั่นอย่างนึกมันเขี้ยว อีกข้างก็กอดรัดฟัดร่างของอีกฝ่ายตามอารมณ์ ส่วนที่ขยายเต็มกางเกงเสียดสีเอวของผู้ถูกกระทำให้เข้าใจสถานการณ์มากขึ้น มาวินถูกอุ้มให้ล้มตัวลงไปนอนบนโซฟา รับร่างสูงใหญ่ที่โน้มกายลงมาทาบทับ

“แทน...ไอ้ทะลึ่ง”

มาวินเชยตาสบ ไล้สิบนิ้วบนหน้าท้องเปล่าเปลือยคนด้านบน ยามร่างหนากระทั้นเอวถี่ ลำขาถูกพาดบนบ่าและถูกจูบลงย้ำซ้ำ ๆ พร้อมนัยน์ตาหวานฉ่ำของผู้มอบให้

“ฟังเสียงดูซี ใครทะลึ่งกว่าใคร...” คนกอดกระซาบ

“อ๊ะ...” มาวินเม้มปากแน่น

ร่างถูกจับพลิกคุกเข่าหันหลังให้เจ้าตัว แทนคุณไม่รีรอที่จะสานต่อความรักที่มีให้ โน้มกายบดเอวขณะน้ำขาวข้นของบทรักครั้งที่แล้วไหลอาบลงจนถึงหัวเข่า ฟังเสียงมาวินหอบถี่ ขณะที่ตัวเขาเองไม่อาจทานทนไหว กอดรัดเอวคนใต้ร่างแน่นขนัดมิให้สะเทิ้นไหวออกห่าง ทั้งยังซุกไซ้ซอกคอ จูบซับเอาความหอมหวานของรสรัก

และพร่ำบอกว่ารักอยู่ข้างหู

โดยที่ไม่ทำให้มาวินบาดเจ็บหรือหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย พร้อมกับความรู้สึกที่แทนคุณได้รับรู้ว่า ถึงไม่ทำร้าย ตัวเขาเองก็มีความสุขร่วมกับคนรักได้

บางที...เขาอาจจะกลายเป็นคนปกติที่ไม่นิยมทำร้ายคนอื่นแล้วก็เป็นได้

บางที เขาอาจเริ่มต้นใหม่ได้แล้วก็เป็นได้...

คืนนี้มาวินไม่ปิดประตูห้องนอนด้วยเกรงว่าแทนคุณจะสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกอีก หลังอาบน้ำชำระร่างกายแล้วเสร็จ แทนคุณสวมเพียงกางเกงนอนเดินวนไปยังเตียงซึ่งมีเจ้าของห้องชิงนอนหลับไปก่อน คงเพราะกิจกรรมเมื่อตอนเย็นได้กินแรงมาวินไปเยอะพอสมควร สุดท้ายเลยเหลือเพียงร่างเปล่าบนเตียงอุตุเช่นนี้ ชายหนุ่มแย้มยิ้ม เมื่อทรุดกายนั่งลง มาวินก็ชะโงกหัวจากหมอนขึ้นมามองด้วยความงุนงง

“เพิ่งอาบน้ำเสร็จหรือ”

“อืม...มีอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มถาม

“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร”

เหมือนเด็กน้อยร้องหานมแม่ มือยาวของเจ้าตัวควานดึงแขนเขาให้ทิ้งตัวลงนอนอยู่ข้างกัน มาวินขยับซุกกายกอด เหมือนจะนอนไม่หลับหากไม่ได้แอบอิงบนตัวเขา แทนคุณยกยิ้ม นิ้วมือเรียวยาวไล้เรือนผมผู้พริ้มตาหลับขับกล่อมไปพลาง ขณะงุดลงสบมองด้วยความเอ็นดูรักใคร่

ไม่รู้ว่าผ่านมานานเท่าไร ทั้งแทนคุณและมาวินชาชินที่จะมีกันและกันบนเตียงในยามค่ำคืน ได้ก่ายเกย อิงแอบแนบกายเพื่อความอุ่นใจเช่นนี้ ความอุ่นร้อนของร่างกายอีกฝ่ายได้ขับกล่อมให้พวกเขานอนหลับอย่างวางใจ

“นายจะเล่าให้ฟังได้ไหม ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาย” มาวินถามขึ้น ขณะที่ทั้งคู่ยังนอนแอบอิง ความเงียบของห้องพักเกิดขึ้นให้ได้ยินเสียงภายนอก สุนัขจรจัดตัวหนึ่งกำลังเห่า รถยนต์เคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว มาวินคิดว่าหากแบ่งเบาได้สักหน่อยก็คงดีไม่น้อย

“ไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมากเลย” เพียงแต่ว่า แทนคุณก็คือแทนคุณ ยังไม่ยอมให้มาวินทุกข์ใจไปด้วย พร้อมกันกับตัวมาวินที่ยังไม่หาญกล้าเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง

เขาตาโตเมื่อเห็นเงินกองอยู่ตรงหน้า

“สุดท้ายคนอย่างเธอก็ต้องการเงินกว่าความรัก ออกไปไกล ๆ ให้ห่างจากลูกชายฉันเสียเถอะ”

ใจมาวินเจ็บหนึบขณะก้มมองเงินสามล้านในมือ ถ้อยคำที่คุณภาวิณีเอ่ยเสียดแทงใจเขาจนไม่อาจมองหน้าแทนคุณได้ ชายหนุ่มเพียงคิดว่าหลังจากนี้ควรเติบโตขึ้นกว่าเก่า เขาไม่อยากมัวแต่แบมือขอเงินคนรัก บังเอิญว่าหน้าปากซอยมีร้านอาหารตามสั่งอยู่ในตึกหนึ่งกำลังประกาศขายเพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้ มาวินเห็นว่ามันทำเลดี เขาอยากลองทำอะไรนอกเหนือจากรอคนอื่นที่มีการมีงานทำอยู่บ้านลำพัง เขาควรทำให้ตัวเองมีค่าขึ้น

เงินนี่แค่ยืมมาตั้งตัว ไหน ๆ ก็มองว่าเขาเห็นแก่เงินอยู่แล้วนี่

“แทน นายจะโกรธไหมถ้าฉันทำเรื่องที่นายผิดหวัง” มาวินกระชับกอดเอวอีกฝ่าย เอ่ยถามในความเงียบ

“ก็คงโกรธมั้ง”

“แล้วนายจะทำอะไร จะตีฉันไหม”

มาวินลุกขึ้นนั่ง ให้แทนคุณเงยขึ้นมองด้วยความไม่เข้าใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแย้มยิ้ม ดึงให้มาวินล้มตัวลงนอนที่เดิมพร้อมแจงว่า “ก็คงได้แค่โกรธแค่นั้นแหละ ไม่ทำอะไรหรอก ผมคงมองข้ามความผิดไปเสียหมดเพราะคุณคือคนรัก คือข้อยกเว้นยังไงละ”

“งั้น ถ้านายทำผิดกับฉัน ฉันก็ควรยกโทษให้ด้วยซีนะ” ชายหนุ่มเอ่ยทีเล่นทีจริง

“แล้วแต่คุณจะพิจารณาเอาเลย”

มาวินกำลังคิดไม่ตก เขารับเงินนี่มาแล้วและควรหายไปจากชีวิตของแทนคุณอย่างที่รับปากกับคุณภาวิณีไว้หรือไม่ หากเขาจากไปอย่างไม่มีเหตุผลจริง แทนคุณจะคิดและตัดสินใจทำอย่างไร จะโกรธและตราหน้าว่าเขาสารเลวที่หลอกให้รัก แล้วชวดเงินหนีไป เป็นไอ้แมงดาที่ไม่มีวันรู้จักคำว่าพอ

มาวินควรทำอย่างไหนที่ทำให้ตัวเขาเจ็บปวดน้อยที่สุดกัน ควรบอกกับแทนคุณตรง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นเพื่อแสดงความจริงใจหรือไม่ หากโกรธที่มาวินรับเงินนั้นจะได้อธิบายได้ทัน

“แทน ฉันมีเรื่องอยากจะบอกกับนาย คือ...แถวหน้าปากซอยน่ะ มีร้านอาหารร้านหนึ่ง ฉันคิดว่ามันโอเคนะที่จะ...”

“นี่...” คนมอบกอดฝ่าความเงียบ เรียกให้มาวินเงยขึ้นไปสบตา “วันนี้อย่าพูดเรื่องอื่นได้ไหมมาวิน พูดแต่เรื่องของเราเถอะนะ อย่างเช่น...ที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้ ที่ทำแบบนี้กับผมหมายความว่ายังไง สงสารงั้นหรือ”

“เปล่า ไม่ใช่” มาวินส่ายหน้า “ก็ เราไม่ได้คบกันอยู่งั้นหรือ ที่ฉันทำอยู่ก็เหมือนคนรักกันปกติทั่วไปนี่นา นายเป็นคนบอกให้ฉันเข้าข้างตัวเองไม่ใช่หรือไง”

คนฟังแย้มยิ้มขณะสบตา มองมาวินอยู่เช่นนั้นพร้อมรอยยิ้มละมุนละไมกว่าครั้งไหน

 

บางทีโชคชะตาก็มักเล่นตลกกับผู้คนแบบไม่ทันได้ตั้งตัว มารู้อีกทีก็แก้ไขอะไรไม่ได้เสียแล้ว มาวินพลิกกายหลังรู้สึกตัวว่ามีอะไรบางอย่างหายไป เช้าแล้ว แสงจากด้านนอกสาดเข้ามาจนต้องหรี่ตางัวเงียตื่น หน้าเรียวยาวชะโงกหัวมองหาเจ้าของไออุ่นข้างกายซึ่งเคยมอบกอดให้ตลอดทั้งคืนด้วยความสนเท่ห์ ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง มองซ้ายแลขวาหาอยู่เช่นนั้น

ความรู้สึกแรกเหมือนคืนนั้นที่ทั้งคู่ได้พบกัน มาวินตื่นขึ้นมาพบร่องรอยของใครสักคนบนเตียงเท่านั้น และเงินอีกจำนวนหนึ่งซึ่งสามารถใช้กินสองพี่น้องได้ร่วมเดือน ชายหนุ่มสะบัดความคิดแง่ลบพวกนั้นออก เดินลงบันไดอีกทั้งกวาดสายตาหาคนรักไปด้วย หากทว่าทุกอย่างเงียบกริบ ไม่มีใครอยู่ในบ้านหลังนี้นอกจากเขา

มาวินดูนาฬิกา แปดโมงกว่าแล้ว คาดว่าอีกฝ่ายคงไปทำงานและไม่อยากปลุกเขา ทั้งวันชายหนุ่มเพียงแค่เดินไปมา นอนหลับ หรือเปิดทีวีดูอะไรแก้เบื่อไปก็เท่านั้น พอตกค่ำหน่อยก็ล้างจานชาม หุงข้าว นำวัตถุดิบมาทำกับข้าวรอให้สมาชิกในครอบครัวทาน ทุกคนจะออกปากชมฝีมือของเขา นี่คือสิ่งเดียวที่มาวินมีความสุข

ค่ำแล้ว มาวินชะโงกมองออกไปยังหน้าบ้าน แทนคุณไม่ได้โทรมาบอกว่าจะกลับถึงกี่โมง ชายหนุ่มทรุดกายนั่งลงถอนใจ บนโต๊ะอาหารมีสองสามเมนูที่ยังจัดวางทิ้งไว้จนเย็นชืด ยังไม่มีวี่แววของคนรักที่จะกลับมา มาวินยกโทรศัพท์ขึ้นมากดหาเบอร์ ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งจึงกดโทรออก ไม่นานอีกฝ่ายก็กดรับ

“ฮัลโหล มาวิน”

“แทน นายอยู่ที่ไหน” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่งตัวตรงอย่างลืมตัว

“ผมอยู่บ้าน ขอโทษทีที่ไม่ได้โทรบอก ไม่มีเวลาน่ะ”

“จะค้างที่นั่นด้วยใช่ไหม” น้ำเสียงของชายหนุ่มเปลี่ยนเล็กน้อย

“อืม ผมไม่อยู่จะเหงาหรือเปล่า”

“ไม่ ไม่หรอก สบายมาก” เสียงของมาวินสดใส

ได้ฟังปลายสายก็หัวเราะ “โล่งอกไปหน่อย”

“พอดีฉันรอกินข้าวอยู่ แต่นี่มันดึกแล้ว ปกตินายจะบอกก่อนทุกครั้งว่าจะมาสาย คราวนี้คงเร่งด่วนจริง ๆ ซีนะ” มาวินยกยิ้ม ความกังวลต่าง ๆ มลายหายไปเมื่อได้ฟังน้ำเสียงทุ้มสบายของแทนคุณยามนี้

“พักนี้ผมคงไปหาคุณได้ไม่บ่อยนักนะ”

“ฉันเข้าใจ” ชายหนุ่มยกยิ้มกับตัวเอง ราวกับว่าแทนคุณจะมองเห็นมันหากทำเช่นนี้

เมื่อนึกถึงคุณภาวิณีผู้เป็นมารดาของแทนคุณ นางอุตส่าห์สืบหาบ้านของเขาเจอเพื่อจัดการ อย่างไรเสียฝั่งของแทนคุณก็คงได้รับผลกระทบด้วยอย่างแน่นอน อาจกำลังอยู่ในช่วงประสบปัญหากันครั้งใหญ่เลยก็เป็นได้ หากฝ่ายนั้นไม่ยินยอมทำความต้องการของมารดาเพื่อเขา

มาวินยกมือขึ้นกุมศีรษะ ไม่ได้การแล้ว ยิ่งนานวันในสมองของเขามีแต่แทนคุณเต็มไปหมด ต้องหาอะไรทำอย่างจริง ๆ จัง ๆ เสียแล้ว หลังจากเอมมิกาไม่ได้อยู่ด้วย และเมื่อไร้แทนคุณทุกอย่างก็ฟังดูเงียบไปหมดจนฟุ้งซ่าน มาวินจะปล่อยให้ตัวเองเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้

วันต่อมา ชายหนุ่มลุกตั้งแต่เช้าวิ่งลงมาสวมรองเท้าด้านล่าง จุดมุ่งหมายคือตึกที่เคยมองไว้ว่าจะทำเป็นร้านอาหารข้างถนน ไปถึง พบเจ้าของตึกกำลังทำความสะอาดอยู่พอดีจึงได้พูดคุยทักทายกัน เป็นอาแปะคนหนึ่งซึ่งดูไม่ค่อยอยากขายเท่าใดนักเพราะเสียดาย รักที่จะทำอาหารให้ลูกค้า เล่าให้ฟังว่าลูก ๆ ใช้เงินฟุ่มเฟือยและติดหนี้บัตรเครดิตกันอยู่หลายใบ ด้วยความเป็นพ่อจึงยอมขายตึกนี้เพื่อช่วยพวกเขาแบ่งเบาอะไรบ้าง

มาวินตกลงขอซื้อที่นั่นในราคาเกือบสามล้านบาท เป็นตึกสามชั้นที่เพิ่งจะซ่อมแซมตกแต่งไปเมื่อปีที่แล้ว อีกทั้งยังอยากให้อาแปะทำงานด้วยกันที่นี่เพราะเห็นว่าท่านยังรักที่จะบริการลูกค้า มาวินเดินขึ้นไปชั้นบน ตรวจตราว่าจะต้องมีส่วนไหนที่ซ่อมแซมอีกหรือไม่ ทุกอย่างดูสะอาดสะอ้านรอให้เขาย้ายมาอยู่หรือเปิดร้านใหม่ได้เลย หากทว่าชายหนุ่มยังอยากจะปรับแต่งร้านเล็ก ๆ ด้านล่างให้ดูน่ารักขึ้นกว่านี้

มาวินชอบต้นไม้ ชายหนุ่มเดินทางไปยังร้านขายดอกไม้เพื่อหาอะไรมาจัดแต่งสวน เลือกไปเลือกมาเวลาก็ดำเนินไปถึงช่วงเย็น มาวินยกนาฬิกาขึ้นดูด้วยความแปลกใจ เมื่อทั้งวันแทนคุณไม่ติดต่อมาเลย อีกฝ่ายอาจกำลังลำบากใจเกี่ยวกับเขาอยู่ก็เป็นได้

ชายหนุ่มให้เจ้าของร้านขนกระถางต้นไม้ดอกไม้ขึ้นรถไปส่งที่ตึก กว่าทุกอย่างจะทยอยลงหมดคันรถก็พลบค่ำแล้ว วันนี้มาวินใช้เงินไปกับการจัดร้านอยู่มากโข แต่ก็ไม่รู้สึกเสียดายเท่าการใช้เงินเล่นเหมือนเมื่อก่อน เพราะสิ่งที่เขากำลังจะทำคือสิ่งที่ตนเองรัก เหมือนอาแปะคนนั้น กว่าจะถึงบ้านพัก มาวินดูนาฬิกาบ่งบอกเวลาสองทุ่มของวัน ชายหนุ่มทำอาหารง่าย ๆ ให้ตัวเอง ง่วนอยู่กับบางสิ่งบางอย่างแม้ใจจะนึกถึงคนรักเท่าใดก็ตาม

วันนี้แปลกนัก มาวินจำไม่ได้ว่านานเท่าไรที่เขาอ้อนวอนขอให้แทนคุณมอบกอดยอมนอนหลับ นัยน์ตาคมเหลือบมองบนเตียงของตนเองขณะเอนกายลงนอนหงาย เหลียวมองพัดลมเพดานตัวใหญ่หมุนอยู่เช่นนั้น

มือเรียวยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู เสียงสัญญาณยังคงดังรอให้อีกฝ่ายกดรับ จนมันตัดสายของมันเองก็มิมีใครตอบกลับมา มาวินกดสายอีกทั้งแนบหูฟังอีกครั้ง ทุกอย่างยังคงเหมอนเดิม ไม่มีใครรีบร้อนที่จะรับสายเขา

ทำอะไรอยู่แทนคุณ ทำไมไม่รับสาย ชายหนุ่มขยับกายนอนตะแคงแนบหน้ากับหมอนที่อีกฝ่ายเคยหนุนนอน ซึมซาบความรู้สึกเงียบเหงาของบ้าน นึกจินตนาการว่าร่างหนาอบอุ่นของคนรักยังนอนอยู่ตรงนี้ โอบกอดเขา ไม่รู้ว่าทางนั้นจะเป็นเหมือนกันหรือไม่ แทนคุณจะคิดถึงเขามากน้อยขนาดไหน หรือไม่เลย...

ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วกับการโทรไปทั้งที่อีกฝ่ายไม่มีเวลาว่างรับสาย มาวินตัดปัญหาไม่ให้ตนเองคิดมากด้วยการง่วนอยู่กับการจัดแต่งสวนด้วยตัวเอง เขาเป็นลูกคนสวนมาก่อน คุณเกรียงไกรกับเขาเคยช่วยกันจัดแต่งที่บ้านกันเองตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่ามาวินดูเหมือนจะยุ่งกับงานของตนเองอย่างไร ใจของเขายังจดจ่อกับโทรศัพท์มือถือเพื่อรอใครสักคนติดต่อกลับมาบ้าง แต่ไม่เลย มันเงียบกริบราวกับว่าใครคนนั้นไม่เคยมีตัวตน

มือเรียวยาวยกป้ายรับสมัครพนักงานเสิร์ฟแปะไว้ที่หน้าร้าน ก่อนจะยกมือขึ้นตบกันเปาะแปะปัดฝุ่นด้วยความสบายใจขึ้น เมื่อทุกอย่างแล้วเสร็จ มาวินดีใจที่จะถึงวันเปิดร้านแล้ว เพียงแต่ไม่มีใครสักคนที่มายินดีด้วย ชายหนุ่มยกยิ้ม เดินไปทรุดกายนั่งบนโต๊ะของลูกค้า มองความสำเร็จของตนเองด้วยความภาคภูมิใจอีกครั้งหนึ่ง

เขาอยากให้พ่อ เอมมิกา และแทนคุณได้เห็นเหลือเกิน ชายหนุ่มกดโทรศัพท์อีกครั้ง ยกขึ้นแนบหู ฟังปลายสายที่ยังตอบกลับมาเช่นเดิมด้วยดวงใจที่เบาหวิว…

เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้

มาวินเชื่อมั่นในตัวของแทนคุณ แต่ไม่รู้ว่าจะหลอกตัวเองไปได้ถึงเมื่อไร ใจของชายหนุ่มลอยคว้าง ภาพความสุขยามอยู่ด้วยกันผุดขึ้นมาประโลมให้คลายเหงา ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว หากแทนคุณคิดถึงเขาอย่างที่เขาเป็นอยู่ก็คงพยายามติดต่อมาบ้าง ไม่ใช่หายเงียบเข้ากลีบเมฆไปอย่างนี้ นี่คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับมาวินแน่แล้วว่าทุกอย่างที่เขาคิดไม่ได้เกิดขึ้นจริง

แม้จะพยายามมองในแง่ดีเพียงไหน สิ่งที่มาวินเข้าข้างตัวเองเป็นแค่ภาพลวงตาทั้งสิ้น

แทนคุณไม่ได้รักเขา...อาจไม่เคยรู้สึกรักเลยก็เป็นได้

 



---------------------------------------------------------

ระหว่างแทนคุณกับมาวินมาถึงจุดพีคแล้ว แทนคุณต้องการอะไรอีก

จริง ๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น มารอติดตามกันค่ะ

ขอคอมเม้นสำหรับกำลังใจด้วยเน้อ เหลืออีกสามตอนสุดท้ายที่เหลือจากนี้ อยากอ่านมั้ยน้อ

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว........ลงต่อเลยได้มั้ยอ่ะ :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เป็นกำลังใจให้ทั้งมาวินและคนเขียนนะคะ เนื้อสนุกมากกกก เราอ่านรวดเดียวเลย แอบสงสารมาวิน ทั้งๆที่พยายามเริ่มต้นใช้ชีวิตด้วยตนเอง แต่กลับไม่มีใครสัก คน

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
มาวินนนน~ // :กอด1: :mew2:กอดปลอบ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ชอบเนื้อเรื่องมากค่ะ ชอบคนมีปม555

แต่ขอตินิดนึง ไม่รู้เป็นที่เราเองหรือเปล่า คือบางวรรคบางตอนมันอ่านแล้วเข้าใจยากอ่ะค่ะ  เช่น บรรทัดบนเป็นอย่างนี้ บรรทัดล่างที่ควรจะหนุนกัน มันกลับขัดกันเอง เหมือนอ่านแล้วสะดุด
 จริงๆมีตัวอย่าง แต่พอดีเราพิมพ์ในไอพอดเลยก็อปยากค่ะ ขอโทษทีค่า

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
สนุกดี เป็นเรื่องสั้นนี่เอง ถึงว่าดำเนินเรื่องไว ความรู้สึกของตัวละครไปไวมากเลย สนุกดีค่ะ

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
ตอนที่ ๑๔

----60%----

มาวินรับพนักงานเสิร์ฟมาหนึ่งคน เป็นเด็กหนุ่มวัยมหาวิทยาลัยที่มาจากต่างจังหวัดและต้องการหาเงินส่งเสียตัวเองเรียน เขานับถือในความขยันของเด็กคนนี้ ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาของตัวเอง ยอมหาเงินด้วยความสุจริต ไม่เหมือนกับเขาที่ต้องการเพียงแค่ความสุขสบาย ชายหนุ่มอนุญาตให้ใช้ตึกข้างบนเป็นที่พักได้ก่อน เพราะตึกมีสามชั้น อย่างไรเสียมาวินก็นอนที่บ้านอยู่ดี

ด้วยเพราะมีลูกค้าหน้าเก่าของอาแปะเยอะเป็นทุนเดิมอยู่ ร้านของมาวินดูคึกคักกว่าเก่าเพราะการปรับแต่งเปลี่ยนสไตล์ของตึกใหม่ให้ทันสมัยขึ้น ผสมผสานกับสวนที่เขาจัด ทำให้ดึงดูดกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นได้ด้วย มาวินดูสนุกกับงาน พูดคุยกับลูกค้ามากหน้าหลายตา แต่เมื่อร้านปิดทุกอย่างก็กลับสู่สภาพเดิม

“ค่าจ้างวันนี้ของนาย เจ้าบอล” มาวินยื่นเงินให้

“ขอบคุณครับพี่ พี่ไม่ต้องให้เต็มวันก็ได้ ผมทำแค่พาร์ทไทม์นะวันนี้” เด็กหนุ่มทำหน้าลำบากใจขณะก้มลงมองเงินในมือตนเอง มาวินจึงยิ้มหันไปแจง

“วันนี้ลูกค้าตอนหัวค่ำเยอะเป็นพิเศษ ฉันเห็นนายวิ่งวุ่นไม่ได้หยุด ก็เลยให้ทิปค่าเวียนหัว ขอให้ขยันแบบนี้ทุกวันนะ”

“แต่ว่า...”

“รับไปเถอะน่าไอ้หนุ่ม” อาแปะออกความเห็น มาวินหันไปยกยิ้มให้อาแปะ ทั้งสามอยู่ด้วยกันราวกับสมาชิกครอบครัวไปแล้ว การช่วยเหลือของแทนคุณจะทำให้บอลสำนึกในบุญคุณ แสดงถึงความเกรงอกเกรงใจไม่ตีตนเสมอผู้มีพระคุณ

“เก็บร้านเสร็จแล้ว เดี๋ยวผมขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งพี่ที่บ้านนะ”

มาวินพยักหน้ารับขณะยังจดบัญชีของร้านอยู่ พลันเสียงรถจอดด้านนอกได้เรียกให้ทุกคนหันไปมอง มาวินรู้สึกคุ้นอยู่ว่าเคยเห็นที่ไหน ชายหนุ่มถึงบางอ้อเมื่อเจ้าของของมันเปิดประตู มองเหลียวซ้ายแลขวาอยู่ช่วงหนึ่งอย่างนึกสงสัย

“ร้านปิดแล้วครับคุณ” บอลเดินไปพูดกับอีกฝ่าย

“อ้อ ขอโทษที ผมคงมาดึกไป”

“คุณกาย”

มาวินยกยิ้มเมื่อเห็นแขกผู้มาใหม่รับมุก เจ้าตัวหันมาคลี่ยิ้มเมื่อเห็นมาวินนั่งอยู่อีกฝั่งของร้าน ที่จริงมาวินบังเอิญเจอกับการุญช่วงไปหาซื้อวัตถุดิบเข้าร้านเมื่อสองสามวันก่อน จึงมีโอกาสบอกว่าเขาเปิดร้านอยู่ที่นี่ การุญคงเพิ่งนึกออกจึงลองแวะมาเยี่ยมเยียนหรือทานอาหารที่ร้านของเขา หากทว่าบังเอิญร้านปิดก่อนเสียนี่ ร่างสูงอันภูมิฐานของผู้มาใหม่ดิ่งเข้าหามาวินอย่างไม่รอช้า

“ผมเพิ่งจะแยกย้ายกับเพื่อนร่วมงานได้ เรามีปาร์ตี้กันที่ผับแถวนี้พอดี”

มาวินพยักหน้าเข้าใจ “ผมดีใจที่คุณยังนึกถึงนะเนี่ย”

“เมื่อกี้ผมเห็นป้ายที่คุณเขียนว่ารับทำข้าวกล่องด้วย บริษัทของผมก็ชอบสั่งข้าวกล่องมากินเหมือนกัน รบกวนขอเบอร์ติดต่อหน่อยได้ไหม ถ้ามีโอกาสพิเศษอะไรผมจะนึกถึงร้านคุณก่อนเป็นอันดับแรกเลย” การุญยกโทรศัพท์ขึ้นรอท่า มาวินรีบหยิบนามบัตรให้อย่างเร็วรี่ เมื่อเห็นหนทางจะขายของได้มาพร้อมกับคุณผู้ชายรูปหล่อตรงหน้า

“แล้วมีบริการไปส่งถึงที่ไหมครับ” การุญถาม

“อ้อ ถ้าบอลอยู่ก็คงจะได้ไปนะครับ”

“ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวผมโทรหานะครับ เอ่อ ผมหมายถึงโทรสั่งข้าวกล่อง แล้วจะมารับเองที่นี่ดีกว่าน่ะ” เด็กหนุ่มที่ยืนฟังอยู่นานยกแขนขึ้นกอดอก มุ่นคิ้ว มองพี่ชายผู้เป็นเจ้าของร้านกับชายหน้าแปลกใกล้ ๆ อย่างไม่ค่อยชอบใจนัก

นี่มันหาเหตุผลจีบพี่ชายใจดีของเขาได้อย่างแนบเนียนเกินไป ไอ้คนรวยเจ้าเล่ห์

มาวินสนุกสนานกับการทำงานทุกวัน รายได้เพิ่มขึ้นเพราะข้าวกล่องของการุญที่มักแวะมารับไปครั้งละยี่สิบถึงสามสิบกล่องทุกวัน ทั้งสองพบหน้า พูดคุยทักทาย บางครั้งการุญก็เลือกทานมื้อเที่ยงที่ร้านก่อนนำข้าวกล่องกลับไปด้วย ทั้งคู่มีโอกาสพูดคุย ถามไถ่กันมากขึ้น หากทว่ามาวินก็ยังไม่ทันได้เปิดใจให้ใคร เพราะในสมองของเขายังเต็มตื้นไปด้วยรสสัมผัสอันอ่อนโยนของแทนคุณ

หากแม้นอีกฝ่ายไม่นึกถึงเขาก็ตาม

 

วันนี้วันหยุด เพราะบอลไม่ได้ไปเรียนและสามารถอยู่เต็มวันได้แล้ว มาวินจึงเลือกที่จะไปที่ที่หนึ่งเพื่อให้ตัวเองทราบถึงเหตุผลอะไรต่าง ๆ นานาที่เคยคิดหาคำตอบ ชายหนุ่มก้าวเท้าลงจากแท็กซี่หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว แหงนมองรั้วเหล็กสูงใหญ่ของบ้านพักอันหรูหราหลังหนึ่งอย่างไม่ค่อยเชื่อสายตาตนเองนัก แต่แน่ใจแล้วว่ามิได้มาผิดที่อย่างแน่นอน

ที่นี่เป็นบ้านของแทนคุณ

เดินดิ่งเข้าไปขอพบแทนคุณกับยามที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างประตูบานเล็ก ชายหนุ่มไม่รู้จะบอกว่าตนเองเกี่ยวข้องอะไรกับอีกฝ่ายดี นอกจากความกล้าบ้าบิ่นที่คิดจะมาพบกับคนรักแล้ว มาวินไม่ได้ตระเตรียมอะไรมาเพื่อสู้รบกับใคร โดยเฉพาะคุณนายแม่มด มารดาของแทนคุณ

แต่เพียงแค่พูดคุยกับยามก็ยังไม่สามารถเข้าไปในบ้านพักได้ เป็นใครก็ไม่อยากให้คนไม่มีหัวนอนปลายเท้าเดินดุ่ม ๆ เข้าบ้านอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุ มันไม่มีเหตุผลที่ควรจะให้เข้าไป

เสียงรถยนต์คันหนึ่งเคลื่อนเข้ามาจอดรอให้ยามเปิดรั้ว มาวินหันไปมองภายในรถคันนั้นด้วยใคร่จะทราบว่าเป็นใครซึ่งอยู่ภายใน พบเพียงแสงของดวงอาทิตย์สาดเข้าดวงตา ยามรีบเปิดประตูรั้วให้ตามหน้าที่ ยืนรอให้รถเคลื่อนเข้าไป มาวินจึงได้ทีหันไปสอบถาม “นั่นใครอยู่ในรถน่ะ”

“คุณแทนกับแฟนเขา ออกไปต่างจังหวัดเพิ่งกลับมาถึงบ้าน จะคุยกับเขาไหมฉันจะไปถามให้”

มาวินนิ่งอึ้ง ความร้อนของแดดทำให้เหงื่อเขาซึมหรือเพราะสิ่งที่เพิ่งจะได้ทราบก็ไม่แน่ใจ ภายในหูของเขาไม่ได้ยินอะไรอีกเลย ว่างเปล่า งุนงงกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน “แต่ถ้าเขารู้จักนายจริงก็ต้องเปิดกระจกมาพูดด้วยสักหน่อยแล้วนี่ กุเรื่องอะไรขึ้นมาหรือเปล่า หรือจะมายืมเงิน ดูท่าน่าจะใช่นะ”

ยามคนนี้พูดเรื่องอะไร เขาไม่เข้าใจ

“เฮ้ย จะไปไหน!”

มาวินระรัวฝีเท้าตามรถคันนั้นเข้าไปในบ้าน ไม่สนเสียงร้องของยามด้านหลัง ไปถึง เขาเห็นคนทั้งคู่กำลังลงออกมาจากรถพอดี อาจารย์ฝ่ายปกครองผู้ที่เคยบอกว่ารักกับเขา และแฟนสาวของเขาที่ดูอย่างไรก็สวยไม่ว่าจะเห็นเพียงแค่ด้านหลัง มาวินหยุดอยู่ระหว่างทั้งคู่ หวังว่าสิ่งที่ได้ยินไม่ใช่เรื่องจริง เมื่อนัยน์ตาคมซึ่งเคยสบตากับเขาด้วยความรักหันมาเจอะพอดี

แทนคุณไม่ได้มีทีท่าจะร้อนรนอยากจะอธิบายกับเขาแต่อย่างใด ราวกับยอมรับกลาย ๆ ว่าสิ่งที่เห็นคือความจริง ท่ามกลางเสียงหอบหายใจของมาวิน ทุกอย่างเงียบกริบ แววตาของอีกฝ่ายไม่หลงเหลือคราบแทนคุณผู้อ่อนโยนกับเขาสักนิด

“แทน ไม่จริงใช่ไหม บอกฉันหน่อยว่านายกำลังทำอะไร...” ชายหนุ่มกล่าวผ่านเสียงหอบ

“พูดเรื่องอะไร”

ใจมาวินลอยเคว้ง น้ำเสียงทุ้มอบอุ่นของชายตรงหน้าไม่มีอีกแล้ว หลงเหลือเพียงความเย็นยะเยือกในระยะนี้ที่สัมผัสได้ ชายหนุ่มปรายตามองหญิงสาวที่ยังยืนอยู่ข้างแทนคุณ ความเจ็บจุก ความน้อยใจแล่นเข้าสู่สมองจนแยกแยะความรู้สึกไม่ได้

“ทำไมนายถึงหายไป ทำไมไม่ติดต่อกลับมาบ้าง”

“คุณเป็นใคร สำคัญยังไง ทำไมผมต้องทำแบบนั้นด้วย” อีกฝ่ายย้อน

“แทนคะ เกลร้อนแล้วนะคะ” หญิงสาวหนึ่งเดียวกล่าวขึ้น มาวินใจหาย แต่สิ่งที่แทนคุณย้อนกลับมาก็ถูกของเขา มาวินเป็นใคร มีความสำคัญกับแทนคุณขนาดไหนที่จะเรียกร้องให้ทำอย่างนั้น ที่จริงชายหนุ่มไม่เคยมีสิทธิ์ในตัวของแทนคุณตั้งแต่แรก

“ยามปล่อยให้ใครก็ไม่รู้เข้ามาที่บ้านได้ยังไง มาเอาเขาออกไป”

“นายเป็นบ้าอะไร จู่ ๆ ก็หายไปไม่บอกไม่กล่าว ต้องการอะไรกันแน่ถึงทำแบบนี้”

คนฟังนิ่ง จ้องตามาวินเขม็ง “ไม่ได้ต้องการอะไร ที่ผมหายไปมันก็ตอบได้แล้วนี่ ยังจะอยากรู้อะไรอีกงั้นหรือ” ได้ยินสิ่งที่แทนคุณพูด มาวินหน้าชาดิก นึกถึงประโยคที่ตนเคยบอกแทนคุณเมื่อก่อนซ้ำ ๆ ว่าให้อีกฝ่ายจากเขาไปเมื่อไรก็ได้ เพียงเท่านี้ มาวินก็พูดอะไรไม่ออก ยามเห็นสีหน้าและแววตาของคนกล่าว ให้ตายซี

“ยาม พาตัวเขาออกไป...”

“ไม่ต้อง ผมจะออกไปเอง”

อีกฝ่ายจ้องตามาวินหลังได้ยิน ก่อนจะผละไปเสียเฉย ๆ จูงแขนของคนรักเดินจากไปพร้อมกับความสงบเงียบกัดกินใจคนยืนอยู่ตรงนี้ ให้คิดได้ถึงความจริงอันถ่องแท้

การที่แทนคุณหายไปก็เป็นคำตอบแล้วนี่ว่าหมอนี่ไม่ได้เลือกเขา คำว่ารักก็แค่ลมปาก ลมปากของคนที่ยังสับสนในตัวเอง ยังไม่รู้แน่ว่าชีวิตต้องการอะไร สิ่งที่แย่กว่าความจริงที่แทนคุณเป็นนั้น คือมาวินเชื่อสิ่งที่อีกฝ่ายมอบให้อย่างสุดหัวใจ

เขาเชื่อ จนน้ำตาของเขาไม่สามารถหยุดไหลได้สักวินาที

 

หลังจากที่หายไปเนิ่นนาน ไม่บอกกล่าวถึงเหตุผล นี่เป็นการพบกันและพูดคุยน้อยประโยคที่สุด แต่มาวินจะจดจำไปจนวันตาย ชายหนุ่มลากขาเดินเข้าไปในบ้านพักของตนเองด้วยความเหนื่อยอ่อน ลบภาพใบหน้าไร้ความรู้สึกนั้นออกจากโสตประสาทกี่ครั้งก็ยังไม่หาย ค่ำแล้ว เขาควรนอนพักและเริ่มงานใหม่ในวันพรุ่งนี้อย่างขะมักขะเม้นเพื่อตัวเอง เลิกคิดเสีย เลิกคิดถึงผู้ชายสารเลวคนนั้น

จริงหรือ แทนคุณเลวแบบนั้นจริงหรือ หลอกให้เขารักด้วยวิธีอย่างนั้นจริงหรือ

เขาอยากฟังแทนคุณอธิบายอะไรมากกว่านี้

มาวินไม่อยากเชื่อ ทุกอย่างมันดูแนบเนียนราวกับแทนคุณที่มาวินเจอในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้น มีอยู่จริง ชายหนุ่มยกมือลูบใบหน้าร้อนผ่าวของตนเอง ทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้หน้าบ้าน จมไปกับความเศร้าที่กัดกินไปทั้งความรู้สึกยามนี้

แสงของรถยนตต์คันหนึ่งแล่นข้ามาจอดเทียบอยู่หน้าบ้าน มาวินไม่ได้เปิดไฟบ้านพักเพราะเพิ่งมาถึง ชายหนุ่มเมียงมองรถคันนั้นจนจอดสนิท ก่อนเผยให้ทราบว่าเป็นใครที่เปิดประตูออกมา ไม่ทันได้ตัดสินใจ ร่างกายของมาวินเป็นไปเองอย่างอัตโนมัติ พุ่งไปหาชายคนนั้นด้วยความดีใจที่ได้พบ

“แทน นายมาหาฉันจริงด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้น บอกฉันที”

ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเครือไหว ยังแนบกอดกับชายเบื้องหน้าแน่นราวกับกลัวว่าทุกอย่างจะหายไป แต่เพียงไม่นานที่ใจลิงโลด มันหลุดลงไปกองกับพื้นเมื่อมือของมาวินถูกแกะออก ถูกดันให้ถอยห่างไปยืนในระยะสบมองหน้ากันชัดแจ้งขึ้นในความสลัวของบ้าน แทนคนยังดูไร้เยื่อใย ไม่ได้มีแววปีติยินดีที่ได้พบกับเขา

“ผมมาที่นี่ ไม่ได้จะมาพลอดรักอะไรกับคุณ แค่จะมาเตือนว่าอย่าไปที่บ้านอีก มันน่ารำคาญ”

“อะไรนะ”

มาวินไม่อยากเชื่อ ชายหนุ่มเก็บกลั้นอารมณ์ตัวเองให้มากขึ้นเพื่อเติบใหญ่ หลังได้เห็นชัดแล้วว่าชายตรงหน้าคือแทนคุณที่พบกันช่วงแรก เพียงแค่ไม่ได้สวมหน้ากากคนดีอีกต่อไปแล้วเท่านั้นเอง นี่กระมังคือแทนคุณตัวจริง ทั้งหมดที่เคยเห็นคือสิ่งที่หมอนี่โกหก

“อาการผมหายแล้ว สามารถเริ่มต้นกับใครก็ได้ที่ไม่ใช่คุณ”

คนตรงหน้าแจงเสียงเรียบ

“ผู้หญิงคนนั้น...”

“เธอเป็นแฟนผม เราคบกันก่อนที่ผมจะได้เจอคุณ ตอนนี้กำลังจะหมั้นกัน”

“งั้นก็หมายความว่า ที่ผ่านมา นายก็พูดดีกับฉันเพราะยังไม่มีทางไปซีนะ นายไม่ได้ คิดจริงจังกับสิ่งที่ตัวเองพูดตอนที่อยู่กับฉัน นายแค่อยากให้ฉันรู้สึกดีที่ได้ฟัง...”

มาวินนึกขันกับสภาพน่าสมเพชของตัวเองอยู่ช่วงหนึ่ง เมื่อหวนนึกถึงภาพความดีใจที่รู้สึกเมื่อก่อน ก่อนจะเงยขึ้นมองชายตรงหน้าที่พยักหน้ารับในความเงียบ

“รู้ไหมแทน แต่มันดันแย่สำหรับฉันมาก ตรงที่ฉันยังก้มหน้าก้มตาเชื่อ ทั้งที่นายไม่ได้เป็นเกย์ เรานับครั้งที่นอนด้วยกันได้ และนายไม่เคยคิดเชื่อมั่นที่จะพูดคุยอะไรกับฉันอย่างจริงจังเลย...”

“คุณไม่จำเป็นต้องพูดออกมาทั้งหมดก็ได้ ผมไม่คิดว่าคนที่เป็นแมงดาอย่างคุณจะหวั่นไหวชอบใครง่าย ๆ ที่คุณหวั่นไหวเพราะเงินในกระเป๋าของผม ไม่ใช่ตัวตนที่ดีของผม ถ้าคุณอยากได้เงินอีกก็เรียกร้องมาซะให้พอ แล้วออกไปจากชีวิตผมกับเกล อย่าไปยุ่งวุ่นวายกับเธอหรือคนที่บ้านอีก”

มาวินเงยมองหน้าคนกล่าวอย่างไม่เชื่อหู

“ฉันรับมาพอแล้วละ” ชายหนุ่มส่ายหน้า

“เงินสามล้านนั่น คงมากพอที่จะใช้เล่น ๆ ไปอีกหลายวัน ผมจะทำยังไงให้คุณไม่กลับไปยุ่งวุ่นวายกับพวกเราอีก อยากได้เท่าไรบอกมา” แทนคุณทำท่าล้วงกระเป๋าจะหยิบอะไรสักอย่างมาให้

มาวินรีบส่ายหน้า ถอยหลังออกห่างไม่ยอมรับ หลังเห็นแล้วว่าคนตรงหน้าไม่ได้ประเสริฐเลิศเลออย่างที่ตั้งตารอคอย หากเพราะอะไรไม่ทราบ เหตุใดเขาเอาแต่วนเวียนนึกถึงรอยยิ้มละไมอบอุ่นของอีกฝ่าย

มันพอแล้ว ช่วงเวลาที่ดีที่สุดยามอยู่ร่วมกันของทั้งคู่คือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับมาวิน หากแทนคุณจะเกลียดและมองเขาในแง่นั้น มาวินก็ห้ามความคิดไม่ได้ ดีเหมือนกัน เขาเองก็ไม่อยากทำร้ายแทนคุณให้ตกที่นั่งลำบาก ทะเลาะกับมารดา นี่คงเป็นวิธีที่ดีที่จะหายไปจากชีวิตของชายตรงหน้าอย่างแยบยล

“บ้าจริง สุดท้ายแผนก็แตกจนได้ว่ะ หึ!”

ชายหนุ่มคลี่ยิ้มแม้ภายในกำลังร้องไห้ มองชายเบื้องหน้าซึ่งมองรอยยิ้มของเขาด้วยความไม่เข้าใจ “สุดท้ายนายก็ไม่ใช่ไอ้โง่สำหรับฉันอีกต่อไปแล้วซีนะ ว้า กะจะทำให้รู้ว่ารักเสียหน่อย นายรู้ทันแบบนี้ก็ไม่สนุกแล้วซีเนี่ย”

คนตรงหน้ายังนิ่ง หากกำหมัดและกัดฟันกรอดมองเขาในความมืด “คิดไว้แล้ว ผมมองคุณไม่ผิดจริง ๆ คุณมันพวกหิวเงิน!”

“หึ...” มาวินเช็ดตาที่ไหลของตัวเอง หลุดหัวเราะขำท่าทีของอีกฝ่ายอย่างเยาะเย้ย

“ใช่ โคตรหิวเลยแหละ แต่ก็ดีเหมือนกัน ฉันขี้เกียจทำเป็นคนใจดีกับไอ้โรคจิตอย่างนายแล้ว มันน่าเบื่อ ต้องใส่หน้ากากแสดงว่าเป็นคนดีทุกวันมันก็เหนื่อยนะ ถึงจะรู้สึกเสียดายตัวเงินตัวทองอย่างนายบ้างก็เถอะ นายอยู่กับฉันไม่กี่เดือนก็เหมือนฉันอยู่กับคนอื่นเป็นปีสองปี ได้มาเยอะแยะเชียว...”

คนกล่าวยกหลังมือถูหน้า เงยขึ้นมาคลี่ยิ้มอีกครั้ง

“จะไปก็ไปเถอะ ฉันหาคนที่โง่และดีกว่านายได้แล้วแหละ แน่ใจได้เลยว่าจะไม่ไปให้นายเห็นอีกแล้ว” มาวินยังยิ้ม ชายหนุ่มยกมือขึ้นโบกลาทำเป็นไม่รู้สึกรู้สา มองแทนคุณซึ่งยังขมวดคิ้วมุ่นขณะกำมือแน่น แต่ไม่ได้มุ่งเข้ามาทำร้าย ราวกับกำลังผ่อนปรนอารมณ์ตัวเองพยักหน้ารับ

“ผมก็คิดว่าคุณไม่ได้ดีมาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ได้ตกใจอะไรมากนักหรอก...”

สิ้นคำ มาวินไม่ได้ตอบกลับอะไรไปในคราแรก นอกจากเดินเข้าไปในรั้วบ้านอย่างเงียบเชียบ “นายเองก็ตีบทแตกดีนี่ เล่นเอาเสียฉันฟินเลย ถ้าไม่บอกกันวันนี้ฉันก็เชื่อว่านายรักฉันมาตลอด น่าขำจริงเชียว” คนกล่าวแค่นยิ้ม

“ก็ทำท่าไปอย่างนั้นเอง คุณพูดถูกทุกอย่างว่าผมก็แค่หลงของเล่นที่มีอยู่แค่ชิ้นเดียว พอผมรู้ว่าตัวเองสามารถหยิบของเล่นอันอื่นที่มันดีกว่า สะอาดกว่าได้ ทำไมผมจะต้องงมงายเล่นอันเก่าอยู่อีก...”

“ออกไป ฉันเข้าใจหมดแล้วแหละ ไม่ต้องอธิบาย...”

มาวินกลืนน้ำลาย หันไปปิดล็อกรั้วให้แน่นหนา ภายในความมืดมิดของท้องฟ้ามีแสงดวงดาวน้อยนิดที่สว่างไสวสู้แสงสีนีออนได้ ชายหนุ่มคลี่ยิ้มอยู่คนเดียว เมื่อความเงียบดำเนินผ่านอย่างเชื่องช้าหลังจากเขาตัดสินใจพูดคำนั้น ไล่แทนคุณ

เสียงฝีเท้าของแทนคุณกระแทกเดินออกไปตามอารมณ์ ชายหนุ่มไม่สน ปล่อยให้รถยนต์ของแทนคุณเคลื่อนผ่านไปโดยไม่เอ่ยลา แม้จะมองหน้าของอีกฝ่ายเป็นครั้งสุดท้ายก็ไม่ทำ ครั้นมันหายไปจนลับสายตา มาวินทรุดกายนั่งลงกับพื้นตรงหน้าอย่างอ่อนแรง ไม่มีเหลือพละกำลัง ความอวดดีอวดเก่งปลิวหายไปพร้อมกับสติสัมปชัญญะ

ทำได้เพียงก้มลองกอดตนเอง ร้องไห้ไม่ลืมหูลืมตาอยู่อย่างนั้น ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

 
----------------------------------------------

 :hao5: :hao5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-10-2016 15:32:57 โดย noonaaRP »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด