มีสติครั้งที่ 3“เฮ่อออ เกือบซวยแล้วมั้ย เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้ว่าน” เอ๋มันพูดขึ้นมาระหว่างที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์กลับมาที่หอ
“แต่ก็ดีไหมล่ะที่กูหาข้อแก้ตัวทันน่ะมึง” ผมตอบมันกลับพลางนึกขำกับคำที่ตัวเองบอกไป หน้าอย่างมันจะไปมีแฟนเป็นผู้หญิงได้ไงวะ
“ดีกับผีน่ะสิ ส่งมาไม่บอกกูเลย กูแทบกัดลิ้นตาย ดีนะพี่เขาไม่ติดใจอะไร”
“มึง แต่พี่เขาจำกูได้ด้วยอะ แถมจับแขนกูอีกตั้งหาก โอ้ย กูเขินนนนน”
ผมบิดไปบิดมาขณะที่ขี่มอเตอร์ไซด์เข้ามาในซอยหอพักส่งผลให้รถเราเซเล็กน้อย มอเตอร์ไซค์ที่ขี่ตามด้านหลังเลยบีบแตรใส่เรา
“อิว่าน ตั้งสติด้วยค่ะมึง นี่ขี่มอไซค์อยู่นะเว้ย!”
เอ๋ตะโกนด่าผมก่อนที่ผมจะรีบประคองรถและรีบขี่เข้าหออย่างเร็วเพราะกลัวรถข้างหลังจะด่าพ่อล่อแม่เอาให้น่ะสิครับคราวนี้ แหะๆ
.
.
เช้าวันพุธที่สดใสแต่ไม่สดใสสำหรับนักศึกษาที่ต้องมาเรียนแต่เช้าอย่างพวกผมนี่สิ อุตส่าห์สอบเสร็จทั้งทีถึงจะเป็นแค่มิดเทอมก็เถอะมันควรจะหยุดให้นานกว่านี้ไหมมมม อย่าจะตะโกนให้ก้องฟ้าแต่ก็ทำไม่ได้
“ไอ้ว่านกูง่วงว่ะ เลิกคลาสแล้วปลุกกูด้วยนะ” อ่าวเฮ้ย เอ๋มันชิงไปหาพระอินทร์ก่อนผมซะแล้วทีนี้ผมจะทำไงได้ครับนอกจากแอบหลับตามมันไป ฮ่าๆ
ระหว่างที่กำลังจะแอบหลับสายตาก็เหลือบไปมองที่ด้านนอกห้อง เอ๊ะ นั้นมันพี่โทนนี้นา ฮือออ คนอะไรหล่อจริงๆเลย ตามออกไปดูหน่อยดีกว่าปล่อยให้ไอ้เอ๋มันหลับไปอยู่แบบนี้ล่ะ
“เออไอ้โทน วันก่อนน้องเมย์มึงแม่งโทรมาโวยวายกับกูบอกว่ามึงไปขอเลิกกับเขา ทำไมวะน้องมันไม่โดน?” เพื่อนคนซ้ายมือเอ่ยขึ้นมา
“เปล่า แค่น่ารำคาญก็เลยเลิก” เหตุผลของพ่อเทพบุตรนั้นช่างเบสิคซะเหลือเกิน
“น่ารำคาญยังไงวะ ไม่ถึงใจหรอ ฮ่าๆๆ” เพื่อนคนขวามือก็สมทบทันที
“พอเถอะ เลิกพูดให้น้องเขาเสียหายได้แล้ว กูแค่ไม่ชอบนิสัยไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องพวกนี้” อื้อหือออ ลูกผู้ชายตัวจริงเสียงจริง เห็นไหมละผมบอกแล้วว่าพ่อเทพบุตรของผมน่ะเป็นคนดี
“โอ๊ะ ตาเถรหก!!” เสียงผมเองครับ ดันก้าวบันไดผิดขั้นเลยล้มกลิ้งกรุกๆมานอนแหมะที่พื้น ฮื่ออออ น่าอายจริงๆ
“เป็นอะไรรึเปล่า” อยู่ๆก็มีมือๆหนึ่งยื่นมาให้ผมตรงหน้า ผมจึงค่อยๆเงยหน้ามองไล่ตามมือขึ้นไปต้องเป็นพี่เทพบุตรของผมแน่เลย แต่เอ๊ะ เขาคือใครหว่า?
“อา ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก” ผมไม่ได้จับมือที่ส่งมาให้แต่พยุงตัวเองลุกขึ้นเองพร้อมกับปัดฝุ่นตามตัวออก
“มีอะไรวะปืน” เพื่อนคนด้านซ้ายของพี่โทนในตอนแรกถามขึ้น
“กูเห็นเขาล้มเลยเดินมาดูน่ะ แต่เขาบอกว่าไม่เป็นอะไร” คนตรงหน้าเอ่ยตอบเพื่อนไป
“ไม่เป็นไรแล้วทำไมมีเลือดออก?” หื้อ ใครเลือดออก
ขณะที่ผมยืนงงๆพี่โทนก็เดินเข้ามาจับที่มือผมพร้อมหงายฝ่ามือให้ดูว่ามันมีบาดแผลแถมมีเลือดออกอีกตั้งหาก ก็ว่าทำไมมันแสบๆที่มือ TT
“พวกมึงเดินไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป”
พูดกับเพื่อนจบพี่เขาก็ฉุดข้อมือผมไปที่ห้องพยาบาลทันที สัมผัสร้อนจากฝ่ามือคนข้างหน้าส่งผลให้ระบบหมุนเวียนเลือดของผมมาหลอมรวมกันบนใบหน้าจนตอนนี้มันลามมาที่หูแล้ว ไม่นะว่าน ใจเย็นๆ สติมีสติอย่างที่ไอ้เอ๋ชอบบอก
“เจอกันอีกแล้วนะ” คนตัวสูงพูดแต่ไม่ได้หันหน้ามามอง
“อ่าครับ พี่จำผมได้?” อยู่ๆเขาก็หยุดเดินแล้วหันหลังมามองผม
“พี่? นายรู้จักฉันหรอ” เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเชิงถามคำถาม
“ก็ครับ ไม่มีใครไม่รู้จักพี่” เขาพยักหน้าก่อนก้าวเท้าเดินต่อไปยังห้องพยาบาล
ตื้ด ๆ ๆ ๆ
“ฮัลโหลเอ๋ ว่าไง”
“ว่าไงอะไรมึงล่ะ นี่มึงหายไปไหนเขาเลิกคลาสกันแล้วนะ” เอ้อออ ผมลืมเอ๋มันไปเลยนี่นา สงสัยมีคนปลุกมันตอนเลิกคลาสแน่เลยและมันไม่เห็นผมมันเลยโวยวายใหญ่
“คือมีปัญหานิดหน่อยอะ ฝากมึงเก็บของมาให้หน่อยดิ”
“แล้วมึงอยู่ไหน ทำไมต้องพูดเสียงเบาๆ” แค่กูพูดเสียงเบาๆมึงก็สงสัยแล้วหรอวะเอ๋
“อยู่ห้องพยาบาลน่ะ พอดีจะมาเข้าห้องน้ำแล้วได้แผลว่ะ”
“อ้าวหรอ มึงนี่ไม่ระวังเลยนะ งั้นเดี๋ยวกูตามไปรออยู่ที่นั้นล่ะ” วางสายจากมันก็หันมามองคนทำแผลให้ ดีนะที่เอ๋มันโทรมาพอดีไม่งั้นคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาต้องได้ยินเสียงหัวใจผมเป็นแน่ เพราะพี่เขาดันทำหน้าที่พยาบาลจำเป็นที่ทำแผลให้ผมอยู่น่ะสิพยาบาลตัวจริงดันไม่อยู่ไม่รู้ไปไหน พ่อเทพบุตรจึงไม่รอเขาบอกว่าเดี๋ยวแผลติดเชื้อแล้วก็ทำแผลให้เสร็จสรรพ
“เสร็จแล้ว”
ผมยกมือไหว้ขอบคุณพี่เขาแต่ก็ต้องตกใจอีกหนเพราะมือใหญ่ที่ยกขึ้นมาวางแปะไว้หัวของผมก่อนจะจับโยกเบาๆพร้อมกับที่เอ๋มันเปิดประตูเข้ามาพอดิบพอดี ไอ้เอ๋! มึงมันตัวขัดจังหวะจริงๆ ผมได้แต่คิดในใจ
“พี่โทนสวัสดีครับ” พี่เขาชักมือกลับพร้อมกับพยักหน้ารับไหว้จากเอ๋
“พี่ไปก่อนนะ คราวน่าก็ระวังด้วยละกัน” ผมยิ้มรับก่อนที่พี่เขาจะเดินจากไป
“อิว่านนนน ยังไงเนี้ยยังไง เล่ามา!” เอ๋ทำท่าสาวแตกก่อนจะเดินมานั่งเก้าอี้ข้างหน้าทับที่ๆพี่โทนเพิ่งลุกไป
“ก็ไม่มีไรหรอก กูหกล้มพี่เขาก็เลยพามา” ทำหน้าตาแอ๊บแบ๊วเหมือนนางเอกใส่มันไป
“มึงอย่ามาตอแหล มึงอยู่ในห้องเรียนกับกูละเอาที่ไหนไปหกล้ม” มันเอานิ้วมาจิ้มหัวผมเหมือนนางร้ายกระทำนางเอก
“เออๆ ก็ตอนมึงหลับอะ กูก็เห็นพวกพี่เขาเดินผ่านกูก็เลยแอบตามออกไปดูและก็ดันเหยียบบันไดผิดขั้นก็เลยล้มอะ แฮ่ะๆ” ยอมสารภาพความจริงออกมาให้มันฟัง
“แหมๆ พามาแล้วทำไมต้องทำแผลให้ด้วยวะ มึงทำเองก็ได้มั้ย” ยังๆไม่เลิกถามซอกแซกอีกนะมึง
“เอ้า พี่เขาอาสาจะทำให้กูก็ดีแล้วไง ไม่เห็นมีอะไรเลย” ตอบมาพลางสะพายกระเป๋าเพื่อเดินออกจากห้อง
“แหน่ะๆมีเดินหนี กูรู้หรอกน่าว่ามึงเขิน อะแฮ่ม พี่ไปก่อนนะ คราวน่าก็ระวังด้วยละกัน อะฮ้า”
เอ๋มันทำเป็นเลียนเสียงพี่โทน แต่เสียงที่ออกมานั้นมันทุเรศเกินบรรยายจนผมขำก๊ากออกมา
“เออเอ๋ มึงรู้ยังพี่โทนเลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้วนะ คนที่เราเห็นเมื่อวันก่อนนู้นอะ” ผมนึกได้ก่อนจะเม้าท์ให้เอ๋มันฟัง
“จริงดิ แต่เอาจริงๆนะเลิกก็ดีละ ผู้หญิงอะไรแรดก็แรดแถมยังเดินถึกกว่ากูอีก” มันพูดพลางทำหน้าขยาดซะเต็มประดา
“เออไอ้ว่าน เดี๋ยววันนี้กูกลับบ้านนะมีซ้อมมวยว่ะ” มันบอกขณะที่เรากำลังเดินออกจากมหาลัย
“อ่าวหรอ โอเคๆงั้นไว้เจอกันมึง บาย”
ผมล่ำลากับมันก่อนจะเดินแยกเข้ามาในซอยเพื่อเดินกลับเข้าหอ จริงๆหอก็เดินไปเกือบสุดซอยเลยล่ะครับ แต่ด้วยความไม่ได้รีบผมก็เดินไปเรื่อยๆ นี่ก็เริ่มเย็นแล้วพวกร้านอาหารและร้านเหล้าก็เริ่มเปิดสร้างความคึกครื้นให้ถนนหนทาง
ตึ้ด ๆ ๆ ๆ
กำลังเดินอยู่ๆก็มีสายเรียกเข้าจากม๊าผมเองครับ สงสัยจะคิดถึงกัน
“ม๊า คิดถึงจังเลยยยย” ผมพูดออดอ้อนออกไป
“ไม่ต้องมาพูดเลยน้องว่าน คิดถึงแต่ไม่กลับมาหาม๊าเลยนะ เชอะ!” นี้ล่ะครับม๊าผม ขนาดงอนยังน่ารักที่สุดในโลก
“โอ๋ๆ ก็เดี๋ยววันหยุดน้องก็กลับไงครับ ที่อาทิตย์ที่แล้วไม่ได้กลับเพราะน้องมีสอบไงม๊าจำได้ไหม”
ไม่ต้องงงว่าน้องไหนครับ ตัวผมเองนี่ล่ะเพราะม๊าชอบเรียกผมว่าน้องผมก็เลยเรียกแทนตัวเองว่าน้องกับทุกคนที่บ้าน น่ารักมั้ยละครับบบ
“ค่ะ ม๊าได้ผลไม้มาจากสวนของอาเจ็กเยอะเลย อย่าลืมกลับมากินนะคะ”อาเจ็กผมปลูกสวนผลไม้อยู่ที่จันทบุรีและเขาจะส่งมาให้บ้านผมตลอดเลยครับ มีของกินลาภปากอีกตามเคย
“ครับ แค่นี้ก่อนนะม๊า น้องกำลังกลับห้องแล้ว จุ๊บๆครับ”
“พรึ่บ!!” อยู่ๆก็มีคนมาฉุดแขนผมแล้วพร้อมกับดึงผมออกจากทางเท้าที่ผมเดิน
“ไอ้เหี้ยท๊อป ปล่อยกูนะ!”
ไอ้ท๊อปคู่อริของผมกับเอ๋โผล่มาจากไหนไม่รู้ แต่ที่ๆมันลากผมมานั้นเป็นร้านเหล้าที่เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับเด็กมหาลัยนี้ มันกับเพื่อนมันนั่งอยู่ที่หน้าร้าน เมากันแต่หัววันเลยนะไอ้พวกเลว
“จะดิ้นทำไมวะ จับนิดจับหน่อยทำเป็นหวงตัว”
มันโอบผมไว้ด้วยแขนข้างเดียวเพราะมันตัวใหญ่กว่าผมมาก เรียกได้ว่าไซส์หมีควายจะเห็นภาพมากกว่า มันจึงยากที่ผมจะดิ้นให้หลุดไปได้ง่าย
“ปล่อยกูไอ้ท็อป ไม่งั้นมึงจะโดนดีแน่” ทำใจสู้ขู่ใส่มัน
“หึ อย่างมึงจะมาทำอะไรกูได้วะ ถ้าไอ้เอ๋ไม่มาช่วยก็อย่าหวังจะมีใครมาช่วยมึงเลย ฮ่าๆๆ” มันหันไปหัวเราะกับเพื่อนมันพร้อมยกแก้วเหล้าขึ้นมาชนกันอย่างพอใจ
“โว้ยยยย กูบอกให้ปล่อยไง ช่วยด้วยยย”
ผมพยายามดิ้นและกระทืบเท้ามันแต่มันก็ไม่สะทกสะท้าน คนแถวนั้นเขาก็คิดแค่ว่ามันแกล้งผมเพราะมันก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่าการรัดผมเอาในอ้อมแขนมัน
“มึงไม่ได้ยินหรอไงว่าเขาบอกให้ปล่อย?” ทุกคนบนโต๊ะมองไปที่ทิศทางที่คนมาใหม่เข้ามา
“ใครวะ มึงมายุ่งไรด้วย นี่แฟนเขาเล่นกัน” แฟนพ่….มึงสิ ผมอยากจะตะโกนใส่หน้ามันแต่ก็ทำได้แค่ดิ้นแรงๆให้หลุด
“เชี้ยท๊อป นี่มันพี่โทนประธานสโมนะมึง”
ไอ้แป๊ปที่นั่งใบ้ก่อนน่านี้เหมือนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าใคร ไอ้ท๊อปทำเสียงไม่พอใจก่อนจะปล่อยผมออกให้เป็นอิสระ
“ก็แค่เพื่อนเล่นกันน่ะพี่ อย่าถือสาเลย” ไอ้แป๊ปรีบเอ่ยบอกพี่
“พวกมึงเล่นก็ควรมีขอบเขตหน่อยไหมวะ คนเขาไม่ชอบก็ยังรังแกอยู่นั้น” พี่โทนว่าพลางจับมือผมให้มายืนข้างๆก่อนจะพาออกจากร้าน
“ทำไมเวลาเจอนายทีไรมีแต่เรื่องทุกที” พี่โทนว่าพลางขมวดคิ้วส่งสายตาดุมาให้
“ขอโทษครับ” ผมไหว้ขอโทษพี่เขาก่อนก้มหน้ารับความผิด
“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น พี่ไม่ได้ว่าเรา” พี่โทนว่าพลางจับหัวผมโยกไปมา อีกแล้วทำแบบนี้อีกแล้ว ฮื่ออออ อกอิแป้นจะแตก อิเอ๋ช่วยกูด้วยยย
“เจอกันหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่รู้จักชื่อเราเลย แนะนำตัวหน่อยสิ” พี่โทนถามออกมาขณะที่กำลังเดินออกไปด้วยกัน
“ครับ! ชื่อว่าน เรียนอยู่ปี2 คณะศิลปะศาสตร์ เอกอิ้งครับ” ผมตอบออกไปอย่างกระตือรือร้น
“โอเคเสียงดังฟังชัด แล้วว่านกำลังจะไปไหนล่ะ” อ้าก ชื่อของผมที่ออกมาจากปากของเขามันช่างน่าฟังมากๆเลยครับ
“อ๋อ กำลังจะกลับหอน่ะครับ แล้วพี่ล่ะกำลังไปไหนหรอ”
“จะไปเอากับข้าวที่สั่งเอาไว้น่ะ”
“เยอะมั้ยครับ ให้ผมช่วยถือไหม” ผมรีบอาสาเป็นผู้ช่วยถือของ
“หื้ม ถือไหวหรอมือเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือไง” พี่โทนว่าพลางชี้นิ้วมาที่มือของผม
“แค่นี้ไม่มีปัญหาครับ ฮึ้บๆ” ผมทำท่ากำแบๆให้พี่เขาดู เขาก็ทำหน้าคล้ายจะขำๆผมแต่ก็ไม่ได้หลุดเสียงใดออกมาก่อนจะเดินนำผมไปที่ร้านอาหารเพื่อขนข้าวกล่องไปที่ห้องสโมสรที่มีกลุ่มเพื่อนๆเขานั่งรออยู่
เมื่อผมเข้าไปในห้องกับพี่โทน เพื่อนๆเขาก็หันมามองผมเป็นตาเดียวกันว่าผมคือใคร พี่โทนเลยบอกน้องที่รู้จักอาสามาช่วยยกอาหารให้และบอกให้พวกเพื่อนๆขอบคุณผมเพราะถือว่าผมเป็นผู้ต่อชีวิตพวกหมาจรจัด เพื่อนๆเขาก็ส่งเสียงร้องโห่พร้อมขว้างปาข้าวของมาใส่พี่โทนที่ว่าตนเองเป็นหมากัน ก่อนที่ผมจะขอตัวลากลับหอเพราะนี้ก็เริ่มดึกแล้ว
“ผมกลับแล้วนะครับพี่ๆ สวัสดีครับ” ผมไหว้และกล่าวลาพี่ๆทุกคนที่กำลังนั่งกินข้าวกันอย่างหิวโหย
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง ไอ้กรมยืมกุญแจมอไซค์หน่อย” และพี่เขาก็เดินออกมาพร้อมพาผมไปที่ลานจอดมอเตอร์ไซค์
“ขึ้นมา หออยู่ตรงไหนบอกทางพี่ด้วยนะ” ผมรีบขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปตามคำชวนของเขา
“หอผมอยู่สุดซอยเลยครับฝั่งซ้ายมือตึกสีเขียวๆ” ผมตะโกนบอกพี่เขาพร้อมกำเสื้อพี่เขาแน่น
อิเอ๋มึงต้องไม่เชื่อกูแน่ๆเลยว่าพี่เขาอาสามาส่งกู อร้ายยยยย ฟินโว้ยยยย ขอสูดดมกลิ่นพี่เขาซักนิดคงไม่น่าเกลียดหรอกมั้ง ฟื้ดดดดดดด อ่าาาา หอมมากกกก
แต่เอ๊ะ อะไรเปียกๆตรงจมูก เชี้ย!!! เลือดกำเดาไหล นี้กูหื่นจนขนาดเลือดไหนเลยหรอวะ ทำไงดีๆและดันประจวบเหมาะกับที่มอเตอร์ไซค์จอดพอดี
“ถึงแล้ว หื้อ เฮ้ยว่าน เป็นไรวะ” พี่โทนว่าอย่างตกใจเมื่อเอี้ยวมาด้านหลังเพื่อจะพูดกับผม เขารีบล้วงเอาผ้าเช็คหน้าตัวเองมาซับเลือดให้ผม
“มะ ไม่เป็นไรครับพี่” ตอบพี่โทนพลางจับผ้าเช็คหน้าอุดรูจมูกที่มีเลือด
พี่โทนจับหัวผมให้แหงนหน้าขึ้นและอยู่ๆเขาก็ก้มลงช้อนตัวผมขึ้นในท่าเจ้าสาวเพื่อเดินพาผมขึ้นไปที่ห้อง
// ฮื่ออออ หัวใจทนไม่ไหวแล้ว รับอะไรไม่ไหวแล้ว // มาเป็นเพลงเลยตู
“ห้องอยู่ชั้นไหน เบอร์ห้องอะไร”
ผมรีบดึงสติที่กำลังจะลอยออกไปกลับมาและบอกพี่เขาไปพร้อมกับหยิบกุญแจขึ้นมาไขเมื่อมาถึงหน้าห้อง ผมรีบบอกให้พี่โทนปล่อยผมลงที่พื้นเพราะมันถึงห้องแล้วไม่เป็นไร
“เป็นบ่อยหรอที่เลือดกำเดาไหลน่ะ”
“เอ๊ะ ก็นานๆทีครับ ถ้านอนไม่พอหรือร้อนมากๆ”
ไม่กล้าบอกความจริงครับ เดี๋ยวพี่เขาจะกลัวผมซะก่อน เขาพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้ามาใกล้แล้วช้อนหน้าผมขึ้นมามองสำรวจ
“อีกหน่อยก็หยุดไหลแล้ว หาน้ำแข็งประคบเอา” ฉ่าาาา เสียงหน้าผมเองครับ เอาเนื้อมาวางได้เลยรับรองสุกทันกินแน่ๆ
“คะ ครับ ขอบคุณมากๆครับ”
เขินครับ เอาจริงๆอยากจะข่มขืนพี่มันซะตรงนี้ซะเลย
อิว่าน สติค่ะสติ เอ๊ะ เสียงอิเอ๋ยังคอยมาตามหลอกหลอนทั้งๆที่ตัวมันไม่อยู่หรอเนี่ย บรื้อออ
“อืม งั้นพี่ไปแล้วนะ” ว้าก พี่เขาจะไปแล้ว เอาวะโอกาสนี้ล่ะ
“พี่โทนครับ คือ ผมจะขอไลน์พี่ไว้ได้ไหมครับ” กลั้นใจขอไปอย่างน้อยก็เผื่อฟลุ๊ควะ แล้วคนตรงหน้าก็ยื่นโทรศัพท์ตัวเองที่มีหน้าแอปพลิเคชั่นสีเขียวๆขึ้นมาให้
“ได้สิ พิมพ์ของเราลงในนี้แล้วกดแอดเลย” โฮ้ยยยย ได้จับโทรศัพท์พี่เขาด้วยอะมันช่างแข็งแรงจริงๆ (เดี๋ยวๆอิว่าน มันก็มือถือทั่วๆไปมั้ยย่ะ)
ตรึ้ง!
“อ่ะ ได้แล้วครับ ขอบคุณนะครับ” เขาพยักหน้าลาผมและเดินออกไปจากห้อง
ผมรีบเดินไปล็อคประตูแล้วกลับมานอนกรี๊ดใส่กับหมอนของตัวเอง ก็กลัวคนอื่นเขาได้ยินแล้วหาว่าบ้านี่นาเลยต้องเอาหมอนอุดปากมันซะ แฮ่ะๆ ถึงจะได้ไลน์มาแล้วแต่ผมก็ยังไม่กล้าส่งอะไรไปทักทายครับเอาแต่นั่งมองรูปโปรไฟล์เจ้าตัวอยู่แบบนั้นทั้งคืนจนหลับไป
…………………………………………………………
ตอนนี้จะยาวๆนิสนึงเน้อออ TBC จ้า
น้องมันหื่นขึ้นคอ พี่มันก็ไม่รู้ตัว