ตอนที่ 03
ในคืนนั้น
วันนี้ผมมาฉลองกับเพื่อน จริงๆต้องบอกว่าโดนลากมาน่าจะถูกกว่าเมื่อผมไม่ได้อยากมาเลยสักนิด
ช่วงนี้หลายโรงเรียนเริ่มปิดเทอมกันแล้วโดยเฉพาะชั้นปีสุดท้ายของมัธยมปลายที่ได้สิทธิปิดก่อนชั้นเรียนอื่นเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย ผมเรียนโรงเรียนเอกชนก็จริงแต่ครั้งนี้ดันปิดพร้อมๆกับเด็กของรัฐบาลเสียอย่างนั้น คนพวกนี้ก็เฮฮากันเองจนไม่สนคนอื่นเลยจริงๆ
ผมขอตัวกลับก่อนเพราะทนเสียงดังไม่ไหว ถ้าจะให้เข้าผับจริงขอนั่งกินกันเงียบๆดีกว่า
เดินไปไม่กี่ก้าวอยู่ดีๆก็มีคนมาดึงเสื้อไว้แถมคว้าหมับเข้าที่เอวอีกต่างหาก จะให้สลัดออกตอนนี้คงได้ล้มหัวคะมำก็เลยปล่อยไว้แบบนั้นก่อน
“... อือ พากูกลับที” คนๆนั้นพูดแล้วเอาหัวถูไถไปมาเหมือนกับจะอ้อน มันดูตลกดีสำหรับผู้ชายตัวไม่ใช่น้อย
ถือว่าผมว่างก็แล้วกันจึงได้หิ้วปีกออกไปให้ ว่าจะไปส่งขึ้นแท๊กซี่ข้างหน้าคงได้อยู่ เจ้าตัวคงจะเมาหนักจริงๆถึงได้ทิ้งน้ำหนักตัวมาเต็มที่จนแทบจะเซล้มไปด้วยกันทั้งคู่
ก็ไม่ได้ตัวเล็กนี่ครับ สูงประมาณคางผมได้ น่าจะซักร้อยแปดสิบ
“ยืนดีๆครับ” พอบอกไปก็พยายามจะผละหนีผมก็เลยรั้งเข้ามาไม่งั้นคงล้มไปกับพื้น
“ปล่อย อึก ไปไหน”
“ก็จะพากลับไงครับ บ้านคุณอยู่ไหนน่ะ”
“ม่ายกลับ ม่ายปายบ้าน” เอ้า งานงอก แบกออกมาจากงานแล้วจะให้โยนทิ้งไว้แถวนี้ก็ยังไงอยู่ ผมก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น
“ครับๆ ไม่ไปก็ไม่ไป แล้วจะไปไหนล่ะครับ เฮ้ย! คุณๆ”
หลับครับ ทรุดลงกับพื้นจนรับเกือบไม่ทัน ว่าจะทำตัวเป็นคนดีแต่รู้สึกเหมือนหาเรื่องใส่ตัวยังไงก็ไม่รู้ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นก็เลยตัดสินใจแบกกลับมาที่รถของตัวเอง
“ตื่นมาอย่าลืมขอบคุณผมนะคุณ” ว่าไปแบบนั้นแต่คนหลับก็คงไม่รู้เรื่องหรอก
เมื่อวางเขาไปตรงที่นั่งข้างคนขับแล้วก็ปรับเบาะเอนให้ หน้าที่เข้าไปใกล้ทำให้สังเกตอีกคนได้ชัดเจน ขนตายาวเรียงกันเป็นแพจมูกเป็นสันสวยหน้าเรียวคม ลุคการแต่งตัวเป็นสีดำเข้ากับตาคมที่หางตาชี้ น่าจะดื้อไม่น้อยเลยทีเดียว
ขับรถมาจนถึงคอนโดแล้วพยุงอีกคนเข้าห้องอย่างทุลักทุเลก่อนจะโยนไปไว้บนโซฟาสีดำกลางห้อง
เหนื่อย หนัก แล้วก็ลำบาก ...ไม่น่าเลยจริงๆ
ยังไม่ทันที่จะขยับออกแขนเขาก็เกี่ยวคอผมไว้แน่นแถมพึมพำหาเตียงนอนอยู่แบบนั้น แขนก็เหนียวเหลือเกินแกะยังไงก็ไม่ออก หันไปมองทางห้องนอนที่ไม่ค่อยมีใครได้เข้าไปก่อนจะถอนหายใจแล้วแบกเจ้าตัวไปทางนั้น
ขนาดเมาไม่รู้ตัวยังดื้อขนาดนี้ ตอนสติครบไม่รู้ว่าจะขนาดไหน
ตุบ!
จับโยนส่งๆไปบนเตียงก่อนจะเข้าไปอาบน้ำกลับมาอีกครั้งก็เจอคนนอนแผ่หลาเต็มเตียงราวกับเป็นเจ้าของ บอกเลยครับว่าอารมณ์เสีย ห้องส่วนตัวที่ไม่เคยให้ใครเข้ามาก็พาเข้ามาแล้วนี่ยังจะแย่งที่นอนผมแบบเต็มที่อีก ว่าจะใจดีด้วยก็คงไม่ได้แล้วล่ะ
“คุณ! นี่คุณ! ถ้าจะนอนก็ไปนอนริมๆหน่อย นี่!” ก้มหน้าลงไปเรียกอีกฝ่ายแต่เขากลับหันหน้าหลบจนต้องเรียกซ้ำๆ
“อุบ!”
แขนเรียวเอื้อมมาคว้าคอเสื้อผมลงไปหาก่อนจะประกบปากจูบถึงแม้ผมจะไม่คิดอะไรมากแต่ก็ไม่ได้คิดอยากจะจูบกับผู้ชายด้วยกันเลยสักนิด พยายามดึงอีกฝ่ายออกแต่เขาก็ยังพยายามรั้งคอผมไว้จึงได้ปล่อยเลยตามเลยคิดว่าเดี๋ยวก็คงหยุด สัมผัสหยุนๆกับกลิ่นแอลกอฮอล์เหมือนจะทำให้ผมมึนเมาไปด้วยเพราะจู่จากที่อยากจะผลักอีกฝ่ายออกก็กลายเป็นฝ่ายบดจูบลงไปแทน
ไม่ใช่ไม่เคยมีอะไรกับผู้ชาย แต่คนที่เคยนอนด้วยไม่เคยมีแบบที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ แถมที่เคยเลือกไว้ก็หน้าหวานหยดเหมือนผู้หญิงไม่ก็แบบน่ารักๆ แบบเขาคนนี้ไม่เคยเลยจริงๆแต่ก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน
ช่วยอีกฝ่ายให้ปลดปล่อยไปได้ครั้งหนึ่ง ไม่เคยเอาส่วนนั้นของผู้ชายเข้าปากมาก่อนวันนี้ก็ยังทำจนอดที่จะแปลกใจตัวเองไม่ได้ ดังนั้นของแลกเปลี่ยนก็ต้องมีค่าพอๆกันหรือมากกว่าจริงไหม
“โทษผมไม่ได้นะ คุณเป็นคนเริ่มก่อนเองนะเต้ หึหึ”
เท่าที่ถามมาเขาชื่อเต้ ภาพที่อยู่ตรงหน้าจะบอกว่าน่ารักก็คงไม่ถูก หน้าแดงๆตาปรือปรอยจากความเหนื่อยล้า รอยรักสีสดที่ผมแต้มไว้ตามตัวยิ่งขับผิวกายที่เหลือให้ดูขาวผ่อง
เซ็กซี่! ต้องใช้คำนี้ถึงจะถูก
“อย่าพึ่งหนีกันไปก่อนสิ” ผมทักเมื่ออีกคนกำลังจะหลับไป
อาศัยช่วงนี้ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมดแล้วก้มมองดูเขาอีกครั้งที่ตอนนี้นอนหายใจแผ่วๆเหมือนกำลังหลับ มองอยู่สักพักก็คิดวิธีปลุกดีๆออกเมื่อมองเห็นยอดอกสีสดตัดกับผิวนั้น
ลดมือลงไปสัมผัสเบาๆให้อีกคนครางครือก่อนจะกดเน้นย้ำแล้วรอดูปฏิกิริยาของอีกฝ่าย ร่างกายบิดเร้าอยู่ใต้ร่างชวนให้อยากครอบครองเป็นเจ้าของ กลิ่นที่ยังคงติดจมูกทำให้ต้องก้มลงไปดอมดมอีกครั้งที่ข้างแก้มก่อนจะคลอเคลียอยู่แบบนั้นกับช่วงคอและลาดไหล่กว้างดูแข็งแรง
แปลกใจตัวเองกับความรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยกับการทำแบบนี้ ทั้งๆที่มันควรจะเป็นความเคยชินแล้วก็ลงมือจับกดแล้วปลดปล่อยไปอย่างที่เคย ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ถึงค่อยๆมาเล้าโลมคนตรงหน้าให้มากมายนักราวกับการทำให้คนรักที่ต้องเฝ้าถนอมดูแล
คนรัก? ทำไมถึงคิดไปได้แบบนั้นนะ
มองดูคนตัวโตที่ตัวเล็กกว่าตัวเองไปไม่เท่าไหร่ก็ต้องแปลกใจแล้วแปลกใจอีกกับความคิดที่ไม่ปกติของตัวเอง นอนกับผู้ชายตัวเล็กบ้างแต่ไม่ได้หมายความว่าชอบเพราะผู้หญิงตัวนิ่มน่ากอดกว่าเป็นไหนๆอยู่ดี
ไม่ค่อยเข้าใจหรอกกับคำว่าความรัก แต่ก็น่าจะลองดูเพราะใครๆก็ตามหามัน บางทีก็อาจจะดีกว่าอยู่คนเดียว
ก้มลงไปกดปากเบาๆที่ริมฝีปากสีสดจากอาการบวมช้ำที่ตอนนี้จูบตอบกลับมาเบาๆ เหมือนความเข้าใจเมื่อครู่จะถูกต้องในเมื่อหัวใจเต้นตึกและแปลกไปกว่าปกติจนรู้สึกได้เมื่ออีกฝ่ายตอบรับสัมผัสที่ยืนให้
รู้สึกเต้จะยังเบลออยู่แล้วคงคิดว่าผมเป็นผู้หญิงซักคนของเขาเพราะมือใหญ่ที่มีนิ้วเรียวยาวค่อยๆยกขึ้นมาลูบไล้ไปตามเนื้อตัวของผมบ้าง มือที่หยาบน้อยๆปะป่ายไปตามสีข้างก่อนจะเลื่อนขึ้นไปสำรวจบริเวณอก ผมหยุดมองดูเขาที่ขวมดคิ้วนิดๆทั้งๆที่ยังหลับตาแล้วก็ต้องกลั้นขำ สงสัยเพราะหาหน้าอกไม่เจอก็เลยคิดว่าคว้าเอาผู้หญิงอกเล็กมาล่ะมั้งเพราะยังคงลูบไล้วนเวียนอยู่แบบนั้นไม่ปล่อยเพื่อเล้าโลมคู่ขา
ผมก้มลงไปหมายจะชิมยอดอกสีสวยนั้นอีกครั้งแต่ถูกดันออกแล้วผลักออกด้านข้างจากนั้นเขาก็ขึ้นคล่อมทันที ริมฝีปากอุ่นๆจูบซับไปตามลำคอของผมจนรู้สึกเจ็บจากการดูดเม้ม มือไม้ไล้วนไปทั่วตัวแล้วบีบเคล้นอย่างไม่ออมมือ ไม่ได้เจ็บมากเพราะผมออกกำลังกายมาดีกล้ามเนื้อเลยแข็งแรงทนมือ ไม่อยากคิดว่าถ้าเป็นผู้หญิงมาโดนจะเป็นยังไงในเมื่อเขาไม่ได้ออมแรงเลยสักนิด
เถื่อนเหมือนกันนะเนี่ย แต่คิดจะกดผมนี่ฝันไปเถอะ!
เอื้อมมือไปหยิบขวดวาสลีนที่หัวเตียงแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายไซร้คออยู่แบบนั้น มือยกขึ้นจับสะโพกแน่นที่ลอยเด่นมาบีบหนักๆจนเจ้าตัวครางอืออยู่ข้างหูแถมยังกัดลงบนไหล่จนเจ็บแปรบ
รุนแรงจริงๆ ไม่รู้ใครจะแหลกคามือใครแล้วเนี่ย
บีบนวดอยู่อย่างนั้นสักพักก่อนจะเลื่อนไปแตะเบาๆที่ปากช่องทางด้านหลังแต่อีกคนเอื้อมมาปัดมือออกแต่ผมก็ไม่ลดละความพยายามอ้อมไปสัมผัสข้างหลังนั้นอีก
“ฮื้อ! ไม่เอา”
เสียงแหบพร่าดังเบาๆอยู่ข้างหู มือถูกปัดออกหลายทีจนเหลืออดก็เลยรวบตัวของอีกคนมาแนบอกไม่ให้ขัดขืน มืออีกข้างก็ชุ่มด้วยวาสลีนจนมันวับแล้วแตะลงบนช่องทางด้านหลังอีกครั้งเบาๆ เต้พยายามดิ้นหนีแต่ก็ไม่หลุดเพราะแขนแนบลำตัวถูกล็อกให้กดลงบนอกหนาพร้อมกัน มือที่พยายามจะเอื้อมไปข้างหลังก็ไปไม่ถึงทำให้สบถออกมาแต่ฟังไม่ได้ศัพท์ถึงแม้จะดังอยู่ข้างหูก็ตาม
นิ้วกลางกดลงไปเบาๆแต่เข้าไปได้แค่นิดหน่อยเพราะอีกคนเกร็งตัวแน่น แขนที่ใช้รวบตัวคลายออกเพราะอีกคนเริ่มถ่ายน้ำหนักลงมาทับเต็มที่แล้วตัวสั่นน้อยๆ มือที่ว่างลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเพื่อปลอมประโลมให้อีกคนคลายตัวก่อนจะดันหน้าอีกฝ่ายขยับมาประกบจูบ
ช่องทางเริ่มคลายตัวลงเพราะรสจูบที่ดูดดื่มทำให้ลืมสิ่งแปลกปลอมไปได้บ้างจึงค่อยๆดันนิ้วเข้าไปจนสุดความยาว เต้สะดุ้งโหยงครางอือพยายามเอาหน้าออกแต่ผมก็กดท้ายทอยเอาไว้ มือขวาขยับหมุนวนภายในจนเจอเข้ากับจุดที่ทำให้อีกคนตัวสั่นระริก กดย้ำอยู่แบบนั้นไม่นานก็เพิ่มนิ้วที่สองเข้าไป
“อะ อึก!”
ความคับแน่นทำให้ถึงกับหลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ปากผละออกจากกันก่อนที่เต้จะพยายามขยับหนีผมจึงถอนมือออกช้าๆแล้วผลิกเขาลงไปอยู่ข้างล่างตามเดิม
เต้ดูเหมือนจะยังไม่ทันตั้งตัวผมก็เลยรีบสอดนิ้วเข้าไปตามเดิมก่อนที่สติเขาจะกลับมาครบ นิ้วจากสองกลายเป็นสามที่ค่อยๆเข้าไปหมุนวนเพื่อเตรียมรองรับสิ่งที่ใหญ่โตกว่า จุดแห่งความรู้สึกภายในถูกกดย้ำอีกครั้งเมื่อพบเจอจนอีกคนครางครืออย่างอดไม่ได้ ส่วนสำคัญกลางลำตัวของอีกฝ่ายที่กรึ่มๆถูกรูดรั้งเบาๆโดยเจ้าของที่อยากจะปลดปล่อยเต็มที
“อะ ปละ ปล่อยนะ แม่ง!” เต้ร้องออกมาเมื่อมือถูกหยุดไว้ ตาคมจ้องมาอย่างไม่พอใจก่อนจะพยายามชักรูดต่อไปเรื่อยๆ
แต่มีเหรอที่ผมจะยอมให้ไปก่อนอีกครั้งทั้งๆที่ผมยังไม่ได้ปลดปล่อยเลย
เปลี่ยนจากนิ้วเป็นน้องชายของผมเองที่ค่อยๆสอดใส่เข้าไปแต่เพราะอีกคนยังยุ่งอยู่กับส่วนอ่อนไหวของตัวเองก็เลยไม่ทันได้มองจึงไม่มีใครห้ามผมเลยกดตัวเองเข้าไปช้าๆ
“โอ๊ย! เชี่ย! เจ็บ!”
เต้ร้องขึ้นและพยายามขยับออกผมจึงรั้งเอวไว้ น้องชายของเขาที่แข็งตัวเต็มที่เมื่อครู่อ่อนยวบลงจนดูน่าสงสารผมจึงเข้าไปขยับรูดปลุกเร้าให้แทนส่วนมืออีกข้างก็เคล้นคลึงยอดอกให้เบาๆ
“มึงเอาของมึงออกไปนะ”
“ก่อนหน้านั้นผมบอกให้เรียกชื่อผมไม่ใช่เหรอครับ”
“ถ้ากูเรียกมึงจะเอาของมึงออกไปไหมล่ะ” เต้ถามด้วยแววตาโกรธๆ
“คิดว่าไม่นะครับ”
“สัด! มึงรีบเอาออกไปเลยนะ กูผู้ชายมึงตาบอดหรือยังไงถึงได้มาเอากูเนี่ย”
“เรื่องนั้นผมรู้ครับ มาถึงขั้นนี้แล้วทำใจเถอะ ผมไม่ปล่อยคุณไปหรอกน่า”
“มึงมัน ชะ อึก อ๊ากกก สัดเอ๊ย!”
ผมดันน้องชายเข้าไปจนสุดเมื่ออีกคนเริ่มจะคลายตัวเพราะสิ่งที่ผมปลุกเร้าให้ขณะคุยกันกับอีกฝ่าย สงสัยเจ้าตัวคงจะลืมไปแล้วว่าผมยังคาอยู่ที่ช่องทางข้างหลังเพราะมัวแต่ชวนทะเลาะ
“เจ็บเดี๋ยวเดียวก็หายแล้วครับ เรามาสนุกกันดีกว่า”
“สนุกกับผีน่ะสิ!” เต้พูดก่อนจะยกขาซ้ายขึ้นเตรียมจะถีบผมออกแต่ดีที่จับข้อเท้าที่ยกขึ้นสูงนั้นไว้ทัน
ตาที่มองมาดูโกรธแค้นแต่ก็ต้องทำหน้าเหลอหลาเพราะผมจับข้อเท้าที่ถือเอาไว้มาจูบเบาๆ หน้าตาเหมือนทำอะไรไม่ถูกนั้นก็น่ารักไปอีกแบบครับ ตอนแรกแค่จะแกล้งเล่นแต่ผลที่ได้ก็น่าสนใจพอดู
ขณะที่อีกคนไม่ได้สนใจผมก็ถอนตัวออกเกือบสุดแล้วกระแทกเข้าไปใหม่จนอีกฝ่ายดิ้นพล่านด้วยความเจ็บ ฟันกันกันแน่นน้ำตาซึมจนน่าสงสารแต่ไม่ถึงกับไหลออกมา ตายังคงจ้องผมเขียวปั๊ดจนอดกลัวไม่ได้ว่าเช้ามาจะเป็นยังไงถ้าอีกคนมีแรง
ผมพยายามรูดรั้งน้องชายของอีกฝ่ายรอให้ช่องทางข้างหลังเคยชินเพื่อไม่ให้อีกคนเจ็บมาก เมื่อกี้ก็แค่จะแกล้งเขาแต่ครั้งเดียวก็เกินพอไม่งั้นช่องทางคงได้เจ็บช้ำกว่านี้
“อย่าเกร็งสิครับ ไม่งั้นจะเจ็บเอานะ”
“มึงลองมาเป็นกูไหมล่ะจะได้รู้ว่ามันเจ็บแค่ไหน” ตัวอ่อนเปลี้ยแต่ปากยังคงแข็งแรงได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ
ส่วนกลางตัวของเต้เริ่มแข็งขืนขึ้นมาอีกรอบจนน้ำปริมตรงปลาย ช่องทางเริ่มคลายตัวลงแต่ไม่มากผมจึงก้มลงไปจูบให้อีกคนลืมเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น การจูบตอบที่รุนแรงทำให้การสัมผัสวาบหวามมากขึ้นเหมือนอีกคนก็พยายามจะลืมเรื่องที่ตัวเองโดนอยู่เหมือนกันเลยหาที่ระบาย
“อะ อ๊า... มึง อึก มึง... มันลึก”
ผมยกมือที่จิกลงบนที่นอนมาคลองคอก่อนจะขยับเข้าออกช้าๆ หัวใจเต้นแบบแปลกๆตั้งแต่ก่อนหน้านี้กำลังระรัวเป็นกลองอยู่ในอกเหมือนรู้สึกกำลังถูกเติมเต็มในใจบางส่วนที่มันว่างเปล่า
อา... ผมคงปล่อยเขาไปไม่ได้จริงๆ
ถ้ามันจะเข้ากันได้ขนาดนี้ผมก็จะรั้งเขาไว้กับผมตลอดไปนี่แหละ คงต้องไปคิดหาวิธีครอบครองแบบจริงจังแล้วสิ
หวา... ตอนนี้ผมรู้สึกอยากแกล้งเขาจังเลย
“หยะ หยุดทำไมวะ!” เขาพูดออกมาด้วยความไม่พอใจแล้วมองผมนิ่ง
ผมดึงมือเขาที่จิกลงบนหลังผมข้างหนึ่งออกมา เต้ดูจะงงๆกับการกระกระทำของผมก่อนจะหน้าแดงก่ำแล้วหันหน้าหนีเมื่อผมยกหลังมือเขาขึ้นจรดริมฝีปาก
ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายตัวโตๆจะทำหน้าตาได้น่ามองขนาดนั้น
“หึหึ” พอผมหัวเราะเขาก็รีบชักมือออกไปผมก็เลยดึงมาคล้องไว้ที่คอเหมือนเดิมแล้วขยับต่อ
เสียงหอบหายใจดังประสานกันดังลั่นห้อง เสียงเนื้อกระทบเนื้อก็ไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนแรงลง เตียงนิ่มยุบตัวลงไปตามแรงกดทับ คนสองคนขยับตัวรับจังหวะกันเป็นอย่างเป็นดีผลัดเปลี่ยนกันประทับจูบอย่างไม่มีใครยอมใคร
“มะ มึง มีแรง อะ มีแรงแค่นี้เหรอไงวะ”
เหมือนคำปรามาทที่ให้อีกคนยิ่งขยับตัวไวขึ้นเพื่อให้คนที่สบประมาทร้องเสียงหลง เสียงแหบทุ้มแต่ก็แปร่งพร่าน่าฟังดังสลับกับอาการหายใจถี่รัวขณะตอบรับการขยับ
“อา เต้ครับ เป็นแฟนกับผมนะ”
“ไม่!” เสียงที่ตอบกลับมาอย่างชัดเจนทำให้ทุกอย่างหยุดกึก
“ทำไม?” เขาก็ตอบรับทุกสัมผัสของผมดีนี่นา หรือผมจะทำอะไรผิดขั้นตอนไปหรือเปล่านะ
“มึงเป็นผู้ชาย แล้วกูไม่รู้จักมึง จบนะ!”
“ก็ผมเป็นผู้ชายน่ะสิถึงเข้าไปในตัวคุณได้ แล้วผมชื่อพีทคุณก็รู้จักแล้วนี่”
“เชี่ย กูรู้จักแต่ชื่อป่ะ”
“งั้นมารู้จักส่วนอื่นๆของผมกันดีกว่า” พูดจบก็ไม่รอให้อีกฝ่ายปฏิเสธ กดจูบลงไปปิดปากที่อ้าค้างแล้วขยับตัวอย่างกระแทกกระทั้นให้อีกฝ่ายจิกข่วนลงบนแผ่นหลังจนแสบ
ความเร็วที่เพิ่มขึ้นกับแรงส่งที่มากตามทำให้ฝั่งฝันใกล้มาเยือนคนทั้งคู่ ความเร็วและการขยับสอดประสานจากเบื้องล่างค่อยๆรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ มือที่ว่างก็ช่วยขยับให้คนข้างล่างเพื่อไปถึงฝั่งฝันพร้อมกันแต่เหมือนอีกคนกำลังจะไปก่อนอีกครั้งจึงได้บีบกระชับส่วนนั้นไว้ไม่ให้ปลดปล่อย
“อึก มึง ปละ ปล่อนสิวะ” เสียงกระท่อนกระแท่นเพราะคนข้างบนยังคงกระหน่ำลงมาไม่ยั้ง
“บอก อา... บอกว่าจะเป็นแฟนกับ อึก กับผมก่อนสิครับ”
“อะ อะ มันใช่เรื่องไหมตอนนี้ อะ อ๊า มะ มึงปล่อย อ๊า...” อีกคนร้องลั่นมือผมใช้นิ้วโป้งขยี้ส่วนปลายทั้งๆที่กำลังบีบรัดน้องชายของเขาเอาไว้แน่น
“นะ นะครับ เป็นแฟนกับผมนะ”
“อึก อะ เออ! ยังไงก็ได้ อะ อา แล้ว แล้วแต่มึง ปละ ปล่อยสิวะ”
“งั้นเราเป็นแฟนกันแล้วนะ” พูดจบก็คลายมือออกแต่ยังไม่ปล่อยก่อนจะค่อยๆชักให้พร้อมกับจังหวะการกระแทกกระทั้นที่รุนแรงขึ้นตามสภาวะอารมณ์ที่ใกล้ถึงขีดสุด
“ เร็ว เร็ว... มึง เร็ว อ๊า พีท อึก อย่าแกล้ง” เขาท้วงเมื่อผมผ่อนแรงลง
“ครับๆตามบัญชาเลยครับ”
ผมขยับถี่รัวอีกไม่นานเขาก็ปลดปล่อยตามมาด้วยผมที่ขยับอีกไม่กี่ครั้งก็ปลดปล่อยเข้าไปในตัวเขาจนแทบล้นทะลักออกมา บอกตามตรงไม่เคยมีเซ็กครั้งไหนที่ยาวนานต่อรอบแบบนี้ คงด้วยเขาที่อึดอยู่พอตัวกับผมที่คิดว่าอึดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เลยเป็นแบบนั้น
เห็นไหมล่ะว่าเราเข้ากันได้ดีแค่ไหน
ผมล้มตัวลงไปกอดอีกคนที่หอบหายใจแรงไม่แพ้กัน พักกันเกือบสิบนาทีได้ก็รู้สึกว่าคนข้างล่างนิ่งกว่าปกติจึงเหลือบตามองดู หน้าตาตอนหลับดูเรียบร้อยกว่าเดิมเยอะ เหงื่อเต็มใบหน้าช่วยขับให้น่ามองกว่าที่เป็น ความเป็นชายที่ยังคาอยู่ยังไม่ได้ถอนออกไปก็ขยายตัวขึ้นมาอีกครั้ง
ไม่เป็นไร... คืนนี้ยังอีกยาวไกล ผมมีวิธีปลุกเขาขึ้นมา หึหึ
“อือ... พอ ...”
อา... เมื่อคืนนั้นสุดๆจริงๆ ไม่ได้นับว่าเล่นกันไปกี่รอบแต่ก็จนเช้า
เขากินยาและหลับสนิทไปแล้ว ตื่นมาคงได้เคลียร์กันอีกยาวแน่ๆ ผมว่าผมควรเตรียมตัวรับมือให้ดีเพราะถ้าอีกคนมีแรงขึ้นมาเมื่อไหร่ไม่รู้ผมจะเจออะไรบ้าง
หรือควรเรียกรถพยาบาลรอเลยดี...
เอ่อ... คิดว่าคงไม่เจอหนักขนาดนั้นมั้ง
tbc
--------------------
ใช้คำซ้ำมากเกินไปและไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร คราวหน้าจะให้ดีกว่านี้นะคะ