Ryu Story < เรื่องเก่าที่ผมประทับใจ และคอยเป็นน้ำหล่อเลี้ยงใจผมอยู่บ่อยๆ>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Ryu Story < เรื่องเก่าที่ผมประทับใจ และคอยเป็นน้ำหล่อเลี้ยงใจผมอยู่บ่อยๆ>  (อ่าน 58043 ครั้ง)

ออฟไลน์ GoneOn

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
แหม ไม่ได้ตั้งใจจะจับผิดซะหน่อย จริงก้ออ่าน แล้วก้อไม่ได้สนใจเลขตอนหรอกนะ

แต่พออ่านๆ ก้อ

อ้างถึง
วันต่อมา พวกเราก็ไปโรงเรียนกันตามเดิม พอเข้าคาบบ่ายหลังจากพักเที่ยง ฮิโตมิก็ไปห้องน้ำ พวกเราก็เรียนกันไปซักพัก ผมเห็นว่าทำไมเขาไม่กลับมาซักที


อ้าวว ฮิโตมิ!!    :o   ใครง่ะ  :confuse:

ยังงัยฝากคุณ Lonely Wind  ด้วยน๊า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-11-2006 18:28:18 โดย GoneOn »

FlukeHub

  • บุคคลทั่วไป
หุหุหุ..สนุกดีครับ

แต่ผมอ่านแค่เรื่องริวกับแบงคุงนะ

โชจิกับฮิโตมิผมข้ามไปอ่ะ  <<.....ผมไม่ชอบผู้หญิง !!~

แต่ถ้าเคลวินคู่กะผู้ชายผมจะรับไว้พิจารณา 555+

Lonely Wind

  • บุคคลทั่วไป
 ขอโต๊ดก๊าบบบบ

มะวานเบลอ ปายหน่อย    >_< ขออภัยอย่างแรง  ตอนที่ 16 แก้ให้แล้ว น๊า
อน่าโกรธกันน๊า :impress:

*************************************************************
 :laugh:19.Sport Games-กีฬาภายในของโรงเรียน



หลังจากวันวาเลนไทน์ไปได้ ประมาณ อาทิตย์นึงละมั้งครับ โรงเรียนของพวกเราก็มีการแข่งขันกีฬาหลายประเภทครับ แยกแข่งทั้งในโรงยิม สนามเอกประสงค์ แล้วก็สระว่ายน้ำด้วย เรียกว่าใช้หมดพื้นที่เลยทีเดียวคับ อ้อโรงเรียนของผมแบ่งออกเป็นคณะสีคับ มีทั้งหมด 5 คณะสีคับ พวกผมทั้งห้องเลยอยู่คณะสีเขียวคับ

ผมก็ลงแข่งด้วยนะ ก็ผมก็ชอบเล่นกีฬานี้นา ผมเล่นวอลเล่ย์บอลคับ แล้วก็ได้เป็นตัวจริงนักกีฬาด้วย ริวก็ลงแข่งวอลเล่ย์บอลกับผมด้วยคับ โดยมากพวกลงแข่งก็จะอยู่ ชุมนุมวอลเล่ย์บอล แล้วก็อยู่ชมรมวอลเล่ย์บอลด้วย โชจิก็ลงแข่งคับ เขาลงแข่งบาสเก็ตบอลด้วยคับ เคลวินก็ลงเหมือนกันน่าจะเป็นเทนนิส ฮิโตมิลงแข่งยิมนาสติกลีลาใหม่ด้วย ว้าว น่าไปดู อิอิ

แต่แล้วพวกผมทุกคนก็ต้องแข่งรวมกันคือ เบสบอลคับ โรงเรียนผมมีแข่งกีฬาสารพัดอย่างเลย เลือกไม่หมดจริงๆเลยคับ กีฬาภายในที่จัดเป็นเวลาถึง 3 วัน วันแรกจะแข่งประเภท กรีฑา กันคับ วันที่ 2 ก็กีฬาประเทภต่างๆ ส่วนวันสุดท้าย ก็จะมีพิธีต่างๆ ขบวนพาเหรด แฟนซี เชียร์ + Leader ด้วยคับ อ้อผมกับ โชจิเป็น Lead ชายให้กับคณะด้วย แล้วก็จะมีกีฬาใหญ่ๆอย่าง ฟุตบอล แล้วก็เบสบอลคับ งานแข่งเริ่มตั้งแต่ 7 โมง และสิ้นสุดประมาณ 5 โมงเย็นคับ ตลอด 3 วัน

กีฬาสีวันแรก วันนี้ก็มีการแข่งกันแล้วคับ เพื่อนๆในห้องผมคนหนึ่งเขาลงแข่งขันกระโดดสูงด้วยคับ พวกเราก็ไปตามดูกันถึงขอบสนามแข่งเลยคับ โรงยิมที่ว่ากว้างก็เต็มไปด้วยผู้คนเลยหละคับ ก็รู้สึกว่าวันนี้พวกผมจะไม่มีใครได้แข่งอะไรกันเลยเพราะโดยมากจะแข่งประเภท กีฬากันมากกว่า กรีฑาคับ ผมดูได้ไม่นานก็มีคนมาเรียก

"แบงคุง ไปได้แล้ว" โชจิบอก
"ไปไหนอะ"
"ไปซ้อมนะสิ" เขาพูดพลางเดินไป
"อ้อใช่ ผมยังต้องไปซ้อมลีดด้วย ลืมไปเลย ยังไม่ได้ท่าตึกถล่มเลย ท่านี้สุดๆท่าทำได้น่าจะได้ที่ 1 เลยคับตึกถล่มเนี่ย หลังจากนั้น ผมก็ไปฟังริวเล่ามา ส่วนตัวผมก็ไปซ้อมลีดคับ

ตอนเย็น พวกเราก็มาดูพวกผมซ้อมกัน อายเป็นนะ ชุดก็สุดยอดเลย เซ็กซี่มากเลยอะ เป็นชุดแบบแขกคับ พวกคนเตรียมชุดนี้ก็เป็น ม.6 คับเรื่องสแตนเชียร์ กับลีดเดอร์ จะเป็นพวก ม.6 เตรียมกันนะคับ แต่พวกเราก็ต้องช่วยถ้าพี่เขาเรียกไม่งั้นโดนยำ อิอิ ก็นับว่าจัดลีดได้ดีอะคับ คณะผมมีลีด 4 ชุด แบ่งเป็นชุดใหญ่ 1ชุด (ชุดนี้เอาไว้ประกวดคับ ก็ไอ้ที่ผมลงนี้หละ) เป็นแบบแขกเลยคับมีทั้งหมด 20 คน ลำบากน่าดูเลยเวลาซ้อมก็ห้ามใครมาดูด้วย ชุดกลาง 1 ชุด ชุดนี้เอาไว้เชียร์ที่สแตนเชียร์คับ มีทั้งหมด 12 คน แล้วก็ชุดเล็ก 2 ชุด มีทั้งหมดชุดละ 8 คน ไว้ไปเชียร์ตามสนามแข่งคับ พวกนี้เหมือนมากเลย รุ่นน้องมาบ่น ผมก็สงสารนะแต่เราก็เหนื่อยพอกัน

"เอ้า นับ 3-4" เสียงหัวหน้าลีดรุ่นพี่สั่ง ในขณะที่พวกผมก็เริ่มแปรขบวนเตรียมตั้งตัวในท่าตึกถล่ม
"แปรขบวนเสร็จสิ้น พร้อม" พวกเราต้องรับพร้อมกันเวลาตั้งแถวเรียบร้อยแล้ว
"ตึกถล่มพร้อม 3-4 แปรขบวน" หัวหน้าลีดสั่งตั่งท่าตึกถล่ม อิอิ มันอีกแล้ว ผมกับโชจิเป็นฐานอะคับ ฐานใช้ลีดชาย 6 คน คุกเข่าแล้วก็ให้ ลีด.หญิง 5 คนขึ้นไปซ้อนทับคล้ายๆกับกำแพง แล้วก็มีอีก 4 คนขึ้นไปซ้อนรวมเป็น 3 ชั้น
"แปรขบวนเสร็จสิ้น ตึกถล่มพร้อม" พวกผมตะโกนรับเมื่อตั่งท่าเรียบร้อยแล้ว
"Count Down" เสียงพี่เขาสั่ง แล้วพวกผมที่เป็นฐานก็จะเอนตัวลงข้างหน้า แล้วก็นอนราบลงไปกับพื้น พวกข้างบนหละลำบาก ทรงตัวยาก ก็ต้องกันไม่ให้หน้าคว่ำหละคับ ผมหละชอบจริงๆเลย ออกซาดิสดี
"ใช่ได้นี่" ริวพูด ผมก็พลางเดินมาหาเขาเสร็จจากซ้อมแล้ว
"แหม โชจิแต่งตัวน่ารักจังเลย" ฮิโตมิพูดเสียงดังจนได้ยิน พวกเขาก็พากันเดินออกมาทางเดียวกัน
"โหชุดนี้ วาบหวิว มากเลยนะเนี่ย" เคลวินพูด
"ก็ใช่อะดิ เสื้อนะแถบไม่ปิดอะไรเลย" ผมตัดพ้อ มันก็จริงๆอะนะต้องโชว์ตัวหมดเลย
"รีบกลับบ้านเหอะ วันพรุ่งนี้จะต้องแข่งกีฬาแล้ว" โชจิพูด
"เราพร้อมกันแล้วหละจริงไหม ริว" ผมถามริว
"ใช่.....เราซ้อมกันทุกวัน" เขาตอบ
"ซ้อมกันทุกวัน ซ้อมบนสนาม หรือซ้อมบนเตียงหละ" โชจิพูดย้อน พวกผมถึงกับสะอึกเลย เดี่ยวนี้มันปากจัดมากเลยไอ้ขี้เก๊กเนี่ย แล้วพวกผมก็พากันกลับบ้าน

กีฬาสีวันที่ 2 วันนี้หละคับพวกผมจะต้องลงแข่งด้วย ว้าว.......ผมได้ตารางแข่ง มาแล้วก็มาดูกับคนอื่นๆ วอลเล่ย์บอล แข่งอันหลังสุดคือหลังจากเที่ยง ตอนเช้ามี แข่งยิมของฮิโตมิ ในโรงยิมตอน 8 โมงคับ 10โมงมีแข่งบาสของโชจิ แล้วตอนบ่ายก็ของผมกับริว แล้วก็เคลวินคับ แข่งเวลาเดียวกัน

"ประกาศ ขอให้นักเรียนที่ลงแข่งขัน ยิมนาสติกลีลาใหม่รายงานตัวภายใน 20 นาทีนี้ด้วยค่ะ"
เสียงประกาศในโรงยิม พวกเราก็ไปคอยดูกัน ฮิโตมิเล่นใส่ชุดของตัวเองมาเลย สุดยอดเลย โชจิเห็นแล้วเลือดกำเดาออกเลย อิอิ คิดอะไรในใจหละเนี่ย ผมก็ดูยิมไม่ค่อยจะรู้เรื่องแต่ก็มีคนพากษ์ให้ฟังเสมอว่า เสียคะแนน คนนี้ได้คะแนนอะไรทำนองนี้หละ ถ้าผมดูเป็นก็จะบรรยายให้ฟังได้หรอกแต่ดูไม่เป็นอะคับ

พอฮิโตมิแข่งจบ ก็มีประกาศดัง

"ขอให้นักเรียนที่ลงกีฬา เบสบอลให้มารายงานตัวภายใน 20 นาทีด้วยค่ะ"

ผมกำลังจะหันไปบอกโชจิ แต่เขาวิ่งไปแล้ว เปลี่ยนชุดแล้วด้วย อืมม จากเดิมที่เท่หุ่นดีอยู่แล้วใส่ชุดแบบนี้นะ น่าเข้าไปกอดที่สุดเลย น่ารักมาก หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง โชจิก็แข่ง พวกผมก็ไปดูกัน ฮิโตมิก็มาดูทั่งที่ใส่ชุดนั้นหละ เล่นเอาพวกนักบาสหันมาดูบ่อยๆเลย

"เข้าไปแล้วคับ ลูกชูต 3 คะแนนจากเบอร์ 7 ของสีเขียว นายพิเชษฐ์คับ" โอ้โห เก่งนี่
"พิเชษฐ์ ตัวบุกหลักของทีมคับ กำลังบุกเข้าฝ่ายสีแดง คับ" เสียงโฆษกบรรยาย โชจิก็เข้าไปชู้ตลูกใต้แป้น เขาโดนเบียดจนลูกระเด็นเลย แล้วก็ตอนลงก็เสียหลักด้วย ล้มลงไปกับพื้นไม่พอ ยังเอามารองด้วย ทำเอาต้องหยุดเล่นเลย หลังจากทำเต้มไป 24 แต้ม
"เป็นไงบ้างหละ" ผมถามขณะพาคนเจ็บไปห้องพยาบาล
"ก็นิดหน่อย ไม่ต้องห่วงหรอก" เขาบอก
"ทีหลังระวังหน่อยนะ" ฮิโตมิพูดพลางพยุงเขาไป
"นี่เธอ เรานะแค่ข้อมือเจ็บนะ ไม่ต้องพยุงก็ได้ไม่ใช่ขาแพลง" เขาพูดพลางทำหน้าอายๆ ซึ่งผมก็กำลังจะถาม
"เอาน่า......."ฮิโตมิพูด .แล้วเขาสองคนก็พยุงกันไปห้องพยาบาล ผมหละงง จริงๆเลย
"ประกาศ นักเรียนที่ลงแข่งขันกีฬา วอลเล่ย์บอลให้ไปรายงานตัวภายใน 30 นาทีด้วยค่ะ"

อ้าวประกาศเรียกแล้ว ผมก็ไปเลยเพราะนัดกับริวไว้แล้ว ผมมาแล้วผมยังไม่เห็นริวเลย นี่ก็จะแข่งแล้วนะเขาหายไปไหนหละ ถ้าเขาไม่มาผมก็ไม่ลงด้วยหละ ไม่กล้าแข่งคนเดียว

"แข่งขันรอบแรกสีเขียวกับสี แดงนักกีฬาประจำที่ได้" เสียงกรรมการสนามประกาศ
ริวยังไม่มาเลย ทำไงดีหละ ผมก็คิดพร้อมกับมองหาอยู่ แล้วก็มีคนเอามือมาจับไหล่ผม
"มองหาอะไรอยู่ หนูน้อย ลงสนามได้แล้ว" ริวนั่นเอง แล้วเขาก็จูงมือผมลงสนามแข่ง กลางโรมยิม
"โห.....มีการจูงมือกันลงสนามด้วย" ผมหันไปมองต้นเสียง ไอ้โชจิกับฮิโตมินั่นเอง มาแล้วรึ ก็แสดงว่าไม่เป็นไรมาก

เสียงสัญญาณนกหวัดดังจากรรมการเริ่มได้ ผมอยู่ตำแหน่งกลางหลัง ส่วนริวอยู่ตำแหน่งกลางหน้า ฝ่ายผมเสิร์ฟก่อน พวกม.4เพื่อนผมเองชื่อบอยแต่คนละห้องกัน เขาตบได้แรงมากเลย เสิร์ฟมือบนนี้แบบ สตรีเหล็กเลย

"ปึง" เสียงเสิร์ฟไปแล้ว พวกผมก็เข้าท่าพร้อมรับกันแล้ว ฝ่ายนั้นรับได้แล้วเขาก็ส่งลูกกลับ มาตรงกลาง ผมก็จะเข้าไปรับ แต่ริว เอ๊ย ริวสุเกะ เขาก็ดันถอยมารับอีกทั้งที่มันเลยเขามาแล้ว เขาก็เลยชนผมเข้าเต็มๆ เลือดกำเดาออกท่วมเลย อาจารย์ก็เลยให้เปลี่ยนออกก่อน ผมก็ออกมาก่อน อาจารย์บอกไว้รอบุกแล้วค่อยเข้าไปใหม่

เกมส์ก็เริ่มไปเรื่อย ฝ่ายผมยังไม่ได้เสิร์ฟเป็นลูกที่ 2 เลยแต่คะแนนก็พอๆกัน 7 : 8 คับ ตามเขาอยู่ ตานี้หละผมได้ลงแล้ว ตำแหน่งผมก็คือตรงกลางหน้า ริวอยู่ข้างซ้ายผม รุ่นพี่ที่ชมรมอยู่ในตำแหน่งเสิร์ฟ พี่เขาเสิร์ฟไป ฝ่ายนั้นเขารับได้ ตบกลับมา ตรงกลาง มันเลยผมไปแล้ว รุ่นพี่ข้างหลังเขาก็รับ แล้วก็ส่งมาทางริว

"ตบ" ริวตะโกนบอกผม พร้อมกับตั้งลูกให้ผม ผมก็ตบมันลงไปคับ ว้าว.....ได้คะแนนแล้วคับ ผมทำได้หละ ลงพอดีเลยกลางๆสนามเลย อิอิ เสียงสัญญาณเป่าพักครึ่งก็ดังขึ้น

หลังจากพักแล้วพวกผมก็ลงต่อ มีการเปลี่ยนตำแหน่งกันนิดหน่อยด้วย คราวนี้ริวเสิร์ฟ ผมอยู่หน้าเขา เขาเสิร์ฟไป ฝ่ายนั้นก็รับได้อีก ริวเสิร์ฟเบาจะตายไป อิอิ อ่อนๆ เขาก็โต้กลับมาทางซ้าย เพื่อนผมก็เข้าไปรับคับ แล้วก็ส่งลอยมาทางผม

"หยอด เลย" ริวตะโกนบอก ได้เลย ผมก็หยอดลงไป อิอิ สำเร็จ หยอดหน้าเน็ตเลย ตอนนี้ 14 : 10 แล้วคับ ผมนำ อิอิ ทำได้ 2 ลูก ริวดิทำได้เพียบเลยวันนั้นพวกเราก็เลยชนะกันมาได้ อิอิ แต่ก็เข้ารอบแค่ได้เหรียญทองแดงเท่านั้นเอง ว้า แย่จังเลย

ผมแข่งเสร็จก็ บ่าย 4 โมงเย็นแล้ว รีบไปดูพวกเคลวินแข่ง ผมก็ไม่ได้ดูเพราะเขาแข่งเสร็จแล้ว ก่อนผมอีก ทุกคนไปรอกันหมดแล้วเหลือแต่ผมกับริวนี้หละ แข่งช้าสุด อิอิ ฮิโตมิเขาได้เหรียญเงินมา 1 อัน โชจิออกจากสนาม (รางวัลอะไรเนี่ย) ผมได้เหรียญทองแดง เคลวินได้เหรียญเงินมาคับ ก็นับว่าไม่เลวเลยกับการแข่งขันกีฬาภายในครั้งนี้.....สนุกจริงๆ ผมยังจำถ้าตบลูกแรกของผมได้ดีเลย พวกรุ่นพี่ๆที่ชุมนุม เขาเรียก ท่าตบใบไม้(ไม่)ไหว คือผมตบไม่มีเสียงเลยคับแต่มันแรงพอดูเลย....... (^-^!)

ส่วนวันสุดท้ายผมจำไม่ค่อยได้ ผมไปแค่แข่งลีดอย่างเดียวแล้วก็ลาพี่ๆเขากลับบ้านมาเลย เพราะไม่ค่อยสบายคับ หวัดแดด อาการหนักพอดูหละคับ

Lonely Wind

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh:20.Summer-ปิดเทอมฤดูร้อน


หลังจากพวกผมสอบกันเสร็จหลังงานกีฬาสีประมาณ 3 อาทิตย์ พวกผมก็ปิดเทอมฤดูร้อนกัน พวกเราก็มาตกลงกันว่าจะไปเที่ยวที่ไหนอะไรกันบ้าง

"เราอยากไปต่างจังหวัด" ฮิโตมิบอก
"อ้าวแล้วคุณพ่อคุณแม่เธอไม่ว่าหรอ" โชจิถาม
"ไม่หละ เราบอกท่านแล้วว่าอาจจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แต่ไม่ได้บอกว่า ชาย หรือหญิงนะ ท่านก็เลยให้"เธอตอบ
"งั้นก็ดี พวกเรามันอิสระอยู่แล้ว ตกลงจะไปไหมกันหละ" โชจิถาม
"อ้าว เจ้าแม่จอมบงการบอกมาเลย" เคลวินพูดพลางมองมาทางผม
"นั่นดิ จะไปไหน........" ผมพูดขึ้นมาลอยๆ
"ไปบ้านพักตากอาการของบ้านเราไหม" ริวถาม
"ที่ไหนหละ" ฮิโตมิรีบถามเลยเพราะเธอสนใจอยู่มาก "ก็แถวๆชลบุรีไปทางฉะเชิงเทราน่ะ"ริวตอบ
"ก็ดีตกลงไปกันเลย"ผมพูดทุกคนก็พยักหน้าในที่สุดพวกเราก็มีที่เที่ยวกันแล้ว

พวกผมออกเดินทางไปกันตอน 9 โมงเช้าของวันศุกร์ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงบ้านพักของริว เออ ใหญ่พอดูเลย แบบตกใจ อยู่ในหมู่บ้านฝรั่งที่ชื่อ แกรนด์วัลเล่ย์ หรืออะไรทำนองนี้หละ ผมก็ไม่แน่ใจ ที่บ้านนี้มีสระว่ายน้ำในตัวด้วย พอพวกผมไปถึง ก็งงนิดหน่อยคือ มีคนทำคามสะอาดบ้านให้ด้วย ผมนี่หละงง คนอื่นๆเขารู้กันหมดว่าบ้านแบบนี้มักจะมีพนักงานทำให้อยู่แล้วโดยจ่ายค่าเช่าเอา
พอพวกเราเก็บของเข้าที่กันแล้ว ผมก็เดินไปตู้เย็นเปิดออกมา ก็พบกับสภาพสุญญากาศ เอ๊ย ศูนย์ว่างเปล่า

"ริว ตู้เย็นไม่มีอะไรเลยหละ" ผมตะโกนบอกเขา
"งั้นเดี่ยวพวกเราออกไปซื้อกันที่ตลาดใกล้ๆนี้ก็ได้" เขาตะโกนบอกผมจากข้างบน
"งั้นเดี่ยวพวกเราไปซื้อให้ก็ได้" โชจิกับฮิโตมิเสนอตัวเข้ารับงาน
"งั้นก็ได้" ผมตอบ
"รีบไปรีบมานะ" เคลวินพูด
"ไม่ต้องเลย นายก็ต้องมากับพวกเรา" โชจิพูด "นายจะให้ฮิโตมิขนของหรอ" เขาถาม
"ก็ได้ๆ"แล้วพวกเขาก็พากันออกไป

เย็นวันนี้พวกเราก็ทำอาหารทานกันเอง ปรกติผมจะได้ทานอาหารฝีมือโอกาซัง แต่ตอนนี้เป็นฮิโตมิกับของตัวเอง เพราะพวกที่เหลือทำอะไรไม่เป็นเลย

"นี่ รู้เปล่าตอนไปซื้อของในตลาดน่ะ เคลวินเจอกับสาวด้วย" ฮิโตมิแซว
"จริงเปล่า" ผมรีบถาม
"อย่าพูดอีกได้เปล่าหละ เออ แค่ไปชนเขาเอง" เขารีบแก้ตัว
"แค่ชน แล้วทำไมต้องขอโทษเขามากมายด้วย แถมมีการขอเบอร์โทรไว้ด้วย" โชจิแซว
"ไอ้พวกบ้า......." เขาว่าแล้วก็ทำหน้าแดงๆ
"อายเป็นด้วยหรอ" ริวถามตรงๆ
"ใครจะหน้าด้านอย่างนายเล่า" เขาพูด พวกเราก็เลยหัวเราะ
แล้วหลังจากเก็บของกันเสร็จแล้ว พวกเราก็แยกไปนอนกัน ห้องนอนมี 3 ห้อง ผมไปนอนกะริว โชจิไปนอนกับ เคลวิน ฮิโตมิไปนอนแยกต่างหาก ก็ช่วยไม่ได้อะนะแทนที่จะนอนกะโชจิ มีโอกาสแล้วแท้ๆ อิอิ.......(^-^)
"ริว นี่เคลวินเขาน่าจะหาแฟนได้แล้วมั้ง" ผมถามเขา
"ก็คงงั้นหละ" เขาตอบสั้นๆ
"จะเป็นไงหนอ เคลวิน" ผมพูดลอยๆ
"เขาก็ต้องพยายามสิ หาคนรักทั้งคน"
"อืมม คงงั้นหละ" ผมตอบ
"ก็อย่างเราไง ลำบากแทบตายเลย"
"ลำบาก ลำบากตรงไหน" ผมถามเขา
"ก็ลำบากมาหลายปีกว่าจะหาคนน่ารักได้ไงหละ" เขาตอบพลางโอบกอดผมไว้แล้วก็............

ตอนเช้าพอพวกเราลงมาทานข้าวกัน โดยจะไปทานกันที่สโมสร เขามีห้องอาหารไว้ด้วย แล้วก็จะได้เล่นในสโมสรเลย พวกผมก็เดินกันมาจนถึงสโมสร เพราะในหมู่บ้านนี้ผมแทบไม่อยากใช้รถเลย มันน่าเดินไปหมด สวยจริงๆเลย ยิ่งสโมสรยิ่งสวยมากๆๆๆ
พวกผมก็มานั่งทานกันที่โต๊ะ โต๊ะนี้นั่งได้ 6 คนเป็นแบบวงกลม ก็ดีนะ

"เอ้า สั่งของกินกันได้แล้ว" โชจิพูดพลางหยิบเมนูให้ฮิโตมิ แล้วก็ของตัวเอง
"ดูสิ ส่งให้แต่แฟนตัวเอง" ผมท้วง
"เอ้า แฟนคุณเขาก็ส่งให้แล้วไม่ใช่เหรอ" โชจิถาม ริวก็ยื่นเมนูให้ผมพอดี
"ขอบคุณนะ" ผมพูด
"อ้าว เราเลยไม่มีใครส่งให้เลย" เคลวินท้วง
"นายก็ให้ผู้หญิงคนเมื่อวานมาส่งให้สิ" โชจิพูดดักคอ เขาอายหน้าแดงเลย

หลังจากสั่งรายการอาหารกันแล้วขณะที่พวกผมนั่งทานกันอยู่ ก็ได้ยินเสียงแก้วแตกดังมา

"เสียงอะไรอะ" ผมถาม
"แก้วแตกมั้ง จากในครัวนะ" โชจิพูด
"เออ เมื่อคืนนี้ได้ยินเสียงอะไรไหมตอนนอนน่ะ" ฮิโตมิถาม
"ตอนไหน" ผมรีบถามเพราะอยากรู้
"ก็ราวๆ ครึ่งชั่วโมงหลังจากพวกเรานอนกันไปแล้วหนะ" เธอบอก ผมก็นั่งนึกเสียงอะไรหว่า หันไปทางริว เขาหน้าแดงเลย ผมก็งง
"ริวทำไมต้องหน้าแดงด้วยหละ" ผมถาม
"ก็เราไงต้นเหตุเสียง" เขาตอบแบบอายๆ
"ริวนะเหรอ แล้วทำไมเราไม่เห็นรู้เรื่องเลย" ผมก็ยังคงซื่อบื่อต่อไป
"นายก็ต้นเหตุเสียงด้วยอะหละ" ริวพูดอีกครั้ง แล้วก็ก้มหน้าก้มตากินมักกะโรนี ผมก็มองหน้าทุกคน เขาก็หัวเราะผมกันหมดเลย
"ตกลงเรื่องอะไรหละ" ผมถาม
"เมื่อคืนทำไรกันหละ ลั่นบ้านเลย" โชจิพูด ขึ้นมาตรงๆ ผมงี้รู้ตัวแล้วก็เกิดอาการอายดิคับ หน้าแดงมากเลย
"ใช่ เสียงดังมาก เล่นเอานอนไม่หลับเลย" เคลวินพูด ผมก็ยิ่งอายใหญ่
"แล้วนายจะหลับได้ไงก็นอนกับโชจิ ไมใช่สาวคนเมื่อวานนี้นี่นา" ริวพูด เขาอายยิ่งกว่าริวอีก ตลกดีนะพวกเราเนี่ย แล้วพวกผมก็นั่งเล่นในสโมสรกัน ผมเล่นแบดกับริว เคลวินด้วยส่วน โชจิไปเล่นเทนนิสกับ ฮิโตมิ ตอนเย็นพวกเราก็กลับบ้านกันหลังจากทานอาหารเย็นที่สโมสรกันแล้วก็กลับบ้าน

ระหว่างทางกลับบ้าน ผมเห็นสระว่ายน้ำ "ริว ที่นี่มีสระน้ำด้วยหละ" ผมบอก
"ดึกแล้ว ไว้พรุ่งนี้ค่อยมานะ" เขาบอก แล้วเขาก็เดินกุมมือผมนำหน้าออกไป
"วู่ๆๆๆๆๆๆๆๆ" เสียงจากพวกข้างหลัง แล้วพวกผมก็หันไปดู ก็พบภาพโชจิกับฮิโตมิแสดงละครเลียนแบบผมกัน
"ว้าว โชจิ เราเห็นสระว่ายน้ำด้วยหละ อยากลงเล่นจังเลย" ฮิโตมิพูดเลียนแบบผม
"นี่มันก็ดึกแล้วนะจ๊ะ เดี๋ยวคืนนี้ผมก็ไม่มีแรงมอบความรักให้คุณหรอก" โชจิพูดออกมา ผมงี้อายมากเลย
"ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวคืนนี้ไม่สนุก" ฮิโตมิแสดงละครต่อ
"งั้นเอาไว้พรุ่งนี้นะจ๊ะที่รัก เรามาคลายกันในสระน้ำนะจ๊ะ คืนนี้ไว้ก่อนนะจ๊ะ" โชจิพูดจบ ริวก็วิ่งไล่เตะเขาไปจนถึงบ้านเลย

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
แหม ไม่ได้ตั้งใจจะจับผิดซะหน่อย จริงก้ออ่าน แล้วก้อไม่ได้สนใจเลขตอนหรอกนะ

แต่พออ่านๆ ก้อ

อ้างถึง
วันต่อมา พวกเราก็ไปโรงเรียนกันตามเดิม พอเข้าคาบบ่ายหลังจากพักเที่ยง ฮิโตมิก็ไปห้องน้ำ พวกเราก็เรียนกันไปซักพัก ผมเห็นว่าทำไมเขาไม่กลับมาซักที


อ้าวว ฮิโตมิ!!    :o   ใครง่ะ  :confuse:

ยังงัยฝากคุณ Lonely Wind  ด้วยน๊า

แบบนี้เขาเรียกว่า อ่านได้ละเอียดละออ น่ายกย่องนะครับ
เวลาผมอ่านบางทียังจดจำรายละเอียดไม่ค่อยได้เลย คิกคิก
ปรบมือให้ครับ
แต่ระวังนะครับ เวลาสงสัยอะไรที่อาจกระทบต่อผู้เขียนโดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องเล่าอิงประสบการณ์
บางทีผู้เล่าก็แต่งเติมบ้าง ก็ไม่ต้องสงสัยมากนะครับ
 แค่ได้รับความสนุก ประทับใจในการอ่านก็โอเคแล้วนะสำหรับผม เอิ้กๆ

ว่าแต่รู้หรือยังครับว่าฮิโตมิเป็นคราย ผมก็อ่านนานหล่ะ จำ บ่ ได้  :pigha2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2006 08:57:04 โดย b|ue B[o]Y hUb »

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ถึงนี่แร้วววว  ไม่อยากบอกว่าเราก็ข้าม ๆ ฮิโตมิไปเหมือนกัน  5555  มองหาแต่ผู้ชาย อิอิ   :-[

มาต่อเลยน้า  อยากอ่านแล้วอะ รออยู่น้าตะเอง  :impress:

Lonely Wind

  • บุคคลทั่วไป
โทษทีนะครับที่มาต่อให้ช้า   พอดีคอมมันงอแง๊เลยต้องล้างบางมัน

ต่อเลยนะครับ
*******************************************************

 :laugh:21.News Tomodachi 2 - เพื่อนใหม่ 2.

ตอนเช้า พวกผมก็ออกไปเที่ยวกันในตลาด ไปหาของกินกัน ก็คงประมาณ 7 โมงนะคับ

"มองอะไรอยู่เคลวิน" โชจิทัก
"คงกำลังหาสาวเมื่อวันก่อนหละสิ" ฮิโตมิแซว
"พวกนายนี่นา จริงๆเลย" เขาพูด แล้วก็ชนกะใครบางคนเข้า ล้มลงทั้งคู่เลย
"เออ ขอโทษคับ" เขารีบพูด
"อ้าวเคลวิน คนเมื่อวันก่อนนี้นา" ฮิโตมิพูด
"จริงเหรอ" ผมถามแล้วก็รีบหันไปดู สาวคนที่เคลวินสนใจ เธอก็เป็นคนขาว สวยด้วยพอใช้เลยคับเรียกว่าแข่งกับฮิโตมิสบาย
"ขอโทษนะคะ เจอกันอีกแล้ว" เธอพูด
"เธอชื่ออะไรหรอ" ผมรีบถามเพื่อจะได้รู้จักเอาไว้เผื่อเพื่อนเรา อิอิ
"ชั้นหรอคะ ฟู ค่ะ" อืมม คนไทย sure เลยชื่อ ฟูๆ
"เออ ขอโทษนะที่เพื่อนผมเสียมารยาท ไปชนเธอเข้า 2 ครั้งแล้ว" ผมรีบพูดต่อ
"ไม่เป็นไรค่ะ" ฟูตอบ
"ฟู บ้านเธออยู่แถวนี้เหรอ" ผมรีบถาม พลางทำหน้าด้าน คิดในใจเพื่อเพื่อน ด้านไว้เพื่อเพื่อน
"ไม่ใช่หรอกคะ ชั้นเดินออกมาจากหมู่บ้านน่ะ มาซื้อของในตลาด ในหมู่บ้านมีแต่สโมสร ไม่มีตลาด" เธอตอบ
"งั้น เพื่อเป็นการขอโทษนะ พอดีพวกเราจะไปทานเข้าเช้ากัน จะไปด้วยกันไหม" ฮิโตมิถาม
"จะดีหรอคะ เพิ่งรู้จักกัน" ฟูฟู สาวน้อยยังปฏิเสธ
"ไปเหอะ จะได้คุยกันเยอะๆหน่อยนะ" ฮิโตมิเริ่มเข้ามาช่วยผมแล้ว ส่วน 3 หนุ่มยังคงไม่มีอาการอะไรเลย
"งั้นก็ตกลงค่ะ" สาวน้อย ฟูฟู ตกลงแล้ว อิอิ

พวกเราก็ไปนั่งทานอาหารทะเลเผาที่เขาจับมาเผา แบบสดๆเลยผมหละสงสารมัน ตายทั้งเป็นเลยสงสารมาก แต่ทำไงได้ก็ต้องกินอะนะ

"นี่ฟู เธออายุเท่าไหร่แล้ว น่าจะพอๆกับพวกเรานะ" ฮิโตมิถาม
"ชั้นเหรอคะ ปีนี้ก็ 16 แล้วค่ะ" เธอตอบ แล้วพวกเราก็คุย แนะนำตัวกันนิดหน่อย แล้วพวกเราก็ทานอาหารเช้ากันจนเสร็จ
"อืมม แล้วเธอไม่ไปทานอาหารเช้าที่บ้านหรอ" ผมถาม
"อ้อ พอดีเบื่ออาหารที่บ้านน่ะค่ะ ก็เลยออกมาทานข้างนอก คนอื่นๆเขาทานกันแล้วมั้งคะ" เธอตอบ

พวกเราก็ทานกันจนอิ่มแล้วก็ได้เวลากลับแล้วหละ

"อืมม เดียวพวกเราไปส่งเอาไหม" ฮิโตมิถาม
"จะดีหรอคะ" ฟูฟู เริ่มปฏิเสธอีกแล้ว
"บ้านอยู่แถวไหนหละเดี๋ยวพวกเราไปส่ง" ผมพูด
"บ้านฉันอยู่ในหมู่บ้าน แกรนวัลเล่ย์ น่ะค่ะ" เธอตอบ
"หมู่บ้านเดียวกันหรอ" ผมถาม
"งั้นเหรอคะ ดีเลย" ฟูพูด
"งั้นก็ไปกันเลย" เคลวินพูด ผมเพิ่งเห็นเขาพูด ตั้งแต่กล่าวคำขอโทษ แล้วก็หน้าตาสดชื่นมากขึ้นเยอะ

พอพวกเราไปส่งที่บ้านเธอ ถึงรู้ว่า โถ่เอ๊ย ที่แท้ใกล้กันแค่หยิบมือเอง บ้านตรงข้ามกันเลย เธอก็พาพวกเราเข้าไปทักทายกับคุณพ่อคุณแม่เธอ

"คุณพ่อคะ คุณแม่คะ หนูพาเพื่อนมาให้รู้จักค่ะ" เธอบอกคุณพ่อกับคุณแม่ของเธอ
"ยินดีต้อนรับนะ บ้านหนูๆอยู่ไหนกันหละจ๊ะ" คุณแม่เธอถาม
"อยู่บ้านตรงข้ามนี่หละค่ะ พอดีมาพักปิดเทอมกันคะ" ฮิโตมิตอบ
"งั้นพวกหนูก็ไม่ได้อยู่บ้านนี้ตลอดนะสิจ๊ะ" คุณแม่เธอถาม
"ก็ใช่คับ พวกผมเรียนกันใน กทม.คับ นี่เป็นบ้านที่คุณพ่อผมซื้อเอาไว้มาเที่ยวนะคับ" ริวตอบคุณแม่ของฟูๆๆ
"อ้อ เด็ก กทม. งั้นฟูก็มีเพื่อนไปเรียนแล้วสิ" คุณแม่เธอพูด พวกผมก็งง
"พอดีชั้นปีหน้าชั้นจะย้ายเข้าไปเรียนในโรงเรียนในกรุงเทพน่ะค่ะ" เธอตอบ
"พวกเราเรียนกันที่ รร. ..............สายวิทย์คณิต มีปัญหาก็มาหาได้นะยินดีช่วยเหลือ" ฮิโตมิตอบ
"อ้าว ก็โรงเรียนที่ฟูจะย้ายเข้าไปนี่" คุณแม่เธอร้องทัก
"หนูสอบได้เข้าห้อง 5/1 ค่ะ แล้วพวกฮิโตมิละ" เธอย้อนถาม
"พวกเราก็ 4/1 เก่านี่หละ" ผมตอบ แล้วพวกเราก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ได้เพื่อนใหม่ รู้จักก่อนเพื่อนๆที่ห้องด้วย แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมาเจอกันแบบนี้

Lonely Wind

  • บุคคลทั่วไป
 :-[22.Fuuko Fuujan-ฟูโกะ ฟูจัง



วันต่อมาพวกผมก็ชวนฟู ไปสโมสรกัน เพื่อไปเล่นกีฬากันนิดหน่อย

"ริว ตกลงพวกเราจะได้ไปว่ายน้ำกันไหม" ผมถามเขา
"อ้าว ก็ไปสิ ทุกคนเขาก็เอาชุดว่ายน้ำมากันหมดแล้ว" ริวตอบ
"อ้าว แล้วไมไม่บอกหละ" ผมรีบถามเพราะไม่ได้เอามา
"ก็พวกเรานึกว่านายจะเอามาด้วยนะสิ ก็เห็นว่าอยากว่ายนัก" ริวพูด
"งั้นเรากลับบ้านไปเอากัน" ผมบอกริว แล้วเรา 2 คนก็เดินกลับบ้านกัน

ผมผมหยิบของเสร็จก็ไปที่สโมสรเลย ผมกับริวก็เห็นภาพของใครบางคนที่กำลังจะเป็นคู่หวานคู่ใหม่ของห้อง อิอิ

"เคลวินทำไร" ผมถาม
"ก็โชจิ กันไปเล่นเทนนิสกับฮิโตมิจัง เราก็เลยไม่อยากกวนไง" เขาตอบ
"ก็เลยมานั่งคุยกับฟูเหรอ" ผมถามต่อ
"ค่ะ พอดีชั้นว่าง เคลวินก็เลยมานั่งเป็นเพื่อน" ฟูรีบตอบ
"แบงคุงไปเร็วเหอะ อย่าไปขวางเขา" ริวบอก ผมก็เดินตามริวไปสระน้ำ
"ดูแลฟู ให้ดีๆหละ ไม่งั้นโดน" ผมพูด แล้วก็ไปเปลี่ยนชุดลงสระกับริว ส่วน 2 คนนั้นเขาจะทำอะไรบ้างผมก็ไม่รู้หรอก ผมก็สนใจแต่เล่นน้ำกับ ริวแค่นั้นเอง ซักพัก ก็มีอีกคู่ตามเรามาลงน้ำ
"แบงคุงมาแล้วก็ไม่บอก" ฮิโตมิว่าพลางโดดลงน้ำ โชจิก็ตามาทันที

พวกเรา 4 คนก็อยู่ในสระน้ำเล่นกันจนกระทั่งเที่ยงเลย ผมน่ะคนเหนือก็ต้องขาว แต่ตอนนี้ออกคล้ำๆแล้ว ฮิโตมิเธอกลับไม่ดำลงเลย พวกเราก็ขึ้นจากน้ำมาทานข้าวก็โดยที่ชุดไม่ได้เปลี่ยนนั้นหละ

"นี่ฟูโกะ (Fuugo) จะทานอะไรหละ "เคลวินถาม ผมก็งงกับคำพูดเขา
"เคลวิน ไหงไปเรียกเขาอย่างนั้นละ" ผมถาม
"ก็ชื่อเขานี่" เคลวินตอบแบบสบายอารมณ์
"ทำไมหรอ ฟูเป็นลูกครึ่งหรอ เห็นคุณพ่อคุณแม่เธอก็คนไทยนี่นา" ผมรีบถาม "ออ พอดีคุณพ่อฉันจริงๆน่ะเป็นคนญี่ปุ่น ท่านเสียไปนานแล้ว แม่ฉันก็แต่งงานใหม่นี้แหละค่ะ" ฟูจังตอบ
"Dewa Fuujan Doozo yoroshiku (งั้นก็ ฟูจัง ยินดีที่รู้จักนะ)" ผมทักเธอ
"Hai onaji desu ne (ค่ะเช่นกัน)" เธอตอบ หลังจากนั้นพวกเราทุกคนก็เรียกเธอว่า ฟูโกะ ไม่ก็ฟูจัง (ใช้แทนกันได้) มาตลอด ตอนนี้กลุ่มของผมก็มีสมาชิกตัวจริงครบแล้ว ผมหละงง ทำไมผมไม่พ้นคนญี่ปุ่นเลยผมคงไม่พ้นคนชาตินี้ จนกระทั้งเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นนะหละ

Lonely Wind

  • บุคคลทั่วไป
 :o23.ลาก่อนแล้วเจอกันใหม่วัน รร.เปิด(แน่ใจหรอ)


พวกผมตัดสินใจกันกลับบ้านหลังจากมาพักอยู่กันกว่าเดือนครึ่งแล้ว เหลือเวลาอีกแค่ 1 อาทิตย์ก็เปิดเรียนแล้ว

"แย่จังเลยนะ เดี๋ยวก็ต้องจากกันแล้ว" ฟูจังพูดขึ้นมา
"อืมม ก็ยังไงก็เจอกันอยู่แล้ว เดี๋ยวก็เปิดเรียนแล้วหละ" เคลวินพูดปลอบเธอ แต่เขาไม่เคยกอดเธอเลยนะเนี่ยแล้วก็ยังไม่ตกลงเป็นแฟนกันด้วยหละ ว้า แย่จังเลย

ฟู ก็ช่วยพวกผม หรือว่าแค่เคลวินหว่า เก็บของกัน แล้วพวกเราก็ชวนกันไปเล่นทะเลก่อนกลับบ้าน เพราะจะกลับเย็นๆประมาณ 6 โมงเย็น พวกผมก็ไปเที่ยวทะเลกัน อิอิ คนเยอะ ฟูก็มาด้วยกัน แน่นอน เที่ยวกันวันสุดท้ายนี่นา ก็เล่นกันสนุกมากเลย ผมเล่นไอ้เจ็ตสกีด้วย ตอนแรกขับไม่เป็นริวก็ขึ้นมาซ้อนหลังแล้วก็หัดให้ผมขับ อะไรที่ขับไม่เป็นนะพึ่งริวได้ เขาเป็นหมดเลย เครื่องบินเล็กก็ยังขับเป็นเลย เรือยอชก็ด้วย ผมเลยมั่นใจในการขับรถของริวมาก ก็เพราะมั่นใจมากนี่หละ ถึงได้เกิดเรื่องนั้นขึ้น

ในที่สุดพวกผมก็ขับไอ้ม้าพยศ (เจ็ตสกี) กันคนละคู่ ฮิโตมิถึงกับเมาเลย ฟูนะขับเก่งมากเพราะเธอเล่นอยู่เกือบทุกวัน พวกเรายังขับแข่งกันเลย ผมจำได้เลย ริวกำลังตีโค้ง แล้วปรากฎว่าทรงตัวไม่อยู่ คว่ำดิคับ ทั้งผมทั้งริวเลย สนุกดี จริงแล้วคงไม่คว่ำ แต่ริวเขาคว้าตัวผมแล้วก็โดดลงไปเลยเขากลัวผมเป็นอันตรายมั้ง คนอะไรน่ารักดี

จนกระทั้ง 5 โมงเย็นพวกผมก็กลับบ้านอีกครั้งเพื่อขนสัมภาระกลับบ้าน พอถึงบ้านก็เข้าไปเปลี่ยนชุดกัน ฟูจังก็หายไปเลย ผมก็เข้าใจความคิดเค้าหละ ผมจัดของและก็เก็บของทุกคนเข้าท้ายรถของริว ขับมากันนี้ใช้รถ 3 คันนะคับ ก็มี prelude ของโชจิ celica ของริว แล้วก็ Mitsubishi Eclipse ของเคลวินคับ พวกเราก็กำลังจะกลับกัน ฟูก็ออกมาส่งพวกเราหน้าบ้าน ร่ำลากันแล้ว เคลวินก็ลาแล้ว พวกผมก็กำลังจะขึ้นรถ คุณพ่อคุณแม่ของฟูก็ออกมา

"เคลวิน จ๊ะมานี่หน่อย" คุณแม่ฟูเรียก
"คับ" เคลวินพูดแล้วก็วิ่งไปหา
"หนูจะว่าอะไรไหมจะ ถ้าแม่จะวานให้ไปส่งฟูด้วย ไปส่งเขาที่บ้านคุณน้าด้วยนะ นี่จะกระเป๋า" คุณแม่ฟูจังพูดพลางยื่นของให้ เคลวินรีบรับมาเลย หน้าตาสดชื่นหน้าบานสุดๆ
"คับ รับรองคับผมจะพาไปส่งอย่างปลอดภัยเลยคับ" เขารับคำก็ตลกดี
"onegai shimasu (ขอรบกวนด้วยนะ)" ฟูจังพูด
"Dooitashimashite (ไม่เป็นไรคับ)" เคลวินตอบพลางพาฟูจังขึ้นรถ
"ฟู บอกทางเคลวินคุงด้วยนะ เดี๋ยวเขาไปไม่ถูกนะจ๊ะ" คุณแม่ฟูจังย้ำก่อนนั่งไปบนรถ
"ค่ะ ถึงแล้วหนูจะโทรมาบอกนะคะ หนูไปหละคะ" ฟูบอกคุณพ่อคุณแม่ของเธอ
"โชคดีนะ" คุณพ่อคุณแม่ของฟูจังอวยพร แล้วพวกเราก็ขับกันมาเพื่อเข้ากรุงเทพ
"แบงคุง นายคิดว่าฟูเขาเป็นคนไทยหรอ" ริวถามผม
"อ้าวทำไมหละ ก็ ฟูๆๆๆ แบบขนมปังอะไรพวกนี้ไง" ผมตอบตามความคิดของผม ริวก็หัวเราะ
"ฟูน่ะเป็นภาษาญี่ปุ่นนะ คำว่า ฟู (Fuu) หมายถึงลมไงหละ" ริวอธิบาย
"อ้าว เหรอ ... นายรู้แล้วทำไมไม่บอกเราหละ" ผมถาม
"เราก็นึกว่านายรู้แล้วซะอีก คำง่ายๆนี้อะนะ" ริวพูด
"แล้ว ฮิโตมิหละ นายรู้ไหม" ริวถามผมต่อ
"ไม่รู้สิ ไม่เคยถามโอโตซังเลยนะ" ผมตอบ
"ฮิโตมิ (Hitomi) หมายถึงแก้วตาดวงใจไงหละ" ริวอธิบาย
"แล้วชื่อเรากับ โชจิหละ นายรู้ไหม" เขาถามผมอีก
"รู้ๆ ชื่อนายนะริวสุเกะ ริว(Ryu) หมายถึงมังกร" ผมตอบ
"อืมม เก่งนี่"
"ส่วนโชจิ(shoshi) หมายถึง ความตั้งใจ ถูกไหม" ผมตามเขาต่อด้วย
"เก่งนี่นา ใช้ได้เลย เป็นลูกสะใภ้คนญี่ปุ่นได้" เขาพูดพลางหัวเราะ ผมก็เลยหยิกเอวเขานิดหน่อย แก้เขินไปงั้นๆหละ
"ริว แล้วคำว่า สุเกะ กับ โกะ หมายถึงไรเห็นใช้กันบ่อยๆ" ผมถามเขาอีก
"คำว่าสุเกะ(suke-tsuke) ใช้ต่อกับชื่อเหมือนกับบอกว่าเป็นลูกชายไง ส่วนโกะ ก็คล้ายๆกัน ลูกสาวประมาณนี้หละ" เขาอธิบาย
"งั้นริวสุเกะ ก็ลูกชายมังกร ส่วนฟูโกะ ก็ลูกวายุหละสิ" ผมย้อนถามเขาแบบกวนๆ
"ก็คงใช่มั้ง" เขาตอบพลางหัวเราะ
"แล้วนายรู้ไหมชื่อเราแปลว่าอะไร" ผมย้อนถามริว
"ชื่อนายนะหรอ Bank ก็ธนาคารไง"
"ผิด"
"แล้วแปลว่าอะไรหละ"
"แบงคุง (Bankun) เราบัญญัติศัพท์ใหม่ไว้แล้ว แปลว่า........"
"แปลว่าอะไรก็บอกมาสิ" ริวรีบทวงถามต่อ "นายอยากรู้เหรอ........." ผมถามเขา
"ก็อยากรู้นะว่านายจะบัญญัติคำๆนี้ที่เราตั้งขึ้นว่าอะไร"
"เราจะให้มีความหมายว่า คนที่จะรักผู้ชายที่ชื่อริวสุเกะไปตลอดชีวิตไงหละ"

ผมพูดจบ (ก็ด้วยคำพูดนี้หละที่ทำให้ผมต้องทนทุขก์อยู่ทุกวันนี้) เขาก็ละมือขวาของเขามากุมมือผมเอาไว้ (celica เป็นรุ่นขายในญี่ปุ่นจึงเป็นพวงมาลัยซ้าย รถของโชจิกับเคลวินก็ด้วย เป็นพวกมาลัยซ้ายหมด) แล้วก็พาผมกลับเข้าบ้านเขา

Lonely Wind

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2:24.Openning Fuuko-เปิดตัวฟูโกะ


"ในที่สุดก็เปิดเรียยนแล้วๆ" ผมบอกคำๆนี้ให้ริวรู้ ในขณะที่เราตื่นกันมาในตอนเช้าของวันเปิดภาคเรียนใหม่ ผมอยู่ที่นี่ได้ 1 ปีแล้วหรอเนี่ย ไม่น่าเชื่อเลยเวลาผ่านไปเร็วมากจริงๆ
"พวกเราขึ้น ม.5 กันแล้วนะ" ริวบอกผมขณะกำลังแต่งตัวกัน
"นั่นนะสิ คงมีอะไรที่แตกต่างไปเยอะกับตอน ม.4 แน่เลย" ผมบอกเขา
"ก็คงใช่ ก็มีทั้งงานผู้ช่วย ชมรม (ม.5ทุกคนต้องเป็นผู้ช่วยชมรมของพี่ ม.6)งานคณะสีด้วยหละนะ" เขาบอกผม
"แต่นายรู้ไหมมีบางอย่างที่จะไม่เปลี่ยนแปลง" ริวเขาพูดให้ผมฟัง
"อะไรหละ" ผมรีบถาม
"ก็........ความรักที่เราจะมีให้กันไงหละ" เขาพูดจบแล้วก็โอบกอดผมเอาไว้
"นี่อย่านะ........เดี๋ยวต้องไป รร.แล้ว" ผมรีบห้ามความคิดของเขา "ไปได้แล้ว..............." ผมพูดอายๆ แล้วก็เริ่มใส่เสื้อผ้าให้เข้าที่ เตรียมของเข้างานปฐมนิเทศของโรงเรียนในวันนี้

ผมมาถึง โรงเรียน ในขณะที่ผมนั่งมาในรถ Toyota celica ของริวสุเกะ รถคันนี้มีความหลังกับพวกเรามากมาย ทั้งพาพวกเราไปเที่ยว ไปเชียงใหม่ และอื่นๆ มันเป็นรถที่รวมเหตุการณ์นั้นกับผมด้วย เหตุการณ์ที่ทำให้ผมเสียทุกอย่าง ผมสังเกตเห็นรถของใครบางคนตอนที่ริวนำรถคู่ใจของเขามาจอด

"ริวนั่นรถเคลวินใช่ไหม" ผมรีบถาม
"ก็คงใช่หละ" เขาตอบ รถที่ผมเห็นก็คือ คูเป สีบรอนเมทัลลิก Eclipse คันคู่ใจของเคลวินเขาหละ และไอ้ข้างๆเขาก็ Honda prelude ของโชจินั้นเอง ริวก็เลยจอดต่อจาก prelude ของโชจิ ผมเริ่มมีความรู้สึกคนอื่นๆเขามากันเช้าจังเลย

ผมก็รีบไปหาพวกเราที่ห้องสมุด เพราะพวกเราจะอยู่ห้องสมุดกันตลอดเวลาในตอนเช้า พอเห็นทุกคนก็รีบวิ่งเข้าไปหา

"Ohayoo gosaimasu (สวัสดีตอนเช้า)" ผมพูด
"Ohayoo..." พวกเขาทั้งหมดก็รับคำ เพื่อนๆของผมกลุ่มของพวกผม 6 คนนี้เป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดของผม และริวก็เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม
"ไปกันยัง" ริวพูดพลางเดินเข้ามา
"ไปสิ" พวกผมตอบเขาพร้อมๆกัน แล้วพวกเราก็พากันไปหอประชุมใหญ่ของโรงเรียน พวกผมก็ไปตรงป้าย ม.5/1 แล้วก็นั่งกันลงไป ผู้คนก็ทยอยเข้ามาเรื่อย เสียงคุยกันก็ดังสนั่นหอประชุมเลย สักพักคนก็เต็มหอประชุม แล้วพวก น.ร.ก็เริ่มเงียบกันแล้วเพราะใกล้เวลาประธานมา

ประธานมาแล้ว ท่าน ผอ.ของโรงเรียนเรา ผมค่อนข้างจะรักท่านมาก เพราะพวกผมจะสนิทกับท่านมากๆด้วย เวลามีงานสังคมต่างๆท่านก็จะพาพวกผมไปด้วยบ่อยๆ ผมก็งงเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นพวกเราด้วย แล้วสักพัก อาจารย์หัวหน้าระดับตั้งแต่ ม.1 ก็ขึ้นมาพูดจนกระทั่ง ม.5 ของพวกผม

"ครูก็ขอแสดงความดีใจกับนักเรียนทุกคนที่ต่อสู้กันมาจนถึงขั้นนี้นะ........แล้วตอนนี้ครูก็จะแสดงความยินดีให้กับ นายทิวากร............ด้วยที่ยังคงอันดับที่ 1 ได้นะครูดีใจด้วย" อืมม ผลการสอบครั้งที่ผ่านมา ริวได้ที่ 1 (4.00) โชจิได้รองลงมา(3.98) เคลวินได้เท่ากับผม(3.93) ฮิโตมิเธอก็ไม่ย่อยเลย (3.89) เรียกว่าแทบไม่ห่างกันเลย
หลังจากออกจากงานปฐมนิเทศก็ต้องเข้าเรียนในคาบที่ 3 ของวันนั้นเพราะงานกินเวลาเยอะทีเดียว
"เอาละ จะได้แนะนำ ฟูโกะหละ" ผมพูด
"ใช่แล้วหละ เมื่อกี้ชั้นนั่งอยู่ในหอประชุม ก็มีแต่คนมารุมถามหละว่าย้ายมาใหม่หรอ" ฟูจังพูดให้ฟัง
"เดี๋ยวเราแนะนำเธอให้เอง" เคลวินพูด เคลวินพยายามทำตัวเป็นเจ้าของ แต่ฟูจังก็ยังไม่ยอมรับเลย
"อืมว่าแต่พวกเรานี่ก็เก่งนะ ทำคะแนนได้ดีมากๆเลย" ฟูจังชมพวกผม
"งั้นเหรอ"ผมถาม
"ก็ใช่ ชั้นคงทำไม่ได้หรอก" ฟูจังพูด
"เอานะ ยังไงก็ต้องทำได้ พวกเรายังทำได้เลย" เคลวินพูด ฟูจังเธอก็เก่งมากๆ ด้านวิชาความรู้รอบตัวนี้หาใครเทียบยากมากเลย แล้วเธอก็เก่ง ชีววิทยาแบบสุดยอด คุณพ่อเธอ(คุณพ่อแท้ๆ) เคยทำงานด้านนี้มาก่อน ก็เหมือนกับริวที่ คุณพ่อเขาเป็นวิศวกร เขาก็เลยเอกฟิสิกส์ ผมก็เลยพาลถนัดไปด้วย อิอิ

พวกผมก็เข้าไปเรียนกันในห้องแลบของโรงเรียน แลบวิชาชีววิทยา

"เอ้า นี่ เพื่อนๆ เรามี น.ร.มาแนะนำทุกคนรู้จักกันเอาไว้นะ" แล้วทุกคนก็หันมามองเคลวิน แล้วเขาก็จูงมือฟูจังออกไปหน้าห้อง "นี่นะ ฟูจัง แนะนำตัวหน่อยนะ" เคลวินบอก
"เออ..สวัสดีนะคะ ชั้นเป็นนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาเรียนตอน ม.5นี่น่ะค่ะ นางสาวชลธิชา.....................ย้ายมาจาก จังหวัดชลบุรีคะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ" ฟูจังแนะนำตัว
"แล้วชื่อเธอหละ" เพื่อนคนนึงในห้องถามออกมา
"ก็เรียกว่า ฟู.......ก็ได้ค่ะ" ฟูจังตอบ แต่ทุกคนเว้นพวกเราเขาก็ยังเรียก ชล น้องชล อย่างเนี่ยประจำ อาจารย์เข้ามาแล้ว พวกเราก็เลยสลายม๊อบ
"ฟูโกะ กลางวันจะไปทานอะไรกัน" ผมถาม
"นั่นดิ โรงเรียนก็มีอาหารแบบเดิมๆน่าเบื่อออก" เคลวินพูด
"งั้นก็ออกไปหาอะไรทานกันข้างนอกไหม" โชจิถาม
"แล้วออกไปได้เหรอ" ฮิโตมิจัง ผู้รอบคอบพูดห้าม
"ก็คงออกไม่ได้อะนะ" ริวพูด
"งั้นเราก็กินกันในโรงรียนนี่หละ" ผมเสนอ แม้หลายๆคนจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่สามารถออกไปทานข้างนอกได้นี่นา
"งั้นเดี๋ยวเราจองที่ให้" ริวพูดขณะที่พวกเราถึงโรงอาหาร ผมก็เดินไปหาซื้อของมาทานกันแล้วก็ของริวด้วย ผมก็ทำแบบนี้ประจำ
"ริว วันนี้ทานไอ้นี่กะเรานะ" ผมเอาขนมจีนน้ำยามาทาน ของริวก็ด้วย
"ขนมจีน" เขาพูดแบบหน้าตาตกใจ ผมก็งงเหมือนกัน แล้วพวกนั้นก็มากัน ผมไม่รู้ถ้า ผมรู้ก็คงไม่ให้เขากินขนมจีนหรอก

ตอนบ่ายๆหลังจากพักกันได้แล้วประมาณครึ่งชั่วโมง

"ริวเป็นไรหรือเปล่า เห็นทำท่าไม่สบายตั้งแต่เที่ยงๆแล้ว" ผมรีบถาม ฮิโตมิกับโชจิที่นั่งอยู่ข้างหน้า (เดี๋ยวนี้มานั่งกะโชจิ เคลวินกระเด็นมานั่งหลังผมกับฟูจัง) ก็หันมามอง
"สงสัยทานอะไรเข้าไปแล้วปวดท้องมั้ง" เธอบอก
"ไม่น่านะ ก็ริวนะทานขนมจีนกะเราไง" ผมรีบตอบ
"นั่นดิ แบงคุงกับไม่เป็นอะไรนี่นา" ฮิโติมิก็นั่งคิด ขนมจีนหรอ ไม่มั้ง
"ไม่ไหวแล้ว กลับบ้านเถอะ" ริวบอกผม
"เออ กลับบ้านก็ได้" แล้วพวกผมก็ขออนุญาต อาจารย์ผู้สอนกลับบ้าน อาจารย์ก็เห็นอาการป่วยของริวก็บอกงั้นก็กลับได้

เรา 2 คนก็เดินมาที่รถ ผมก็นึกแล้วจะกลับไงละเนี่ย ริวปวดท้องขนาดเดินไม่ได้เลย

"นายขับนะ" ริวบอกผม หา ให้ผมขับเนี่ยนะ
"ช่วยหน่อยนะ" ริวพูดพลางเข้าไปนั่งข้างหน้าแต่เป็นฝั่งขวาไม่ใช่ฝั่งซ้าย เอาวะ เป็นไงเป็นกัน เราก็ขับเป็นนี่นา เขาก็สอนผมอยู่บ่อยๆ แต่ยังไม่เคยขับในถนนที่มีรถซักทีเลย ก็ดีเหมือนกัน
"โอย.........." เสียงเขานี่บาดถึงใจผมเลย ตอนแรกๆเขาอาการไม่หนักขนาดนี้นี่นา ผมแทบจะร้องไห้ออกมาเลยเมื่อได้ยินเสียงร้องของเขา ผมเลยคิดจะไปส่งเขาที่โรงพยาบาลแทน ผมก็ขับรถออกมาจนถึงพญาไท ผมยังงงเลยขับมาได้ไงหละเนี่ย เก่งจริงๆ ว่าแล้วก็พาริวลงไปหาหมอ
ผมพาริวเข้าห้องผู้ป่วยฉุกเฉินเลย แบบหน้าตาตื่นมากๆ ไม่เคยตกใจอะไรขนาดนี้เลย หลังจากตรวจเสร็จคุณหมอบอกว่า เขาไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่เกิดอาการแพ้อาหารหมักดอง (ขนมจีน) ผมงี้ถึงบางอ้อเลย คุณหมอให้เขาฉีดยาเข้าไป 1 เข็มแล้วก็ให้กลับไปพักที่บ้านได้ ผมทำเอาโรงบาลแทบแตกเลยหละ พยาบาลเขาแซวผม

ผมก็เลยพาเขากลับมาบ้าน คุณแม่ริวก็มาดูอาการ
"ริวน่ะ ทานอาหารดองไม่ได้หรอกค่ะ ลูกทีหลังต้องระวังนะคะ" โอกาซังบอกแก่ผม
"คับ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน" ผมตอบ
"งั้นเดี๋ยวผมพาเขาไปนอนก่อนละกันคับ" แล้วผมก็พาริวพ่อตัวหนักขึ้นไปบนห้องเขา แล้วก็นั่งเฝ้าเขาตั้งแต่ตอนนั้นเลย อาการเขาดูดีขึ้นมากเลย

พอเย็นๆพวกนั้นก็มาหาที่บ้าน

"เป็นไงบ้างหละ" โชจิถามผม
"ก็ตื่นแล้วหละ เพิ่งตื่นเมื่อกี้เอง อาการดีขึ้นแล้ว" ผมตอบเขา
"ริว แล้วทำไมไม่บอกแบงคุงหละว่าแพ้อาหารดอง" ฟูจังถาม
"ก็อยากบอกหละนะ แต่ก็ไม่อยากให้เขาเสียน้ำใจหนะ" ริวตอบ
"ไม่เสียน้ำใจแต่ต้องมาป่วยแบบนี้หละก็ เขาเสียใจกว่าหลายเท่าเลยนะ" ฮิโตมิพูดสั่งสอน
"นั่นดิ ก็เล่นเกือบโรงบาลแตกเลย" ริวพูด แล้วเขาก็มองมาทางผมแล้วก็หัวเราะ
"สงสัยไปร้องไห้ที่โรงบาลจนหมอนึกว่าอาการหนักมากแน่ๆ" ฟูจังพูด
"ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง" ผมรีบแก้ตัว
"เอาเหอะ อย่ากวนคนป่วยนานนักเลยกลับบ้านกันดีกว่า" โชจิบอก
"งั้นพวกเรากลับแล้วนะ" เคลวินพูด แล้วพวกเขาก็แยกกันกลับโดยปล่อยให้ผมดูแลริวอยู่คนเดียว
"ทีหลังทำอะไรไม่ได้ก็หัดบอกมั่งสิ" ผมว่าเขา
"ก็......" เขาพูดได้แค่นี้ผมก็จูบเขาแล้ว แล้วผมก็ให้เขาพักผ่อน วันพรุ่งนี้ยังต้องไปเรียนต่อนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-11-2006 16:50:12 โดย Lonely Wind »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
โอ๊ะ  มาแร้ววววว   ก็นึกว่ายังไม่มา  คุณ lonely wind หายไปนานเลยอะ  แง แง   :monkeysad:
แต่ก็ขอบคุณนะค้า  อุตส่าห์เอามาลงให้อีกหลายตอนเลย  ว่าแต่เรื่องนี้ทำไมมันจะไปเจอแต่คนลูกครึ่งญี่ปุ่นเนี่ย  ทีนี้ครบกลุ่มแล้วใช่ม้า  เรื่องราวจะเข้มข้นขึ้นละยังคะเนี่ย    รอตามอ่านนะคะ   :impress:

ปล  ริวน่ารักจัง  แบงค์ด้วย  โชจิอีก  เคลวินด้วย  ชอบแต่ผู้ชายยยยย

Lonely Wind

  • บุคคลทั่วไป
 :-[25.Tanabata - วันทะนาบะตะ


"แบงคุง ใกล้วันทะนาบะตะแล้วนะ" ริวพูดบอกผมเป็นครั้งที่ 20 ของเช้านี้ วันนี้วันที่ 5 กรกฎาคม วันที่ 7 นี้ก็จะเป็นวันทะนาบะตะ
"อืมม รู้แล้วหละเจ้าค่ะ" ผมบอกเขา
"เดี๋ยวไปเตรียมต้นไผ่กันเอาไหม"
"ก็ดีนะ แต่ว่าไว้ตอนเย็นไม่ดีกว่าเหรอ เดี๋ยวก็จะไปโรงเรียนแล้ว รีบๆเข้าเถอะ" ผมรีบบอกแก่เขา แล้วพวกเราก็รีบขึ้นรถไปโรงเรียนกัน วันนี้สายด้วยหละ เพราะรถติด
"แล้วเราจะจัดงานทะนาบะตะที่ไหนหละ" โชจิถาม
"เอาบ้านเราไหม" ริวถาม
"ก็ดีนี่" ผมเสริม
"แต่ว่าพวกเราก็ไปกันบ่อยแล้วนะ" ฮิโตมิพูดค้าน
"บ้านคุณอาฉันไหมคะ" ฟูจังเสนอ
"นั่นสิ ยังไม่เคยไปกันด้วยหละ" เคลวินรีบเลย
"แล้วคุณอาเธอไม่ว่าหรอ" ผมถามกลับ
"ไม่ว่าหรอกค่ะ แล้วก็พอดีท่านไม่อยู่ด้วยนะคะ" ฟูจังอธิบาย
"งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ" ฮิโตมิสรุป

เย็นวันนี้พวกเราก็ตกลงจะไปป่าไผ่ใกล้กับวัดแห่งหนึ่งเพื่อไปขอต้นไผ่ แต่พอไปถึงแล้วกลับได้กิ่งไผ่มา กิ่งไผ่ก็ได้เพราะมีแขวนกันแค่ไม่กี่คนเอง แล้วพวกเราก็พากันเอาไปไว้บ้านของฟูจัง

"ไว้ตรงหน้าบ้านนี่หละ" โชจิบอก
"อืมม ตรงนี้ก็ดี" ฟูจังพูด
"คงทำให้บ้านคุณอาเธอดูสวยพิลึกเลย" ฮิโตมิพูดขึ้นมาเพราะดูแล้วมันไม่เข้ากับทรงบ้าน บ้านทรงยุโรป แต่ดันมีกิ่งไผ่ของวันทะนาบะตะมาติดอยู่ ก็คงไม่ค่อยเหมาะกันแต่ผมว่าก็สวยดี

เช้าวันทะนาบะตะ ผมกับริวก็ไปโรงเรียนกันแต่เช้า เรา 2 คนได้ตกลงจะทำแผ่นกระดาษเขียนอวยพรกัน เป็นกระดาษโปสเตอร์สีหลายๆสี ผมทำมา 6 แผ่นเพื่อแค่พวกเราเท่านั้นเอง ขนาดกว้าง 1 นิ้วยาว 5 นิ้ว แล้วก็เจาะรูป ผูกเชือกไว้แขวนแล้วด้วย พอผมมาถึงโรงเรียน พวกผมก็ถึงกับตกตะลึงกันใหญ่เลย เพราะทุกคนก็ต่างทำมาเผื่อกัน

"ริว พวกนายทำกระดาษอวยพรมาไหม" ฮิโตมิถามริว
"แบงคุงทำมาน่ะ 6 แผ่น" ริวตอบ ผมก็พยักหน้า
"โชจิ กับเราก็ทำมาคนละ 6 แผ่น" ฮิโตมิบอกให้ผมรู้
"แล้วชั้นกับเคลวินก็ทำมากันคนละ 6 แผ่นหละ" ฟูจังบอกกับพวกผม
"อ้าว งั้นก็เหลือเยอะเลยอะดิ" ผมถาม
"ก็ตอนนี้มีอยู่ 30 แผ่นแล้ว" ฮิโตมิ รีบคำนวณออกมาโดยที่ผมยังไม่ได้คิดซักกะติ๊ดเลย
"เอาของพวกเราออกไป 6 ใบก็เหลืออีก 24 ใบ จะทำไงดีหละ ทิ้งก็เสียดาย" ฟูจังพูด
"งั้นก็เอาไปให้เพื่อนๆที่สนิทนะ เขียนสิ" ริวหาทางออกให้
"sore wa ii desu ne (ความคิดดี)" ฟูจังพูด
"งั้นกลางวันพวกเราก็เอาไปแจกกันเถอะ" โชจิพูดสรุป

ตอนกลางวัน พวกผมก็แยกย้ายกันเอาไปให้คนที่สนิทด้วยในโรงเรียนเป็นคนเขียน ก็จะได้ไปคนละ 4 ใบ ผมก็ไปหากับ ริว

"นายคิดจะให้ใครมั่งหละ" ริวถามผม
"ก็คงเป็นพี่เบบวรพงษ์ พี่กวางเนตรชนก บอย แล้วอีกคนก็ไม่รู้ใครดี" ผมบอก
"ของเราหรอ ก็ให้โอกาซัง โอโตซัง แล้วที่เหลือก็คงจะให้นายน่ะ" แล้วเขาก็ยื่นให้ผม 2 ใบ
"อืมมม ก็ได้ จะได้ให้ได้เยอะๆ" ผมตอบเขา
"ทำตัวเหมือนเด็กๆเลยน้า ไม่รู้จักโตเลย" ริวพูดแล้วเขาก็หัวเราะ ก็เขาเองไม่ใช่เหรอที่บอกว่าชอบผมเพราะทำตัวเหมือนเด็กๆ แต่ผมจะเอาไปให้ใครหละ อ้อ นึกออกแล้ว พี่แบงค์ธนนนฐ์ แล้วก็พี่เดฟณรงค์ชัยด้วย ผมนึกในใจแต่อีกใบหละ ยังคงว่างอยู่หละ
ตอนเย็นพวกผมก็ไปบ้านของฟูจังกันหมดเลย

"ฟูจัง เธอไปให้ใครมาบ้างหละ" ฮิโตมิถาม
"แหม ใครจะไปบอกหละจ๊ะ" เธอรีบบอก แล้วก็รีบเอาไปแขวน แล้วก็มานั่งรอพวกผม
"เอ๋ ทำไมของริวมีแค่ 2 ใบหละ" ฮิโตมิถามริว
"ก็ริวมีแค่ โอกาซัง แล้วก็โอโตซังเขียนแค่นั้น ส่วนเพื่อนๆก็คือพวกเราทุกคนที่นี่ไง"เขาพูดออกมา
"ดีจังเลยนะ........ เราก็ไปให้คุณพ่อคุณแม่มาเหมือนกันหละ แล้วก็เพื่อนๆในห้องอีก 2 คนเขาเห็นก็เลยให้เขาเขียน" ฮิโตมิพูด แล้วเธอก็เอาไปแขวนแล้วก็มานั่งรอ ผมก็ต้องแขวนเยอะ เพราะตั้ง 6 ใบ แขวนเสร็จก็มานั่งรออีก เอ๊ะ นั้นรถ ผอ. นี่นา
"ริว นั้นรถท่าน ผอ. หรือเปล่า" ผมถาม เขาหันไปมอง
"ก็คงใช่มั้ง" เขาบอกผม "ใช่แล้วหละท่าน ผอ. อยู่บ้านใกล้ๆนี่เอง" ฟูจังบอก อ้าวเหรอ ผมก็เพิ่งรู้ สนิทกับท่านมานานแต่ไม่เคยรู้เลย แล้วพวกผมก็นั่งคุยเล่นกันที่บ้านฟูจัง ซักพักนึง
"อ้าว พวกเธอ มาทำอะไรกันจ๊ะ ทำไมไม่กลับบ้าน ครูเห็นอยู่กันก็เลยเดินมาดู" ท่าน ผอ. พูดกับพวกผม
"ก็พอดีมาฉลองวันทะนาบะตะกันครับ" ริวตอบ
"งั้นเหรอ ดีจังเลย ประเพณีของชาติไหนๆก็ดีทั้งนั้นหละ" ท่านพูด
"แล้วนี่ให้ครูร่วมด้วยได้ไหมคะ"
"ได้ค่ะ ....แต่ว่ากระดาษเขียนคำขอหมดแล้วหละค่ะ"ฟูจังตอบ
"ยัง...เรายังมีอีกแผ่น" ผมรีบหยิบออกมาจากกระเป๋าให้ท่าน ผอ. เขียน
"อืมม สีฟ้า ครูชอบมากเลย" แล้วท่านก็เขียนอะไรก็ไม่ทราบแล้วก็นำไปแขวน หลังจากนั้นท่านก็ขอตัวกลับบ้านของท่านแล้วพวกเราก็กลับบ้านกัน
"ริว เราอยากอ่านของท่าน ผอ. จังเลย"
ยังอ่านไม่ได้หรอก เพราะถ้าอ่านก่อนนะ มันจะไม่สมหวัง" เขาขู่ผม แต่ผมมารู้ทีหลังว่าอ่านได้ รู้งี้อ่านไปเลยก็ดีแล้ว
"แล้วริวเขียนไว้ว่าอะไรหละ" ผมถาม
"นายอยากรู้หรอ"
"ก็ใช่ อยากรู้บอกหน่อยนะ นะ นะ" ผมตื๊อ
"เราก็ขอให้ พวกเราได้อยู่ด้วยกันไปตลอดไง" เขาพูดจบ
"แล้วนายหละ"
"เราก็ขอ.......... ให้พวกเราไม่พรากจากกัน ไม่ห่างกัน อยู่ด้วยกันไปตลอด............." ผมพูดได้แค่นี้เขาก็จูบผมแล้วหละ แล้วเขาก็หันกลับไปขับรถต่อ อิอิ เดี๋ยวไม่งั้นเกิดเหตุการณ์มันๆแน่
วันต่อมา ฟูจังเธอก็เก็บต้นทะนาบะตะลงมาแล้วก็เอากระดาษเขียนคำอวยพรมาให้พวกผมอ่าน
"ว้าว ของพวกเรา 6 คนนะเขียนเหมือนกันหมดเลย" ผมรับมาดูแล้วก็ปลื้มใจ ไม่ใช่แค่ผมกับริว แต่ทุกคนก็เป็นแบบเดียวกัน ผมเห็นของโอกาซัง แล้วก็โอโตซัง แล้วผมก็เลยเก็บไว้เองเลยไม่ให้คนอื่นๆดู
"แบงคุง นี่ไงของพี่แบงค์ธนนนฐ์ พี่เขาเขียนว่า ขอให้ผมได้เป็นเศรษฐีด้วยคับ ของพี่เดฟณรงค์ชัย เขาเขียนไว้ว่า ขอให้ผม Ent ติดคณะแพทย์จุฬาด้วย ของพี่กวางเนตรชนก ขอให้หนูได้ออกเทปเร็วๆนี้ด้วยค่ะ แล้วก็ของบอยนะ ขอให้ผมได้แฟนสาวๆสักคนคับ" ริวอ่านให้ผมฟัง
"นี่ไงของท่าน ผอ." โชจิบอกพลางยกขึ้นมาผมเลยหยิบมาอ่าน
"ครูขอให้นักเรียนทุกคนมีความสุข" ว้าว ดีจังเลย ส่วนของโอกาซัง กับโอโตซัง ก็คือ ขอให้ลูกที่รักทั้ง 2 อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

Lonely Wind

  • บุคคลทั่วไป
 :-[26.Sweet memory-รูปถ่ายแห่งความทรงจำ


"แบงคุง เดี๋ยวนายลงไปหาโอกาซังข้างล่างนะ แล้วก็เดี๋ยวเตรียมไปเก็บของจากหอพักด้วย" ริวบอกผมในเช้าวันหนึ่ง ผมตัดสินใจมาอยู่บ้านของริวแล้ว จริงๆก็อยู่นานแล้วคับแต่ก็ยังเช่าหอโดยไม่เข้าไปอยู่อะคับ โอกาซังของริวก็เลยบอกให้ผมไปย้ายของมาอยู่ด้วยกัน แล้วก็จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าหอด้วย

หลังจากที่ผมคุยกับโอกาซังเรียบร้อย ผมก็ไปหอของผมกับริว พร้อมกับบอกยกเลิกสัญญาเช่าด้วย พร้อมกับไปขนของกับริวซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรแล้วก็แค่หลังสือกอง 2กองแล้วก็เสื้อผ้าบางตัวที่ไม่ได้เอาไปด้วยแค่นั้นเอง นอกนั้นไปอยู่บ้าน ริวหมดแล้วคับ

"ขนไหวไหม ให้เราช่วยดีกว่า" ริวพูดพลางยกกองหนังสือที่ผมแบกออกมา
"งั้นเราเข้าไปเอาเสื้อผ้านะ" ผมบอกเขาแล้วผมก็เข้าไปเอาเสื้อผ้าของผมออกมา ผมก็เห็นซองๆหนึ่งที่ผมใส่ไว้เป็นเอกสาร ผมก็รื้อมันดู มันเป็นรูปของผมที่ถ่ายกับพวกริว ตอนที่ไปถ่ายที่ดิโอลด์สยามกัน ผมนี่ก็สะเพร่าจริงๆเลย หามันตั้งนานที่แท้อยู่ในตู้เสื้อผ้านี่เอง ตอนนี้ก็ได้มาแล้ว พร้อมกับความคิดอะไรดีๆอีกอย่างด้วย

วันต่อมาพวกผมก็ไปโรงเรียนกัน ในตอนเช้าผมก็เอารูปที่ผมเจอมาให้ฟูจังกับฮิโตมิดู

"นี่พวกเราก็อยากถ่ายมั้งหนะ พาไปหน่อยนะ" ฟูจังพูดพลางอ้อนใครบางคน
"เราก็อยากไปนะ โชจิพาไปหน่อยนะ" ฮิโตมิก็อ้อน
"ริวจ๋า พาไปหน่อยสิ" ผมพูดกะริว จะได้เข้ากับบรรยากาศ
"พอแล้ว...นายก็ถ่ายแล้วนะ........... แต่เดี๋ยวพาไป" ริวพูด
"ไปก็ไปสิ"โชจิพูด
"งั้นก็นัดวันไปกันเลย" เคลวินบอก
"อืม.....เอาวันไหนดี" ผมพูดพลางคิดในใจ
"ไม่เห็นยากนี่ เย็นนี้เลยไง" ริวพูด
"จริงสินะ วันนี้เรียนแค่บ่าย 2 เอง" ฟูจังพูดสนับสนุน
"ตกลงไปกันเย็นนี้เลย" ฮิโตมิจังสรุป แล้วพวกเราก็บันไซกันอิอิ......

อ้าว....... เป็นการพูดในใจของผมที่เมื่อเห็นร้านที่ผมกำลังจะมาเขากำลังจะปิดกิจการ กำลังเก็บของออก

"เออ พี่คับ ทำอะไรคับ ย้ายร้านหรอคับ" ริวถาม
"อ้อ ไม่ใช่ค่ะ พอดีทำกำไรไม่ดีก็เลยจะปิดกิจการน่ะค่ะ"
"งั้นก็ถ่ายรูปไม่ได้สินะ" ฟูจังพูดแบบผิดหวังเล็กน้อย
"เออ… น้องคนนั้นหนะ มาถ่ายรูปกันหรอ" เสียงมาจากคนที่ถ่ายรูปให้พวกผม ผมจำพี่เขาได้ คนที่เป็นตากล้องถ่ายรูปกับพวกผม
"อ้าว พี่จำผมได้ด้วยหรอ" ผมรีบถามเขา
"ก็จำได้หละน้องๆนะ คนที่แต่งเป็นสาวเหนือมาถ่ายใช่ไหมหละ พี่จำได้" เออแสดงว่าเราสวยจริงอะดิ อิอิ
"พวกน้องจะมาถ่ายรูปกันใช่ไหม.... มา เดี๋ยวพี่จะถ่ายให้ในโอกาสฉลองปิดร้านละกัน" พี่ตากล้องเจ้าของร้านพูด
"ขอบคุณคับ"พวกผมพูดขึ้นพร้อมๆกัน
"งั้นก็เข้าไปเลือกชุดกันเลย" พี่เขาบอก พวกผมก็เข้าไปเลือกกัน เสื้อผู้ชายชุดไทยแน่นอนคับ ราชประแตนแบบเดียว ผมก็เลือกโจงกระเบนแบบเดิมออกมาคับสีทอง ริวเอาสีม่วง โชจิก็ใส่สีขาว เคลวินเอาสีน้ำเงินคับ ฮิโตมิจังเธอเลือกแบบ ตะเบงมานชุดสีน้ำเงินคับ สวยทีเดียว ส่วนฟูจังเลือกแบบสไบสีเขียวอ่อนคับ พวกผมก็ถ่ายกันมาหลายๆแบบ ถ่ายรวม ถ่ายเดี๋ยว ถ่ายคู่ด้วย แต่ตอนถ่ายผมได้ 2 แบบ แบบแต่งชาย กับแต่งหญิง อิอิ

พอเราถ่ายกันเสร็จก็กำลังจะเอาไปให้พี่เขาคิดเงิน "รวมทั้งหมด 30 ภาพนี่เท่าไหร่คับ"

"อืมม พี่คิดไป 500 ละกัน ทุนล้วนๆนะน้อง พี่ถ่ายให้พวกน้องๆเฉยๆหรอก เห็นว่าลูกค้าเก่า" พี่เขาบอก
"งั้นก็ขอบคุณมากคับ" ริวพูด
"งั้นเดี๋ยวเราออกเอง" ริวพูดอีกแล้ว
"หารกันดีกว่า" โชจิเสนอ
"งั้นเอางี้ ริว โชจิ แล้วก็เราออกกัน 3 คน ตกลงไหม" เคลวินถาม
"ก็ได้" 2 หนุ่มความคิดตกลงกันเอง
"แล้วพวกเราหละ" ผมฮิโตมิ ฟูจังถามพร้อมๆกัน
"ก็ไม่ต้องจ่ายดิ" เขาก็ตอบพร้อมๆกันอีก

วันนั้นผมก็ได้มาหลายรูป รูปคู่ริวกับผม โชจิกับฮิโตมิ เคลวินกับฟูจัง แล้วก็รูป 3 หนุ่มที่ถ่ายรวมกัน 3 คน แล้วก็รูป สาว 3 สาว อิอิ.........(^-^) ผมก็ชอบน่าดูเลยแต่ผมก็ชอบรูปถ่ายหมู่ของพวกผมคับ ผมเก็บรูปนี้ไว้กับตัวตลอดเลยคับ รูปนี้เมื่อผมมองก็จะพบกับความหลังอันไม่มีวันลืมเลยคับ

Lonely Wind

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh:27.kelvin no tanyoobi-วันเกิดเคลวิน



พวกผมนี้เป็นเพื่อนที่ดีกันจริงๆๆเลย ไม่เคยลืมวันเกิดของเพื่อนคนไหนเลย จะไล่มาเล่าให้ฟังเรื่อยๆๆนะคับ คราวนี้สิคับ วันเกิดเคลวิน หลังจากทะนาบาตะไม่นานนักหรอกคับ วันที่ 20 กรกฎาคมนี้เอง ห่างกันมาหน่อยนึง ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกคับ แต่ริวบอกกับผมในเช้าวันนึง

"แบงคุง 20 นี้นะวันเกิดเคลวิน"
"เหรอ...อืมมม งั้นจะจัดงานให้เขาไหม"
"แน่นอน จัดสิ" ริวตอบ
"อืมมมมม...... แผนเราก็ไม่มีแล้วดิ แผนเด็ดก็ใช้กับงานโชจิแล้วนี่นา" ผมพูด
"อืมม....... งั้นเอาแบบนี้ไหม" ริวพูด
"แบบไหนหละ มีความคิดดีๆๆแล้วเหรอ" ผมรีบถาม
"มีแล้ว..อะดิ" ริวบอกกับผมพร้อมกับยิ้มเล็กๆๆ

ผมรีบจัดแจงนัดกับทุกๆๆคนเลยตามแผนของริวทุกอย่าง แต่ผมบอกเลยนะริวคิดแผนได้ไม่ Perfect เท่ากับผมหรอก แผนเขาน่ะเด็กๆๆ ตอนงานวันเกิด โชจิกับ ฮิโตมินะ แผนเด็ดของผมเลย สุดยอดๆๆๆๆๆๆ คอยอ่านเอานะคับ ตอนนี้ก็ปล่อยฝีมือริวไปก่อนนะ ริวแผนเขาเป็นงี้ ก็คือ พวกผมทุกคนจะแกล้งไม่ให้ของขวัญเขาเลย แต่จะเอากองไว้หน้าบ้านเขา อิอิ ให้เขาเสียใจเล็กๆๆๆๆน้อยๆๆๆๆ ไม่เหมือนตอนโชจิ มันส์มากๆๆๆๆ

พวกผมก็เริ่มหาของขวัญให้กับเคลวิน ผมกับริวซื้อด้วยกันเป็นนาฬิกา Alba Spool นะคับเห็นเขาอยากได้ คนอื่นๆๆผมก็ไม่หรอก มารู้เอาทีหลัง โชจิกับฮิโตมิไม่ได้ให้ แต่รับอาสาออกค่าจัดงานทั้งหมดเอง ธรรมดาผมกะริวจะออก ดีๆๆจะได้ประหยัดตังค์
วันเกิด เคลวิน พวกผมก็ไปงานเลี้ยงกันที่บ้านเขานี้หละ ก็สนุกสนานเฮฮากันดี

"เป็นไงเค้ก ใช่ได้ปะ เราทำเองเลยนะ" ฮิโตมิถามพวกผม
"อืมม อร่อย ทำใช้ได้" เคลวินรีบตอบ กลัวคนอื่นตัดหน้าหรือไงก็ไม่ทราบ
"แต่ทำไมทำมาเยอะนักหละ" ฟูจังถาม
"ก็แค่ 6 ปอนด์เอง" ฮิโตมิตอบ นั่นดิ น้อยกว่าวันเกิดโชจิอีกตอนนั้น ผมกะริวซื้อกันไป 12 ปอนด์แน่ะ(ผมซื้อปอนด์ 200 เองมั้ง)
"ก็บ้านฮิโตมิทำเบเกอรี่ขายไม่ใช่เหรอ ก็คงไม่ลำบากมั้ง" ริวถาม
"ใช่ เราทำเองเลย" ฮิโตมิพูดพลางอวดฝีมือบ้านเธอทำ เบเกอรี่ส่งขายตามโรงแรมต่างๆ ทำกันเป็นโรงงานเลยคับ ธรรมดาเธอเป็นผู้จัดการไม่น่าทำอร่อยเลย แต่อร่อยๆๆจริงๆผมยังชอบเลย มีวันเกิดผมกับริวนี้หละที่ไม่มีงาน คนอื่นๆเขามีกันหมด แย่จังเลย
พอพวกผมทานกันเสร็จ ก็กลับบ้านกันเลย จริงๆแล้วพวกเราก็เอาของขวัญมาด้วยนะ แต่ยังไม่ให้เขาหรอก อิอิ ตามแผนริวไง แล้วพวกผมก็พากันกลับบ้าน

"เคลวิน เดี๋ยวเรากลับบ้านกับ ริวก็ได้" ฟูจังบอก ไม่งั้นเขาจะต้องไปส่งฟูจัง แล้วแผนมันจะทำยาก
"เออ…เอางั้นหรอ" เคลวินถามเสียงอ่อยๆ
"งั้นพวกเรากลับกันก่อนนะ" ผมบอก แล้วพวกเราก็ขึ้นรถกลับออกมากันจริงๆๆแล้วขับเลยบ้านเขามาหน่อยนึง แล้วพวกเราก็ดับเครื่อง จอดรถกัน เคลวินก็เข้าบ้านไปแล้ว ดีหละตามแผน
"งั้นเดี๋ยวพวกเราเอาของขวัญไปวางกันได้เลย" ผมบอกกับทุกคน

ผมกับฟูจัง 2 คนก็เดินไปบ้านเคลวิน ย่องๆๆเข้าไป คุณแม่เคลวินก็ออกมารับพวกเราตามแผนเลย (พวกผู้ใหญ่นี้ก็ขี้เล่นไม่เบานะ ร่วมมือกันดีมากเลยคับ) พวกผมก็เอาของขวัญไปวางไว้หน้าห้องเคลวิน เขายังคงนอนอยู่ในห้องแน่ๆ แล้วพวกเราก็ลงมา แล้วก็พากันกลับบ้าน

ตอนเช้า ผมมาถึงโรงเรียนก็เห็น เคลวินเขามาคนแรกเลย ผมก็ยังงอยู่ เห็นที่แขนเขาใส่ Alba spool แทน G-Shock อันเดิมของเขา ผมกับริว ก็ถามเขา

"เป็นไงชอบไหม" เขาก็หันหน้ามามองทางผม
"ขอบคุณมากนะ" เขาพูดยิ้มๆ ผมเพิ่งเห็นของขวัญของฟูจังก็ตอนนี้หละ เป็น ล็อกเก็ต ทำจาก Platinum สวยมาก เขาเปิดให้พวกผมดู มันใส่รูปได้ 2 ฝั่งเลยที่ตัวกับฝา ที่ตัวมันใส่รูปเขาที่ถ่ายกับฟูจัง 2 คนที่ ดิโอลด์สยาม ส่วนฝาก็ใส่รูปพวกผม 6 คน ตอนที่ถ่ายกันที่ ดิโอลด์สยามนี้หละคับ ธรรมดาเขาจะไม่ใส่ของใส่คอกันเลย แต่นี้เขากลับพกติดตัวก็แหม ของคนรักให้หละนะ

Lonely Wind

  • บุคคลทั่วไป
 :-[28. The Wedding - งานแต่งงาน



นี้ก็ใกล้หมดเดือน 7 แล้ว ผมกับเพื่อนๆก็สนุกสนานกันตามเคย แต่คราวนี้มันสนุกกว่า เพราะมันสนุกกันทั้งห้องของผมเลย และก็มีอาจารย์รู้เห็นเป็นใจด้วย.........อิอิ..........(^-^)

ผมมี อาจารย์ที่สอน Eng ให้กับพวกผมตอนม.5อยู่ คนหนึ่ง แกเป็นผู้หญิง อายุไม่มากเท่าไหร่ ประมาณ 24-25 นี้เอง ขี้เล่นมาก พวกผมก็สนิทกับแกมากพอสมควร มีอยู่วันหนึ่งแกนึกพิเรนทร์อะไรของแกก็ไม่รู้ ถามหัวหน้าห้องผมว่า

"สิทธิๆ เธอมาหาครูหน่อย" อาจารย์เขาเรียก เพื่อนผมก็เดินไปหา แล้วเขาก็คุยกันซักพัก ผมเห็น อาจารย์กับไอ้หัวหน้าห้องผม เขามองมาทางผมกับริว โชจิกับฮิโตมิ เคลวินแล้วก็ฟูโกะ และเพื่อนๆบางคนในห้องที่เป็นแฟนกันอยู่ แล้วเขา 2 คนก็หัวเราะกัน แล้วอาจารย์ก็ออกมพูดหน้าห้อง
"เอาหละ นักเรียนนะเดี๋ยววันนี้ตอนเย็น ให้นักเรียนทุกคนไปพบครูที่ห้องแนะแนวนะ"
พวกผมก็งงกัน แต่ก็ตกลงรับคำแกไป
"แล้ว ริว โชจิ เคลวิน แบง ฮิโตมิ ฟู .......(รายชื่อเพื่อนผมที่เป็นแฟนกันในห้องอีก 2-3คู่) ตอนเย็นไปรอครูที่ห้องหมวดนะ"

พวกผมก็รับคำ ด้วยความงง (พวกผมทำงานให้ อาจารย์แกบ่อย เสาร์อาทิตย์บ้าง บางทีก็มาช่วยแกทำงานที่บ้านเลยก็มี ก็เลยสนิทกับแกมากด้วย)

เย็นวันนี้ ผมกับพวกเพื่อนๆที่ถูกเรียกมา รอที่ห้องหมวดก็รอแล้วรออีก อาจารย์ก็ยังไม่มา จนกระทั่งจะ 5 โมงแล้ว "ไง รอกันนานไหม" อาจารย์ถาม
"โห..อาจารย์ เย็นเลยนะเนี่ย" ผมตอบกลับภาษากันเอง
"เออ… ช่วยครูเก็บห้อง Sound lab หน่อยดิ พรุ่งนี้จะมีงานหนะ"
"งานอะไรคะ" ฟูจังถาม
"ก็มีงานแต่งงานกันนิดหน่อย" พวกผมถึงกับหูผึ่ง คิดว่าอาจารย์จะแต่งงานเหรอ หรือว่าอะไร ก็งงกันน่าดูเลย แต่ก็ไปช่วยอาจารย์เก็บห้องแล้วหละคับ เสร็จก็ปาเข้าไป 6 โมงกว่า
"เรากำลังงง ใครจะแต่งกันหว่า" ผมถามริว ขณะขับรถกลับบ้าน
"ใครก็ได้ ขอให้พวกเขามีความสุขละกัน" ริวพูด พลางยิ้มแล้วก็ขับรถไป ผมนึกขึ้นมาได้ พวกที่เหลือหละ อาจารย์สั่งอะไรหว่า ก็เลยหยิบเอามือถือในกระเป๋าออกมา พลางกดเบอร์ไอ้หัวหน้าห้องของผม
"ฮัลโหล ขอสายใครคับ"
"สิทธิหรอ แบงพูดนะ"
"อืมมว่าไง" เขาเริ่มถาม
"นี่ อาจารย์ ...... แกนัดไปคุยเรื่องไรกัน" ผมถามมันเผื่อจะได้รู้อะไรบ้าง
"ก็ไม่มีอะไรนิ แค่เรื่องคะแนนที่ไม่ค่อยดีน่ะ" มันตอบแต่ฟังไม่ค่อยขึ้น
"มีแค่นี้จริงหรอ" ผมถามย้ำ
"ก็เอออะดิ จะให้มีแค่ไหนหละ" มันตอบกลับแบบ.............
"เออ งั้นก็แค่นี้นะ" แล้วผมก็วางหูลงไป แล้วก็หันไปหาริวต่อ
"ได้ความว่าไงหละ" ริวถาม
"ไม่รู้อะไรเลย" ผมตอบแบบผิดหวังเล็กน้อย

วันต่อมาในคาบ Eng ของอาจารย์ วันนี้พวกผมเรียนกันในห้อง Sound lab มันเป็นห้องที่ปูพรมแดง แล้วก็ตรงกลางห้องพื้นจะยกสูงขึ้นหน่อยนึง จะแบ่งโต๊ะออกเป็น 2 ฝั่ง ซ้ายกับขวา เป็นแถวๆลงไป แถวละ 5 คนคล้ายๆกับที่นั่งในโบสถ์เลย มีโต๊ะอาจารย์พร้อมกับ เครื่องควบคุมเสียงอยู่ข้างหน้าตรงกลางห้องต่อจากพื้นยกสูงพอดี
หลังจากอาจารย์เข้าห้องแล้วพวกผมเคารพ อาจารย์กันแล้ว ก็เริ่มตามแผนอาจารย์

"เอ้า ทุกคนออกมาข้างหน้าห้องแล้วทำตามที่ตกลงกันได้แล้วจ้ะ" อาจารย์สั่ง ผมก็งง
"แล้วพวกเราหละ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย"ผมถามเพื่อนๆ
"งั้นก็ไปอยู่หน้าห้องละกัน" แล้วพวกเขาก็วิ่งเข้าไปนั่งกัน พวกผมกับพวกที่ไปเก็บห้องเมื่อวานก็เลยเอ๋อ แดกกันอยู่หน้าห้อง
"เรียบร้อยกันแล้วใช่ไหมจ๊ะ เอาหละ เรามาเริ่มพิธีแต่งงานกัน" อาจารย์พูด ผมงี้เสียวไส้อย่างบอกไม่ถูกเลย งงด้วย
"พวกริวนะ ไปข้างหลังนู้นเลย" อาจารย์บอกพลางชี้ไปข้างหลัง พวกผมก็ไปกัน ช่องทางเดินที่ยกขึ้นมันกว้างพอจะเดินได้ 2 คนเอง พวกเราก็เลยเดินกันเข้าไปเป็น คู่ๆ โห..... อาจารย์ เรานี้ขี้เล่นชะมัด....
"เอาหละ ขอให้เจ้าบ่ายเจ้าสาวเดินเข้าพิธีด้วยค่ะ" อาจารย์พูดอย่างกับตัวเองเป็นพิธีกรงั้นหละ แล้วเพลงแต่งงานมันก็ดังขึ้น ผมงี้สั่นเลย อยู่หลังสุดด้วยคู่สุดท้ายเลย
"อะไรกันว่าเนี่ย" ผมพูดกะริว
"เอ็งก็เดินมาเข้าพิธีสิ" อาจารย์แกคงได้ยินแล้วแซวพวกเราเล่น

ก็ได้ ก็ได้ 2 คู่ก่อนหน้าพวกผม ไปกันแย้ว เหลือแต่พวกผมนี้หละ เอาไงดีฟะ โคตรอายเลย โชจิงี้ เดินจูงมือฮิโตมิไปเฉยเลย ไอ้พวกคู่ก่อนหน้าเราก็แค่เดินไปด้วยกัน นี่พวกเล่นซะจูงมือ พอไปถึงอาจารย์ก็ถาม(ทีคู่ก่อนหน้าไม่ยักกะถาม)

"นายโชจิ เอ๊ย นายพิเชษฐ์ (เรียกจนลืมชื่อจริงไปเลย อาจารย์เราเนี่ย) นางสาวศศิธร จะยอมเป็นสามีภรรยากันและกันหรือไม่" อาจารย์พูดต่อแบบในโบสถ์ เขาคิดว่าตัวเองเป็นนักบวชหรือไงเนี่ย (จริงๆแล้วอาจารย์คนนี้เจ้าบทบาทมากเลย พวกผมงี้แสดงเป็นอะไรแล้วบ้างก็ไม่รู้ ไว้จะเล่าให้ฟังทีหลังนะคับ)

เขา 2 คนมองหน้ากันแล้วก็หันหน้าไปหาอาจารย์

"รับคับ-ค่ะ" สองคนนี้สุดยอด ก็จริงหละนะหลังจากนี้พวกเขาก็ยังอยู่ด้วยกันอยู่เลย แล้วเพื่อนๆในห้องก็โห่กันแบบสุดๆเหมือนกัน ผมงี้ตื่นเต้นจนเหงื่อแตกไปหมดแล้ว แล้ว 2 คนนั้นก็เดินออกมาไปหลบอยู่ข้างขวา ไอ้คู่ก่อนหน้าเขาไปข้างซ้ายจนเต็มหมดแล้ว เคลวินกับฟูโกะก็เดินออกไปหาบ้าง

หมดแล้ว ตายแน่เลย ผมคิดในใจ เคลวินก็ไม่น้อยหน้าเดินออกไปกันเป็นคู่เลย จับมือกันออกไปด้วย ผมหละคงอายหน้าดูเลยถ้าไปแบบนี้

"นายประภากร นางสาวชลธิชา จะยอมเป็นสามีภรรยากันและกันหรือไม่" อาจารย์เริ่มถามคำถามบ้าๆนั่นอีกแล้ว เขา 2 คนก็มองหน้ากันแล้วก็ตอบพร้อมกันเลยว่า
"ยังไม่รับคับ-ค่ะ" พวกนี้ก็สุดๆอีก ตอบแบบตรงๆเลย จะว่าไปเคลวินเคยสารภาพรักไปหลายครั้งแล้ว แต่ฟูจังมักย้ำว่า เราเป็นเพื่อนกันไว้ดีกว่า ถ้ามีอะไรผิดผลาดจะได้ไม่เสียใจในภายหลังน่ะ ผมก็ว่าดีนะกับความคิดฟูจัง เพราะถ้าอย่างน้อยผมทำตามเธอบอก ผมก็อาจไม่ต้องเสียใจก็ได้

ต่อๆนอกเรื่องละ … พวกเพื่อนๆก็แทนที่จะโห่ร้องกันกลับหัวเพราะคิกๆคัก คงสมน้ำหน้าเคลวินมั้ง คราวนี้หละ ผมแล้ว อาจารย์แกก็ยิ้มๆหัวเราะเบาๆ ผมก็ไม่กล้าเดินออกไปเลย ขามันแข็งไปหมดเลยก้าวขาไม่ออก เพื่อนๆก็หันมามอง ใครบ้างไม่อายหละคับ ผู้ชาย 2 คนจะเข้าพิธีแต่งงานกันเอง แม้จะเป็นงานเล่นๆ และก็มีแต่เพื่อนๆ แต่ผมก็อายมากเลย

"แบงคุงเราไปกันนะ" ริวบอก
"อืมม" ผมตอบรับคำเขาแต่เขามันก็ยังไม่ขยับ ริวเดินจูงมือผมเข้าไป แต่ผมก็เดินไม่ได้ขาไม่ขยับเลย
"ริวเรา....เรา..ก้าวขาไม่ออก" ผมพูด ขามันไม่ขยับจริงๆนะ หัวใจงี้สั่นไปหมดเลย พวกเพื่อนๆผมก็หันมามองกันใหญ่
"งั้นก็ช่วยไม่ได้" ริวพูดแล้วเขาก็เดินมาข้างหลังผม เขาคล้องแขนกับคอผมแล้วก็อุ้มผมขึ้นไปเลย

กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียง จากเพื่อนๆ ผู้หญิง แล้วก็เสียงจากพวกผู้ชายโห่กันดังไปหมด ถึงผมจะคู่สุดท้ายแต่เสียงงี้ดังกว่าเพื่อนเลย

ริวก็อุ้มผมเดินเข้าไปยังหน้าห้อง ผมงี้ใจเต้นตึกๆ ขาไม่มีแรงเลย ไม่มีแรงทั้งตัวเลยมากกว่า พอมาถึงริวก็วางผมลงผมก็ลุกขึ้นยืนได้

"พวกเธอมันก็เจอแบบแปลกๆ" อาจารย์พูดเบาๆ "นายทิวากร จะยอมรับนายวชิระเป็นภรรยาหรือไม่" อาจารย์เริ่มคำพูดถามอันสุดแสนจะ.................. ผมงี้อายสุดๆเลย
"รับคับ" เขาตอบแบบไม่คิดมากเลย เพื่อนๆก็โห่กันทั้งห้อง
"นายวชิระ (ทำไมเป็นนายอะ ไม่ใช่นางสาวเหรอ อิอิ) จะรับนายทิวากร เป็นสามีหรือไม่" อาจารย์พูดจบผมก็ใจเต้นตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทีคนอื่นดันให้ตอบพร้อมกันทีเราให้ตอบแยก ฮือๆๆๆๆ
"รับ.....รับคับ" กว่าผมจะพูดออกได้นี้นะ นานเลยมันชาไปหมดเลย พอสิ้นเสียงผมเพื่อนก็โห่ร้อง กรี๊ดกร๊าดกันลั่นห้อง ดีว่า Sound lab มันเก็บเสียงได้อะนะ รอดไป ไม่งั้นข้างๆห้องคงเข้ามาดู แล้วริวก็จูบผมหน้าห้องนั้นเลย ต่อหน้าทุกคนเลย คราวนี้หละ อื้อฉาวแน่เลย............................................
"เอา พอได้แล้ว พวกเราก็สนุกกันมามากพอแล้ว ขอขอบคุณนะคะ ดาราจำเป็นทั้ง 10 คน แสดงบทบาทดีมาก" อาจารย์พูดไปหัวเราะไป "เอ้า พวกเราชอบคู่ไหน"
"คู่สุดท้าย............" เสียงนี้ผมหละโคตรอายเลย
"งั้นเดี๋ยวครูสั่งการบ้านเลยละกัน วันนี้จะให้ศัพท์ แล้วก็ประโยคต่างๆที่ใช้ในวันแต่งงานนะ" อาจารย์พูดพลางเขียนลงใน White board พวกผมก็ไปนั่งจดงานกัน ซักพักนึงเสียงออดก็ดังขึ้น ผมเขียนเสร็จพอดี แล้วก็เก็บของแล้วก็ออกจากห้องมาพร้อมกับเพื่อน
"ว่าไง เจ้าสาว........" เสียงรุ่นพี่ ม.6 เอ๊ยไอ้พวกนี้มัน 6/1 นี้หว่า ลืมไปเขามาต่อห้องของพวกผม
"แบงคุง จะรับผมเป็นสามีไหม" ไอ้พี่เดฟณรงค์ชัย พูดพลางทำบทกับพี่เบบวรพงศ์
"รับค่ะ...." พี่เบบวรพงศ์ตอบ แล้วเขาก็แกล้งจูบกัน แล้วก็หัวเราะผมกับริว
"สนุกเป็นบ้าเลย ดีที่มาทันดูคู่สุดท้าย" พี่เบบพูด ผมงี้ก็โมโหหน่อย วิ่งไล่เตะพวกมันไอ้พวก ม.6/1

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
55555  ครูเล่นพิเรนทร์อะ  แต่ขำดี  น่ารัก ๆ   ต่อด้วยน้า  รออยู่นะตะเอง   :impress:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เอิ๊กๆๆๆๆ :kikkik:

อ่านจบแล้น :yeb:


ตาแแะเลยครับ :myeye:


ขอบคุณครับ ที่เอามาลงให้ :angellaugh2:


พูห์ :teach:

Lonely Wind

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh:29.Fuu no tanyoobi-วันเกิดของฟูจัง.



วันนี้หละคับคราวดี วันเกิดของฟูจังๆๆ เธอเกิดในวันที่ 23 สิงหาคมคับ ริวเตือนผมเกี่ยวกับวันเกิดของเธอคับ

"แล้วคราวนี้จะจัดงานให้ฟูจังยังไงหละ" ผมถาม
"นัjนดิ ความคิดเราก็ไม่ออกนะ" ริวพูด ผมคิดกับริวอยู่นานในเช้าวันหนึ่งที่ใกล้กับวันที่ 23 สิงหาแล้ว
"งั้นเดี๋ยวไปถามพวกนั้นดูเพื่อจะมีใครคิดออกนะ" ริวบอกผม ผมก็ตกลงแล้วผมก็ไปโรงเรียนอย่างเร็วเพราะสายแล้ว

ผมก็มาถึงโรงเรียนแบบใกล้เข้าแถวกันแล้ว แต่ก็ยังทันที่จะคุยกับเพื่อนๆ "เออ..มีเรื่องจะคุยด้วยแนjะ" ผมพูดกับทุกคนตอนที่ฟูจังไปห้องน้ำพอดี

"ว่ามาดิ" โชจิพูด
"นีjใกล้วันเกิด ฟูจัง แล้วนะจะจัดงานกันแบบไหน" ผมถามความเห็น
"นัjนดิ เอาไงดี" ริวพูด
"พวกเราคิดกันไม่ออกเลย" ผมกับริวพูดขึ้นพร้อมกัน
"อืมม......เรามีความคิดดีๆๆบ้างนิดหน่อยนะ สนไหม" โชจิเสนอ
"ว่ามาเลย" ฮิโตมิพูด แล้วพวกผมก็ฟังแผนอันแยบคายของโชจิ อืมมม มันออกจะโหดร้ายไปนิด แต่ก็เขย่าขวัญดีมากเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้โอกาสหรือเปล่านะคับ มันต้องอาศัยโอกาสด้วย
"คุยอะไรกันอยู่หรอ" ฟูจังเดินเข้ามาพอดี
"ก็กำลังคุยกันเรื่องเตรียมสอบไง ใกล้แล้วนะ" เคลวินพูดกลบเกลื่อน หน้าตาเฉยเลย
"อืมม งั้นหรอ" ฟูจังพูดพลางสงสัย "เออ....ฟู แล้ววันที่ 23 นี้คุณน้าเธออยู่ไหม" ฮิโตมิถาม
"ก็…คงไม่อยู่หรอก เห็นเขาบอกว่าจะไปหาคุณพ่อคุณแม่เรานะ" ฟูจังพูด
งั้นก็เข้าแผนเลย อิอิ..เข้าท่า เข้าแผนโชจิเลย แผนของโชจิก็คือ พวกผมจะไปจัดงานกันตอนกลางดึกของวันเกิดฟูจังคับ แบบให้เธอตื่นมาเจองานวันเกิดของตนเอง ถ้าผมเป็นเธอ คงตกใจนึกว่าโดนโจรปล้น ไม่ก็ผีหลอกอะไรทำนองนี้หละ

ในวันเกิดของฟูจัง พวกผมก็ไปหาซื้อของกัน วันนี้ก็วันเสาร์ด้วย สบายเราเลย ผมออกไปหาซื้อของกับริวตั้งแต่เช้า ของที่ต้องใช้ก็มี เตาย่างปิกนิก + แก๊สกระป๋อง (เพราะคราวนี้จะทำบาร์บีคิวกินกันด้วย) น้ำอัดลม (พวกผมเด็กดีไม่ดื่มเหล้า โอกาซังเคยขอไว้ว่าอย่าดื่มเลย มันไม่ดี ก็เลยไม่มีใครดื่มกัน) แล้วก็ขนมเค้กด้วย

พอตกเย็นพวกเราก็มากันที่บ้านริวเพื่อเตรียมของให้เรียบร้อยกันเพราะคงเตรียมที่บ้าน ฟูจังไม่ได้ (ให้เขารู้ได้ไง) แล้วพวกผมก็เสียบบาร์บีคิวกัน แล้วก็หาของขวัญกันมาด้วยนิดหน่อย ผมกับริวรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง โชจิกับฮิโตมิก็ไปเรื่องเค้กแล้ว ของขวัญก็ต้องพระเอกงานนี้ครับ กว่าพวกเราจะเตรียมของกันไปก็ดึกมาแล้ว ประมาณ 4 ทุ่มแล้ว พวกผมก็ไม่มีใครพูดถึงงานวันเกิดเธอเลยซักคนเธอคงนึกว่าไม่มีใครรู้มั้ง อิอิ.....ที่ไหนได้.......

หลังจากนั้นพวกผมก็ไปบ้านฟูจังกัน ก็เห็นแล้วว่าเธอนะหลับแน่ๆแล้ว พวกผมก็เอาของมาเตรียมของกันแล้วก็ปีน!....... ใช่คับ ปีนเข้าบ้านของฟูจังกัน แล้วก็เตรียมของตั้งโต๊ะเอย อะไรเอย พวกนี้หละที่ลานบ้านของเธอเลยคับ ผู้ใหญ่ไม่อยู่ก็สนุกง่ายๆๆแบบนี้หละคับ แล้วบ้านคุณอาเธอก็บ้านเดี่ยวด้วย ไม่ต้องรบกวนเพื่อนบ้านคับ (ไม่งั้นเดี๋ยวหาว่าพวกผมเป็นขโมย) พวกเราก็ตั้งโต๊ะเสร็จกันแล้วอะไรก็เรียบร้อยแล้ว เริ่มปิ้งบาร์บีคิวกันแล้วด้วยคับ

"เคลวิน ต่อไปตานายแล้ว" ฮิโตมิจังบอกแก่เคลวินว่าได้เวลาปลุกเจ้าของงานแล้ว เขาก็พยักหน้าแล้วก็ปีน! ปีนอีกแล้วคับ ปีนไปหน้าต่างห้องฟูจังแล้วเคาะหน้าต่าง (เคลวินเล่าให้ฟังคับ)
"ฟูจังๆๆๆ" เขาเรียก
"ใครอะ....ใครมาเรียกเรา" ฟูจังถามอย่างตกใจหน้าตาตื่นแบบเห็นผี
"เราเอง เคลวินไง มานี่สิ" เขาบอกเธอ
"ไม่ (กรี๊ด) อย่าเข้ามานะ ออกไป...." เสียงฟูจังดังออกมาลั่นบ้านเลย ขนาดห้องแอร์นะ
"เอาไงดี เขาไม่ยอมลงมา ตกใจใหญ่แล้ว" เคลวินตะโกนลงมา
"เออ เดี๋ยวทำให้" ริวก็วิ่ง(ปีน) ไปที่รถเขาซึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน หยิบเอาสปอร์ตไลท์ส่องไปที่หน้าต่างห้องฟูจัง ซักพักก็เห็นฟูจังเดินออกมาจากประตู เคลวินก็ปีนลงมาแล้ว
"ทำเราตกใจ นึกว่าผีหลอก" เธอพูดพลางร้องไห้นิดหน่อย
"โอ๋......เงียบซะ" พระเอกเราก็เข้าไปปลอบตามภาษาคน.......
"สุขสันต์วันเกิดนะ" เคลวินพูด คราวนี้เธอยิ่งร้องไห้โฮ......เลย
"พวกนายนี่....." แล้วเธอก็ร้องไห้อยู่กับเคลวิน
"ผมมีของขวัญให้ฟูจังด้วยนะ" เขาก็พูดพลางประคองฟูในอ้อมกอดเขา "นี่ไง" แล้วเคลวินก็หยิบออกมาให้เธอ เป็นห่อสีชมพู เป็นสร้อยมรกตสีเขียวคับ สวยมากเลย ผมก็ชอบ แต่ผมชอบแหวนที่อยู่บนมือผมนี้มากกว่า แหวนนำโชคของผม ตัวแทนของริวคับ แล้วพวกผมก็มานั่งกินบาร์บีคิวกัน ตัดเค้กกันกลางแจ้งด้วยคับ โชคดีอย่างแถวนั้นไม่มีป่าก็เลยไม่ค่อยมียุงคับ ไม่งั้นสงครามกับแมลงแน่นอนเลย (งานนี้โชจิก็ไม่พลาดเก็บรูปไว้ด้วยคับ เยอะเลย ผมก็ยังขำกับเสียงกรีดของเธออยู่เลยคับ)

Lonely Wind

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh:30.Hitomi no tanyoobi-วันเกิดฮิโตมิ


คราวนี้คับวันเกิดฮิโตมิ เป็นช่วงเปิดเทอมแล้วคับหลังจากสอบเสร็จแล้ว แล้วก็หลังวันเกิดผมกับโชจิไปแล้วด้วย เธอเกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน คับ (วันเกิดผมกับโชจิรอบ 2 ไม่ขอเล่าให้ฟังนะคับ) พวกเราก็เพิ่งจะฉลองวันเกิดให้เธอเป็นครั้งแรกหละคับหลังจากที่คบกันมานานปีแล้ว

"โชจิ ใกล้วันเกิดฮิโตมิแล้วไม่ใช่เหรอ เตรียมวางแผนกันไว้ยัง" ผมถามเขา
"ก็ยังหละ นายคงเตรียมแล้วสิ" เขาถามแบบรู้แกวผม
"เรียบร้อยแล้ว แต่พวกเราต้องรวมหัวกันนะ" ผมพูดตอนกลางวันของวันที่ 10 คับเป็นวันจันทร์งั้นวันเกิดฮิโตมิก็วันพุธคับ คงจัดงานกันลำบอกแต่ฝีมือผมนะไม่เคยพลาด อิอิ......................

ผมพูดกะเขาในวิชาพละตอนเข้าห้องเปลี่ยนชุดนะคับ

"อืมม…แล้วเดี๋ยวค่อยบอกฟู" ผมอธิบายแผนแล้วก็กำชับพวกเขา ก็แน่นอน ทำตามโดยดี พวกเรานี้ช่างสรรหาทำกันจริงๆๆเลยคับ
ในวันเกิดฮิโตมิ พวกผมก็ตกลงกันว่าจะไปจัดงานกันตอนเย็น ก็ไม่มีปัญหาอะไรกันคับ ฮิโตมิบอกคุณพ่อกับคุณแม่เธอเรียบร้อยแล้ว พอตอนเย็นวันนี้เลิกเรียนเร็วหนะ แค่ บ่าย 2 พวกผมก็เดินซื้อของเข้าไปจัดงานให้ฮิโตมิกัน ซักพัก ผมกับริวก็เริ่มแผนกัน ผมก็บอกให้ริวไปโทรศัพท์เข้ามือถือของโชจิ ผมก็คอยสังเกตการณ์อยู่ ซักพักเสียงมือถือโชจิก็ดังขึ้น
"Hai shoshi desu (คับ ผมโชจิพูดคับ)" โชจิพูดหลังจากรับโทรศัพท์ เขาก็ทำตามแผนเช่นกัน แล้วเขาก็คุยกันซักพัก แล้วโชจิก็วางสายลง (ริวกับโชจิเล่นละครเก่ง ตีบทแตกกระจายเลย)
"ฮิโตมิ ผมขอโทษนะ พอดีโอกาซังโทรมาบอกว่าให้พอเขาไปหาหมอหนะ พอดีเขาไม่สบายขึ้นมา" โชจิพูด
"อืมมม งั้นเหรอ" เธอตอบเสียงอ่อยๆ พวกเราก็พลายเงียบๆๆไปด้วย พลางนึกในใจแม่งแสดงโคตรเก่งเลย
"ผมขอโทษนะ โอกาซังบอกให้ไปเดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวฮิโตมิกลับบ้านไปกินกับพวกนี้ก่อนนะ แล้วเดี๋ยวผมกลับมาแล้วจะรีบตามไปนะคับ" โชจิอธิบายพลางมีลูกอ้อนด้วย อยากอาเจียนอะ บางที

แล้วโชจิก็ลาพวกผมกลับบ้านไปก่อน จริงๆๆแล้วไปบ้าน ริวตะหาก แล้วพวกผมหลังจากซื้อของจ่ายเงินกันแล้วก็พาฮิโตมิจังไปส่งบ้าน แล้วพวกเคลวินก็เริ่มจัดของเตรียมงานกัน ผมกับริวก็เริ่มแผนขั้นที่ 2

"ฮิโตมิ เดี๋ยวพวกเรามานะไปเอาของขวัญก่อน อยู่ที่บ้านหนะ" ผมบอกเธอ
"อืมม รีบไปรีบมาละกัน" เธอบอก ผมไม่เห็นเธอเศร้าเท่าไหร่นะ เธอเป็นคนเข้มแข็งมากนะ ฮิโตมิน่ะ ไม่เหมือนกับผมที่ขาดริวไปแล้วทำอะไรไม่ได้เลย

ผมก็รีบกลับบ้านกับริวเพราะเราไม่ได้ไปเอาของแต่จะไปทำของต่างหาก ผมก็มาถึงบ้าน แล้วก็โดนบ่นออกมาเลย

"มาช้าจังเลย พวกนายหนะ" โชจิเขามารอพวกผมนานแล้ว
"เอาเหอะ เร็ว" ผมรีบพูด เพื่อทำตามแผน โชจินี้ลงทุนทีเดียวคับ เขายอมลงทุนเป็นของขวัญหละ เขาเอาของขวัญของเขาใส่ลงในช่อดอกไม้ เขาซื้อนาฬิกาแบบของผู้หญิงของ casio ให้คับ แล้วเขาก็เอาของขวัญของเขาพร้อมกับตัวเขาลงไปในกล่อง! ใช่ ลงในกล่อง TV ขนาด 29 นิ้วเลย พวกผมนะกว่าจะคิดแผนนี้ได้แทบหัวแตกเลย หาของก็ยากด้วย

แล้วผมก็ปิดกล่องด้วยกระดาษห่อของขวัญคับ ปิดแน่นเลยคับ แต่ก็ยังมีอากาศพอให้เขาหายใจคับ แล้วก็ยังใส่คัตเตอร์เอาไว้ด้วย เผื่อไม่ไหวจริงๆ แต่ผมกลัวกล่องทะลุมากกว่า แม้โชจิจะหนักแค่ 52 กิโลก็เถอะแต่มันก็หนักพอดูเลยคับ เวลายกขึ้นรถเนี่ยผมกับริวเหนื่อยแทบตายแนะ แล้วพวกเราก็ซิ่งสุดฤทธิ์เลยเพราะอากาศข้างในมีน้อย แต่ผมก็มาดูเวลากว่าพวกเราจะห่อเสร็จก็ปาเข้าไป เกือบ 2 ชั่วโมงแล้ว

พอพวกเรามาถึงงานก็เริ่มไปนานแล้วคับ พวกเขากินกันไม่รอเราเลย แต่ก็อย่างว่าหละ รอ 2 ชั่วโมงกว่าใครจะรอไหว

"เคลวิน ออกมาช่วยกันเอาของหน่อย" ผมตะโกนบอกเขาเมื่อเรามาถึงบ้านฮิโตมิ ผม ริว เคลวิน 3 คนแบกกล่องขนาดมหึมา หนักกว่า 52 กิโลกรัมเข้าไปกัน
"พวกนายเอาอะไรมาน่ะ ใหญ่ขนาดนั้น" ฮิโตมิถามด้วยความตกใจ
"พอดีแวะไปเอาของขวัญโชจิมาให้หนะ เนี่ย โชจิเป็นคนซื้อหละ" ผมบอกเธอ เธอก็ทำหน้าซึมไปเลย คงเสียดายมั้งที่น่าจะมางานด้วยกัน
"งั้นเดี๋ยวเราหาที่วางกันก่อนนะ หนักมากเลย" ผมบอก
"งั้นเอาไปวางข้างๆๆกำแพงนะ" ฮิโตมิจังบอก ผมก็เอาไปวางข้างๆกำแพงห้องเธอ แต่ผมไม่วางชิดนะ เพราะนึกขึ้นได้โชจิหมดอากาศหายใจแน่เลย ผมก็พูดกับเขาเบาๆพอได้ยิน
"โชจิ เดี๋ยวนายเจาะตรงนี้เอานะไม่งั้นนายตายแน่เลย" ผมบอกพลางเอามือเคาะกล่องด้านที่วางติดกับกำแพง เขาก็เอาคัดเตอร์เจาะออกมาไว้หายใจ ไม่น่าลำบากเลย อิอิ.....แต่สนุกมากเลยคับ
"พวกนายทำอะไรกัน" ฮิโตมิถาม พลางเห็นพวกผมยุ่งกับกล่องของขวัญ
"ก็กำลังอยากแกะหละ อยากรู้มันมีอะไรถึงได้หนักมาก" ผมพูดกลบเกลื่อน
"อืมม นั่นสิเราก็อยากรู้เขาจะให้อะไรเรา" เธอพูดพลางลูบบนกล่อง
"เอาไว้เปิดเองละกัน พวกเราไม่อยากดูหละ" ผมบอก
"อ้าว ไหนบอกอยากดูไง" ฮิโตมิเธอย้อนกลับ เธอเป็นคนฉลาดอะนะ หลอกไม่ได้ง่ายๆๆเลย
"ก็เอาไว้ฮิโตมิดูเองละกัน แล้วค่อยเอามาให้ดู" ผมบอก
"งั้นก็ได้" เธอบอก ผมงี้รีบเดินออกห่างจากกล่องเลย กลัวเธอรู้

พอดึกๆๆพวกเราก็ตัดเค้กกัน แล้วผมก็บอกริว กับเคลวินเริ่มแผนขั้นที่ 4 ริวออกมาหน้าบ้านแล้วก็โทรศัพท์เข้ามือถือเคลวิน

"Hai kelvin desu (คับเคลวินพูดคับ)" เขาพูดลงบนโทรศัพท์
"อ้อ โชจิหรอ ว่าไง.......... ตกลงมาไม่ทันใช่ไหม อืมม แล้วเดี๋ยวจะบอกฮิโตมิให้...อืมม.....แค่นี้ก่อนนะ"
เคลวินเล่นละครเก่งพอดูคับ........ ใช้ได้ พวกนี้หลอกลวงต้มตุ๋นคนได้เลย
"ฮิโตมิจัง........" เคลวินกำลังจะพูด
"เรารู้แล้วหละ เขาคงมาไม่ทันใช่ไหม.........." เธอพูดออกมาเลย
"งั้นเรามาตัดเค้กกันเลยดีกว่า" เธอชวนพวกผม แล้วเธอก็ตัดเค้กกินกัน หลังจากนั้นก็เก็บของแล้วพวกเราก็ลาเธอกลับบ้านกันคับ
(ต่อจากนี้โชจิกับฮิโตมิมาเล่าให้ผมฟังคับ) หลังจากพวกเรากลับกันไปแล้ว เธอก็ไปแกะของขวัญคับ กล่องใหญ่ที่โชจิให้แก่เธอ เมื่อเธอเปิดกล่องออกมา โชจิก็ลุกขึ้นพรวดออกมาเลยคับ โชจิบอกหน้าเธอตกใจเอามากๆๆ แบบซีดเลย
"สุขสันต์วันเกิดนะ" เขาพูดพลางเดินออกจากกล่องแล้วก็ส่งช่อดอกไม้แล้วก็ของขวัญให้กับเธอ
"โชจิ........." เธอพูดพลางร้องไห้ เขาก็เอาเธอเข้าไปกอดหละคับ ผมงี้อยากดูจริงๆๆเลย เสียดายไม่มีโอกาสฟังแต่ที่เขาเล่าแล้วก็เอามาเขียนนี้หละ คืนนั้นโชจิกลับบ้านไม่ได้คับ ไม่มีรถ ก็เลยต้องนอนค้างบ้านฮิโตมิจังคับ แต่รับรองว่าไม่มีอะไรกันแน่ๆคับ
ฮิโตมิเธอบอกว่า เธอเห็นโชจิหัวกระเซิงเลย เหงื่อแตกหน้าแดงไปหมดเลย แต่เธอก็ดีใจมากๆเลย โธ่ ไม่ดีใจไงหละคับ คนรักอุตส่าห์ยอมเป็นของขวัญมาประเคนเลยนะเนี่ย............ช่างน่ารักกันจริงๆเลยคู่นี้.........(^-^)

Lonely Wind

  • บุคคลทั่วไป
 :-[31.Todai(tokyo-daigaku)-โตได(มหาวิทยาลัยโตเกียว)


ผมเดินผ่านหน้าห้องแนะแนวในวันหนึ่งของ ม.5 เทอม 2 คับใกล้ๆๆปิดเทอมแล้วด้วย ผมเห็นเกี่ยวกับการสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย แบ่งออกเป็นต่างประเทศกับในประเทศ ผมก็เห็นป้ายประกาศอันหนึ่ง เขียนไว้ว่า "มหาวิทยาลัยโตเกียว" ผมก็สนใจแล้วก็อยากเข้าที่นี้มานานแล้วก็เลยเข้าไปติดต่อกับอาจารย์ในการเข้าสมัครเรียนที่นี่

"พวกเราจะเอนท์ที่ไหนกันบ้างหละ" ผมถาม
"เราอยากเข้า โตได" ริว โชจิ เคลวินตอบ
"มหาวิทยาลัยโตเกียวน่ะเหรอ" ผมถาม
"มันเป็นไงหรอ" ฟูจังถามเธอไม่ค่อยรู้จัก มหาลัยต่างประเทศเท่าใดนัก
"เราก็อยากเข้านะ แต่ไม่รู่ว่าจะสอบเข้าได้ไหม" ฮิโตมิจังพูด
"ไม่ยากเกินไปหรอกนะ ถ้าพยายามนะ" ริวบอก งั้นตกลงพวกผมทั้งหมดก็จะลองสอบเข้าที่นี่ดูคับ แต่พอถึงเวลานั้นแล้วมีแค่ โชจิกับฮิโตมิ 2 คนที่เข้าไปเรียนที่นั้น ผมเรียน ม. ในประเทศเรา ริวไม่ได้เรียนต่อคับ ส่วนเคลวินกับฟูจังก็ไปออสเตรเลียกันคับ

พวกเราทุกคนอยากเข้าที่นี่กันมาก และตลอดปิดเทอมของม.5 เทอม2 พวกเราก็ทบทวนวิชาต่างๆที่เรียนกันมาตลอด 4 เทอมที่ผ่านมาเพราะเอนทรานซ์เข้าโตไดไม่ใช่เรื่องง่าย ช่วงเดือนกันยายน เขาจะให้นักเรียนในระดับ ม.6 สามารถสอบเข้าได้ในช่วงนี้แหละคับ พวกผมก็เรียนกันแบบเอาเป็นเอาตายเลย

พวกเราเหลือเวลากันอีกไม่มากแล้วคับ ตอนนี้มีแต่เรียนกับเรียน ผมยังงเลยผมไม่น่าทำได้ขนาดนั้นเลย แต่ผมก็ทำได้เพราะมีพวกเขาอยู่
ด้วยกันนี่หละคับ เราเรียนกันวันหนึ่งแทบไม่พักเลยทีเดียว GPA ของพวกผมก็สูงสุดของโรงเรียนแล้ว วิชาเรียนของผมไม่ใช่ปัญหาแต่เป็นภาษาญี่ปุ่นเพราะผมยังไม่คล่องมากนัก (แต่เดี่ยวนี้เก่งแล้ว) แม้จะอยู่กับริวก็ตาม ส่วนคนอื่นๆเขาไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ผมก็ต้องติวภาษาญี่ปุ่นตลอดเวลาคับ

"เหนื่อยแล้วยัง" ริวถามผมขณะสอนภาษาญี่ปุ่นให้ผมอยู่
"ไม่เป็นไร เรายังไหวนะ" ผมตอบเขา พร้อมกับเรียนต่อแต่เขาก็อยากให้ผมพัก
"เอาเป็นว่าเรียนแค่วันนี้นะ แล้วพรุ่งนี้เราไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน" ริวบอกผม
"งั้นก็เรียกพวกเราไปด้วยกันนะ" ผมบอกเขา เพราะรู้แล้วผมก็คงไม่ไหวเหมือนกัน
"ไม่ต้องหรอก นานๆจะไปกัน 2 คนซะที" เขาบอกผม ผมก็ตกลง ผมไม่น่าตกลงเลยเพราะมันทำให้ผมต้องเสียเขาไปอย่างไม่มีวันได้กลับคืนมา



****************************************************************************************************************
ตอนหน้าเป็นตอนสุดท้ายแล้วนะครับเดี๋ยวดึกๆจะมาโพสต่อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ตอนหน้าจะจบแล้วเหรอ  ลางไม่ดีอะ  ริวอย่าเป็นไรน้า   รออยู่นะค้า  :impress:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เพี้ยง :amen:

ขอให้อย่าเศร้าเลยนะครับ


พูห์ :teach:

Lonely Wind

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อตอนสุดท้ายให้ครับ
******************************************************************

 :impress:32.Sayoonara-ลาก่อน



ตอนสุดท้ายสำหรับเรื่องนี้แล้วนะคับ ตอนนี้ผมพยายามเขียนให้ออกทั้งที่ผมก็ทรมานใจมากพอดู เข้าเรื่องต่อเถอะคับ
เช้าวันนี้ วันที่ 4 สิงหาคม หลังจากที่พวกผมติวกันอย่างหนักเมื่อวันก่อน วันนี้ริวจะพาผมไปเที่ยว ผมจำได้ดี เขาใส่เชิ้ตสีขาวกางเกงยีนส์สีดำ เป็นชุดสุดท้ายที่เขาใส่ให้ผมดูคับ ผมกับเขาตกลงจะไปพัทยากันเพราะผมอยากไปเที่ยวทะเลด้วย ริวก็พาผมไป ถ้าเขาไม่ตามใจผม เขาก็คง....... เราออกบ้านกันตอน 6 โมงไปถึงก็ราวๆ 9 โมงคับ

พวกผมก็ไปเที่ยวเล่นน้ำกัน ว่ายน้ำ พอผมขึ้นมาจากน้ำผมก็มองหาริว

"ริว....อยู่ไหน" ผมตะโกนหาเขา
"นี่ๆ..ทางนี้" เขาบอกผม ผมก็ไปดู เขากำลังนั่งก่อปราสาททรายอยู่ใหญ่มากเลย
"นายนี่เล่นเป็นเด็กๆๆเลยนะ" ผมบอกเขา
"ก็เราก็เด็กๆกันไม่ใช่เหรอ" เขาบอกผม
"เราก็โตกันแล้วนะ ปีหน้าก็ 19 แล้ว" ผมบอกริว
"งั้นหรอ อืมม ลืมไปเลยนะ พวกเราอยู่กันมา 3 ปีแล้วสิเนี่ย" เขาพูดพลางล้มลงนอนบนพื้นทราย ผมก็นอนลงไปข้างๆๆเขา
"ผมอยากสร้างบ้าน เอาไว้ให้พวกเราอยู่กัน ไว้พวกเราอยู่ด้วยกัน" ริวบอกแก่ผม
"เราอยากอยู่กับนายนะ" ผมบอกเขา
"ถ้านายเกิดชอบใครขึ้นมานะ เราก็ให้นายไปอยู่กับเขาได้เลย ไม่ต้องรอเราหรอก ไม่ต้องห่วงเราด้วย" เขาบอกแก่ผม ผมก็งงกับความคิดเขา แต่ก็พอเข้าใจ
"ริวก็เหมือนกัน ถ้านายสามารถหาคนที่นายจะรักได้มากกว่าเรา เราก็อยากให้นายไปอยู่กับเขา ไม่ต้องห่วงเราหรอกนะ" ผมบอกเขา
"เราจะไม่มีวันเลิกรักนายหรอก" ริวบอกแก่ผม
"เราก็เหมือนกัน ไม่ใช่เพราะนายมีเงิน ไม่ใช่เพราะนายเรียนเก่ง ไม่ใช่เพราะนายหล่อ หรืออะไร แต่นายเป็นคนที่นำทางให้แก่เรา เป็นคนที่เรารักมาเสมอ" ผมบอกแก่เขา เขาก็เข้ามาจูบผม
"เดี๋ยวไปโรงแรมกันนะ" เขาบอก ผมก็รู้ว่าเขาต้องการอะไรก็ตามเขาไป

ผมกับเขาเริ่มกอดกันในห้อง เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้ร่วมรักกับเขา ผมจำลีลาของเขาได้หมด จำคำพูดของเขาได้ทุกคำ หลังจากนั้นพวกเราก็นอนหลับกันไป ตื่นมาอีกที ก็ 6 โมงเย็นแล้ว พวกผมก็เลยตัดสินใจกลับบ้านกันเลย เพราะพรุ่งนี้ยังมีโปรแกรมเรียนต่อ เขาก็ตามใจผม ถ้าเขาไม่กลับวันนี้เราก็ไม่เกิดเรื่องแล้ว ผมมานั่งเสียใจ

ผมนั่งรถออกไปกับเขา celica คันโปรดของเขา มันเข้าร่วมชะตากรรมกับพวกเราจนมันพังไปเกือบทั้งคัน มันช่วยชีวิตผมแต่มันไม่ยอมช่วยชีวิตเจ้านายมัน แต่ผมก็เกลียดมันไม่ลงเพราะมันเป็นรถคันโปรดของริว ทางมืดมาก พวกผมอยู่ระวางทาง ถนนออกจากตัวเมืองชลบุรี เข้า กทม.คับ มันมืดมากเลย ขนาดเปิดไฟสูงก็ยังมืดอยู่ดี ซักพักผมเห็นเงาดำๆรถบรรทุกคับ ผมรีบเตือนริว

"ริว รถบรรทุกนะ ระวังหน่อย ขับช้าลงนิดนึง" ผมเตือนเขา "อืมม ไม่เป็นไรหรอก" เขาบอกผม ผมก็เชื่อเขาเพราะเขาเป็นคนขับรถเก่งอยู่แล้ว พาผมไปไหนบ่อยๆแต่คราวนี้เมื่อรถบรรทุกมันขับเข้าใกล้พวกเรามากขึ้นเรื่อยๆผมก็สังเกตมันเริ่มวิ่งผิดเลน
"ริว ระวังนะรถมันผิดเลนแล้ว" ผมเตือนเขาแต่ช้าไปแล้ว ริวพยายามหักขวาออกเพื่อข้ามไปอีกเลน แต่ระยะแค่นั้นไม่พ้น รถสิบล้อคง เหยียบมา 100 กว่า ริวก็เหยียบมา 130 เลยคับ ชนกันเข้าทางด้านซ้ายของรถ แล้วผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย ผมรู้ตัวอีกทีก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว ผมเห็นโอกาซัง โอโตซัง คุณพ่อคุณแม่ของผม มาด้วย
"แบง รุ้ตัวแล้วหรอลูก" คุณแม่ผมรีบวิ่งมาถามอาการ
"เกิดอะไรขึ้น แล้วริวหละคับ" ผมรีบถาม เมื่อนึกขึ้นได้
"ลูกเกิดอุบัติเหตุ สลบไป 2 วันแล้ว ดีนะไม่เป็นอะไรมาก" คุณพ่อผมบอก
"แล้วริวหละคับ" ผมถามย้ำ ทุกคนก็เงียบกันหมด
"ทำไมเหรอ เกิดอะไรกับริวคับ" ผมถามผู้ปกครองของผม
"แบงคุงลูกทำใจดีๆๆไว้นะ" โอกาซังพูดพลางร้องไห้ ผมอยู่กับโอกาซังมานานแล้วแต่ไม่เคยเห็นเขาร้องไห้เลย "ริวเสียชีวิตแล้วลูก"

โอกาซังบอกผม ผมงี้ร้องไห้ออกมาทันทีพลางให้พวกเขาพาไปดูศพ ผมไม่เชื่อกันเรื่องที่เกิดขึ้นหรอก มันต้องไม่จริง
ผมเปิดห้องผู้ป่วยข้างๆเข้าไป ผมพบกับทุกคน

"แบงคุง รู้ตัวแล้วหรอ ปลอดภัยใช่ไหม" ฮิโตมิ ถามผม
"ริวหละ" ผมเดินเข้าไปพลางถามน้ำตาไหลเต็มหน้าไปหมด
"ริวเขา..ไปดีแล้วหละ" ฟูจังพูด แล้วก็พลางปลอบผมด้วยอาการคล้ายกันน้ำตาเต็มหน้า ผมเห็นร่างของคนที่นอนอยู่บนเตียงผ้าใบ ร่างของคนที่ผมรักมากที่สุด.........นอนอยู่บนเตียงมีรอยยิ้มบนหน้า....... พร้อมกับรอยเลือดที่เช็ดออกไม่หมด ผมเข้าไปกอดเขาร้องไห้อยู่อย่างนั้นทั้งวัน
"ริว ตื่นสิ ทำไมทำกับเราแบบนี้นายจะปล่อยเราอยู่คนเดียวเหรอ ริว............ริว...............ตื่นสิ" ผมตะโกนลั่นห้องคล้ายกับคนบ้า
ผมมารู้เอาทีหลัง ริวเสียชีวิตเพราะเขาทนพิษบาดแผลไม่ไหว ตอนชนกันเขาก็ยังปลอดภัยดีอยู่แต่เขาพยายามฝืนโทรศัพท์เข้าโรงพยาบาล แล้วก็จบชีวิตลงเมื่อเขาพาผมเข้าโรงพยาบาลได้แล้ว เขาทำทุกอย่างเพื่อให้ผมอยู่รอดโดยไม่ห่วงตัวเองเลย แต่เขาลืมคิดไป ถ้าเขาไม่อยู่แล้วผมจะอยู่ยังไง ผมไม่เคยเข้าใจกับความคิดเขาเลย

หลังจากนั้นผมพยายามที่จะตายตามเขาไปให้ได้ ผมเอาผ้าห่มสีขาวพูกับราวเหล็กผ้าม่านบังเตียงนะคับ กะตายให้รุ้แล้วรู้รอดไปเลย พอดีโชจิเข้ามาในห้อง

"แบงคุงนะจะทำอะไรน่ะ" ผมรีบเข้ามาห้ามแล้วก็ล๊อกตัวผมไว้ พวกเราก็แห่กันเข้ามา
"หยุดนะ แบงคุง" ฮิโตมิพูด
"ปล่อยเราเหอะ ไม่มีริวแล้ว เราก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว" ผมบอกกับพวกเขา
"เราเสียริวไปแล้วนะ อย่าให้พวกเราต้องเสียเธอไปอีกคนเลย" ฟูจังพูดกับผม แล้วพวกผู้ใหญ่ก็วิ่งเข้ามากัน
"แบง หยุดนะลูก" คุณแม่คุณพ่อผมห้าม
"ไม่ ริวไม่อยู่ ผมอยู่ไปก็เท่านั้นไม่มีความหมายหรอก" ผมยังคงบ้าไม่เลิก
"แบงคุงลูก ฟังแม่พูดนะ" โอกาซังพูดพลางเดินเขามาหาผม ผมเริ่มหยุดเพราะผมเคารพโอกาซังมาก
"ลูกมองไปที่หน้าริวซิลูก" โอกาซังพูด "เขากำลังยิ้มใช่ไหมลูก" โอกาซังถามผม ผมพยักหน้า
"เขาดีใจที่ลูกปลอดภัย เขาไม่ต้องการให้ลูกเป็นอันตราย" โอกาซังบอก ผมก็เข้าไปกอดเขาพร้อมกับร้องไห้ "เขาอยากให้ลูกอยู่ต่อไปแม้ไม่มีเขา" โอกาซังบอกผม "ลูกต้องอยู่ต่อไปนะเพื่อริวนะลูก" โอกาซังพูดพลางร้องไห้..........ผมหยุดบ้าแล้ว

หลังจากงานศพริว ผมก็กลับมาอยู่กับโอกาซัง โอโตซังที่บ้านเขาตามเดิม เขาอยากให้ผมอยู่ อยู่กับเขา อยู่กับครอบครัวเขา ทุกคนดูแลผมเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน เหมือนกับริว เหมือนเป็นลูกพวกเขา แม้ไม่มีริวก็ตาม

หลังจากนั้น พวกเราก็แยกกันไปตามทางของพวกเราคับ โชจิ กับฮิโตมิจัง สอบเข้า โตได ได้ก็ไปอยู่ญี่ปุ่น เคลวินกับฟูจังสอบโตไดไม่ได้แต่พวกเขาก็สอบเข้ามหาลัยใน วิกตอเรีย ในออสเตรเลียได้ก็เลยไปต่อออสเตรเลีย ผมก็จะไม่เรียนต่อแต่โอกาซังบอกให้ผมเรียนต่อ อยากให้ผมมีอนาคต ท่านทั้งสองรักผมมากพอกับลูกของท่าน ท่านบอกผมไว้ว่าพินัยกรรมของท่านทั้งหมดยกให้ริวกับผมหมด ผมก็รู้ แต่ผมก็ไม่เคยอยากได้ แต่ท่านก็ให้ผมมา ผมยอมให้ริวกลับมาจะยังดีกว่า

ผมคิดถึงเค้ามาก และผมไม่กล้าจะทำอะไรเลยเมื่อไม่มีเขาอยู่ ในใจของผมมันว่างเปล่า ถึงแม้เข้าอยากให้ผมอยู่ต่อ แต่มันก็ไม่มีความหมายเหมือนเดิม ผมทนอยู่โดยไม่มีริวต่อไป จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่ผมทนไม่ไหวอีกต่อไป ผมตัดสินใจจะไปจากบ้านของเขา ไปจากห้องของริว ไปจากชีวิตที่ไม่มีหวังนี้ ผมจะอยู่ที่นี้เป็นคืนสุดท้าย ในห้องของริว ในบ้านของริว กับโอกาซัง โอโตซัง ผมถอดแหวนของเขาออก เก็บใส่กล่องแล้วก็เอาไปวางไว้บนหัวเตียง ผมกะจะไม่เอาอะไรของเขาไปเลย ผมคิดจะลืมเขาไปให้หมด

ในคืนนี้เองผมก็ได้พบเขา ผมจำไม่ได้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ แต่ผมจำได้ถึงคำพูดของเขาทุกคำที่เขาพูดกับผม

"ริว เราคงจะไปแล้วหละ เราคงไม่อยู่ที่นี้อีก เราอยู่ต่อไม่ได้หรอก โดยไม่มีนาย" ผมบอกกับเขา เขาก็ยิ้มอย่างเคยแล้วเดินเข้ามาหาผม พร้อมกับช้อนตัวให้ผมลงนั่งในอ้อมกอดของเขา
"เราทนไม่ได้หรอกริว เราอยู่ต่อไม่ได้" ผมบอกกับเขาต่อ เขาก็ยังคงยิ้มให้อีก
"นายคิดว่าเราจากนายไปเหรอ" เขาถามผม
"ใช่ นายจากเราไป" ผมตอบเขา "เราต้องอยู่คนเดียว มันโดดเดี่ยวมาก นายรู้ไหม" ผมบอกกับเขา
"เราเคยบอกนายแล้วใช่ไหม เราจะไม่จากไปไหนไง" เขาบอกกับผม
"แต่นาย......" ผมกำลังจะว่าเขา
"เราไม่ได้ไปไหนเลย แต่นายต่างห่างที่จะทิ้งเราไป" ริวบอกกับผม
"หมายความว่าไง" ผมถามเขาพลางทำหน้างง
"นายลองคิดดูให้ดีๆนะ" เขาบอกผมพลางยิ้มให้อย่างที่เขาทำตลอดเวลา ผมก็ยังไม่เข้าใจในความคิดของเขา "นายยังจำได้ไหม เราจะไม่มีวันเลิกรักนาย คำพูดของเรา" เขาถามผม พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้ารอยยิ้มที่ผมต้องการจะเห็นอีก
"จำได้" ผมตอบเขา
"เราจะไม่เลิกรักนาย จะอยู่กับนายจนกว่านายจะไม่ต้องการเรา" เขาพูดต่อ ผมเข้าใจแล้ว ผมเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดแล้ว เขามาย้ำความรักที่มีต่อผม ผมรู้แล้วก็เข้าใจ ผมร้องไห้ทั้งที่ผมหลับอยู่

เมื่อผมตื่นขึ้นมา ผมยังคงตกใจกับสิ่งที่เห็นคงเป็นแค่ฝัน ผมคิดแค่นั้น แต่!มันไม่ใช่ แหวนของผม ผมเก็บมันไว้ในกล่องก่อนนอน ตอนนี้มันอยู่ในนิ้วมือของผม กล่องเพลงเสียงก็คงมีเพลงดังอยู่ ห้องผมก็ล๊อกไว้นี่นา ไม่น่ามีคนเข้ามาได้ ผมกลับมานั่งทบทวนคำพูดของเขาอีกครั่ง ผมรู้แล้วควรทำอะไรต่อไป ผมหาทางเดินชีวิตของผมพบแล้ว...................

ตอนที่ผมเขียนเรื่องอยู่นี้ก็ใกล้ 4 ปีแล้วหลังจากริวเสียไป ทุกคนก็ใกล้กับมาอยู่ด้วยกันแล้ว แหวนตัวแทนของเขาบนมือของผม รูปถ่ายของเขาอะไรที่เกี่ยวกับเขายังคงอยู่กับผมตลอดเวลา มันทำให้ผมฝันถึงเขาทุกวัน เขายังคงอยู่กับผมเสมอไม่จากไปไหน ผมรู้ ใจของผมรู้ ร่างกายผมก็รู้ เวลานอนสัมผัสความอบอุ่นของเขาได้ตลอดเวลาเลย เขาไม่เคยจากผมไปไหนเลย ริวที่รักของผม ผมขอสาบาน ผมขอเกิดมาอยู่กับเขาทุกชาติไป ผมจะรักเขาตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยนใจไม่มีวันนอกใจ สิ่งที่เขาให้ผมไม่มีวันที่ใครจะให้ผมได้อีกแล้วไม่ว่าชาตินี้ หรือชาติหน้า ริวที่รักของผม


สุดท้าย
สุดท้ายนี้นะคับผมก็ขอขอบคุณ ทุกคนที่ติดตาม แล้วก็คอยแบ่งเบาความทุกข์ของผม ผมอยากขอขอบคุณ ...
- คุณพ่อคุณแม่ของผม ไม่มีท่าน ผมก็ไม่มีโอกาสเกิดมาคับ
- โอกาซังโอโตซังของผมและริว ขอบคุณที่ท่านสนับสนุนในความรักของเรา 2 คนคับ และขอบคุณที่ดูแลผมมาตลอด
- อาจารย์ที่สอนภาษาอังกฤษ (ไม่ขอเอ่ยนามคับ) ตอน ม.5ของผม ที่ได้ทำให้ผมเป็นเจ้าสาวของริวอย่างเต็มตัวคับ
- พี่ๆเพื่อนๆทุกคนที่ผมได้เอ่ยนามในเรื่อง ทุกคนมีตัวตนจริงๆหมดคับ คอยให้คำปรึกษาชีวิตแก่ผมคับ
- โรงเรียนของผมคับที่ทำให้ผมมีโอกาสได้เจอกับริว และทุกๆคน
- ท่านผู้อำนวยการโรงเรียน ที่คอยเป็นห่วงพวกผมตลอดเวลาคับ
- celica รถที่ริวรักมันช่วยผมจนพังทั้งคัน แต่ตอนนี้ผมเป็นคนขับมันแทนเจ้าของมันแล้วคับ
- โชจิ เพื่อนที่ดีที่สุดคับ ยากที่จะหาใครแทนได้ มีน้ำใจกับผมและทุกคนมาก
- เคลวิน เพื่อนที่หาใครแทนไม่ได้คับ เป็นกำลังใจให้ผมและทุกคนตลอดมา
- ฮิโตมิ เพื่อนที่จริงใจ คอยเป็นห่วงเป็นใยผมและทุกคนเสมอ
- ฟูจัง เพื่อนที่เข้าใจ คอยปลอบใจผมและทุกคนเสมอมาคับ
- ริวสุเกะ คนที่รักผมเท่ากับชีวิตของเขา คนที่ต้องการให้ผมอยู่ต่อไป คนที่อยากให้ผมมีความสุขมากที่สุด และเป็นคนที่รักผมตลอดไปคับ



***************************************************************************
ผมคนนึงที่ไม่อยากให้เรื่องนี้มันเศร้า   ถึงแม้มันจะมีการสูญเสียเกิดขึ้น   แต่การสูญเสียนั้นคงไม่สูญเปล่า
ถ้าหากมันช่วยให้คนอีกหลายๆคนนั้น   ได้เป็นข้อคิดในเรื่องของความรัก   ที่มีแต่การให้อย่างจริงใจ
มิใช่เพียงฉาบฉวย   หรือเพียงแค่ระบายอารมณ์ของตัวเองออกมา


อยากให้ทุกคู่รักมีความรักอย่างแท้จริง    ก็เท่านั้นเอง

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
เศร้ามากเลย..... :monkeysad:
ร้องไห้เลยอะ ตอนสุดท้ายอะ  สงสารทั้งคู่เลย  สงสารแบงค์มาก ๆ ด้วย  ฮือ ฮือ  เรื่องจริงเหรอเนี่ย  ทำไมมันเศร้างี้อะ  ว่าแต่เรื่องนี้แต่ละคนดูมีฐานะกันจัง  ไปเรียนต่อต่างประเทศได้หมดเลย  เป็นเราจะไปได้คงหาทุนอย่างเดียวแหง่ ๆ  ไม่รู้ว่าตอนนี้คนเขียนจะเป็นยังไง  อยากเป็นกำลังใจให้ในทุกเรื่องคะ

ขอบคุณคุณ lonely wind ด้วยน้า  อุตส่าห์เอาเรื่องนี้มาลงให้อ่านอะคะ  น่ารักมากมาย ขอบคุณจริง ๆค่ะ  :monkeylove2:

pim

  • บุคคลทั่วไป
 :impress3: ฮืออ...... เศร้าจัง

ขอให้มีชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขน๊า
เป็นกำลังใจให้ด้วยคน


meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ง่า...ไม่เอาแบบนี้อ่ะ :serius2: :serius2: :serius2:

ฮือๆ :monkeysad: ผมจิตหลุดอีกแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะครับ
 :monkeycry2:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

box_breathe

  • บุคคลทั่วไป
ร้องไห้อีกแล้วเรา... :monkeysad2:

ซึ้งในความรักที่ ริวกับแบงค์ มีให้ต่อกันมากเลยอ่ะ

เฮ้อ..ความรักก็เป็นอย่างงี้แหละน้า...

มีทั้งสุข มีทั้งเศร้า คละเคล้ากันไป

***************************
PS. เป็นกำลังใจให้ คุณแบงค์ เสมอนะค้าบบบบ
       
เพราะถ้าผมเป็นคุณแบงค์  ผมเองก็ไม่คิดจะคบใครใหม่เหมือนกัน

ถึงใครจะหาว่าผมจมอยู่กับอดีต แต่มันก็เป็นอดีตที่น่าจดจำสำหรับผม

                                      :impress:     

may_1223

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณนะค่ะที่เอาเรื่องนี้มาให้อ่าน
อ่านเรื่องนี้แล้วให้ความสุข เสียงหัวเราะ แล้วก้อแง่คิดหลายๆอย่างเลย
รวมทั้งน้ำตาด้วย ร้องไห้ไปร่วมชั่วโมง  เกือบไม่ได้นอน งึ่มๆ
ขอบคุณอีกครั้งนะค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด