บรรยากาศที่ห้องตัวเองยามเย็นมันแอบน่ากลัวพิลึก อยู่ห้องนี้มาเทอมกว่าแล้วเพิ่งรู้ ถ้าปกติเวลานี้ผมไม่ได้อยู่ห้องหรอกจะบอกให้ นู้นนนน ป่านนี้นะไปเที่ยวไหนต่อไหนแล้ว ทุกๆวันของผมมันเป็นไปตามสเต็ป เรียนเสร็จ กลับหอประมาณห้าโมงหกโมงเพื่อเอาของมาไว้ แล้วก็ขับรถ(ที่คุณแม่ที่น่ารักของผมซื้อให้)ออกไปบ้านเพื่อน ดึกๆหน่อยไปต่อผับ กลับมาที่ห้องอีกทีตอนตีสองตีสาม ตื่นอีกทีก็เก้าโมงสิบโมง ยังกับวงจรชีวิตยุงลายเลยว่ะ
ผมนั่งรอรูมเมทตัวเองมาได้ซักยี่สิบนาทีก็รู้สึกเบื่อ ห้องนี้มันไม่มีอะไรนอกจากตู้ เตียงเดี่ยวสองเตียง โต๊ะอ่านหนังสือยาวๆแล้วก็เก้าอี้หนึ่งตัว ฮ่าๆๆ อาจสงสัยว่าทำไมมีแค่ตัวเดียว เพราะผมไม่ค่อยได้ใช้หรอกโต๊ะนี้อะ รูมเมทผมใช้ซะมากกว่า บนนี่มีหนังสือทั้งภาษาไทยภาษาอังกฤษ หนังสือร้องละเจ็ดสิบเป็นหนังสือเกี่ยวกับกายวิภาค
ครับ.....รูมเมทผมเรียนแพทย์
ส่วนผม....เรียนวิทยาศาสตร์ เคมีวิศวะกรรม
ชีวิตมันน่าเศร้าเล็กน้อย ตอนแอดกลาง อุตส่าห์เลือกวิศวะไว้อันดับแรกแต่ไม่ติด
“…….!!” รูมเมทผมเปิดประตูเข้ามาพอดี มีสีหน้าตกใจเล็กน้อยถึงปานกลาง ไม่รู้ตกใจที่ผมนั่งบนเก้าอี้เหมือนผีตายซากหรืออะไร
“กลับมาแล้วเหรอ” ผมทัก
รูมเมทผมพยักหน้า ก่อนจะปิดประตู “นัท วันนี้ไม่ออกไปข้างนอกเหรอ?”
“ก็อยากไป รอมึงนี่ล่ะ” เปลี่ยนท่านั่งเป็นคร่อมเก้าอี้แล้วสไลด์เก้าอี้ไปหยุดอยู่ตรงข้างเตียงที่ เท็น หรือ หมอเท็น นั่งอยู่
“รอไมอะ....แสดงว่ามีเรื่องอะไรแหงเลย....ให้ผมทาย” ผมรอฟัง
แต่เท็นแม่งคิดนานว่ะ เฉลยเลยดีกว่า
“กูได้ซีมาหลายตัวว่ะเทอมนี้” เทอมแรกก็เป็นงี้ซะแล้ว มีหวังป๊ามีคำสั่งให้กลับไปอบู่บ้านแหง โฮกกก อิสรภาพผมหายหมดแน่ “ติวให้หน่อยดิกูรู้มึงเก่ง”
อาจจะสงสัยว่าผมกับเท็นเรียนกันคนละคณะ แล้วไหงมาอยู่หอเดียวกัน คืออันที่จริงผมเรียนปีหนึ่งเท็นอยู่ปีสองด้วยซ้ำไป เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมอยากอยู่หอนอกจะได้เที่ยวสะดวกๆแต่ก็อยากหาคนมาแชร์ค่าห้อง(ที่แม่งโคตรแพง) พอดีพี่ที่คณะเค้าเป็นเพื่อนกับหมอเท็น ก็เลยได้ ‘หมอนี่’ ที่กำลังอยากย้ายออกมาอยู่หอนอกเหมือนกันมา อย่าแปลกใจที่ผมใช้สรรพนามกับเท็นไม่ค่อยไพเราะเพราะพริ้ง เพราะที่จริงแล้ว เท็นเกิดก่อนผมสามเดือน เพราะงั้น เราจะไม่ถือว่าเป็นพี่นะครับ (ทำไมแม่เอาผมเข้าโรงเรียนช้าจังวะ เอ๊ะ!หรือไอ้หมอมันเข้าโรงเรียนเร็ว)
“พูดเพราะๆหน่อย จะมาขอให้คนอื่นเค้าติวให้อะ...ไหนพูดดิ๊ พี่เท็นครับ ติวให้ผมหน่อยนะครับ”
“พี่เท็นครับ ติวให้ผมหน่อยนะครับ” ผมทำน้ำเสียงกระแดะกว่าเป็นร้อยเท่า แล้วก็ทำท่าจะอ้วกแถมไปด้วย “พอใจยัง?”
“เกินพอ....แล้วนี่จะให้ติวอะไรอะ”
“อะไรก็ได้ จัดมาเหอะหมอ เอาให้เทอมหน้ามันได้เอได้บีแล้วกัน...แล้วจะสมนาคุณไม่จำกัดวงเงินเลย”
“พาไปเลี้ยงเหล้าว่างั้น ไม่เอาอะ ไม่ค่อยอยากดื่มว่ะ”
“ไม่วะ ตั้งแต่อยู่หอเดียวกันมานี่ กูไม่เคยเห็นมึงไปเที่ยวไปดื่มบ้างเลย..ไม่มีคนคบเหรอวะ”
‘ปึก!!’ ไอ้หมอถีบเก้าอี้ล้อหมุนที่ผมนั่งอยู่ไปสุดแรงจนไปกระแทกกำแพง แอบอ่านปากหมอเท็นได้ว่า เหี้ย
รู้สึกตื่นเต้น และหัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก เมื่อได้ยินเท็นมันพูดคำหยาบ
“มึงพูดใหม่ดิ๊!” เลื่อนเก้าอี้กลับเข้ามาประชิดตัวมัน
“พูดไร” เท็นทำหน้างง
“พูดคำหยาบ บอกตรงๆฟังแล้วมีอารมณ์ กร๊ากกก” หมอเท็นจะถีบเก้าอี้ผมอีกรอบแต่ผมเลื่อนเก้าอี้หลบได้ซะก่อน “เออ แล้วมึงอะเกรดออกมาเป็นไง”
“มีบีตัวนึง”
“แล้วที่เหลืออะ”
“เอ”
พระเจ้า.......ลำเอียง
หมอเท็นขาวๆก็ขาวกว่า บ้านมันก็รวยกว่า ฉลาดกว่ากูอีก ยังดีนะเนี่ยที่หุ่นพอๆกัน กูสูงกว่าหน่อยนึง(ในควาคิดผมคือห้าเซนต์ แต่ตามความเป็นจริงคือผมสูงกว่าหมอแค่สองเซนต์) แล้วก็ยังดีอีก ที่กูหล่อกว่า กร๊ากกก
“ด่าผมในใจอยู่ป๊ะเนี่ย” หมอเท็นสะกิด
“ป่าววว มาๆติวเลยดีกว่า อีกสองวันมีควิซ....เดี๋ยวคะแนนดีแล้วเลี้ยงเหล้า”
“ก็บอกว่าไม่ดื่ม”
“เออน่า~”
แล้วคืนนั้นก็เป็นคืนแรก (???) ที่เท็นมันติวให้ผม แรกๆผมกับมันก็สื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่อง มันชอบใช้คำทับศัพท์ ไปๆมาๆก็ชิน แล้วก็ใช้คำทับศัพท์ตาม ผมก็แอบนับถือเท็นอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องสอนนะ.......เรื่องยืนสอนเนี่ยแหละ ฮ่าๆ ก็เก้าอี้มีตัวเดียว เท็นมันเสียสละให้ผมนั่ง แล้วมันยืนสอน สอนผมจนถึงเที่ยงคืนได้มั้ง ได้นั่งพักแค่ไม่เท่าไหร่ คนอะไรวะโคตรตั้งใจอะ เอาใจใส่กับสิ่งที่ทำมาก ไม่แปลกใจว่าทำไม
มันได้เอ...
(ผมก็ยังรู้สึกว่าพระเจ้าลำเอียงอยู่นะ)
สองวันต่อมา สอบแคลเสร็จ เดินออกมาจากห้อง เห็นพวกผู้หญิงมันยืนล้อมวงกันคุยเรื่องข้อสอบที่เพิ่งสอบไป มีสีหน้ากังวลบ้าง ดีใจบ้างสำหรับคนที่ทำได้ บางคนก็รู้สึกเสียดายข้อที่ทำผิดเพราะว่ามันไม่น่าผิด
แต่ผมเหรอ ตรงดิ่งไปที่รถ แล้วขับกลับไปที่หอทันที
สาดดดด ข้อสอบแม่งง่ายหรือกูฉลาดวะเนี่ยยยย อยากกระโดดเข้าไปกอดหมอเท็นก็วันนี้แหละวะ!!!
“หมอออ.......!” เปิดประตูห้องเข้าไป แต่ไหง ไม่มีใครล่ะวะ “หมอออออออ!!!!!”
“อาบน้ำอยู่ ไม่ต้องตะโกน...ได้ยินแล้ว!” อ่อออ เพิ่งได้ยินเสียงน้ำไหล
ซักพักหมอก็เดินออกมาในสภาพหัวเปียก ผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างไว้ หมอเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบบ็อกเซอร์ออกมาใส่ ดึงผ้าเช็ดตัวออก แล้วก็ใส่กางเกง “มีไรวะนัท ทำหน้าเหมือนถูกหวย”
“รองลงมาจากถูกหวยนิดนึงซาร่า.....วันนี้เราทำข้อสอบได้ด้วยล่ะซาร่า”
“ก็ดีแล้วล่ะจอร์ช” ใส่เสื้อโดยไม่สนใจจอร์ชเลยนะซาร่า
“ป่ะซาร่า!” จอร์ช เอ้ย!! ผมคว้ามือหมอเท็นได้ก็ออกแรงดึงทันที
“เอ้ยยย!! ไอ้จอร์ช ไปหนายยยยย~” หมอเท็นพยายามขัดขืนมาก
“ไปดื่มไงซาร่า เดี๋ยวจอร์ชเลี้ยง”
“เฮ้ยยยยย~!!!!”
ไม่รอให้ซาร่าปฏิเสธ จอร์ช เอ้ยย! ผมก็ลากเท็นออกมาจากห้องทันที เรื่องอย่างนี้ไม่ต้องรอเจ้าตัวอนุญาต เหล้าเข้าปากได้เมื่อไหร่ เดี๋ยวก็ดีเอง....
.
.
.
.
“อ้วกกกก...!” ชัดเลย
กลิ่นนี่ชัดเลย
กูผิดเองที่พามึงไปดื่ม เห็นได้ชัดว่าไอ้หมอนี่ไม่ค่อยได้ดื่ม ทำให้มันเป็นพวกคอ่อน แบบที่เรียกได้ว่าอ่อนปวกเปียก ดูดิ๊ ผมอะดื่มมากกว่ามันอีกยังแค่มึนๆ ตอนนี้กูอยากเมาละ จะได้ไม่ต้องได้กลิ่นอ้วกไอ้เท็น
เลอะทั้งเสื้อกูเสื้อมึง เลอะรองเท้ากูอีก....ชีวิต
“เท็น มึงจะอ้วกอีกมั้ยเนี่ย” มันไม่ตอบเป็นคำพูด แต่ตอบสนองด้วยการทำท่ากระอักกระอ่วน ผมเลยต้องพามันไปห้องน้ำ เอาหน้าจ่อส้วม
และนั่งรอหมออ้วก
“เสร็จยัง” เท็นไม่ตอบอีกแล้ว อ้วกเลย...
ผมเลยตัดสินใจถอดเสื้อที่เลอะอ้วกไอ้เท็นออกแล้วเอาไปซักที่อ่างล้างหน้าไปพลางๆ เหม็นชิบหาย แต่ก็โทษใครไม่ได้ กูผิดเองที่พาหมอไป
พอหมอเท็นอ้วกเสร็จผมก็ต้องเป็นผู้รับภาระเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หมอเท็น เหอะๆ เสื้อผ้าตัวเองยังไม่ได้เปลี่ยนเลยถอดเสื้ออย่างไหงก็ถอดอยู่อย่างงั้น
“ยกมือ” ต้องสั่งเป็นสเต็ปๆ “ค้างๆไว้นะ เดี๋ยวกูถอดเสื้อมึงก่อน”
พอหมอเท็นยกมือ ผมก็จัดการถอดเสื้อที่เลอะอ้วกของมันออก ต้องระวังไม่ให้อ้วกเลอะหน้ามันด้วย...ลำบากมาก
“เสร็จแล้ว เอามือลงได้...” พูดจบหมอเท็นก็เอามือลง แล้วก็เดินไปล้มตัวลงนอนที่เตียงทันที เฮ้ยยย!! เสร็จแล้วแปลว่าถอดเสื้อเสร็จแล้ว มึงจะไม่ถอดกางเกงเรอะ (ได้ข่าวว่าขากางเกงมันเลอะอ้วกนิดนึง)
“ถอดกางเกง” ผมพยายามจะปลดเข็มขัดมันออก
“ไม่ถอด...” ทำเสียงงอแง เอามือดึงเข็มขัดไว้ไม่ให้ผมปลดได้อีกแน่ะ “เดี๋ยวมึงกดกู..” เมาแล้วเริ่มพูดคำหยาบนะไอ้หมอ
“กดมึงเชี่ยไร เลอะเทอะ.....กูไม่กดใครโว้ยยย!”
“กดดดด” หมอเถียง
“เอ๊ะ! กูบอกไม่กดก็ไม่กดดิวะ....มึงจะนอนแช่อ้วกงี้ไงวะ” มันยอมปล่อยมือ ให้ผมปลดเข็มขัดมันและถอดกางเกงมันได้สะดวก “ก็แค่เนี๊ยะ!” โยนซากกางเกงมันไปไว้หน้าห้องน้ำ
“ทำไมมึงคิดว่ากูจะกดมึง” เห็นมันกำลังเมา ก็เลยนั่งลงกับพื้นเอาแขนวางไว้บนเตียง แล้วหลอกถามมัน(เช้ามาแม่งไม่รู้เรื่องหรอก)
“ก็กูเห็นมึง อยู่กับผู้ชายบ่อยๆ...หน้าไม่ซ้ำเลย” เสียงมันอู้อี้ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ต้องใช้สกิลในการแปลสูงมาก
“มึงรู้ได้ไงว่ากูเป็นรุก”
“มึงน่ารัก”
“เกี่ยวมั้ยซาร่า” แม่ง พอเมาแล้วตรรกะมึงเหี้ยมาก รุกเพราะน่ารัก กูจะบ้าตาย
มันมองมาที่ผมด้วยสายตาเยิ้มๆเพราะฤทธิ์เหล้า ด้วยความอยาก (เอาตรงๆเลยนะ) ผมก็เลยก้มลงไปจูบปากมัน....แค่จูบอะ ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้
“ปวดหัวว่ะ คราวหลังกูไม่แดกแล้วนะ” หมอเท็นพูด
“เออ มึงนอนเหอะ เดี๋ยวตื่นมามึงก็ลืมแล้วว่ามึงเคยปวดหัว” ผมขยี้ผมสีน้ำตาลเข้มของหมอเท็นเบาๆ หมอเท็นก็ว่าง่ายดีว่ะ บอกให้นอน ก็หลับตาปุ๋ยเลย
‘ตื่นมา เดี๋ยวมึงก็ลืม...’
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ช่วยตั้งชื่อเรื่องก็ดีนะ อันนี้เป็นเรื่องสั้นนะจ๊ะ